จีโฟกาย.คอม

 ลืมรหัสผ่าน
 สมัครเข้าเรียน
ค้นหา
 
ดู: 1195|ตอบกลับ: 17
ซ่อนแถบด้านข้าง

บันทึกของนนท์23

[คัดลอกลิงก์]

ประธานนักศึกษา

โพสต์
934
พลังน้ำใจ
3056
Zenny
3470
ออนไลน์
229 ชั่วโมง
บันทึกของนนท์23
เมื่อฟังเพลงนี้คราใด...นนท์คิดถึงวันที่นนท์ก้าวผ่านเรื่องราวต่าง ๆ มา หากตอนนั้นนนท์ไม่มีสติ...นนท์คงไม่ได้อยู่ในโลกนี้กับคนที่นนท์รักไปนานแล้ว....ครั้งหนึ่งที่นนท์คิดตั้งใจปลิดชีวิตตัวเองด้วยการก้าวพาตัวเองขึ้นไปยืนบนขอบระเบียงคอนโดชั้นที่นนท์อยู่ แม้ว่าอาจจะไม่สูงมาก...แต่ ณ เวลานั้น...เขาต้องการที่จะตายอย่างเดียว...ในสมองสั่งให้โดดในท่าที่หัวต้องโหม่งลงพื้น...เพราะถ้าไม่ตายอาจจะพิการไปตลอดชีวิต...และหากพิการถึงเวลานั้นใครจะอยู่ดูแล...นนท์คิดแล้วว่า...ไม่อยากเป็นภาระให้นัทต้องมาคอยป้อนข้าวป้อนน้ำเขาไปทั้งชีวิต...ขอตายเสียดีกว่า...ชีวิตที่ไม่เหลืออะไรอีกแล้ว....วินาทีนั้น...วินาทีที่นนท์ตัดสินใจแล้วว่าต้องกระโดด...วินาทีของการดับชีวิตที่ไม่ต้องการมีชีวิตต่อไปอีก...วินาทีที่สายตานนท์เหม่อมองฟ้าเบื้องบน แล้วถามสวรรค์ว่า...เขาผิดอะไร...เขาไม่เคยทำอะไรผิด...ทำไมต้องทำกับชีวิตของเขาอย่างนี้..จะพิสูจน์อะไรในตัวเขา...จะให้เขาต้องทุกข์ทรมาณไปถึงเมื่อใด...และวินาทีนั้นเอง....ที่เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น...นนท์ล้วงเอาโทรศัพท์มือถือออกจากกระเป๋ากางเกงตัวโปรด เขาพร้อมเต็มที่แล้วเพราะเสื้อและกางเกงที่สวมใส่เป็นตัวโปรดทั้งนั้น...
“นนท์...ทำไรอยู่....นี่......เองนะ” เสียงของบุคคลผู้มีพระคุณที่สุดของชีวิตนนท์ดังก้องมาตามสาย
นนท์ได้ยินเสียงนี้ นนท์จำได้ทันทีว่าคือใคร
“ป่าวคับ...”
นนท์เริ่มร้องไห้สะอื้น ไม่คิดว่าวินาทีที่นนท์กำลังตัดสินใจ ผู้มีพระคุณที่สุดท่านนี้จะโทรเข้ามา
“เป็นอะไร....ร้องไห้ทำไม...วันนี้นนท์ทำอะไร...”
“ไม่ได้ทำอะไรคับ...แค่ไม่อยากอยู่อีกต่อไปแล้ว...นนท์เจ็บคับ...นนท์ไม่รู้ว่าจะหาทางออกได้ยังไงแล้ว...ช่วยนนท์ด้วยคับ”
นนท์ร้องไห้จนผู้มีพระคุณต้องปลอบ
“หยุดร้องก่อนซินนท์...คนเราทุกคนก็มีปัญหาด้วยกันทุกคน...เพียงแต่ว่าเราจะเจอมันหนักมากน้อยแตกต่างกัน...ใครจะเจอทางออกก่อน...ใครจะข้ามปัญหานั้นพ้น...นนท์หยุดร้องไห้นะ...ความดีของนนท์ที่นนท์ทำมาทั้งชีวิต...นนท์จะจบมันง่าย ๆ แบบนี้เหรอ...ไม่เอาน่าเราเรียนมาตั้งสูง....เราต้องมีสติ...เอาอย่างนี้นะ ตอนนี้(.....)อยู่ที่ร้านอาหารในสนามม้านางเลิ้ง...พอดี(......)มาทานข้าว....อยากให้นนท์มาเจอนะ...มาทานข้าวกัน...ทานเสร็จจะพาไปกราบพระอาจารย์องค์นึง...นนท์จะได้ปรึกษาพระอาจารย์ว่าเราจะช่วยกันหาทางออกอย่างไง...ค่อย ๆ ขับรถมานะไม่ต้องรีบ...นานแค่ไหน(......)ก็จะรอนนท์มานะ....เดี๋ยวเจอกัน” {(.....)ผู้มีพระคุณเรียกแทนตัวของท่าน}
“คับ...ถ้าอย่างนั้น...ผมขออาบน้ำล้างหน้าก่อนนะคับ...จากคอนโดผมขับไปคงไม่ถึงชั่วโมงคับ ถ้ารถไม่ติด”
นนท์ตอบท่านไป ....นนท์ทรุดเข่าลงนั่ง...ค่อย ๆ ตั้งสติก้าวลงจะระเบียง เพื่อล้างหน้า ล้างตา เปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วขับรถออกไปพบผู้มีพระคุณท่านนั้น....
การสนทนาพูดคุยของผู้มีพระคุณกับนนท์...ท่านปลอบและสร้างกำลังใจให้นนท์...ท่านบอกว่า
“ใครก็พูดไม่ได้ ถ้าเราไม่ empower ตัวเราเอง...แต่ก่อนอื่นนะ ...นนท์ เราต้องตั้งสติของเราให้ได้ก่อน...คิดถึงสิ่งต่าง ๆ จริงอยู่ตอนนี้เรื่องต่าง ๆ มันรุมเร้านนท์เข้ามา...อย่าเอาทุกเรื่องมาคิดพร้อมกันทีเดียวซิ....หยิบมาทีละเรื่องแล้วพิจารณาดูซิว่า...เรื่องที่หยิบมามันสำคัญที่สุดที่จะต้องแก้ปัญหามันก่อนหรือป่าว....ถ้ายังไม่ใช่ก็วางมันลงไป....แล้วหยิบเรื่องใหม่มาพิจารณาใหม่...นนท์จำได้มั้ย...ทุกสิ่งทุกอย่างมันเกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วมันก็ดับไป....ตอนมันเกิดเราเอาอะไรไปจับมัน...สติหรืออารมณ์....พอมันตั้งอยู่ ถ้าเอาอารมณ์ไปจับมันตั้งแต่แรกอารมณ์มันก็ปรุงแต่งเรื่องนั้น...แต่ถ้าเอาสติไปจับมัน เราก็จับแบบรู้เท่าทันมัน...แล้วทุกเรื่องมันก็ดับไปเหมือนกัน (......)ว่านะ เดี๋ยวเราไปกราบพระอาจารย์กัน ท่านจะได้สอนนนท์ให้เท่าทันความคิดของตัวเอง”
