จีโฟกาย.คอม

 ลืมรหัสผ่าน
 สมัครเข้าเรียน
ค้นหา
 
ดู: 1542|ตอบกลับ: 44
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป
ซ่อนแถบด้านข้าง

รักเร่ร่อน...ของคนจรจัด20 bymod-cup

[คัดลอกลิงก์]

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
2897
พลังน้ำใจ
30142
Zenny
63968
ออนไลน์
7515 ชั่วโมง
เร่ร่อน20





หนึ่งปีผ่านไป


คนเล็ก!


ผมหันไปมองตามเสียงเรียก


แฮ่กมาอยู่นี่เองเจ้าของเสียงวิ่งย่ำเหยาะลงบนเนื้อทรายสีขาวละเอียดก่อนหยุดปลายเท้าลงตรงหน้าพี่ตามหาให้ทั่ว


พี่ไมล์นั่งลงข้างๆ และทันทีผมก็เอนศีรษะซบไหล่ที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามของพี่ชายคนรอง เอามือจับๆตรงกล้ามเนื้อแขนเล่นพี่ชายใครน้าหุ่นก็ล่ำหน้าก็หล่อ


ก็...เบื่อตามด้วยถอนหายใจอีกเฮือกให้รู้ว่าเบื่อจริงๆ


ไอ้คุณจริตนั่นมาตอแยอีกแล้วเหรอ


เขาชื่อประกิตต่างหาก


ก็นั่นแหละแล้วใช่อย่างที่พี่พูดไหม


อืมผมพยักหน้า คุณประกิตหรือคุณปรนเป็นลูกชายเจ้าของห้างสรรพสินค้าชื่อดังของจังหวัดชลบุรี และเป็นลูกค้ารายใหญ่ของบริษัท น้ำปลารสเอก จำกัดของพวกเราด้วย


เมื่อห้าเดือนก่อนผมเจอกับคุณปรนจากการไปประชุมเรื่องการจัดโปรโมชั่นของสินค้า และก็นั่นแหละ...ไม่รู้ว่าส่วนไหนของผมไปกระแทกตาเข้าเลยตามจีบผมอย่างออกนอกหน้าประหนึ่งผมเป็นหญิงสาวสวยหยาดเยิ้ม


ได้ข่าวว่าผมเป็นผู้ชายและเขาก็เป็นผู้ชาย ดีนะที่ครอบครัวผมรับรู้เรื่องรสนิยมทางเพศของผมแล้ว ไม่อย่างนั้นคงต้องเป็นลมล้มพับกันแน่ๆที่มีผู้ชายมาตามจีบคนเล็กของบ้าน


เขาก็ดูจริงใจหน้าตาก็ดี ทำไมถึงไม่ชอบล่ะหืมม


พี่อยากให้น้องคบกับเขาเหรอ


ก็ไม่อ่ะพี่หมั่นไส้มัน เก๊กหล่อ


เขาก็หล่อจริงๆนิ


แน๊! แล้วที่นั่งอยู่ตรงนี้หล่อสู้ไม่ได้ตรงไหนพี่ไมล์ผลักศีรษะผมที่วางบนไหล่อย่างน้อยใจผมเลยใช้สองมือยึดเอาไว้แน่น พลางขืนศีรษะไว้สุดฤทธิ์แล้วพูดจาเอาใจพี่ชายขี้ใจน้อย


ใครจะมาสู้พี่ชายของผมได้ล่ะคนเนี้ยหล่อที่สุดแล้วแล้วพี่ชายบ้ายอจะต้านทานไปไหนได้นอกจากนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อย่างหลงตัวเอง


เปิดใจบ้างนะคนเล็กแล้วยิ้มกว้างของผมก็ค่อยๆหุบลงเรื่อยๆเมื่อน้ำเสียงจริงจังแฝงความห่วงใยอย่างชัดเจนกับฝ่ามือหนาอบอุ่นที่เอื้อมมาลูบศีรษะผมอย่างอาทรตั้งแต่เรากลับบ้านมาก็เอาแต่ก้มหน้าก้มตาทำงานกับหมกตัวอยู่กับบ้าน หรือไม่ก็มานั่งเหม่อลอยอยู่ที่หาดบอกตามตรงว่าพี่เป็นห่วง ออกไปเที่ยวเล่นเปิดหูเปิดตาใครเข้ามาดูไว้บ้างก็ไม่เสียหาย ถึงพี่จะหวงน้องแต่ก็ไม่อยากให้เกาะคานไปจนตายหรอกนะ


ถึงท้ายประโยคจะแฝงความหยอกเย้าเอาไว้แต่โดยรวมแล้วมันกลับกระทบความรู้สึกบางอย่างตีตื้นเข้ามาในอกจนต้องกดมันให้ลึกลงไปสุดใจเช่นเดิม


น้องยังไม่อยากมีแฟนนี่นาอยากอยู่กับพ่อแม่พี่ชายไปอีกนานๆอีกอย่างยังไม่อยากให้พ่ออายที่ควงผู้ชายเข้าบ้าน


หึๆ ก็พูดไปเรื่อย ป่ะ กลับบ้านกันดีกว่าหาดจะปิดแล้ว แม่รอกินข้าวเย็นด้วยพนักพิงจำเป็นของผมลุกพรวดขึ้นก่อนดึงแขนฉุดให้ผมลุกตาม ใช้อีกมือปัดก้นเอาเม็ดทรายที่ติดกางเกงออก แล้วเดินจูงมือกวัดแกว่งกันไปขึ้นรถ พอถึงก็ปล่อยมือแยกกันขึ้นรถคนละคันของใครของมัน


รถเบนซ์สีดำขลับของพี่ไมล์ขับออกไปแล้ว ส่วนผมยังนั่งอยู่ในรถนิสสันมาร์ชสีขาวคันเดิม สองมือที่จับพวงมาลัยปล่อยลู่ลงอย่างคนหมดแรงพร้อมกับแผ่นหลังที่เอนพิงบนเบาะอย่างเหน็ดเหนื่อย


...
คิดถึงเขาอีกจนได้...


หลังจากผ่านเหตุการณ์อันเลวร้ายในคืนนั้น ช่วงสายของวันรุ่งขึ้นจิ่นตั้งก็พาผมมาส่งยังคอนโดหลังจากที่คุณเฟยหลงเข้าไปพักในโรงแรมแล้ว


หนึ่งสัปดาห์ต่อจากนั้นผมยังจำได้ถึงความทรมานในห้องสี่เหลี่ยมที่อบอวลไปด้วยความทรงจำของเราสอง หลอกหลอนผมแม้ยามหลับตื่น จะหนีไปก็ไม่ได้เพราะต้องเก็บตัวอยู่ในห้องเพื่อรักษาแผลตามร่างกายของตัวเองให้หายดีก่อน ขืนออกไปทั้งอย่างนี้ชาวบ้านคงตื่นตระหนกกับคนอวดผีที่ตามร่างกายเต็มไปด้วยแผลพุพองและผิวหนังสีน้ำตาลย่นจากรอยไหม้


แล้วตัวคนเดียวอย่างนี้จะไปพึ่งพาใคร บอกที่บ้านก็ไม่ได้อีกสุดท้ายก็ได้ไอ้ปอนด์กับพิณมาคอยดูแล พิณน่ะไม่เท่าไหร่ช่วยดูแลป้อนข้าวป้อนยาปกติ แต่ไอ้ปอนด์นี่สิเจอหน้าผมก็ก่นด่าไปถึงบรรพบุรุษของเขาซ้ำยังจะบอกทางครอบครัวผมให้ได้


