จีโฟกาย.คอม

 ลืมรหัสผ่าน
 สมัครเข้าเรียน
ค้นหา
 
ดู: 1581|ตอบกลับ: 30
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป
ซ่อนแถบด้านข้าง

The Past moment 8 (เส้นขนาน)

[คัดลอกลิงก์]

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
47
พลังน้ำใจ
38233
Zenny
47700
ออนไลน์
736 ชั่วโมง
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Elenai เมื่อ 2021-11-11 04:38

เนื้อหาในตอนที่ 7 ตามลิงค์ http://www.g4guys.com/thread-143207-1-1.html

เสียงฝีเท้าของกลุ่มคนจำนวนหนึ่งพร้อมด้วยเสียงของเตียงเหล็กลากดังตีปนกังวาน “ช่วย……พี่ยูโร…ช่วยพี่ยูโรด้วย”  “โอลาฟฟลูก ฮืออออ โอลาฟ”  “ขอโทษนะคะญาติคนป่วยรอด้านนอกค่ะ”   “หมอออ พี่ยูโร พี่ยูโร…”  “น้องคะน้องนิ่งๆก่อน  น้ำตาลในเลือดน้องต่ำมาก เดี๋ยวพี่ต้องให้น้ำเกลือกับล้างแผลน้องด้วย”  “จิ๋วๆ เรียกคนอื่นๆที่ว่างมาช่วยทางนี้ด่วนเลยน้องผู้ชายที่มาด้วยคนนี้อาการหนักมาก ความดันเลือดตกเรื่อยๆแล้ว ต้องรีบเอ็กซ์เรย์และเข้าห้องผ่าตัดด่วนเลย”  “พี่ยูโรรรร”  ภาพและเสียงอันชุลมุนวุ่นวายของคนโดยรอบค่อยๆเบลอและแผ่วเบาลงจนทุกอย่างมืดดับไป  แฮ่กๆๆ เสียงไอดังถี่ขึ้นอย่างต่อเนื่อง “ปุ้ยๆๆ ลูกฟื้นแล้ว”  “โอลาฟฟฟฟ ฮืออๆๆ”  แม่โอลาฟลุกจากโซฟาและเดินมากุมมือโอลาฟไว้  โอลาฟค่อยลืมตาและมองไปโดยรอบจนมันเห็นพ่อที่ยืนมองมันด้วยความเป็นห่วงพร้อมทั้งมือของแม่ปุ้ยที่ยืนกุมมือขวาพร้อมกับร้องไห้ไปพลาง  “แม่ปุ้ย….พ่อ…ผมคอแห้งจังเลยครับ” อลาฟพูดด้วยน้ำเสียงอันแผ่วเบาและแหบแห้ง  พ่อโอลาฟเลยเดินไปหยิบขวดน้ำบนโต๊ะมาเทใส่แก้วและยื่นให้โอลาฟ “ค่อยๆดื่มลูกอย่ารีบ”  เมื่อดับกระหายดีแล้วโอลาฟเลยมองสำรวจตัวเองและพบว่าเนื้อตัวมีแต่ผ้าปิดแผลโดยเฉพาะบริเวณฝ่าเท้าที่มีผ้าก็อชสีขาวขนาดใหญ่พัดทับอยู่  “พ่อ..ทำไมผมมึนๆหัวจัง แถมเนื้อตัวไม่ค่อยมีแรงเลย เกิดอะไรขึ้นกับผมอะพ่อ”  “ลูกหลับยาวตลอดสองวันเลยนะ  แต่ก็ดีแล้วล่ะที่ลูกไม่เป็นอะไรมากกว่านั้น รู้ไหมตลอดสองวันมานี่พ่อกับแม่ใจแทบไม่สงบเลยสักวัน”  โอลาฟได้แต่นิ่งและพยายามนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนจะหันไปมองแม่ที่น้ำตานองหน้า“แม่ปุ้ย  อย่าร้องไห้แบบนั้นดิครับผมไม่เป็นไรแล้ว”  แม่ปุ้ยไม่พูดได้แต่โน้มตัวไปกอดโอลาฟไว้แน่น  “ปุ้ยยแผลลูกยังเจ็บอยู่นะ…..โอลาฟลูกหิวหรือป่าว กินนมกินน้ำผลไม้หน่อยไหม เมื่อวานเพื่อนๆลูกที่ชื่อดิว  แคท เจมส์ มาเยี่ยมน่ะแถมซื้อของกินมาให้ลูกเยอะเลย”พ่อโอลาฟยกตระกร้าที่มีผลไม้หลากชนิดและถุงหิ้วที่มีทั้งนมและน้ำผลไม้กล่องให้โอลาฟดูทำให้โอลาฟที่ได้เห็นยิ้มขึ้นมาด้วยความดีใจ “ขอบคุณครับแต่ตอนนี้ผมยังไม่หิวอะ”   พ่อโอลาฟได้แต่พยักหน้าก่อนจะพาปุ้ยที่ยืนสวมกอดโอลาฟเดินมานั่งพูดปลอบยังโซฟาตัวของโอลาฟพยายามนอนนึกเหตุการณ์ที่ผ่านมาเพียงชั่วครู่โอลาฟหันไปเรียกพ่ออีกครั้ง“พ่อ!!!”  “ใจเย็นนะปุ้ยไม่ต้องร้องลูกไม่เป็นอะไรแล้ว….โอลาฟ!!มีอะไรลูก??”  พ่อลุกเดินไปหาโอลาฟด้วยสีหน้างุนงง  “พ่อพี่ยูโร  พี่ยูโรอยู่ไหน แล้วพี่ยูโรเป็นไงมั่ง”  “พ่อว่าลูกพักผ่อนให้หายดีก่อนไหม”  “พ่อผมโอเค  แต่พี่ยูโร  พี่ยูโรเค้าถูกยิงเพราะพี่เค้าช่วยผมไว้นะครับ”  พ่อโอลาฟก้มหน้านิ่งเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะเงยขึ้นมาสบตา“โอลาฟลูก พี่ที่ชื่อยูโรปลอดภัยดี พ่อได้ยินหมอคุยกับแม่พี่เค้าว่ากระสุนทะลุปอดหมอเลยต้องใส่เครื่องช่วยหายใจพักฟื้นอยู่น่ะ”  โอลาฟชักสีหน้าด้วยความวิตกทันทีพร้อมชันตัวจะลุกจากเตียงจนพ่อโอลาฟที่ยืนอยู่รีบเอามือดันตัวไว้ “โอลาฟลูกจะลุกไปไหน”  “พ่อ!!พี่ยูโรเป็นถึงขนาดนั้น.....ผมจะไปหาพี่ยูโร....ที่พี่เค้าต้องมาเป็นแบบนี้ก็เพราะผมนะ”  “พ่อเข้าใจว่าลูกเป็นห่วงพี่คนนั้นนะแต่ตอนนี้ลูกเองก็เพิ่งฟื้นตัวพ่ออยากให้ลูกนอนพักหายดีก่อนแล้วค่อยไปดีกว่านะ” โอลาฟส่ายหน้าทันที“อื้อออ ไม่เอาอะ ผมนอนไม่ได้อะครับ ผมจะไปหาพี่ยูโรอะพ่อ......แม่ปุ้ย”โอลาฟพูดอ้อนด้วยน้ำตาปริมๆ ซึ่งในขณะที่โอลาฟกำลังพูดอยู่นั้นนางพยาบาลสาว 2 คนเปิดประตูห้องเข้ามาพร้อมกับเครื่องวัดความดัน “อ้าวคนไข้ฟื้นแล้วนิ” พยาบาลคนหนึ่งพูดพร้อมหันไปมองพยาบาลอีกคนด้วยท่าทีตกใจ “พิมๆ เธอไปวัดความดันน้องเค้านะเดี๋ยวเรากลับไปหายัยนัทที่ห้องยาแปป” “อ้อ ได้ๆ…อืมมมคุณพ่อคะน้องฟื้นนานยังคะคุณพ่อ” นางพยาบาลพูดและลากเครื่องวัดความดันมาที่ข้างเตียงโอลาฟ  “ลูกผมเพิ่งฟื้นมาก่อนหน้านี้สัก 5 นาทีเหมือนจะได้น่ะครับ”  “ค่ะคุณพ่องั้นหนูขอวัดความดันให้น้องหน่อยนะคะ….ไงจ๊ะน้องรู้สึกเจ็บตรงไหนหรือมีอาการผิดปกติอะไรรึป่าว”  นางพยาบาลพูดไปพลางวัดความดันไปพลาง“อืมมผมสบายดีครับพี่พยาบาล”    “’งั้นทำไมน้องดูเศร้าๆจังเลยล่ะจ๊ะมีอะไรรึป่าว”  “ป่าวครับผมแค่……เอ่อพี่พยาบาลครับ ผมอยากไปหาพี่คนหนึ่งอะ พี่พยาบาลรู้ไหมว่าพี่เค้าอยู่ตึกไหนครับ”  นางพยาบาลคนดังกล่าวยิ้มและนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง“ถ้ารุ่นพี่คนนั้นที่มากับน้อง พี่เค้าอยู่ที่ห้องไอซียูนะ  หมอใหญ่ยังต้องรอดูอาการแทรกซ้อนอื่นๆอีก  ถึงน้องอยากไปหาพี่เค้าตอนนี้ยังไงน้องก็เข้าไปไม่ได้อยู่ดี และที่สำคัญเลยตัวน้องเองก็เพิ่งฟื้นตัวด้วยนะขืนออกไปเดินดุ่มๆ แบบนั้นพวกพี่คงโดนหัวหน้าสวดยับแน่จ๊ะ”  “แต่พี่พยาบาลครับผมแค่…”  “น้องรักพี่คนนั้นหรือเปล่าล่ะ”   “รักครับ”  “ถ้าน้องรักพี่คนนั้นน้องก็ต้องรักตัวเองด้วยนะ สมมุติถ้าน้องออกไปหาพี่เค้าตอนนี้และจู่ๆน้องเกิดเป็นอะไรขึ้นมาน้องว่าถ้าพี่เค้ารู้ พี่เค้าจะดีใจรึป่าวล่ะ”  “ก็ ก็ ไม่อะครับ”  “นั่นไงเห็นไหม พี่ว่านะ น้องรักษาตัวเองให้หายดีก่อนและถ้าหายดีเมื่อไหร่ พี่จะไม่ว่าอะไรเลยหากน้องจะไปไหน  เพียงแต่ตอนนี้น้องดูแลตัวเองให้หายดีเชื่อพี่นะครับ” โอลาฟพยักหน้าด้วยความจำยอมมันเลยค่อยๆเอนตัวลงนอนบนเตียงเช่นเดิม
               ไปยังโรงแรมแห่งหนึ่งในตัวเมืองห่างจากโรงพยาบาลไปทางทิศเหนือ 3 กม.  ชายคนหนึ่งสวมเสื้อเจ็ตเก็ตเทารองเท้าผ้าใบขาว ในมือถือแฟ้มเอกสารจำนวนหนึ่งเดินไปตามทางเดินของชั้น 7ก่อนจะไปหยุดยืนอยู่หน้าห้องสูต B712 พร้อมกับเคาะประตู ก๊อกๆ  จนมีเสียงชายอีกคนในห้องพูดสวนขึ้นมา “นั่นใครเหรอครับ”  “นี่เราเองคนคุ้นเคย”  “แปปนะ...ทำไมถึงพกกระดิ่งมาด้วย” “เพราะเสียงกังวานจะคอยย้ำเตือนคนที่ถือกระดิ่ง” ทันทีที่พูดจบประตูห้อง B712 ได้เปิดออกทำให้อากาศเย็นจากในห้อง กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆรวมถึงเสียงเปียโนที่เล่นเป็นเพลงแจ๊สเบาๆพุ่งเข้ามากระทบผัสสะทั้ง 5 ของชายคนดังกล่าวทันที  ชายคนดังกล่าวเดินเข้าไปในห้องอย่างใจเย็นก่อนจะลงไปนั่งบนเก้าอี้กำมะยี่สีเขียวที่ตั้งข้างหน้าต่าง  “โอ้!!มาถึงแล้วสินะครอส กูกับจิมมี่เพิ่งถกกันอยู่เลยว่ามึงจะมาถึงที่นี่เกิน10นาทีรึป่าว”  ครอสถึงกับตกใจนิดๆพร้อมหันไปมองนกแก้วที่เดินถือแก้วไวน์ออกมาจากห้องด้านใน“สำหรับกูมันก็ไม่ยากเย็นอะไรนะที่จะมาที่นี่ได้ง่ายๆแต่ถ้าเป็นคนอื่นคงหลงแน่นอน แล้วนี่มึงเรียกกูมาไมวะวันนี้กูยิ่งยุ่งๆด้วยนะนกแก้ว”  “มาสิ...เชิญด้านใน กูเตรียมที่นั่งกับของกินไว้ให้มึงล่ะแล้วเอกสารที่กูขอน่ะ....มึงเอามาด้วยป่าวครอส”   “นี่ไงอยู่ในมือกูเนี่ย”  นกแก้วยิ้มก่อนจะเดินนำครอสไปยังโต๊ะอาหารที่อยู่ด้านในโดยมีจิมมี่ที่นั่งกระดกวิสกี้มองดูทั้งสองกำลังเดินเข้ามา  “ไงไอ้ครอสมึงแดกไรมายังวะ”  “อื้มเรียบร้อยแล้วว่ะจิมมี่”  จิมมี่พยักหน้าก่อนจะหันไปรินวิสกี้ใส่แก้วต่อทันทีที่นกแก้วกับครอสนั่งลงยังเก้าอี้นกแก้วไม่รอช้ารีบยื่นซองน้ำตาลขนาดเล็กที่มีเงินสดอยู่ด้านในให้กับครอส “นี่ค่าจ้างเรื่องเอกสารที่กูขอ.....ไวน์แดงหน่อยไหมมึงขวดนี่แพงนะกูเพิ่งถอยมาจากร้านไวน์ดังสดๆร้อนๆเลย”  “ไม่ล่ะนกแก้วเดี๋ยวกูต้องไปที่อื่นต่ออีกอะนี่เอกสารมึง......นกแก้วคือกูมีเรื่องอยากจะพูดกับมึงหน่อยน่ะ”  นกแก้วถึงกับรีบยกมือห้ามครอสทันใด “กูรู้ว่ามึงจะพูดอะไร....ขอกูตรวจดูเอกสารนี่ก่อน......เอาล่ะเอกสารครบถ้วนมึงเก่งมากไอ้ครอสแต่ก่อนจะไปเรื่องของมึง กูว่ามึงกับกูมาคุยอะไรกันที่มันเบากว่านั้นดีกว่าไหม....อย่างน้อยจะได้ไม่เสียอรรถรสก่อนเวลาอันควร”  ครอสได้แต่ถอนหายใจเบาๆ “อะได้ งั้นมึงเรียกกูมาทำไมล่ะคงไม่ใช่แค่เรื่องเอกสารของมึงอย่างเดียวหรอกนะนกแก้ว”   “โอ๊ะแน่นอนสิมึงไม่สังเกตเงินในซองที่กูใส่ให้ไปเหรอวะไอ้ครอส ว่ามันมียอดเกินกว่าค่าเอกสารที่ตกลงกัน”  “อ๊าว ไม่ใช่ว่ามึงให้เพิ่มพิเศษกูหรอกเหรอ”  “โอ๊ะไม่จ๊ะไม่ กูไม่ได้ใจกว้างทุกวันหรอกนะ”  “งั้นที่เกินมาอีก 2,500 นี่มันคือค่าไร” นกแก้วยิ้มมุมปากพร้อมยกแก้วไวน์ขึ้นมาดื่มก่อนจะหันไปมองที่จิมมี่ทำเอาครอสถึงกับหันมองตามทันทีที่สายทั้งของทั้งสองจ้องมาที่จิมมี่ จิมมี่ไม่รอช้าหันไปเอาเอากล่องหนังสี่เหลี่ยมสีดำขนาดเท่ากับกล่องใส่นาฬิกาข้อมือยื่นให้กับครอส   ครอสยื่นมือไปรับกล่องมาด้วยความสงสัยก่อนจะใช้นิ้วง้างเปิดเพื่อดูของด้านใน “นี่มันขวดยาอะไรวะน่ะ”ครอสที่ก้มมองอยู่ถึงกับเงยมองทั้งสองด้วยความสงสัย “มันคือสเตีรยรอยด์ที่ใช้ทำลายกล้ามเนื้อหัวใจคนปกติฉีดไปแค่โดสเดียวในความเข้มข้นเท่านี้ไม่เกิน 5 วัน ลิ้นหัวใจจะเสียสูญ”  จิมมี่พูดพร้อมยกแก้ววิสกิสกระดกตามไปพลาง  “เดี๋ยวนะแล้วนี่มึงเอามาให้กูไมวะจิมมี่”  “งานของมึงง่ายๆแค่เอากล่องนี้ไปส่งตามที่อยู่ที่นกแก้วจะเขียนส่งให้มึงจากนั้นงานของมึงก็จบ”  “เดี๋ยวเว้ย นี่มึงสองคนวางแผนจะทำไรกันอีกเนี่ย”  นกแก้วหัวเราะเบาๆ ฮึๆๆก่อนจะพูดขึ้น “ไอ้สองตัวที่ทำลายหัวใจน้องสาวยัยนวลมันยังไม่สาแก่ใจกูว่ะ  ตอนนี้คนของกูที่เป็นเจ้าหน้าที่ทำงานที่นั่นรอรับของจากกูอยู่แล้วมึงแค่เอาของไปส่งให้ถึงมือพี่เค้าก็พอ และเรื่องหลังจากนั้นก็ไม่ใช่สิ่งที่มึงต้องกังวล”  “แต่สองคนนั้นมันก็ได้รับผลจากสิ่งที่มึงทำไปแล้วไงนกแก้วตอนนี้น้องยูโรกับโอลาฟก็สาหัสทั้งคู่เลยนะ ไหนมึงบอกว่าอย่าให้ถึงตายไม่ใช่เหรอแต่ที่กูได้ยินมาคือคนของมึงแม่งใช้กระสุนยิงจะฆ่าเลยนะเว้ย”  “ก็ใครบอกให้มันขัดขืนล่ะถ้าไอ้เด็กสองคนนั้นมันเล่นตามเกมส์ของกูที่วางไว้แต่แรกผลมันก็ไม่ออกมาเป็นแบบนี้หรอกนะไอ้ครอส” “ก็นั่นไง...แค่นั้นมันก็ควรพอได้แล้วปะนกแก้ว แต่สิ่งที่มึงกำลังจะทำเนี่ยมันคือทำลายชีวิตของน้องสองคนนั้นให้ตายช้าๆเลยนะเว้ย”  นกแก้วถึงกับทำตาขวางใส่ครอส “มึงเห็นใจมันเหรอวะไอ้ครอส ทั้งที่มึงก็รู้ว่าที่ผ่านมาใครทำให้กูไม่พอใจกูเอาถึงที่สุดไม่เว้นแม้แต่พวกครู” “กูว่ามึงพอได้แล้วนกแก้ว นี่มันเกินที่เราคุยกันไว้แล้วนะแค่เรื่องที่เพิ่งทำไปล่าสุดเนี่ยมึงรู้ปะ ตอนนี้ตำรวจกำลังเร่งตามเรื่องอยู่นะเว้ย”   “ครอสเอ๋ย  มึงอย่าโง่สิ มึงคิดเหรอว่าสิ่งที่กูทำลงไปกูจะไม่มีแผนรับมือกับผลที่ตามมาที่ผ่านมามึงก็เห็นตลอดนิว่าตำรวจเข้าถึงพวกเราได้สักกี่ครั้ง และทุกครั้งมันก็จบไปด้วยความเงียบ”   “นกแก้วกูขอล่ะในฐานะที่กูเป็นเพื่อนมึง กูขอมึงเลิกยุ่งกับน้องยูโรกับโอลาฟได้ไหมปล่อยสองคนนั้นไปเถอะ”  นกแก้วกระแทกแก้วไวน์ลงบนโต๊ะจนเกิดเสียงดังกังวาลทำเอาครอสที่นั่งๆอยู่ถึงกับสะดุ้ง “แล้วนี่มึงมีเหตุผลอะไรที่อยากเป็นพ่อพระปกป้องไอ้สองตัวที่อยู่รพ.นั่นห๊ะไหนมึงบอกกูมาซิไอ้ครอส”   ครอสอ้ำอึ้งไปชั่วครู่ พร้อมหลบสายตาที่นกแก้วจองมาที่มัน “เอ่อ  มึง มึงใจเย็นก่อนนกแก้ว”   “ครอส....กูรอฟังเหตุผลจากปากมึงอยู่นะ นี่ถ้ากูไม่ใจเย็นป่านนี้กูพุ่งไปหักแขนมึงแล้ว....