ช่วงที่มีปัญหารุมเร้าหนัก ๆ ของนนท์ ใช่ว่านนท์จะไม่ฝีกปฏิบัติ ไม่สวดมนต์ เขาทำทุกอย่างเพื่อให้จิตใจเขาสบายขึ้น...แต่มันก็ยังว้าวุ่นอยู่ดี...ทุกเช้านนท์จะลุกไปใส่บาตร...กรวดน้ำ...แล้วขับรถไปวัดไปฝึกนั่งกรรมฐาน....แต่ขณะที่นนท์นั่งสมาธิ...น้ำตานนท์ก็ไหลพราก....ในหัวคิดแต่เรื่องเลวร้ายที่ถูกใส่ร้าย ถูกอัปเปหิออกจากบ้าน....ถูกขับไล่ออกจากที่ทำงานเหมือนหมูเหมือนหมา...แม้แต่ข้าวของที่เป็นของตัวเองก็ไม่ได้เก็บเอง...เขาพยายามแผ่เมตตา...ไปให้คนที่เป็นเจ้ากรรมนายเวรของเขา....เขาพยายามพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายให้ช่วยเขาที.....แต่ก็ดูเหมือนสวรรค์ไม่เห็นใจ...สวรรค์ไม่ปราณีเขาเลย....ทำไมละ...เขาชั่วตรงไหน..แม้แต่คิดจะทำชั่วยังไม่กล้าที่จะคิดเลย...แล้วทำไมสวรรค์ต้องลงโทษกันถึงขนาดนี้...
ผู้มีพระคุณนั่งรถมากับนนท์ที่วัดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ที่ผู้มีพระคุณจะมาทำบุญและฟังธรรมะอยู่เนืองนิตย์..นนท์ก้มกราบพระอาจารย์ตรงหน้า...เหมือนกับเจอร่มโพธิ์ต้นใหญ่ที่มีแต่ความสงบและเยือกเย็น...นนท์สัมผัสได้...พระอาจารย์ยิ้มให้นนท์...เอ่ยกับนนท์ว่า
“ถ้าเราไม่รู้ว่าตัวเราเป็นอย่างไร...ใครเล่าจะมารู้และเข้าใจเราเท่ากับตัวเรา...หลวงพ่อก้ได้แค่แนะนำนะ...จะสุขหรือทุกข์อยู่ที่ใจเราเอง...ถ้ารู้จักปล่อยวาง..บ้างเราก็ไม่ทุกข์...”
ท่านหยิบหนังสือเล่มหนึ่งยื่นให้นนท์..บอกให้นนท์สังเกต
“ปกหนังสือมี 2 ด้าน ๆ หน้ากับด้านหลัง..เราว่าด้านไหนมันสวยกว่าด้านไหนล่ะ”
“ด้านหน้าครับ”
“ก็ในเมื่อด้านหน้ามันสวยของมันอยู่แล้ว เราจะไปพลิกเอาด้านหลังที่มันไม่สวยมามองทำไม...”
ปริศนาธรรมที่ท่านบอกนนท์...นนท์นั่งคิดอยู่พักใหญ่....ว่าท่านต้องการจะบอกอะไร...ท่านต้องการจะสอนอะไร....ก่อนที่นนท์จะคิดตามท่านได้ ท่านก็บอกว่า
“หลับตานั่งสมาธิ...อย่างที่เคยฝึกมา...ทำจิตให้ว่าง..ปล่อยใจให้สบาย...หลวงพ่อรู้ว่าในหัวเรามีเรื่องคิดเยอะไปหมด....แต่คราวนี้ลองไม่เอามาคิดซิ...กำหนดลมหายใจ...จดจ่ออยู่ที่ลมหายใจ...อย่าไปเอาเรื่องใด ๆ มาคิด”
พระอาจารย์ก็ปล่อยให้นนท์นั่งสมาธิ....ผู้มีพระคุณคงนั่งสมาธิอยู่ด้วยเหมือนกัน...นนท์ไม่รู้ว่านานแค่ไหน....แต่นนท์รู้สึกว่า...ท่านลุกมาแตะตัวนนท์...ตอนที่ท่านแตะตัวนั้น...เหมือนมีแสงสว่างวาบเข้ามาตรงหัวใจของนนท์...แสงนั้นไม่ได้ทำให้นนท์รู้สึกร้อน หรือกระวนกระวายใด ๆ แต่กลับรู้สึกเย็นโปร่งโล่งสบาย....แสงนั้นกลับเย็นเข้ามากลางใจ...แต่นนท์ก็พยายามไม่คิดอะไร...ตั้งจิตให้มั่นและว่างเปล่า....นนท์เริ่มรู้สึกว่า ตนเองสบายใจขึ้น...ไม่เหมือนช่วงที่ทุกอย่างรุมเร้าเข้ามา....นนท์ค่อย ๆ ลืมตาขึ้น พระอาจารย์ก็ถามว่า
“เป็นไง...ใจสบายขึ้นบ้างมั้ย...จำไว้ล่ะ...เราจะให้เราทุกข์เราก็ทำได้...เราจะให้ตัวเราสุขเราก็ทำได้...อย่าไปคิดว่าคนอื่นเป็นคนทำ...ถ้าเขาทำแล้วเราไม่เอามาใส่ใจ...ไม่เต้นไปตามจังหวะที่คนอื่นเขากำหนด...เราจะไปทุกข์ไปเต้นตามเขาทำไม...ยิ่งเขาเห็นเราเต้น เราทุกข์ตามที่เขากำหนด...เขาก็ยิ่งสนุก ยิ่งได้ใจ ยิ่งให้เราเต้นตามเขามากขึ้นอีก...แต่ถ้าเราเฉย ๆ เขาไม่รู้ว่าเราเต้นหรือเราทุกข์ตามที่เขากำหนดหรือป่าว...ไม่นานเขาก็เลิกไปเอง...คราวนี้คนที่ทุกข์ก็คือเขาแล้ว...เพราะเขาต้องไปหาวิธีอื่นที่จะมาทำให้เราเต้นให้เราทุกข์อีก....ถ้าเราเต้นอีก...เขาก็สนุกอีก...เราก็ต้องตัดวัฎจักรนั่นเสีย...ตัดด้วยตัวของเราเอง...”
นนท์เข้าใจแล้ว เข้าใจสิ่งที่พระอาจารย์พยายามสอนและพยายามบอกแล้ว...นี่ถ้าเมื่อเช้าเราตัดสินใจเร็วไปนิดเดียว ป่านนี้เราจะเป็นอย่างไร...ผู้มีพระคุณจะเข้าใจเราเหมือนตอนนี้มั้ย...นัทละ...แล้วนัทจะเป็นอย่างไร...นนท์ขับรถไปส่งผู้มีพระคุณที่บ้าน...แล้วนนท์ก็กลับมาที่คอนโดด้วยใจที่สบาย...กลับมาฉีกและเผาจดหมายที่เขาทำขึ้นสำหรับนัท....จดหมายนั้นเป็นจดหมายลาตายที่นนท์เขียนถึงนัท ...รวมทั้งสั่งเสียให้นัททำสิ่งต่าง ๆ ที่เขาเขียนไว้ในจดหมายนั้น....แต่ตอนนี้ไม่ต้องใช้มันแล้ว...ไม่มีประโยชน์อีกแล้ว...วันนี้เขาเหมือนคนที่เกิดใหม่...ความคิดหนึ่งจึงแวปเข้ามาในหัว...ความคิดที่พี่น้องของนนท์...เคยเอ่ยปากห้ามใช้นามสกุลของครอบครัว...พร้อมทั้งแดกดันว่า ไม่เคยมีใครทำตัวเลวแบบนี้....นนท์จึงคิดเปลี่ยนนามสกุลและชื่อ...
