จีโฟกาย.คอม

 ลืมรหัสผ่าน
 สมัครเข้าเรียน
ค้นหา
 
ดู: 2024|ตอบกลับ: 44
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป
ซ่อนแถบด้านข้าง

บิ้กบอส 34 CP

[คัดลอกลิงก์]

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
602
พลังน้ำใจ
10160
Zenny
10535
ออนไลน์
1004 ชั่วโมง
ภูริเชษฐ์มาพบโรแบร์ตามที่นัดไว้มีการพูดคุยกันอยู่เป็นเวลานานพอสมควรก่อนที่เขาจะตัดสินใจจอดรถตนเองทิ้งไว้ที่ลานจอดรถนั่งรถไปกับโรแบร์เพื่อไม่ให้เป็นที่ผิดสังเกต

ระหว่างนั่งรถไปด้วยกันทั้งคู่ไม่มีการพูดคุยอะไรกันอีกภูริเชษฐ์ยิ้มเหี้ยมที่มุมปากกับตนเองโดยไม่รู้สึกตัว ใจเต้นระทึกมองออกไปด้านนอกด้วยจิตใจสับสนว้าวุ่น จากสิ่งที่เขารับทราบจากสหายต่างชาติน่าจะทำให้ได้หลักฐานบางอย่างเกี่ยวกับคดีของกฤษฎาขึ้นมาบ้างหากว่าโรแบร์ไม่หูฝาดหรือสื่อความหมายภาษาไทยผิด มันเป็นสิ่งที่เขาได้ตัดสินใจอย่างปัจจุบันทันด่วนโดยไม่คิดล่วงหน้ามาก่อนเลย สิ่งที่จะเกิดขึ้นเฉพาะหน้าเขาเองก็ทายไม่ถูกนอกจากเลือดห้าวระอุทุกหยาดหยดในร่างกาย พุ่งฉีดอย่างรุนแรงกระทั่งรถวิ่งออกมาเส้นทางนอกเมือง เขาจึงกล่าวขึ้น

“โรแบร์...นายแน่ใจหรือเปล่าว่าฟังมาไม่ผิด”

“แน่ใจสิภู...ผมมาอยู่เมืองไทยนานแล้วนะพวกนั้นมันปรึกษาหารือกันอย่างที่ผมเล่าให้คุณฟังจริง ๆ ก็คนหน้าคม ๆ เคราดก ๆสายตาแข็งกร้าว เจอกี่ครั้งก็จำได้ เพราะเขาเป็นนักการเมืองชื่อดังส่วนอีกคนผมอาจจำผิดได้”

“ช่างมันเถอะ..ไปถึงบ้านพักของพวกมันเดี๋ยวรู้เอง”

ไม่นานนักโรแบร์ก็จอดรถ ชี้ให้เขาดูบ้านเดี่ยวอันโอ่อ่ารโหฐาน มีต้นไม้ใหญ่ประเภทจามจุรีและหูกวางแผ่กิ่งก้านปกคลุมอย่างร่มเย็น

“นั่นไงภูบ้านพักของคุณภาณุพลที่ผมเล่าให้ฟัง”

สองหนุ่มต่างชาติต่างภาษาได้ก้าวลงจากรถมาพักหลบที่บริเวณด้านนอกของบ้าน โดยอาศัยต้นไม้ใหญ่และความรกครึ้มของซุ้มไม้เลื้อยเป็นที่กำบังตน
ตำแหน่งที่ภูและโรแบร์หมอบกายหลบอยู่ราบกับพื้นขณะนี้เป็นด้านหลังของบ้านหลังใหญ่ ตัวบ้านยังอยู่ห่างไกลจากจุดที่ทั้งคู่หลบอยู่พอสมควร
บรรยากาศภายในบ้านดูเงียบเชียบเหมือนไม่มีใครอยู่บ้านสักคนเดียว

“ไหน...โรแบร์นายบอกว่าพวกนั้นนัดพบเพื่อปรึกษากันที่บ้านนี้ ทำไมมันดูเงียบเชียบวังเวงชอบกลนายฟังมาผิดหรือเปล่านี่”

“ที่นี่แน่นอนภู...ผมฟังมาไม่ผิดหรอกพวกมันอาจมาแล้วหรือไปแล้วก็ได้”

เขายิ้มให้สหายต่างชาติกล่าวคล้ายรำพึงกับตนเอง

“ยังไงก็มาถึงแล้วผมขอเข้าไปดูข้างในก่อนแล้วกัน เผื่อจะมีหลักฐานอะไรบ้าง”

“คุณจะเข้าไปคนเดียวหรือภู”

น้ำเสียงสั่นเครืออย่างเป็นห่วง

“ผมขอเข้าไปด้วยคนได้เปล่า”

ภูยิ้มให้สหายต่างชาติด้วยความนับถือในน้ำใจของอีกฝ่ายระบายลมหายใจยาวเยือกส่งมือให้โรแบร์จับ สายตาประสานกันเป็นเครื่องหมายบ่งชัดเข้าใจกันโดยสัญชาตญาณเกินกว่าที่จะต้องกล่าวอะไรออกมา

“ผมเข้าไปคนเดียวสะดวกกว่าคุณคอยอยู่แถวนี้ ผมจะเข้าไปไม่เกินหนึ่งชั่วโมงถ้าเกินหนึ่งชั่วโมงให้คุณโทร.หาอากร แกจะได้ดำเนินการต่อไปและคุณก็ปิดปากเรื่องนี้อย่าได้ไปเล่าให้ใครฟัง ยกเว้นอากรคนเดียวเท่านั้น”

โรแบร์กัดกรามนูนเป็นสันเหลือบไปยังบ้านใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่ สลับกับมองหน้าหนุ่มไทยก่อนจะกล่าวขึ้นเบา ๆ

“ให้ผมเข้าไปด้วยดีกว่านะภู..”

“ไม่จำเป็นหรอกเพื่อนยากทำตามที่ผมบอก เราไม่ได้มาเพื่อปล้นหรือรบกับใคร แค่มาสอดแนมหาหลักฐานบางอย่างเท่านั้นหากไม่เจอผมก็จะรีบกลับออกมา สำคัญคือหากเห็นเหตุการณ์ผิดปกติให้คุณรีบหลบเอาตัวรอดออกไปให้ได้แล้วนำเรื่องนี้ไปแจ้งให้อากรทราบ ผมไม่ทราบว่านี่เป็นกับดักของพวกนั้นหรือเปล่าคุณต้องเชื่อผมนะโรแบร์ ผมไม่อยากให้คุณเสี่ยงโดยไม่จำเป็น เรามองเห็นภายนอกเงียบๆ อย่างนี้ ภายในตัวบ้านอาจจะมีพวกมันกำลังคุยกันอยู่ก็ได้”
โรแบร์จำนนต่อเหตุผลหนุ่มไทย

อย่างไม่สนใจโรแบร์เขาก้าวเท้ายาว ๆ ลัดเลาะไปตามพุ่มไม้เลื้อยบางขณะก็ทิ้งตัวลงนอนราบไปตามสนามหญ้าเป็นที่กำบังตัวเผื่อมีคนอยู่บ่ายหน้าไปยังบ้านหลังใหญ่โดยเร็ว....

ชั่วเวลาไม่นานนักก็เข้ามายืนเบียดกายอยู่ตามโคนเสาใหญ่ ๆ ภายในตัวบ้าน ตัวบ้านเป็นการสร้างอย่างทันสมัยและยังใหม่เอี่ยมแสดงว่าเพิ่งสร้างเสร็จไม่นานรูปลักษณะทั้งภายนอกและภายในเป็นบ้านสำหรับการพักผ่อนธรรมดาของนักการเมืองผู้มีอิทธิพลทั้งหลายอดนึกแปลกใจไม่ได้ว่า ในเมื่อไม่มีคนอยู่ ทำไมถึงยังเปิดเหมือนคนอยู่แบบนี้หรือว่า ขณะนี้! ภาณุพล อาจจะกำลังพักผ่อนอยู่ที่นี้ จึงไม่อยากให้มีใครรบกวน

เลือดในกายของเขาเต้นเร่าและหัวใจกระโดดโครมคราม

เขาเดินลัดเลาะไปเรื่อยๆ เหมือนเดินเล่นในบ้านของตนเอง อากาศภายในกลิ่นไอของเครื่องปรับอากาศโชยมากระทบใบหน้าเขาเป็นระยะแสดงว่าต้องมีคนอยู่ในบ้านแน่นอน ในเมื่อมันเป็นบ้านพักภาณุพล ก็ต้องเป็นภาณุพลแน่ๆ

ดึงประตูห้องที่อยู่ใกล้สุดแทรกกายเข้าไปอย่างง่ายดายฉับพลันที่เท้าของเขาสัมผัสพื้น ประตูห้องก็ค่อย ๆ เคลื่อนมาปิดไว้เหมือนเดิมอย่างลึกลับทำเอาเขาถึงกับสะดุ้งหันขวับโดยเร็ว เดินมากระชากประตูเพื่อเปิดออก

แต่อนิจจา!มันล็อกเสียแล้ว เป็นการล็อกจากด้านนอกเสียด้วย

เขาเริ่มหวาดระแวงรู้สถานการณ์ของตนเป็นอย่างดียืนนิ่งสงบจิตสงบใจอยู่กับที่ ประสาททุกส่วนตรึงเครียด สายตาแวววาวกราดสำรวจไปรอบห้องมันเงียบเชียบจนได้ยินแม้แต่เสียงหายใจของตนเอง เหงื่อผุดออกมาตามรูขุมขนแต่ข้างในกับรู้สึกหนาวเยือก ราวกับเลือดจับกันเป็นก้อนแล้ว

เวลาผ่านไปเนิ่นนานก็ไม่มีแววแห่งการผิดสังเกตอะไร เขาเริ่มเคลื่อนตัวอย่างระมัดระวังตรงไปยังโต๊ะทำงานซึ่งมีขวดไวน์ตั้งอยู่ครึ่งขวดพร้อมกับแก้วอีกหนึ่งใบยังมีรอยเปียก ๆ เขาละความสนใจนั้นไป หันไปพิจารณาโต๊ะอีกครั้งลิ้นชักใหญ่มีรอยแง้มออกเล็กน้อย แสดงว่าไม่ได้ล็อกกุญแจ ค่อย ๆหยิบผ้าเช็ดหน้ามารองแล้วดึงออกช้า ๆ ในนั้นไม่มีอะไรน่าสนใจนอกจากแฟ้มเอกสารที่ถูกจัดวางเป็นระเบียบ การตรวจค้นเอกสารไม่ให้ประโยชน์อะไรแก่เขาเลย เขาพยายามค้นหาว่ามีอะไรพอเป็นหลักฐานเกี่ยวกับการประสบอุบัติเหตุของคุณกฤษฎาซึ่งเกี่ยวโยงกับเขาบ้าง

ระหว่างตรวจค้นไปเรื่อยๆ ก็พบรูปถ่ายของเขาและภรรยาอย่างชัดเจนในลักษณะต่าง ๆ ที่เขาเผลอตัวรวมทั้งรูปนักธุรกิจลูกค้าคนสำคัญของเขาอีกหลาย ๆ คน ซึ่งแอบถ่ายมาลักษณะเดียวกัน

รูปพวกนี้ถูกถ่ายเพื่อประโยชน์อะไรกัน?

