จีโฟกาย.คอม

 ลืมรหัสผ่าน
 สมัครเข้าเรียน
ค้นหา
 
ดู: 2259|ตอบกลับ: 27
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป
ซ่อนแถบด้านข้าง

The Past moment 6 (ห้วงความสุข)

[คัดลอกลิงก์]

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
47
พลังน้ำใจ
38233
Zenny
47700
ออนไลน์
736 ชั่วโมง
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Elenai เมื่อ 2020-10-13 23:22

เนื้อหาในตอนที่ 5 ตามลิงค์ http://www.g4guys.com/forum.php? ... 0220&fromuid=155129         
                  สวัสดีฉันชื่อโอลาฟฉันรักอ้อมกอดอุ่น  นับตั้งแต่วันที่ก้าวเข้ามาเรียนที่ใหม่จนถึงเดี๋ยวนี้ตัวผมได้พานพบเจอสิ่งต่างๆมากมายหลั่งไหลเข้ามาไม่รู้ซ้ำ มีทั้งสุขทุกข์ สมหวังและสิ้นหวังสลับกันไปจนผมมักตั้งคำถามกับตัวเองอยู่บ่อยครั้งว่านี่ใช่ชีวิตใหม่ที่ผมต้องการมันหรือป่าวหรือมันอาจเป็นเพียงแค่สิ่งที่คนรอบข้างบีบบังคับให้ผมต้องยอมรับมัน  หลังเหตุการณ์ในวันงาน SAE Meeting ที่เพิ่งผ่านพ้นไป มันทำให้ผมตระหนักกับตัวเองได้ว่าเรื่องบางเรื่องในชีวิตก็ไม่ควรที่จะทุ่มสุดตัวและกับบางสิ่งก็อย่าได้ไปคาดหวังกับมันมากจนเกินไปแม้ว่าความผิดหวังอันแสนเจ็บจี๊ดแทงเข้าลึกไปถึงแก่นจิตที่เรียกว่าความอกหัก ได้พุ่งเข้าจู่โจมก่อนจะตบท้ายด้วยยารักษาดามใจในวันเดียวกัน  ซึ่งสำหรับจิตใจของเด็กม.2 คนหนึ่ง มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะปรับความรู้สึกหรือ Move on ออกจากความเจ็บช้ำได้ในเร็ววันผมเคยอ่านหนังสือเล่มหนึ่งซึ่งมันได้กล่าวว่าความรักมันก็เหมือนผีเสื้อยิ่งเราถวิลวิ่งไล่จับมันเท่าไหร่ มันก็ยิ่งบินห่างออกจากเรามากเท่านั้น  บ่อยครั้งที่คนเราพยายามตามหาสิ่งที่คิดว่าใช่แต่หารู้ไม่ว่าสิ่งที่เรากำลังตามหาอยู่นั้น  บางทีมันอาจเป็นสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวเรามาโดยตลอดนั่นเอง  เวลา 14.23 น.  ณ ห้อง อัดล้างภาพของชมรมโอลาฟมันเดินเข้ามายืนเช็ครูปถ่ายจากงาน SAE Meeting ที่ล้างและแขวนผึ่งไว้เป็นจำนวนมาก ในขณะที่มันกำลังยืนเช็ครูปอยู่นั้นสายตามันดันไปเจอเข้ากับรูปถ่ายเฟิร์สที่สวมชุดคาวบอยครึ่งตัวอยู่1 ใบซึ่งนั่นทำให้โอลาฟถึงกับยืนเหม่อมองภาพดังกล่าวพร้อมหวนนึกถึงด้วยความอาลัย จนกระทั่งยูโรที่ทำงานอยู่ห้องข้างๆเดินเข้ามาเจอ “โอลาฟ???  ทำไรน่ะเรา  โอลาฟ!!!”  ยูโรเห็นโอลาฟยังคงยืนนิ่งมันเลยเดินรีบเข้าไปตบเข้าที่ไหล่ขวาจากด้านหลัง  “โอลาฟได้ยินที่พี่เรียกไหม”  ทันทีที่มือขวายูโรเข้ามาสัมผัสโอลาฟมันตกใจงึกพร้อมรีบหันมองหน้า “พี่ยูโร!!!  เอิ่มมครับ  พี่ พี่มีไรป่าว”  “เป็นไรป่าวเรา เรียกแล้วไม่หือไม่อือ”  “ไม่มีไรครับพี่ยูโรคือผมกำลังยืนเช็ครูปที่ผมล้างไว้อยู่น่ะ” ยูโรเห็นสีหน้าและแววตาโอลาฟแฝงด้วยความเศร้ามันเลยถามกลับไปอีกครั้ง“โอลาฟ แน่ใจนะว่าไม่เป็นไรทำไมมีไรชอบไม่บอกพี่ตรงๆล่ะ พี่รู้นะว่าโอลาฟกำลังเสียใจลึกๆ แววตาและสีหน้ามันฟ้อง”  โอลาฟถึงกับยืนอ้ำอึ้งจนพูดไรไม่ออก  “คือผมแค่….ช่างมันเหอะครับพี่ยูโร ผมมันเลอะเทอะไปเองแหละ”  ขณะที่ยูโรยืนฟังที่โอลาฟพูดอยู่แต่ทันใดนั้นหันไปเจอภาพถ่ายเฟิร์สที่แขวนตากไว้กับภาพอื่นๆเลยทำให้มันเข้าใจกับสิ่งที่โอลาฟเป็นอยู่ทันที  “เป็นเพราะสิ่งนี้ใช่ไหมล่ะ”ยูโรเอื้อมมือไปจับและดึงภาพดังกล่าวออกมา  “ไอ้เฟิร์สชีวิตมันแม่งดีจังเนาะทั้งหล่อ รวย แถมมีแต่คนชื่นชอบมันเยอะมาก จนพี่เองบางครั้งก็นึกอิจฉามันอยู่บ่อยๆนะ”  ยูโรพูดพร้อมกับหันมองโอลาฟที่ยังคงยืนก้มหน้า  “ถ้าสิ่งนี้มันทำให้น้องลำบากใจ  งั้นพี่ว่าเรื่องคัดและอัดล้างรูปที่จะส่งให้โรงเรียนและสมาคมศิษย์เก่าน่ะเดี๋ยวพี่ขอเป็นคนทำเองส่วนโอลาฟพี่จะลองให้ไปช่วยงานเอกสารสักระยะดีไหม”  “ไม่เป็นไรครับพี่ยูโร  ผมโอเค ผมแค่ต้องขอเวลานิดหนึ่งพี่นี่ก็เพิ่งผ่านมาได้แค่สองอาทิตย์เองทั้งที่ผมคิดว่าเดี๋ยวอะไรๆคงดีขึ้นแต่ตราบใดผมยังเจอหน้าพี่เฟิร์สอยู่ทุกวันๆแบบนี้ผมว่าคงยากอะ” ยูโรมันได้แค่ถอนหายใจยาวพร้อมกับเดินเอารูปเฟิร์สในมือไปวางรวมกับรูปที่ต้องไปทำลายทิ้ง  “โอลาฟเลิกเรียนนี้ว่างไหมถ้าว่างเดี๋ยวพี่พาไปที่ที่หนึ่งอยู่ไม่ไกลจากโรงเรียนหรอก  พี่ว่าโอลาฟต้องชอบแน่นอน”  “พี่ยูโรจะพาผมไปไหนอะ”  “จุๆไม่บอกถ้าบอกเดี๋ยวก็ไม่ลุ้นสิตกลงว่างไหมล่ะ”  “ก็….ว่างอยู่ครับ” “โอเคงั้นหลังเรียนคาบสุดท้ายเสร็จมาเจอกันที่ห้องชมรมนะ”  ยูโรยิ้มและเอามือไปขยี้ผมโอลาฟบนหัวไปมา  ก่อนที่ทั้งคู่จะเดินออกจากห้องไปพร้อมกัน เวลา 17.10 น.  ยูโรนั่งรอโอลาฟยังม้าหินอ่อนหน้าห้องชมรมไม่นานนักโอลาฟเดินสะพายกระเป๋าตรงเข้ามาหายูโรที่นั่งคอยท่ามันอยู่ “หืมมมพี่นึกว่าโอลาฟจะไม่มาแล้วนะ รู้ป่าวว่าพี่นั่งรอจนจะเป็นรูปปั่นติดม้าหินอ่อนแล้วนิ”  “โทษทีพี่ยูโร  จริงๆผมจะมาตั้งแต่ 4 โมงครึ่งแล้วแต่ดิว แคทและเจมส์มันชวนผมไปเคลียร์งานกลุ่มที่ค้างไว้เพราะต้องส่งวันพรุ่งนี้ ผมจำเป็นต้องนั่งทำกับคนอื่นๆให้เสร็จก่อนถึงจะปลีกตัวมาได้ไม่งั้นมีหวังโดนพวกนั้นด่าเอาแน่ๆถ้าปลีกตัวมาทั้งแบบนั้น”  “ไม่เป็นไรหรอก ถ้าเป็นพี่ก็คงทำงั้นเหมือนกัน แต่คราวหลังไลน์หรือแชทบอกพี่สักนิดก็ยังดีพี่จะได้กะเวลาถูก”  “ฮ่าๆครับ จริงสินะผมก็ลืมไปเลย ขอโทษคร๊าบบบบ” ทั้งสองยืนคุยกันได้พักใหญ่ยูโรเลยบอกให้โอลาฟขับมอเตอร์ไซต์ตามมันไปยังสถานที่แห่งหนึ่งที่มีลักษณะเป็นบ้านไม้ทรงไทยโบราณกึ่งยุโรปห่างจากโรงเรียนไป 800 เมตร โดยบริเวณบ้านมีร้านขนมไทยและของที่ระลึกต่างๆวางขายอยู่เป็นจำนวนมาก  ทั้งสองขับมอเตอร์ไซค์เข้าไปจอดด้านในตัวบ้านก่อนที่ยูโรจะพาโอลาฟไปทำความรู้จักกับผู้หญิงสวมแว่นตาใส่ชุดไทยอายุวัยกลางคนคนหนึ่งที่กำลังนั่งปักผ้าอยู่บนแคร่ใต้ถุนบ้าน  “อ้าวววนั่นใช่ยูโรรึป่าวว”  “ใช่ครับ  หวัดดีครับป้าอ้อม  ป้าอ้อมครับนี่โอลาฟครับเป็นรุ่นน้องในชมรมที่โรงเรียน”  “หวัดดีครับป้าอ้อม”  โอลาฟรีบยกมือไหว้ป้าอ้อมด้วยความรู้สึกเกร็งๆ  ป้าอ้อมพยักหน้าขานรับพร้อมมองโอลาฟด้วยความประหลาดใจก่อนจะหันไปคุยกับยูโร “ไปไงมาไงเนี่ยยยูโร ปกติยูโรไม่ค่อยพาใครมาที่นี่เลยนะ”  “ฮ่าๆก็นิดหนึ่งครับวันนี้พิเศษหน่อย เอิ่มมป้าอ้อมครับ คนงานในโซนเลิกกันยังครับพอดีจะพาโอลาฟมาเปิดหูเปิดตาสักหน่อยน่ะครับ”   “จริงๆ  มันเลิกแล้วล่ะตามเวลางาน แต่วันนี้มีออเดอร์เข้าเยอะเลยต้องทำงานล่วงเวลากันสักหน่อยยูโรจะไปช่วยด้วยก็ได้นะป้าไม่ว่า” “ครับผม  งั้นผมขอตัวพาโอลาฟเข้าไปเดินดูด้านในนะครับ”  “แต่วันนี้ลุงอมรไม่ได้อยู่คุมงานนะไงก็ระวังเครื่องไม้เครื่องมือหน่อยละกัน” “ครับผมขอบคุณครับ….มะเร็วโอลาฟทางนี้น้องทางนี้”  ยูโรพูดพร้อมกับเดินนำโอลาฟไปยังโรงงานหลังบ้านจนโอลาฟตีรีบเดินเข้ามาตีคุยถามด้วยความสงสัย “พี่ยูโรครับตะกี้ใครอะแล้วนี่มันที่ไหนครับ”  “พี่สาวของแม่น่ะ พอดีป้าอ้อมกับลุงอมรเค้ามีฝีมือด้านอาหารไทยและงานช่าง ทั้งสองเลยทำหลังบ้านเป็นโรงงานขนมไทยกับโรงงานงานช่างฝีมือแล้วทำส่งขายทั้งในและต่างจังหวัดน่ะ  เมื่อก่อนตอนเด็กแม่พี่ชอบพาพี่มาเที่ยวบ้านป้าอ้อมบ่อยๆแถมที่นี่มีงานสนุกๆให้ทำเยอะมาก ตั้งแต่นั้นมาเวลาพี่เครียดหรือว่างไม่รู้จะทำอะไรพี่ก็จะแวะมาที่นี่ตลอดครับโอลาฟเองก็ลองเดินดูได้นะ เผื่อชอบอะไรหรืออยากลองทำอะไรก็ไปลองขอเค้าทำดูได้”  “หืมมว่าไปนั่นจู่ๆให้ผมที่ไม่รู้จักไปขอทำเดี๋ยวเค้าก็ว่าให้หรอก” “ไม่ต้องกลัวโอลาฟคนงานที่นี่สนิทและรู้จักพี่หมด ยิ่งถ้าได้สนิทกันล่ะก้อ….บอกได้เลยว่าเป็นกันเองสุดๆ มานี่มา” ยูโรพาโอลาฟเดินชมโซนงานต่างๆหลังบ้านที่มีทั้งโซนขนมไทยโซนงานผ้า โซนงานปั้น และงานฝีมืออื่นๆอีกมากมายซึ่งนั่นทำให้โอลาฟที่เดินดูอยู่นั้นรู้สึกตื่นตาตื่นใจอย่างสุดๆ  “ไงล่ะโอลาฟทึ่งเลยอะดิ”  “สุดยอดเลยพี่ยูโรมีแต่ของที่ดูแปลกหูแปลกตาแยะเลยของบางอย่างที่ผมเคยเห็นวางขายอยู่ทั่วไป ผมก็เพิ่งได้มาเห็นนี่แหละว่าเค้าผลิตกันยังไง” “อืมมมแล้วสนใจอยากจะลองทำดูป่าวววว”  “ครับพี่  งั้นๆๆ ผม ขอลองวกไปโซนที่เค้าทำขนมไทยนะครับตะกี้ตอนเดินผ่านผมเห็นมีขนมไทยแปลกๆน่าตาน่ารักวางอยู่เต็มไปหมดเลย”  “ถ้าโอลาฟสนใจทำขนมงั้นเดี๋ยวพี่เดินไปส่ง” เช่นนั้นยูโรเลยพาโอลาฟเดินไปแนะนำกับคนงานทั้งสี่คนที่กำลังเตรียมทำแป้งทำไส้ขนมอยู่ให้รู้จักกันก่อนที่มันจะแยกตัวไปช่วยงานยังโซนเครื่องปั้นดินเผา 30 นาทีผ่านไปขณะที่ยูโรกำลังจดจ่อใช้สมาธิกับงานตรงหน้าอยู่นั่นจู่ๆมีมือของใครบางคนเอื้อมมาสะกิดไหล่จากด้านหลังจนยูโรต้องละสายตาจากงานตรงหน้าและหันกลับไปมอง “ก็นึกว่าใครซะอีก!! โหหห  ดูหน้าสดชื่นขึ้นเยอะกว่าตะกี้เลยนิน่า  แล้วนั่นถืออะไรซ่อนข้างหลังน่ะ”  โอลาฟมันได้แต่ยืนยิ้มก่อนจะยื่นจานใบตองแข็งที่มีขนมไทยรูปร่างแปลกตาวางเรียงรายอยู่ให้กับยูโร ซึ่งนั่นทำเอายูโรก้มมองขนมในจานใบตองด้วยความสงสัย  “หืมมม นั่นมันคือ…ขนมอะไรเนี่ยยย รูปร่างแปลกดี แต่สีสันสวยดีนะ”  “พี่ยูโรลองเดาดูดิครับว่ามันชื่อขนมอะไร”  “ขนมสีสวย”  “ม่ายช่าย”  “งั้นขนมคิคุอาโนเนะ”  “ม่ายช่ายยย”  “งั้นก็ขนมโอลาฟคนขี้แย”  “ก็ม่ายช่ายอยู่ดี”  “แหมม งั้นพี่ยอมล่ะเฉลยพี่หน่อยดิ”  “มันคือขนมไทยหากินยากเชียวนะพี่ยูโร อย่างอันนี้ที่เหมือนกระเช้าดอกไม้ ชื่อขนมกระเช้าสีดา  ส่วนอันนี้ ชื่อขนมหม้อตาล ครับ”  “โหหหเพิ่งเคยได้ยินชื่อแหะงั้นพี่ขอชิมได้ปะครับ”  “เอามายื่นให้ตรงหน้าซะขนาดนี้คงจะไม่ให้ชิมแหละมั้ง”  “แหมใครจะไปรู้ล่ะเผื่อโอลาฟแค่อยากเอามาอวดไรเงี้ย” “หืมมมเดี๋ยวก็ไม่ให้ชิมซะเลยย”  “ฮ่าๆหยอกๆๆ อย่าเพิ่งงอนสิ”  ทันทีที่พูดจบยูโรยื่นมือไปหยิบขนมทั้งสองขึ้นมาอย่างละชิ้นก่อนจะเอาเข้าปากเคี้ยว  “อืมมม อาหร่อยยย  หวานกำลังดีเลย เส้นฝอยๆในปากนี่คงจะเป็นมะพร้าวขูดสินะอืมมมสุดยอดเลยแถมหอมกลิ่นควันเทียนที่ใช้อบด้วย นี่ทำเองเหรอ”  “ก็มีพวกป้าในครัวช่วยนิดหน่อยอะครับแต่ตัวแป้งที่ปั้นขึ้นรูปนี่ ผมปั้นเองเลยนะ”  “บระเจ้าาาถือเก่งใช้ได้นะโอลาฟ ถ้าทำครั้งแรกแล้วปั้นขึ้นรูปได้สวยขนาดนี้”  “ดูพูดเข้าให้พี่ยูโร  แล้วนั่นพี่ทำไรอยู่อะครับผมเดินมาแต่ไกลเห็นพี่จดจ่อนิ่งมาก” ยูโรหันกลับไปมองแจกันดินเผาตรงหน้าที่ยังเพ้นต์ไม่เสร็จดี “โอลาฟคิดว่าไง ผ่านไหมครับ” โอลาฟที่เห็นแบบนั้นมันเลยเดินเข้าไปใกล้พร้อมกับจ้องมองลายคลื่นน้ำบนตัวแจกันด้วยความทึ่ง “นี่พี่ยูโรเพ้นต์เองหมดเลยเหรอครับ”  ยูโรถึงกับหันมองโอลาฟด้วยสีหน้าประหลาดใจ “ทำไมโอลาฟ ดูทำน้ำเสียงเข้าให้”  “คือแบบสวยอะโคตรอะพี่ นี่ผมเพิ่งรู้นะว่าพี่ยูโรเอง  มีฝีมือวาดดีเยี่ยมขนาดนี้”  “แน่นอนสิโอลาฟพี่เองก็ไม่ได้เด่นแค่เรื่องการถ่ายภาพอย่างเดียวนะ เห็นอย่างงี้ตอนม.ต้น พี่ก็เป็นหนึ่งในตัวเต็งของชมรมทัศนศิลป์เหมือนกัน”  คำพูดดังกล่าวทำโอลาฟหวนนึกถึงเฟิร์สขึ้นมาทันใดเลยทำให้สีหน้าที่เปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มก่อนหน้าแปรเปลี่ยนเป็นสีหน้าเจื่อนจนยูโรสังเกตได้ชัด “เอิ่มมพี่ขอโทษโอลาฟ” ยูโรถึงกับถอนหายใจยาว “โอลาฟครับถ้าวันไหนโอลาฟมีปัญหาและไม่รู้จะไปพึ่งหรือไปหาใครล่ะก้อขอให้โอลาฟนึกถึงพี่เป็นคนแรกเลยนะ”  “พี่ยูโรไม่ต้องขอโทษผมหรอกครับ  พี่ไม่ได้ทำไรผิดสักหน่อย  ผมมันงี่เง่าเองแหละ”   “โอลาฟครับช่วงอาทิตย์หน้าเป็นต้นไป โอลาฟอาจไม่ค่อยได้เจอพี่ช่วงหลังเลิกเรียนนะ”   “ไมอะครับ พี่ยูโร  ติดงานนอกเหรอ”  “ป่าวหรอกก็เมื่อวานไอ้ตี๋กับไอ้เบท มันมาชวนพี่ไปร่วมทีมแข่งทักษะที่จะถึงนี้น่ะ  พวกพี่ก็เลยว่าอาทิตย์หน้านี้จะเริ่มซ้อมมือกันล่ะ”  “ถ้างั้นพวกพี่เฟิร์สเองก็คง…”  “ถ้ารายนั้นคงไม่พลาดหรอกโอลาฟเพราะมันลงแข่งทุกปีอยู่แล้วล่ะ  โอลาฟเองถ้าสนใจลองลงได้นะปีนี้มีหลายรายการให้ลงสมัครเยอะเลย” โอลาฟได้ยินเช่นนั้นรีบส่ายหัวไปมาเลยทำให้ยูโรต้องกวักมือเรียกโอลาฟให้เดินไปนั่งข้างมันก่อนจะเอ่ยปากถามโอลาฟ  ทั้งสองนั่งไถ่ถามกันไปมาในเรื่องต่างๆของกันและกัน เริ่มตั้งแต่เรื่องทั่วไปลามไปถึงเรื่องส่วนตัว ซึ่งนั่นทำให้ทั้งสองเริ่มเข้าใจกันมากยิ่งขึ้นกว่าเก่าโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับตัวโอลาฟที่เริ่มโอนอ่อนความรู้สึกไปทางยูโรขึ้นเรื่อยๆจนมันเริ่มตระหนักแก่ใจว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาการเทใจไปหาเฟิร์สมันอาจเป็นแค่ความหลงเพียงช่วงเวลาหนึ่งเพราะทั้งด้วยรูปร่างหน้าตาอันหล่อเหลาและมีเสน่ห์ของเฟิร์สที่ดึงดูดใจใครต่อใครที่เห็นได้ง่ายๆแต่สำหรับตัวของยูโรเองที่ความหล่อและดูดีอาจเป็นเพียงแค่ No.2 รองจากเฟิร์สก็จริง ซึ่งหากเทียบกันแล้วโอลาฟสัมผัสได้ทันทีว่า ตลอดทุกครั้งที่ได้คุย  ทุกครั้งที่อยู่ด้วยกันหรือทุกครั้งที่ได้เจอหน้าของยูโรนั้นมันทำให้โอลาฟรู้สึกอบอุ่นและสบายใจอยู่ตลอดเวลาแม้นว่าโอลาฟเองจะไม่ได้ชอบหรือหลงใหลยูโรมาตั้งแต่ต้น  และนั่นก็เป็นเหตุผลเพียงพอที่จะทำให้โอลาฟเชื่อว่ายูโรคือผู้เติมเต็มหัวใจดวงนี้ได้อย่างแท้จริง ก่อนกลับทั้งสองพากันไปร่ำลาป้าอ้อมเจ้าของสถานที่ด้วยกัน  ระหว่างที่ทั้งสองกำลังเดินไปยังมอเตอร์ไซค์ที่จอดอยู่  “พี่ยูโร ขอบคุณนะ”  ยูโรมันถึงกับทำหน้างง “ขอบคุณเรื่อง?”  “ก็ที่พี่พาผมมาเจอเรื่องสนุกดีที่นี่อะครับ  บอกเลยว่านี่เป็นครั้งแรกเลยที่ผมไปไหนกับพี่แล้วโคตรประทับใจอย่างสุดซึ้ง”  “เดี๋ยวนะ..สุดซึ้ง…งั้นแสดงว่าที่ผ่านมาไม่ซึ้งเลยสักครั้งหรอ”  “ป่าวววครั้งก่อนๆก็ซึ้งแต่ไม่ซึ่งเท่าครั้งนี่  เพราะรอบนี้ซึ้งมากกว่าซึ้งครั้งก่อนๆและมันซึ้งมากกว่าเลยอยากบอกว่าซึ้งสุดซึ้งอะครับ”  ยูโรถึงกับงงและยิ้มขำไปพร้อมกัน “ดูท่าคงจะซึ้งหลายซึ้งซ้อนอยู่บนซึ้งทับกันใต้ซึ้งก่อตัวตั้งเป็นซึ้ง”  “มันหมายถึงไรอะพี่ยูโรพูดซะงง”  “นั่นอะดิ แล้วที่โอลาฟพูดไปก่อนหน้ามันคือไรล่ะ”  “นั่นสิ…ผมก้อไม่รู้เหมือนกันฮ่าๆ”  “พี่ก็เหมือนกันนั่นแหละฮ่าๆ”   “แหมๆเดี๋ยวนี้เริ่มยอกย้อนผมแล้วนะเนี่ยยย”  “อ๊าวววแล้วกันใครล่ะที่เปิดประเด็นให้พี่อยากยอกย้อนก่อน” “อะเครรผมผิดเองครับ  ผมจะกลับแล้วนะพี่ยูโร”  “อ่าๆขับรถดีๆล่ะกัน ไงถึงบ้านทักไลน์บอกพี่ด้วยล่ะ”  โอลาฟยิ้มพยักหน้าพร้อมยกมือไหว้ยูโรก่อนจะขับมอเตอร์ไซค์ออกไป
               หลังจากวันที่ยูโรพาโอลาฟไปบ้านป้าอ้อมทั้งสองเริ่มผูกพันกันยิ่งกว่าเก่า และยิ่งนานวันเข้าความหลงใหลอันคลั่งไคล้ที่โอลาฟเคยมีต่อเฟิร์สเหมือนแต่ก่อนได้แปรเปลี่ยนเป็นเพียงความชอบแบบธรรมดาไปโดยไม่รู้ตัว ในช่วงระหว่างการซ้อมมือทำชิ้นงานประติมากรรมที่จะไปใช้ในงานแข่งทักษะที่จะถึงอีกไม่กี่อาทิตย์โอลาฟเองก็มักจะชอบแวะเวียนไปนั่งให้กำลังใจหรือดูยูโรกับคนอื่นๆนั่งฝึกซ้อมกันจนถึงเย็นเกือบจะทุกวันจนแคท ดิวและเจมส์เพื่อนในก๊กของโอลาฟถึงกับตั้งคำถามและอดที่จะสงสัยไม่ได้ว่าช่วงนี้ทำไมโอลาฟถึงชอบปลีกแยกตัวไปจากพวกมันอยู่บ่อยครั้งซึ่งโอลาฟเองก็เอาตัวรอดด้วยคำพูดที่ช่วยแก้ต่างว่ากับตัวมันเองว่าต้องอยู่ช่วยงานในชมรมหรือไม่ก็บอกว่าต้องช่วยงานพรรคพวกของเฟิร์สที่จะไปแข่งทักษะเกือบทุกครั้ง  จนเพื่อนๆในก๊กของมันชินชาจนหายสงสัยไปซะอย่างงั้น  และวันนี้อีกเช่นเคยที่โอลาฟนั่งคอยยูโรพร้อมเอากล้องโปรถ่ายตอนยูโรนั่งเก็บรายละเอียดงานปั้นดินเหนียวตัวมังกรอย่างใจจดจ่อ  “โอลาฟพี่ว่าน้องมานั่งช่วยพี่เก็บงานส่วนที่เหลือดีกว่านะ  แบบนั้นมันจะสนุกกว่าที่น้องทำอยู่เยอะ”  “โห่ผมว่าทำแบบที่ผมทำสนุกกว่าเยอะและยิ่งให้ผมไปนั่งทำไรแบบนั้นเกิดถ้าผมทำชิ้นงานพังพี่ยูโรขึ้นมาเดี๋ยวผมเองก็งานเข้าอะดิ”  “แหมพูดเอาซะพี่กลายเป็นคนดุเลยแหะ”  “ฮ่าๆ ก็ดุจริงอะ”  “หราาาดุตอนไหนเนี่ยย”  “ก็ตอนที่พี่จับตัวผมมาตะคอกใส่หน้าบนห้องเรียนตอนนั้นไงลืมแล้วหรอออ”  “หืมมจะไม่ให้ดุได้ไงก็ใครล่ะที่งอแงไม่ยอมหยุดแถมยังดิ้นไปมายังกะเด็กน้อย” โอลาฟได้แต่ยิ้มด้วยความขวยเขิน  “พี่ยูโรก็…..พูดไรไม่รู้อะ..”   “ฮั่นแหน่ทำเป็นเขินนะเรา…..อะพอล่ะมาเถอะพี่ว่าเราไปหาไรแถวนี้กินกัน” ยูโรพูดพร้อมวางงานในมือแล้วลุกไปเก็บข้าวของ “เดี๋ยวพี่ยูโร งานล่ะ มันยังทำไม่เสร็จเลยนะ”  “เอาน่า พรุ่งนี้ค่อยมาต่อตอนนี้เรื่องปากท้องสำคัญกว่าน้า อยากกินไร…มะเดี๋ยวพี่เลี้ยง”  “เลี้ยงจริงๆนะไม่ใช่ว่าเลี้ยงแต่ให้ผมจ่ายเหมือนคราวก่อนอีกนะ”  “ฮ่าๆเลี้ยงจริงๆครับถ้าพี่พูดโกหกขอให้พี่อกหักเลยอะ”    โอลาฟยิ้มและรีบเดินไปช่วยยูโรเก็บของใส่เป้ “ถ้างั้นพี่ยูโรเลี้ยงไอติมทอดผมได้ปะครับ”   “ไอติมทอดเหรอ??  ได้สิ ใกล้โรงเรียนนี่เหมือนจะมีร้านไอติมทอดอร่อยๆเปิดอยู่นะดีเหมือนกันไม่ได้ไปนั่งกินนานล่ะ” หลังจากเก็บข้าวของที่ใช้ฝึกซ้อมอะไรกันเสร็จแล้วทั้งสองจึงพากันขับมอเตอร์ไซค์ตามกันไปนั่งกินไอติมทอดที่ร้านดังกล่าวในขณะเดียวกันที่ถนนฝั่งตรงข้ามของร้านไอติมทอดดังกล่าว เตอร์ เคน และเอกที่กำลังยืนเลือกซื้อชุดและรองเท้ากีฬาอยู่นั้น “เห้ยๆไอ้เคน ไอ้เอก มึงเห็นนั่นไหมวะ” เตอร์ยื่นมือไปสะกิดตัวเคนกับเอกที่กำลังยืนคุยกันให้หันมา  “ไรของมึงอีกวะไอ้เตอร์กูกับไอ้เอกกำลังถกกันอยู่มันส์เชียว” “ก็มัวแต่ถกกันนั่นแหละ พวกมึงสองคนไม่เห็นหรอวะน่ะ”  “ไรวะไอ้เตอร์”  เคนกับเอกหันมองตามมือเตอร์ที่ชี้ผ่านกระจกใสไปยังร้านฝั่งตรงข้ามจนเอกและเคนเห็นยูโรกับโอลาฟนั่งทานไอติมทอดอยู่ด้วยกันยังโต๊ะที่อยู่ติดริมหน้าต่าง “เดี๋ยวนะ!!ไอ้เตอร์!! ไอ้เอก!!นั่นมันไอ้ยูโรกับน้องโอลาฟไม่ใช่เหรอวะน่ะ”  “ก็ใช่อะดิพวกมึงสองคนเห็นเป็นอย่างอื่นรึไงวะห๊ะ….