คนที่ให้นนท์ไปใช้นามสกุลด้วย...ไม่ใช่ใครที่ไหนเลย...ก็คือพ่อของนัท...พ่อนัทรับนนท์เป็นบุตรบุญธรรม...นนท์และนัทกลับขึ้นไปเชียงราย...เพื่อไปที่ว่าการอำเภอขอจดทะเบียนเป็นบุตรบุญธรรม...โอกาสนั้นนนท์เลยได้ใช้นามสกุลเดียวกับนัท...พร้อมทั้งเปลี่ยนชื่อใหม่...นนท์เปิดตำรับตำราสำหรับการเปลี่ยนชื่อ ดูเองและตั้งชื่อเอง...ชื่อที่ตั้งใหม่นนท์ไม่รู้หรอกว่า มีความหมายอะไร...เพราะตอนนี้ชีวิตเขาไม่ได้มีความหมายกับครอบครัวเดิมอีกต่อไปแล้ว...ชีวิตใหม่...ชื่อใหม่...นามสกุลใหม่ของนนท์กำลังเริ่มต้น.....เขาไม่ได้ต้องการชื่อที่มีความหมายกับใคร...ขอแค่กับตัวเองและนัทแค่นั้นก็เพียงพอแล้ว
นนท์คิดว่า...นี่คือทางออกเพื่อแก้ปัญหาทั้งหมดกับครอบครัวเก่า...ที่เป็นพี่น้องคลานตามกันมาแท้ ๆ ...นนท์ย้อนกลับไปคิดถึงตอนเด็ก ๆ ที่ไม่เคยได้รับอะไรใหม่ ๆ เลย ต้องรอรับของที่พี่พี่ใช้แล้ว...ไม่ว่าจะเป็นหนังสือเรียน...เสื้อผ้า...กระเป๋าหนังสือ...แม้แต่ขนมก็ต้องรอให้พี่พี่ทานก่อน...ทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วยนะ...ทำไมพ่อแม่ไม่คิดว่าเขาเองก็มีจิตใจ มีวิญญาณ มีความอยากที่จะได้ของใหม่ ๆ เหมือนกัน...ครอบครัวอื่นทำกันแบบนี้หรือป่าว....นนท์อยากรู้...แต่ถ้านนท์สามารถมีครอบครัวได้...แล้วมีลูกนนท์จะไม่ทำกับลูกแบบนี้เลยเด็ดขาด...มันทำร้ายความรู้สึก ทำร้ายจิตใจ...แค่ไหน เคยมารับรู้มั้ยว่า...ลูกจะรู้สึกอย่างไร...ที่ต้องรอรับของเก่าที่ใช้แล้ว...ที่ต้องรอเศษเดนขนมที่พี่พี่กินก่อน...ไม่ต้องใหม่ทุกอย่างก็ได้...แต่ก็ขอให้มีอะไรใหม่บ้าง...
นนท์จำได้ว่า...ตอนที่เขาเรียนชั้นมัธยม...พี่ชายเขาคนนึงอยากได้โต๊ะสำหรับเขียนหนังสือ...สมัยนั้นหากใครได้โต๊ะเขียนหนังสือที่มีฝาเปิดออกมาเป็นที่รองเขียนหนังสือได้...ถือว่าโคดเท่ห์เลย...แล้วพี่ชายคนนั้นก็ได้ไป...พ่อจัดการซื้อให้....แต่พอนนท์อยากได้บ้าง...ก็บอกกลับมาว่า....ไปเอาโต๊ะทำงานของพ่อที่บริษัทละกัน...เพราะพ่อก็ไม่ค่อยได้ใช้แล้ว...ส่วนน้องสาว...อยากได้ตู้เสื้อผ้าใหม่...ก็ได้แต่ไม่ใช่ได้แค่เพียงตู้เสื้อผ้าใหม่เท่านั้น...พ่อให้ช่างมาวัดเพื่อทำเฟอร์นิเจอร์แบบ Build-in ซึ่งสมัยก่อนเมื่อ30 กว่าปีที่แล้ว...นับว่าราคาแพงมาก...ที่สำคัญไม่ใช่ไม้อัดเหมือนสมัยนี้....แต่เป็นไม้จริง...น้องสาวจึงได้ทั้งตู้เสื้อผ้า โต๊ะหนังสือเข้ามุมในห้องแล้วก็มีขั้นวางของสูงขึ้นไปจนถึงเพดาน โต๊ะเครื่องแป้ง....รวมทั้งเตียงอีกหนึ่งหลัง...พอนนท์อยากจะได้บ้าง...พ่อก็บอกให้ไปเอาตั่ง(มีลักษณะคล้ายเตียง) ที่บ้านในสวน...ส่วนโต๊ะเครื่องแป้ง...ให้เอาของแม่ไปใช้....ตู้เสื้อผ้าเหรอ...ไม่ต้องพูดถึง...เพราะแค่เอารางท่อแป๊บน้ำมาเพื่อทำเป็นราวแขวนเสื้อผ้าในห้องเอาผ้ามาคลุมขี้ฝุ่นก็ไม่เกาะเสื้อผ้าแล้ว...เหตุผลก็คือ แค่นี้ก็ใช้ได้เหมือนกัน....
นี่อาจจะเป็นสิ่งที่นนท์ขาด และเก็บกดมาตลอดชีวิตตั้งแต่เด็ก....พอนนท์หาเงินเองได้ ....แล้วเข้าไปปรับปรุงบ้านหลังนั้น..... หลังที่นนท์โดนขับไล่ออกมา...นนท์จึงชดเชยสิ่งที่เขาขาดไปในตอนเด็ก โดยทำห้องสำหรับเก็บเสื้อผ้าโดยเฉพาะ ...ถ้านึกกันไม่ออก ลองนึกถึงบริษัทที่ทำเฟอร์นิเจอร์ขายแล้วทำเป็นห้องใส่เสื้อผ้าและสามารถเดินเข้าไปแต่งตัวในนั้นได้เลย...มีตู้เสื้อผ้า ลิ้นชักเก็บเสื้อผ้า ตู้เครื่องแป้งอยู่ในนั้นเบ็ดเสร็จ ซึ่งนนท์ออกแบบเอง.....ส่วนเตียง...นนท์อยากได้เตียงใหญ่ที่สุด ....แต่ที่มีในท้องตลาดก็แค่ 6 ฟุตจึงต้องเอาแค่นั้น....โต๊ะหนังสือไม่เอา แต่เอาชั้นวางของเป็น sideboard ไว้วางโทรทัศน์ 29 นิ้ว ตอนนั้นราคาแพงมาก พอ ๆ กับราคาเครื่องLCD ในปัจจุบัน..แถมยังวางเครื่องเสียงอีก....รวมทั้งทำเป็นที่วางคอมพิวเตอร์ได้ด้วย...
ความคับข้องใจของนนท์....ที่เก็บสะสมมา...เมื่อนนท์ได้ทำไปแล้วนนท์ก็ไม่มีความอยากและความต้องการอีกแล้ว..เหมือนได้ชดเชยสิ่งที่ขาด...เหมือนได้เติมเต็มสิ่งที่พร่องไป....