“ว่าไงคุณภู...ถ้าสงสัยอะไรมิลำบากต้องลงทุนมาค้นบ้านผมด้วยตนเองเลยแบบนี้ผมตั้งข้อหาบุกรุกได้นะครับ”

เสียงห้าวๆ ปราศรัยมาจากด้านนอก

“จำขวดไวน์ที่คุณนำมากำนัลผมวันนั้นได้หรือเปล่าครับมันเป็นไวน์ที่มีรสเลิศที่สุดเท่าที่ผมเคยดื่มมาเลยและผมก็ได้เตรียมเอาไว้ต้อนรับคุณโดยเฉพาะเลยนะครับ”

เสียงนั้นยังคงดังมาต่อเนื่องจากด้านนอกมันกังวานประหลาด เต็มไปด้วยเยาะเย้ยเหยาะหยัน ดวงตาของภูตอนนี้เบิกกว้างไม่กระพริบตาเหงื่อของเขาได้ผุดออกมาโชกใบหน้า ริมฝีปากเม้มสนิทแน่นกวาดสายตาไปรอบด้านอย่างระแวงภัย

เสียงหัวเราะแหบๆ ยังคงดังมาต่อเนื่อง

“ใคร?”

“ดื่มซิครับ...สหายหนุ่มที่รักดื่มให้สบายใจเสียก่อน ค่อยทำงานของคุณต่อไป อาจจะมีอะไร ๆอีกหลายอย่างที่คุณต้องการในห้องนี้ อย่างน้อยก็ไวน์ขวดนั้นแต่อย่าคิดว่าคุณจะกลับออกไปได้ หากผมไม่อนุญาต!”

“ผมต้องการคุยกับท่านมากกว่า”

เขาระงับความตื่นเต้นกล่าวตอบโต้ด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

“ถ้าคุณดื่มก็จะทำให้หายหงุดหงิด อุตส่าห์เดินทางมาตั้งไกล และบางที ฮ่า....ฮ่า...ฮ่า เราอาจจะมีเรื่องต้องพูดคุยและตกลงกันเยอะไม่ต้องมองหาผมหรอก สักพักผมจัดการธุระเสร็จเรียบร้อย จะเข้าไปเป็นเพื่อนคุยด้วย”

“ผมจะรอ”

เขากล่าวตอบโต้แค่นั้นก็เดินไปทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้หมุน เอนกายพิงพนักเก้าอี้อย่างปลง ๆรำพึงกับตนเองอย่างสมเพช

“ไอ้ภูเอ๋ย...ทำไมมึงโง่อย่างนี้วะ”

ระหว่างที่เขากำลังใช้ความคิดอยู่นั้นร่างของเจ้าของบ้านก็ค่อยเปิดประตูเข้ามาช้า ๆ ชายวัยประมาณ ๕๕ ปีรูปร่างขนาดชายไทยทั่วไป ใบหน้าเหลี่ยม คิ้วยาวหนาดวงตาเปล่งประกายคมกล้ามองมายังเขา อยู่ในชุดลำรองอย่างสบาย

ไม่ใช่ใครที่ไหนเป็นภาณุพลมนุษย์เลิศปัญญาและแพรวพราวไปด้วยเล่ห์กลไหวพริบอันเป็นคุณลักษณะเฉพาะตัวที่เขาคุ้นเคยเป็นอย่างดี

ขณะที่ก้าวเดินอย่างมั่นคงเข้ามาหาเขาช้าๆ ภาณุพลยังคงอยู่ในอาการยิ้มเยือก ยกแก้วเหล้าที่หยิบติดมือมาด้วยชูให้กับเขามันไม่มีอาการแสดงความเยาะเย้ยที่เจ็บปวดใด ๆ อีกแล้ว เท่าที่เขาเคยได้เผชิญมามันเป็นความสุภาพอ่อนน้อมที่แสนจะหยิ่งยโสและเสียดสีเข้าไปตัดถึงขั้วหัวใจเขาเลยทีเดียว

“ยินดีและเป็นเกียรติเหลือเกินคุณภูไม่นึกว่าคุณจะมาเยี่ยมผมถึงบ้านพักแห่งนี้ เลยไม่ได้จัดเตรียมการต้อนรับต้องขออภัยด้วย”

เสียงแหบพร่าเต็มไปด้วยความเยาะเย้ยถากถางดังกังวานมากระทบโสตประสาท

“ว่าแต่จะไม่ดื่มไวน์ที่คุณนำมากำนัลผมวันนั้นบ้างหรือครับ”

ภาณุพลกล่าวเชื้อเชิญด้วยคำพูดที่แจ่มแจ้งยื่นมือไปหยิบขวดไวน์รินลงแก้วที่วางอยู่บนโต๊ะยื่นให้ชายหนุ่มอย่างสุภาพขณะที่ภูจ้องหน้าเจ้าของบ้าน ยิ้มตอบอย่างเสือกระหายเลือดไม่ยอมยื่นมือไปรับแก้วไวน์

“คนมีการศึกษาและเจนสังคมอย่างคุณภูไม่น่าเสียมารยาทพื้นฐานของสังคมแบบนี้นี่ครับอย่าทำลายความปรารถนาดีที่ผมมีสิครับ”

น้ำเสียงเนิบๆ เป็นจังหวะชัดถ้อยชัดคำดังต่อเนื่องมาอีกครั้ง

“เรื่องมารยาทงั้นเหรอ”

เขากระชากเสียงห้วนๆ สบตาภาณุพลอย่างไม่กระพริบตา

“แต่ผมก็ยินดีที่ได้รู้จักท่านในอีกรูปแบบหนึ่งที่ผมเพียงแต่ได้ยินได้ฟังมา”

ภาณุพลชำเลืองหางตาคมเข้มหรี่ลงมองชายหนุ่มเหมือนราชสีห์มองหนูน้อย

“ต้องขอบคุณวชิระจริงๆ ที่วางแผนนี้ให้ผม จนสามารถหลอกล่อปลาตัวใหญ่อย่างคุณภูมาติดเบ็ดผมอย่างที่ผมคิดไม่ถึงมาก่อนนอกจากผมแล้ว คุณจะได้พบวชิระ เขาคงยินดีมากที่คุณเข้ามาเยี่ยมถึงนี่เลย”

“ถ้าจะให้ดีผมอยากพบและพูดคุยกับคนที่มันวางแผนใส่ร้ายผมมากกว่าหวังว่าไอ้หมาลอบกัดตัวนั้นมันคงอยู่ในที่นี้ด้วยนะครับท่าน”

เขาตั้งใจจะเห็นความโกรธแค้นบนสีหน้าของตาเฒ่าเจ้าเล่ห์แต่ตรงกันข้ามกับได้เห็นรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยเล่ห์กระเท่ห์ผุดที่ริมฝีปากของภาณุพลสายตาที่จับจ้องมายังเขามันเหมือนอาการแสยะยิ้มอย่างเยาะเย้ยมากกว่า

“คุณได้พบแน่นอนและเขาก็เต็มใจต้อนรับการมาเยือนของคุณอย่างสมเกียรติเลยทีเดียว ว่าแต่...”

หยุดการยิ้มที่มุมปาก

“คุณภูควรจะผ่อนคลายอารมณ์ให้แจ่มใสสบายกาย สบายใจกว่านี้ดีกว่าไหม ผมจะให้อิสระแก่คุณเต็มที่แต่คุณต้องสัญญาว่าจะไม่คิดหนี ไม่คิดทำร้ายผมเพราะมันไม่ประโยชน์อะไรอีกแล้วในการคิดเช่นนั้น คนฉลาดอย่างคุณคงจะเข้าใจดีผมขอรับรองด้วยเกียรติว่า เราจะจัดการต้อนรับคุณอย่างดีทีเดียว”
บุรุษผู้ทรงอิทธิพลกล่าวต่อมาอีกครั้ง

ทุกถ้อยคำสำนวนเจรจาล้วนแล้วแต่เป็นคำสุภาพราบเรียบเต็มไปด้วยสำบัดสำนวนอย่างที่คนในสังคมส่วนใหญ่พูดคุยกันแต่สำหรับคนอย่างภาณุพลและเขาล้วนเข้าใจความหมายแห่งคำพูดอันอ่อนหวานทว่าเต็มไปด้วยพิษสงเหลือขนาดนั้นได้เป็นอย่างดีสำคัญกว่าอะไรทั้งหมดก็คือเขาตระหนักถึงความบ้อท่าของตนความพ่ายแพ้อย่างย่อยยับดูเหมือนกำลังกางแขนอ้ารับเขาอยู่แล้วทุกอย่างต่อแต่นี้ก็ขึ้นอยู่กับเจ้าของบ้านจะเป็นคนตัดสิน

ทว่าคนอย่างภูริเชษฐ์ก็ยังแน่ใจในสติปัญญาและความสามารถของตน ยิ้มรับตรงมุมปากขณะที่ข้างในแสยะแย้มปานจะตรงเข้าฉีกเนื้อของอีกฝ่ายออกเป็นชิ้นๆ

“ท่านจะพูดอะไรในขณะที่ผมตกเป็นฝ่ายถลำแบบนี้แล้วก็พูดมาให้หมด เพราะหากผมไม่กลับออกไปด้านนอกภายในเย็นนี้ คุณพ่อก็ต้องรู้อากรก็ต้องรู้และคงไม่ยอมให้ท่านทำอะไรผมง่าย ๆ แน่”

“อะฮ่า....ฮ่า...ฮ่า...ๆๆ ๆ”

ภาณุพลเดินเข้ามาใกล้ๆ หัวเราะใส่หน้าเขามันไม่มีอะไรจะยั่วยุและยั่วยวนเขาเท่าเสียงหัวเราะของตาแก่เจ้าเล่ห์นี้อีกแล้ว

“โถ....โถ...ขวัญเอ๋ยมา...ผมกลับกลายเป็นฝ่ายถูกคุณขู่คืนเสียแล้วหรือนี่อุ๊ย! กลัวเหลือเกิน กลัวจนหนาวไปทั้งตัวเลย....ฮ่า...ฮ่า...ฮ่า..”