อะจากที่เห็นตรงหน้าพวกมึงสองคนคิดว่าไง”  เอกกับเคนหันมองหน้ากันชั่วครู่ “ก็ไม่เห็นแปลกๆนิหว่าปกติไอ้ยูโรมันก็ชอบพาน้องโอลาฟไปกินโน่นนี่นั่นตลอดไม่ใช่เหรอวะ”   “นั่นดิมึงอย่างที่ไอ้เคนบอก  อิจฉาน้องโอลาฟเค้าอะดิมึงงง”  “โห่ยยยยพวกมึงสองคนนี่นะ  จะมองโลกเถรตรงไปถึงไหนวะ โน่นพวกมึงหากตาดูดีๆดิพวกมึงก็รู้ใช่ปะว่าเมื่อก่อนไอ้ยูโรน่ะเกลียดเด็กแทบเป็นแทบตาย  แต่พอมันได้รู้จักกับน้องโอลาฟเห็นได้ชัดเลยว่ามันเปลี่ยนไปเยอะแถมช่วงหลังๆมานี่มันกับน้องโอลาฟตัวติดกันยังกะอะไรดี พวกมึงไม่สงสัยบ้างเหรอวะ”  “มึงนี่ขี้สงสัยเรื่องชาวบ้านเค้าไปทั่วนะไอ้เตอร์กูว่าบางทีมันอาจไม่เป็นอย่างที่มึงคิดก็ได้ มึงก็รู้อยู่ว่าที่บ้านไอ้ยูโรโดยเฉพาะพ่อมันที่โคตรจะแอนตี้เรื่องพวกนี้จะตาย  กูว่ามันคงไม่หากเรื่องทำให้ตัวเองลำบากหรอกวะใช่ป่าววะไอ้เอก”  “ใช่ๆแถมช่วงหลังๆมานี่กูรู้มาว่ามันกับน้องเฟย์เด็กใหม่ม.4 ก็คุยๆคบหากันอยู่นะมึง กูว่ามึงอะคิดมากไปไอ้เตอร์ ที่ไอ้ยูโรมันสนิทสนมกับน้องโอลาฟแบบนั้นก็ไม่ได้แปลว่าสองคนนั้นต้องเป็นแฟนกันสักหน่อยนิหว่า”  “เอ่อๆ กูก็แค่สงสัยน่ะจริงๆกูก็ไม่อยากยุ่งเรื่องพวกนี้หรอกเว้ย”  ระหว่างทั้งสามถกกันอยู่นั่นเองโอลาฟที่อยู่ฝั่งตรงข้ามได้ตักไอติมในจานของมันขึ้นไปยื่นป้อนให้กับยูโร ซึ่งภาพดังกล่าวทำเอาเตอร์เคนและเอกที่ได้ยืนถกกันอยู่ก่อนหน้า ได้แต่พากันมองอึ้งจนแน่นิ่งไปพักใหญ่  “ เห้ยไอ้เอกกูขอถามมึงอีกรอบนะ ต้องสนิทกันเลเวลไหนวะถึงขนาดป้อนขนมป้อนข้าวให้กันได้” เอกได้แต่อั้มอึงพูดไรไม่ออก  “อย่างมึงกับกูที่สนิทกันมาแต่ม.1 รู้สันดานหมดไส้หมดพุงแบบนี้เคยทำไรแบบนั้นให้กันด้วยเหรอวะน่ะ ไงมึง…ช่วยบอกกูให้กระจ่างทีดิ๊ไอ้เอก”   “เอิ่มมมมกู…กูไม่รู้ว่ะ”  ขณะเตอร์กับเอกคุยกันอยู่นั้นเคนที่ยืนดูอยู่รีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดถ่ายจนทำให้ทั้งสองถึงกับหันไปมองพร้อมกัน  “ทำไรวะน่ะไอ้เคน”  “มึงสองคนก็รู้ใช่ปะว่าไอ้ยูโรมันปากแข็งจะตายหากจะให้มันบอกความจริงล่ะก้อ ต้องมีหลักฐานที่ทำให้มันยอมจำนนเท่านั้น”  “ต้องทำถึงขนาดนั้นเลยเหรอวะไอ้เคนมึงบอกมันดีๆก็ได้นิหว่า”  “ก็ถ้ามันยอมบอกง่ายๆก็ดีสิ มึงก็รู้นิสัยไอ้ยูโรอยู่ไอ้เอก” “จริงๆเรื่องของมันกูว่าพวกเราไม่ควรยุ่งดีกว่าว่ะ  กูกลัวว่าจะมันจะโกรธจนเสียเพื่อนน่ะ”  “ไอ้เอก มึงฟังกูนะถ้าเราไม่เตือนมันและหากเรื่องนี้ถึงหูพ่อมันเข้าล่ะก้อดีไม่ดีไอ้ยูโรนั่นแหละที่จะได้ออกโรงเรียนรู้ๆอยู่ว่าพ่อมันความคิดเหมือนชาวบ้านซะที่ไหน มึงเข้าใจใช่ปะไอ้เอก ก็เพราะมันเป็นเพื่อนพวกเรานี่แหละกูถึงได้หาทางช่วยมันอยู่เนี่ย…แล้วมึงล่ะไอ้เตอร์มึงคิดยังไง” “ก็เห็นจะๆซะขนาดนี้ คิดว่ากูต้องทำไงล่ะ จริงๆแล้วกูก็สงสัยตั้งแต่ตอนงานวันเกิดไอ้เฟิร์สที่บ้านสวนไอ้เบทโน่นล่ะพวกมึงจำได้ใช่ปะที่พวกเราเล่นเกม Truth or dare  กัน ที่ไอ้เวฟมันถามยูโรว่าชอบผู้หญิงแบบไหนและจากนั้นไอ้ยูโรก็ตอบว่าชอบคนที่คุยสนุกคุยได้ทุกเรื่องเหมือนเป็นเพื่อนอยู่ด้วยแล้วสบายใจ มันบอกว่าถึงแม้จะขี้เล่นแต่มันก็รักและอยากดูแล….ซึ่งหากคนไม่คิดไรมากก็คงปล่อยผ่านๆไปแต่สำหรับกูที่ชอบสงสัยในเรื่องไร้สาระได้ลองเอาคำพูดของมันมาคิดทบทวนดูแล้วซึ่งมันก็ประจวบเหมาะที่มันกับน้องโอลาฟชอบไปไหนด้วยกันแถมยังโอ๋กันด้วยนะเว้ยขนาดกูแค่แซวโอลาฟเรื่องกินเหล้านิดเดียวไอ้ยูโรถึงกับต่อว่ากูชุดใหญ่ไหนจะตอนที่โอลาฟจมน้ำในสระมันก็เป็นคนแรกที่พุ่งตัวเข้าไปหาทั้งที่มันอยู่ห่างจากโอลาฟซะตั้งไกล   กูถึงได้บอกไงว่ากูน่ะคิดถูกกับเรื่องนี้”  “ถ้างั้นมึงก็หมายความว่าไอ้ยูโรชอบน้องโอลาฟงั้นเหรอวะไอ้เตอร์”  “จากที่เห็นตะกี้กูว่าแม่งคงทั้งสองฝ่ายนั่นแหละถ้าไอ้ยูโรไม่เล่นด้วยมีเหรอวะที่น้องโอลาฟจะทำซะขนาดนั้นไอ้เอก”  เอกถึงกับทำหน้าเหวอทันที  “ไรวะเนี่ยยยสรุปเพื่อนกูเป็นเกย์เหรอวะ”   ไปยังฝั่งยูโรกับโอลาฟที่นั่งทานไอติมทอดและชาเขียวปั่นจนเสร็จพร้อมรอคิดเงิน “โอลาฟเดี๋ยวพี่ไปฉี่แปปนะ อะนี่…เดี๋ยวตอนเค้ามาคิดตังก็เอาแบงค์ 500 นี่จ่าย”  โอลาฟยิ้มพร้อมกับยกมือไหว้ท่วมหัว “ครับพี่ยูโรขาเปย์กอบกุนก๊าป ที่เลี้ยงของอร่อยๆผมอีก 1 มื้อ  ผมว่านะถ้าอยู่กับพี่ยูโรสัก 1 ปีนี่น้ำหนักผมคงได้ขึ้นเป็นหลัก 100 แน่ๆอะ”  “ก็ดีนะพี่ว่าถ้าโอลาฟอ้วนจ้ำม้ำก็คงจะน่ารักไปอีกแบบ”  “ม่ายยยยขอหุ่นแบบนี่แหละดีแล้วขี้เกียจโดนคนบางคนแซวว่าเป็นแป๊ะยิ้ม” “คนบางคนที่ว่าหมายถึงใครหรอ”  “ก็ไม่รู้ซินะเอิ๊กๆ…จะไปฉิ้งฉ่องไม่ใช่เหรอคงลืมแล้วมั้งนิพี่”  “ฮ่าๆๆก็ใครล่ะเปิดประเด็นชวนคุยยาวว  รอพี่แปปนะ อย่าเพิ่งหนีไปไหนซะล่ะ”  ระหว่างที่มันนั่งรออยู่นั่งโอลาฟไม่รอช้ารีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดูเฟสฆ่าเวลาและทันใดนั้นเองสายตามันที่มองผ่านกระจกหน้าต่างพุ่งตรงไปยังนอกร้านมันเห็นผู้ชายตัวสูงล้ำคนหนึ่งสวมชุดนักเรียนที่คุ้นหน้าคุ้นตาเดินจับมือกับผู้หญิงออกมาจากเซเว่นด้วยกัน ทำให้โอลาฟรีบวางโทรศัพท์ในมือลงพร้อมเพ่งมองไปยังภาพตรงหน้าอย่างตั้งใจ  “ผู้ชายคนนั้นดูคุ้นๆแหะ??เดี๋ยวนะ!! นั่นมันพี่โฟรไม่ใช่เหรอน่ะ  แถมเดินจับมือมากับใครก็ไม่รู้ด้วยแหะ  ต้องใช่แน่นอนหุ่นแบบนั้นหน้าแบบนั้นถึงจะอยู่ไกลก็เถอะ” โอลาฟเพ่งมองได้ไม่นานจนผู้ชายกับผู้หญิงคนดังกล่าวเดินขึ้นรถเก๋งและขับออกไปด้วยกัน  โอลาฟที่ได้เห็นไม่รอช้ารีบคว้าโทรศัพท์บนโต๊ะขึ้นมากดโทรหาเจมส์ทันที
โอลาฟ - ฮัลโหลเจมส์  ตอนนี้อยู่ไหนอะ
เจมส์ - ว่าไงโอลาฟเพื่อนเลิฟฟฟฟ ตอนนี้กูมาเดินดูร้านขายแป้งจี่กับแคทและอีดิวน่ะ  แล้วแกอยู่ไหนอะ
โอลาฟ - แป้งจี่หรออเดี๋ยวนะเจมส์ นี่พวกนายชอบกินของแบบนั้นด้วยเหรอ เพิ่งรู้แหะ
เจมส์ ป่าวนะคือจริงๆกูกับอีแคทมาส่งอีดิวดูชุดนางรำที่มันจะใส่ไปประกวดร้องเพลงน่ะ  กูก็เลยถือโอกาสออกมาเดินดูร้านแป้งจี่แถวนี้ซะเลยขี้เกียจนั่งรอมัน  แล้วก็ช่วงหลังๆนี้กูเห็นพี่โฟรบ่นอยู่บ่อยๆว่าอยากกินแป้งจี่ของโปรดพี่โฟรเค้า  กูก็เลยมาดูร้านไว้ก่อนน่ะ กะว่าพรุ่งนี้จะชวนพี่โฟรมานั่งกินด้วยกันซะหน่อย
โอลาฟ - อืมมหรอดีจังเนาะ แล้ววันนี่แกกับพี่โฟรไม่ได้ไปไหนด้วยกันหรอกเหรอ
เจมส์ - วันนี้พี่โฟรเค้าบอกว่ามีงานกลุ่มต้องรีบทำด่วนน่ะพี่เค้าเลยไม่สะดวก
โอลาฟ - อืมมหรอ
เจมส์ - ว่าแต่แกมีไรเหรอคงไม่ใช่โทรมาเพราะอยากรู้ว่ากูทำไรอยู่หรอกนะ
โอลาฟ - อ้อ ป่าวๆที่กูโทรมาก็อย่างที่มึงพูดนั่นแหละเจมส์  
เจมส์ - พูดจริงดิ???  โอลาฟ?? แกมีไรรึป่าวดูเหมือนแกมีไรอยากบอกนะ
คำถามของเจมส์ทำเอาโอลาฟถึงกับลังเลใจยกใหญ่ว่าตัวของมันนั้นควรจะบอกเรื่องที่มันเห็นพี่โฟรกับผู้หญิงคนอื่นให้เจมส์ฟังดีหรือไม่และยิ่งมันได้ฟังที่เจมส์พูดว่าวันพรุ่งนี้จะชวนพี่โฟรมานั่งกินแป้งจี่ด้วยกันมันก็ยิ่งหวาดกังวลใจยิ่งกว่าเก่า ทำให้มันเงียบไปชั่วขณะจนกระทั่งเสียงของเจมส์ที่อยู่ปลายสายได้ดึงสติมันกลับมา
เจมส์ - โอลาฟ โอลาฟเป็นไร จู่ๆทำไมเงียบไปล่ะ โอลาฟ
โอลาฟ - เอ่อๆเราฟังอยู่ โทษทีเจมส์
เจมส์ - ถามจริงเป็นไรรึป่าวเนี่ยยโอลาฟ แกมีไรให้เราช่วยป่าว
โอลาฟ - ป่าวๆเราไม่เป็นไรเราโอเค
เจมส์ แกพูดแบบนี้ฟังแล้วโคตรมีพิรุธสุดๆ
โอลาฟ โหยยคิดไปไกลละเจมส์ ไว้ค่อยคุยกันตอนนี้เราไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่น่ะ พรุ่งนี้เจอกันที่โรงเรียน
เวลา 20.40 น.  โอลาฟที่นั่งแชทคุยกับกลุ่มเพื่อนในชมรมอยู่นั้นจู่ๆแชทของเจมส์ได้เด้งขึ้นตรงหน้า
เจมส์ - โอลาฟทำไรอยู่
โอลาฟ คุยไรกับเพื่อนในชมรมไรไปเรื่อยเปื่อยน่ะ
เจมส์ - มะขอเคลียร์ตอนหัวค่ำที่แกโทรมาหา สรุปแกมีไรแน่โอลาฟ คุยกันยังไม่ทันรู้เรื่องก็ตัดจบไปซะงั้น
โอลาฟ เซ้าซี้เนาะเจมส์  แล้วนี่ตกลงอีดิวมันได้ชุดไทยแบบไหนล่ะ
เจมส์ - ไม่ต้องชวนเปลี่ยนเรื่องเลย   บอกเร็ว กูอยากรู้จะตายแล้วเนี่ยยย
โอลาฟ อะโอเคถ้ากูบอกไปแล้ว มึงต้องสัญญากับกูก่อนว่ามึงจะไม่ทำไรบุ่มบ่ามน่ะ
เจมส์ - มึงพูดยังกับว่าเป็นเรื่องคอขาดบาดตายอย่างงั้นแหละ
โอลาฟ มันก็ไม่ถึงขั้นนั้นน
เจมส์ - งั้นก็บอกมาเร็วขืนยังลีลากูคงได้บุ่มบ่ามบุกไปถามมึงที่บ้านตอนนี้แน่นอน 55
โอลาฟ ใจเย็นเจมส์ คือกูว่าช่วงนี้มึงเช็คพฤติกรรมพี่โฟรหน่อยก็ดีนะ
เจมส์ -ไมล่ะพี่โฟรเค้าทำไร?
โอลาฟพิมพ์เล่าในสิ่งที่มันเห็นตอนนั่งอยู่ร้านไอติมทอดให้กับเจมส์ซึ่งนั่นทำให้เจมส์เชื่อครึ่งๆกลางๆอีกทั้งพิมพ์ตอบกลับไปยังมั่นใจว่าพี่โฟรไม่มีทางทำอย่างงั้นแน่นอนแต่ด้วยความเป็นห่วงและไม่อยากให้เจมส์ต้องมาเสียใจเหมือนโอลาฟที่ผ่านมา มันเลยแนะนำให้เจมส์หมั่นเช็คพี่โฟรว่าช่วงที่ไม่ได้อยู่ด้วยกันพี่โฟรไปไหนบ้างทำเอาเจมส์ถึงกับเก็บเอาเรื่องนี้กลับไปนอนคิดทั้งคืน   วันอังคารที่ 25 กรกฏาคม เวลา 16.21 น. อีกเช่นเคยที่ยูโรยังคงยังนั่งซ้อมงานปั่นสำหรับกิจกรรมแข่งทักษะที่ใกล้จะถึงโดยมีโอลาฟคอยนั่งช่วยเก็บงานอยู่ด้านข้างในขณะที่ทั้งสองกำลังเตรียมตัวจะเก็บของและออกไปหาซื้ออะไรกินเหมือนทุกวันจู่ๆเอกมันเดินตรงเข้าซึ่งยูโรเองทันทีที่เห็นเอกเดินเข้ามาจึงเอ่ยปากทักทายด้วยความคุ้นเคย “ไปไหนมาวะไอ้เอก วันนี้ทั้งวันเพิ่งเห็นหน้ามึงเนี่ย”  “ซ้อมเสร็จแล้วเหรอวะไอ้ยูโร”  “เอ่อ ก็คืบหน้ากว่ามะวานหน่อยหนึ่งไว้พรุ่งนี้ค่อยมาต่อ เดี๋ยวกูว่าจะออกไปซื้ออะไรกินกับโอลาฟน่ะ มึงจะฝากซื้ออะไรไหม”  “ไม่อะ เอ่อถ้างั้นเดี๋ยวก่อนมึงจะไปกับน้องโอลาฟ มึงช่วยตามกูมาหน่อยว่ะ พอดีไอ้เตอร์ ไอ้เคน ไอ้เบทมีเรื่องอยากคุยกับมึงหน่อยว่ะ”  “ตอนเนี่ยน่ะเหรอไอ้เอก  เรื่องอะไรวะคุยพรุ่งนี้ไม่ได้เหรอ”  “ไม่รู้เหมือนกันว่ะไอ้ยูโร เดี๋ยวไปก็รู้เอง”  “เอ่อๆงั้นรอกูกับโอลาฟเก็บของแปปเสร็จแล้วเดี๋ยวไปด้วยกันเลย”  “เอิ่มมไอ้ยูโร หมายถึงแค่มึงน่ะที่ต้องไปกับกู”  โอลาฟที่ได้ฟังถึงกับหันมองยูโรด้วยความสงสัย  “เดี๋ยวนะนี่เรื่องสำคัญขนาดนั้นเลยรึไงไอ้เอก”  “กูไม่รู้เว้ยยยมันบอกแค่ว่าให้มึงมากับกูแค่นั้น” “ถ้าเรื่องสำคัญขนาดนั้นพี่ยูโรไปกับพี่เอกก่อนก็ได้ครับเดี๋ยวของที่เหลือตรงนี้ผมเก็บเองได้” “เดี๋ยวๆโอลาฟแต่ของพวกนี่พี่เป็นคนทำรกนะ จะให้โอลาฟเก็บคนเดียวคงไม่ใช่มั้ง”  “มันก็จริงแต่ตอนนี้พี่ยูโรมีเรื่องสำคัญรออยู่นิน่าหากมัวเสียเวลามาเก็บของเดี๋ยวพี่เอกเค้ารอนาน มันจะดูไม่ดีนะพี่  พี่ยูโรรีบไปเถอะตรงนี้ให้เป็นหน้าที่ผม”  “หืมมถ้าพูดซะขนาดนั้นงั้นพี่ฝากหน่อยล่ะกัน  เสร็จแล้วไปรอพี่ที่เดิมล่ะ”  “รับทราบครับ เดี๋ยวผมเก็บให้เนียบเลยฮ่าๆ”  ยูโรยิ้มใส่โอลาฟก่อนจะเดินไปกับเอกไม่นานนักหลังโอลาฟเก็บข้าวของยูโรที่ใช้ฝึกซ้อมเสร็จแล้วระหว่างที่นั่งรอโอลาฟเลยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเล่นเกมส์ฆ่าเวลาอยู่หน้าห้องชมรมเกือบ20 นาที จนมันรู้สึกเมื่อยแถวต้นคอมันเลยเงยหน้าขึ้นมาบิดยืดตัวซึ่งในจังหวะนั้นยูโรเดินผ่านตรงที่โอลาฟนั่งอยู่ด้วยสีหน้าเคร่งเครียดไปอย่างรวดเร็วจนโอลาฟที่นั่งรอมันอยู่ก่อนหน้าต้องรีบวิ่งตามพร้อมเรียกทัก“พี่ยูโร พี่ยูโร นั่นจะไปไหนน่ะ”  ยูโรถึงกับชะงักทันทีที่มันได้ยินเสียงโอลาฟ “โอลาฟ !!