มึงว่ามา คิดซะว่าเห็นแก่ฉันท์มิตรและความสามารถสืบข่าวของมึง”  “อะโอเค จริงๆเรื่องนี้มันก็ไม่ได้กระทบอะไรกับกูมากหรอกนะแต่ไอ้เคนน้องกูมันเป็นเพื่อนสนิทกับไอ้ยูโรและไอ้ยูโรมันก็ก๊กเดียวกับไอ้เคนน้องกูด้วยและสิ่งที่มึงได้ทำให้เกิดขึ้นแม่งทำเอาน้องกูหนักใจมาก”   นกแก้วถึงกับหัวเราะขึ้นเบาๆ “ฮ่าๆแต่เท่ากูรู้มามึงกับน้องของมึงความสัมพันธ์ก็หมางใจมาตลอดในช่วงหลังไม่ใช่เหรอวะหะไอ้ครอส  กูว่ามึงน่าจะดีใจมากกว่านะ”  “นกแก้วถึงกูจะหมางใจกันยังไงแต่ไอ้เคนก็น้องกูปะ  อย่างน้องกูก็แคร์ความรู้สึกของมันมาตลอดให้ฐานะพี่ชายคนหนึ่งเกิดไอ้ยูโรเพื่อนน้องกูเป็นอะไรไปคิดว่าน้องกูมันจะไม่เสียใจรึไงวะ  ที่เราเคยตกลงกันตามแผนเดิมของมึงคือสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปนับจากนี้กูก็แม่งเดาไม่ออกด้วยซ้ำว่ายูโรกับโอลาฟจะรับมือกันยังไง มึงพอเถอะนกแก้วแค่นี้มันก็สร้างบาดแผลกายใจขั้นหนักให้กับสองคนนั่นแล้ว”  นกแก้วยิ้มและมองจิมมี่ “มึงคิดยังไงจิมมี่เหตุผลของไอ้ครอสมันชั่งน้ำหนักกับความเจ็บปวดน้องสาวยัยนวลสุดที่รักของกูได้แค่ไหนกันเชียว”  “นั่นสินะขอกูคิดแปป...อืมม กูว่ากูเห็นด้วยกับความคิดไอ้ครอสว่ะ พอเถอะไงซะสิ่งที่มึงวางแผนไว้ทีแรกก็สำเร็จอยู่ดี”  “หื้มมม 2-1 เสียง.......มติเอกฉันท์ตามกฏของก๊กเราหากว่าต้องเลือกหึ....คงเป็นโชคดีนิดๆของไอ้สองคนนั่น” ทันทีที่นกแก้วพูดจบครอสถึงกับถอนหายใจยาวด้วยความโล่งใจก่อนจะคีบเอาขนมในจานตรงหน้าขึ้นมาใส่ปากด้วยความสบายใจ   วันเวลายังคงเดินหน้าต่อไปจากหนึ่งวันคล้อยเป็นอาทิตย์โอลาฟอาการดีขึ้นจนได้กลับบ้านแต่ถึงกระนั้นมันก็ยังคงแวะเวียนไปหายูโรที่โรงพยาบาลพร้อมกับพ่อและแม่ที่ตามติดโอลาฟไม่ห่างสายตาอยู่บ่อยครั้งในช่วงที่ยูโรถูกย้ายตัวจากห้องไอซียูมาอยู่ห้องพิเศษทันทีที่โอลาฟไปเยี่ยมสิ่งแรกที่เกิดขึ้นคือโอลาฟพุ่งตัวไปกอดยูโรพร้อมทั้งร้องไห้ฟูมฟายไม่ต่างอะไรจากเด็กอนุบาลส่วนยูโรเองก็น้ำตาคลอโอบกอดโอลาฟไว้แน่นเช่นเดียวกัน ท่ามกลางสายตาของพ่อแม่ทั้งสองฝ่ายที่มองดูเหตุการณ์ด้วยความซาบซึ้งแต่ก็ไม่ในสายตาพ่อและแม่ยูโรที่มีอคติกับพวกเพศทางเลือกทั้งสองกลับมองว่ายูโร/โอลาฟคงมีอะไรมากกว่าความสัมพันธ์รุ่นพี่/รุ่นน้องกันแน่นอนนั่นจึงเป็นเหตุผลให้ครั้งหลังๆเวลาที่โอลาฟมาเยี่ยมยูโรสายตาของพ่อแม่ยูโรที่เคยมองโอลาฟด้วยความเอ็นดู เห็นใจในตอนแรกแปรเปลี่ยนเป็นสายตาจ้องจับผิดและไม่ไว้วางใจ  และนั่นจึงทำให้พ่อกับแม่ฝั่งโอลาฟถึงกับไม่ชอบใจในการกระทำของพ่อแม่ยูโรทั้งสองเลยกีดกันตัวโอลาฟเองไม่ให้ไปยุ่งเกี่ยวกับครอบครัวของยูโรเช่นเดียวกัน มันจึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นของอุปสรรค์ครั้งใหญ่ที่ทั้งสองต้องเผชิญและหาทางออก
               สองวันหลังจากยูโรออกโรงพยาบาลทางตำรวจได้โทรศัพท์เข้ามาเรียกยูโรกับครอบครัวเดินทางไปยังสภ.ปทุมธานีเพื่อสอบปากคำเพิ่มเติมกับคดีที่ผ่านมา นั่นเลยทำให้ยูโรที่นั่งหว้าเหว่เฝ้านึกถึงโอลาฟอยู่ทุกวันยิ้มด้วยความดีใจที่จะได้เจอโอลาฟตัวเป็นๆอีกครั้งแม้ว่าทั้งสองจะวิดีโอคอลและโทรคุยกันอยู่ตลอดแต่หากให้เทียบกับความรู้สึกที่ได้ไปเจอตัวจริงนั้นแน่นอนมันชนะขาดโดยไม่มีข้อกังขาใดๆส่วนโอลาฟเองก็เช่นเดียวกันทันทีที่ได้ทราบข่าวจากพ่อ  ตัวของโอลาฟเองก็ถึงกับแอบหลบไปยิ้มจนเนื้อเต้นด้วยความปลื้มปิติ  เช้าวันต่อมาเวลา 9.47 น.ยูโรและครอบครัวเดินทางมาถึงสภ.ปทุมธานี  ตำรวจนายหนึ่งได้เชิญครอบครัวยูโรเข้าไปนั่งรอยังห้องๆหนึ่งก่อนที่นายตำรวจอีกคนจะเดินเข้ามานั่งเก้าอี้ตรงหน้าทั้งสามพร้อมทั้งวางแฟ้มเอกสารในมือลงที่โต๊ะ “หวัดดีครับ หวัดดี” นายตำรวจรีบขึ้นยกมือไหว้ทั้งสาม“ครับได้เรื่องยังไงบ้างครับสรุปไอ้คนที่มันยิงลูกผมมันเป็นใครกันครับ” พ่อยูโรถามกลับตำรวจด้วยใบหน้าอันเคร่งครึม  “ใจเย็นนะครับคุณพ่อคือก่อนหน้านี้ทางเราได้เข้าไปสอบปากคำจากน้องผู้ประสบเหตุอีกคนตอนอยู่โรงพยาบาลไปครั้งหนึ่งแล้วและวันนี้ทางเราเลยเชิญน้องที่ตอนนี้สามารถพูดให้การได้แล้วมาสอบปากคำเพิ่มเติมคือจากข้อมูลที่เราได้มาก่อนหน้ามันยังไม่เพียงพอน่ะครับ เดี๋ยวยังไงรบกวนน้องเอ่ออออ....ยูโรช่วยตอบคำถามพี่ให้ชัดเจนนะน้อง”  “ครับ..ได้ครับคุณตำรวจ”  “สถานที่เกิดเหตุน้องโอลาฟให้ข้อมูลมาว่าเคยมาคนจ้างให้น้องไปถ่ายรูปทำรีวิวสถานที่ใช่ไหมครับ”   “ใช่ครับมีคนทักเพจผมมาบอกว่าอยากให้ผมไปรีวิวโฮสเทลล์ตรงนี้”  “แล้วน้องมีเฟสของคนที่ทักมาไหมครับหรือข้อมูลนามบัตร หลักฐานการจ่ายเงินหรือโอนเงิน” “เฟสของคนที่ทักผมมาตอนนี้มันปิดเฟสไปแล้วครับและตอนที่จ่ายตังคนที่จ่ายเค้าให้มาเป็นเงินสดเลยครับ” ตำรวจคนดังกล่าวฟังไปพลางเขียนไปพลาง  “ครับแต่มันน่าแปลกตรงที่ว่าโฮสเทลที่น้องไปถ่ายงาน เจ้าของเค้าเลิกกิจการไปนานเกือบ 10ปีแล้ว และที่ดินตรงนั้นยังคงปล่อยขายค้างเก่อมานาน ไม่มีคนมาซื้อ”  “อ่าวมันจะเป็นแบบนั้นได้ไงครับตอนที่ผมไปถ่ายงานโฮสเทลที่ว่านั้นมีคนงานทำงานอยู่เป็นสิบเลยและไหนจะห้องที่ผมไปถ่ายตามตึกยังอยู่ในสภาพดีด้วย ถ้าไม่เชื่อว่าผมพูดจริงเดี๋ยวผมเปิดรูปในเพจที่ผมเอาลงให้เลยอะ”  “ใจเย็นน้องพี่เห็นรูปในเพจน้องแล้วครับคือตอนนี้ทางเราสรุปเบื้องต้นว่าสถานที่ตรงนั้นคงถูกเซตขึ้นมาล่วงหน้าเพื่อใช้วางแผนและก่อเหตุตอนนี้ทางเราก็เพ่งเล็งไปยังหลักฐานที่เป็นภาพจากกล้องวงจรรอบๆนั่น เพราะตรงจุดที่เกิดเหตุเอาตรงๆเลยนะว่ามันไม่ต่างอะไรกับพื้นที่รกร้างเลยลายนิ้วมือหรือพวกเศษเส้นผมในห้องที่น้องอีกคนโดนจับขังก็ไม่มีกลุ่มคนร้ายคงวางแผนมาดีและแยบยลสำหรับเรื่องนี้”   พ่อยูโรที่นั่งฟังถึงกับพูดด้วยความเสียงแดกดัน “งั้นแบบนี้ลูกผมก็เจ็บตัวฟรีสิครับ คนร้ายก็จับไม่ได้นี่มันคดีพยายามฆ่าชัดๆนะครับ”  “คือตอนนี้เรามีพยานที่เห็นเหตุการณ์แจ้งเบาะแสมาแล้วว่ากลุ่มคนร้ายเป็นคนระแวกไหนเพียงแต่ข้อมูลและหลักฐานเป็นรูปธรรมที่ใช้มัดตัวคนก่อเหตุยังไม่เพียงพอแต่วางใจได้นะครับ คดีนี้ ผกก ให้ความสนใจอยู่ไม่น้อยเลย คิดว่าไม่นานครับที่ผู้เสียหายจะได้รับความเป็นธรรมเดี๋ยวไงน้องยูโรช่วยตอบคำถามพี่ต่อครับ ยังมีอีกหลายจุดที่รูปการณ์มันย้อนแย้งกัน”  ตำรวจสอบถามข้อมูลต่างๆจากยูโรโดยยูโรเองก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีจนเวลาผ่านล่วงเลยไปเกือบครึ่งชั่วโมง ยูโร พ่อ และแม่เดินออกจากห้องสอบปากคำไปยังโถทางเดินแต่ทันใดนั้นสายตาเด็กชายคนหนึ่งอันคุ้นเคยที่นั่งบนเก้าอี้ยาวติดผนังจ้องมองมายังยูโรส่วนยูโรเองก็ไม่รอช้ารีบปรี่เดินตรงเข้าไปหาดีความดีใจโดยไม่สนพ่อกับแม่ที่เดินตามมา“โอลาฟ โอลาฟ ไมมานั่งคนเดียวตรงนี้ล่ะ แล้วนี่พ่อแม่ไปไหน” “พี่ยูโร” โอลาฟลุกยืนจนเผลอจะเข้าไปกอดด้วยความคิดถึงแต่มันก็ต้องยั้งใจไว้ทันทีที่เห็นพ่อ/แม่ยูโรที่เดินตามมา  “พี่ยูโร...ตำรวจให้พ่อกับแม่เซ็นเอกสารไรไม่รู้ครับผมเลยออกมานั่งรอข้างนอก แล้วพี่ พี่ยูโรแผลพี่ยังเจ็บอยู่ไหมครับ” ไม่ทันที่ยูโรจะได้พูดตอบจู่ๆพ่อยูโรพูดแทรกขึ้นมา “ยูโรมันสบายดีหนูไม่ต้องห่วงหรอก ลุงป้าดูแลยูโรดีอยู่แล้ว....ส่วนแก...ยูโร...เอ็งกับพ่อยังมีธุระต้องไปที่อื่นต่ออีกมาเร็วววว”  พ่อหันไปพูดกระแทกเสียงใส่ยูโรเลยทำให้โอลาฟที่ยืนตรงหน้าถึงกับหน้าจ๋อยทันที ยูโรที่เห็นสีหน้าโอลาฟมันเลยส่งยิ้มปลอบใจพร้อมกับพูดเสียงลมให้โอลาฟได้ยิน“โอลาฟไงพี่คอลหาครับ”   ก่อนจะรีบเดินตามพ่อกับแม่ลงบันไดไปแม้นว่ารอยยิ้มยูโรทำให้โอลาฟรู้สึกดีขึ้นบ้างแต่นั่นก็ไม่อาจจะกลบความรู้สึกน้อยใจกับคำพูดของพูดพ่อยูโรแต่อย่างใดนับจากวันที่ทั้งสองไปเจอกันที่สภ. โอลาฟมันเริ่มตระหนักได้ว่าความสัมพันธ์ของมันเริ่มถูกกีดกันจากพ่อแม่ฝั่งยูโรมากขึ้นเลยทำให้เวลาที่ทั้งสองจะได้มีโอกาสเจอกันบ่อยๆเหมือนแต่ก่อนนั้นแทบจะไม่มีทั้งสองเลยได้แต่วิดีโอคอลหากันด้วยความคิดถึงห่วงหาไปหลายต่อหลายวันจนกระทั่งวันที่ 22 ตุลาคม เวลา 9.21 น.ก่อนวันเปิดภาคเรียนที่ 2 สองวันโอลาฟที่ง่วนอยู่กับนั่งปั่นการบ้านช่วงปิดเทอมอยู่ในห้อง แต่ทันใดนั้นดิวได้โทรเข้ามาหา
โอลาฟ – ฮัลโหลดิว.....ไงมึง?
ดิว – อีโอลาฟ มึงงงงงงงนี่มึงงงงงแรดร่านขนาดนี้เลยหรา อร้ายยร้ายยยคร้าร้ายยย
โอลาฟ -ไรวะดิว อยู่ดีๆก็มาด่ากูเนี่ย
ดิว – อร้ายยยยนี่มึงงงงไปทำท่าไหนถึงได้กินพี่ยูโรสุดหล่อได้ล่ะห๊ะ กูคิดอยู่แล้วเชียวว่ามึงกับพี่ยูโรต้องมีไรกันสักอย่างแน่นอน
โอลาฟ - เดี๋ยวๆ อะไรน่ะ!! นี่มึงพูดไรของมึงเนี่ยอีดิว
ดิว – อย่าทำเป็นปากแข็งคร้านี่ถ้ากูไม่เห็นด้วยสาตตากูนะ กูไม่มีทางเชื่อหรอกคร้า อร้ายย ร้ายจริงๆ
โอลาฟ - เดี๋ยวนะมึง นี่มึงไปเห็นอะไรมา!
ดิว –ก็อีบาบี้มันแชร์คลิปจากในเว็ปเกย์ที่กูขาประจำมาให้ดูน่ะซิมันบอกว่าคลิปเด็ดแอบถ่าย พอกูเปิดดูเท่านั้นแหละมึงง คนในคลิปมันเป็นมึงกับพี่ยูโรกำลังเย็ดกันในห้องงงงง
โอลาฟได้ยินเช่นนั้นถึงกับนิ่งอึ้งจนเย็นวาบจากใบหน้าชาลงไปทั้งตัวสติมันหลุดลอยจนเสียงดิวที่พูดดังอยู่ข้างหูเบาลงจนเกิดเป็นเสียง วิ้งๆๆ ขึ้นมาแทนกระทั่งเสียงเรียกของดิวข้างหูที่เรียกมันถี่ๆดังขึ้นจนสติมันกลับมาอีกครั้งโอลาฟเลยพูดตอบดิวไปด้วยความกระอั่กกระอวน “อิ...อิดะ อิดิว มึงส่งคลิปที่ว่ามาให้กูหน่อยได้ป่าว” เมื่อพูดจบโอลาฟกดตัดสายดิวทิ้งไปทั้งแบบนั้น ในตอนนี้มันได้แต่นั่งนิ่งทำไรไม่ถูกกับสิ่งที่เกิดขึ้นไม่นานนักเสียงแจ้งเตือนไลน์เด้งขึ้นมาพร้อมกับข้อความที่แนบมากับคลิป (ดูและสาธยายให้กูฟังรัวๆว่ามันคืออะไร สรุปมึงกับพี่ยูโรปได้กันที่ไหน เมื่อไหร่ ดูท่าคลิปมึงคนอื่นเค้าคงแชร์กันทั่วแล้วแหละ)  โอลาฟมองข้อความไลน์ของดิวและชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะกดเปิดดูคลิปดังกล่าวด้วยความหวาดวิตกโดยในคลิปนี้เป็นภาพถ่ายมุมสูงตอนที่ยูโรเอามือจับสะโพกโอลาฟพลิกตัวนอนหงายบนเตียงก่อนจะขยับท่อนลำขาวใหญ่ที่เสียบคาก้นซอยเข้าออกถี่ๆด้วยความเมามันพร้อมทั้งเสียงครางอืออาหหห ของทั้งคู่ มันเลยทำให้โอลาฟจำได้ทันทีว่าสถานที่ดังกล่าวคือห้องในโฮสเทลที่มันไปถ่ายงานกับยูโรเมื่อครั้งนั้นก่อนจะเกิดเรื่องโอลาฟดูคลิปได้ไม่นานมันเลยกดออกไลน์ด้วยความรู้สึกกลัว อายและความรู้สึกอื่นๆอีกมากมายที่ถาถมเข้ามาไม่รู้จบ โอลาฟหายใจถี่จนเนื้อตัวสั่นเทามือไม้ชุ่มไปด้วยเหงื่อก่อนที่มันจะโยนโทรศัพท์ลงที่เตียงและลุกเดินวนไปมาในห้องด้วยความกระวนกระวายเหมือนคนบ้า “เราจะทำไงดี จะทำไงดีเนี่ยยยย เรากับพี่ยูโร  คนอื่นๆ โอ๊ยยจะทำไงดี คนอื่นรู้เรื่องนี้แล้ว  พระเจ้า นี่มันเกิดขึ้นได้ยังไง นี่มันอะไรกันจะทำไงดี”  คำพูดเหล่านี้ได้แต่ตีวกไปวนมาอยู่ในหัวโอลาฟเหมือนเทปเสียงที่เปิดเล่นซ้ำไปมา  ไม่นานนักเสียงเคาะประตูดังขึ้นพร้อมกับเสียงเรียกที่คุ้นหู “โอลาฟเว้ยยย ท่านแม่ให้กูขึ้นเรียกมึงให้ลงไปแดกข้าว” ลีฟเคาะเรียกโอลาฟอยู่พักใหญ่ก่อนที่ประตูห้องจะเปิดออกลีฟที่เห็นโอลาฟยืนหน้าซีดตัวสั่นๆถึงกับยืนนิ่งไปพักหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยปากถาม “นี่มึง!!  มึงเป็นไรวะน่ะไปทำไรมา”  โอลาฟไม่พูดมันได้แต่พุ่งตัวไปกอดลีฟไว้แน่นก่อนจะร้องไห้สะอึกด้วยน้ำเสียงเบาๆขึ้นมาทีละนิด  ซึ่งนั่นทำให้ลีฟได้แต่ยืนงงทำไรไม่ถูกมันเลยพยายามเเกะมือโอลาฟออกพร้อมเอ่ยปากถาม “เดี๋ยวๆนี่มึงจะมาไม้ไหนกับกูอีกเนี่ยเมื่อวานนี้ยังกูเห็นมึงยังคุยเล่นกับพ่อดีๆอยู่เลย  มึงปล่อยกูก่อนและมายืนคุยกับกูดีๆดิวะ”  โอลาฟยังคงออกแรงกอดแน่นก่อนจะพูดตอบกลับไป “พี่ลีฟ ขอผมกอดนะ พี่อย่าว่าผมเลย”  ณ ตอนนี้โอลาฟคิดได้แค่ว่าการได้กอดใครสักคนในครอบครัวที่มันคุ้นเคยอาจช่วยให้มันพอเบาใจจากสิ่งที่มันเผชิญอยู่อีกทั้งโอลาฟเองก็ไม่รู้จะสรรหาคำพูดใดที่จะเล่าอธิบายเรื่องดังกล่าวหากความจริงก้าวล่วงมาถึงคนในครอบครัว