ผมต้องขอร้องอ้อนวอนแล้วระเบิดความอัดอั้นอีกรอบพร้อมหลั่งน้ำตามันถึงจะยอม


แล้วหลังจากสภาพร่างกายผมหายดีบวกกับละอายใจเกินกว่าจะกลับเข้าไปทำงานในบริษัทอีก แน่ล่ะ...หายไปร่วมครึ่งเดือน จึงตัดสินใจกลับบ้านที่พึ่งพิงทางใจเดียวของผมเข้าไปกราบเท้าพ่อแม่ กอดพี่ชายทั้งสองแม้ทุกคนจะสงสัยในท่าทีของผม แต่ก็ไม่คาดคั้น มีแต่ความยินดีกับการกลับบ้านของผมในครั้งนี้...ความยินดีที่แผ่ออกมาให้อุ่นซ่านไปทั้งหัวใจ


แล้วผมก็เข้าไปช่วยงานที่บริษัทน้ำปลารสเอก กิจการหลักของครอบครัวใช้ชีวิตเรื่อยๆอย่างเรียบง่าย แม้ในบางช่วงเวลาจะรู้สึกเจ็บปวดที่หัวใจแต่ชีวิตก็ต้องดำเนินต่อไป และต้องดำเนินต่อไปอย่างมีความสุข...ผมบอกตัวเองเช่นนั้น...สักวัน...สักวันผมต้องมีความสุขให้ได้อย่างแท้จริง...


...
ถึงแม้เวลาหนึ่งปีที่ผ่านมามันจะยังไม่พอจะเยี่ยวยาก็ตามที...


ไม่ใช่ผมปิดกั้นตัวเอง...แต่จะให้ผมทำเช่นไร เมื่อความรู้สึกผิดมันเกาะกุมหัวใจเมื่อคิดจะเปิดใจให้ใครสักคนเข้ามา...รู้สึกผิดกับคนที่มีใจเมื่อข้างในผมยังมีใครอีกคนจับจองอยู่ทั่วทุกตารางพื้นที่...รู้สึกผิดกับเขาคนนั้นถ้าผมจะรับใครเข้ามาแทนที่...เพราะแม้เขาจะทำเลวกับผมแต่สิ่งดีๆก็มีก็มากมายเช่นกัน


ถึงจะคอยเตือนว่าเรื่องระหว่างเรามันจบไปแล้ว...จบไปนานแล้ว...แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าลึกๆในใจผมยังรู้สึกว่าตัวเองเป็นของเขาอยู่เช่นเดิม...


...
ผมมันน่าโง่จริงๆ


นั่งนิ่งรวบรวมแรงใจอยู่สักระยะผมจึงติดเครื่องยนต์หมุนควงพวงมาลัยเพื่อกลับบ้าน  


เมื่อก้าวขาเข้ามาในบ้านบรรยากาศอบอุ่นก็โอบล้อมรอบตัวผมให้ความอึดอัดในใจคลายตัวลง ผมสามารถยิ้มได้ หัวเราะได้ มีชีวิตที่ดีต่อไปได้ก็เพราะพวกเขา...ครอบครัวของผม





เป็นเช้าอีกวันที่ตื่นขึ้นมาเพราะเสียงข้อความบอกอรุณสวัสดิ์และแจกันดอกไม้บนโต๊ะทำงาน ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าบุคคลที่ส่งมาก็คือคนเดียวกับเจ้าของข้อความหวานเลี่ยน...คุณปรณ


ผมถอนหายใจพลางนั่งลงบนเก้าอี้ สองมือเอื้อมไปเตรียมจะย้ายแจกันดอกไม้ไปไว้มุมโต๊ะเพื่อให้ทำงานได้สะดวก แต่ก็ต้องชะงักเมื่อดอกไม้ในวันนี้แปลกตาไป


ทุกวันจะเป็นดอกกุหลาบ ลิลลี่ สีขาว ชมพู สลับกันไป แต่วันนี้เป็นดอก...forget me not สีม่วง...และภาชนะที่ใส่ก็ไม่ใช่แจกันอย่างทุกที ถ้าสังเกตดีๆมันคือกระถางเซรามิกสีขาวเพ้นท์ลาย ด้านในเป็นดินวิทยาศาสตร์สีชมพูหล่อเลี้ยงต้น forget me not ให้เจริญเติบโต


ตึกตัก ตึกตัก


ไม่รู้ทำไมเมื่อจ้องมองหัวใจถึงได้เต้นแรงอย่างที่ไม่เคยเป็น


บ้าสิ!เพ้อเจ้อกันไปใหญ่แล้ว!


เลิกฟุ้งซ่านบ้าบอแล้วทำงานซะ!!


แต่ก็ไม่รู้ทำไมตลอดทั้งวันสายตาผมถึงได้เอาแต่เหลือบมองช่อดอกสีม่วงอยู่เสมอ แถมเลิกงานตอนกลับบ้านยังหอบหิ้วมาด้วยทั้งที่ทุกครั้งจะเก็บเข้าไว้ในตู้กระจกของห้องทำงาน


คงเพราะความมีชีวิตของมันที่ทำให้ผมทิ้งขว้างไม่ลง


เมื่อเลี้ยวรถเข้ามาจอดในรั้วบ้านก็ต้องแปลกใจกับรถจิ๊บล้อโตคันสีขาวที่จอดอยู่ ใครมานะ?? เพราะส่วนมากบ้านผมมักไม่ค่อยมีแขกมาในเวลาเลิกงานสักเท่าไร


แม่ครับใครมาเหรอ


แขกของพ่อน่ะจ้ะพอดีพ่อเขาเกิดอุบัติเหตุนิดหน่อย


แล้วพ่อเป็นอะไรมากไหมครับ!!ผมถามอย่างตกใจเพราะโดยปกติพ่อเป็นคนขับรถระมัดระวังไม่เคยเหยียบคันเร่งเกินแปดสิบ ไม่ฝ่าไฟแดง ไม่แซงซ้ายมีความเสี่ยงน้อยมากที่จะเกิดอุบัติเหตุ ถ้าเป็นพี่เมตรพี่ไมล์ก็ว่าไปอย่างสองคนนั้นทำตรงข้ามทุกอย่างที่กล่าวมา


ใจเย็นๆพ่อเขาไม่เป็นอะไรหรอก แต่คู่กรณีนี่สิ...แม่ถอนหายใจหนึ่งเฮือก หมาเขาวิ่งตัดหน้ารถพ่อเรา ตอนนี้พาไปหาหมอมาแล้ว พอดีเขาเป็นชาวต่างชาติมาเที่ยวน่ะลูกเลยพามาพักที่บ้านเราก่อน


แล้วหมาเป็นอะไรมากไหมครับ


เห็นว่าขาหน้าหักต้องใส่เฝือกอ่อนแต่โดยรวมก็ปลอดภัยดี


เฮ้อ โล่ง ไม่รู้สิคงเพราะผมเคยเลี้ยงสุนัขด้วยมั้งเลยอ่อนไหวกับเรื่องนี้เป็นพิเศษ


งั้นผมไปอาบน้ำก่อนนะเหนียวตัวมากเลย


จ้ะเดี๋ยวลงมาทานข้าวเย็นกัน


ครับแม่ขอหอมทีผมชะโงกหน้าเข้าไปหอมแก้มนิ่มของมารดาฟอดใหญ่ก่อนขึ้นมาบนห้อง


ผมเดินเอากระถางต้นไม้น้อยๆมาวางไว้บนโต๊ะข้างหัวเตียง หลังจากนั้นก็เข้าไปอาบน้ำคลายความเมื่อยล้า ออกมาเลือกเสื้อผ้าที่ดูสุภาพสวมใส่ แน่ล่ะ วันนี้ที่บ้านมีแขกจะให้ใส่เสื้อยืดย้วยๆกับกางเกงขาก๊วยก็กระไรอยู่ เกรงใจแขกพ่อนิดนึงเนอะ


อ้าว พี่เมตรไม่กินข้าวเหรอครับผมหยุดถามพี่ชายคนโตที่เดินสวนขึ้นบันไดมา อีกฝ่ายส่งยิ้มบางพลางส่ายหน้าด้วยท่าทางเหนื่อยอ่อนพร้อมกับยกมือขยี้หัวผมทักทายและเดินขึ้นห้องไป


สงสัยวันนี้งานจะหนัก


หงิง หงิง


สองขาที่กำลังจะก้าวผ่านห้องนั่งเล่นไปยังห้องอาหารหยุดชะงักลงเมื่อได้ยินเสียงประหลาดแว่วเข้าหู สายตามองเข้าไปในห้องก็ไม่เห็นมีอะไรสงสัยหูจะฝาด


แต่แค่ขยับปลายเท้ายังไม่ทันพ้นก้าว


หงิง


ไม่ฝาดแล้วล่ะ! ของจริงเลย!เสียงสุนัขอยู่ในห้องนั่งเล่น!