เอ่อออโทษที เกือบลืมไปเลยว่าโอลาฟรอพี่อยู่น่ะ”  “โห่ยยยไม่ใช่เกือบลืมนะ  ผมว่าพี่คงลืมเลยแหละมั้งเนี่ย  แล้วเป็นไรเนี่ยยดูหน้าเครียดๆ”  “ไม่มีไรหรอกโอลาฟ  ตอนที่เดินมากำลังคอนเซ็ปงานอยู่น่ะสงสัยท่านึกเพลินไปหน่อย”  “หื้มมพักบ้างก็ดีนะพี่ รับแต่งานตลอด ยิ่งช่วงนี้จะไปแข่งอยู่แล้ว  แล้วพี่เอกเรียกพี่ไปคุยเรื่องไรอะ”  “เรื่องสัพเพเหระทั่วไปน่ะไม่มีไรน่าสนใจหรอก”  “ถ้างั้นทำไมพี่เอกไม่ให้ผมไปด้วยล่ะ มีเรื่องไรกันรึป่าวพี่”  “อย่าคิดมากโอลาฟก็ไปคุยเรื่องสมัยตอนอยู่ม.ต้น นั่นแหละ ก็รุ้อยุ่ว่าพี่ไอ้เอก ไอ้เคน ไอ้เตอร์ กับพวกไอ้เฟิร์สอยุ่ก๊กเดียวกันตั้งแต่สมัยไหนล่ะบางครั้งพวกพี่ก็อยากมานั่งรำลึกความหลังกันบ้าง ที่มันไม่ให้โอลาฟไปด้วยคงเพราะเรื่องส่วนตัวบางอย่างของพวกมันด้วยแหละมั้งที่ไม่อยากให้รู้”  “ได้ยินแบบนี้ทำไมมันช่วงกระตุกต่อมอยากรู้ของผมเชียวนะ อื้มมมแล้ววันนี้พี่จะพาผมไปเพิ่มน้ำหนักร้านไหนดีครับ”  “อื้มมโอลาฟขอเลื่อนเป็นวันอื่นได้ไหมวันนี้พี่เหนื่อยๆอยากกลับบ้านไปนอนสักหน่อยน่ะ”  “เอ๊า  ไง๋เป็นงั้นไปซะได้  แน่ใจนะว่าไม่มีไรน่ะ”  “ไม่มีไรจริงๆครับ  โอลาฟก็เห็นๆอยู่ไม่ใช่เหรอว่าวันนี้พี่ซ้อมเกือบทั้งวันพี่แทบไม่ได้เรียนเลยนะ”  “ครับ งั้นเป็นวันอื่นก็ได้เนาะพี่ที่จริงผมกะว่าวันนี้จะเลี้ยงคืนพี่นะเนี่ย เสียดายเลย”  “ก็เห็นบ่นให้ได้ยินอยู่บ่อยๆว่าน้ำหนักขึ้นนิน่าที่จริงโอลาฟควรดีใจนะ”  “นั่นสินะพี่ยูโร แต่ถึงยังไงมันก็ขึ้นๆลงๆอยู่แล้วล่ะ ฮ่าๆสรุปถ้าวันนี้เลื่อนงั้นผมขอตัวกลับก่อนนะครับ  จะได้ไปนั่งปั่นงานที่ค้างไว้ให้เสร็จ”  “อื้มมขับรถดีๆล่ะ  เดี๋ยวไงคืนนี้พี่คอลหานะ”  “โอเค๊แต่ถ้าผมเผลอหลับก่อนพี่ก็อย่างงอนล่ะ” “ฮ่าๆ ใครกันแน่นที่ขี้งอนล่ะหืมม”      
            เวลา 20.15 น.  โอลาฟนุ่งผ้าเช็คตัวเดินจากห้องน้ำไปยังตู้เสื้อผ้าเพื่อเปลี่ยนชุดจากนั้นมันเลยเดินไปนั่งโต๊ะพร้อมกับหยิบหนังสือฝึกสนทนาภาษาญี่ปุ่นมาเปิดฝึกพูด ไม่นานนักเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ที่วางอยู่ด้านข้างดังขึ้นเลยทำให้โอลาฟหันไปมองด้วยความสงสัย “ใครโทรมาอีกน่ะ!! เจมส์!!......ฮัลโหลเจมส์ว่าไง”  “โอลาฟฟฟฟฟ มึงสะดวกคุยใช่ปะ”  น้ำเสียงอันเศร้าสร้อยเหมือนจะร้องไห้ของเจมส์จากโทรศัพท์ทำเอาโอลาฟที่ฟังอยู่นั้นถึงกับตกใจ “เจมส์!!  เป็นไรน่ะ  ใครทำไรมึง”  “โอลาฟฟฟ  ขอโทษนะแต่กูไม่รบกวนมึงใช่ป่าวว  คือกูไม่รู้จะโทรหาใครแล้วจริงๆ”  “เดี๋ยวดิเจมส์  มึงเป็นไรแล้วนี่มึงอยู่ไหน”  “หน้าบ้างมึงงง”  โอลาฟไม่รอช้ารีบเดินตรงไปยังหน้าตาพร้อมกับทอดสายตามองไปถนนหน้าบ้านจนเจอเข้ากับเจมส์สะพายกระเป๋าเป้นั่งอยู่บนมอเตอร์ไซค์โอลาฟที่เห็นแบบนั้นเลยรีบบอกให้เจมส์เอารถอ้อมมาจอดหลังบ้านก่อนที่มันจะลงไปเปิดประตูรับ “เจมส์ ไปไงมาไงเนี่ย จะมาน่าจะโทรบอกกันก่อนนะ”  เจมส์ไม่ตอบได้แต่ยืนทำหน้าเศร้าเหมือนคนหมดอาลัยตายอยาก โอลาฟเห็นท่าไม่ดีมันเลยพาเดินไปบอกแม่ว่าเจมส์มาหาก่อนที่ทั้งคู่จะพากันขึ้นไปยังห้องนอน  เมื่อมาถึงห้องเจมส์วางกระเป๋าสะพายหลังลงก่อนจะเดินคอตกไปนั่งที่เตียงโดยมีโอลาฟเดินตามหลังและไปนั่งอยู่ข้างๆ  “เจมส์ นี่มึงเป็นไรอะ”  “โอลาฟ ถ้ามึงไม่ว่าไรคืนนี้กูขอค้างกับมึงหน่อยนะ กูไม่อยากอยู่คนเดียว”  “เอิ่มมมก็ ก็ได้แต่นี่มันเกิดไรขึ้นกับมึง ทะเลาะกับพี่เจนอีกรึไง”  เจมส์หันมองโอลาฟก่อนที่น้ำตามันจะเริ่มคลอขอบตาทั้งสองและไหลอาบลงมาที่แก้มทำให้โอลาฟที่ได้เห็นถึงกับใจคอไม่ดี “เห้ยยยเจมส์  นี่มึงเป็นไรอะ”  “โอลาฟจากนี้ไปกูจะทำไงกับชีวิตกูต่อดี  ตลอด 2 ปีที่ผ่านมามันไม่มีความหมายอะไรกับพี่เค้าเลยใช่ไหม”  “เดี๋ยวนะ อย่าบอกนะเจมส์ว่ามึง…”  “ใช่…อย่างที่มึงคิดกูกับพี่โฟรจบกันแล้วล่ะ”  “เฮ้ยยยยย!!! เรื่องเป็นไงเนี่ยยก็เมื่อวานมึงกับพี่โฟร….”  “ใช่กูก็คิดแบบมึง เมื่อวานกับวันนี้…แปลกดีเนาะจะล้มก็ล้มไปซะดื้อๆ ไม่มีอะไรบอกกล่าวสักอย่าง  ทำไมกูต้องมาเจอไรแบบนี้ด้วยทั้งที่กูเองก็ทุ่มเทและจริงใจกับคนที่กูรักมาตลอด”  เจมส์พูดพร้อมทั้งหลั่งน้ำตายิ่งกว่าเก่า  จนโอลาฟที่นั่งตรงหน้าถึงกับน้ำตาคลอตาม “เจมส์  กูเข้าใจหัวอกมึงนะ  ถ้าอยากร้องก็ร้องออกมาให้หมดเลยนะเว้ยยมึงงง  ชีวิตมึงกับกูนี่ก็ไม่ต่างอะไรกันเลยเนาะ เวลามันจะเฮงซวยแม่งก็เฮงซวยไล่เลี่ยกันด้วย”  เจมส์มันได้แต่ร้องไห้ฟูมฟายก่อนโน้มตัวไปกอดโอลาฟตรงหน้าเจมส์ โอลาฟนั่งร้องไห้กันไปเกือบพักใหญ่ก่อนที่ทั้งสองจะมานอนคุยปรับทุกข์กันบนเตียง “เจมส์แกเคยได้ยินไหมว่าเราทุกคนล้วนมีความเป็นเด็กในอยู่ตัว”  “นั่นน่ะสิ ไม่ยักกะเชื่อว่าวันหนึ่งกูต้องมากอดมึงร้องไห้ฟูมฟายยังกะเด็กอนุบาล  นี่กูกับมึงร้องไห้เสียงดังแบบนี้พี่ลีฟกับแม่ปุ้ยมึงไม่สงสัยเลยรึไงนะ” “ไม่สงสัยหรอก แม่ปุ้ยทำงานเปิดทีวีอยู่ข้างล่างคงไม่ได้ยินส่วนไอ้พี่ลีฟช่วงนี้มันเริ่มฝึกงานเลยไปค้างบ้านเพื่อนสรุปบนบ้านนี่ก็มีแค่มึงกับกูนี่แหละ แล้วนี่เรื่องของมึงเป็นมายังไง มึงพอเล่าให้กูฟังได้ยัง”  เจมส์นิ่งเงียบไปพักหนึ่งก่อนจะใช้มือปาดน้ำตาจากตาทั้งสอง “ก็หลังจากที่มึงเล่าเรื่องที่มึงเห็นให้กูฟังเมื่อวานมึงรู้ป่าวว่ากูเก็บไปนอนคิดเกือบทั้งคืน จนหลังเลิกเรียนกูเลยลองแอบขับรถตามพี่โฟรไป กูขับตามไปถึงร้านกาแฟในเมืองและพี่โฟรก็เดินไปนั่งกับผู้หญิงคนหนึ่งที่รอในร้าน  คือกูเองก็พยายามคิดว่าอาจเป็นเพื่อนเก่าหรือคนรู้จักของพี่โฟรกูก็เลยอยู่แถวรอดูจนพี่โฟรกับพี่ผู้หญิงคนนั้นพากันนั่งรถพี่โฟรไปด้วยกัน กูเลยแอบตามต่อมึงรู้ไหมว่าพี่โฟรพาอีพี่คนนั้นไปไหนต่อ”   “ถามกู กูจะรู้ไหมล่ะ เล่าต่อดิ”  “แม่งพี่โฟรพาอีพี่ผู้หญิงคนนั้นไปบ้านเว้ยแบบพากันเข้าไปในบ้านสองคน ซึ่งพอกูแอบไปชะโงกดูที่หน้าต่างนะ แม่งพี่โฟรพาอีผู้หญิงคนนั้นเข้าไปในห้องนอนเลยเว้ย พอเจอเข้าแบบนั้นแหละความคิดกู”  “มองงโลกแง่ดีพี่โฟรกับพี่คนนั้นอาจพากันไปสวดมนต์ในห้องก็ได้”   “ตลกล่ะ นี่ซีเรียสนะมึง”  “ขอโทษ กูแค่อยากให้มึงหัวเราะบ้างน่ะแล้วไงต่อวะเจมส์”  “จะยังไงต่อล่ะกูแม่งรู้งี้ตอนนั้นน่าจะกระโดดถีบอีกพี่ผู้หญิงนั่นไปซะเลย”  “แล้วมึงไมไม่ทำล่ะ”  “ก็ในหัวกูตอนนั้นแม่งอื้ออึงคิดไรไม่ออกเลยเว้ยแม่งคิดได้อย่างเดียว คือกูจะทำไงต่อไป สุดท้ายพอพี่โฟรเปิดประตูบ้านมาเจอกู ก็เลย….วีนแตกชุดใหญ่”  “เดี๋ยวนะมึงวีนแบบนั้นแล้วพี่ผู้หญิงคนนั้นล่ะ” “ก็ไม่อะไรแหละ แค่ยืนมองกูกับพี่โฟรทะเลาะกัน  ท้ายที่สุดกูก็ได้รู้ความจริงทุกอย่างจากปากพี่โฟร”  เจมส์เงียบและใช้มือปาดน้ำตาไปมาอีกครั้งจนโอลาฟที่นอนอยู่ข้างต้องหันไปพูด “เจมส์มึงไม่ต้องเล่าอะไรแล้ว เห็นมึงเป็นแบบนี้กูสงสารมึงว่ะ”  “ไม่…กูจะเล่า  กูไม่อยากอักอั้นอีกแล้ว….จริงๆกูก็เอะใจมาพักใหญ่ล่ะตั้งแต่ก่อนงาน SAE โน่นล่ะว่าพี่โฟรเปลี่ยนไปแต่กูโง่เองแหละที่หลงคิดไปว่าพี่โฟรอาจเหนื่อยและเครียดกับการเรียนเพราะเชื่อใจ มึงก็เห็นใช่ปะว่าที่ผ่านมาพี่โฟรดีกับกูมากแค่ไหน   สุดท้ายกูแม่งก็เป็นได้แค่ศาลาใจ”  “ห๊ะ ศาลาใจงั้นก็แสดงว่า…”  “พี่โฟรกับอีพี่ผู้หญิงนั่นแม่งเป็นแฟนกันอยู่แล้วแต่ทะเลาะมีปากเสียงกัน พี่โฟรเลยห่างจากแฟนและมาคบกับกู แล้วพอพี่ผู้หญิงมาขอคืนดีพี่โฟรเลยตีห่างจากกูเพื่อกลับไปอยู่กับแฟนเหมือนเก่า”   “เชี่ยยย แบบนี้ก็ได้เหรอวะ แม่งไม่น่าเชื่อว่าพี่โฟรจะเชี่ยยขนาดนี้  แต่อย่างน้อยมึงกับพี่โฟรก็คบกันนิแล้วแฟนพี่โฟรเค้าโอเคเหรอที่รู้ว่ามึงกับพี่โฟรคบกัน”   “แฟนพี่โฟรเค้ารับได้ที่พี่โฟรเค้ามาคบกับกู  แถมยังมีหน้าเสนอบอกกูด้วยนะว่าถ้ากูกับพี่โฟรจะไปกันต่อ พี่เค้าก็ไม่ว่าแต่กูจะต้องรับสภาพที่พี่โฟรต้องแบ่งเวลาแบ่งใจมาให้กูและแฟนพี่เค้าไปด้วยกัน”  “เชี่ยแล้วมึงทำไง”  “กูก็ตอกกลับไปแม่งเลยว่า ไม่เอาและกูไม่โอเคกับความสัมพันธ์เหี้ยๆแบบนี้ กูเลยหันถามพี่โฟรไปตรงๆเลยว่า ที่ผ่านมากูคือของเล่นที่เอาไว้ระบายความเงี่ยนใช่ไหม”  “แล้ววววว”  “พี่โฟรไม่ตอบได้แต่เดินหนีกูเข้าห้องไป กูเลยสวดไปชุดใหญ่และออกจากบ้านพี่โฟรมาทั้งอย่างงั้น”  “โหยย ฟังแล้วขึ้นแทนเลยว่ะ  ถ้าเชี่ยซะขนาดนี้มึงเลิกก่อนก็ดีแล้วล่ะ  ดีกว่าคบนานไปแล้วมารู้ทีหลัง  คนแบบนั้นปล่อยๆไปก็ดีแล้ว  ไอ้เราก็นึกว่าพี่เค้าจะดีสุดๆแต่ที่ไหนได้แม่งยิ่งกว่าที่กูคิดเลยว่ะ”  “กูแค่อยากเป็นคนๆหนึ่งที่มีคนรักและอยู่กับกูได้ยามที่กูว้าเหว่ทุกวันนี้กูโคตรเหงาเลยนะมึงรู้ปะโอลาฟ มีพี่สาวก็เหมือนไม่มีพึ่งอะไรก็ไม่เคยได้สักครั้ง   โอลาฟมึงว่ากูควรทำไงต่อดีวะถึงตอนนี้ในหัวกูยังนึกถึงวันดีๆที่กูกับพี่โฟรเคยอยู่ด้วยกันถึงแม้ว่ากูจะรู้ความจริงแล้วก็เถอะ” “ปล่อยมันเจมส์ อยู่กับความเป็นจริง อย่างวันนี้มึงอยากเศร้าก็เศร้ามันให้เต็มที่อยากร้องไห้ก็ร้องมันออกมาให้หมด ตอนนี้อย่าพยายามเก็บและหลอกตัวเองว่าเข้มแข็ง  เพราะยิ่งมึงทำมึงยิ่งอ่อนแอ ตอนนี้ให้มันเป็นไปตามสภาพที่มันเป็นก่อน ช่วงนี้อยู่กับพวกกูอย่าไปไหนคนเดียวและที่สำคัญอย่าเผชิญหน้ากับพี่โฟรเลี่ยงได้เลี่ยง”  “ขอบใจมึงมากโอลาฟถ้าไม่มีมึงป่านนี้กูคงฆ่าตัวตายไปแล้วล่ะ”  “เจมส์..