ต่อ23
ตอนนี้สิ่งที่นนท์ต้องการเติมเต็มก็คือ ดวงใจของเขากับคนที่เขารัก....แต่เรื่องที่นนท์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นอีก...ในช่วงที่นัทเรียนปีที่ 2 ใกล้จะจบ...จู่ ๆ ก็มี...โทรศัพท์เป็นเสียงผู้หญิงโทรมา....
“ฮัลโหล...ขอสายพี่นนท์ค่ะ”
“คับ ...ผมนนท์กำลังพูดคับ”
“หนูชื่อดาวนะค่ะ...หนูมีเรื่องอยากจะคุยกับพี่ค่ะ”
“ดาวไหนคับ....”
“ดาว...เรียนที่เดียวกับนัทค่ะ..หนูคบกับนัทมาได้ระยะหนึ่งแล้ว...นัทพูดถึงพี่บ่อยมาก...เขาบอกว่าพี่นนท์เป็นพี่ชายเขา”
“เขาบอกอย่างนั้นเหรอ”
“ค่ะ...แต่หนูไม่เชื่อ...ก็เลยคาดคั้นเขาจนเขายอมพูดออกมาว่าพี่กับเขาเป็นอะไรกัน...พี่เป็นแฟนเขาใช่หรือป่าวคะ”
“คุณคิดว่าไงละ....แล้วเขาว่าไรอีกละคับ”
“คือเราเคยคุยกัน...ว่าเราเรียนจบกันก็ต่างแยกไปทำงานกันสัก 5 ปี แล้วเก็บเงินพอถึงเวลาก็มาแต่งงานกัน...แต่ตอนนี้หนูคิดว่าหนูคงไม่แย่งเขาจากพี่แล้วละ”
“เหรอ...ยังดีนะที่ยังมีความคิด...แล้วไม่เอาจริง ๆ เหรอ...พี่คิดว่าตอนนี้พี่อาจจะดูแลเขาไม่ได้ก็ได้นะ เพราะตอนนี้พี่ไม่มีเงินเหมือนแต่ก่อน...พี่ก็อยากให้เขาสบายไม่อยากให้เขามาลำบากกับพี่”
“หนูเองก็ยังเอาตัวไม่รอดค่ะ”
“อ้าว...ยังเอาตัวไม่รอด แต่ยังคิดจะมีแฟนอีกเหรอ...เด็กสมัยนี้ก็แปลกนะ...เรียนก็ยังเรียนไม่จบ...แต่ยังอยากมีแฟน...เอาตัวเองยังไม่รอดเลย...ยังเที่ยวอยากจะหาแฟนอีก....เออ...ใช่น้องใช่มั้ยที่ไปเที่ยวสยามกับนัทวันนั้นมั้ย”
“ค่ะ”
“มิน่า...ต้องโกหกเอาเพื่อนมาอ้างว่าไปกับเพื่อน...ปกติเขาไม่เคยโกหกนะ…ถ้าจับไม่ได้ไล่ไม่ทันนี่พี่คงโดนน้องร่วมกันสวมเขาพี่แน่ ๆ”
“ก็พอหนูรู้เรื่องหนูก็เลยโทรมาหาพี่เพื่อคุยกับพี่”
“จริงเหรอ...แต่ที่รู้มาจากปากนัทที่เล่ามาให้พี่ฟัง..เขาบอกว่า..เขาโทรไปขอเลิกกับน้องไม่ใช่เหรอ...แล้วน้องไม่พอใจเขา...ก็เลยขอเบอร์พี่จากนัทเพื่อที่จะคุยกับพี่”
“หนูอยากรู้ว่าจริงหรือป่าว...ที่เขาพูดให้หนูฟัง...”
“แต่พี่จำได้ว่าตอนแรก น้องบอกว่า น้องรู้มาก่อนแล้วไม่ใช่เหรอว่าพี่กับนัทอยู่กันยังไง...ตอนนี้พี่กำลังเริ่มสงสัยแล้วว่าใครกันแน่ที่โกหก”
เสียงทางนั้นไม่มีตอบกลับมา  นนท์ก็เลยพูดต่อไปว่า
“แล้วบ้านน้องอยู่ที่ไหนล่ะ...”
“อยู่แถว......ค่ะ”เสียงเด็กผู้หญิงคนนั้นบอกมาว่าย่านไหน
“งั้นคงใช่...เพราะเมื่อสองเดือนที่แล้ว...มีโทรศัพท์เข้ามาโทรด่าพี่...เป็นเบอร์ตู้สาธารณะจากแถวบ้านน้องนี่แหละ...พี่ไม่รู้ว่าใครนะ...แต่เป็นเสียงผู้หญิง...อีกครั้งโทรมาใช้เบอร์บ้านโทรมา......ด่าเสร็จวาง...อีก 2 วันพี่โทรกลับไปก็เป็นเสียงมีคนอายุพูดกลับมา...พี่เลยถามว่าที่นั่นบ้านใคร นามสกุลอะไร...แล้วพี่ก็ไปตรวจสอบกับโรงเรียนน้องว่ามีนามสกุลนี้มั้ย...ก็มี...พี่อยากรู้ว่านี่มันอะไรกัน...พี่ไปทำอะไรให้พวกคุณ..ถึงโทรมาระรานกันขนาดนี้...ตอนนี้ทำหนังสือไปถึงผู้อำนวยการที่โรงเรียนแล้วว่า...คนที่มีนามสกุลนี้โทรเข้ามาระรานด้วยวาจาหยาบคายมาก..แต่พี่บอกไปในจดหมายว่าพี่ไม่เอาเรื่องแต่อยากให้อบรมสั่งสอนกันให้ดี”
“หนูก็ไม่ทราบค่ะ...ว่าใคร พี่บอกมาได้หรือป่าวค่ะว่าคนนั้นนามสกุลอะไร...”
“คงไม่ได้หรอก...เพราะบอกตามตรงนะ พี่เองยังไม่เคยเห็นหน้าน้องเลยว่าหน้าตายังไง...คุณอยู่ในที่มืด ส่วนผมอยู่ในที่สว่าง...ยังไงผมก็เสียเปรียบคุณวันยันค่ำ..พูดอีกทีนะ...ถ้าคุณต้องการผู้ชายคนนี้...คุณกรุณาเอาไปได้เลย...อ้อ...อีกนิดนะ...คงเป็นน้องแน่ ๆ ที่เขาแอบพี่โทรไปหาตอนกลางคืน...เขานึกว่าพี่ไม่รู้...เพราะคืนนั้นละมั้ง...ที่ทำให้น้องรู้ว่าเขาเป็นยังไง...บอกตรง ๆ นะ คืนนั้น..พี่ก็ตัดเขาไปแล้ว....เพราะยังไงเขาก็เรียนไม่จบหรอก...ตอนนี้คุณคงได้เป็นนางเอกในใจของนัทเลยนะ...ที่ก้าวเท้าออกมาอย่างผู้เสียสละ...แต่ไม่คิดบ้างเหรอ..ที่ทำไปมันทำร้ายคนกี่คน”
“ตอนนั้นหนูไม่รู้นี่ค่ะ...ว่าเขามีพี่อยู่”