ผมตัดสินใจเบนทิศทางจากเดิมเปลี่ยนเป็นเดินเข้าไปในห้องนั่งเล่นก่อนจะพบสุนัขตัวโตนอนอยู่บนโซฟา ขาหน้าข้างซ้ายมีสิ่งแปลกปลอมสีขาวพันอยู่คาดว่าน่าจะเป็นเฝือกตามคำบอกเล่าของแม่


ที่แท้ก็สุนัขของแขกพ่อนี่เอง


ผมทรุดตัวลงนั่งยองข้างโซฟาพร้อมกับส่งมือเข้าไปลูบลำตัวเจ้าตัวโตที่นอนนิ่งส่งเสียงครางหงิงๆ โถคงเจ็บน่าดู...ขนสีดำเงางามลื่นมือบ่งบอกว่าเจ้าของคงดูแลอย่างดี ผมระบายยิ้มออกมาเมื่อเจ้าหมาตัวนี้พานให้คิดไปถึงเจ้าตี๋น้อยของผม มันก็ตัวใหญ่มีขนสีดำแบบนี้เหมือนกัน จะต่างกันก็ตรงสุนัขตัวนี้ไม่มีขนสีขาวรอบดวงตาเป็นเจ้าตาแต้ม


หงิง


มะไม่สิ!! มือไม้ผมสั่นขึ้นมาทันทีเมื่อเจ้าตัวที่นอนนิ่งอยู่ในคราแรกลืมตาขึ้น พร้อมส่งเสียงหงิงเหมือนทักทายปนออดอ้อน ลำตัวที่นอนตะแคงข้างพลิกหงายชูสี่ขาขึ้นด้านบนเผยให้เห็นอีกเสี้ยวหน้าที่ซ่อนอยู่ในฟูกของโซฟา


ตาแต้มสีขาวที่คุ้นตาทำให้ขาผมอ่อนแรงจนทรุดลงไปนั่งพับเพียบอยู่บนพื้นพรมสองตาเบิกมองกว้างอย่างตกใจ


หงิง


มันส่งเสียงอีกครั้งพร้อมใช้ดวงตากลมใสจ้องมองขณะที่หางกระดิกฟาดกับโซฟาส่งเสียงเป็นจังหวะ


ตุบ ตุบ


ผมเม้มปากแน่น มือสั่นระริกเผลอขยุ้มขนนุ่มมืออย่างไม่รู้ตัว ความรู้สึกหลากหลายปะทุเข้ามาในจิตใจไม่...ใจเย็นๆคนเล็ก สุนัขอาจจะมีลายซ้ำกันก็ได้เหมือนชิสุ โกลเด้นฯ หรือแม้แต่หมาวัดก็ยังเหมือนๆกันเลยอย่าคิด อย่าตกใจ


สะกดจิตให้สติตัวเองกลับมาแล้วสูดหายใจเข้าลึกหลายๆที มองไปทางเจ้าหมาเจ็บด้วยสายตาอ่อนลง คลายแรงมือที่ขยุ้มขนเปลี่ยนเป็นลูบปลอบเบาๆอย่างสำนึกผิด


ขอโทษน้าเจ็บไหม พี่นี่แย่เนอะ


หงิงฮ่าๆมันตอบผมด้วยล่ะ มันฟังผมรู้เรื่องใช่ไหม


คนเล็กทานข้าวลูก


ครับแม่ผมขานรับเสียงที่ดังมาทางหน้าห้องนั่งเล่นลูบหัวเจ้าหมาเจ็บสองทีเบาๆก่อนลุกเดินมายังห้องอาหาร


ห้องอาหารวันนี้ก็มีพ่อนั่งตำแหน่งหัวโต๊ะเช่นทุกวัน ถัดไปทางด้านขวาเป็นพี่ไมล์ตรงข้ามกันเป็นแม่และถัดมาจากแม่ ผู้ชายตัวใหญ่ที่นั่งหันหลังอยู่คงเป็นแขกของพ่อ


อ้าว คนเล็กนั่งสิลูก


ครับผมยิ้มแหยๆเมื่อรู้ตัวว่าเสียมารยาทยืนค้ำหัวแขก จึงเดินอ้อมไปอีกด้านของโต๊ะเพื่อนั่งเก้าอี้ข้างพี่ไมล์ ความจริงเก้าอี้ตัวนี้เป็นที่ประจำของพี่เมตร แต่วันนี้คุณพี่ท่านงดข้าวเย็นผมเลยจัดการยึดชั่วคราวซะเลย


ครืด


กึก


โครม!


สองมือที่กำลังยกเก้าอี้ลากออกมาพลันอ่อนแรงหลุดมือตามมาด้วยเสียงโครมของเก้าอี้ที่ล้มหงายตึงลงไป แต่ตอนนี้สมองผมไม่รับรู้สิ่งรอบตัว หูอื้ออึงอย่างไม่สามารถมีเสียงอันใดสะท้อนเข้ามาได้ เหมือนจู่ๆลูกกระเดือกก็ขยายใหญ่อุดตันหลอดลมจนจะพูดก็ลำบากหายใจก็ไม่สะดวก จะมีก็เพียงดวงตาทั้งสองข้างที่ทำงานดีเยี่ยมถึงมองเห็นใบหน้าคมคร้ามสันกรามได้รูปของแขกของพ่อได้ชัดเจนนัก


...
ใบหน้าเดียวกับที่ประทับอยู่ในหัวใจผมตลอดมา...


คนเล็กเป็นอะไรลูกเสียงของแม่เรียกให้ผมรู้สึกตัวก่อนกระพริบตาเพื่อให้มั่นใจว่าผมไม่ได้มองผิดไป


...
ใช่ เขาจริงๆ...


ขะขอโทษครับ ผะผมซุ่มซ่ามไปว่าแล้วก็รีบก้มลงจัดการกับเก้าอี้ แต่มื้อไม้ก็สั่นเกินกว่าจะยกมันตั้งขึ้นมาได้ สุดท้ายก็ทำมันหลุดมือให้ส่งเสียงโครมครามอย่างไม่น่าฟัง


มาพี่ช่วยเป็นอะไรน่ะเราสุดท้ายพี่ไมล์ก็มาช่วยแล้วจับไหล่ผมทั้งสองข้างเพื่อช่วยประคองให้นั่งลงบนเก้าอี้...ตรงข้ามกับเขา


นะน้องไม่เป็นไรผมบอกปัดเมื่อพี่ไมล์เริ่มเข้ามาลูบหน้าลูบตาอังหน้าผากเสมือนผมเป็นไข้จนพ่อต้องตัดบทนั่นแหละถึงจะยอมหยุด


พอแล้วสองพี่น้องนี่ พ่อมีแขกอยู่อย่าเสียมารยาทสิ


แหะๆขอโทษครับ เออนี่...เดี๋ยวพี่แนะนำแขกพ่อให้รู้จักคุณตี๋ใหญ่เป็นคนฮ่องกง ฮ่าๆตลกเนอะมันต้องชื่อจีนๆไม่ใช่เหรอ ทำไมชื่อตี๋ใหญ่ ฮ่าๆ


ไมล์


อุ้ย ขอโทษครับ แต่ผมสงสัยจริงๆนี่พี่ไมล์หันไปขอโทษบุคคลที่กล่าวอ้างว่าตัวเองชื่อตี๋ใหญ่ ขณะที่ผมยังจ้องหน้าเขาอย่างเหม่อลอยผมอยากจะหลบสายตาลุกไปให้ไกลจากตรงนี้หรือไม่ก็ตะโกนด่าให้สาสมกับที่โดนกระทำ แต่ไม่...ไม่เลย...ผมไม่อาจละสายตาตัวเองไปจากใบหน้าเขาได้เช่นเดียวกับหัวใจที่ไม่อาจห้ามความคิดถึงที่ล้นทะลักออกมา


...
ผมยังคิดถึงเขายังรักเขา ไม่น้อยไปกว่าเดิมเลย...