เสียงหัวเราะนั้นดังแผดเผายั่วยวนทำลายประสาทเขาเป็นอย่างยิ่งตั้งแต่เกิดมา ผ่านการยียวนกวนโทสะจากลูกค้าเจ้าเล่ห์หรือนายทุนหน้าเลือดมาหลายต่อหลายคนแล้ว จนคิดว่าตนเองชาชินและอดกลั้นกับสิ่งพวกนี้ได้ แต่มาบัดนี้ยามได้เผชิญหน้ากับภาณุพล มนุษย์จอมอิทธิพลเจ้าของบ้านพักแห่งนี้ซึ่งแสดงอาการยั่วยวนโทสะเขาอย่างเต็มที่ตรงหน้าทั้งอากัปกิริยาและคำพูด

วาจาอันเต็มไปด้วยความแพรวพราวเล่ห์กลเจ้าเล่ห์เพทุบายร้อยแปดประการ อันเกิดจากสมองอันชาญฉลาดปราดเปรื่องเรืองปัญญา ทำเอาเขาแทบกระอักเลือดออกมาให้ได้

“คุณมีความหวังอะไรอีกเหรอครับคุณภู...ในการกล่าวกับผมแบบนี้บางทีคุณคงคาดหวังกับฝรั่งขี้นกที่มันนำทางพาคุณมาที่นี้เหรอถ้าเช่นนั้นก็เลิกหวังเถอะครับ”

สิ้นคำกล่าวอย่างเย้ยหยันภาณุพลตบมือแรง ๆ เพียงสามครั้งสายตาลุกเป็นประกายวาวราวกับมีลูกไฟเข้าก่ออยู่ในนั้น

นายตำรวจสองนายที่เชิญตัวเขาไปสอบปากคำเมื่อเช้านี้ก็ดันประตูพรวดเข้ามาพร้อมกับร่างสูงใหญ่ของชาวต่างชาติที่ถูกควบคุมไว้อย่างแข็งแรง
รู้สึกตกตะลึง!จนหัวใจแทบหยุดเต้นเลยทีเดียว ....เพราะว่านั่นเป็นร่างของโรแบร์สหายต่างชาติของเขานั่นเอง เหตุการณ์มันบอกได้ชัดว่า โรแบร์พลาดท่าเสียทีเสียแล้วในลักษณะเดียวกันกับเขา

โรแบร์มองมายังเขาด้วยสายตาละห้อยอย่างน่าสงสารพยายามดิ้นเพื่อให้หลุดจากการควบคุมสองตำรวจหนุ่มที่ล็อคมือไขว้หลังเอาไว้อย่างเหนียวแน่นเมื่อเผชิญหน้ากับภู หนุ่มต่างชาติกล่าวเบา ๆ

“ขอโทษภู...”

สิ้นประโยคร่างใหญ่ ๆ ก็ถูกประเคนด้วยด้ามปืนถลาไปล้มฮวบอยู่กับพื้นตรงหน้าเขา

เขามองดูภาพเบื้องหน้านั้นด้วยหัวใจอันเดือดพล่านประสาททุกส่วนตรึงเปรี๊ยะ ได้แต่กรัดกรามจนนูนเป็นสัน

“เดี๋ยวนี้คุณภู.....คงเข้าใจสถานการณ์ดีแล้วนะครับว่ามันจะเป็นไปในรูปแบบใด มันคงไม่เกิดผลดีต่อเพื่อนของคุณเป็นแน่หากคุณยังคิดจะขัดขืนผม”

พร้อมกับเสียงกล่าวอย่างเลือดเย็นนั้นโรแบร์ก็ถูกซ้อมราวกับกระสอบทรายจากนายตำรวจหนุ่มทั้งสองเป็นการกระทำอย่างเลือดเย็นที่สุด

ภาณุพลยืนลูบคางดูภาพนั้นพลางชำเลืองไปมายังตัวเขายิ้ม ๆ อย่างสุดที่จะทนดูภาพอันบาดเสียวและทรมานจิตใจต่อไปได้เขาได้ทิ้งตัวลงไปขวางไม่ให้ตำรวจสองนายซ้อมโรแบร์อีก

“จะเอาอย่างไรก็ว่ามาอย่าทำร้ายเพื่อนผมแบบนี้”

“นี่เป็นเพียงโปรแกรมปลีกย่อยนะครับที่น่าดูและมโหฬารกว่านี้ยังมีอยู่อีก และโปรแกรมเหล่านั้นผมได้จัดเตรียมไว้ต้อนรับคุณโดยเฉพาะก่อนอื่นต้องขอบใจคุณวชิระที่คิดแผนนี้ออก”

“คุณวชิระคิดอะไร”

“เขาเป็นคนวางแผนให้เราไปนั่งกินอาหารร้านเดียวกับไอ้ฝรั่งขี้นกนี่แล้วพูดอะไรที่มันพาดพิงไปถึงคุณด้วยภาษาไทยโดยแสร้งทำเป็นไม่สนใจไอ้ฝรั่งคนนี้ว่ามันจะฟังรู้เรื่องหรือเปล่า เพราะเรารู้มานานแล้วว่ามันฟังภาษาไทยเข้าใจเนื่องจากทำธุรกิจหลายอย่างกับคุณนรากร และยังรู้อีกว่ามันเป็นเพื่อนคุณด้วยดังนั้นสิ่งใดที่เป็นเรื่องร้ายที่เราพูดถึงคุณ มันจะต้องนำไปเล่าให้คุณฟังแน่นอนเราจึงแกล้งคุยเรื่องการวางยาคุณกฤษฎาที่บ้านนี้ให้มันได้ยิน เพราะเชื่อมั่นร้อยเปอร์เซ็นต์ว่ายังไงก็ต้องถึงหูคุณแน่ๆ ซึ่งมันได้ผลเกินคาด ฮ่า...ฮ่า...ฮ่า...”

“ไอ้ชาติชั่ว...”

“พูดไม่เพราะเลยคุณภูผมพักผ่อนอยู่บ้านผมเฉย ๆ อยู่ดี ๆ คุณกับเพื่อนก็บุกรุกเข้ามาในบ้านผมนะครับผมรู้ดีว่าคุณเป็นคนฉลาดรอบคอบ เต็มไปด้วยไหวพริบปฏิภาณผมจึงได้จัดการต้อนรับคุณอย่างคนที่เจริญ ๆ กันแล้วเขาทำกันผมและคุณวชิระมีเรื่องอยากตกลงอะไรกับคุณนิดหน่อยจะหาโอกาสคุยกับคุณเป็นการส่วนตัว ก็ยากนัก เพราะคุณนรากรคอยตามติดปกป้องคุณยิ่งกว่าจงอางหวงไข่เสียอีก”

“มีอะไรก็เชิญพล่ามมา...แต่อย่าคิดว่าผมจะยอมง่ายๆ นะ และอย่าให้ผมหลุดออกจากบ้านนี้ไปได้ ผมจะแฉมันทุกอย่างเลย”

“ใจเย็น ๆ สิครับไม่มีประโยชน์ที่จะต้องมาขู่ผมหรอก ผมยืนยันได้เลยว่าคุณและเพื่อนของคุณจะไม่มีวันหลุดพ้นไปจากที่นี่ได้เลย ถ้าไม่ใช่คำอนุญาตของผมสำหรับคนฉลาดอย่างคุณ คงไม่จำเป็นต้องใช้วาจาขู่กรรโชกหรือข่มขู่ใด ๆในการสร้างความสะพรึงกลัว เพราะเรารู้ว่ามันไม่ได้ผลคุณรู้ตัวเองดีนี่ว่าตอนนี้ระหว่างเราสองคน ใครได้เปรียบเสียเปรียบกันอยู่”

“พูดธุระของคุณมาได้เลย...”