               เพียงไม่กี่ชม.หลังจากที่โอลาฟได้รับคลิปจากดิวประเด็นของโอลาฟกับยูโรกลายเป็นที่โจษจันอื้อฉาวไปทั่วหมู่นักเรียนวัยรุ่นโดยเฉพาะรุ่นพี่และนักเรียนชาวเขียวส้มที่แชร์คลิปลงไลน์กลุ่มห้องหรือ สื่อช่องทางอื่นๆ จนเกิดเป็นเรื่องเม้าท์มอยกันไปต่างๆนาๆดั่งไฟลามทุ่งที่คุมได้ยากจนกลายเป็นประเด็นในหมู่ปากตลาดของโรงเรียนว่า เรื่องไม่คาดฝันของหนุ่มฮอต No.2 กับเด็กมีชื่อในชมรมบ้างก็มีการตั้งกลุ่มพยายามขุดคุ้ยเรื่องราวของทั้งสองเพื่อส่งต่อในกลุ่มให้เม้าท์มอยกันให้สนุกปากเลยทำให้วันนี้ทั้งวันโอลาฟต้องปิดเครื่องหนีเสียงโทรเข้าและเสียงแจ้งเตือนข้อความไลน์จากเพื่อนๆในห้องรวมถึงกลุ่มต่างๆที่โอลาฟได้เข้าร่วมโอลาฟเก็บตัวเงียบในห้องพร้อมกอดเข่าเซื่องซึมมืดแปดด้านอยู่บนเตียงแม้ว่ามันพยายามติดต่อไปหายูโรโดยใช้โทรศัพท์เครื่องอื่นแต่ทางยูโรเองก็ไม่ต่างอะไรกับโอลาฟเช่นเดียวกันจนท้ายที่สุดสิ่งที่โอลาฟหวาดกลัวก็มาถึง เวลา 13.14 น. แม่ปุ้ยได้รับแจ้งจากครูประจำชั้นของลูกชายตนเองพร้อมกับบอกเล่าเรื่องราวกับสิ่งที่เกิดขึ้นและเมื่อความจริงได้ล่วงรู้มาถึงคนในบ้าน นั่นเลยทำให้พ่อกับแม่โอลาฟถึงกับไปไม่เป็นทั้งสองเลยต้องพาโอลาฟลงมานั่งโต๊ะพร้อมซักถามความจริงกับเรื่องราวที่ได้รู้มาแม้นว่าพ่อและแม่ยังไม่ได้เห็นคลิปดังกล่าวแต่นั่นก็ทำให้ทั้งสองรู้สึกเสียหน้าอับอาย และผิดหวังในตัวโอลาฟอย่างไม่คาดคิด “โอลาฟ ทำไมทำอะไรอย่างงี้ห๊ะลูกสรุปก่อนหน้านี้ไอ้ที่ว่าไปถ่ายงานถ่ายงานเนี่ย ตกลงมันคือข้ออ้างที่จะออกไปทำอะไรแบบนี้น่ะเหรอ”  โอลาฟได้แต่ก้มหน้าร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่แบบนั้นโดยไม่มีคำพูดใดๆออกจากปาก “แม่ไม่ได้เกลียดที่ลูกแม่เป็นแบบนี้นะแต่แม่น่ะผิดหวังที่โอลาฟทำตัวเหมือนเด็กใจแตก ลูกรู้ไหมว่าพรุ่งนี้เช้า ครูธีรชาติฝ่ายปกครองเรียกหนูกับแม่ไปคุยเรื่องบ้าๆนี้ที่ห้องปกครองทำไมลูกถึงกล้าทำเรื่องงามหน้าอย่างงี้ห๊ะลูก หนูไม่คิดถึงหัวอกแม่บ้างเหรอ ที่ผ่านมาแม่เลี้ยงหนูไม่ดีงั้นเหรอ”  แม่ปุ้ยโกรธจนหน้าแดงก่อนจะร้องไห้และหันไปฟุ๊บกอดพ่อที่นั่งด้านข้างโอลาฟที่เห็นสภาพแม่ถึงกับรีบลุกไปนั่งข้างแม่พร้อมกับโน้มตัวลงไปสวมกอดอีกคน “ฮือออออออ แม่ฮะ หนูขอโทษฮะแม่ ฮืออออออ แม่อย่าร้องไห้สิครับ ฮืออออ หนูไม่ได้ตั้งใจให้มันเป็นแบบนี้เลยฮืออออ หนูขอโทษ” นี่เป็นอีกครั้งที่แม่ต้องมานั่งเสียน้ำตาให้กับโอลาฟซึ่งมันทำให้โอลาฟรู้สึกแย่เอามากๆ เพราะตั้งแต่เกิดมาโอลาฟเสมือนตัวเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างแม่กับพ่อใหม่อีกทางนั่นเลยทำให้ความรักที่แม่มีให้กับโอลาฟนั้นมีมากกว่าใครๆซึ่งโอลาฟเองก็ตระหนักได้ถึงข้อนี้ดี  หลังจากที่โอลาฟ กับ แม่ สงบสติอารมณ์ลงไปบ้างทั้งสามเลยนั่งคุยปรับความเข้าใจกันถึงสิ่งที่เกิดขึ้น โอลาฟถูกซักถามโดยผู้เป็นแม่และพ่อถึงจุดเริ่มต้นลากยาวมาจนถึงเหตุการณ์ล่าสุดแม้ว่าโอลาฟจะไม่ได้เล่าให้ฟังทั้งหมดแต่นั่นก็ทำให้ผู้เป็นแม่และพ่อคาดไม่ถึงว่าลูกชายคนเล็กของตนจะกล้าทำมากกว่าสิ่งที่เด็กวัยนี้ที่ควรเป็น  เลยทำให้วันทั้งวันบรรยากาศในบ้านมีแต่ความเงียบปนความหดหู่นิดๆตัวของแม่จากที่เคยพูดหยอกเล่นกับโอลาฟกลับกลายเป็นเงียบครืมอาจจะมีพูดบ้างเป็นครั้งคราวซึ่งมันทำเอาโอลาฟอึดอัดและแย่ยิ่งกว่าเดิมส่วนผู้เป็นพ่อได้แต่เห็นใจทั้งสองฝ่ายและทำตัวเป็นคนกลางเพื่อให้คนในบ้านรู้สึกดีขึ้นบ้าง  จนเช้าวันรุ่งขึ้นก่อนรร.เปิด 1 วัน ในทุกๆปีทางโรงเรียนจะนัดหมายให้นักเรียนในระดับชั้นต่างๆมาทำความสะอาดและตระเตรียมห้องเรียนของตนเองให้พร้อมก่อนวันเปิดเรียนซึ่งมันก็เป็นโชคดีของโอลาฟที่วันนี้จำนวนนักเรียนที่มานั้นมีแค่บางส่วนไม่ได้มากเหมือนปีก่อนเมื่อรถเก๋งของแม่โอลาฟขับมาถึงหน้าตึกอำนวยการ โอลาฟที่นั่งในรถถึงกับมองซ้ายมองขวาดูกลุ่มนักเรียนที่เดินคุยกันไปตามถนนบ้างก็ยกโต๊ะ/เก้าอี้ที่เสียลงมาสับเปลี่ยนกับอันดีๆบริเวณด้านล่างตึกโอลาฟเห็นสภาพของผู้คนโดยรอบทำให้มันไม่อยากลงจากรถ  “แม่ปุ้ยโทรบอกครูธีรชาติให้เลื่อนเป็นตอนบ่ายได้ไหมอะ ผมไม่อยากลงไปตอนนี้อะ”  แม่โอลาฟเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะถอนหายใจเบาๆ“โอลาฟ ครูธีรชาติฝ่ายปกครองว่างแค่ตอนเช้าแม่รู้นะว่าลูกรู้สึกไงตอนนี้ แต่ความจริงมันก็คือความจริง”  พ่อโอลาฟพูดเสริมอีกคน “ไม่เป็นไรนะโอลาฟซัง เดี๋ยวลูกมาเดินกับพ่อนี่มะ”  โอลาฟได้แต่นั่งคอตกชั่วขณะก่อนจะพยักหน้าด้วยความไม่เต็มใจเมื่อโอลาฟก้าวลงจากรถตามพ่อและแม่ทำให้ผู้คนโดยรอบที่เห็นโอลาฟถึงกับสะกิดกันให้หันไปทางโอลาฟในขณะที่โอลาฟเดินตามพ่อแม่ไปยังตัวอาคาร แม้ว่ามันจะรู้สึกถึงแรงกดดันจากสายตาที่มองมาจากผู้คนแต่สายตาคู่นั้นของมันก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะเห็นภาพผู้คนต่างพากันกระซิบกระซาบนินทา หัวเราะ เรื่องคลิปที่มันมีอะไรกับยูโรบ้างก็แอบชี้หน้าและเบ้ปากใส่อยู่แต่ไกลแน่นอนหากเป็นภาวะปกติที่ไม่ได้มีเรื่องดังกล่าวตัวของโอลาฟเองคงไม่อยู่เฉยและโต้ตอบด้วยสายตาคำพูดและกิริยาสวนใส่ผู้คนเหล่านั้นอย่างแน่นอน แม้นว่ามันจะเจ็บใจ คับแค้นและอับอายถึงที่สุด แต่โอลาฟก็ทำได้แค่เดินไปนิ่งๆเสมือนเดินกลางป่าช้าอันไร้ผู้คน เมื่อทั้งสามไปถึงหน้าห้องปกครองและผลักประตูเข้าไปโอลาฟก็ต้องตกใจเมื่อมันเห็นยูโรกับพ่อแม่นั้นนั่งเก้าอี้นวมยาวที่วางเกือบชิดผนังห้องฝั่งขวามือทันทีที่ทั้งสามผลักประตูเข้ามาพ่อกับแม่ยูโรเงยหน้าละสายตาจากโทรศัพท์ขึ้นมามองครอบครัวโอลาฟชั่วครู่ก่อนจะก้มลงไปมองโทรศัพท์ด้วยสีหน้าเรียบเฉยพ่อกับแม่เลยพาโอลาฟไปนั่งยังเก้าอี้นวดยาวฝั่งตรงข้าม ยูโรที่นั่งอยู่อีกฝั่งรีบยกมือไหว้พ่อแม่โอลาฟแต่พ่อกับแม่โอลาฟก็เพียงแค่พยักหน้าก่อนจะหยิบหนังสือที่วางด้านข้างขึ้นมาอ่านยูโรและโอลาฟที่นั่งกันคนละฝั่งนั้นทำได้แค่สบตามองกันและกันโดยปราศจากคำพูดทักทาย  ในใจโอลาฟมันอยากจะพุ่งเข้าไปซบตักร้องไห้ระบายความอักอั้นให้ยูโรฟังส่วนยูโรเองก็อยากที่จะเข้าไปกอดพร้อมขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้นสายตาคู่นั้นจับจ้องอยู่ได้พักหนึ่งก่อนที่โอลาฟจะสะดุ้งมือของพ่อที่วางทาบลงบนไหล่จนโอลาฟรีบแหงนมองพ่อทันที ไม่นานนักครูธีรชาติผลักประตูเข้ามาพร้อมกับเฟิร์สที่เดินตามหลังพร้อมกล่องเอกสารในมือโอลาฟที่เห็นเฟิร์สได้แต่ก้มหน้าไม่กล้าสู้สายตาเฟิร์สที่มองมายังมันทันทีที่ครูธีรชาติเห็นสองครอบครัวที่มาพร้อมหน้ากัน “เฟิร์สเอ็งเอากล่องเอกสารมาให้ครูนี่ ขอบใจเอ็งมาก ออกไปได้ละ”  ทันทีที่เฟิร์สออกจากห้องไปครูธีรชาติยกมือไหว้พ่อแม่ทั้งสองฝ่าย “สวัสดีครับเดี๋ยวผมขอเชิญผู้ปกครองและนักเรียนทั้งสองฝ่ายเข้าไปโต๊ะทำงานผมที่อยู่ห้องด้านในเลยครับ” ครูธีรชาติเชิญให้ครอบครัวทั้งสองฝ่ายนั่งเก้าอี้ไม้ที่เตรียมไว้พร้อมทั้งวางของเอกสารในมือลงบนโต๊ะ ส่วนโอลาฟและยูโรรีบยกมือไหว้ครูธีรชาติ
ครูธีรชาติ -  ยังไงผมขอโทษด้วยครับมาช้า  พอดี ผอ.เรียกให้ผมไปพูดคุยเรื่องที่จะต้องมาเคลียร์กับนักเรียนทั้งสองในวันนี้ครับเอาละนะงั้นผมเข้าประเด็นเลยพวกเธอทั้งสองรู้ใช่ไหมว่าที่ครูเรียกเธอมาวันนี้เพราะว่าเรื่องอะไร
ยูโรกับโอลาฟตอบพร้อมกัน - รู้ครับ
ครูธีรชาติ – พวกเธอสองคนรู้ใช่ไหมว่าสิ่งที่เธอสองคนทำไปน่ะมันจะมีผลกับพวกเธอยังไงบ้าง
แม่ยูโร –โอเคค่ะครูดิฉันเข้าใจว่าลูกดิฉันทำผิด แต่รบกวนครูช่วยเข้าประเด็นตรงๆเลยค่ะว่าทางโรงเรียนมีมาตรการหรือจะให้ลูกดิฉันทำยังไง
ครูธีรชาติ - ครับ ก่อนอื่นเลยคือผู้ปกครองต้องเข้าใจว่าโรงเรียนนี้ก่อตั้งมาก็หลายสิบปีแล้วเจอเรื่องที่พวกนักเรียนทำไม่ดีไว้ก็มาก แต่เหตุการณ์ในลักษณะแบบนี้มันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน  และที่สำคัญคือคนกระทำผิดยังเป็นนักเรียนที่มีชื่อและเป็นเด็กกิจกรรมของโรงเรียนเราด้วย  อีกทั้งเรื่องนี้ยังเป็นประเด็นที่คนอื่นๆกำลังพูดถึงกันอย่างแพร่หลายในโลกของ Social และมีการพาดพิงถึงชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือของโรงเรียนที่มีมายาวนานจนกระทบไปถึงพวกสมาคมศิษย์เก่าด้วยทางผู้บริหารโรงเรียนเลยมองว่าเรื่องนี้ต้องดำเนินการโดยเด็ดขาดเพื่อแสดงถึงการรับผิดชอบของโรงเรียนกับปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ ผมเลยอยากแจ้งให้ผู้ปกครองรับทราบว่าทางโรงเรียนมีมาตรการให้ทั้งสองต้องย้ายที่เรียนครับ
พ่อยูโร – เดี๋ยวนะครู!! เรื่องนี้ถึงขั้นต้องเอาลูกผมออกเลยเหรอผมเองก็ไว้วางใจโรงเรียนให้ลูกผมเรียนที่นี่ตั้งแต่ม. 1 สร้างชื่อเสียงให้กับโรงเรียนมาก็ไม่น้อย แถมให้ความร่วมมือกับกิจกรรมของโรงเรียนมาเป็นอย่างดี อย่างน้อยผมขอให้ครูเห็นแก่ความดีที่ลูกผมทำเพื่อโรงเรียนบ้างสิครับ
ครูธีรชาติ –ผมเข้าใจว่าคุณพ่อรู้สึกยังไงกับสิ่งที่ผมพูดไปแต่เรื่องนี้มันไม่ใช่ผมที่มีอำนาจตัดสินใจแค่คนเดียว ทางฝ่ายบริหารของโรงเรียนเองก็ได้รับแรงกดดันมาจากพวกสมาคมศิษย์เก่าด้วย  คุณพ่อรู้ไหมว่าทันทีที่ทางโรงเรียนทราบเรื่องนี้ผมกับผอ. และครูท่านอื่นที่อยู่ในฝ่ายบริหาร ต้องมาประชุมกันเร่งด่วนเลยกับเรื่องนี้
พ่อยูโร –แต่ลูกผมก็ไม่ได้ไปทำร้ายร่างกายใคร  ไม่ได้ไปชกต่อยกับใครไม่ได้ทำให้ใครท้อง อีกอย่างเรื่องพวกนี้ก็เป็นต้นเหตุทำให้ลูกผมเกือบถูกยิงตายเลยนะ
พ่อโอลาฟ -คุณครูครับผมรู้ว่าลูกผมผิด และถ้าโรงเรียนจะให้ลูกผมย้ายโรงเรียนผมกับภรรยายินยอมครับแต่ขออย่างเดียวผมขอให้เป็นน้องคนที่ช่วยชีวิตลูกชายผมได้เรียนที่นี่ต่อเถอะนะครับ
ครูธีรชาติเงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่จะเปิดกล่องเอกสารบนโต๊ะพร้อมกับหยิบซองสีน้ำตาลยื่นให้กับครอบครัวของทั้งสองฝ่ายได้เปิดอ่านซึ่งเอกสารในซองน้ำตาลดังกล่าวก็คือรายละเอียดและคำชี้แจงจากฝ่ายบริหารและสมาคมผู้ปกครองของโรงเรียนที่แจ้งให้ทั้ง2 ย้ายโรงเรียน
ครูธีรชาติ – ผมเสียใจด้วยจริงๆครับผู้ปกครองแต่ผมไม่มีอำนาจที่จะเปลี่ยนสถานการณ์นี้จริงๆ คำสั่งจากฝ่ายบริหารมันก็ออกมาชัดเจนแล้วด้วยส่วนเรื่องเอกสารและเรื่องเกรดที่จะโอนย้ายนั้นทางโรงเรียนจะรับผิดชอบให้โดยไม่คิดเงินครับ
พ่อของยูโรชักสีหน้าขุ่นเคืองทันทีก่อนจะลุกเดินออกไปพร้อมกับแม่ที่เดินตามหลังไปอีกคนยูโรอึ้งไปคูรู่หนึ่งก่อนจะยกมือไหว้ครูธีรชาติและเดินตามพ่อแม่ไปอย่างรวดเร็ว ส่วนโอลาฟที่นั่งอยู่นั้นมันได้แต่ช็อกและตกใจกับคำพูดของครูธีรชาติมันเหลือบไปมองแม่ที่นั่งน้ำตาซึมอยู่ด้านข้างมันเลยกำมือแน่นและลุกเดินออกจากห้องไปอีกคนทันทีที่โอลาฟเดินออกไปยังห้องด้านนอกที่เป็นห้องรับรองมันเห็นยูโรกับพ่อแม่ยืนคุยกันด้วยน้ำเสียงกระแทกกระทั้นใส่กัน
พ่อยูโร -  ยูโร ฉันเลี้ยงแกให้เป็นผู้ชายแต่ทำไมแกถึงได้ทำตัวเป็นพวกวิปริตผิดเพศอย่างงี้  แกเห็นไหมว่าสิ่งที่แกทำลงไปมันน่ะบัดซบกับตัวแกแค่ไหนแม่งอายทั้งฉัน อายทั้งตระกูล
พูดไม่ทันจะจบพ่อยูโรใช้มือขวาตบไปยังใบหน้ายูโรแรงๆ1 ทีจนเกิดเสียงดัง ผั๊ววว โอลาฟที่เห็นภาพตรงหน้ารีบพุ่งไปบังตัวยูโรทันทีทันใดทำให้พ่อยูโรที่ง้างมือจะตบยูโรซ้ำอีกครั้งถึงกับหยุดชะงัก
พ่อยูโร -  เอ็งอย่ามายุ่ง ถอยไป
โอลาฟ - อย่าทำพี่ยูโรของผมนะครับ ทำไมไม่คุยกับพี่ยูโรดีๆล่ะ