“นี่...พี่จะบอกให้เอาบุญนะ...ถ้าน้องไม่มีใจให้เขา...มันจะมีการวางแผนแต่งงานกันเหรอ...พี่ว่าน้องเรียนมาขนาดนี้...น่าจะใส่ต่างหูใหญ่ ๆ นะ จะได้ไม่หูเบา เชื่อคนง่าย...พี่ยังรู้มาอีกนะว่า..น้องเที่ยวไปหาเขาถึงหอพัก...ผู้หญิงน่ะ หัดรักตัวเองบ้าง...ไม่ใช่วิ่งแจ้นไปหาผู้ชายแบบนั้น...คงมีไรกันแล้วใช่มั้ยละ”
“เอ่อ......”
“พูดมาเถอะ...ยังไงก็เสียไปแล้ว...กินน้ำใต้ศอกคนอื่นระวังนะคราวหน้าอาจจะโดนเอากลับก็ได้”
“ก็แค่กอดกันอะค่ะ”
“ที่พูดมานี่ให้พี่เชื่อเหรอ...พี่รู้ว่าคนอย่างนัทเป็นยังไง...ชอบมั้ยละ...พี่ถามเป็นครั้งสุดท้ายนะ...ตกลงจะเอามั้ยผู้ชายคนนี้”
“หนูคิดว่าไม่ค่ะ...หนูไม่อยากแย่งของคนอื่น...”
“งั้นก็ดี..คราวหน้าจะมีแฟนก็ดูให้ดีก่อนนะว่าเขามีเจ้าของหรือป่าว..พี่เบื่อกับการต้องมาคอยตามหึงหวง...ถ้าจะเอาไปก็บอก เพราะบอกตรง ๆ ตั้งแต่พี่รู้เรื่องนี้มา...พี่ขยะแขยงเขาเต็มทน...พี่ไม่รู้หรอกนะ..ว่าน้องสกุลรุณชาติเป็นยังไง....พี่ไม่อยากพูดต่อแล้วนะคับ...ตกลงถ้าไม่เอาผู้ชายคนนี้ ก็กรุณาอย่ามาติดต่อกันอีก...อย่าให้รู้ว่าติดต่อกันอีกล่ะ....คราวนี้คงตามราวีไม่จบแน่ ๆ”
นนท์วางสายไป...จริง ๆ ตอนนั้นนัทก็นั่งฟังอยู่ข้าง ๆ นนท์เลยหันไปถามนัท
“ถ้ายังอาลัยอาวรณ์กันอยู่ก็ไปได้เลยนะ...แล้วก็กรุณาไปแต่ตัว เพราะมาแต่ตัว”
นัทนิ่ง...แล้วเอ่ยมาว่า
“ก็ผมบอกแล้วไง...ว่าผมโทรไปบอกเลิกกับเขาเอง...พี่จะเอายังไงอีก”
“อ๋อ..ไม่ได้ต้องการอะไร...แต่นี่ครั้งที่ 2 แล้วที่ทำกันแบบนี้...มักมากขนาดนั้นเลยเหรอ”
นนท์เริ่มแสดงอารมณ์ออกมาบ้างแล้ว เขาดีด้วยมานานแล้ว แต่คราวนี้คงไม่แล้ว...ซึ่งถ้าหากจบจริงมันต้องจบมาตั้งแต่คืนนั้นแล้ว.....เพราะจากคืนนั้นที่นัทแอบลงมาโทรศัพท์หาผู้หญิงคนนี้...เป็นคืนวันวาเลนไทน์...ซึ่งตอนเย็นเขาทั้งคู่ไปทานข้าวกันแล้วก็ไปนอนที่ห้องเช่าที่นนท์เช่าทิ้งไว้แถวบางนา...เพราะตอนนั้นนนท์ต้องเดินทางไปรับงานพิเศษที่ระยอง...เขาไม่อยากขับรถกลับเข้ามาในเมืองในช่วงรถติด...ห้องเช่าในอพาร์ทเมนต์นี้...ชั้นล่างมีตู้โทรศัพท์....คืนนั้นหลังจากที่นนท์กับนัทเสพสุขกันเสร็จก็เข้านอน...นัทคงคิดว่านนท์หลับไปแล้ว...จึงค่อย ๆ เปิดประตูออกไป...สักพักนนท์ก็ค่อย ๆ ย่องตามไปดูว่าไปไหน...บังเอิญที่โทรศัพท์นี้อยู่ตรงมุม นนท์จึงยืนแอบฟังอยู่อีกมุมด้านหนึ่ง ได้ยินเขาคุยกับคนทางสายโทรศัพท์ชนิดที่ที่เรียกหวานแหว๋ว ....มีจ๊ะจ๋า...มีที่รัก...นนท์ถึงกับหูอื้อ หน้าชาไปหมด...แต่ก็ได้สติรีบเดินกลับขึ้นไปบนห้องอย่างเร็วแล้วก็ทำทีเป็นแกล้งเข้าห้องน้ำ....นัทกลับมาพอดี...เขาถามนนท์เหมือนกลบเกลื่อนความผิด
“ลุกมาฉี่เหรอ”
“อืมม แล้วไปไหนมาล่ะ”
“ไปหาซื้อบะหมี่สำเร็จรูปที่ร้านค้าข้างล่าง...หิว”
“แน่ใจเหรอว่าไปหาซื้อบะหมี่อย่างที่บอก...พูดมาตรง ๆ กันดีกว่าว่าไปทำอะไรมา”
“ป่าว..ก็ไปหาซื้อจริง ๆ “
“ยังมาโกหกอีก...ไปโทรศัพท์หาใครมา...แล้วในมือนั่นอ่ะอะไร...กระดาษจดเบอร์โทรศัพท์ใช่ป่าว”
เขารีบคว้าแต่ไม่ทันนัทโยนทิ้งผ่านระเบียงห้องลงไปชั้นล่างแล้ว
“นึกว่าจับไม่ได้ไล่ไม่ทันเหรอ....ถามจริงๆ เถอะไม่พอหรือยังไง...ยังจะเอาไรอีก...ต่อไปนี้จบกันทีเถอะ...พอกันที...”
“พี่ผมขอโทษนะ”
“ต้องขอโทษกันอีกกี่ครั้งล่ะชีวิตนี้...แล้วต่อไปมีอีกละ...แค่นี้คิดว่าชั้นยังทุกข์ไม่พอใช่ป่าว...ยังหาเรื่องมาให้ทุกข์อีก...หรือว่าจะหาที่เกาะที่อื่น...ได้เลยเชิญเลยนะ...ในเมื่อชั้นเลี้ยงไม่เชื่อง...ก็ไปซะ...อย่าได้มาเจอกันอีกเลย...”
“ผมเรียนมีกลุ่มเพื่อนผู้ชาย...พวกนั้นมันก็ยุให้ลองจีบลองคุย...ผมไม่อยากให้เพื่อน ๆ ที่วิดลัยรู้ว่าผมกับพี่อยู่กันอย่างไง...ผมก็ต้องกลบเกลื่อนให้มันคิดว่าผมก็ผู้ชายคนนึง..จีบผู้หญิงเป็น”
“อ๋อ...เขาวัดความเป็นแมนกันแบบนี้เหรอ...ที่อยู่กับชั้นมากี่ปีแล้วละนี่...มันไม่มีความรู้สึกเลยเหรอ..ถึงต้องหาคนอื่นเรื่อยๆ “
“ไม่ใช่อย่างนั้น...ผมก็มีพี่คนเดียวนี่หละ”
“จริงเหรอ ตอนนั้นก็พูดแบบนี้ นี่ก็อีกครั้ง แล้วมันจะมีอีกกี่ครั้ง...บอกตรง ๆ นะ เบื่อแล้ว...ไม่ไหวแล้วจริงๆ อยู่กันมามีแต่หลอกลวงกันแบบนี้เหรอ...บอกไม่รู้กี่ครั้งว่าไม่ชอบที่สุดคือคนโกหก..นี่โกหกกันไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง…พอกันที”