ผมชื่อตี๋ใหญ่ครับ...คนสำคัญผมเป็นคนตั้งให้สายตาคมนิ่งเรียบแฝงประกายมองสบตาอย่างสื่อความหมาย ผมหลบสายตาวูบสองมือกำแน่นอย่างไม่อยากรู้สึกอะไรกับดวงตาคู่คมอีก...ไม่อยากเจ็บปวดอีกแล้ว ถ้ามากกว่านี้...ผมคงต้องเจียนตายจริงๆ ส่วนชื่อเดิมที่เป็นชื่อจีน ผมจำมันไม่ได้แล้วล่ะครับ


คุณตี๋ใหญ่เขาเพิ่งได้สัญชาติไทยมาน่ะเห็นว่าจะย้ายมาอยู่ประเทศไทยถาวร


โกหก


เผาะ!


โหที่แท้ก็ย้ายตามสาวมานี่เอง


ผมอยู่ไม่ได้...อยู่ตรงนี้ไม่ได้แล้วผมห้ามน้ำตา...ความเจ็บปวด...ความสับสน...ไม่ไหวแล้ว...ทนไม่ได้แม้สักวินาทีเดียว


ครืด


ผะผมขอตัวก่อนนะครับเหมือนไม่ค่อยสบายผมลุกขึ้นจากเก้าอี้และวิ่งออกจากห้องอาหารอย่างไม่สนใจอะไรอีก


อ้าวไม่ทานข้าวก่อนเหรอลูก


รู้เพียงแต่ว่า...


เป็นอะไรของเขากัน


ถ้าอยู่ตรงนี้อีกเพียงแค่เสี้ยววินาที...


หรือว่าไอ้คุณปรณมันทำอะไรคนเล็ก!!


อีกแค่นิดเดียว...


เหลวไหลน่าตาไมล์


...
ผมคงไม่อาจเข้มแข็งฝืนทนความเจ็บปวดกดเก็บความรวดร้าว ต่อต้านความคิดถึงได้อย่างแน่นอน...ผมไม่อยากให้เขาเห็นความอ่อนแอ...


และที่สำคัญผมไม่อยากให้เขารู้...ว่ายังรักเขาอยู่


ไม่ว่าเขาจะมาปรากฏตัวด้วยจุดประสงค์อันใด...ความบังเอิญหรือตั้งใจ...สุดท้ายทางของเราสองคนก็ไม่อาจมาบรรจบกันได้อีก




ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึก ยกมือขึ้นกุมขมับเพราะรู้สึกปวดหัวจี๊ดหนังตาหนักอึ้งจนแทบลืมไม่ขึ้น ความมืดที่ปกคลุมไม่เป็นผล...ผมยังรู้สึกแสบตาเช่นเดิม


คงเป็นผลจากการร้องไห้อย่างหนักเมื่อช่วงหัวค่ำ


ผมพยุงร่างกายตัวเองลุกขึ้นนั่งร่างกายรู้สึกอ่อนแรง...ไม่ ผมต้องเข้มแข็ง


ในเมื่อมันไม่ใช่ความฝันอย่างที่ภาวนาให้เป็นผมก็ต้องอยู่กับความเป็นจริงได้อย่างแข็งแกร่งที่สุด


เพราะฉะนั้นถึงจะไม่รู้สึกหิวเลยสักนิดแต่ผมก็ประคองตัวเองลงไปในครัวเปิดตู้เย็นเพื่อหาน้ำเปล่าและนมจืดดื่ม


หมับ


อ๊ะ!แก้วนมหลุดมือผลจากความตกใจที่ถูกคุกคามจากกอดทางด้านหลัง แต่มือปริศนาก็รับมันไว้ได้ทันก่อนจะตกแตกบนพื้นแล้วจัดการวางไว้บนเคาน์เตอร์ครัวโดยที่แรงกอดรัดยังไม่คลายลง


ส่วนผมเมื่อรู้สึกตัวได้ก็ดิ้นสุดแรงแต่ขนาดตัวเท่าลูกแมวหรือจะไปสู้คนตัวเท่ายักษ์ได้


ปล่อย!! อ๊ะผมเบี่ยงหน้าหลบเมื่อปลายจมูกอีกฝ่ายจรดลงบนลำคอลมหายใจร้อนผ่าวรินรดเรียกให้ผมดิ้นรนหนีจากการคุกคามมากขึ้น


คุณเล็ก...เสียงทุ้มต่ำส่งเสียงผะแผ่วโหยหาปลายจมูกหยุดรุกไล่คุกคามแต่ยังกดแช่ทิ้งไว้ให้สัมผัสได้ถึงลมหายใจกรุ่นไออุ่น


ลมร้อนที่ทำให้ผมหยุดดิ้น สองมือที่พยายามปัดป่ายจิกแน่นลงบนข้อมือหนาที่โอบรัดช่วงเอว ตัวผมสั่นสะท้านเมื่อรู้สึกถึงบางอย่างที่กำลังจะพังทลายลง


“...
ผมคิดถึงคุณผมถูกจับตัวหมุนหันหน้าเอาหาอีกฝ่าย เสี้ยววินาทีต่อมาใบหน้าในแสงสลัวก็โน้มลงมาแนบชิด สายตาที่ห่างเพียงปลายจมูกกั้นจ้องมองมาอย่างลึกซึ้งโหยหา ยามที่หัวใจผมโยกคลอนคำเอ่ยเอื้อนก็เปล่งออกมาจากริมฝีปากหยักลึกที่เสียดสีกันผะแผ่วตอกย้ำให้หัวใจผมเพิ่มเป็นสั่นไหวอย่างรุนแรง “...คิดถึงที่สุด


จุ๊บ


จากนั้นริมฝีปากอุ่นร้อนก็ประกบลงมาอย่างหนักหน่วงทว่านุ่มนวล บดขยี้เค้นคลึงตักตวงความหอมหวานจากผมไปอย่างไม่มีทีท่าจะสิ้นสุด ลิ้นร้อนสอดแทรกแหวกกลีบปากเข้ามาเกาะเกี่ยวสอดรัดเข้ากับลิ้นหยุ่นของผมให้ความรู้สึกกำซ่านทั่วโพรงปากลามแผ่ไปทั่วสรรพางค์กายพร้อมกับกวาดต้อนน้ำบ่อน้อยกอบโกยเข้าชิมรสอย่างไม่รู้จักพอ


ขณะเดียวกันผมก็ได้แต่ยืนนิ่งรับสัมผัส ไม่โต้ตอบ ไม่ผลักไสหรือแม้แต่ห้ามปรามฝ่ามือร้อนที่เริ่มคุกคามไปตามร่างกาย ทำได้เพียงใช้นัยน์ตามองเปลือกตาสีเข้มเบลอเบือนที่ปิดสนิทเนื่องจากเคลิบเคลิ้มกับสัมผัสวาบหวาม อีกทั้งน้ำตาที่พยายามกลั้นไว้แต่สุดท้ายก็ยังคลอหน่วงรอบหน่วยตายิ่งทำให้ภาพตรงหน้าไม่ชัดเจน