พ่อยูโร -  อย่ามาทำเป็นสอนฉัน แกเองก็อีกคนนะที่เป็นต้นเหตุของเรื่อง ที่ลูกฉันต้องมาเจอแบบนี้ แถมยังมาเจ็บตัวเพราะไปช่วยแก ถ้าแกไม่มายุ่งกับยูโรป่านนี้มันคงไม่โดนไล่ออกแบบนี้หรอก
ยูโร - โอลาฟพอแล้ว......พ่อ......อย่ามาพูดไรเสียๆหายๆใส่โอลาฟได้ปะ  (ยูโรรีบดึงตัวโอลาฟมาไว้ด้านข้าง)
พ่อยูโร -  อย่ามาพูดงั้นเหรอแล้วไอ้คลิปบ้าๆนั้นมันคืออะไร ถ้ามันไม่เล่นด้วยมีเหรอว่าเรื่องเหี้ยๆแบบนี้มันจะเกิดขึ้น
โอลาฟ - ผมขอโทษครับลุง (โอลาฟร้องไห้และเดินไปพร้อมยกมือไหว้)  ผมขอโทษที่ทำให้พี่ยูโรต้องมาเจออะไรแบบนี้ลุงอย่าว่าพี่ยูโรเลยนะครับ แค่นี้พี่ยูโรก็เสียใจมากแล้ว
พ่อยูโร -  แค่คำขอโทษมันช่วยอะไรไม่ได้  (พ่อยูโรใช้สองมือจับและบีบต้นแขนทั้งสองโอลาฟไว้แน่นพร้อมทั้งเขย่าอย่างแรง) มันเป็นเพราะแก เพราะแก เพราะแกคนเดียว (พ่อยูโรเขย่าก่อนจะผลักตัวโอลาฟจนล้มไปกองกับพื้นส่วยยูโรเองก็รีบเข้ามาผลักตัวพ่อมันจนเกือบล้มทั้งยืน)
พ่อยูโร -  นี่แกกล้าผลักฉันเลยเหรอ (พ่อยกมือขึ้นชี้หน้ายูโร)
พ่อกับแม่โอลาฟที่ออกจากห้องออกมาพอดีและเห็นภาพลูกตัวเองถูกผลักลงไปกองกับพื้นจนโอลาฟร้องไห้ยิ่งกว่าเก่าแม่ปุ้ยรีบวิ่งไปกอดประคองโอลาฟให้ลุกยืนพร้อมกับเอ่ยปากต่อว่าพ่อยูโร “นี่มันเรื่องอะไรกันค่ะพี่ ทำไมถึงทำกับลูกฉันอย่างงี้ล่ะคะ.....โอลาฟลูก เป็นไรมากไหม”  พ่อโอลาฟพูดเสริมอีกคน “ใช่ครับคุณเองก็อายุมากกว่าเด็ก ทำไมถึงไม่คุยให้สมกับผู้ใหญ่หน่อยล่ะ”   พ่อยูโรหันมาชี้หน้าครอบครัวโอลาฟ “ออกมาก็ดีล่ะ พวกคุณรู้ไหมว่าลูกของคุณเป็นต้นเหตุขึ้นเรื่องนี้ พวกคุณเลี้ยงลูกยังไงถึงได้ปล่อยให้ลูกกลายเป็นพวกผิดเพศ”  ยูโรเข้ามาพูดปรามพ่อ  “พอแล้วพ่อทำไมพ่อถึงชอบโทษแต่คนอื่น ผมเองนี่แหละนี่ไปชอบโอลาฟก่อนจบปะ ผมรักโอลาฟที่ผ่านมาพ่อกับแม่เคยฟังผมพูดบ้างปะ”  พ่อยูโรชะงักไปครู่หนึ่งก่อนเอามือตบหัวยูโรหลายต่อหลายทีพร้อมกับต่อว่าด้วยถ้อยคำรุนแรงจนเกิดเสียงเอ๊ะอะโวยดังปนกับเสียงร้องไห้และร้องห้ามของโอลาฟไปทั่วห้อง จนครูธีรชาติรีบเข้ามายุติเหตุการณ์ดังกล่าวยูโรที่เสียใจกับคำพูดและการกระทำของพ่อตัวเอง มันได้แต่กำมัดไว้แน่นก่อนจะตะโกนขึ้น “โถ่เว้ยยยย” และวิ่งออกจากห้องปกครองไปเจอกับเฟิร์ส เคน เตอร์ เอกและเบทที่นั่งจับกลุ่มรอไถ่ถามอยู่หัวบันไดทางขึ้นอาคารทันทีที่พวกนั้นเห็นยูโรวิ่งออกมาในสภาพน้ำตานองหน้าพวกมันถึงกับเงียบมีใครกล้าเอ่ยปากถามเลยสักคนจนยูโรวิ่งผ่านพวกมันไป   ณ ชั้น 3 ของอาคารเรียนม.ปลาย มีกลุ่มผู้หญิง 5คน ยืนคุยกัน “ไม่น่าเชื่อเลยเนาะพวกเธอว่าโรงเรียนเราจะมีเรื่องอะไรแบบนี้เกิดขึ้นดูสิเนี่ยคลิปหลักฐานชัดเจนซะขนาดนี้ ยังไงน้องยูโรกับน้องโอลาฟคงโดนเอาออกแน่นอน”  “คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจหรอกอีปีโป้อย่างน้องยูโรขนาดหล่อหน้าตาดีดูแมนๆแบบนั้นยังเป็นเกย์ซะนี่โอ้ยยยว่าที่สามีของกูไปซะล่ะ”  “นี่พวกมึงอีปีโป้ อีฟาง และก็นวลนาง เย็นนี้พวกรุ่นพี่มหาลัยญาติกูชวนไปเที่ยวในเมืองน่ะเห็นว่าจะมีปาร์ตี้วันเกิดที่ผับ พวกมึง 3 คนสนใจป่าววววเนี่ยยได้ยินว่าพวกรุ่นพี่วิศวะหล่อๆมาร่วมงานกันเยอะด้วยพวกมึงงงงง สนป่าวววว”  “กูไม่.....ปฏิเสธ.....มึงล่ะอีปีโป้ช่วงนี้โหยหาอยากกินผู้อยู่ไม่ใช่รึไง”  “บ้าอีนี่ก็.....เห็นกูแรดขนาดนั้นเลยรึไงอีนี่...เดี๋ยวไงกูถามแม่ดูก่อนว่าให้ไปไหมแล้วมึงล่ะอีนวล น้องเฟย์ ไปกับอีนกแก้วป่าว”   “ไม่อะพวกมึงช่วงนี้เราอยากเตรียมตัวสอบวัดภาษาอังกฤษที่จะเอาไปเรียนต่อนอกเราอยากฟิตให้เยอะๆก่อนสอบสิ้นปีนี้ ส่วนน้องกูแม่คงไม่ให้ไปหรอก ก็รู้ๆอยู่ กูขอโทษด้วยจริงๆพวกมึง”  “โอเคนวลถ้านวลไม่ว่างไว้โอกาสหน้าเนาะไงเย็นเดี๋ยวเราไปส่งที่บ้าน และก็มึงอีปีโป้ อีฟางถ้ามึงสองตัวจะไปก็อย่าลีลาเหมือนครั้งก่อนอีกนะ ล้อหมุน 18.00 น.”  “เอิ่มพี่นกแก้ว พี่นวลเดี๋ยวหนูของไปเก็บของที่ห้องคลินิกภาษานะพี่”  เฟย์พูดพร้อมปลีกตัวแยกออกมาจากกลุ่มของรุ่นพี่  และเมื่อเฟย์ขึ้นไปถึงห้องคลีนิกภาษามันไม่รอเช้ารีบรื้อเอาสมุดไดอารี่จากกองหนังสือเก่าที่เฟย์ชอบมานั่งเขียนระบายความรู้สึกต่างๆของมันขึ้นมาอ่านเรื่องราวที่ผ่านมา “พี่ยูโร ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้ ทั้งๆที่หนูเองก็ชอบพี่มาตลอดแต่ทำไมพี่ถึงได้...”  แต่ทันใดนั้นมีเสียงเรียกตะโกนดังจากข้างหลัง “ใครไปนั่งทำไรตรงนั้นน่ะ” เฟย์ตกใจรีบปิดไดอารี่และหันไปมองนักเรียนชายคนหนึ่งที่ยืนมองด้วยสีหน้าประหลาดใจอยู่ตรงประตูเข้าห้อง  “ป่าวค่ะหนูแค่มาเอาของๆหนู”  “นี่เป็นห้องที่อยู่ในการดูแลของสภานักเรียนนะคนที่ไม่ได้รับอนุญาตจากพวกสมาชิกสภานักเรียนห้ามเข้าห้องโดยพลการ”  เฟย์ได้ยินเช่นนั้นเลยรีบลุกเดินปรี่ตรงเข้ามา “หนูขอโทษค่ะพี่ที่เข้ามาโดยพลการ งั้นหนูขอตัวนะคะ”  ทันทีที่เฟย์ยกมือไหว้และเดินสวนออกไปนั้น “ดูหน้าน้องเศร้าๆนะ มีไรที่พี่พอช่วยไรป่าว”  เฟย์ยืนชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะหันกลับมา “ป่าวค่ะพี่ ไม่มีไร”  “พี่ชื่อเตอร์นะน้องเป็นเพื่อนกับเฟิร์สเดือนของโรงเรียน น้องมีเรื่องไม่สบายใจอะไรเข้ามาคุยกับพี่ได้นะครับ”  เฟย์ยิ้มเจือน “ค่ะ หนูชื่อเฟย์ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะพี่เตอร์”
               หลังเรื่องที่โรงเรียนผ่านพ้นไปครอบครัวทั้งสองฝ่ายต่างแยกย้ายและไม่ติดใจเอาเรื่องกันโอลาฟที่กลับถึงบ้านตัวของมันยังคงนึกเรื่องคำพูดของครูธีรชาติและนึกห่วงหายูโรว่าตอนนี้จะเป็นยังไงบ้างมันเลยเดินแยกตัวไปนั่งร้องไห้ในห้องน้ำและพยายามคิดหาทางติดต่อกับยูโรทุกวิถีทางเท่าที่มันจะนึกได้จนเวลาผ่านไป 20 นาที โอลาฟที่ขังตัวเองในห้องน้ำเดินออกมา มันยังหายใจคงสะอึกเป็นเนืองๆ “โอลาฟมานี่ก่อนลูก” เสียงแม่ปุ้ยเรียก โอลาฟเลยเดินตรงเข้าไปหาแม่และพ่อที่นั่งมองมันด้วยสีหน้าเคร่งครึมอยู่ที่โต๊ะหน้าทีวี “นั่งลงก่อน” ทันทีที่นั่งลงบนเก้าอี้โอลาฟหันไปสบตาทั้งคู่แปปหนึ่งก่อนจะหลบสายตาลงไปมองที่พื้นแทน
แม่ปุ้ย -  ตะกี้แม่กับพ่อคุยกันแล้วนะ เรื่องที่เรียนใหม่ ลูกต้องเข้าใจว่าตอนนี้เรื่องของลูกที่เกิดขึ้นยังไงถ้าลูกย้ายไปเรียนที่อื่นแม่กลัวลูกจะทนกับสายตาและแรงกดดันจากคนรอบข้างไม่ได้ แม่กับพ่อเลยตกลงกันว่า จะให้ลูกไปอยู่และเรียนต่อที่สึคากาวะบ้านเกิดพ่อ ลูกเองก็จะได้ไปเริ่มต้นใหม่ที่โน่นด้วย
พ่อ -  ไม่ต้องกลัวนะโอลาฟซัง เมื่อก่อนลูกกับแม่ก็เคยไปเที่ยวหาพ่ออยู่บ่อยๆ  โอลาฟเองก็ปรับตัวเข้ากับคนง่ายด้วย พ่อว่าลูกอยู่ได้แน่นอน
โอลาฟ -  พ่อ....แม่...ขอผมไปคิดก่อนได้ไหมอะ.....ไว้ตอนกินข้าวเย็นผมจะให้คำตอบ.....ตอนนี้ผมอยากอยู่คนเดียวอะครับ
พ่อกับแม่หันมองหน้ากันและปล่อยให้โอลาฟขึ้นไปบนห้องทันทีที่ประตูห้องปิดลงโอลาฟเดินเหม่อลอยดั่งอันร่างไร้จิตใจไปที่เตียงและทิ้งตัวลงไปบนเตียงพร้อมนอนแผ่มองเพดานห้องก่อนจะเอื้อมไปหยิบหมอนข้างมากอดนอนน้ำตาซึมจนหลับไป  จนเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ดังขึ้นปลุกโอลาฟให้ตื่นจากภวังค์โอลาฟนอนนิ่งพักหนึ่งก่อนมันเอามือควานหาโทรศัพท์ข้างตัวมันไปมาพร้อมเลื่อนสไลด์วางสายไปทั้งแบบนั้นสักพักเสียงเพลงเรียกเข้าก็ดังขึ้นอีกรอบจนโอลาฟรู้สึกรำคาญจนมันต้องรับสายในสภาพงัวเงีย
โอลาฟ -  ฮืมมมม ฮัลโหลลล
แคท -  โอลาฟ ทำไมเสียงเป็นงั้นล่ะ หลับอยู่เหรอ
โอลาฟ -  ไค...นั่นใครพูดน่ะ
แคท - เราไง โอลาฟ แคท
โอลาฟ -  แคท...แคท ไงมึง
แคท -โอลาฟพวกกูอยากเจอมึงนะ มึงสะดวกไหม
โอลาฟ -  ตอนนี้พวกมึงอยู่ไหนกัน
แคท - เนี่ย เรา เจมส์และก็อีดิว อยู่ห้องห้องมึงเลย มึงมาเปิดประตูให้พวกกูหน่อยดิ
โอลาฟ -  อะไรนะ หน้าห้อง! (โอลาฟดีดตัวลุกขึ้นมาทันควันพร้อมรีบเดินไปยังโต๊ะกระจกและหยิบหวีมาเสยผมยุ่งๆบนหัวก่อนจะเดินไปเปิดประตูห้อง)
โอลาฟ -  ไงพวกมึง แคม เจมส์ ดิว จะมาทำไมไม่โทรบอกกูก่อน(โอลาฟพูดพร้อมกับมองทั้งสามที่ยืนจ่อประตูพร้อมกับถุงหิ้วในมืออันเต็มไปด้วยของกินขนม และน้ำอัดลม)
ดิว - โอ่อออีโอลาฟก่อนหน้าที่พวกกูจะมาเนี่ยยยกูโทรหามึงตั้ง5 รอบ แต่มึงไม่รับสายเลย ทักไลน์ทักเฟส ไรก็ไม่ตอบพวกกูสักอย่างพวกกูเลยพากันมาเนี่ย กลัวมึงจะเป็นไรไป
โอลาฟ -  อ่าวววเหรอ โทษทีนะดิว ตอนที่มึงโทรมากูคงหลับอยู่อะ  เอ่อนี่เข้ามาก่อนดิพวกมึง
แคท ดิว และเจมส์ เดินตามโอลาฟเข้าไปในห้องโดยเจมส์กับโอลาฟ เดินไปนั่งที่เตียง ส่วนดิวกับแคทลงไปนั่งยังพื้นห้อง ทั้งสี่คนนั่งมองหน้ากันโดยปราศจากคำพูดใดๆซึ่งผิดแปลกกว่าทุกครั้งที่ไม่ดิวหรือแคทจะเป็นคนเริ่มเปิดประเด็นบทสนทนาเม้าท์มอยเรื่องต่างๆรอบตัวนั่นเลยทำให้บรรยากาศในห้องนั้นเงียบครึมไปชั่วขณะ เจมส์ที่เห็นว่าบรรยากาศเริ่มกดความจนน่าอึดอัด มันเลยเป็นฝ่ายที่จะเปิดประเด็น
เจมส์ - เอ่ออนี่ ดิว แคทโอลาฟ เมื่อวานน่ะนะ ตอนกูไปเดินฟิวเจอร์กับแม่กูเห็นร้านเค้กญี่ปุ่นเปิดใหม่ด้วยว่ะคนเยอะมาก พี่เจนบอกว่าร้านเปิดใหม่โปรลดราคาเยอะด้วย กูว่าพวกเราทั้งหมดน่าจะลองไปเจิมๆสักหน่อยดีไหม
ดิว - ดีอีเจมส์ช่วงนี้กูกับอีทอมแคทนี่ก็ เบื่อๆเค้กจากร้านประจำซะด้วย
แคท - ก็มึงเล่นไปแดกเกือบทุกวันนิอีดิวจะไม่เบื่อได้ไงมึง  มึงต้องเอาอย่างโอลาฟโน่น ไปจนนับครั้งได้
ดิว - นี่ๆ อีเจมส์ อีโอลาฟอีแคท มึงรู้ปะว่าเทอม 2 นี้ครูปรเวชที่พวกเราไม่ชอบขี้หน้า  แกไม่ได้มาสอนพวกเราแล้วนะ กูนี่โคตรดีใจสุดๆ โดยเฉพาะมึงอีโอลาฟที่เกลียดขี้หน้าแกยิ่งกว่าพวกกู มึงดีใจไหม
โอลาฟ - ก็ดีใจนะ แต่........(โอลาฟยิ้มเจือนก่อนจะก้มมองพื้นห้องทำให้ดิว แคท และเจมส์หันมองโอลาฟพร้อมกัน)
ดิว - อะไรเหรอ แต่อะไรมึง?
โอลาฟ - แต่เทอมหน้านี้กูคงไม่ได้อยู่เจอหน้ากับพวกมึงแล้วนะ
แคท - เห้ย  ทำไมพูดงั้นล่ะ โอลาฟ
โอลาฟ - ก็เรื่องที่เกิดขึ้นน่ะทางรร.เรียกกูกับพี่ยูโรไปคุยแล้ว และก็ให้กูกับพี่ยูโรลาออกส่วนตัวกูเองแม่บอกให้กูย้ายไปอยู่ญี่ปุ่นกับพ่อและอยู่ที่โน่นจนเรียนจบเลย  เอาตรงๆนะพวกมึงกูโคตรไม่อยากไปเริ่มต้นใหม่เลย กูชอบที่นี่ชอบพวกมึงทั้งสามคนที่โน่นน่ะสังคมแม่งอึดอัด มันไม่เหมือนอย่างที่นี่หรอกนะ กูก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าชีวิตกูต้องทำไมมาเจอไรแบบนี้ด้วย
โอลาฟพูดพลางน้ำตาไหลไปด้วยจนเจมส์ที่นั่งอยู่ข้างรีบโอบแขนไปดึงตัวโอลาฟมาซบยังไหล่ซ้ายพร้อมกับแคทที่ลุกจากพื้นมานั่งกุมมืออีกข้างพร้อมกับดิวที่เดินเข้ามาโอบกอดทั้งสามเข้าไว้ด้วยกันโอลาฟร้องไห้ขึ้นอีกครั้ง จนแคท ดิว  เจมส์ต้องช่วยกันหาพูดมาปลอบโอลาฟกันยกใหญ่  เมื่อโอลาฟสงบลงและพอยิ้มขึ้นมาบ้าง ทั้งสี่คนเลยพากันมานั่งพื้นก่อนจะเอาขนมและเครื่องดื่มที่ซื้อมานั่งกินไปพลางพร้อมไถ่ถามเรื่องราวต่างๆจากโอลาฟไปพลางโดยเฉพาะอย่างยิ่งดิวที่ดูเหมือนจะสนใจว่าโอลาฟนั้นได้กับยูโรอย่างไรจนถามซอกแซกโน่นนี่นั่นหลายอย่างถึงแม้ว่าเจมส์กับแคทจะคอยปรามดิวอยู่บ้างแต่ทว่าทั้งสองนั้นก็อยากรู้ไม่ต่างอะไรกับดิวเลยจนเวลาผ่านล่วงเลยไปจนเกือบมืดแคท ดิว และเจมส์ที่เห็นว่าโอลาฟสบายใจขึ้นแม้นจะไม่ร่าเริงเหมือนแต่ก่อนทั้งสามหันมาโอบกอดโอลาฟอีกครั้งพร้อมพูดปลอบอีกครั้งก่อนจะพากันแยกย้ายกลับไป  ขณในะที่โอลาฟกำลังจะเดินขึ้นห้องจู่ๆเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ดังขึ้นจนโอลาฟควักเอาโทรศัพท์จากกระเป๋ากาเกงขึ้นมาดูเมื่อมันเห็นเบอร์ที่โทรเข้ามาเป็นเบอร์แปลก มันจะกดวางแต่ก็มาบางสิ่งตระหนักขึ้นในใจเหมือนเป็นเซ้นเล็กๆที่ทำให้ต้องกดรับสายนี้
โอลาฟ - หวัดดีครับ
ยูโร - ฮัลโหลล โอลาฟใช่ปะ
โอลาฟ - ใช่ครับ นี่ใครอะครับ
ยูโร – โอลาฟ.....พี่เองนะ