“ผมไม่รู้จะบอกพี่ยังแล้ว...ที่ผมพูดก็พูดความจริง”
“จริงบ้าอะไร...มีจ๊ะจ๋ากันขนาดนั้น...แกไม่เคยพูดกับชั้นแบบนั้นเลย ตั้งแต่อยู่กันมา”
นนท์เริ่มเลือดขึ้นหน้าด้วยความโมโห...นนท์กดโทรศัพท์ไปหาแจ๊ค...
“แกมาหาชั้นที่อพาร์ทเมนต์ตรงบางนาหน่อยดิ...เกิดเรื่องอีกแล้ว คราวนี้กรูเลิกแน่ ๆ “
“เออ...งั้นรอละ เมิงอย่าเพิ่งใจร้อน ค่อย ๆ คุย”
“กรูไม่คุยแล้ว...เมิงมาคุยเองเหอะ”
นนท์วางสายไป...แล้วก็นั่งนิ่งไม่สนใจว่าจะมีนัทอยู่ในห้องหรือป่าว...นัทเดินเข้ามาจับที่แขนนนท์  นนท์สะบัดออก เขาก็พยายามจะตื้อง้องอนนนท์....แต่ความรู้สึกของนนท์ในขณะนั้น เหมือนถูกสวมเขา...เหมือนควายแก่ตัวหนึ่งที่ถูกหลอก...เหมือนกะเทยแก่หน้าโง่....เกือบชั่วโมงที่นนท์นั่งนิ่ง ไม่พูดกับนัท นัทหลีกไปนั่งอีกมุมหนึ่งของห้อง จนมีเสียงเคาะประตู เขาลุกไปเปิดประตูให้แจ๊คเข้ามา
“มันเรื่องไรกันอีกว่ะ....นี่ตีสองกว่าแล้ว..ไหนนัทมันเกิดไรขึ้น”
“ผมบอกพี่เขาไปแล้วว่ามันไม่ใช่ ผมเพิ่งจะโทรคุยกับผู้หญิงคนนั้นครั้งแรกเลย...แล้วพี่เขาก็ไปได้ยินเข้า ก้อเกิดเรื่องเลย”
“ก็เราเองมันก็ไม่เข็ดนี่....พี่ไม่เข้าข้างนนท์มันหรอกนะ...คราวที่แล้วนัทจำไม่ได้เหรอ”
“จำได้คับ...ผมไม่มีอะไรจริงๆ “
“แกเชื่อมันเหรอ....นี่ถ้าไม่คาหนังคาเขาแบบนี้มันจะยอมรับออกมาเหรอ”
“แกอย่าเพิ่งใช้อารมณ์ดิ...ให้นัทมันอธิบายมาก่อน….ว่าไงนัท”
“ก็พวกเพื่อนมันยุให้ผมลองจีบคนนี้...ผมก็ต้องไม่ให้เพื่อนรู้ว่าผมอยู่กับพี่นนท์ยังไง...เพราะผมโกหกเพื่อนว่าพี่นนท์เป็นพี่ชาย...คนที่สงสัยมันก็มี...แต่ผมก็ยืนยันมันไปว่า เป็นพี่ชาย...มันก็เลยท้าให้ผมจีบผู้หญิงคนนี้...ผมไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว...พี่เขาก็ไม่เชื่อ”
“เมิงจะให้กรูเชื่อเหรอ...คราวที่แล้วที่กรูโดนมันสวมเขา กรูยังเจ็บอยู่เลย...กรูคิดว่ามันคงไม่ทำอีก แต่ที่ไหนได้...กรูส่งให้มันเรียนมันยังทำแบบนี้กะกรู….กรูพอแล้วกรูไม่เอาแล้ว”
“ว่าไงนัท”
“พี่เขาไม่เชื่อผม ๆ ก็ไม่รู้จะว่าไง...เดี๋ยวผมรอจนเช้า...ผมจะกลับบ้านละกัน ผมไม่เรียนแล้วล่ะ”
“ดีจังโว้ยยกรู...เสียเงินส่งแม่งเรียนฟรี ๆ ...รู้งี้กรูไม่ส่งตั้งแต่แรกก็ดีไม่ต้องเสียเงินไปมากมายขนาดนี้ แกอยากเรียนต่อแกก็เรียน แต่ชั้นไม่ส่งเงินให้แกอีก อีกไม่ถึงเดือนก็จบแล้วนี่ อย่างน้อยชั้นจะได้สบายใจว่าแกไปจากชั้น แกยังมีอะไรติดตัวบ้าง”
ตอนนี้นนท์ไม่คิดอะไรอีกแล้ว เพราะเช้านี้เขาต้องขับรถไปทำงานที่ระยองอีก หน้าของนัท...นนท์ยังไม่อยากจะมอง...รักมากก็เจ็บมาก...ความรักนี่มันทำให้คนมีได้ทั้งสุขและทุกข์จริง ๆ นนท์อาจจะยังไม่รู้ในเวลานั้นว่า รักให้เป็นต้องรักยังไง..แต่ที่ผ่านมาเขาเหมือนหลงใกลได้ปลื้มกับนัท...นัทเองก็ยังไม่รู้สถานะหรือตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง...ความต้องการแบบบุรุษเพศก็ยังมีอยู่เต็มตัวของนัท...ความต้องการที่จะสมสู่กับเพศเมียก็ยังเต็มเปี่ยม....หากแต่เขาเดินเข้ามาเส้นทางที่เขาเลือกและตัดสินใจ...หลายครั้งที่นนท์เองก็กำลังคิดว่า ที่นัทอยู่กับเขาเพื่อผลประโยชน์อะไรบางอย่างหรือป่าว...เมื่อได้แล้วก็จากไป...หรือรอให้เรียนจบมีงานทำก็จากเขาไป....นนท์ตระหนักถึงเรื่องเหล่านี้อยู่เสมอ...นนท์ถามตัวเองตลอดเวลาว่า...ถ้าไม่มีเขาแล้วเราจะอยู่ได้หรือป่าว...เพราะชีวิตของนนท์ที่ไม่มีญาติพี่น้องอีกแล้ว....ชีวิตครอบครัวเดิมของนนท์สิ้นสุดลงไปแล้ว...นับตั้งแต่ที่นนท์ก้าวเท้าออกมาจากบ้านหลังนั้น...ถ้าเขาไม่มีนัท ก็เท่ากับว่าเขาไม่มีใครอีกเลย....แล้วเขาจะต้องเริ่มกับคนใหม่ เรียนรู้กับคนใหม่อีกหรือ หรือจะมีคนใหม่ไปเรื่อยๆ ไม่มีวันสิ้นสุด...ซึ่งมันก็ไม่ต่างอะไรกับคนมั่ว sex พอเบื่อพออิ่มก็แยกกันไป...ชีวิตครอบครัวที่สมบูรณ์ที่นนท์ฝันล่ะ มันจะเป็นอย่างไร เขาพยายามคิดเสมอว่า นัทคือคนที่จะเดินทางสายชีวิตร่วมกับเขาได้...การอยู่ด้วยกันของทั้งคู่...นนท์คิดว่าเสมือนกับการแต่งงานกันแล้ว...