เขาพูดยิ้มๆ พร้อมจะรับฟังอย่างสงบ ไหวพริบและปฏิภาณเท่านั้นที่จะช่วยเขาได้ในขณะนี้

“เชิญดื่มไปก่อนแล้วกันนะครับผมขอตัวไปคุยธุระกับคุณวชิระก่อน คิดว่าเขาคงมีเรื่องอยากพูดคุยกับคุณเยอะกว่าผม”

ภาณุพลกล่าวจบก็หันมาทางนายตำรวจสองนาย

“ดูแลต้อนรับแขกข้าดี ๆนะเอ็งสองคน อย่าให้หลุดรอดไปได้เป็นอันขาด เดี๋ยวข้ากลับมา”

เขามองตามหลังภาณุพลที่เดินออกไปจากห้องด้วยสายตาบอกความรู้สึกตนเองไม่ถูกหันมามองตำรวจหนุ่มสองนายที่เพิ่งเจอกันเมื่อเช้าด้วยแววตาเรียบเฉยก่อนจะหันมาให้ความสนใจกับสหายต่างชาติที่โดนซ้อมจนหน้าแตกพังยับเยิน ค่อย ๆถอดเสื้อที่ตนเองสวมอยู่เช็ดหางคิ้ว มุมปากที่มีคราบเลือดแห้งกรังติดอยู่

ระหว่างที่ภูกำลังปฐมพยาบาลให้โรแบร์เขาได้ถอดเสื้อออกเผยให้เห็นผิวขาว ๆ กล้ามเนื้อเป็นมัด ๆไรขนปุกปุยเปียกชุ่มด้วยเหงื่อไคลแนบชิดติดกับแผงอกกว้างใหญ่ จักรภพจ้องมองหนุ่มนักธุรกิจแทบไม่กระพริบตาด้วยสายตาและความรู้สึกซึ่งไม่มีใครรู้ได้ว่าเจ้าตัวกำลังคิดจะทำอะไรอยู่กระทั่งได้ยินเสียงเรียกจากภู

“ผู้กอง”

“ครับ”

“ผมขอสักอย่างหน่อยสิ”

ขณะกล่าวสายตาของเขายังจับจ้องที่บาดแผลเพื่อนโดยไม่ได้ทันสังเกตอาการและสายตาของตำรวจหนุ่ม

“ว่ามา ผมยินดีช่วยแต่ห้ามขอให้ปล่อย ซึ่งคุณก็รู้ว่าไม่มีทางเป็นไปได้”

“ข้อนั้นผมรู้คุณช่วยไปหายาล้างแผลมาให้หน่อยสิครับ ผมต้องการปฐมพยาบาลโรแบร์เห็นเขาตกอยู่ในสภาพอย่างนี้แล้ว ทุเรศตนเองเหลือเกินที่ต้องดึงเอาเพื่อนเข้ามาร่วมชะตากรรม”

เขากล่าวน้ำเสียงเรียบๆ พร้อมกับส่งสายตาวิงวอนขอร้อง จะเป็นด้วยมโนธรรมบางส่วนของตำรวจหนุ่มหรือเพราะทนเห็นเลือดที่ไหลออกไม่หยุดจากมุมปากโรแบร์ตำรวจหนุ่มเดินออกไปจากห้องทันทีกลับมาพร้อมกับกล่องยาสามัญประจำบ้านและภาชนะใส่น้ำพร้อมผ้าเช็ดตัวผืนเล็ก ๆ

“ขอบคุณครับ”

รับอุปกรณ์มาปฐมพยาบาลโรแบร์

“ทนเจ็บทนแสบหน่อยนะเพื่อน เดี๋ยวผมขอดูสภาพบาดแผลหน่อย”

“ไม่เป็นไรหรอกภู...เจ็บแค่นี้เอง”

โดยไม่สนใจอาการปัดป้องของโรแบร์ค่อย ๆ เอาผ้าชุบน้ำบิดให้หมาดแล้วบรรจงเช็ดอย่างแผ่วเบาจนคราบเลือดที่แห้งกรังติดอยู่หมดเกลี้ยงไป เหลือเพียงเลือดสด ๆที่ยังไหลรินออกมาจากบาดแผลขนาดใหญ่ตรงหางคิ้วขวา

เมื่อเห็นว่าสะอาดพอสมควรแล้วจึงเททิงเจอร์ลงสำลีเช็ดทำความสะอาดแผลอีกชั้นหนึ่ง

“โอ๊ย....ภู!แสบเหลือเกิน”

“ทนหน่อยเพื่อน”

จัดการทำแผลทำความสะอาดให้โรแบร์จนเสร็จเรียบร้อยแล้ว พร้อมทั้งให้กินยาแก้ปวดและแก้อักเสบเพื่อบรรเทาอาการเจ็บปวดให้เพื่อนยังไม่ทันได้พักให้หายเหนื่อย ภาณุพลและวชิระก็เปิดประตูเข้ามา

“เสียดายจัง...คุณภูไม่ยอมแตะต้องเครื่องดื่มที่ผมเตรียมไว้ต้อนรับแม้แต่นิดเดียว”

ภาณุพลกล่าวขึ้นยิ้มๆ

“คงกลัวว่ามีอะไรผสมอยู่ละสิท่าขี้ระแวงจริง ๆ เลยคุณภู ถ้าผมคิดจะเอาอะไรใส่เข้าไป คงไม่คิดหลอกให้คุณหลงมาที่บ้านนี้หรอกฮ่า...ฮ่า...ฮ่า”

หันไปทางตำรวจหนุ่ม

“หมวดธีระไปจัดการเอาอาหารกับแกล้มมาต้อนรับแขกข้าหน่อยสิ ส่วนผู้กองจักรภพช่วยจัดเตรียมโต๊ะให้พร้อมด้วยนี่มืดค่ำได้เวลาอาหารเย็น คุณภูคงหิวแย่แล้ว”

ภูมองดูสองหนุ่มที่คล่องแคล่วเอาการในการปรนนิบัติทำตามคำสั่งเจ้านาย

“ผมรู้สึกแปลกใจเหลือเกินที่ได้รับการต้อนรับเช่นนี้จากท่าน แต่ก่อนอื่นขอให้เข้าใจด้วยว่าคนอย่างภูริเชษฐ์ ไม่เคยคิดจะก้มหัวให้อำนาจของใครง่าย ๆ”
“คุณคิดเช่นนั้นจริง ๆเหรอ”

ภาณุพลย้อนถามกลับมาอย่างสุภาพพร้อมกับกลั้วเสียงหัวเราะในลำคอ ด้วยใบหน้าและแววตาสงบนิ่ง

“ผมกับคุณวชิระไม่เคยเห็นว่าคุณเป็นศัตรูเลยนะทำไมคุณถึงได้กล่าววาจาไม่ไพเราะหูเช่นนี้เรื่องบางเรื่องเราสามารถทำการตกลงกันได้ ก่อนอื่นผมอยากจะสนทนาและทำความเข้าใจกับคุณสักเล็กน้อย”

“ถ้าท่านคิดว่าสุจริตชนอย่างผมจะเข้ากับทุจริตชนอย่างท่านได้ก็ลองดู”

“เออ...บังเอิญว่าผมไม่เคยคิดว่าตนเองเป็นทุจริตชนด้วยสิ”

น้ำเสียงเน้นชัดถ้อยชัดคำขณะยื่นหน้ามากล่าวต่อหน้าเขา

“ทุจริตชนทุกคนต่างไม่เคยคิดว่าตนเองเป็นอยู่แล้วนี่เข้าใจว่าตนเองเป็นสุจริตชนเสมอ เหมือนคนบ้า ที่ไม่มีวันคิดว่าตนเองเป็นคนบ้าสักคนเดียวและมักหาเหตุผลเฉพาะตัวมาเข้าข้างตนเองเสมอเพราะฉะนั้นเราคงไม่ต้องพูดกันเรื่องนี้ให้เสียเวลาเอาเป็นว่าท่านต้องการอะไรจากผมดีกว่า ถึงยังไงตอนนี้ผมก็หลงกลท่านแล้วนี่แต่จำไว้ด้วยนะ ถึงท่านจะทำอะไรผมได้ แต่พวกพ้องของผมก็มี หน้ากากที่ท่านสวมอยู่ตอนนี้คงโดนกระชากออกสักวัน”

แทนที่จะได้เห็นใบหน้าแสดงความไม่พอใจแต่กลับเห็นใบหน้าที่อาบด้วยรอยยิ้มเยาะอยู่ครู่ใหญ่ก่อนเริ่มขึ้นด้วยอารมณ์สงบเยือกเย็นเช่นเดิม

“ถ้าเช่นนั้นผมเองก็จะไม่ทำความเข้าใจเกี่ยวกับกิจการของผม แต่ผมอยากให้คุณได้รับทราบอะไรจากปากวชิระก่อนที่ผมจะเสนอข้อตกลง”

กล่าวจบก็หลีกทางให้วชิระเป็นคนมาเจรจาต่อไป

“เรื่องระหว่างผมกับพ่อของคุณคุณคงจะทราบละเอียดดีแล้ว ไม่จากปากพ่อคุณ ก็ปากของไอ้นรากรจิ้งจอกเจ้าเล่ห์นั่น”

เขาได้แต่เบิกตาออกกว้าง

“การที่ผมกับท่านภาณุพลมาพูดคุยธุระกันที่นี่เราได้พูดคุยเกี่ยวกับข้อตกสำหรับทำธุรกิจร่วมกันซึ่งเราทั้งคู่ได้หมายตาธุรกิจนั้นไว้นานแล้ว คุณคงพอจะทราบว่าธุรกิจนั้นคืออะไร?”

ภูส่งเสียงหัวเราะแผ่วเบา

“คุณคงคิดจะเอาธุรกิจที่ตนเองสร้างขึ้นกับมือแต่ไม่มีปัญญารักษาเอาไว้ได้เพราะถูกผีพนันเข้าสิง คืนจากผมงั้นเหรอ”

วชิระโคลงศีรษะยิ้มๆ กัดปลายซิการ์พ่นกระเด็นใส่หน้าเขา

“ในเมื่อมันเป็นของผมมาก่อนและคุณก็รู้ดีว่า พ่อของคุณไม่มีสิทธิ์ครอบครองมันตั้งแต่ต้นแล้ว เพียงแค่ดูแลรักษาไว้เพื่อรอให้ผมมารับคืนเท่านั้นการพูดคุยของผมกับท่านภาณุพลวันนี้ไม่ได้มีเฉพาะเรื่องนี้หรอกนะเราได้พูดถึงภรรยาสุดที่รักของคุณด้วย คนฉลาดอย่างคุณคงระแคะระคายบ้างแล้วพร้อมกับกำลังมองหาแนวทางแก้ไขอยู่ แต่ดูเหมือนทุกอย่างจะไม่เข้าข้างคุณนะครับคุณภู...”