โอลาฟ – พี่เอง?.........พี่ยูโร!!นี่พี่ยูโรอยู่ไหนอะครับ แล้วนี่พี่เอาเบอร์ใครโทรมาอะ
ยูโร - โอลาฟ  ออกมาเจอพี่ตอนนี้ได้ป่าวไว้เจอกันแล้วเดี๋ยวค่อยคุยกัน
โอลาฟ – ได้ครับแล้วตอนนี้พี่ยูโรอยู่ไหนอะ
ยูโร - พี่ส่งโลให้ในไลน์แล้ว โอลาฟตามโลที่พี่ส่งมาเลยน้อง
หลังยูโรวางสายโอลาฟไม่รอช้ากดไลน์ดูโลเคชั่นที่ยูโรส่งมาจากนั้นโอลาฟเดินไปหาแม่และหาเหตุอ้างขอออกบ้านไปหาซื้อขนมกินเล่น จนกระทั่ง 10นาทีผ่านไปมอเตอร์ไซค์โอลาฟขับมาจอดยังหน้าบ้านชั้นเดียวแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ห่างจากหมู่บ้านที่โอลาฟประมาณ900 เมตร ตัวโอลาฟยังคงนั่งขวบรถพร้อมชำเลืองมองดูตัวบ้านว่ามีคนหรือไม่ก่อนจะรีบก้มมองโลเคชั่นยังโทรศัพท์ในมือ ไม่นานเสียงตะโกนเรียกโอลาฟพร้อมกับยูโรที่ใส่เสื้อยืดครามแถบขาวกางเกงขาสั้นสีดำเดินออกมาทักทายโอลาฟไม่รอช้ารีบเตะขาตั้งรถลงพร้อมวิ่งเข้าไปสวมกอดตัวยูโรแน่นด้วยความห่วงหาก่อนทั้งสองจะพากันเข้าไปยังด้านใน “พี่ยูโรผมคิดถึงพี่มากเลยนะหลังออกจากโรงเรียนตอนเช้าพี่หายไปไหนอะ ผมติดต่อพี่ไม่ได้เลย” โอลาฟพูดพร้อมยังคงกอดตัวยูโรไว้แน่น “โอลาฟพี่ขอโทษ เรื่องทั้งหมดนี่มันเป็นเพราะตัวพี่เอง ที่ทำให้น้องต้องมาเจออะไรแบบนี้พี่ขอโทษที่ทำให้โอลาฟต้องร้องไห้ทั้งที่ตัวพี่เองก็ไม่ชอบให้ใครทำให้โอลาฟต้องเสียน้ำตา”  ยูโรพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือพร้อมทั้งน้ำตาค่อยๆไหลจากตาซ้ายลงมายังแก้ม  “พี่ยูโรอย่าโทษตัวเองสิเรื่องที่ทั้งหมดนี้ผมไม่ได้โกรธพี่เลย ทั้งหมดก็เพราะผมรักพี่ผมต่างหากต้องขอโทษที่ทำให้พี่ยูโรเกือบถึงตายเพราะมาช่วยผม  อย่าร้องไห้เลยนะ ไม่สมเป็นพี่ยูโรเลย”  โอลาฟพูดไปร้องไห้ไปแม้นว่ามันจะพยายามกลั้นน้ำตามากแค่ไหนก็ตามทั้งสองต่างพูดปลอบโยนกันไปต่างๆนาๆ พร้อมกับพูดระบายนั่งความอัดอั้นตันใจที่ทั้งสองเผชิญมาก่อนหน้าจนถึงเดี๋ยวนี้เมื่อความรู้สึกเศร้าในตอนแรกแปรเปลี่ยนเป็นความสุขขึ้นมาหน่อยๆโอลาฟเลยขอนอนหนุนตักยูโร  “ตักพี่ยูโรอุ่นดีเนาะ”ยูโรได้แต่ยิ้มก่อนจะก้มลงจุ๊บหน้าผากโอลาฟ 1 ที จนโอลาฟยิ้มหน้าแดง“พี่ยูโรถามไรหน่อยดิเรื่องสำคัญนะ......นี่บ้านใครอะ”  “ฮ่าๆโอลาฟ เรื่องสำคัญจริงๆฮ่าๆ......นี่บ้านพ่อพี่ครับ ซื้อไว้ให้คนเช่าแต่คนเช่ารายเก่าย้ายออกไปนานล่ะ จากนั้นก็ไม่มีคนเช่าต่อเลยพอพี่นึกขึ้นได้ว่ามีบ้านหลังนี้อยู่ พี่เลยมาหลบพ่อกับแม่ที่นี่”  “แล้วทำไมพี่ถึงต้องหลบพ่อกับแม่ล่ะคุยกันดีๆก็ได้นิ”  ยูโรพูดพร้อมลูบหน้าผากโอลาฟไปมา “พ่อพี่เป็นคนโมโหร้ายน่ะ แถมแม่พี่ก็เป็นคนชอบโวยวายด้วยถึงกลับบ้านไปตอนนี้ก็ใช่ว่าจะมีอะไรดีขึ้นเพราะงี้ไงพี่เลยไม่อยากอยู่กับพ่อแม่เท่าไหร่ พี่น่ะอิจฉานะน้องนะที่มีพ่อกับแม่เข้าใจแบบนี้”  “จากนี้พี่ยูโรจะทำไงต่อครับ”  “พี่ว่าพี่จะหางานทำน่ะและก็เรียนกศน.ไปด้วย พอจบ.ม.6  พี่จะทำเพจรูปเที่ยวไปทั่วเมืองไทยเต็มตัวเลย”  “แบบนั้นจะดีเหรอครับผมว่าพี่ยูโรน่าจะเรียนต่อมหาวิทยาลัยนะ” “ไม่อะ เรียนไปก็เท่านั้นน้องเสียเวลา จริงๆเรื่องนี้พี่ก็คิดไว้ตั้งแต่ก่อนที่จะรู้จักน้องละว่าถ้าจบม.6แล้วจะรับงานฟรีแลนซ์ท่องเที่ยว” โอลาฟยังคงนอนมองยูโรด้วยสีหน้าไม่ค่อยชอบใจนัก “เอาน่าน้อง อย่าห่วงพี่เลย แล้วโอลาฟล่ะครับจากนี้ไปจะทำไงต่อไป” โอลาฟที่นอนหนุนตักอยู่ถึงกับชันตัวลุกขึ้นนั่งพร้อมทั้งเดินไปมองยังรูปวาดท้องทะเลยามเย็นที่ติดอยู่ผนังจนยูโรมองตามด้วยความสงสัย “มีอะไรเหรอโอลาฟ”  โอลาฟยังคงจ้องมองภาพดังกล่าวอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหันมาหายูโร “พี่ยูโร ผมกับพี่เราหนีไปด้วยกันดีไหมอะผมกับพี่จะได้อยู่ด้วยกันตลอดไง”  ยูโรทำหน้าตกใจนิดๆและเอ่ยปากถาม “โอลาฟ!! ทำไมจู่ๆถึงพูดงั้นล่ะเกิดไรขึ้น?”  “นะพี่ยูโรเราไปกันตอนนี้เลยที่ไหนก็ได้ที่ไกลจากนี้นี่” ยูโรลุกเดินไปจับมือโอลาฟแล้วพามานั่งยังเก้าอี้นวมตัวเดิมพร้อมทั้งกุมมือทั้งสองของโอลาฟไว้ “อะ ไหนเล่าให้พี่ฟังหน่อย”  โอลาฟทำหน้าเศร้าพร้อมถอนหายใจเฮือกหนึ่ง “วันมะรืนนี้ผมต้องไปอยู่ญี่ปุ่นกับพ่อผมกับพี่เราจะไม่ได้เจอหน้าไม่ได้อยู่ใกล้กันแบบนี้แล้วนะ”  ยูโรสตั้นตกใจในคำพูดดังกล่าวไปครู่หนึ่งก่อนจะตั้งสติและสบตาโอลาฟ  “แล้วโอลาฟบอกกับพ่อไงบ้าง”  “ผมบอกแค่ว่าขอกลับไปคิดเย็นนี้ค่อยให้คำตอบ”  “แล้วใจโอลาฟอยากไปไหมครับ” “ถ้าต้องห่างพี่ยูโรไปอยู่ไกลแบบนั้นพี่ว่าผมอยากไปไหมอะ” ยูโรโถมตัวกอดโอลาฟ “พี่น่ะรักโอลาฟนะ ทั้งรักทั้งหวงมากด้วยและพี่เองก็รู้ว่าโอลาฟรักพี่เหมือนกัน  แต่โอลาฟต้องรู้จักที่จะรักตัวเองซะก่อน  พี่เองไม่อยากเอาความต้องการส่วนตัวมาทำลายอนาคตของโอลาฟหรอกนะ  แต่ลองคิดดูว่าถ้าเราสองคนหนีไปด้วยกันปัญหามันไม่ได้จบแค่นี้นะครับ โอลาฟคิดว่าพ่อกับแม่จะยอมปล่อยผ่านเรื่องนี้ไหมล่ะแน่นอนหากเรื่องถึงตำรวจและเป็นข่าวขึ้นมาโอลาฟจะทนรับแรงกดดันจากคนรอบข้างได้ไหมแล้วโอลาฟโอเคหรือเปล่าที่จะต้องมีชีวิตหนีไปเรื่อยๆและหลบๆซ่อนๆ จากผู้คนน้องจะยอมรับได้ไหม พี่ขอให้โอลาฟตั้งสติสัก 2 นาทีก่อนและค่อยตอบพี่” ยูโรผละตัวจากโอลาฟ และนั่งจ้องโอลาฟที่ยังคงหน้านิ่งครุ่นคิดกับสิ่งที่ยูโรได้พูดไป สักพักโอลาฟที่นั่งอยู่ค่อยๆก้มลงไปซบตักยูโรและร้องไห้ “แล้วแบบนี้ผมต้องทำไงอะพี่ ผมต้องทำไงดี” ยูโรจับตัวโอลาฟที่ก้มซบตักขึ้นมาและเอามือทั้งสองปาดเช็ดน้ำตาบนใบหน้า  “อย่าร้องไห้สิ  รู้ไหมว่าเวลาพี่เห็นน้ำตาของน้องเมื่อไหร่พี่รู้สึกแย่กับตัวเองทุกครั้งเลยไม่เอา ไม่เอา โอลาฟขี้เล่นร่าเริงคนนั้นหายไปไหนแล้วล่ะ  ไม่เอา ไม่เอา”  “พี่ยูโรครับ รุ้ป่าวว่าผมกับพี่กว่าจะสานสัมพันธ์มาถึงจุดนี้มันก็ไม่ใช่ง่ายๆนะและพอทุกอย่างจะลงตัวผมกับพี่ก็ต้องถูกจับแยกออกทำไมชีวิตนี้มันไม่แฟร์กับผมกับพี่เลย” โอลาฟพูดพลางสะอึกพลาง  “ก็จริงอย่างที่น้องพูดแต่โอลาฟลองคิดมุมกลับดิ ถ้าเหตุการณ์เหล่านี้มันเป็นเครื่องพิสูจน์สายสัมพันธ์ของน้องกับพี่ว่าจะไปต่อยังไง แม้ว่าโอลาฟจะไปอยู่ญี่ปุ่นแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราสองคนจะไม่เจอกันอีกนิ  อย่างน้อยก็ยังคอลหากันได้ตลอด บางทีถ้าพี่เก็บตังได้มากพอพี่ก็บินไปหาโอลาฟที่โน่นบางทีสิ่งที่เกิดขึ้นเหล่านี้มันอาจทำให้เราสองคนได้ถอยออกมาตั้งหลักเพื่อมองภาพรวมให้ละเอียดอีกครั้ง….เชื่อพี่นะน้อง....ถ้าโอลาฟรักพี่ ก็ต้องรักตัวเองด้วย”   “แต่ผมก็รักตัวเองมากพอยู่แล้วนะ....ทั้งดูแลตัวเอง..กินของสุขภาพ”   “พี่ไม่ได้หมายความงั้น...พี่แค่ไม่อยากให้เราสองคนตัดช่องน้อยแต่พอตัวโดยไม่สนสิ่งรอบข้าง....ชีวิตความเป็นจริงมันโหดร้ายกว่าในหนังหรือนิยายกว่าเยอะ…….พี่ไม่อยากเห็นน้องต้องเสียน้ำตาอีก....แต่ถ้าตัวก็พี่พร้อมตัวน้องก็พร้อมถึงตอนนั้นใครจะว่าอะไรพี่จะไม่สนแล้ว...ถ้าน้องยังไม่ลืมพี่ไปก่อนนะ”   “พี่กับผมผ่านอะไรมาด้วยกันขนาดนี้ผมคงลืมพี่หรอกมั่ง”  โอลาฟเริ่มยิ้มออกมาบ้างจนยูโรอยู่ข้างๆแอบดีใจตาม“โอลาฟ เราสองคนมาสร้างความทรงจำดีๆด้วยกันอีกครั้งได้ไหมพี่อยากจดจำช่วงเวลานี้ให้นานที่สุด” “แต่แผลหน้าอกพี่ยูโรยังไม่หายดีเลยนะ ผมกลัวพี่ยูโรจะเจ็บ”  “ไม่เป็นไรน้องเจ็บแค่นี้ถ้าเทียบกับการที่ต้องเสียน้องไป แค่นี้มันจิ๊บๆ” โอลาฟพยักหน้าอีกครั้งและเข้าไปกอดตัวยูโร“ครับพี่ยูโร แต่ถ้าพี่ยูโรไม่ไหว พี่ต้องอย่าฝืนตัวเองนะ”  ยูโรยิ้มก่อนจะโน้มตัวลงไปจูบปากโอลาฟได้ครู่หนึ่งและอุ้มตัวโอลาฟไปนอนยังเตียงที่ห้องด้านในยูโรวางตัวโอลาฟลงเตียงเบาๆ สายตาทั้งสองยังคงจ้องมองกันอย่างไม่ลดละ “โอลาฟครับ พี่ขอนะ”  โอลาฟพยักหน้าและค่อยๆหลับตาลงเพียงเสี้ยววินาทีมันสัมผัสถึงริมฝีปากอุ่นมาประกบเข้าที่หน้าผาก แก้มทั้งสองและเลื่อนมายังริมฝีปาก ลมหายใจเข้าออกของทั้งสองพัดผ่านผิวหน้าของกันและกัน โอลาฟเปิดริมฝีปากขึ้นนิดๆเพื่อให้ลิ้นอ่อนๆของยูโรนั้นเข้ามาสัมผัสกับลิ้นโอลาฟที่คอยท่าอยู่ในอุ้งปากทั้งสองจูบแลกลิ้นกันไปมาได้พักหนึ่งจนเป็นที่พอใจเมื่อนั้นริมฝีปากอุ่นของยูโรค่อยๆเลื่อนลงไปดูดที่คอโอลาฟเบาๆ “อือออ พี่ยูโรอย่าดูดแรงนะ ถ้าคอเป็นรอยเดี๋ยวแม่จะสงสัยเอา” ไม่นูโรไม่ตอบมันได้แต่ใช้ริมฝีปากเม้มลำคอไปมาเบาๆตามคำขอโอลาฟ ซึ่งขนาดที่ยูโรกำลังเม้มคอโอลาฟด้วยริมฝีปากอยู่นั้นมือทั้งสองของมันได้เลื่อนลงไปจับชายเสื้อและถลกขึ้นมากองยังหน้าอกช้าๆ  ก่อนที่ริมฝีปากอุ่นๆของยูโรจนเปลี่ยนจากคอขาวๆไปยังหัวนมสีชมพูอ่อนทั้งสอง “อืมมพี่ยูโรรรรรอืมมมมม”  ริมฝีปากที่งับเบาๆผสมกับแรงดูดหัวนมนิดๆโอลาฟหลับตาปี๋และกำลังเคลิ้มสยิวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนเพียงชั่วครู่ริมฝีปากอุ่นๆที่กำลังดูดเม้มหัวนมอยู่นั้นได้ลงไปครอบยังหัวท่อนลำโอลาฟจนโอลาฟที่นอนอยู่ต้องชันหัวลืมตาขึ้นมาดูด้วยความตกใจว่ายูโรนั้นถอดกางเกงมันไปตั้งแต่เมื่อไหร่มันมองภาพริมฝีปากแดงๆที่กำลังครอบท่อนลำและรูดลงไปมาช้าๆได้ไม่นานก่อนจะก้มตัวลงไปนอนท่าเดิมความรู้สึกอุ่นวาบจากตอนแรกที่รู้สึกแค่ส่วนส่วนหัวก่อนจะค่อยลงมากลางลำและต่อด้วยการครอบลากมาจนสุดโคนจนบังเกิดเป็นความเสียงขึ้นทีนิดละนิดละนิด ริมฝีปากดังกล่าวค่อยๆเร่งความเร็วขึ้นแต่ไม่มากพร้อมกับก่อนห่อของอุ้งปากและลิ้นที่เลียบริเวณหัวเงี่ยงโอลาฟถึงกับเกร็งตัวแน่น “อื้มมมมพี่ยูโรอื้มมมพี่อืมมมมมเสียวอะ ผมเสียวววจังอื้มมมมม”  เสียงคำพูดปกครองสั่นๆโอลาฟดังขึ้นเป็นช่วงๆ “อื้มมมพี่...พี่ครับ..อื้มมมมเสียววววซีดดดดดอื้มมม”  เสียงครางโอลาฟดังถี่ขึ้นกับกับริมฝีปากที่เลื่อนขึ้นลงไปมาเร็วกว่าเดิมโอลาฟกำมือบีบมือปูที่นอนจนเกิดรอยยับด้วยความเสียวซ่านนนนไปทั่วกายบวกกับความสุขที่เกิดขึ้นกับใจยูโรยังคงตั้งหน้าดูดให้โอลาฟไม่ขาดช่วงแม้ว่ามันจะรู้สึกเจ็บหน่วงๆที่แผลแต่ด้วยความตั้งใจที่อยากจะมอบความรู้สึกดีๆให้กับคนที่มันรัก มันเลยไม่สนใจและตั้งหน้าใช้ปากดูดอมท่อนลำที่แข็งตัวแน่นจนเกือบเต็มอุ้งปากของมัน  “อื้มมมพี่ยูโรอื้มมมมเสียววววว”โอลาฟพยามอดทนและเยื้อความรู้สึกเสียวให้นานที่สุด จนกระทั่ง “อืออออื้อออ อ่าหหหหพี่”  โอลาฟกระตุกตัวสามทีพร้อมกับน้ำอุ่นๆพุ่งจากท่อนลำเข้าสู่อุ้งปากยูโร 4ครั้ง ยูโรมันนิ่งไปพักหนึ่งก่อนจะกลืนน้ำในปากลงคออย่างรวดเร็วก่อนจะลุกนั่งหันมามองโอลาฟพร้อมกับส่งยิ้ม “หวานแปล่มๆดีเนอะ”  โอลาฟได้แต่นอนแผ่หอบหายใจไปมาครู่หนึ่งจนมันชันตัวลุกขึ้น “ผมกำลังจะบอกพี่เลยว่า อย่ากลืนมันเลย”  “ไมอะน้อง ไม่ชอบเหรอ”  “ป่าวพี่....แต่....เห็นพี่กลืนของผมแล้วมันไงไม่รู้อะ”   “ไม่เห็นเป็นไรเลย....ทีน้องยังกลืนของพี่ได้พี่เองก็ต้องกลืนของน้องได้ดิ...เป็นแฟนกันเรื่องแค่นี้ทำไมได้ก็ไม่ผ่านแล้ว”  โอลาฟมันได้แต่ยิ้มหน้าแดงจนมันจนหลบหน้าหันไปทางอื่นแปปหนึ่ง  “พี่งะ รู้ไรก็ไม่รู้”  โอลาฟเหลือบไปเห็นเป้ากางเกงยูโรที่ตุงโด่นูนขึ้นมันเลยดึงกางเกงขึ้นมาสวมกลับก่อนที่มันจะลงไปนั่งคุกเข่าอยู่ตรงหว่างขายูโรพร้อมกับใช้มือจับไปยังท่อนลำ“งั้นตาผมมั่ง เดี๋ยวจะโดนว่าเอาเปรียบ”  ยูโรได้แต่ยิ้มและเอามือยีๆหัวโอลาฟไปมา ส่วนโอลาฟมามองไปยังเป้ากางเกงตรงหน้าก่อนจะจับมันงัดออกมาชมโลกภายนอกซึ่งทันทีที่มันหลุดจากกาเกงในท่อนลำของยูโรแข็งดีดตัวตั้งตรงตระหง่านต่อหน้าตา โอลาฟจ้องมองแล้วเอามือขวาจับและรูดขึ้นลงก่อนจะก้มหัวลงไปเลียหัวบานๆตรงหน้าอย่างไม่ลังเลลิ้นโอลาฟลากจากปลายหัวไปตามเส้นสองสลึงค์ และแยงแลกเลียไปมาตามเงี่ยงและเลียวนคว้านไปซ้ายทีขวาทีวนๆซ้ำไปมา ทำเอายูโรถึงกับลุกลุกซู่ๆเป็นช่วงๆ จนสักพักปากของมันอ้าและครอบลงไปยังหัวและก้มอมลงไปสุดโคนก่อนรูดย้อนกลับขึ้นมาด้วยแรงดูดหน่วงๆซ้ำๆ ท่อนลำยูโรพองขยายตัวจนหัวบานคับตึงแน่นเต็มอุ้งปาก “ซี๊ดดดดเสียวมากเลยครับคนดีของพี่ อ่าหหหห…..