ต่อ23
เป็นการตกลงปลงใจที่จะใช้ชีวิตร่วมกัน...
แต่คืนนี้ยามใกล้ฟ้าสาง...ฝันของนนท์ที่ฝันมานั้น มันดับวูบลง...นับต่อจากนี้...ชีวิตของนนท์จะเดินคนเดียว...อยู่คนเดียว...มีแค่เพื่อนที่คอยให้กำลังใจ...นนท์ยังไม่อยากเริ่มต้นกับใครใหม่ในวินาทีนั้น...แม้แต่คนที่ผ่าน ๆ เข้ามาในชีวิต..ห้วงความคิดของนนท์ยังไม่เกิดมีขึ้นมาถึงใครเลยสักคน....ตอนนี้นนท์กำลังพยายามที่จะเปิดรับ ความอ้างว้าง เปล่าเปลี่ยว ความเหงาและความผิดหวัง เข้ามาในชีวิต....นี่คือการตัดสินใจของเขาแล้ว...เพราะเขาไม่อยากต้องเจออะไรที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ ซาก ๆ ถ้าก่อนหน้านี้ นนท์ไม่ได้คิดฝันแบบที่ฝันไว้...วันนี้เขาคงไม่เจ็บปวดรวดร้าวถึงปานนี้...แต่มันก็สายไปเสียแล้ว...มันกลายเป็นความตื้อตันในความคิด...ถ้าเขาคิดกับนนท์เพียงแค่ต้องการเสพ sex เหมือนคนอื่น ๆ ที่ผ่านมาก็ผ่านไปในชีวิตนนท์...วันนี้นนท์ก็คงไม่ต้องทุกข์ทรมานใจอย่างแสนสาหัสเช่นนี้
นนท์ตัดสินใจเดินลงมาจากห้องเช่านั้น...มานั่งที่รถ...แล้วร้องไห้เสียใจกับสิ่งที่ผ่าน ๆ มากับหัวใจที่ให้นัทไปหมดใจ...ชีวิตที่นนท์คิดฝากผีฝากไข้กับนัทยามที่เขาแก่เฒ่า...มันสูญสลายไปแล้ว...เขาจะทำยังไงที่จะเอาใจของเขาที่ให้นัทไปกลับคืนมา
เมื่อความรักมันพังลง
เราเหมือนคนไม่เด็มคน
เหมือนครึ่งหนึ่งชีวิตนี้หล่นหาย
แบ่งชีวิตให้เขาแล้ว
เขาก็พามันจากไป
ไม่มีทางจะทำใจได้เลย
ไม่เคยหันมองดูตัว มัวเสียดายวันเวลา
ฝันว่าอาจจะคืนมาเหมือนเคย
เพิ่งจะรู้ว่ารักแท้ มันไม่ไกลไม่ห่างเลย
แค่เพียงกลับมาสนใจตัวเอง