เขาจะรู้บ้างไหมนะว่าสัมผัสของเขาทำให้ผมรู้สึกเจ็บปวดมากเช่นไร...จูบของเขาเสมือนยาพิษที่ถึงแม้รสชาติปรับให้หอมหวานนุ่มลิ้นแต่สุดท้ายก็พรากลมหายใจไปอย่างช้าๆ...ฝ่ามือที่ลูบไล้เปรียบดังมีดปลายแหลมคมกรีดลึกลงบนเนื้อหนังให้เจ็บแสบทรมานไปทั่วร่างกาย


ผ่านไปนานแสนนานความขมขื่นแสนวาบหวามก็จบลง


คุณเล็ก...ใบหน้าคมถอนออกพร้อมกับเปลือกตาเปิดปรือขึ้น ฝ่ามือที่ประคองท้ายทอยเลื่อนขึ้นมากอบกุมใบหน้าพลางใช้ปลายนิ้วโป้งเกลี่ยหยาดน้ำตาบนผิวแก้มให้อย่างอ่อนโยน


ผม...


พอใจหรือยัง


“...”


ถ้าพอใจแล้วก็ไปสักทีกลับที่ของนายไปได้แล้ว!!ผมพูดเสียงเรียบเย็นชาไม่ได้ตวาดหรือตะคอกแต่อย่างใด


เขารั้งผมเข้าไปกอดแน่นอีกครั้ง


ผมจะไม่ไปไหนอีกแล้วที่ของผมคือข้างๆคุณ ผมขอโทษ ขอโทษสำหรับทุกสิ่ง คุณฟังผมอธิบายก่อนนะ...


ถามฉันสักคำหรือยังว่าฉันต้องการหรือเปล่าผมพูดแทรก ซึ่งก็เพียงพอให้เขาหยุดเสียงลง ผมจึงออกแรงดันแผ่นอกกว้างซึ่งคราวนี้เขาก็ยอมปล่อยแต่โดยดี


ฉันไม่ได้ต้องการนายแล้ว...คุณจิ่นสือจบคำผมก็ดันเขาออกให้พ้นทางแล้วเดินจากมา


ผมไม่เชื่อหรอกนะว่าคุณจะเลิกรักผมแล้ว


ปลายเท้าผมชะงักลงแต่ก็ไม่คิดจะหันหลังกลับไป


รักงั้นเหรอ มันไม่ได้สำคัญอะไรอีกแล้วล่ะผมกลืนก้อนสะอื้นลงคอพร้อมกับเค้นเสียงที่ตรงกับหัวใจผมออกมาเพราะมันลบล้างกันไม่ได้เลยกับการทรยศหักหลัง


ใช่แล้วล่ะ...ต่อให้ผมรักเขามากมายแค่ไหน เราก็กลับมาคบกันไม่ได้อยู่ดี...เพราะผมคงเชื่อใจเขาไม่ได้อีกต่อไป แล้วการอยู่อย่างหวาดระแวงมันจะมีความสุขได้เช่นไร


แม้แต่ประโยคที่ว่าเขาจะกลับมาอยู่ข้างๆกันผมยังไม่ปักใจเชื่อเลย...ผมไม่มีทางเชื่อว่าเขาจะทิ้ง คนๆนั้นเพื่อมาหาผมได้


มันก็คงเหมือนกับทุกครั้งที่สุดท้ายแล้วคนโดนทิ้งก็คือผมอยู่ดี...





คิดว่าคำพูดของผมเมื่อคืนมันจะทำให้เขาถอดใจหรือเปล่า...ขอตอบเลยว่าไม่ เพราะเช้ามากลิ่นหอมของอาหารยังลอยโชยมาพร้อมกับประโยคแสนชื่นชมของแม่


เช้านี้เกี๊ยวกุ้งเต้าหู้ไข่ฝีมือคุณตี๋ใหญ่เขาอร่อยมากเลยนะลูก พ่อกับแม่ลองชิมมาแล้ว


ผมมองชามเกี๊ยวตรงหน้าก่อนมองเลยไปยังอีกคนที่ส่งยิ้มบางตอบกลับมา จึงตัดสินใจคว้ากระเป๋าเอกสารแทนการหย่อนก้นลงบนเก้าอี้เหมือนอย่างเช่นทุกเช้า


ผมไปทำงานก่อนนะครับแม่พอดีวันนี้มีประชุมกับฝ่ายศิลป์


อ้าวไม่ทานอาหารเช้าก่อนล่ะลูก


ไม่ล่ะครับผมกินไม่ลง


แล้วผมก็เดินออกมาเลยไม่แม้แต่จะหันไปมองหน้าอีกคนแต่หางตาก็เผลอมองเห็นสีหน้าผิดหวังได้อย่างชัดเจน  มันยังคงซ่อนไว้ภายใต้ใบหน้านิ่งเรียบเช่นเดิม จึงขัดใจตัวเองอยู่ไม่น้อยที่ยังอุตส่าห์มองออกอีก


โฮ่ง


แต่แล้วก็ต้องระบายยิ้มออกมาเมื่อข้างรถนิสสันมาร์ชของผมมีเจ้าหมาขาหักนั่งหูตั้งรออยู่


ผมเดินเข้าไปทรุดตัวนั่งยองลงตรงหน้ายื่นมือออกไปและแทบจะทันทีเจ้าตี๋น้อยก็ยกขาข้างที่หักขึ้นมาวางบนฝ่ามือ


คิดถึงจังเลย~” แล้วฉลาดอย่างเจ้าตี๋น้อยน่ะหรือถึงจะฟังไม่ออก มันจัดการกระโดดโถมเข้ามาในอ้อมกอดผมพร้อมทั้งส่งลิ้นสากมาเลียใบหน้าจนแฉะน้ำลายไปหมด  


โอ๊ยพอๆพี่เลอะหมดแล้ว ฮ่าๆ ไม่เอาๆเดี๋ยวโดนขาเดี้ยงกว่าเดิมนะปล้ำเล่นกันอยู่พักหนึ่งจนผมล้มก้นจ้ำเบ้าลงไปนั่งแผ่กับพื้นนั่นแหละมันถึงจะยอมหยุด


ผมก้มลงจุ๊บเหม่งเมื่อมันยอมสงบเสงี่ยมนอนหมอบลงไปก่อนให้รางวัลด้วยการใช้สองมือประคองให้หน้ามันแหงนขึ้นมาแล้วจุ๊บลงบนปลายจมูกสีดำ


อยู่กับพี่ด้วยกันที่นี่ไหม ไม่อยากให้กลับไปเลยพูดพลางลูบหัวมันอย่างเอ็นดู เพิ่งเจอกันได้แค่วันเดียวก็ต้องจากกันอีกแล้ว หนึ่งปีที่ผ่านมาผมคิดถึงมันมากเลยนะ แค่คิดว่ากลับมาจากทำงานจะไม่ได้เห็นมันอีกผมก็ใจหวิวๆแล้วหึ ไม่อยู่ด้วยกันก็ไม่ต้องมาอ้อนเลย


ก็มันเล่นเอาหัวมาดันๆถูๆขาก่อนนอนหงายท้องพลิกตัวไปมาซ้ายขวาแล้วทำเหลือบตาเหลือกมองมาอ้อนๆชิ ยังจะมีเสียงคราหงิงด้วยนะ


ฉลาดไม่มีใครเกินเลยเจ้าตี๋น้อยผมเนี่ย!!