แบบนั้นแหละอื้มมมม..ดูดแบบนั้นเลยน้องอ่าหหหหซีดดดดด” โอลาฟเร่งจังหวะพร้อมขยับหัวขึ้นลงเร็วขึ้น ยูโรกัดฟันด้วยความเสียวววพร้อมกับก้มมองโอลาฟที่ก้มดูดขึ้นลงอยู่ตรงเบื้องล่างเป็นครั้งคราจ๊วบๆๆๆ “อื้มมมมอ่าหหหหห ซีดดดดด อ่าหหหหห เสียวจริงๆอาหหหหห ซีดดดด อื้มมม” ยูโรครางจนเสียงดังกังวาน “อื้มมมมม ซี้ดดดดด โอลาฟ.....ซีดดดดด” ความเสียวที่พุ่งตัวมาเป็นระลอกๆทำเอายูโรแกร็งตัวแขน และขา จนโอลาฟที่ดูดอมอยู่นั้นเห็นเส้นเลือดที่ปูดขึ้นจากขาขึ้นไปยังท้องน้อยแต่ทันใดนั้น มือของยูโรพุ่งมาจับหัวโอลาฟที่กำลังผงกขึ้นลงอย่าวรวดเร็วทำเอาโอลาฟถึงกับแปลกใจจนต้องคายปากออก “ยังไม่เสร็จเลยพี่ยูโรหยุดไมอะ”  ยูโรหอบหายใจครู่หนึ่งก่อนจะเอามือแตะยังปลายคางให้เงยขึ้นมองหน้า “มันก็จะเสร็จนั่นแหละ ถึงได้หยุดไว้ก่อน แต่พี่อยากจะให้เข้าไปในตัวของน้องด้วยขอพี่เสร็จในตัวของน้องได้ปะ” โอลาฟพยักหน้าและขึ้นไปนอนหงายที่เตียงอย่างรู้งานมันก้มมองท่อนลำของยูโรที่ผงกงึกๆ ส่อให้เห็นว่ายูโรนั้นคงมีอารมณ์แบบสุดๆยูโรหยิบเอาอะไรบางอย่างลื่นๆขึ้นมาทาท่อนลำมันจนชุ่มก่อนจะเดินไปหาโอลาฟที่นอนอยู่ ยูโรดึงกางเกงโอลาฟลงพร้อมเอามือจับขาทั้งสองให้กางออกก่อนจะเอาท่อนหัวจ่อและดันหัวให้ค่อยจมหายเข้าไป  ซึ่งทันทีที่หัวท่อนลำถูกสอดเข้ามาภายในความรู้สึกแรกที่โอลาฟรับรู้ได้คือความปวดและแสบจนต้องกัดฟันอาจเป็นเพราะความบอบชำเดิมที่มันโดนไปเมื่อครั้งนั้นยังคงไม่หายดีแต่กระนั้นมันยังคงอดทนและไม่ปริปากร้องออกมาให้ยูโรได้ยินแต่อย่างใด ยูโรที่เห็นสีหน้าโอลาฟไม่ค่อยสู้ดีมันเลยหยุดเลยเอ่ยปากถาม “โอลาฟไหวป่าว” “มะ มะเปนไรพี่ยูโรต่อเลยครับ” “แน่ใจนะ”  “ครับพี่ ต่อเลยต่อเลย” ยูโรเลยกดท่อนลำดันเข้าต่อจนมิดลำและแช่ค้างไว้พักหนึ่งก่อนจะเลื่อนกลับมาดันย้อนเข้าไปต่อและเริ่มขยับสะโพกเอาออกเบาๆโอลาฟยังคงกัดฟันด้วยความปวดและแสบเช่นเดิม “อื้มมม โอลาฟไม่ไหวบอกพี่นะ”ยูโรยังคงซอยเข้าออกช้าๆและดูสีหน้าโอลาฟไปพลางด้วยความห่วงปนความอยากไม่นานนักความรู้สึกปวดและแสบนั้นค่อยๆลดลงและแทนที่ด้วยความรู้สึกดีและเสียว “อื้อออ พี่ยูโร ทำเร็วๆก็ได้ครับ ผมไม่เจ็บหรอก อืออออ” ทันทีที่โอลาฟพูดจบจังหวะการซอยเริ่มค่อยๆเพิ่มถึงหวะถี่ขึ้นจนท้องน้องที่กระทบกับก้นเนียนนุ่มๆของมันเสียงดังปั๊บๆๆๆ “อื้มมมมก้นของน้องมาบีบตัวรีดของพี่ดีจริงเลยซีดดดดดด อืมมมมม ซี้ดดดด เสียวววววโครตๆ พี่ขอเร็วขึ้นอีกนิดนะ อื้มมมม อ่าหหหอ่าหหหห” ปั๊บๆๆๆๆๆๆ มือทั้งสองยูโรจับขาโอลาฟทั้งสองไว้แน่น“อ่าหหห พี่ยูโร อาหหห ผมก็เสียวเหมือนกันพี่ อ่าหหหหหโอลาฟขมิบรูดก้นรับท่อนลำใหญ่ๆที่สอดเข้าออกไปมาอย่างไม่หยุดหย่อน ปั๊บๆๆๆๆ แรงซอยที่รุนแรงทำเอาตัวของโอลาฟที่นอนๆอยู่ถูกเขย่าเหมือนขวดน้ำ“อื้ออออะอะอืออออ รุนแรงจุงนะอือออ พี่อะ อืออออะอะ”  “อื้มมมก็มันแน่นดีนิ อื้มมมซีดดดดดด  พี่รักน้องนะ ซีดดดด อ่าหหหหหหห”  “ผมก็เหมือนกัน อื้อออออออ” เสียงครางของทั้งสองดังแข่งกันสลับขึ้นเป็นช่วงๆจนเนื้อตัวของทั้งสองเริ่มชุ่มไปด้วยเหงื่อ แม้ว่าแอร์ในห้องนอนถูกเปิดเย็น  เนื้อตัวยูโรค่อยเกร็งขึ้นอีกครั้งโอลาฟเองก็สัมผัสได้ถึงแรงบีบของมือที่จับยังบริเวณต้นขาทั้งสองและแล้วน้ำอุ่นๆได้พวยพุ่งเข้าไปยังภายในโอลาฟหลายต่อหลายทียูโรกดท่อนลำแช่ค้างไว้จนมิดลำ น้ำอุ่นยังไงพุ่งสู่ภายในไม่ลดละ ทำโอลาฟนึกใจใน “นี่แสดงว่าที่ผ่านมาพี่ยูโรเก็บน้ำไว้ให้เราคนเดียวเลยเหรอ น้ำเยอะกว่าทุกครั้งจริงๆ”  หัวท่อนลำที่อยู่ภายในมันร้อนและเต้นตุบๆยูโรแช่ค้างไว้และก้มลงไปคร่อมตัวโอลาฟพร้อมปากกบริมฝีปากลง ทั้งสองแลกลิ้นกันไปมาจนโอลาฟสัมผัสถึงท่อนลำที่เสียบคาอยู่เริ่มขยับเข้าออกอีกครั้ง  เสียงครางทั้งสองในตอนแรกเปลี่ยนกลายเป็นเสียงลมหายใจของทั้งสองที่ยังคงแลกลื้นกันแทรกกับเสียงท้องน้อยที่กระทบก้นอ่อนปั๊บ ปั๊บ ปั๊บ ช้าๆ ไม่นานนักยูโรถอนปากออกมา “ไงรู้สึกดีไหมโอลาฟคนพี่”  “ครับ ดีสุดๆไปเลยครับ” “อื้มมมดีเลยยยย อื้มมมมม” แต่ทันใดสายตาโอลาฟดันไปเห็นเลือดยูโรที่ซึมติดกับเสื้อบริเวณหน้าอกจนโอลาฟต้องเอามือจับสะโพกยูโรที่ขยับเข้าออก ณ เบื้องล่างให้หยุดทันที “พี่ยูโรเดี๋ยว!!! เลือด!!! มีรอยเลือดติดอยู่ตรงเสื้อที่หน้าอก!”  ยูโรรีบก้มมอง  ทันทีเห็นรอบเลือดชุ่มๆที่ติดกับเสื้อมันเลยหยุดและดันตัวออกมาอยู่ในท่านั่งจนโอลาฟลุกขึ้นมาดูตาม ยูโรถอดเสื้อที่สวมอยู่ออกเผยให้เห็นผ้าก็อชที่แปะอยู่ราวนมชุ่มไปด้วยเลือดที่ซึมออกมา“พี่ยูโร เป็นไรมากไหมอะ เลือดมัน…”  ยูโรยิ้มแต่เอามือไปจับหัวโอลาฟและเขย่าเบาๆ “ไม่มีไรหรอก ตะกี้พี่คงเกร็งตัวเยอะไปนิด  เลือดมันเลยซึม  งั้นเดี๋ยวพี่ขอตัวเข้าห้องน้ำไปดูแผลกับเปลี่ยนผ้าก็อชแปป”  “จริงๆนะพี่ ไม่เป็นไรมากจริงนะ”   “จริงน้อง โถ่ถถไม่เป็นไรมากครับ แปปเดียวเลือดก็หยุดแล้ววว รอพี่แปปนะ”  ยูโรสวมกางเกงและเดินเข้าห้องน้ำทิ้งให้โอลาฟนั่งมองตามหลังด้วยความเป็นห่วงซึ่งในขณะที่มันนั่งรออยู่นั้นโทรศัพท์ยูโรที่ปิดเสียงไว้ได้สั่นขึ้นต่อเนื่องทีแรกโอลาฟไม่ได้สนใจแต่พอมันสั่นถี่ๆขึ้นโอลาฟเลยหันไปหยิบเอามากดปลดล็อกเพื่อดูว่าคืออะไร มันเห็นไลน์ของชายคนหนึ่งที่ส่งข้อความและภาพมาเป็นจำนวนมากโอลาฟรีบกดเข้าไปดูแชทดังกล่าว ซึ่งในเนื้อหาแชทที่โอลาฟเลื่อนๆอ่านนั้นเป็นการมอบหมายให้ชายคนที่ว่าไปสืบเสาะหาต้นตอที่มาของคลิปอื้อฉาวว่าใครเป็นคนปล่อยและใครอยู่เบื้องหลังของเรื่องทั้งหมดนี้ โดยข้อมูลที่ชายคนดังกล่าวส่งมานั้นเป็นภาพแคบหน้าจออีเมล์หนึ่งที่เป็นคนส่งคลิปดังกล่าวไปยังเว็บเกย์พอโอลาฟดูอีเมล์ดังกล่าวดีๆมันถึงกับตกใจจนต้องขยี้ตาหลายต่อหลายครั้งว่ามันมองผิดไปหรือเปล่าเพราะอีเมล์คนที่ปล่อยคลิปเป็นอีเมล์ของเจมส์เพื่อนในก๊กมันถึงกระทั่งเพื่อความมั่นใจมันยังเอาโทรมากดดูอีเมล์เจมส์ที่เคยบันทึกไว้และเอามาเทียบกับภาพที่ชายคนดังกล่าวส่งมาและใช่อันเดียวกันหรือเปล่าและเมื่อทุกอย่างตรงกันโอลาฟถึงกับตัวชาวาบ หัวอื้อไม่รู้จะยังไง มันเลยตั้งสติและเอาโทรศัพท์มันถ่ายรูปไว้ก่อนจะเอาโทรศัพท์ยูโรวางไว้ที่เดิมไม่นานนักยูโรเดินออกจากห้องน้ำมันเห็นโอลาฟนั่งทำหน้าเศร้า หง๋อยๆ “โอลาฟ เป็นไรรึป่าว” โอลาฟถึงกับสะดุ้งเสียงยูโร “ป่าวพี่ ไม่มีไรครับ”  “น้องงง มีไรบอกพี่ตรงๆดิ ถ้าพี่ทำไรให้น้องไม่สบายใจตรงไหน บอกพี่ได้”  โอลาฟยิ้มและส่ายหน้า “ไม่มีไรจริงๆพี่ ผมแค่นึกไรไปเรื่อยน่ะ”
                 หลังแยกตัวจากยูโรมาสักพักโอลาฟไม่รอช้ามันขับรถไปยังบ้านเจมส์ทันทีซึ่งเมื่อไปถึงเจมส์ที่เดินหิ้วถุงขยะมาทิ้งหน้าบ้านถึงกับยืนมองโอลาฟขับมอไซค์มาจอดตรงหน้าอย่างรวดเร็วด้วยความประหลาดใจ“โอลาฟ? มีไรอะมาหาซะมืดค่ำ  เอ่อเข้ามาก่อนดิ พ่อกับแม่กูเพิ่งออกไปรับพี่เจนพอดี”  โอลาฟไม่ตอบได้แต่เดินตรงเข้ามาจับไหล่ขวาเจมส์และดันติดประตูบ้านดังตึงงงงจนเจมส์อุทานขึ้น “เอ๊ยยยย โอลาฟไรของมึงอะ”  “เจมส์ทำงี้ไหมวะ มึงเป็นเพื่อนที่กูไว้ใจนะ”เจมส์ยิ้มและทำหน้างงไปครู่หนึ่ง “โอลาฟเล่นไรเนี่ยยยดันกูซะแรงเชียวเจ็บนะเว้ยมึง” โอลาฟชักสีหน้าด้วยความไม่พอใจใบหน้าของมันแดงกล่ำพร้อมกับน้ำตาที่คลอเบ้าเจมส์ที่เห็นเช่นนั้นมันรู้ทันทีว่าโอลาฟไม่ได้พูดเล่น “โอลาฟ!มึงมีไรมึงพูดตรงกับกูเลยมะ” โอลาฟผละตัวจากเจมส์พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงดุดัน “ได้!!!  กูให้โอกาสมึงพูดความจริงอีกรอบ....มึงทำงี้กับกูได้ไง”  “แล้วมันเรื่องอะไรล่ะโอลาฟกูไปทำไรให้มึง”  “กูสงสัยตั้งแต่ทีแรกล่ะเรื่องความสัมพันธ์กูกับพี่ยูโร มีแค่มึงกับกูเท่านั้นที่รู้กันสองคน แต่มันรั่วออกไปได้ไง”  “โอลาฟถ้าเรื่องนั้นไม่ใช่กูนะเว้ย  ความลับของมึงในหลายๆเรื่องกูเก็บเงียบมาตลอดขนาดอีดิว อีแคทกูยังไม่เคยเล่าให้มันฟังเลยมึงคิดดูดิกูจะทำแบบนั้นกับมึงไปเพื่ออะไรวะ”  โอลาฟเงียบก่อนจะหยิบเอาโทรศัพท์กดเปิดรูปที่มันถ่ายจากเครื่องของยูโรให้เจมส์ดู “นี่อีเมล์มึงใช่ปะ แอคเคาท์นี้เป็นแอคเคาท์เดียวกันที่ส่งคลิปกูกับพี่ยูโรไปยังคนๆหนึ่งที่เป็นคนอัพคลิปลงเว็บ” เจมส์กดถ่างดูรูปดังกล่าวไปมาด้วยความงุนงงและตกใจทันทีที่เห็นอีเมล์ของตัวมันเอง”   “มึงอธิบายมาดิ  อธิบายมา เงียบทำวะ” โอลาฟเดินเข้ามาผลักเจมส์เบาๆ  “กูไม่รู้โอลาฟถึงมันจะเป็นอีเมล์กูก็จริงแต่กูไม่ได้เป็นคนส่งนะเว้ย มึงเชื่อกูดิ”  “ถ้าไม่ใช่มึง แล้วจะเป็นใครได้นอกจากมึงแล้วยังมีคนอื่นอีกเหรอที่เข้าเมล์มึงได้ มึงลองดูเวลาวันที่ส่งมันเป็นเวลาที่เรียนคาบคอมพอดีด้วย มึงทำแบบนี้กับกูทำไมวะ มึงไม่รู้เหรอว่ากูกับพี่ยูโรต้องโดนไรมั่ง”  เจมส์เดินเข้าไปจับไหล่โอลาฟไว้ทั้งสอง“โอลาฟฟังกูดิ  กูไม่ได้ทำนะมึงเป็นเพื่อนรักกู กูจะทำมึงทำไม  แล้วเรื่องอีเมล์เนี่ยบางทีมันอาจมีคนแฮกเข้าไปใช้ก็ได้” “แล้วทำไมต้องเป็นอีเมล์มึงมันไม่ประจวบเหมาะกับช่วงก่อนที่กูจะโดนอุ้มเหรอหรือมึงจะบอกว่ามึงมีส่วนรู้เห็นกับเรื่องนี้” เจมส์เริ่มน้ำตาไหลอาบ “โอลาฟกูไม่ได้ทำนะ ทำไมมึงถึงไม่เชื่อคำพูดกูเลยล่ะ ที่ผ่านมากูเคยทำเรื่องเหี้ยๆให้มึงต้องเจ็บใจด้วยเหรอ”  โอลาฟยกแขนเสื้อปาดน้ำตาบนใบหน้า “พูดถึงเรื่องเหี้ยๆ ในคืนงาน SAE รร.ที่มึงมานอนข้างบ้านกู  มึงกับพี่ลีฟเย็ดกันในห้องใช่ปะกูน่ะยืนกัดฟันฟังมึงกับพี่ลีฟเย็ดกันอยู่ข้างห้อง  มึงก็รู้แก่ใจดีว่าพี่ลีฟเป็นพี่ชายกูแต่มึงก็ยังทำตอนนี้กูชักเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าตลอดที่ผ่านมากูไว้ใจมึงได้จริงๆหรือป่าว”  เจมส์ถึงกับยืนอึ้งตัวสั่นกับสิ่งที่โอลาฟพูดออกมาโอลาฟหยิบเอาโทรศัพท์จากมึงเจมส์และเดินไปยังมอเตอร์ไซค์ เจมส์รีบเดินตามเข้ามาขับแขนเสื้อโอลาฟ “โอลาฟกูขอโทษมึงเรื่องพี่ลีฟ กูอธิบายเรื่องนั้นได้แต่สิ่งกูบอกมึงได้ว่ามึงไว้ใจกูได้จริงๆและกูก็ไม่ได้มีส่วนรู้เห็นอะไรกับเรื่องคลิปมึงกับพี่ยูโรเลย กูสาบานให้ตายเลยอะว่ากูไม่ได้เป็นคนส่งคลิปนั่น”  โอลาฟสะบัดแขนเจมส์ออก “หยุดดดมึงไม่ต้องพูดตอนนี้กูไม่เชื่อใจมึงอีกแล้ว บางทีตอนนี้มึงอาจจะสะใจอยู่ก็ได้”  เจมส์ถึงกับร้องไห้ขึ้นมา “โอลาฟกูไม่ได้คิดงั้นเลยนะเดี๋ยววววว มึงงงงคุยกับกูก่อน” โอลาฟได้แต่ส่ายหน้าและขับมอเตอร์ออกไปทั้งน้ำตาทิ้งให้เจมส์ยืนตะโกนเรียกตามหลังมาทั้งแบบนั้น โอลาฟขับมาจอดยังสวนสุขภาพที่มีศาลาปูนสำหรับนั่งพักผ่อนอยู่เป็นจุดๆโอลาฟลงรถและเดินทอดน่องไปนั่งฟุบหน้ายังศาลาดังกล่าวได้ครู่หนึ่งจู่ๆมันได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาโอลาฟรีบเช็ดน้ำตาและหันไปมองทันทีทันที “โอลาฟ?”  “พี่เฟิร์ส?” ทั้งสองต่างจ้องมองกันด้วยความตกใจ “โอเคป่าวน้องให้พี่นั่งเป็นเพื่อนไหม”  “เอิ่มป่าวครับพี่เฟิร์สไม่มีไร” “จะไม่มีไรได้ไง ตาแดงซะขนาดนั้นไปโดนใครทำไรมา”  “ช่างมันเหอะพี่เฟิร์สผมไม่อยากพูดถึงมันล่ะ  แล้วพี่เฟิร์สมาทำไรแถวนี้อะ” โอลาฟพูดด้วยน้ำเสียงอายๆ “โถ่เสื้อยืดแขนสั้น กางเกงบอล รองเท้าผ้าใบแบบนี้พี่คงมาเดินชอปปิ้งมั้งน้อง.......มืดค่ำแบบนี้พี่ว่าน้องไม่ควรมาอยู่แถวนี้คนเดียวนะมันอันตราย…นี่ถ้าพี่ไม่มาวิ่งและเจอน้องแบบนี้เกิดมีอะไรขึ้นมาจะลำบากเอานะ”  “นั่นดิครับ งั้นผมขอตัวนะครับ”   “เดี๋ยวโอลาฟ  จะรีบไปไหนน่ะน้องอยู่คุยกันก่อนดิ”  “พี่เฟิร์สอยากคุยกับผมเหรอ?”  “ก็ใช่อะดิพูดแปลกๆ.....พี่เสียใจนะน้องกับเรื่องที่เกิดขึ้น”  “ขอบคุณครับพี่เฟิร์ส”   “แล้วไอ้ยูโรล่ะน้องได้เจอมันป่าวตั้งแต่ที่รร.