“แกกล่าวอย่างนี้หมายความว่ายังไง”

“ก็เพราะคุณได้มีน้ำใจมาเยี่ยมพวกเราถึงนี่ยังไงล่ะการกักตัวคุณไว้ในที่นี้ แม้จะเพียงแค่คืนเดียว จะทำให้งานที่เราวางแผนไว้หลาย ๆอย่างประสบผลสำเร็จอย่างงดงามเลยทีเดียวตอนนี้ธุรกิจของพ่อคุณก็อยู่ในกำมือคุณคนเดียว ขาดคุณเสียแล้ว คนอื่น ๆก็จะดำเนินได้ไม่ถนัดนัก หรือถ้าทำได้ก็ทำอย่างคนตาบอด”

ภูรู้สึกใจหายวาบเมื่อหวนนึกถึงการประชุมสามัญประจำไตรมาสเกี่ยวกับการแต่งตั้งผู้บริหารงานชุดใหม่ที่เขาเป็นคนกำหนดไว้วันจันทร์นี้ทันทีที่สีหน้าเขาถอดเผือดลงถนัด ซึ่งแน่ล่ะมันอยู่ในอาการจับสังเกตของสิงห์เฒ่าเจ้าเล่ห์สองตัวอยู่ตลอดเวลาส่งรอยยิ้มเยาะมาให้เขาอย่างพอใจ

“คุณภูคงพอจะทราบแล้วสินะครับว่าคณะกรรมการบริหารจะทำงานกันอย่างชนิดตาบอด งุมโข่งกันอย่างไรในเมื่อประธานกรรมการบริหารใหญ่ที่เป็นคนควบคุมดูแลกิจการบริษัททั้งหมดอย่างคุณหมดโอกาสที่จะออกไปชี้แจงแถลงไขข้อมูลตลอดถึงแผนงานของไตรมาสต่อไปให้กรรมการบริหารได้รับทราบบางที....บริษัทอาจได้รับผลกระทบเสียหายขาดทุนย่อยยับได้”

คราวนี้เป็นนักการเมืองเจ้าเล่ห์พูดทิ้งระยะขาดตอนไว้อย่างมีเลศนัยส่งรอยยิ้มหยันมาให้เขาอย่างเปิดเผย ก่อนกล่าวประโยคต่อมา

“ครอบครัวอันเป็นที่รักโดยเฉพาะรจนาสาวสวยรวยเสน่ห์ ภรรยาของคุณผมสามารถส่งคนไปเชิญตัวเธอมาพบผมและตกเป็นของผมอย่างง่ายดายบางทีอาจจะเป็นวันพรุ่งนี้เช้าหรือวันไหนก็ได้ขึ้นอยู่กับความพอใจของผมนอกจากนั้นบริษัทที่พ่อคุณภูมิใจนักหนา อย่างช้าไม่เกินอาทิตย์ผมสามารถเอาการ์ดเชิญเปิดตัวผู้บริหารคนใหม่มาให้คุณดูถึงที่นี่ได้....”

ภาณุพลเปิดแผนการกระโชกขวัญเขาได้อย่างนิ่มนวลที่สุดคนอย่างภูริเชษฐ์รอรับเล่ห์อุบายจากสมองอันปราดเปรื่องเรืองปัญญานั้นอย่างสงบสติอารมณ์ถ้าเป็นสมัยหนุ่ม ๆ ภาณุพลคงโดนกำปั้นของเขาอัดหน้าแหกแน่ ๆ กับการพูดจาเยาะเย้ยถากถางต่อหน้าต่อตาเช่นนี้

มธุรสวาจาอันเปรียบเหมือนน้ำผึ้งหวานอาบด้วยยาพิษสร้างความทรมานทางจิตใจและความร้อนรนห่วงหน้าพะวงหลังให้แก่เขาเป็นอย่างมากแต่ก็นั่งนิ่งสงบเก็บอาการเหล่านั้นไว้ภายในไม่แสดงออกไปให้อีกฝ่ายได้รับรู้ยิ้มตอบรับในอาการเดียวกัน ประวัติศาตร์จีนก็เคยมีแล้วขงเบ้งเคยทำให้จิวยี่รากเลือดเพราะคำพูดไม่กี่คำหรือแม้ในวรรณกรรมไทยเรื่องพระอภัยมณีอุศเรนก็เคยกระอักเลือดตายเพราะคำพูดของผู้หญิงหน้าตาขี้เหร่อย่างนางวาลีเขาจะไม่ปล่อยให้อารมณ์มาอยู่เหนือเหตุผลเป็นอันขาด ทั้งที่ข้างในของเขาตอนนี้แทบจะระเบิดลาวาออกมาอยู่แล้ว

ภาณุพลเห็นชายหนุ่มแสดงอาการสีหน้าเย็นชาเหมือนคำพูดที่ตนเปรยไปเมื่อครู่นี้ไม่มีความหมายอะไรจึงกล่าวต่อไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

“ผมทราบว่าคุณภูเป็นคนรักเมียเป็นอย่างมากแต่ก็คงน้อยกว่าลูกน้อยสองคน ซึ่งคุณรักแกมาก ๆ จะเป็นการดีไหมถ้าผมนำตัวลูกน้อยที่คุณรัก คุณถนอมมาพบพ่อบังเกิดเกล้าที่นี่”

ได้ผลเป็นอย่างยิ่ง ขณะพูดได้ชำเลืองหางตามองนักธุรกิจหนุ่มรูปงามที่ส่งสายตาจ้องมายังตนราวกับจะควักเอาหัวใจของตนออกมาให้ได้จึงหรี่ตาลงยักคิ้วข้างหนึ่งให้อย่างท้าทาย

อาการนั้นสร้างความสะเทือนใจแก่ความรู้สึกภูเป็นอย่างยิ่ง อย่างสุดที่จะทนทานต่อไปได้เขาโพล่งด้วยเสียงเหมือนคำรามออกมา เรียกสรรพนามเปลี่ยนไปตามอารมณ์

“แกว่ามาให้ชัดเจนเลยดีกว่าว่าจะเอาแบบไหน”

“ใจเย็น ๆดีกว่าครับคุณภู คุณจำสุภาษิตบทว่า ช้า ๆ ได้พร้าเล่มงามไม่ได้หรือครับผมและวชิระอยากจะคุยอะไรกับคุณมากมายเลยทีเดียวมองไม่เห็นเลยว่าคุณจะต้องเดือดร้อนอะไร เหล้า เบียร์ หรืออะไรต่าง ๆ ก็มีพร้อมยิ่งไปกว่านั้น หากเป็นความต้องการของคุณ ผมยินดีบริการให้อย่างดีกระทั่งผู้หญิงสวย ๆ ที่คุณชื่นชอบเป็นชีวิตจิตใจ ผมก็หามาต้อนรับให้ได้นะยกเว้นต้องการออกไปจากที่นี่ก่อนที่ผมจะอนุญาต”

เขาไม่กล่าวอะไรอีกนอกจากยิ้มให้กับนักการเมืองเจ้าเล่ห์ยิ้มให้กับความฉลาดล้ำที่พยายามจะต้อนเขาไปสู่เป้าหมายที่มันต้องการไปสู่ความพ่ายแพ้อย่างราบคาบ ถ้าในประเทศนี้ยังมีนักการเมืองที่ทรงอิทธิพลและฉลาดเจ้าเล่ห์ยิ่งกว่าน้ำกรดอย่างภาณุพลความเจริญก้าวหน้าของประเทศชาติไม่จำต้องหวังเพราะนักการเมืองแบบนี้มันไม่ได้มีเพียงกำลังทรัพย์ที่จะหว่านล้อมใช้ได้อย่างสะดวกสบายกำลังคนที่พร้อมสรรพ ยังมีทั้งกำลังสมองสำหรับวางแผนและดำเนินการทุจริตคดโกงได้อย่างมากมายตบตาเจ้าหน้าที่รักษากฎหมายบ้านเมือง องค์การอิสระที่คอยตรวจสอบ ตบตาประชาชนตาดำ ๆ

แต่สำหรับเขาต่อให้มันเหาะเหินเดินอากาศได้ เขาก็ไม่หวั่นใจ

เมื่อเห็นชายหนุ่มเงียบไปภาณุพลส่งเสียงหัวเราะอย่างเย้ยหยันดังขึ้นอีกครั้ง หน้าอกกระเพื่อมไปตามจังหวะกล่าวเรียบ ๆ มาเช่นเดิม

“ผมชื่นชอบคุณมาก ๆนะคุณภู มีคนหนุ่มไม่กี่คนหรอกที่ทำได้อย่างคุณไม่ว่าจะเป็นเรื่องปรับปรุงตนเองให้เข้ากับสถานการณ์ อุดมคติที่แน่วแน่การบริหารจัดการผู้ใต้บังคับบัญชา น้อยจริง ๆ ที่จะมีคนหนุ่มมากความสามารถอย่างคุณใครได้คบค้าสมาคมด้วยถือว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่งเลยทีเดียว ถ้ามีนักธุรกิจใสซื่อมือสะอาดอย่างคุณมากกว่านี้ประเทศชาติคงเจริญมั่งคั่งเป็นแน่”

เลือดในกายวิ่งพล่านด้วยความโกรธแค้นลมแห่งความโกรธทำเอาเขาหูอื้อตาลายไปชั่วขณะจนแทบอยากกระโจนเข้าขย้ำคอคนที่อยู่ตรงหน้าเหลือเกินสายตาจับจ้องภาณุพลอย่างเจ็บแค้นมุ่งพิฆาต สูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆโดยไม่ยอมแตะต้องเครื่องดื่มและอาหารที่วางอยู่ตรงหน้าพยายามปรับอารมณ์ของตนให้สงบเยือกเย็นที่สุดเท่าที่จะทำได้ในตอนนี้กระซิบรอดไรฟันออกมา

“อย่าปล่อยให้ผมหลุดออกไปได้แล้วกัน”

“แน่ใจได้ครับ...เขี้ยวเล็บของสมิงร้ายจะไม่มีวันปล่อยให้เหยื่อของมันหลุดออกไปจากกรงเขี้ยวคมเล็บได้หรอกเว้นเสียแต่ว่ามันจะเห็นว่าไม่ใช่เหยื่อหรือศัตรูของมัน”