ท่าทางมันจะชอบน้องนะ กับพี่มันโคตรหยิ่งเลยผมหันไปตามเสียงก็เจอเข้ากับพี่ไมล์ในชุดออกกำลังกายยืนเท้าเอวมองไปยังเจ้าตี๋น้อยอย่างหมั่นไส้


พี่หน้าตาไม่ดีล่ะสิ


โห ช่างกล้าแต่พี่หมั่นมันจริงๆนะ เมื่อเช้าลูบหัวเล่นหน่อยทำเป็นสะบัดหนีทีกับน้องล่ะอ้อนเอาๆอย่างกับเป็นเจ้าของมันอีกคนแน่ะ


อึก พูดเหมือนมีตาทิพย์


สงสัยมันถูกชะตากับน้องมั้ง เอ่อ ผมไปทำงานดีกว่าแล้ววันนี้พี่ไม่เข้าบริษัทหรือผมเปลี่ยนเรื่องพลางลุกขึ้นยืนจัดเสื้อผ้าให้เข้าที่


เข้าช่วงบ่ายพอดีเดี๋ยวพี่ต้องเข้ากรุงเทพฯไปส่งคุณตี๋ใหญ่ขึ้นเครื่อง


กึก


เขาจะกลับวันนี้แล้วเหรอครับ


น่าจะนะพ่อว่ามาอย่างนั้น


ผมนิ่งไปก่อนค่อยๆก้มลงไปมองเจ้าตี๋น้อยตรงหน้าย่อตัวลงแล้วใช้อ้อมแขนกอดมันไว้แน่นพลางซุกใบหน้าเข้าหาขนสีดำขลับ


ฮึกกอดลานะตี๋น้อย


หงิง
ซ่า~ซ่า~


สายลมโบกพัดลู่ใบหน้าหอบเอากลิ่นอายของน้ำทะเลโชยเข้าจมูกพร้อมกับพัดพาเอาเกลียวคลื่นสาดซัดเข้าหาฝั่งจนเกิดฟองสีขาวล้อกับหาดทรายเนื้อนวลละเอียดตาบรรยากาศที่ทำให้ผมรู้สึกผ่อนคลายขึ้น


ยิ่งช่วงนี้มรสุมเข้านักท่องเที่ยวจึงบางตาลงเลยได้ความเงียบสงบอย่างใจต้องการ...


แม้จะเป็นคนไล่ให้เขาไป แม้จะบอกว่าเราไม่สามารถเดินไปด้วยกันได้ แม้จะเป็นคนที่ทรยศหักหลังกันอย่างเลือดเย็นแต่สุดท้ายก็อดจะวูบโหวงในใจไม่ได้


หลังเลิกงานก็เหมือนเช่นเกือบทุกวันที่จะมานั่งปล่อยใจลงทะเล ต่างกันที่ทุกทีผมจะหนีความวุ่นวายไปหาดนางรำหาดทรายสีขาวเนียนละเอียดตัดกับน้ำทะเลสีฟ้าครามสดใส รอบเกาะมีโขดหินสีน้ำตาลเข้มจัดวางตามเป็นแนวอย่างที่ธรรมชาติได้สร้างสรรค์ไว้กลมกลืนกับประติมากรรมรูปปั้นพระอภัยมณีกับนางผีเสื้อสมุทรอันเป็นเอกลักษณ์ของหาด


แต่วันนี้ผมมายังหาดพลาที่ถึงแม้น้ำทะเลจะสีสวยสู้หาดนางรำไม่ได้ เนื้อทรายไม่ขาวละเอียดเท่าซ้ำยังมีแนวปูนสูงเกือบสองเมตรกั้นชายหาดเอาไว้ แต่อย่างน้อยหาดก็ไม่ได้ปิดตอนหกโมงเย็นสามารถให้ผมนั่งอยู่ตรงนี้จนถึงเมื่อไหร่ก็ได้อย่างใจต้องการ


ผมก็เชื่อว่า...หาดทุกหาดมีมนต์ขลังของมันอยู่..


อย่างเช่นเวลานี้ผมนั่งมองพระอาทิตย์สีส้มกำลังจะจมหายลงในทะเล แต่ยามจะลาลับก็ยังทอแสงสีทองลงบนผืนน้ำสีดำให้เกิดประกายวิบวับดั่งดวงดาวนับล้านจากฟากฟ้าเต้นระบำปล่อยแสงระยิบระยับแข่งกัน


ติ๊ดๆ ติ๊ดๆ


ผมหลุดจากความคิดเมื่อเสียงโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงดังขึ้น


“ครับแม่”


“อยู่ไหนน่ะเล็ก มืดแล้วนะลูกยังไม่กลับบ้านอีก”


“ผมอยู่หาดพลาน่ะครับ”


“ถึงว่าตาไมล์ไปหาที่หาดนางรำไม่เจอ ทำไมวันนี้ไปไกลจังลูกทุกคนรอทานข้าวอยู่นะ”


“ทานกันได้เลยไม่ต้องรอครับ เล็กว่าวันนี้จะนอนค้างที่หาดคงไม่กลับบ้าน”เสียงแม่เงียบไปสักพักหนึ่งก่อนเอ่ยเอื้อนขึ้นมาด้วยน้ำเสียงอาทร


“ไม่สบายใจอะไรหรือเปล่าลูก”


“ผมแค่อยากนอนฟังเสียงคลื่นน่ะครับแม่ ไม่ต้องห่วงนะครับ รักแม่นะพรุ่งนี้เจอกันครับ”


วางสายจากแม่ไปแล้วผมก็นั่งทอดสายตาไปยังผืนน้ำทะเลสีดำกับฟังเสียงคลื่นกระทบฝั่งไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนจากเย็นย่ำเป็นหัวค่ำมืดสลัวและ ณ ตอนนี้ มืดมิดเงียบสงัด...ทุกสิ่งอย่างถูกความมืดปกคลุมมีเพียงแสงจันทร์เรืองรองสะท้อนให้เห็นรูปทรงเรือนราง โชคดีที่ท้องฟ้าเปิดโล่งไร้เมฆบดบังจึงได้เห็นกลุ่มดวงดาวพราวระยับแข่งกับผิวน้ำดั่งภาพสะท้อนของกันและกัน


“เดี๋ยวก็ไม่สบายหรอกครับ”


ขวับ


ผมหันไปตามเสียงของคนที่คิดว่าบินกลับไปฮ่องกงแล้ว แต่ ณ ตอนนี้เขายืนอยู่ตรงหน้าผมในชุดเสื้อกล้ามกางเกงขาสั้นอย่างที่สมัยก่อนเขาชอบใส่...สวมทับด้วยเสื้อแจ๊คเก็ตสีแดงตัวคุ้นตา...ตัวที่ผมซื้อให้


ฟึ่บ!


ผมลุกขึ้นยืนแล้วเดินหนีทันทีแต่ก็ช้ากว่าอีกคนที่เข้ามาคว้าต้นแขนเอาไว้


“ไหนว่ากลับไปแล้วไง!!” ผมสะบัดมือหันหน้ามาตวาดสุดเสียง


“จะให้ผมไปไหนก็หัวใจผมอยู่นี่!!”


“ไปตายซะไป!”


ไม่ได้คิดเช่นนั้นแต่ปากมันไปเองเหมือนเป็นปฏิกิริยาตอบโต้อัตโนมัติเพื่อปกป้องหัวใจตัวเองจากประโยคกลลวงที่อีกฝ่ายสร้างขึ้น


...เมื่อก่อนเคยบอกรักที่ไหนกัน...


“ผมรู้ว่าผมเลว แต่ช่วยฟังกันหน่อยได้ไหม”


“ไม่ฟัง!!! ไม่อยากฟังอะไรทั้งนั้น! ไม่ฟังๆ” สองมือยกขึ้นปิดหูแน่นพลางนั่งคู้ทิ้งตัวลงบนปลายเท้าศีรษะส่ายไปมาอย่างไม่อยากรับรู้อะไรอีก


“เล็ก...คุณเล็ก!!”