ตอนเช้า ตอนนี้พวกพี่ยังติดต่อมันไม่ได้เลย”   “พี่ยูโรสบายดีครับพี่เฟิร์สไม่ต้องห่วงหรอก สักพักเดี๋ยวพวกพี่ก็ติดต่อกันได้เอง”  “ไอ้ยูโรมันเป็นคนจริงใจนะน้องไม่ต้องกลัวเรื่องที่มันจะนอกใจได้เลย แถมมันยังเป็นคนเทคแคร์คนเก่งด้วย จริงๆก่อนหน้านั้นพี่เองก็สังเกตุมาพักแล้วแหละว่าไอ้ยูโรมันชอบน้องตั้งแต่ตอนที่น้องจมน้ำในสระตอนนั้น ดูมันแม่งกระวนกระวายที่สุด”   โอลาฟได้แต่ยิ้มอายๆ “พี่เฟิร์สรู้อะไรปะ จริงๆแล้วผมน่ะเคยชอบพี่มากนะครับที่ผมมาเข้าขมรมพี่ยูโรจนได้ไต่เต้ามาเป็นรองผู้ช่วยฝ่าย ก็เพราะอยากอยู่ใกล้ชิดพี่  พี่น่ะเป็นแรงบันดาลใจในหลายๆเรื่องที่ทำให้ชีวิตผมเปลี่ยนไปในทางดีขึ้น อย่างเรื่องของขวัญวันเกิดก็เหมือนกันที่ผมรู้ก็เพราะผมแอบสืบว่าพี่อยากได้อะไรเพียงเพราะอยากให้พี่รู้ว่าผมน่ะชอบพี่มาก”  เฟิร์สได้แต่นิ่งฟังก่อนจะเอื้อมมือจับไหล่โอลาฟเบาๆ “พี่น่ะรู้มาตลอดแหละว่าน้องอะชอบพี่  แต่ที่พี่นิ่งเฉยเพราะพี่ไม่อาจคิดกับโอลาฟได้มากกว่านั้นจริงๆ พี่ยังคงมองว่าโอลาฟเป็นรุ่นน้องที่ดีของพี่เสมอ พี่ขอโทษนะครับหากพี่เป็นส่วนหนึ่งทำให้น้องต้องมาเจอเรื่องไรแบบนี้”  “เรื่องทั้งหมดนี้ไม่ใช่ความผิดของพี่เฟิร์สหรอกครับแต่ถึงยังไงพี่เฟิร์สก็ยังคงหล่อและดูดีในสายตาผมเสมอ”  เฟิร์สยิ้มและหัวเราะเบาๆ “พี่เฟิร์ส ผมจะกลับแล้วนะครับ ก่อนกลับผมขอไรจากพี่อย่างได้ไหมอะ พี่ช่วยยืนนิดหนึ่ง”  เฟิร์สทำหน้างงและลุกยืนตามคำขอ “จะขอไรพี่เหรอ?”  โอลาฟไม่พูดได้แต่โน้มตัวไปกอดเฟิร์สจนใบหน้าไปแนบชิดกับหน้าท้องเฟิร์สตกใจนิดๆแต่ก็ไม่ขัดขืนหรือปริปากพูดอะไร “จริงๆผมอยากกอดพี่แบบนี้มานานแล้ว”  โอลาฟกอดและสูดกลิ่นกายเฟิร์สเข้าสู่จมูกหลายต่อหลายทีแลนึกในใจ “กลิ่นตัวพี่เฟิร์สนี่มันช่วงน่าเย้ายวนดีเนาะ นี่สินะที่เขาว่ากลิ่นตัวของคนแอบชอบมันจะหอมเร้าใจเป็นพิเศษ” โอลาฟยังคงกอดแนบชิดก่อนจะเลื่อนใบหน้าลงไปท้องน้อยและไหลลงไปยังเป้ากาเกงจมูกมันสัมผัสถึงกลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่มที่ผสมกับกลิ่นอับภายในลอยโชยเข้ามาจนเฟิร์สที่รู้สึกถึงลมหายใจจากรูจมูกโอลาฟพัดผ่านเนื้อผ้ากางเกงเข้าไปภายในมันรีบเอามือจับแขนทั้งสองโอลาฟและดันออก “น้องๆ!แค่นี้ดีกว่าครับเดี๋ยวจะเกินเลย”   โอลาฟแหงนมองเฟิร์สและยิ้มเขินยกใหญ่แม้นว่าความคิดในหัวมันจะบอกให้มันลองรุกคืบมากกว่านั้นแต่ก็มีสิ่งหนึ่งตระหนักแก่ใจของมันว่าถ้าทำแล้วเฟิร์สไม่เล่นด้วยบางทีการลาจากกันในครั้งนี้อาจจบไม่สวยงามมันเลยได้แต่ปลงใจโอลาฟลุกยืน  “ขอบคุณนะพี่เฟิร์ส”  โอลาฟยิ้มและยกมือไหว้แล้วเดินไปยังรถ
               และแล้วก็ถึงวันที่จะต้องออกเดินทางโอลาฟช่วยแม่และพ่อหิ้วของต่างๆพะรุงพะรังจากบ้านมาใส่ยังหลังรถ “โอเคของครบแล้วนะ ไม่มีอะไรตกค้างแล้วใช่ไหม” “ไม่มีแล้วแม่ปุ้ย ของจำเป็นที่พ่อบอกให้เตรียมไว้ก็เอาลงมาครบหมดแล้วที่เหลือค่อยไปหาซื้อที่โน่นเอา”   แม่ปุ้ยพยักหน้าและเดินปลีกตัวไปคุยกับพ่อยังหน้ารถทิ้งให้โอลาฟยืนจัดกระเป๋าและกล่องของใช้ต่างๆที่วางตั้งซ้อนอยู่เต็มท้ายรถให้เข้าที่เข้าทางและทันใดนั้นก็มีมือพี่ชายมันมากอดเข้าที่คอ “มึงไปอยู่ที่โน่นแล้วกูคงเหงาแย่เลยว่ะ”   โอลาฟหันมองด้วยความสงสัย “จริงเหรอไอ้พี่ลีฟ มึงเหงาคิดถึงหรือเหงาเพราะไม่มีคนให้แกล้งกันแน่”  ลีฟใช้มือตบหัวโอลาฟเบาๆ “ก็ทั้งสองนั่นแหละ” โอลาฟที่โดนตบหัวถึงกับวิ่งตามไปถีบจนแม่ปุ้ยที่ยืนคุยกับพ่อหน้ารถต้องหันมาต่อว่า “อ้าวๆๆ สองคนนั่น ยังจะเล่นกันเป็นเด็กๆไปได้…..ลีฟแกแน่ใจนะว่าจะไม่ไปส่งน้องน่ะ”   “โถ่แม่ถ้าไม่ติดวันนี้ฝึกงานเต็มตัววันแรก ผมไม่พลาดหรอก”  “เออๆ แกก็ขับรถดีๆล่ะลีฟ  โอลาฟมาขึ้นรถเลย พ่อกับแม่จะไปแล้ว”  ลีฟหันมามองโอลาฟและยักคิ้วใส่ “แล้วเจอกันไอ้ตัวแสบ ไว้ฝึกงานจบกูจะตามไปแกล้งมึงต่อถึงที่โน่น”  โอลาฟไม่พูดได้แต่เบ้หน้าใส่พี่ชายก่อนจะเดินขึ้นรถ   รถยนต์ที่โอลาฟนั่งค่อยๆขับออกจากหมู่บ้านเข้าสู่ถนนหลักและวิ่งไปตามทางซึ่งในระหว่างนั้นโอลาฟหยิบเอาโทรศัพท์ของมันขึ้นมากดดูซึ่งหน้าจอหลักก็มีแต่ข้อความปกติ ข้อความแชท เบอร์ที่ไม่ได้รับสายและไลน์ของเจมส์ส่งมาอธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้นเด้งแจ้งเตือนเป็นจำนวนมากโอลาฟไม่สนใจได้แต่ปัดทิ้งมันเลยกดเข้าดูเฟสซึ่งก็มีข่าวสารจากเพจต่างๆที่มันติดตาม มันเลยเลื่อนๆอ่านดูทีทั้งข่าวสุขภาพ ข่าวทั่วไป ข่าวประกาศผลการแข่งขันภาพถ่ายจากชมรมคนรักภาพ  ข่าวอุบัติเหตุของนักเรียนมอปลายหญิงกลุ่มหนึ่งที่ไปเที่ยวผับและประสบอุบัติเหตุจนได้รับบาดเจ็บสาหัส  ข่าวผลโหวตของเฟิร์สที่ได้ตำแหน่งนักเรียนชายที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโรงเรียนและก็ข่าวเรื่องคลิปยูโรและโอลาฟ โอลาฟเลื่อนดูเฟสจนเป็นที่อิ่มใจก่อนจะกดลบบัญชีนี้ทิ้งอย่างถาวรมันถอนหายใจยาวก่อนจะกดปิดเครื่องและหันไปมองวิวข้างทางแทน จนพ่อโอลาฟเลี้ยวรถเข้าปั้มไปจอดหน้าห้องน้ำ “โอลาฟซัง ปุ้ย พี่จะไปเซเว่นสองคนจะฝากซื้ออะไรไหม”   “ขอกาแฟดำแก้วหนึ่งพี่โอลาฟล่ะเอาไรไหมหรือจะไปซื้อกับพ่อ” “ไม่อะแม่ผมไม่หิว ผมว่าลงไปเดินเล่นข้างล่างอะครับ”  “ดีเลย แม่ก็จะลงไปเข้าห้องน้ำพอดี  จะไม่ได้ต้องติดเครื่องทิ้งไว้” หลังพ่อแม่แยกตัวไปโอลาฟลงรถและเดินเล่นแถวนั้นไปมาด้วยความหว้าเหว่จนมันเดินไปนั่งยังม้าหินอ่อนของร้านกาแฟอะเมซอนแต่ทันใดนั้นมันก็ต้องประหลาดใจเมื่อชายคนหนึ่งเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้า “พี่ยูโร!  พี่ยูโรมาได้ไงอะครับ”อยู่ยิ้มและถอดเสื้อโค้ทแขนยาวสีดำออก “พี่ก็มาส่งโอลาฟไง”  โอลาฟลุกยืนและปรี่ตัวเข้าไปกอดยูโร “พี่ยูโรรร พี่ขับมอเตอร์ไซค์มาไกลแบบนี้มันอันตรายนะ”  “ถึงยังไงพี่ก็ต้องมาส่งโอลาฟให้ได้.....อะนั่งก่อนเวลาไม่คอยท่า พี่มีไรจะให้โอลาฟ”  “ไรอะครับ” โอลาฟนั่งและมองยูโรล้วงเอากล่องกระดาษแข็งวงกลมเป็นมันวาวมาวางบนมือโอลาฟทำเอาโอลาฟหันไปมองหน้ายูโรด้วยความสงสัย  “คือไรอะพี่ยูโร”  “อยากรู้ก็ต้องเปิดดู”  โอลาฟค่อยๆใช้นิ้วง้างเปิดกล่องดังกล่าวจนมันเจอเข้ากับสร้อยคอใบโคลเวอร์4 แฉกสีเขียวอมฟ้าอ่อนสะท้อนแสงนวลๆ บรรจุอยู่ด้านใน  “พี่ยูโรนี่มัน…..”  “ใช่น้อง สร้อยที่น้องอยากได้ไงจำได้ไหมตอนนั้นนน ที่พี่บอกว่าจะซื้อให้โอลาฟ”  โอลาฟยิ้มจนหน้าแดงพร้อมหยิบเอาสร้อยดังกล่าวขึ้นมาส่องเล่นกับแสงไปมา“จำได้ดิครับ”   “จริงๆของเพิ่งมาถึงเมื่อวานแต่พี่ก็ไม่รู้จะเอาไปให้โอลาฟยังไงโทรไปก็ไม่ติด แถมทักแชททักไลน์ก็ไม่ตอบจะเอาเข้าไปให้ที่บ้านพี่ก็กลัวจะมีปัญหา เนี่ยดีนะที่พี่ขับรถตามมาทันไม่งั้นมีหวังคงต้องรอพี่เอาไปให้ถึงที่โน่นแน่ๆ”  “พี่รู้ป่าวจริงๆผมก็อยากได้มานานแล้วแหละครับแต่เวลาจะสั่งซื้อทีไรของหมดทุกที......แต่จำไม่ผิดพี่ว่าจะซื้อมาสองเส้นนิครับ อีกเส้นอยู่ที่พี่เหรอ”  ยูโรส่ายหัว “ทีแรกพี่ก็สั่งมาสองเส้นนะ แต่ร้านบอกว่าเหลือแค่เส้นเดียวพี่ก็เลยแก้ปัญหาเกือบทั้งคืน”  “ยังไงอะพี่” ยูโรเอื้อมมือไปหยิบสร้อยจากโอลาฟมา “โอลาฟเห็นรอยประตรงกลางใบโคลเวอร์นี่ปะ”  “เห็นครับ!!”  ยูโรไม่รอช้าใช้มือหักตรงกลางรอยประจนตัวใบโคลเวอร์4 แฉกถูกแบ่งออกอย่างละครึ่ง “ทีนี้ก็เท่ากับว่าเรามีสร้อยกันคนละส่วนแล้วครึ่งของพี่เดี๋ยวพี่จะไปเจาะทำสร้อยคล้องคอ ส่วนอันที่มีสร้อยคล้องอยู่แล้วนี้พี่จะให้น้องเก็บไว้……จากนี้ไปใบโคลเวอร์ 2 แฉกนี้จะเป็นเครื่องเตือนใจว่าเราสองคนยังมีกันและกัน.....และเมื่อไหร่ก็ตามที่สายสัมพันธ์ของพี่กับน้องยังไม่ลืมเลือนใบโคลเวอร์ 2 แฉกที่แยกจากกันครั้งนี้จะกลับมารวมเป็น 4 แฉกอีกครั้ง”  “ครับพี่ ผมรับปากว่าจะสวมมันติดตัวไว้ตลอดจนกว่ามันจะกลับเป็นรวมเป็น 4 แฉกอีกครั้งขอบคุณนะพี่ยูโรที่ทำให้ผมได้เรียนรู้ว่าความสวยงามของความรักที่แท้เป็นควรเป็นยังไง”  “พี่ก็เช่นกันโอลาฟเป็นคนแรกเลยนะที่พี่ยอมเปิดใจให้จนหมด พี่รักโอลาฟนะ”  ทั้งสองกอดกันแน่นพร้อมต่างฝ่ายหลั่งน้ำตาด้วยความปิติห่วงหาก่อนที่ยูโรจะจูบโอลาฟไป 1 ทีในใจโอลาฟอยากจะให้ทุกอย่างย้อนกลับไปเป็นวันแห่งความสุขดั่งครั้งที่มันได้ใช้เวลาอยู่กับยูโรและผองเพื่อนทั้งเสียงหัวเราะ ภาพความทรงจำและบทเพลง ยังคงปรากฏแจ่มชัดอยู่ในความคิดอย่างไม่รู้จบ จนทั้งสองต้องผละตัวออกทันทีที่ได้ยินเสียงเรียกของแม่ปุ้ยดังมาแต่ไกล“ผมต้องไปแล้วนะพี่ยูโร เฟส และไลน์อันเก่าผมจะยกเลิกไม่ใช้แล้วนะ อะนี่เป็นเบอร์ที่ผมใช้ที่ญี่ปุ่นผมจะเอาสมัครไลน์ใหม่ พี่อย่าลืมรับแอดผมด้วยนะ”  โอลาฟยื่นกระดาษโน๊ตใส่มือยูโรพร้อมสวมกอดยูโรอีกครั้งและเดินออกไป  จนรถยนต์โอลาฟที่จอดนิ่งๆอยู่ค่อยๆขับเลื่อนตัวออกจากปั้มไปมันก้มหยิบตัวสร้อยที่สวมขึ้นมาดูก่อนจะพลิกตัวหันไปมองกระจกหลังสายตาของมันยังคงเห็นยูโรที่ยืนมองตามหลังจนภาพทุกอย่างค่อยๆเคลื่อนห่างจนลับตาไป   สวัสดีผมชื่อโอลาฟ และนี่ก็เป็นเรื่องราวชีวิตวัยมัธยมต้นของผมที่พานพบเรื่องราวต่างๆมาให้เล่าสู่กันฟัง  จากนี้ไม่รู้ว่าชีวิตในการเริ่มต้นที่ญี่ปุ่นของผมจะเป็นเช่นไร แต่มีสิ่งหนึ่งที่จะคอยย้ำเตือนอยู่กับตัวผมเสมอนั่นคือ  ไม่ว่าจะห่างไกลแค่ไหน ผมจะไม่รู้สึกโดดเดี่ยวตัวคนเดียวเหมือนที่ผ่านมาอีกแล้วผมรักพี่ยูโร ผมรักผองเพื่อนที่ผมไว้ใจและเคยไว้ใจ ผมรักคนที่ผมแอบปลื้มผมรักช่วงเวลาดีๆที่ผ่านเลยไป แลทายที่สุดตัวผมต้องเรียนรู้ที่จะเข็มแข็งและเติบโตไปข้างหน้าด้วยตนเอง
               เริ่มต้นปีการศึกษาใหม่ของชาวเขียว- ส้ม เรื่องราวที่เคยอื้อฉาวเริ่มจางหายไปจากผู้คนและถูกแทนที่ด้วยเรื่องราวใหม่ที่ตื่นเต้นและเร้าใจ  แต่นั่นก็ไม่ใช่กับทุกคนที่จะลืมบางเรื่องแย่ๆลงได้ “เจมส์แกมานั่งทำไรคนเดียววะเนี่ย อีดิวกับกูตามหามึงซะทั่ว”  “ก็จะเรื่องไรอีกล่ะแคทถ้าไม่ใช่เรื่องโอลาฟ”  “เฮ้อ แกวางเรื่องนี้ได้ล่ะ แกก็พยายามทำทุกอย่างแล้วนิว่าแกไม่ได้ทำแต่ในเมื่อแกติดต่อไรไม่ได้ ถึงกังวลมันก็ไม่ได้ทำให้โอลาฟมันยกโทษให้มึงหรอก  ยิ้มหน่อยดิแก ปีนี้พวกเราขึ้นม.3 กันแล้วนะ หวังว่าปีนี้คงเป็นปีแห่งความสุขสันต์กว่าปีที่ผ่านมาเนอะ” แคทตบไหล่และยิ้มใส่เจมส์จนกระทั่งเสียงดิวตะโกนทักทายทักสองด้วยความระรื่นเหมือนเช่นเคย  “เซย์ไฮ ทอมรัดนม และเจมส์ผู้น่ารัก  นี่นี่กูจะไรจะอัพเดทให้พวกมึงสองคนฟัง อร้ายยยมึงงงงปีเนี่ยนะปีเนี้ยยย แม่งต้องเป็นปีที่สุดยอดดดดดดแน่ๆๆเลยพวกมึง”  แคทกับเจมส์หันมองหน้าดิวด้วยความสงสัยก่อนที่แคทจะถามกลับ“ดี้ด้าแต่เช้าเลยนะอีดิว เรื่องไรเล่ามา”   “นี่ปีนี้กูได้ยินมาว่ามีหนุ่มหล่อมากๆๆๆย้ายมาเรียนม.6 ทีนี่ด้วย พี่เค้านะหล่อยิ่งกว่าพี่เฟิร์สอีกนะพวกมึงง  ” แคทยังคงทำหน้างง“ใครเหรอวะอีดิว”  “ อร้ายยยโน่นไง โน่นไง มาแล้วววที่กำลังเดินเข้าอาคารเรียนโน่นอะ” ดิวชี้ไปยังนักเรียนชายผิวขาวตัวสูงโย่งคนหนึ่งที่เดินตีคู่มากับเตอร์และเคนอยู่ลิบๆ  จนแคทและเจมส์มองไม่วางตา “เชร็ดด อยู่ไกลขนาดนี้ออร่าความหล่อยังเห็นชัดมากขนาดกูเป็นทอมดูไปดูมายังเคลิ้มเลยยว่ะ”  “อย่ามาเคลิ้มนะมึงงอีทอมมคนนี้กูจองงงง อร้ายยยยหล่อๆๆๆ”   “มึงรู้ชื่อพี่เค้าไหมอีดิว”   “จะพลาดเหรอระดับกูแล้วอีแคท…พี่เค้า..อร้ายยชื่อ..พี่เติร์กสุดหล่อออออคร้า”   เจมส์ที่มองอยู่นั้นถึงกับอุทานขึ้นอย่างลืมตัว “พี่เติร์ก!”
End
ผู้เขียนขอขอบคุณผู้อ่านทุกท่านที่ติดตามผลงานมาโดยตลอดครับ
ต้องขออภัยผู้อ่านหลายท่านที่ห่างไปนานมากๆเนื่องจากผู้เขียนต้องรักษาร่างกายให้ฟื้นจากการบาดเจ็บให้หายดีเสียก่อนจึงจะวางแผนเขียนต่อได้ เลยทำให้
อัพล่าช้าครับ