อย่าหาทำเชียวมึงกูขอร้อง ถ้ามึงเห็นว่ากูเป็นเพื่อนรักที่จริงใจต่อมึง มึงอย่าทำอะไรงี่เง่าแบบนั้นรับปากกูนะ”  “เอ่อถ้าเป็นตอนนี้กูไม่คิดทำแล้วล่ะพอได้คุยระบายกับมึงนี่ก็ดีขึ้นเยอะละ แล้วมึงล่ะโอลาฟที่ว่าเฮงซวยไล่เลี่ยกันนี่มันหมายถึง”  “เฮ้อ ก็ไม่มีไรมาก….แค่…กูอกหัก ร้องไห้ เฮิร์ทบ้าๆบอๆเป็นเดือน และก็ถูกเยียวยาจนเริ่มดีขึ้นบ้างงงแล้วก็มานอนเปิดคลับปัญหาหัวใจอยู่กับมึงในตอนนี้ จบบริบรูณ์”  “เดี๋ยวเหอะโอลาฟฟฟนี่ก็สั้นเกิ้นนน ทีกูยังเล่าให้มึงฟังยาวเป็นโยชน์”   “เจมส์…..มึงก็รู้ใช่ปะว่ากูน่ะชอบพี่เฟิร์สมากกก  เพียงแต่ตอนนี้กูไม่ได้รู้สึกกับพี่เฟิร์สแบบนั้นแล้วล่ะ”   “ไมล่ะโอลาฟ เกิดไรขึ้น”  “ก็ไม่มีไรมาก  แค่พี่เฟิร์สเค้าไม่ได้ชอบอะไรอย่างงี้”  “คือพี่เฟิร์สเค้าบอกกับมึงตรงๆเลยเหรอ”  “ใช่ บอกตรงๆต่อหน้าเลยแหละ”  “หืมมอย่าบอกนะว่ามึงไปสารภาพตรงๆกับพี่เฟิร์สว่ามึงชอบพี่เค้า”  “แหมเจมส์กูก็ไม่ได้ด้านขนาดนั้นปะ  กูแค่ลองถามแบบอ้อมๆไปเท่านั้นแต่ผลที่ได้มันก็….ดับฝันกูทันที”  “มึงนี่ก็น่าสงสารเหมือนกันนะอุตสาห์ลงทุนลงแรงต่างๆเพื่อให้ได้เข้าใกล้พี่เฟิร์สจนเกือบจะเอื้อมถึงแต่สุดท้ายก็ดันมาถูกคนที่ชอบตัดไปดื้อๆซะงั้น แบบนี้คงเฮิร์ทน่าดู”  “เฮิร์ทเป็นว่าเล่นเลยแหละเจมส์และที่พีคกว่านั้นคือ ยามที่ไปโรงเรียนหรือทำกิจกรรมต่างๆกับพี่เฟิร์สกูต้องกล้ำกลืนความรู้สึกเฮิร์ทที่ว่าและทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นอยู่ทั้งวัน ต้องเสแสร้งยิ้มร่าเริงทั้งที่ในใจกลับเศร้าอยากร้องไห้สุดๆ จนกว่ากูได้กลับมาถึงบ้านเมื่อนั้นถึงจะได้ปลดปล่อยความรู้สึกออกทั้งหมด”  “แล้วนี่มึงผ่านจุดๆนั้นมาได้ไงไหนลองบอกกูทีดิ๊”  โอลาฟถึงกับยิ้มพลันนึกถึงหน้ายูโรขึ้นมาในหัว “ก็….ถูกเยียวยาใจได้ทันท่วงที”  “ห๊ะ เดี๋ยวๆๆหมายถึงมึงอกหักจากพี่เฟิร์สและก็ไปชอบคนใหม่เลยงี้เหรอ”   “มึงนี่เห็นกูเป็นคนยังไงกันแน่นิ  ไม่ใช่อย่างงั้น กูไม่ได้เป็นฝ่ายไปชอบก่อนนะเพียงแต่พี่เค้าชอบกูมาก่อนหน้านั้นนานแล้วตั้งหาก”  “พี่เค้า??เยียวยา??พี่ยูโร?  นี่มึงคบกับพี่ยูโรอยู่งั้นหรอ”  โอลาฟถึงกับตกใจจนหันมองเจมส์ “รู้ได้ไง??”  “ป่าวววกูแค่พูดไปงั้น แต่สีหน้าและคำพูดมึงตอนนี้กำลังบอกกูว่าใช่”  โอลาฟถึงกับรีบลุกขึ้นนั่งพร้อมเบนหน้าหลบสายตาเจมส์  “ไอ้ยะโอลาฟฟร้ายไม่เบาเลยนะคว้าผู้นัมเบอร์วันของโรงเรียนไม่ได้แต่ก็ไม่วายที่จะไปคว้าผู้นัมเบอร์ทูของโรงเรียนต่อซะงั้นเด็ดวะเด็ด”  “บ้าเจมส์ดูพูดเข้าให้   พี่เค้าเป็นฝ่ายมาชอบกูก่อนนะเว้ยยกูไม่ได้ดิ้นหาพี่ยูโรไรเลยสักอย่าง”   “จ๊ะคุณหนูโอลาฟแต่ตอนนี้ก็คบกันอยู่ไม่ใช่หรอถ้ามึงไม่เล่นด้วยแต่แรกพี่เค้าคงไม่กล้ารุกคืบต่อหรอกนะ”   โอลาฟยังคงยิ้มเขิน “ไม่รู้ ไม่รู้ แต่ที่แน่ๆพี่ยูโรก็ช่วยพากูฝ่าวิกฤตอกหักจากพี่เฟิร์สมาได้”  “แล้วมึงเวลาเจอพี่เฟิร์สมึงยังมีรู้สึกบ้างๆไหมโอลาฟ”  “พอมีบ้างอะนะ แต่ก็ไม่มากเหมือนแต่ก่อนล่ะถึงจะกลับมารู้สึกเหมือนเดิมได้แค่ไหนถึงยังไงพี่เฟิร์สก็คบกับกูไม่ได้อยู่ดี”  “น่าอิจฉามึงเนาะอกหักแต่ยังมีคนมาดามใจแถมยังเป็นคนที่รักมึงจากใจจริงซะด้วย มิน่าล่ะทำไมมึงชอบไปไหนมาไหนกับพี่ยูโรตลอด  คือกูก็คิดว่ามึงกับพี่ยูโรอาจกุ๊กกิ๊กกันแต่ก็ไม่นึกว่าจะเป็นเรื่องจริงเพราะพี่ยูโรเองก็เหมือนเป็นคนเงียบๆดูหยิ่งนิ่งๆ ดูแล้วไม่ค่อยน่าเข้าหาเท่าไหร่”  “อยากบอกว่าที่มึงพูดมาตะกี้นี้หากมึงได้รู้จักกับพี่ยูโรจริงๆนะขอบอกเลยว่าตรงกันข้ามกับที่พูดสุดๆ”  “ถึงยังไงมันก็มีคนอยู่เคียงข้างอะ แต่ตัดมาที่กูในตอนนี้สิไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะเป็นไงต่อไปเลยด้วยซ้ำ”   “เอาน่าของแบบนี้มันใช้เวลาทำใจขอมึงอย่าโทษตัวเองก็พอ คิดซะว่าปล่อยคนที่ศีลเสมอให้อยู่ด้วยกันไป”   “ขอบใจว่ะมึงเป็นคำปลอบใจที่แรงใช้ได้เลย”  “ฮ่าๆ อืมมเจมส์ถามไรหน่อยดิ พี่เฟิร์สหล่อขนาดนั้นมึงไม่ชอบพี่เค้าบ้างหรอ"  "ก็ชอบอยู่นะแต่ถึงยังไงก็ได้แค่ชอบนั่นแหละเพราะยังไงพี่เฟิร์สก็ไม่ได้สนใจกูอยู่แล้วอีกอย่างพี่เฟิร์สกับกูเคมีไม่ตรงกันหลายๆอย่างด้วยกูเลยไม่ค่อยเท่าไหร่กับพี่เฟิร์ส”  “แล้วนี่พ่อกับแม่มึงรู้ยังว่ามึงมานอนค้างบ้านกู”   “อืมมรู้ไม่รู้ ก็ไม่รู้แหละ  แต่กูถือว่าได้บอกล่ะ”  “เอ้ยยยถ้ามึงกลับไปบ้านเดี๋ยวก็โดนอีกอะดิให้กูโทรคุยให้มะ”  “ไม่ต้องโอลาฟช่างมันเรื่องนั้นไว้ทีหลังตอนนี้กูไม่อยากกลับไปไปเจอสภาพเดิมๆที่บ้านน่ะ”  “อ่าโอเคงั้นเดี๋ยวกูลงไปหาไรให้มึงทานก่อนนะถ้ามึงจะอาบน้ำกูมีผ้าเช็คตัวอีกผืนในตู้ อยู่นี่นะเดี๋ยวกูขึ้นมา ดูท่าคืนนี้เราสองคนได้สาธยายกันยาว” เจมส์และโอลาฟนอนคุยเรื่องราวต่างๆของตนเองให้แต่ละฝ่ายได้รับรู้ทั้งเรื่องชีวิตในอดีตชีวิตส่วนตัว และชีวิตในอนาคตว่าจะทำยังไงกันต่อไปบางบทสนทนาก็ทำให้โอลาฟถึงกับน้ำตาคลอทันทีที่ได้รู้ว่าชีวิตของเจมส์นั้นไม่เคยใครเข้าใจตัวจนที่มันเป็นอีกทั้งยังไม่เคยมีความสุขอย่างแท้จริงมาเลยตั้งแต่เด็กจนถึงตอนนี้ก็ยังคงเป็นเช่นนั้น  โอลาฟเลยเข้าใจในเหตุผลว่าทำไมเจมส์ถึงรักพี่โฟรมากขนาดนั้น ทั้งสองนอนคุยกันจนเวลาล่วงเลยไปเกือบตีหนึ่งทำให้โอลาฟที่นอนฟังเจมส์พูดอยู่ได้เผลอหลับไปทั้งแบบนั้น  
            วันเสาร์ที่ 29 กรกฏาคมวันนี้ยูโรได้รับการติดต่อว่าจ้างจากคนที่ติดตามเพจให้ไปถ่ายรูปงานแต่งยังโรงแรมหรูแห่งหนึ่งในตัวเมือง ซึ่งโอลาฟเองก็ไม่พ้นการถูกพาตัวไปช่วยหารค่าจ้างอีกเช่นเคยแต่ทุกอย่างก็ผ่านราบรื่นไปด้วยดีจนกระทั่งเสร็จงานโดยตัวของยูโรเองเห็นว่ายังเหลือเวลาอีกมากที่จะส่งโอลาฟกลับบ้านยูโรเลยเอ่ยปากชวนโอลาฟขับรถเข้ากรุงเทพไปเที่ยวด้วยกันซึ่งตัวของโอลาฟเองก็ไม่ปฏิเสธแต่อย่างใด  ในระหว่างที่ทั้งสองกำลังเดินเอาของไปเก็บไว้ที่รถนั่นเอง  “หูยยยพี่ยูโรโชคดีนะที่ฝนตกก่อนหน้าเราจะกลับ ไม่งั้นมีหวังได้วิ่งลุยฝนไปที่รถแน่เลย”   “นั่นน่ะสิ  แต่ก็ดีแล้วแหละที่ไม่เป็นอย่างที่ว่า”  ยูโรพูดพร้อมเดินนำโอลาฟที่ยังลานจอดรถ  “โอลาฟเดินระวังหน่อยล่ะทางข้างหน้ามีแต่โคลนและตะไคร้เพียบ”  “คร๊าบบบ  งั้นเชิญพี่ยูโรคนเก่งนำเดินเปิดก่อนผมเลยเดี๋ยวผมตามหลัง”  “เอ๊า  เดินด้วยกันจะไม่ง่ายกว่าเหรอ”  “ไม่อะ แทบไปที่จอดรถแคบนิดเดียวขืนเดินตีคู่ด้วยกันมีหวังรองเท้าผมกับพี่เลอะโคลนหมดอะดิ”  “แต่พี่กลัวโอลาฟจะลื่นอะดิอย่างน้อยเดินด้วยกันถ้าใครคนหนึ่งลื่นจะช่วยกันจับไว้ไง”  “ให้พี่ยูโรเดินนำก่อนเลยครับโบราณว่าเดินตามผู้ใหญ่หมาไม่กัดดังนั้นพี่ยูโรอายุมากกว่าผมถ้าผมเดินตามแล้วไม่ลื่นแน่นอน”  “อ่าๆงั้นค่อยเดินตามมาล่ะ”  ยูโรเดินนำโอลาฟไปตามทางแคบที่มุ่งไปยังลานจอดรถหลังโรงแรมซึ่งทางดังกล่าวเต็มไปด้วยโคลนและตะไคร้สีเขียวเฉอะแฉะเกาะตามพื้นกระจายไปทั่วขณะที่ยูโรกำลังก้าวเดินอย่างระมัดระวังพร้อมคุยกับโอลาฟที่เดินตามหลังแต่ทันใดนั้น“เอ้ยยย!! ตุ๊บบบบ!!!” เสียงดังกล่าวทำให้ยูโรรีบหันกลับไปมองหลังด้วยความตกใจ ซึ่งภาพที่มันเห็นตรงหน้าคือโอลาฟลื่นจนลงไปนั่งกับพื้นเลยทำให้เนื้อตัวและใบหน้าซีกขวาโอลาฟเลอะเปื้อนไปด้วยโคลนสีน้ำตาลเข้มและนั่นทำเอายูโรถึงกับยิ้มและขำยกใหญ่  “ฮ่าๆๆๆ เดินตามผู้ใหญ่หมาไม่กัด ไงล่ะได้พอกโคลนชุ่มช่ำไปเกือบทั่วตัว”  โอลาฟทำหน้าเบ้พร้อมกับรีบชันตัวลุกยืนและสะบัดโคลนที่ติดมือใส่ยูโรแต่ยูโรไวตัวและหลบทันควัน “แหน่ๆ ทำตัวเองแล้วยังมาพาลใส่คนอื่นอีกนะ  เนี่ยเห็นไหมเพราะดื้อดึงไม่ฟังพี่นั่นแหละ”  “ไม่ต้องเลยยเดี๋ยวเอาโคลนทาหน้าให้ซะนี่” โอลาฟพูดพร้อมก้มสำรวจคราบโคลนตามเนื้อตัว“มานี่มะเอาถุงใส่ขากล้องมาให้พี่ถือก่อน  หืมมมเลอะหมดเลยแหะ”   “ชุดตัวเก่งผมเลอะหมดเลยไม่ได้ไปล่ะกทม.  ดูท่าคงจะได้ส่งผมกลับอย่างเดียว”  “ใจเย็นไหนๆก็จะแวะเอาพวกกล้องไปเก็บที่บ้านอยู่แล้วเดี๋ยวโอลาฟก็แวะเปลี่ยนเสื้ออาบน้ำล้างตัวที่บ้านพี่เลยดิ”  “แต่ผมไม่มีชุดเปลี่ยนอะดิ  รองเท้าก็ด้วย โหยยอุตสาห์แต่งตัวมาซะดิบดีแม่งงซวยจริงๆวุ้ยยย”  “ดีแล้วที่แค่เลอะอะนี่ถ้าขืนได้เจ็บตัวด้วยแบบนี้จะยิ่งแย่กว่า”  “เจอแบบนี้โคตรไม่ฟรุ้งฟริ้งเลย”  10 นาทีผ่านไปยูโรขับรถพาโอลาฟมายังบ้านของมันก่อนจะทยอยขนเอาพวกอุปกรณ์ถ่ายรูปต่างๆเข้าไปเก็บยังตัวบ้าน ส่วนโอลาฟไม่รอช้ามันรีบดิ่งตัวไปยังห้องน้ำก่อนจะรีบถอดเสื้อผ้าเปื้อนโคลนออกและเปิดฝักบัวล้างตัว  ไม่นานนักโอลาฟเดินถือเสื้อและกางเกงเปื้อนโคลนโยนลงในเครื่องซัก“โอ้โหแหะนึกว่าจะใส่ไม่ได้ซะละดีนะที่แม่พี่ยังเก็บเสื้อสมัยตอนม.