เพี้ยะ ปั่ก ตุบ


ผมยกมือขึ้นปัดป่ายกันไม่ให้อีกฝ่ายเข้าใกล้


“...!!” สุดท้ายเขาก็ยอมล่าถอยออกไป ร่างกายสูงใหญ่ยืนนิ่งใช้สองตาจ้องผมอย่างผิดหวังเสียใจแต่เชื่อเถอะไม่เท่ากับที่ผมเคยรู้สึกหรอก ก่อนจะทำในสิ่งที่ผมคาดไม่ถึงคือ...ค่อยๆเดินถอยหลังห่างออกไป...โดยทิศทางนั้นเป็นทะเลแสนมืดมิดและน่ากลัว


ช่วงขายาวค่อยๆก้าวถอยหลัง...ทีละก้าว...ทีละก้าว โดยตลอดเวลานัยน์ตาคู่คมยังจ้องมองมาที่ผมอย่างไม่ละสายตาระยะห่างของเราสองไกลห่างกันเรื่อยๆ จนกระทั่งเท้าทั้งสองข้างของเขาสัมผัสกับระลอกคลื่นร่างกายผมก็ผวาเฮือกจะกระโจนไปหา...


....แต่ก็หยุดตัวเองลง...มันเป็นแค่แผน...เป็นแค่เล่ห์กลให้ผมหลงไปติดกับ...เขาไม่คิดจะตายจริงๆหรอก...ก็แค่อยากให้ผมใจอ่อนก็เท่านั้น...


ซ่า!~ ซ่า!~


เสียงคลื่นไม่ให้ความรู้สึกผ่อนคลายอีกต่อไปแล้ว ตรงข้าม...มันกลับเหมือนปีศาจร้ายที่พร้อมกลืนกินทุกสรรพสิ่งให้หายไปในความมืดมิดอันน่ากลัว...ความรู้สึกร้อนรุ่มกระสับกระส่ายเกิดขึ้นกับตัวผมจนไม่สามารถที่จะทนอยู่เฉยได้อีกต่อไปสองเท้าวิ่งลงไปยังริมหาดพร้อมกับตะโกนเสียงกึกก้องแข่งกับเสียงคลื่นให้คนที่อยู่กลางทะเลหยุดกระทำบ้าๆสักที


“ขึ้นมาเดี๋ยวนี้นะ!! จะบ้าหรือไง อยากตายจริงๆใช่ไหมฉันบอกให้ขึ้นมา!!”


ซ่า~ ซ่า~


เขายังคงเดินถอยหลังต่อไปเรื่อยๆขณะที่สายตายังจ้องมองกัน แม้จะในความมืดอันห่างไกลผมก็ยังเห็นแววตาแน่วแน่ของเขาสายตาที่ว่าเขาจะไม่ยอมหยุด...จนกว่า...


ครืน!~ ครืน!~


ผมแหงนหน้าขึ้นมองท้องฟ้ามืดมิดที่บัดนี้ไร้ประกายดาวด้วยเมฆหมอกก้อนดำทะมึนเคลื่อนตัวมาปกคลุมทั่วพื้นที่เสียงฟ้าร้องครืนพร้อมกับลมกระพือพัดโหมเป็นสัญญาณว่าอีกไม่กี่นาทีข้างหน้าลมฝนต้องกระหน่ำลงมาแน่นอน


นั่นยิ่งทำให้ผมร้อนรน หันไปมองอีกฝ่ายที่เวลานี้ถูกท้องทะเลดำมืดกลืนหายไปจนถึงช่วงอกแล้วมิหนำซ้ำสายฝนยังเริ่มโปรยปรายลงมา ลมพัดโหมให้ใบไม้ต้นหญ้าปลิวลู่โน้มเอียงตามแรงลมเม็ดทรายกระจายขึ้นฟุ้งทั่วหาด ผืนน้ำที่นิ่งสนิทเริ่มตื่นตัวโยกคลอนก่อเกิดเกลียวคลื่นตีกระทบจนเกิดเสียงเซ็งแซ่ช่างน่ากลัวจับใจ


แปะ แปะ แปะ


“พอ!! เลิกเดินลงไปได้แล้ว! ฉันบอกให้นายหยุดแล้วขึ้นมา!”


ครืน!~ ซ่า!~


เปรี้ยง!!


ผมวิ่งสวนกระแสคลื่นที่เริ่มก่อตัวขึ้นสูง ตีแหวกแรงต้านลงไปกลางทะเลแต่ก็ไม่สามารถถึงตัวเขาได้เนื่องจากเขาอยู่ลึกเกินกว่าที่ความสูงของผมจะเอื้ออำนวยผมลูบละอองน้ำที่กระเซ็นเปรอะใบหน้าบดบังการมองเห็นในขณะที่ตะโกนก้องอยู่ตลอดเวลา


“ขึ้นมา! อยากตายจริงๆหรือไง!!”


“ผมรักคุณนะคุณเล็ก ขึ้นฝั่งเถอะครับมันอันตราย” คราวนี้คนที่เงียบมาตลอดเปิดปากตะโกนกลับมาเมื่อเห็นว่าผมเริ่มเดินลุยน้ำลึกลงไปอีกครั้ง


“มาบอกรักบ้าอะไรตอนนี้ ขึ้นมา แค่กๆ ขึ้นมานะ! บอกว่าหยุดเดินได้แล้วไง!”


ครืนนนนนน! ซ่า!~


“คุณเล็กกลับไปมันอันตราย! ผมผิดจนไม่น่าให้อภัย ทำตัวน่ารังเกียจสมควรแล้วที่คุณไล่ให้ไปตาย แต่ผมรักคุณนะ รักคุณจริงๆ” ผมพยายามเดินเข้าไปหาเขาจนตอนนี้น้ำปริ่มริมฝีปากแล้ว


“ฮึก ฉันไม่ได้อยากให้นายตายจริงๆสักหน่อย...ฮึก แค่กๆ”


ตูม!!


ในจังหวะที่ผมเดินแหวกน้ำพลางตะโกนโต้กับเขาอยู่นั้นคลื่นยักษ์ที่มาจากไหนไม่รู้โถมแรงเข้าหาอย่างไม่ทันตั้งตัวร่างของผมดิ่งลงสู่ความมืดมิด ลำตัวถูกเกลียวคลื่นพลิกกลับกลายเป็นสองเท้าลอยคว้างสัมผัสความว่างเปล่าแต่เป็นสองมือที่ตะกุยตะกายสัมผัสพื้นทรายของก้นทะเลลึก


ผมพยายามตะกายเพื่อให้ตัวเองโผล่พ้นผืนน้ำ แต่มันช่างยากเหลือเกินกับการต่อสู้กับเกลียวคลื่นอันบ้าคลั่ง ยามที่น้ำเค็มไหลบ่าเข้าจมูกเข้าปากแทรกซึมแย่งอากาศ ดวงตาแสบพร่าระคายเคือง


หมับ


แรงกระชากที่แขนดึงผมจากก้นทะเลลึกสู่ด้านบน เมื่อโผล่พ้นผืนน้ำสู่บรรยากาศที่เต็มไปด้วยออกซิเจนให้ผมสูดลมหายใจเข้าลึกอย่างตะกรุมตะกรามพร้อมทั้งไอสำลักไปพร้อมๆกัน


“คุณ...เป็นไงบ้าง” เจ้าของมือหนาที่ช่วยดึงผมขึ้นมาและยังช่วยลูบใบหน้าเอ่ยถามด้วยเสียงเป็นกังวลใบหน้าหวาดกลัวของร่างที่ผมกำลังเกาะยึดทำให้ผมร้องไห้โฮออกมา พลางใช้มือข้างหนึ่งทุบตีเขาไม่หยุด


“ไอ้บ้า ฮือออ ไอ้หมาบ้า นายเป็นต้นเหตุทำให้ฉันเกือบตายอีกแล้วนะฮึก ฮือออ” ผมสะอื้นไห้ไม่หยุดซ้ำยังไม่คิดจะออมแรงมือปากก็พร่ำด่าอย่างเจ็บแสบ...