ดูบันทึกคะแนน
   abc55 พลังน้ำใจ +10 Zenny +100 กระทู้นี้ยอดเยี่ยม!

เจ้าพ่อมหาลัย

โพสต์
27930
พลังน้ำใจ
153997
Zenny
157834
ออนไลน์
26556 ชั่วโมง

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
4762
พลังน้ำใจ
33779
Zenny
2034
ออนไลน์
1233 ชั่วโมง
หายไวๆนะค้าบบบ

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
1088
พลังน้ำใจ
26886
Zenny
47596
ออนไลน์
11359 ชั่วโมง
ขอบคุณ​ค่ะ​ เป็นอะไรมากรึป่าว​ คิดถึงเติร์ก​กับเฟิร์ส​สุดๆ
หัวใจชั้นมันรักใครไม่ได้อีกแล้ว
 นักศึกษาภาคพิเศษ (M.D.A)
ปริญญากิตติมศักดิ์
มาต่ออีกนะ

มาเฟียคุมคณะ

โพสต์
5719
พลังน้ำใจ
55699
Zenny
164627
ออนไลน์
15258 ชั่วโมง

สมาชิกจีโฟกาย 100%สมาชิกระดับแพลตตินั่มสมาชิกระดับทับทิมสมาชิกระดับไพลินสมาชิกระดับมรกต

หายไปนานามากเลย ไปย้อนอ่านใหม่หมดแล้ว
ขอบคุณที่มาต่อจนจบครับ และขอให้สุขภาพแข็งแรงนะครับ
การรอคอย เป็นสิ่งที่ช่างแสนยาวนาน  

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
1118
พลังน้ำใจ
25655
Zenny
11349
ออนไลน์
4479 ชั่วโมง
ในที่สุดก็กลับมาต่อแล้วขอบคุณมากๆนะครับ คอยติดตามอยู่เสมอเป็นคนที่แต่งเรื่องได้สนุกน่าติืดตามมากจริงๆ เรื่องของยูโรกับโอลาฟถึงจะเสียวปนเศร้าแต่ก็สนุกมากครับ แอบลุ้นฉากส่งท้ายโอลาฟกับเฟิร์สมันได้ลองชิมกันสักนิดเบาๆ 555 ยังไงก็ขอให้สุขภาพแข็งแรงหายดีเป็นปกติโดนเร็วนะครับ สู้ๆครับ รอเจ้าเติร์กกลับมาเสมอ

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
1315
พลังน้ำใจ
23269
Zenny
4049
ออนไลน์
2516 ชั่วโมง
ดีใจมากๆที่กลับมาต่อนะครับ ได้รู้ว่าคนแต่งบาดเจ็บมา ก็เข้าใจครับที่หายไปนาน ขอให้คนแต่งหายไวๆ มีแรงกลับมาเขียนให้คนอ่านได้อ่านต่อนะครับ คิดถึงเติร์กมากๆ ตอนต่อไปจะได้เจอไหนหนอ

เจ้าพ่อมหาลัย

โพสต์
42102
พลังน้ำใจ
213889
Zenny
84809
ออนไลน์
15336 ชั่วโมง
สนุกมากครับ

มาเฟียคุมคณะ

โพสต์
11613
พลังน้ำใจ
65783
Zenny
10286
ออนไลน์
14219 ชั่วโมง

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
4691
พลังน้ำใจ
32153
Zenny
27339
ออนไลน์
1588 ชั่วโมง
ขอบคุณครับ

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
4691
พลังน้ำใจ
32153
Zenny
27339
ออนไลน์
1588 ชั่วโมง
ขอบคุณครับ

เจ้าพ่อมหาลัย

โพสต์
26341
พลังน้ำใจ
111713
Zenny
58717
ออนไลน์
12153 ชั่วโมง

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
3061
พลังน้ำใจ
30093
Zenny
3868
ออนไลน์
2166 ชั่วโมง
ยังรอเสมอนะครับ
ขอให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง หายป่วยเร็วๆนะครับ

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
4652
พลังน้ำใจ
37158
Zenny
20430
ออนไลน์
2542 ชั่วโมง
นึกว่าจะไม่มาต่อซะแล้ว

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
4652
พลังน้ำใจ
37158
Zenny
20430
ออนไลน์
2542 ชั่วโมง
ขอบคุณมากนะครับที่พยายามมาต่อจนจบ ผมชอบตัวละครเฟิร์สมากๆ แม้จะออกไม่เยอะในทั้ง2ภาคแต่รู้สึกชอบเป็นพิเศษครับ

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
7235
พลังน้ำใจ
36245
Zenny
49351
ออนไลน์
1546 ชั่วโมง
ขอบคุณครับ

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
72
พลังน้ำใจ
13415
Zenny
1863
ออนไลน์
1383 ชั่วโมง
ดีใจมากที่กลับมาต่อ​ และขอให้หายป่วยไวๆนะครับ

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
3614
พลังน้ำใจ
33319
Zenny
7612
ออนไลน์
5319 ชั่วโมง
ขอบคุณมากครับ สนุกมาก

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
1118
พลังน้ำใจ
25655
Zenny
11349
ออนไลน์
4479 ชั่วโมง
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | สมัครเข้าเรียน

รายละเอียดเครดิต

A Touch of Friendship: สังคมจะน่าอยู่ เมื่อมีผู้ให้แบ่งปัน ฝากไวเป็นข้อคิดด้วยนะคะชาวจีโฟกายทุกท่าน
!!!!!โปรดหยุด!!!!! : พฤติกรรมการโพสมั่วๆ / โพสแต่อีโมโดยไม่มีข้อความประกอบการโพส / โพสลากอักษรยาว เช่น ครับบบบบบบบบ, ชอบบบบบบบบ, thxxxxxxxx, และอื่นๆที่ดูแล้วน่ารำคาญสายตา เพราะถ้าท่านไม่หยุดทีมงานจะหยุดท่านเอง
ขอความร่วมมือสมาชิกทุกท่านโปรดโพสตอบอย่างอื่นนอกเหนือจากคำว่า ขอบคุณ, thanks, thank you, หรืออื่นๆที่สื่อความหมายว่าขอบคุณเพียงอย่างเดียวด้วยนะคะ เพื่อสื่อถึงความจริงใจในการโพสตอบกระทู้ และไม่ดูเป็นโพสขยะ
กระทู้ไหนที่ไม่ใช่กระทู้ในลักษณะที่ต้องโพสตอบโดยใช้คำว่าขอบคุณ เช่นกระทู้โพล, กระทู้ถามความเห็น, หรืออื่นๆที่ทีมงานอ่านแล้วเข้าข่ายว่า โพสขอบคุณไร้สาระ ทีมงานขอดำเนินการตัดคะแนน และ/หรือให้ใบเตือนสมาชิกที่โพสขอบคุณทันทีที่เจอนะคะ

รูปแบบข้อความล้วน|โทรศัพท์มือถือ|ติดต่อลงโฆษณา|จีโฟกายดอทคอม


ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บจีโฟกายดอทคอมนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ หากท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศิลธรรม ไม่เหมาะสมที่จะเผยแพร่ ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link “แจ้งลบโพสนี้” ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือ ลืมพาสเวิดล๊อกอิน/ลืมชื่อที่ใช้สมัคร หรือข้อสงสัยใดๆแจ้งมาที่ G4GuysTeam[at]yahoo.com ขอขอบพระคุณที่ให้ความร่วมมือ

กรณีที่ข้อความ/รูปภาพในกระทู้นี้จัดสร้างโดยผู้ลงข้อมูลเอง ลิขสิทธิ์จะเป็นของผู้ลงข้อมูลโดยตรง หากจะทำการคัดลอก/เผยแพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ลงข้อมูลก่อนนะคะ หรือลงที่มาไว้ด้วยค่ะ

©ขอสงวนสิทธิ์คอนเซ็ปต์,คำอธิบาย,หัวข้อ/หมวดหมู่เว็บ ห้ามลอกเลียนแบบ คิดเอาเองนะคะอย่าเอาแต่ลอก

GMT+7, 2024-5-5 08:44 , Processed in 0.214890 second(s), 26 queries .

Powered by Discuz! X3.1 R20140301, Rev.31

© 2001-2013 Comsenz Inc.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้