ต้นไว้อยู่น่ะ”  โอลาฟถึงกับก้มมองเสื้อที่มันกำลังสวมใส่“แสดงว่าตอนม.ต้นนี่พี่ยูโรคงจะตัวเล็กน่าดู  เพราะเสื้อที่ผมใส่นี่มันพอๆกับตัวผมเลย”  “ก็นะเวลาเปลี่ยนทุกอย่างก็เปลี่ยนตามสภาพ  เอาล่ะขอพี่ไปอาบน้ำมั่งเห็นโอลาฟอาบน้ำแล้วแบบนี้ พี่รู้สึกเหนียวตัวขึ้นมาเลยแหะโอลาฟก็อยู่ห้องรับแขกรอพี่ก่อนนะ พี่เปิดแอร์ไว้ให้ละถ้าอยากกินไรก็ไปหยิบในตู้เย็นเอาล่ะ” “พี่ยูโร ทำไมบ้านพี่ข้างของดูโล่งจัง อยู่กันกี่คนเนี่ย”  “ช่างสังเกตเนาะก็ตามที่เห็นแหละนะบ้านนี้พี่อยู่คนเดียวน่ะ”  “เอ๋ แล้วพ่อแม่พี่ล่ะ”  “ทำงานอยู่ประจวบฯน่ะจะกลับมาก็ช่วงที่มีวันหยุดยาวเท่านั้น” “อืมมมตัวคนเดียวแบบนี้คงเหงาน่าดูอะเนาะ”  “ตัวคนเดียวที่ไหนก็มีหนูน้อยตกโคลนอยู่ด้วยแล้วทั้งคนนะ” “บ้า…รีบไปอาบน้ำเลยไป๊”  ไม่นานนักยูโรที่กำลังแต่งตัวเดินออกมาชะโงกดูโอลาฟที่กำลังยืนทำบางอย่างกับรีโมทแอร์“ทำไรน่ะ”  โอลาฟรีบหันมองด้วยความตกใจ “อะไรกัน!! พี่อาบเสร็จแล้วเหรอ ไวไปไหมน่ะ” “ก็ไม่ได้เปื้อนเหมือนใครบางคนนิน่า  ขัดๆถูๆเสร็จราดน้ำก็พอแล้ว”  “แบบนี้ชักลังเลเรื่องความสะอาดแล้วแหะ  ว่าแต่พี่ยูโรเปิดแอร์เย็นไปหน่อยนะ”  “พี่เปิด 25 องศาเองนะ นี่ยังหนาวอยู่เหรอ” “สำหรับผม 27 องศาคือมาตรฐานทั่วไป”  “โหยยถ้าได้นอนด้วยกันนี่คงได้แยกห้องกันแน่นอนอะ”  ระหว่างที่โอลาฟกำลังยืนปรับแอร์นั่นเองจู่ยูโรเดินมากอดโอลาฟจากทางด้านหลังซึ่งทำให้โอลาฟถึงกับยืนนิ่งด้วยความตกใจ “พี่ยูโรจะทำอะไรน่ะ”  “ก็กอดไง”  “ม่ายหมายถึงมากอดผมทำไมอะ”  “ก็หนาวไม่ใช่เหรอพี่กำลังช่วยโอลาฟตัวอุ่นขึ้นนะ”  นับเป็นช่วงเวลาหลายปีที่โอลาฟไม่ได้สัมผัสอ้อมกอดอันแสนอบอุ่นนี้มาเนิ่นนานครั้งสุดท้ายที่มันยังพอนึกย้อนได้คือช่วงประถม 3 ที่แม่ปุ้ยของมันได้โอบกอดในวันเกิดสุดหรูนั่นเลยทำให้อ้อมกอดของยูโรจึงกลายเป็นเสมือนสิ่งที่ย้ำเตือนว่าครั้งหนึ่งตัวของมันเคยรักและชอบในความอบอุ่นจากอ้อมกอดเช่นนี้   โอลาฟมันเลยปล่อยให้ยูโรยืนกอดมันอยู่เช่นนั้นพร้อมกับแอบยิ้มด้วยความสุข  “พี่ยูโรปล่อยผมได้แล้วล่ะผมอุ่นขึ้นแล้วครับ”  ยูโรที่ได้ยินเช่นนั้นมันเลยคลายมือทั้งสองที่โอบกอดตัวโอลาฟไว้ออกจากกันพร้อมกับหันมองตามโอลาฟที่เดินหลบสายตาไปนั่งยังโซฟาก่อนที่ยูโรจะเดินตามไปนั่งลงตรงข้างอีกคน  “โอลาฟพี่รู้นะว่าการจะลืมใครสักคนเป็นเรื่องยากแต่ถ้าอันไหนที่โอลาฟไม่ชอบหรือมันดูเป็นการบีบบังคับไป พี่อยากให้โอลาฟบอกพี่ตรงๆได้ป่าว  อย่างน้อยพี่จะได้รู้ว่าอันไหนที่ควรทำหรือไม่ควรทำ  ดีกว่าเงียบแล้วมานั่งให้อีกฝ่ายเดาผิดเดาถูก”  “พี่ยูโรตลอดที่ผ่านมาพี่ดีกับผมมาโดยตลอดเวลาผมมีปัญหาอะไรพี่ก็จะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือผมเกือบทุกครั้ง  จริงๆชีวิตผมน่ะยังไม่เคยมีใครดีกับผมมากขนาดนี้เลยด้วยซ้ำ  ผมยอมรับว่าตอนนี้ผมยังเด็กผมคงทำอะไรให้พี่ยูโรได้ไม่มากแต่วันหนึ่งถ้าผมโตขึ้นผมรับปากว่าผมจะตอบแทนพี่ยูโรทุกอย่างแน่นอนครับ”  ยูโรยิ้มและเอื้อมมือซ้ายมาจับหัวโอลาฟ “พี่ดีใจนะที่โอลาฟคิดแบบนั้น แต่ตอนนี้มีสิ่งหนึ่งที่โอลาฟทำเพื่อพี่ได้”  “อะไรเหรอครับพี่ยูโร” ยูโรเลื่อนมือลงมาทาบยังหน้าอกโอลาฟ “หัวใจของโอลาฟมีพื้นที่ว่างพอจะให้พี่เข้าไปเติมเต็มได้อยู่ไหมครับ”  โอลาฟยิ้มกลับ “หัวใจดวงนี้ถูกแทนที่ด้วยคำว่ายูโรหมดแล้วนะ”  ยูโรที่ได้ยินเช่นนั้นถึงกับโน้มริมฝีมือไปจูบหน้าผากโอลาฟก่อนจะถอนใบหน้ามาสบตา  “จากนี้ไปพี่จะทุ่มเทให้โอลาฟโดยไม่ลังเลแล้วนะ”   โอลาฟไม่พูดมันได้แต่พุ่งเอาหน้าไปหอมแก้มอันขาวเนียนของยูโรก่อนที่มันจะสวมกอดเข้าที่หน้าอก “ตัวพี่ยูโรหอมจังเลยครับ พี่กอดผมเหมือนเมื่อกี้อีกรอบได้ไหม ผมชอบเวลาที่พี่กอดผมนะ”  ยูโรได้แต่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ด้วยความปลื้มปิติดีใจจนไม่อาจบรรยายออกมาด้วยคำพูดมันเลยโอบกอดโอลาฟไว้แน่น  ทั้งสองกอดกันๆอยู่พักใหญ่ก่อนที่ยูโรจะผละตัวมามองใบหน้าขาวอมชมพูของโอลาฟและด้วยแววตาอันอ่อนโยนโอลาฟที่จ้องไปยังนัยน์ตาของยูโรนั่นเลยทำให้ยูโรเลื่อนริมฝีปากของมันไปประกบเข้ากับริมฝีปากโอลาฟทันทียูโรค่อยๆกดตัวโอลาฟนอนลงบนโซฟาโดยที่ปากยังคงประกบกันอยู่ ทั้งสองจูบแลกลิ้นกันไปมาจนเกิดเป็นเสียงหายหายฟืดดฟาดดดท่ามกลางห้องอันเงียบสงัด  สัมผัสริมฝีปากอันนุ่มนิ่มและอวบอิ่มบวกกับกลิ่นสบู่หลังอาบน้ำจากตัวยูโรทำให้โอลาฟที่บรรจงด้วยปากอยู่นั้นรู้สึกฟินสยิวอย่างคาดไม่ถึงด้วยความใคร่ที่เริ่มก่อตัวมากขึ้นโอลาฟเลยตัเสินใจจับตัวยูโรที่คล่อมตัวจูบมันอยู่ให้พลิกลงไปอยู่ในท่านอนหงายแทนพร้อมกันนั้นโอลาฟเอามือเลิกชายเสื้อของยูโรขึ้นเผยให้เห็นผิวขาวอันเรียบเนียนและกล้ามหน้าท้องนูนขึ้นมาเป็นลอนหน่อยๆโอลาฟไม่รอช้ารีบซุกจมูกลงไปดมที่หน้าอกโอลาฟ “ทำไมตัวพี่ยูโรมันช่างหอมแบบนี้นะ”  ยูโรที่นอนหงายถึงกับชันตัวขึ้นมามองโอลาฟที่กำลังสูดดมแผ่นหน้าอกไปมา  “มันคือกลิ่นของคนที่รักโอลาฟมากๆไงมันเลยต้องหอมสิ”  โอลาฟไม่พูดได้แต่เอาจมูกถูกไปมาอย่างแบบนั้นจนใบหน้าของมันเลื่อนไปยังหัวนมสีชมพูอ่อนก่อนจะใช้ริมฝีปากดูตอดหัวนมซ้ายไปมาช้าๆ และนั่นทำให้ยูโรถึงกับสะดุ้งงึกด้วยความเสียวจนมันต้องสูดหายใจเข้าลึกๆ และปล่อยยาวช้าๆโอลาฟที่ดูดตอดหัวนมอยู่แอบชำเลืองสายตามองบนซึ่งมันเห็นยูโรนอนหลับตาเม้มปากด้วยความฟิน  โอลาฟที่เห็นเช่นนั้นมันเลยเลื่อนริมฝีมือจากหัวนมซ้ายลงมาเลียยังหน้าท้องไม่นานนักริมฝีปากของมันค่อยๆเลื่อนต่ำลงไปตามท้องน้อยที่มีไรขนอ่อนขึ้นๆอยู่จนไปชนกับขอบกางเกงยีนส์ โอลาฟเลยใช้สองมือปลดกระดุมพร้อมทั้งรูดซิปออกเผยให้เห็นกางเกงในสีครีมที่มีท่อนลำแข็งตัวตุงเป็นก้อนอยู่ในนั้นโอลาฟไม่รอช้ารีบใช้มือจับล้วงงัดเอาท่อนลำออกจากใต้กางเกงในขึ้นมายลโฉมซึ่งภาพท่อนลำที่ว่าทำให้โอลาฟถึงกับอึ้งในขนาด 5 นิ้วครึ่งของท่อนลำที่ตรงตระง่านพร้อมปลายหัวสีแดงอ่อนที่โผล่พ้นหนังหุ้มปลายออกมาเล็กน้อยโอลาฟมองและนึกในใจ “หืมมของพี่ยูโรนี่ก็ใหญ่ยาวไม่เบาเลยแหะ”  โอลาฟจ้องมองท่อนลำตรงหน้าชั่วครู่มันเลยใช้นิ้วเข้าไปจับและร่นหนังหุ้มปลายลง “หืมมไม่เหม็นเลย ขี้เปียกก็ไม่มีด้วยแหะ แถมปลายหัวแดงๆนี่ยังอวบใหญ่จริงๆ”  โอลาฟเลยใช้มือชักขึ้นลงช้าๆท่อนลำดังกล่าวถึงกับกระตุกเกร็งสู้มือทันที ยูโรได้แต่นอนสูดลมหายใจเข้าออกยาวๆด้วยความตื่นเต้น สักพักยูโรมันสัมผัสได้ถึงบางสิ่งที่อุ่นๆนิ่มๆสากๆตวัดลากผ่านไปหัวของมันไปมาเลยทำให้ยูโรที่นอนๆอยู่ชักหัวขึ้นมาดูตรงท่อนลำของมันซึ่งภาพที่เห็นคือโอลาฟกำลังก้มใช้เลียบรรจงเลียไปมาเหมือนเลียแท่งไอติมและนั่นทำให้ยูโรถึงกับวาบหวิวไปทั่วตัวและหัวใจ มันเลยลงไปนอนรอสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไป โอลาฟก้มเลียให้ยูโรไปได้พักใหญ่จนปลายหัวท่อนลำดังกล่าวมีน้ำลื่นๆใสใหลซึมออกมาปะปนอยู่กับน้ำลายโอลาฟมันเลียอยู่ได้พักใหญ่ก่อนที่จะใช้ริมฝีปากดูดส่วนหัวเข้าปากไปจนเกือบมิดลำพร้อมออกแรงดูดขึ้นลงยูโรถึงกับกระตุกตัวด้วยความเสียวที่จู่โจมชุดใหญ่จนมันเผลอร้องคราง อ่าหหหห  ออกมา  รสสัมผัสท่อนลำยูโรที่อยู่ในปากมันช่างเต่งตึงเต็มปากอยากที่โอลาฟเคยอมให้กับพี่ชายของมันในครั้งนั้นถือเป็นรสสัมผัสที่ทำให้โอลาฟหวนคิดถึงความสุขอันน่าเร้าใจในเซ็กส์ครั้งแรกและนั่นก็กลายเป็นแรงกระตุ้นให้โอลาฟตั้งใจใช้ปากสร้างความสุขให้กับยูโรอย่างถึงที่สุดส่วนยูโรเองนั่นถึงกับบิดเกร็งหน้ากัดฟันด้วยความเสียวซ่านแผดไปทั่วร่างกาย “อ๊ากกกกก ซีดดด เสียววววว ซีดดดด เสียววมากโอลาฟ”  น้ำเสียงกระเส่าที่พูดพร้อมทั้งกัดฟันแม้จะฟังไม่ค่อยรุ้เรื่องแต่นั่นก็ทำให้โอลาฟเข้าใจด้วยความรู้สึกว่ายูโรกำลังพอใจกับสิ่งที่มันทำอยู่โอลาฟเลยตวัดลิ้นดูดเน้นย้ำไปที่ส่วนปลายด้วยริมฝีปากเพราะมันรู้ดีจากประสบการณ์ที่ผ่านมาว่าจุดเสียวของผู้ชายดังกล่าวคือบริเวณนั้น  “อ๊ากกกกอ๊ากกกโออออลาฟฟฟฟ”  ยูโรร้องครางแทบขาดใจพร้อมทั้งพยายามเอามือมาดันหัวโอลาฟเป็นช่วงๆแต่นั่นก้ไม่ทำให้โอลาฟยอมถอนปากออกแต่อย่างใดแต่มันกลับเร่งจังหวะฝีปากและแรงดูดของมันให้หนักหน่วงยิ่งกว่าเก่า จนท้ายที่สุดยูโรนอนครางเสียวด้วยความสุขปนความทรมาณจนมันเริ่มเกร็งไปทั่วร่างมันเลยรีบชันตัวพร้อมเอาสองมือจับจับหัวโอลาฟไว้มั่น “แฮ่กๆๆโอลาฟพอก่อนครับพอก่อน”  โอลาฟถอนปากออกและลุกขึ้นมาอยู่ในท่านั่งขัดสมาธิพร้อมกับจ้องมองใบหน้ายูโรที่แดงเรื่อลงไปถึงคอก่อนจะก้มลงไปมองท่อนลำที่ยังแข็งชี้โด่อยู่เบื้องล่าง  “หยุดไมล่ะพี่ยูโรอีกนิดเดียวจะเสร็จแล้วนะ”  “ก็เพราะว่ามันจะเสร็จนั่นแหละพี่เลยห้ามไว้ก่อน พี่ยังไม่อยากรีบเสร็จน่ะพี่ยังอยากเสียวกับโอลาฟต่ออีกนะ” “ยังไงอะครับ” ยูโรยิ้มมุมปากก่อนจะจับตัวโอลาฟมานอนหงายลงบนเตียงพร้อมกับใช้สองมือจับข้อมือโอลาฟแต่ละข้างกดแนบกับโซฟาโอลาฟถึงกับหน้าเหวอด้วยความตกใจ  “ก็ทำแบบนี้ไง”  ไม่ทันที่โอลาฟจะได้พูดตอบกลับ ยูโรรีบก้มเอาหน้าไปซุกเข้าที่ต้นคอโอลาฟทันทีพร้อมกับใช้ริมฝีปากดูดตอดไปมา  โอลาฟที่โดนเช่นนั้นถึงกับดิ้นไปมายกใหญ่ “อึยยยยพี่ยูโรอย่าทำงั้นสิ มันจั๊กจี้อะ ฮ่าๆ ไม่เอ้าพี่ยูโรผมจั๊กจี้จั๊กจี้”  ยูโรไม่สนใจในคำพูดโอลาฟแต่อย่างใดมันได้แต่ตั้งหน้าก้มไซร้คอไปมา  โอลาฟมันดิ้นไปมาแต่ก็ไม่อาจสู้แรงของยูโรที่จับกดมือทั้งสองล็อกไว้กับโซฟา  “พี่ยูโรอย่าดูดคอผมแบบนั้นสิเดี๋ยวมันจะเป็นรอยแดงให้คนอื่นเห็น พี่ยูโรรรรอะ”  ยูโรถึงกับหยุดชะงักไปชั่วครู่ก่อนที่มันจะเงยหน้าขึ้นมาส่งยิ้มให้กับโอลาฟ “โอลาฟชอบปะครับ”  “ม่ายยยมันจั๊กจี้จะตาย”  “งั้นห็พี่ลองทำอีกอย่างนะพี่ยังไม่เคยลองทำกะใครมาก่อนเหมือนกัน” “อะไรไรอีกอะพี่ยูโร”  “ขอพี่ลองเข้าข้างหลังนะครับ”  “อืออพี่ยูโรไม่ทำได้ไหมอะผมกลัวเจ็บอะ”  ยูโรรีบโน้มตัวลงมาจูบโอลาฟอีกครั้ง“อย่ากลัวในสิ่งที่เรายังไม่เคยลองสิ บางทีมันอาจไม่ได้เป็นอย่างที่โอลาฟคิดก็ได้นะ”  “แต่ของพี่ยูโรมันใหญ่อะเวลาเอาเข้าไปมันต้องเจ็บแน่ๆ”  “ถ้าเรื่องนั้นพี่จะค่อยๆทำครับ ถ้าโอลาฟไม่ไหวบอกให้พี่หยุดได้  นะครับโอลาฟคนเก่ง ตอนนี้พี่เงี่ยนเหลือเกินขอให้พี่ได้เป็นฝ่ายทำให้โอลาฟมั่งให้แต่โอลาฟทำให้พี่เสียวอยู่ฝ่ายเดียวมันไม่แฟร์เลยใช่มะ”  โอลาฟนิ่งไปชั่วขณะก่อนมันจะพยักหน้าตอบกลับเบาๆด้วยความรู้สึกกล้าๆกลัวๆ ยูโรมันจับโอลาฟนอนคว่ำพาดกับขอบโซฟาที่มันนั่งอยู่ก่อนหน้า  จากนั้นยูโรจึงถลกกางเกงลงไปยังขาเผยให้เห็นผิวส่วนล่วงของโอลาฟที่ขาวเรียบเนียนจนชวนให้หลงใหล  “ผิวโอลาฟจริงๆเลยนะรู้ป่าวยังกะผิวของผู้หญิงเลย แถมก้นยังจ่ำม้ำน่าบีบเล่นอีก” ยูโรพูดพร้อมเอามือทั้งสองไปจับบีบแก้มก้นซึ่งนั่นทำให้เอาโอลาฟถึงกับตกใจทันทีที่ถูกฝ่ามือเย็นๆมาจับเข้าที่ก้นโอลาฟที่ยังคงกล้าๆกลัวมันยังคงหันมาชำเลืองมองยูโรนั่งชักเข่าพร้อมกำลังทาบางสิ่งลงไปบนท่อนลำมัน  “พี่ยูโรทำไรอยู่น่ะ”  “พี่ลองเอาน้ำหล่อลื่นจากถุงยางมาทาตรงนั้นพี่น่ะเวลาเอาเข้ามันจะได้ไม่ฝืดจนโอลาฟเจ็บไง เอานะโอลาฟอย่าเกร็งตัวนะครับตอนเอาพี่เอาเข้า”  ยูโรใช้มือซ้ายจับสะโพกโอลาฟไว้และใช้อีกมือจับท่อนลำไปจ่อรูก้นก่อนจะออกแรงดันสะโพกจนหัวท่อนลำดังกล่าวค่อยมุดเข้าไปยังกล้ามเนื้อหูรูดสีชมพูอ่อนและทันทีที่หัวท่อนลำยูโรมุดเข้ารูก้นมาโอลาฟถึงกับกัดฟันร้องออกมาเบาๆด้วยความคับตึงของขนาดท่อนลำที่พยายามมุดแทรกตัวเข้ามาภายใน “อึยยยยยยพี่ยูโรรรรมันตึงงจนจุกอ่ะ”  ยูโรเงียบพร้อมพยายามดันท่อนลำให้แทรกตัวเข้าไปเรื่อยๆจนเกือบมิดลำและแช่คาไว้แบบนั้นก่อนจะค่อยๆโยกตัวดึงออกมา“ทนหน่อยนะครับ ครั้งแรกนี้พี่จะทำให้ดีที่สุดครับ”  ยูโรเดินท่อนลำกลับเข้าไปอีกครั้งก่อนจะเริ่มจับสะโพกและเริ่มโยกเข้าออกช้าๆ  “อืมมมซีดดดเสียวเหมือนกันแหะก้นโอลาฟนี่ฟิตแน่นดีโคตร อืมมมซีดดดอ่าหหห”  โอลาฟมันยังคงกัดฟันด้วยความจุกแน่น ณ เบื้องล่างไม่นานนักความรู้สึกดังกล่าวค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นความเสียวเพิ่มขึ้นมาทีละนิดๆจนมือทั้งสองที่บีบกำไว้ก่อนหน้าปล่อยคลายออก “พี่ยูโรรรทำไมถึงงงถึงงงอึยยยยอึยยยยย เสียววววอะครับ”   “พี่ก็เสียวเหมือนกันนะโอลาฟฟ อืมมมมม”  ยูโรเพิ่มจังหวะซอยเข้าออกเร็วขึ้นเร็วขึ้นจนเกิดเสียงกระทบกันของแก้มก้นและท้องน้อย ปั๊บๆๆๆๆ ดังถี่ขึ้น “อือออพี่ยูโรครับอืออออพี่ยูโร” ปั๊บๆๆๆๆ  “โอลาฟคนเก่งของพี่ อืมมมมซีดดดด”  เสียงครางของทั้งสองดังล่อล้อกับเสียงกระทบกันของแก้มก้นและท้องน้อยไปทั่วบ้าน โอลาฟที่นอนพาดโซฟาและยูโรที่นั่งชันเข่าซอยอยู่ ณ เบื้องล่าง  ทั้งสองถึงกับเสียวแผดซ่านไปทั่วร่างเลยทำให้อารมณ์ของทั้งสองคล้อยตามกันด้วยความเพลิน เคลิ้ม และฟินไปพร้อมๆกัน  ไม่นานนักสองมือของยูโรที่จับสะโพกโอลาฟอยู่นั้นจู่ๆมันออกแรงบีบตัวพร้อมกับจังหวะที่เนื้อตัวเริ่มเกร็ง “โอลาฟฟฟ พี่ขอนะ” สิ้นเสียงพูดยูโรกระตุกตัวพ่นของเหลวเข้าสู่ภายในจนโอลาฟถึงนอนพาดอยู่รู้สึกถึงความอุ่นของของเหลวดังกล่าวที่อยู่ในภายก้นมันเป็นจำนวนมาก ยูโรถึงกับหอบหายใจเหมือนคนที่เพิ่งผ่านวิ่งมาราธอนมาหมาดมันยังคงแช่ท่อนลำที่แข็งใหญ่คาไว้แบบนั้นครู่หนึ่งก่อนที่มันจะดึงออกแล้วลงไปนั่งพิงขอบโซฟาอยู่ข้างโอลาฟส่วนโอลาฟมันได้แต่เอามือมาจับรูก้นของมันสำรวจหาความผิดปกติจากนั้นมันเลยดึงกางเกงขึ้นมาสวมพร้อมกับลงไปนั่งเอาหัวซบไหล่ขวายูโรทั้งคู่ต่างพากันนั่งเงียบไม่พูดไม่จาเหลือทิ้งไว้แต่เสียงลมหายใจเข้าออกที่ดังวนซ้ำไปมา  พร้อมกันนั้นโอลาฟเลื่อนมือซ้ายขึ้นไปกุมมือขวายูโรไว้แน่น
            ในขณะเดียวกันที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งนอกตัวเมือง  “พี่นกแก้วคะหนูยอมแล้วค่ะพี่ปล่อยหนูไปเถอะนะคะ หนูกลัวแล้ว  หนูไม่ได้เป็นกิ๊กกับพี่ปาร์คจริงๆ”  “อ๋อเหรอ  จะปากแข็งจนวินาทีสุดท้ายเลยสินะ อะน้องก้อยแหกตาดูคลิปนี่ซะแล้วช่วยหาข้อแก้ตัวดีๆให้พี่ฟังหน่อยว่าอีร่านที่มันแอบเย็ดกับไอ้ปาร์คแฟนเพื่อนพี่มันใช่เอ็งรึป่าว หรือจะให้สังคมโซเชียลช่วยตัดสินดีว่าอีผู้หญิงในคลิปนี่มันเป็นใครชื่ออะไร….ไงทีงี้ทำมาเป็นเงียบน้ำตาไหลเชียวนะน้องก้อย  เด็กม.3 อย่างน้องนี่ก็เปรี้ยวไม่เบาเชียวนะไล่เย็ดแฟนคนอื่นไปซะทั่ว”  “พี่นกแก้วคะ หนูขอร้องเถอะค่ะ หนูยอมรับก็ได้ค่ะว่าคนในคลิปคือตัวหนูเอง แต่พี่อย่าเอาคลิปนี่ไปเผยแพร่เลยนะคะไม่งั้นแม่หนูเอาหนูตายแน่ค่ะ”   “เอ๊ะๆ ไม่ใช่พี่ที่จะเป็นคนตัดสินเรื่องนี้  น้องก้อยพี่จะสอนอะไรไว้อย่างนะ  คนเราล้วนต้องเผชิญกับผลการกระทำของตัวเองเสมอ”  นกแก้วพูดพร้อมกับเดินถือโทรศัพท์ที่มีคลิปออกจากห้องไป  “อะไอซ์อีนั่นมันยอมสารภาพล่ะ  แกก็ไปเคลียร์กับมันซะให้จบๆจะตบจะตีก็อย่าให้เสียงดังส่วนหลักฐาน ฉันส่งให้ในไลน์เธอแล้วนะจะได้ใช้ต่อรองกับอีนั่นได้”  “ขอบคุณนกแก้ว ฉันต้องขอบคุณแกจริงๆฉันนับถือแกจริงๆเลยที่เค้นจนมันยอมสารภาพ ก่อนหน้านี่กูลองมาเกือบทุกวิธีแล้วแต่มันก็ยังตีหน้าซื่อว่าไม่ได้ทำ”  “อื้มมไปจัดการซะ ส่วนไอ้ไอ้ปาร์คแฟนมึงมึงไปเคลียร์กันเองนะ กูไม่อยากซ้อมผู้ชายน่ะ”  “จ๊ะนกแก้ว” ไอซ์พูดพร้อมกับเดินกำโทรศัพท์เข้าไปหาก้อยในห้องดังกล่าว   “ไงไอ้ครอส กูต้องขอบใจมึงมากที่หาคลิปหลักฐานมัดตัวอีน้องก้อยจนมันยอมจำนนเดี๋ยวค่าจ้างกูจะบอกไอซ์โอนให้หลังเสร็จงาน”  “นกแก้วกูว่าถ้าจะสั่งสอนน้องก้อยเค้าก็อย่ารุนแรงได้ไหมเดี๋ยวเป็นเรื่องขึ้นมามันจะลำบากเอาน่ะ” “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับกูถ้ามึงห่วงก็ไปบอกไอซ์ที่มันกำลังจัดการอีน้องก้อยในห้องซะสิที่จริงมันก็สมควรโดนทั้งสองนั่นแหละทั้งไอ้ปาร์คและอีน้องก้อยนี่ถ้าไอ้ปาร์คไม่เป็นแฟนไอซ์เพื่อนกูล่ะก้อ แม่งก็ไม่รอดตีนกูเหมือนกัน  มึงไม่ต้องห่วงกูหรอกไอ้ครอสงานของมึงแค่หาข่าวและข้อมูลมาก็แค่นั้น…เห้ยแปปหนึ่งเว้ยไอ้ครอส….ฮัลโหลว่าไงนวล??....มีไรเหรอเป็นไร…..เฟย์น้องเธอน่ะเหรอ….อ่าวใครไปทำไรให้มัน….อืมๆๆได้ เห้ยแกไม่ต้องเครียดเว้ยนวล เอ่อๆตกเย็นเราแวะเข้าไปหาเธอนะ”   ครอสที่ยืนฟังถึงกับทำหน้าสงสัย“มีอะไรเหรอนกแก้ว นวลมันเป็นไร”  “ป่าวหรอกนวลไม่ได้เป็นไรแต่น้องสาวมัน เฟย์ที่อยู่ม.4/5 มึงรู้จักอยุ่แล้ว  มันเหมือนจะเป็นโรคซึมเศร้า”  “เดี๋ยวนะนกแก้วน้องเฟย์เนี่ยนะป่วยเป็นซึมเศร้า เห้ยน้องเค้าออกจะแฟรนลี่ อารมณ์ดีซะขนาดนั้น  ตอนงาน SAE น้องเฟย์เค้ายังมาคุยเล่นกับกูอยู่เลย”  “ใช่ แต่นวลมันบอกว่าหลังจากงาน SAE นั่นน้องสาวของยัยนวลก็เริ่มซึมลง และเก็บตัว มึงว่ามันแปลกๆปะ”  ครอสยืนนิ่งเงียบพร้อมทำหน้าฉงวนคิด  “ไอ้ครอสต้องมีใครไปทำอะไรน้องเฟย์แน่นอน ไม่งั้นน้องเฟย์คงไม่เป็นแบบนั้น  เรื่องนี้กูว่ามึงต้องตามสืบแล้วว่ะว่ามันเกิดไรขึ้น ไอ้ครอสเรื่องนี้เรื่องใหญ่สำหรับกูนะน้องของยัยนวลสุดที่รักกูก็เสมือนน้องของกูเช่นกัน  งานนี้กูจ่ายมึงเต็มที่  สืบข่าวมาให้กู เก่งๆอย่างมึงไม่เกิน 3 วันน่าจะรู้แล้วนะไอ้ครอส”  “เอ่อๆเดี๋ยวไงกูจะลองใช้เครือข่ายข่าวสารของกลุ่มนักเรียนดูก่อนนะถ้าตัวการเป็นคนในโรงเรียนน่าจะตีวงให้แคบได้ไม่ยาก”  นกแก้วถึงกับยิ้มมุมปากด้วยความดีใจก่อนจะเดินไปหาผู้ชายผมเกรียนตัวค่อนข้างสูงล่ำยืนสูบบุหรี่หลังพิงรถกะบะที่จอดอยู่ด้านนอก  “จิมมี่  ดูท่ามีคนกล้าลูบคมกูอีกแล้วว่ะ”  จิมมี่หันมาพร้อมกับพุ่นควันบุหรี่ใส่หน้านกแก้ว  “ใครอีกล่ะวะนั่น”  “ตอนนี้กูกำลังจะให้ไอ้ครอสตามสืบเรื่องอยู่”  “นึกว่าจบเรื่องกิ๊กของไอ้ปาร์คแล้วกูจะได้พัก”  “ยังก่อนจิมมี่นี่เรื่องสำคัญมากเพราะมีคนทำให้น้องสาวยัยนวลต้องเป็นโรคซึมเศร้า”  “ว้าดูท่างงานนี้คงจบไม่สวยว่ะ”  “ถ้าไอ้ครอสรู้ตัวว่ามันเป็นใครหากเป็นผู้หญิง กูจะจัดการเอง แต่หากเป็นผู้ชายหรือพวกกระเทย เกย์ กูมอบหมายมึงและกูขอสั่งให้มึงจัดหนักได้เลย”   “ถ้างั้นกูขอเพิ่มเงินนะนกแก้วเรื่องนี้ต้องมีคนช่วยลดความเสี่ยงคดีความว่ะ ดูท่างานนี่กูคงต้องใช้กลุ่มนักเลงหลังตลาดด้วย”  “พวกนั้นมันจะกล้ารับงานนี้เหรอจิมมี่”  “รับสินกแก้วไอ้พวกนั้นมันหิวเงินไว้พี้ยาพี้เหล้าอยู่แล้ว  ยิ่งจ่ายงามมันยิ่งไม่ปฏิเสธหรอก”  “เอาตามนั้นฝากมึงจัดการส่วนนี้ด้วย อย่าเผลอทำร้ายถึงตายล่ะ”
ไว้มาต่อครับ  
เนื้อหาตอนที่ 7 ตามลิงค์ http://www.g4guys.com/forum.php?mod=viewthread&tid=143207&fromuid=155129