แต่ใครจะรู้ดีไปกว่าใจผม...ว่าสาเหตุที่หลั่งน้ำตามันมาจากความเจ็บใจตัวเอง...ที่ลึกๆแล้วก็ไม่สามารถโกรธแค้นคนตรงหน้าได้เลยซ้ำยังยอมอภัยให้ง่ายๆเพียงแค่เห็นเขาจะหายไปต่อหน้าต่อตา


ในระหว่างที่จมลงใต้ทะเลผมตกใจ ผมหวาดหวั่น แต่ไม่มีความกลัวเลยเพราะผมมีเขาอยู่...มั่นใจว่าเขาต้องช่วยผมได้


“ผมขอโทษ...ผมเสียใจ...รักคุณนะ”


“ฮือออออ”


ณ วินาทีนี้ผมยอมแล้ว ยอมลดทิฐิทุกอย่างลงเพื่อฟังเขาอีกสักครั้ง

.........................................................................................

ดูบันทึกคะแนน
   winwin2 พลังน้ำใจ +16 Zenny +300 น่ารักจังเลย
   ดอกม่วง พลังน้ำใจ +16 Zenny +300 กระทู้นี้ยอดเยี่ยม!
   pipi1 พลังน้ำใจ +18 Zenny +300 กระทู้นี้ยอดเยี่ยม!

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
408
พลังน้ำใจ
14652
Zenny
2340
ออนไลน์
1349 ชั่วโมง

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
1097
พลังน้ำใจ
25371
Zenny
17141
ออนไลน์
9116 ชั่วโมง
ขอบคุณครับ

มาเฟียคุมคณะ

โพสต์
11598
พลังน้ำใจ
65609
Zenny
10068
ออนไลน์
14189 ชั่วโมง
ขอบคุณมากเลยครับ

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
8273
พลังน้ำใจ
44552
Zenny
33120
ออนไลน์
2328 ชั่วโมง
น้ำตาไหลพราก ล้นมหาสมุทรเลย

มาเฟียคุมคณะ

โพสต์
11562
พลังน้ำใจ
77918
Zenny
35745
ออนไลน์
12494 ชั่วโมง
ขอบคุณครับ

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
430
พลังน้ำใจ
22126
Zenny
782
ออนไลน์
4373 ชั่วโมง

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
1104
พลังน้ำใจ
28678
Zenny
10320
ออนไลน์
8564 ชั่วโมง

เจ้าพ่อมหาลัย

โพสต์
27823
พลังน้ำใจ
153385
Zenny
157045
ออนไลน์
26480 ชั่วโมง
ขอบคุณ

เจ้าพ่อมหาลัย

โพสต์
34422
พลังน้ำใจ
158441
Zenny
289780
ออนไลน์
46333 ชั่วโมง

มาเฟียคุมคณะ

โพสต์
10936
พลังน้ำใจ
57278
Zenny
2513
ออนไลน์
19494 ชั่วโมง
ขอบคุณครับ

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
2323
พลังน้ำใจ
30028
Zenny
3999
ออนไลน์
4052 ชั่วโมง
ขอบคุณครับ

มาเฟียคุมคณะ

โพสต์
8332
พลังน้ำใจ
59855
Zenny
33400
ออนไลน์
15368 ชั่วโมง

มาเฟียคุมคณะ

โพสต์
21631
พลังน้ำใจ
67654
Zenny
73647
ออนไลน์
6685 ชั่วโมง
ตามต่อ

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
4778
พลังน้ำใจ
28731
Zenny
10089
ออนไลน์
1419 ชั่วโมง
ขอบคุณครับ

ประธานนักศึกษา

โพสต์
4978
พลังน้ำใจ
9538
Zenny
12044
ออนไลน์
1969 ชั่วโมง
บริษัท น้ำปลารสเอก จำกัด

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
5756
พลังน้ำใจ
32585
Zenny
26787
ออนไลน์
3854 ชั่วโมง
ขอบคุณครับ

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
5387
พลังน้ำใจ
35084
Zenny
10596
ออนไลน์
4186 ชั่วโมง
ขอบคุณครับ

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
2374
พลังน้ำใจ
29206
Zenny
3762
ออนไลน์
4491 ชั่วโมง
อ่านแล้วยิ้มตามเลย

มาเฟียคุมคณะ

โพสต์
8112
พลังน้ำใจ
50626
Zenny
45974
ออนไลน์
6107 ชั่วโมง
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | สมัครเข้าเรียน

รายละเอียดเครดิต

A Touch of Friendship: สังคมจะน่าอยู่ เมื่อมีผู้ให้แบ่งปัน ฝากไวเป็นข้อคิดด้วยนะคะชาวจีโฟกายทุกท่าน
!!!!!โปรดหยุด!!!!! : พฤติกรรมการโพสมั่วๆ / โพสแต่อีโมโดยไม่มีข้อความประกอบการโพส / โพสลากอักษรยาว เช่น ครับบบบบบบบบ, ชอบบบบบบบบ, thxxxxxxxx, และอื่นๆที่ดูแล้วน่ารำคาญสายตา เพราะถ้าท่านไม่หยุดทีมงานจะหยุดท่านเอง
ขอความร่วมมือสมาชิกทุกท่านโปรดโพสตอบอย่างอื่นนอกเหนือจากคำว่า ขอบคุณ, thanks, thank you, หรืออื่นๆที่สื่อความหมายว่าขอบคุณเพียงอย่างเดียวด้วยนะคะ เพื่อสื่อถึงความจริงใจในการโพสตอบกระทู้ และไม่ดูเป็นโพสขยะ
กระทู้ไหนที่ไม่ใช่กระทู้ในลักษณะที่ต้องโพสตอบโดยใช้คำว่าขอบคุณ เช่นกระทู้โพล, กระทู้ถามความเห็น, หรืออื่นๆที่ทีมงานอ่านแล้วเข้าข่ายว่า โพสขอบคุณไร้สาระ ทีมงานขอดำเนินการตัดคะแนน และ/หรือให้ใบเตือนสมาชิกที่โพสขอบคุณทันทีที่เจอนะคะ

รูปแบบข้อความล้วน|โทรศัพท์มือถือ|ติดต่อลงโฆษณา|จีโฟกายดอทคอม


ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บจีโฟกายดอทคอมนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ หากท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศิลธรรม ไม่เหมาะสมที่จะเผยแพร่ ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link “แจ้งลบโพสนี้” ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือ ลืมพาสเวิดล๊อกอิน/ลืมชื่อที่ใช้สมัคร หรือข้อสงสัยใดๆแจ้งมาที่ G4GuysTeam[at]yahoo.com ขอขอบพระคุณที่ให้ความร่วมมือ

กรณีที่ข้อความ/รูปภาพในกระทู้นี้จัดสร้างโดยผู้ลงข้อมูลเอง ลิขสิทธิ์จะเป็นของผู้ลงข้อมูลโดยตรง หากจะทำการคัดลอก/เผยแพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ลงข้อมูลก่อนนะคะ หรือลงที่มาไว้ด้วยค่ะ

©ขอสงวนสิทธิ์คอนเซ็ปต์,คำอธิบาย,หัวข้อ/หมวดหมู่เว็บ ห้ามลอกเลียนแบบ คิดเอาเองนะคะอย่าเอาแต่ลอก

GMT+7, 2024-4-27 07:51 , Processed in 0.149602 second(s), 28 queries .

Powered by Discuz! X3.1 R20140301, Rev.31

© 2001-2013 Comsenz Inc.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้