ภาณุพลตอบกลับด้วยประโยคสนทนาทันๆ กัน หันไปพยักหน้าให้วชิระและการ์ดสองนายออกไปรอตนข้างนอก ภายในห้องนั้นจึงเหลือเพียงตนเองภูริเชษฐ์และโรแบร์ ซึ่งตอนนี้หมดสติไปแล้วด้วยพิษบาดแผลและความบอบซ้ำยื่นแก้วเหล้าให้ชายหนุ่มช้า ๆ

คราวนี้ภูริเชษฐ์ไม่แสดงอาการปฏิเสธเหมือนครั้งแรกเขายื่นมือไปรับด้วยอาการสงบเยือกเย็น และก่อนที่ภาณุพลจะทันไหวกายอย่างไรก็โดนเขาสาดแก้วเหล้าใส่หน้าเต็ม ๆ พร้อมกับขว้างแก้วเหล้าลงพื้นเสียงดัง “เพ้ง”หยิบเศษแก้วปาเข้าใส่ผนังห้องที่มีม่านสีชมพูหวานแว๋วกั้นอยู่

ม่านรอบด้านถูกระชากออกอย่างรวดเร็วการ์ดไม่ต่ำกว่าสิบนายยืนเป็นจุด ๆ ก้าวพรวดตรงออกมายังเขาและจากภาพที่เห็นทำให้เขาตกตะลึงเล็กน้อยแต่ก็ปรับสีหน้าให้เป็นปกติด้วยเวลาอันรวดเร็ว

“กลัวผมจะทำร้ายขนาดนั้นเลยเหรอครับ...ผมก็แค่นักธุรกิจจะเอากำลังที่ไหนไปต่อสู้กับท่าน”

เขากล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ส่งเสียงหัวเราะกร้าว หยิบแก้วเหล้าอีกใบขึ้นมารินเหล้าลง ยื่นให้ภาณุพล

“ดื่มหน่อยสิครับท่านจะได้หายขวัญเสีย”

ภาณุพลนิ่งไปนาน!ก่อนจะยื่นมือมารับแก้วเหล้าจากชายหนุ่มดื่มรวดเดียว เขาเห็นดังนั้นจึงรินดื่มดับความกระหายให้ตนเองบ้าง

“เชิญพูดธุระท่านมาได้แล้ว”

“ใจร้อนจริง ๆเลยคุณภู ถ้างั้นผมยื่นข้อเสนอแล้วกัน”

“ว่ามา”

“ประการแรก คุณจะต้องจัดการขายหุ้นบริษัทที่คุณถืออยู่จำนวนมากให้แก่ผมเพียงคนเดียวทั้งหมด

ประการที่สองคุณจะต้องลาออกจากตำแหน่งผู้บริหารทุกตำแหน่งและเดินทางออกนอกประเทศเป็นเวลา ๕ ปีนับแต่วันเราตกลงกัน และเมื่อคุณเดินทางกลับมาต้องสัญญาว่าจะไม่ทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องหรือคล้ายคลึงกับธุรกิจที่ผมทำอยู่ทุกชนิด”

“เป็นข้อเสนอที่ไม่เลวนี่แล้วลูกเมียผมล่ะ”

“ผมจะจัดการส่งลูกน้อยของคุณสองคนติดตามไปภายหลังโดยจะอำนวยความสะดวกให้แก่พวกเขาเป็นอย่างดี สำหรับเมีย ผมขอเก็บไว้เชยชมก่อนเบื่อเมื่อไหร่ อาจจะส่งไปคืนให้ แต่คงไม่เบื่อง่าย ๆ เพราะเมียคุณสวยบาดตาบาดใจเหลือเกินประกอบเรื่องบนเตียงที่ผ่านผู้ชายอย่างคุณมา ลีลาของเธอคงดุเด็ดเผ็ดร้อนถูกใจผมแน่ๆ”

แม้จะรู้สึกบาดใจกับประโยคสนทนาแต่เขาก็ต้องเก็บอาการไว้ ข่มความโกรธ กลืนน้ำลายแห้งผากลงคอ ย้อนถามกลับไป

“แล้วคุณวชิระจะยอมหรือเกี่ยวกับเรื่องบริษัท เพราะเขาเป็นตัวตั้งตัวตีอยากได้คืนจากพ่อผมมิใช่หรือ”

“เรื่องนั้นอย่าห่วงวชิระเป็นหนี้ผมอยู่มาก และเงินที่จะซื้อหุ้นของคุณ ก็เป็นเงินผม”

ไพ่ใบสุดท้ายของภาณุพลวางลงตรงหน้าเขาณ บัดนี้แล้ว มันเป็นไพ่ใบสำคัญเกินความคิดของเขาพอสมควร ทำให้เขารู้ว่าเหตุใดนักการเมืองเจ้าเล่ห์คนนี้ ถึงต้องการพูดคุยกับเขาเพียงลำพัง

เรื่องร้ายๆ ที่ผ่านมาเพื่อทำลายชื่อเสียงของเขา ก็เกิดจากสมองอันปราดเปรื่องเจ้าเล่ห์นี้บริษัทที่เขารับช่วงต่อจากพ่อ เป็นบริษัทที่สร้างผลกำไรอย่างงดงาม รูปแบบการบริหารการจัดการ เขาได้จัดการวางไว้อย่างเป็นระบบ เป็นขั้นตอนอย่างชัดเจนแม้แต่นักบริหารที่จบมาใหม่ ๆ หากอ่านและศึกษารูปแบบที่เขาวางไว้อย่างละเอียดก็สามารถบริหารจัดการตามได้อย่างสะดวกสบายและถ้ามันตกไปอยู่ในมือของผู้มีอิทธิพลอย่างภาณุพลมันยิ่งจะเจริญงอกงามไพบูลย์ยิ่งกว่าเดิมเป็นสองเท่าในด้านผลประโยชน์

ตอนแรกมันต้องการทำลายชื่อเสียงของเขาให้ย่อยยับอัปปรางเป็นการตัดกำลังคู่แข่งไป แต่เมื่อมันฟลุ้กได้ตัวเขามาแล้วแบบนี้คนฉลาดอย่างภาณุพล ย่อมมีเล่ห์อุบายแบบใหม่ในการแสวงหาประโยชน์ใส่ตนเอง

การเจรจาหว่านล้อมต่างๆ โดยเงื่อนไขและผลประโยชน์ที่เขาพึงได้รับ มันเป็นอุบายตุ๋นกันซึ่ง ๆ หน้ามากกว่าเรื่องอะไรที่คนคิดแต่ผลประโยชน์ส่วนตัวอย่างมันจะยอมเสียเงินจำนวนมากเพื่อซื้อหุ้นจากเขาวิธีง่ายที่สุดคือทำให้เขาเป็นคนสูญหายไปเลย ไม่ดีกว่าเหรอ.....

ความเจ้าเล่ห์ของมันในการวางแผนยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวแต่นกอย่างเขาก็เคยล้วงไส้ของพวกงูเห่ามากินเสียนักต่อนัก เขาแกล้งทำสีหน้ายิ้มระรื่นเหมือนพอใจข้อเสนอเต็มที่

ภาณุพลเห็นอาการของชายหนุ่มอย่างนั้นก็ยิ้มตอบ ก่อนหว่านล้อมด้วยคำหวานอีก

“คิดดูให้ดีนะ...คุณจะยอมถูกขังจนตายที่นี่หรือจะบินออกไปเสวยสุขที่ต่างประเทศและด้วยจำนวนเงินที่ผมเสนอให้ ผมเชื่อว่าคนฉลาดอย่างคุณสามารถสร้างธุรกิจใหม่ ๆในประเทศที่คุณไปอยู่ได้”

“ผมต้องการเวลาคิด”

“ได้...!หากเป็นความต้องการของคุณ ผมจะรอ แต่ผมเป็นคนที่มีความอดทนต่ำด้วยนะอย่าให้รอนานล่ะ”

“ผมมีอะไรอยากถามท่านหน่อย”

“ว่ามา...ยังไงเราก็ยังเป็นมิตรกันอยู่มิใช่หรือ”

“ผมแปลกใจในวิถีการดำเนินชีวิตของท่านมากท่านเอาอะไรผูกใจพวกนั้นไว้ใช้งานพวกมันจึงยอมทำตามคำสั่งท่านและเชื่อฟังคำสั่งท่านราวกับเทพเจ้าอย่างนั้นโดยเฉพาะตำรวจหนุ่มสองนายนั้น”

“คุณอยากรู้จริง ๆ เหรอ?”

“ถ้าไม่เป็นความลับเกินไป”

“ไม่เป็นความลับอะไรหรอกเมื่อคุณอยากทราบผมก็จะบอกให้ ว่าแต่คุณใช้อะไรผูกใจลูกน้องคุณล่ะพวกเขาถึงยอมทำงานถวายชีวิตให้กับคุณ กระทั่งบริษัทคุณเจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว”

“ความดีและความจริงใจ”

เขาตอบห้วนๆ

“เหรอ...แต่ผมตรงข้ามเลยผมใช้ความชั่วของพวกมันเอง ผูกมัดพวกมันไว้ใช้งาน ฮ่า...ฮ่า....ฮ่า”

ภาณุพลกล่าวพร้อมกับหัวเราะอย่างขบขันระบายยิ้มออกมาเล็กน้อย หนวดยาวเฟื้อยตรงเหนือริมฝีปากกระดิกหงึด ๆตามจังหวะหัวเราะ ขณะจ้องมองหน้าชายหนุ่ม

“ผมบอกได้แต่ว่าพวกนั้นไม่กล้าปฏิเสธความต้องการของผมต่อให้ผมหลอกเอาลูกเมียมันมาปู้ยี่ ปู้ยำ พวกมันก็จำยอมต้องยื่นมือเข้ามาช่วยผมอยู่ดีหากเป็นความต้องการของผม”

“ขนาดนั้นเลยเหรอ...ว่าแต่ท่านได้ไปสร้างบุญคุณอะไรให้แก่พวกนั้นพวกเขาถึงได้ยอมก้มหัวให้ท่านอย่างง่ายดายขนาดนั้น”