ดูบันทึกคะแนน
   laser พลังน้ำใจ +13 Zenny +270

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
1118
พลังน้ำใจ
25645
Zenny
11339
ออนไลน์
4478 ชั่วโมง

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
4533
พลังน้ำใจ
21758
Zenny
7002
ออนไลน์
935 ชั่วโมง
ขอบคุณครับ

มาเฟียคุมคณะ

โพสต์
11613
พลังน้ำใจ
65783
Zenny
10286
ออนไลน์
14219 ชั่วโมง
ขอบคุณมากเลยครับ

เจ้าพ่อมหาลัย

โพสต์
42102
พลังน้ำใจ
213889
Zenny
84809
ออนไลน์
15336 ชั่วโมง
สนุกมากครับ

เจ้าพ่อมหาลัย

โพสต์
27926
พลังน้ำใจ
153972
Zenny
157829
ออนไลน์
26556 ชั่วโมง
ขอบคุณ

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
3060
พลังน้ำใจ
30077
Zenny
3877
ออนไลน์
2162 ชั่วโมง

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
572
พลังน้ำใจ
12585
Zenny
5076
ออนไลน์
978 ชั่วโมง

ประธานนักศึกษา

โพสต์
1065
พลังน้ำใจ
7727
Zenny
132
ออนไลน์
342 ชั่วโมง
ชอบ

มาเฟียคุมคณะ

โสด สุดดดด

โพสต์
11439
พลังน้ำใจ
66017
Zenny
23813
ออนไลน์
10652 ชั่วโมง
Every cloud has a silver l

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
4762
พลังน้ำใจ
33779
Zenny
2034
ออนไลน์
1233 ชั่วโมง
ขอบคุณ​

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
1716
พลังน้ำใจ
20800
Zenny
1913
ออนไลน์
909 ชั่วโมง
ขอบคุณ

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
1360
พลังน้ำใจ
10206
Zenny
6286
ออนไลน์
885 ชั่วโมง

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
3614
พลังน้ำใจ
33319
Zenny
7612
ออนไลน์
5319 ชั่วโมง
ขอบคุณครับ

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
1315
พลังน้ำใจ
23269
Zenny
4049
ออนไลน์
2516 ชั่วโมง
ไม่อยากให้โอลาฟเป็นอะไรเลยครับ สงสาร
ดูบันทึกคะแนน
   laser Zenny +200

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
1510
พลังน้ำใจ
11107
Zenny
715
ออนไลน์
934 ชั่วโมง
ขอบคุณครับ

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
8729
พลังน้ำใจ
48186
Zenny
27366
ออนไลน์
1981 ชั่วโมง
มาดูกัน

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
1980
พลังน้ำใจ
15819
Zenny
136
ออนไลน์
633 ชั่วโมง
ขอบคุณ

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
1576
พลังน้ำใจ
16207
Zenny
1815
ออนไลน์
714 ชั่วโมง
ขอบคุณครับ

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
1716
พลังน้ำใจ
20800
Zenny
1913
ออนไลน์
909 ชั่วโมง
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | สมัครเข้าเรียน

รายละเอียดเครดิต

A Touch of Friendship: สังคมจะน่าอยู่ เมื่อมีผู้ให้แบ่งปัน ฝากไวเป็นข้อคิดด้วยนะคะชาวจีโฟกายทุกท่าน
!!!!!โปรดหยุด!!!!! : พฤติกรรมการโพสมั่วๆ / โพสแต่อีโมโดยไม่มีข้อความประกอบการโพส / โพสลากอักษรยาว เช่น ครับบบบบบบบบ, ชอบบบบบบบบ, thxxxxxxxx, และอื่นๆที่ดูแล้วน่ารำคาญสายตา เพราะถ้าท่านไม่หยุดทีมงานจะหยุดท่านเอง
ขอความร่วมมือสมาชิกทุกท่านโปรดโพสตอบอย่างอื่นนอกเหนือจากคำว่า ขอบคุณ, thanks, thank you, หรืออื่นๆที่สื่อความหมายว่าขอบคุณเพียงอย่างเดียวด้วยนะคะ เพื่อสื่อถึงความจริงใจในการโพสตอบกระทู้ และไม่ดูเป็นโพสขยะ
กระทู้ไหนที่ไม่ใช่กระทู้ในลักษณะที่ต้องโพสตอบโดยใช้คำว่าขอบคุณ เช่นกระทู้โพล, กระทู้ถามความเห็น, หรืออื่นๆที่ทีมงานอ่านแล้วเข้าข่ายว่า โพสขอบคุณไร้สาระ ทีมงานขอดำเนินการตัดคะแนน และ/หรือให้ใบเตือนสมาชิกที่โพสขอบคุณทันทีที่เจอนะคะ

รูปแบบข้อความล้วน|โทรศัพท์มือถือ|ติดต่อลงโฆษณา|จีโฟกายดอทคอม


ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บจีโฟกายดอทคอมนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ หากท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศิลธรรม ไม่เหมาะสมที่จะเผยแพร่ ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link “แจ้งลบโพสนี้” ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือ ลืมพาสเวิดล๊อกอิน/ลืมชื่อที่ใช้สมัคร หรือข้อสงสัยใดๆแจ้งมาที่ G4GuysTeam[at]yahoo.com ขอขอบพระคุณที่ให้ความร่วมมือ

กรณีที่ข้อความ/รูปภาพในกระทู้นี้จัดสร้างโดยผู้ลงข้อมูลเอง ลิขสิทธิ์จะเป็นของผู้ลงข้อมูลโดยตรง หากจะทำการคัดลอก/เผยแพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ลงข้อมูลก่อนนะคะ หรือลงที่มาไว้ด้วยค่ะ

©ขอสงวนสิทธิ์คอนเซ็ปต์,คำอธิบาย,หัวข้อ/หมวดหมู่เว็บ ห้ามลอกเลียนแบบ คิดเอาเองนะคะอย่าเอาแต่ลอก

GMT+7, 2024-5-5 06:05 , Processed in 0.147743 second(s), 30 queries .

Powered by Discuz! X3.1 R20140301, Rev.31

© 2001-2013 Comsenz Inc.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้