“คำว่า “บุญคุณ” ยังไงล่ะคุณภู...บุญคุณที่ผมมีต่อเขาพวกนั้นมันค้ำคออยู่มากนัก แต่บุญคุณของผมกับของคุณมันคนละความหมายกันและมันไม่ใช่แค่เรื่องเงินทองที่ใครก็สามารถหยิบยื่นให้แก่กันและกันได้ ซึ่งใคร ๆในสังคมเราก็พากันทำอยู่มากมาย”

“แล้วบุญคุณในความหมายของท่านเป็นอย่างไร”

เขาอดถามขึ้นไม่ได้

“บุญคุณของผมก็คือการที่ผมรู้พฤติกรรมเบื้องหลังอันหยาบช้าของคนพวกนั้นนะสิมันได้สร้างความผูกพันและผลประโยชน์อันเร้นลับและมากมายก่ายกองแก่ผมในโลกนี้มีกี่คนที่ไม่เคยทำผิดพลาด และส่วนมากมักปิดเป็นความลับแต่เผอิญว่าผมรู้ความลับนั้น เลยทำให้มันง่ายขึ้น ที่จะต้องช่วยพวกเขาปกปิด
มนุษย์เราทุกคนล้วนเต็มไปด้วยกิเลสหนาตัณหาหยาบกันทั้งนั้นความไม่รู้จักพอ ไม่รู้จักอิ่มในกามคุณของแต่ละคนเป็นช่องที่เปิดโอกาสให้คนอย่างผมเข้าไปแสวงหาผลประโยชน์ได้อย่างง่ายดายสัญชาตญาณนี้มันเต็มไปด้วยอำนาจลี้ลับที่คนเราส่วนมากแม้ปากบอกว่ารู้สามารถควบคุมมันได้ แต่น้อยคนที่ยับยั้งการกระทำของตนได้และบางคนก็ถลำลึกเกินกว่าจะถอนตัว พฤติกรรมนี้ของคนพวกนั้นต่างหากที่ทำให้ผมสามารถเข้าไปแสวงหาผลประโยชน์จากพวกเขาได้อย่างแนบเนียนในรูปแบบมีผลประโยชน์ร่วมกัน”

“ร้ายกาจจริง ๆ”

ภูได้แต่สบถพึมพำแต่ประโยคคำพูดของเขาก็แว่วเข้าหูภาณุพล

“จะว่าผมร้ายก็ไม่ถูกนะครับคุณภู...คุณเองก็บ่อยครั้งไม่ใช่หรือที่หักห้ามสัญชาตญาณนี้ของตนไม่ได้ยกตัวอย่างเช่น บุคคลคนหนึ่ง รูปลักษณ์ภายนอกเป็นที่นับหน้าถือตาของคนทั่วไปในสังคม แต่เบื้องหลังกลับมีพฤติกามชอบเสพสมอารมณ์หมายกับเด็กอายุไม่เกิน๑๕ ปีแบบรุนแรง บางคนถึงกับทนไม่ไหว ถึงแก่ชีวิตก็มีเป็นเรื่องที่ไม่มีใครรู้ความโสมมนั้น นอกจากผมเพียงคนเดียวและผมไม่คิดจะนำไปเล่าให้ใครฟัง แกล้งทำเป็นปิดปากเงียบสนิทหลายครั้งที่ผมต้องทนมองดูพฤติกามเยี่ยงสัตว์เสพสมของคน ๆ นั้นกับเด็ก ๆเพียงเท่านี้ก็สร้างความผูกพันระหว่างผมกับกับคน ๆ นั้นได้อย่างมากมาย คุณคิดว่าคนๆ นั้นจะกล้าปฏิเสธผมหรือเปล่าล่ะ...”

“แล้วตำรวจหนุ่มสองนายนั้นล่ะ”

“คุณคิดว่าตำรวจที่เพิ่งจบนายร้อยไม่กี่ปี แล้วก้าวขึ้นยศร้อยตำรวจเอกอย่างรวดเร็วแบบนี้คิดว่าเกิดจากฝีมือของเขางั้นเหรอ”

“ผมคิดว่าเกิดจากสิ่งอื่นมากกว่า”

“ฉลาดเหมือนกันนี่คุณภู...ผมจะบอกให้ว่าตำรวจสองนายนั้น คนหนึ่งเป็นเกย์ควีนอีกคนเป็นเกย์คิงและก็บังเอิญที่ผมรู้ความลับข้อนี้ของมันทำให้ผมสามารถเรียกมันมาใช้งานได้อย่างง่ายดาย สั่งอะไรได้อย่างนั้นและก็เคยส่งพวกมันสองคนไปปรนเปรอนักธุรกิจแก่ ๆ ที่เบื่อแม่บ้านและเซ็กส์แบบจำเจของตนแม้แต่นักการเมืองระดับสูง หลายคนก็ยังชื่นชอบบริการของมัน คุณลองคิดดูสิว่าคนที่ผมให้พวกมันไปบริการนั้น จะมีความผูกพันเป็นบุญคุณกับผมมากมายขนาดไหน...ฮ่า....ฮ่า...ฮ่า”

เมื่อได้ฟังวิธีการของอีกฝ่ายทำให้เขาหมดความสงสัยว่าเหตุใดคนเหล่านั้นจึงยอมก้มหัวให้ภาณุพลอย่างง่ายดายเพราะลำพังอำนาจเงินไม่สามารถทำให้คนก้มหัวให้กันได้ง่ายขนาดนี้

“เป็นไงคุณภู...ทำธุรกิจแบบนี้ง่ายไหม? คนในสังคมนี้ยิ่งมีความดำมืด พฤติกรรมชั่วช้าของตนมากเท่าไหร่ยิ่งเป็นการเปิดช่องทางให้ผมสามารถเข้าถึงตัวคนผู้นั้นได้ง่ายมากขึ้นผมจึงเพลิดเพลินกับการเฝ้าดูตัณหา ราคะของคนพวกนี้มันให้ผลงดงามกว่าจำนวนเงินหรือผลประโยชน์ที่ติดเป็นสินบนแก่กันและกันมากกว่าคุณเห็นด้วยไหม? และผลประโยชน์ในลักษณะนี้แหละทำให้ผมเป็นที่เคารพยำเกรงของผู้มีอำนาจในสังคมนี้”

“แล้วท่านล่ะไม่ชอบเสพสมอย่างสัตว์กับหญิงพรหมจรรย์เหมือนพวกที่คุณกล่าวอ้างบ้างเหรอ”

“ไม่หรอก...ผมไม่ค่อยชื่นชอบมันเป็นการสนุกอยู่ฝ่ายเดียว และเป็นการเสี่ยงโดยไม่จำเป็นด้วย รสนิยมของผมก็คือหญิงที่ผ่านการแต่งงานมาแล้วหรือไม่ก็ผ่านประสบกามมาพอสมควร มันได้อรรถรสในการร่วมรักดี เหมือนภรรยาคุณไงนี้แหละสเป๊คผมเลย ผมไม่อยากคิดว่าหากได้เสพสมกับเธอจริง ๆ จะมีความสุขขนาดไหน”

“ฝันไปเถอะ”

“อย่าท้าผมนะคุณภู...ผมเชื่อว่าผู้หญิงที่ผ่านผู้ชายอย่างคุณมาคงมีกลเม็ดเด็ดพลายมากมายแน่นอน และผมก็เฝ้ารอด้วยความใจจดใจจ่อเสียด้วยสิ”
ขณะกล่าวใบหน้าอาบไปด้วยรอยยิ้ม

“เขาพูดกันว่าผู้ชายที่มีขนปุกปุยบนหน้าอกแต่พองามอย่างคุณ มีพลังเซ็กส์เหลือเฟือมากยิ่งนักดังนั้น ระหว่างอยู่ที่นี้ ก็อย่าทำอะไรที่ขัดขืนคำสั่งผม หรือทำอะไรให้ผมไม่พอใจแล้วกันมิฉะนั้นคุณอาจจะได้เป็นผัวหรือเป็นเมียตำรวจหนุ่มสองนายนั้น คนใด คนหนึ่งหรือพร้อมกันทั้งสองคนในเวลาเดียวกันคุณไม่สังเกตสายตาเวลาพวกมันจ้องมองคุณเหรอว่ามันเป็นสายตาที่เต็มไปด้วยความกระเหี้ยนกระหือขนาดไหน เพียงแค่ผมเปิดทางให้เท่านั้นพวกมันก็พร้อมจะสนองความต้องการคุณทันที”

“อย่าได้ทำอย่างนั้นเป็นอันขาดนะ”

“ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของคุณหากเป็นที่พอใจผมเรื่องแบบนี้ก็จะไม่เกิดขึ้น หากเป็นตรงกันข้ามผมก็ช่วยอะไรไม่ได้ เอาล่ะ...เราก็พูดคุยกันมาพอสมควรแล้ว ผมเห็นว่าควรให้คุณได้ทานอาหารพักผ่อนบ้าง แต่ระหว่างที่คุณอยู่ที่นี้คุณจะได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี สำคัญอย่าคิดหนีเป็นอันขาด มิฉะนั้นไอ้ฝรั่งขี้นกโดนดีเป็นคนแรก”

กล่าวจบภาณุพลก็เคาะผนังห้องการ์ดสามสี่นายก็เข้ามาพยุงร่างโรแบร์ออกไปคุมขังอีกห้องหนึ่ง

“ถ้าท่านทำอันตรายเพื่อนผมอีกแม้รอยขีดข่วนเดียวผมจะจองล้างจองผลาญท่านตลอดชีวิตแน่”

“น่ากลั๊ว ...น่ากลัว 555555”

แม้ว่าสภาพของเขาในขณะนี้จะไม่ได้ถูกจองจำพันธนาการแต่อย่างใดแต่เขาก็รู้สถานการณ์ดีว่า ได้ตกเป็นเชลยของบุคคลผู้ทรงอิทธิพลคนหนึ่งในประเทศที่แวดล้อมด้วยบริวารผู้ตกเป็นทาสด้วยอำนาจอันเร้นลับซึ่งยากจะถ่ายถอนตนเองให้หลุดพ้นออกไปได้

สิ่งเดียวที่เขาจะทำได้ในเวลานี้คือประวิงเวลาอันเป็นวาระสุดท้ายของตนให้นานที่สุดนานจนกว่าเขาจะหมดลมหายใจหรือหลุดพ้นออกจากบ้านหลังนี้ไปได้ภาณุพลจะยังไม่ทำอันตรายอะไรแก่เขาแน่นอน ตราบใดที่มันยังไม่บรรลุตามจุดประสงค์อันชั่วร้ายของมัน

ทว่าคนอย่างภาณุพลก็แบะท่าบางอย่างให้เขาได้เห็นแล้วว่ามันเต็มไปด้วยความฉลาดเจ้าเล่ห์ เต็มไปด้วยกโลบายอันล้ำลึกเกินคนทั่วไปจะตามได้ทันจากการได้พูดคุยกันทำให้เขาได้ทราบว่า การประชุมแต่งตั้งผู้บริหารชุดใหม่ของเขา ซึ่งอำนาจการตัดสินทั้งหมดอยู่ที่เขาคนเดียวเป็นความลับของบริษัท แต่เสือร้ายอย่างภาณุพลกลับทราบลึกตื้นหนาบางนั้นอย่างละเอียดถี่ถ้วน

เขาจึงได้แต่หวังว่าอากรจะสามารถระงับหรือแก้ไขสถานการณ์นี้แทนเขาได้มิฉะนั้นบริษัทที่พ่ออุตส่าห์ลงแรงสร้างขึ้นมา ต้องถึงคราวอับปรางย่อยยับแน่ ๆสิ่งนี้สร้างความกระวน กระวายกระสับกระส่ายให้แก่เขายิ่งกว่าการโดนจับตัวขังไว้ที่บ้านนี้อีก

“หุ่นคุณภูสุดยอดจริงๆ วะ ! ธีร์ มึงดูสิชิคแพกและไรขน ดูเซ็กส์ซี่มาก ๆ”

สองตำรวจหนุ่มสนทนากันเบาๆ อยู่ตรงริมประตูทางเข้า จ้องมองชายหนุ่มซึ่งอยู่ในสภาพเปลือยท่อนบนเพราะถอดเสื้อออกเช็ดเลือดให้โรแบร์ก่อนหน้านี้ นั่งก้มหน้าก้มตามือกุมขมับอย่างใช้ความคิด โดยไม่ได้หันมาทางพวกตนแม้แต่น้อย

“หน้าอกยังดูเนียนแน่นเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อขนาดนี้ แล้วร่องก้นล่ะพี่ จะแน่นขนาดไหน แค่คิดก็เสียวแล้ว”

“มึงเย็นไว้ก่อน...ท่านภาณุพลยังไม่ได้สั่งให้ทำอะไรขืนทำเกินเลยคำสั่ง มีหวังกูกับมึงโดนเจี๋ยนแน่ ๆ”

สนทนาแลกเปลี่ยนกันสักพักสองหนุ่มก็เดินเข้าไปหิ้วปีกภูขึ้น

“เราได้รับคำสั่งให้พาคุณขึ้นไปพักข้างบนซึ่งมีห้องนอน ห้องน้ำพร้อม และดูท่าคุณคงต้องพักอยู่นี่หลายวัน”

เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่แสดงอาการขัดขืนจักรภพเข้ามาจับแขนชายหนุ่ม เดินพาขึ้นไปพักด้านบนจัดการอาหารเครื่องดื่มให้เรียบร้อย สำรวจดูความเรียบร้อยอื่น ๆ จนเป็นที่พอใจจึงเดินออกมาล็อกประตูด้านนอกก้าวลงบันไดไปหาอะไรดื่มด้านล่างระงับอารมณ์บางอย่างข้างในของตนด้วยความรู้สึกที่ไม่มีใครทราบได้ว่า เจ้าตัวกำลังคิดจะทำอะไรนอกเหนือคำสั่งเจ้านายหรือไม่.....

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
4411
พลังน้ำใจ
37840
Zenny
2719
ออนไลน์
6022 ชั่วโมง

เจ้าพ่อมหาลัย

โพสต์
41934
พลังน้ำใจ
212978
Zenny
84042
ออนไลน์
15245 ชั่วโมง
ขอบคุณครับ

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
6786
พลังน้ำใจ
42221
Zenny
27665
ออนไลน์
1937 ชั่วโมง
ขอบคุณครับ

มาเฟียคุมคณะ

โพสต์
14897
พลังน้ำใจ
78370
Zenny
31897
ออนไลน์
11459 ชั่วโมง
ขอบคุณครับ

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
1087
พลังน้ำใจ
10807
Zenny
246
ออนไลน์
1117 ชั่วโมง
ขอบคุณครับ

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
2098
พลังน้ำใจ
25279
Zenny
1053
ออนไลน์
2996 ชั่วโมง

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
1526
พลังน้ำใจ
25535
Zenny
9596
ออนไลน์
3173 ชั่วโมง

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
4157
พลังน้ำใจ
32703
Zenny
21000
ออนไลน์
1890 ชั่วโมง
ขอบคุณครับ

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
753
พลังน้ำใจ
15391
Zenny
219
ออนไลน์
969 ชั่วโมง

มาเฟียคุมคณะ

โพสต์
8232
พลังน้ำใจ
53572
Zenny
16827
ออนไลน์
7667 ชั่วโมง
ขอบคุณครับ

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
2150
พลังน้ำใจ
14088
Zenny
36
ออนไลน์
1416 ชั่วโมง
ขอบคุณครับ

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
2150
พลังน้ำใจ
14088
Zenny
36
ออนไลน์
1416 ชั่วโมง

เจ้าพ่อมหาลัย

โพสต์
25921
พลังน้ำใจ
135670
Zenny
627514
ออนไลน์
16817 ชั่วโมง

สมาชิกจีโฟกาย 100%สมาชิกระดับแพลตตินั่มสมาชิกระดับทับทิมสมาชิกระดับไพลินสมาชิกระดับมรกตสมาชิกระดับเพชรสมาชิกระดับเพชรบริหารสมาชิกระดับเพชรคู่สมาชิกระดับตรีเพชรสมาชิกระดับมงกุฎ

ถ้าสบช่องจับเสียบตูดเอามาเป็นพวกเลย

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
3125
พลังน้ำใจ
31904
Zenny
2717
ออนไลน์
7213 ชั่วโมง
ขอบคุณครับ

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
1022
พลังน้ำใจ
18481
Zenny
6708
ออนไลน์
4268 ชั่วโมง
ขอบคุณครับ

มาเฟียคุมคณะ

โพสต์
7956
พลังน้ำใจ
50067
Zenny
2311
ออนไลน์
4255 ชั่วโมง
ขอบคุณครับ

ประธานนักศึกษา

โพสต์
108
พลังน้ำใจ
5161
Zenny
23
ออนไลน์
618 ชั่วโมง
ขอบคุณครับ

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
3773
พลังน้ำใจ
22744
Zenny
8222
ออนไลน์
830 ชั่วโมง

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
3773
พลังน้ำใจ
22744
Zenny
8222
ออนไลน์
830 ชั่วโมง
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | สมัครเข้าเรียน

รายละเอียดเครดิต

A Touch of Friendship: สังคมจะน่าอยู่ เมื่อมีผู้ให้แบ่งปัน ฝากไวเป็นข้อคิดด้วยนะคะชาวจีโฟกายทุกท่าน
!!!!!โปรดหยุด!!!!! : พฤติกรรมการโพสมั่วๆ / โพสแต่อีโมโดยไม่มีข้อความประกอบการโพส / โพสลากอักษรยาว เช่น ครับบบบบบบบบ, ชอบบบบบบบบ, thxxxxxxxx, และอื่นๆที่ดูแล้วน่ารำคาญสายตา เพราะถ้าท่านไม่หยุดทีมงานจะหยุดท่านเอง
ขอความร่วมมือสมาชิกทุกท่านโปรดโพสตอบอย่างอื่นนอกเหนือจากคำว่า ขอบคุณ, thanks, thank you, หรืออื่นๆที่สื่อความหมายว่าขอบคุณเพียงอย่างเดียวด้วยนะคะ เพื่อสื่อถึงความจริงใจในการโพสตอบกระทู้ และไม่ดูเป็นโพสขยะ
กระทู้ไหนที่ไม่ใช่กระทู้ในลักษณะที่ต้องโพสตอบโดยใช้คำว่าขอบคุณ เช่นกระทู้โพล, กระทู้ถามความเห็น, หรืออื่นๆที่ทีมงานอ่านแล้วเข้าข่ายว่า โพสขอบคุณไร้สาระ ทีมงานขอดำเนินการตัดคะแนน และ/หรือให้ใบเตือนสมาชิกที่โพสขอบคุณทันทีที่เจอนะคะ

รูปแบบข้อความล้วน|โทรศัพท์มือถือ|ติดต่อลงโฆษณา|จีโฟกายดอทคอม


ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บจีโฟกายดอทคอมนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ หากท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศิลธรรม ไม่เหมาะสมที่จะเผยแพร่ ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link “แจ้งลบโพสนี้” ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือ ลืมพาสเวิดล๊อกอิน/ลืมชื่อที่ใช้สมัคร หรือข้อสงสัยใดๆแจ้งมาที่ G4GuysTeam[at]yahoo.com ขอขอบพระคุณที่ให้ความร่วมมือ

กรณีที่ข้อความ/รูปภาพในกระทู้นี้จัดสร้างโดยผู้ลงข้อมูลเอง ลิขสิทธิ์จะเป็นของผู้ลงข้อมูลโดยตรง หากจะทำการคัดลอก/เผยแพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ลงข้อมูลก่อนนะคะ หรือลงที่มาไว้ด้วยค่ะ

©ขอสงวนสิทธิ์คอนเซ็ปต์,คำอธิบาย,หัวข้อ/หมวดหมู่เว็บ ห้ามลอกเลียนแบบ คิดเอาเองนะคะอย่าเอาแต่ลอก

GMT+7, 2024-4-26 10:28 , Processed in 0.135714 second(s), 25 queries .

Powered by Discuz! X3.1 R20140301, Rev.31

© 2001-2013 Comsenz Inc.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้