*ครึ่งหนึ่งของชีวิต ที่เราทำหายไป
ต่อให้นอนเสียดายไมจนตายมันก็เท่านั้น
เหลืออีกครึ่งชีวิต ที่มันยังต้องการ
ความรักตัวเองกลับมา ชีวิตมันมีคุณค่ากว่านี้

**นั่งดูแขนมองดูมือ ดูหน้าตามองตัวเอง
จ้องกระจกดูสักครั้งนั่นใคร
เก็บชีวิตที่เหลือๆ ทำให้ดีจะได้ไหม
แล้วไม่นานจิตใจจะเต็มเหมือนเดิม
“แอม  เสาวลักษณ์”
จบตอนที่ 23

ประธานนักศึกษา

โพสต์
1549
พลังน้ำใจ
6256
Zenny
2701
ออนไลน์
1313 ชั่วโมง
โพสต์ 2016-9-2 06:36:13 จากอุปกรณ์เคลื่อนที่ | ดูโพสต์ทั้งหมด

เจ้าพ่อมหาลัย

โพสต์
34422
พลังน้ำใจ
158441
Zenny
289780
ออนไลน์
46333 ชั่วโมง
โพสต์ 2016-9-2 06:43:39 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณครับผม

มาเฟียคุมคณะ

โพสต์
21994
พลังน้ำใจ
85366
Zenny
11617
ออนไลน์
3892 ชั่วโมง
โพสต์ 2016-9-2 14:19:46 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณครับ

มาเฟียคุมคณะ

โพสต์
9796
พลังน้ำใจ
56174
Zenny
25997
ออนไลน์
21065 ชั่วโมง
โพสต์ 2016-9-2 16:41:06 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณครับ

ประธานนักศึกษา

โพสต์
1795
พลังน้ำใจ
8666
Zenny
885
ออนไลน์
757 ชั่วโมง
โพสต์ 2016-9-2 17:46:29 จากอุปกรณ์เคลื่อนที่ | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณครับ

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
9286
พลังน้ำใจ
45524
Zenny
2092
ออนไลน์
8369 ชั่วโมง
โพสต์ 2016-9-2 19:13:19 | ดูโพสต์ทั้งหมด

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
6821
พลังน้ำใจ
29162
Zenny
8715
ออนไลน์
1760 ชั่วโมง
โพสต์ 2016-9-2 20:50:30 | ดูโพสต์ทั้งหมด

มาเฟียคุมคณะ

โสด สุดดดด

โพสต์
11439
พลังน้ำใจ
66017
Zenny
23813
ออนไลน์
10652 ชั่วโมง
โพสต์ 2016-9-2 20:50:42 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ทำไมมันเศร้าจังคับ
Every cloud has a silver l

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
3660
พลังน้ำใจ
26380
Zenny
26240
ออนไลน์
2031 ชั่วโมง
โพสต์ 2016-9-2 21:10:35 | ดูโพสต์ทั้งหมด

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
1805
พลังน้ำใจ
23204
Zenny
1147
ออนไลน์
5446 ชั่วโมง
โพสต์ 2016-9-2 21:10:45 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณครับ

มาเฟียคุมคณะ

โพสต์
10444
พลังน้ำใจ
58347
Zenny
2329
ออนไลน์
5184 ชั่วโมง
โพสต์ 2016-9-3 03:10:23 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณครับ

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
6749
พลังน้ำใจ
41916
Zenny
27504
ออนไลน์
1925 ชั่วโมง
โพสต์ 2016-9-3 06:28:40 | ดูโพสต์ทั้งหมด

มาเฟียคุมคณะ

โพสต์
8469
พลังน้ำใจ
51558
Zenny
2056
ออนไลน์
6811 ชั่วโมง
โพสต์ 2016-9-3 10:59:58 | ดูโพสต์ทั้งหมด

ขอบคุณครับ

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
3801
พลังน้ำใจ
16504
Zenny
1809
ออนไลน์
1029 ชั่วโมง
โพสต์ 2016-9-3 16:23:10 | ดูโพสต์ทั้งหมด

ขอบคุนครับ

มาเฟียคุมคณะ

โพสต์
8331
พลังน้ำใจ
59580
Zenny
33278
ออนไลน์
15327 ชั่วโมง
โพสต์ 2016-9-3 21:15:15 | ดูโพสต์ทั้งหมด
สงสารนนท์มาก

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
5929
พลังน้ำใจ
29390
Zenny
5801
ออนไลน์
6125 ชั่วโมง
โพสต์ 2016-9-3 23:54:05 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณครับ

หัวหน้าห้อง

โพสต์
276
พลังน้ำใจ
1416
Zenny
468
ออนไลน์
118 ชั่วโมง
โพสต์ 2017-5-27 02:54:05 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณครัช
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | สมัครเข้าเรียน

รายละเอียดเครดิต

A Touch of Friendship: สังคมจะน่าอยู่ เมื่อมีผู้ให้แบ่งปัน ฝากไวเป็นข้อคิดด้วยนะคะชาวจีโฟกายทุกท่าน
!!!!!โปรดหยุด!!!!! : พฤติกรรมการโพสมั่วๆ / โพสแต่อีโมโดยไม่มีข้อความประกอบการโพส / โพสลากอักษรยาว เช่น ครับบบบบบบบบ, ชอบบบบบบบบ, thxxxxxxxx, และอื่นๆที่ดูแล้วน่ารำคาญสายตา เพราะถ้าท่านไม่หยุดทีมงานจะหยุดท่านเอง
ขอความร่วมมือสมาชิกทุกท่านโปรดโพสตอบอย่างอื่นนอกเหนือจากคำว่า ขอบคุณ, thanks, thank you, หรืออื่นๆที่สื่อความหมายว่าขอบคุณเพียงอย่างเดียวด้วยนะคะ เพื่อสื่อถึงความจริงใจในการโพสตอบกระทู้ และไม่ดูเป็นโพสขยะ
กระทู้ไหนที่ไม่ใช่กระทู้ในลักษณะที่ต้องโพสตอบโดยใช้คำว่าขอบคุณ เช่นกระทู้โพล, กระทู้ถามความเห็น, หรืออื่นๆที่ทีมงานอ่านแล้วเข้าข่ายว่า โพสขอบคุณไร้สาระ ทีมงานขอดำเนินการตัดคะแนน และ/หรือให้ใบเตือนสมาชิกที่โพสขอบคุณทันทีที่เจอนะคะ

รูปแบบข้อความล้วน|โทรศัพท์มือถือ|ติดต่อลงโฆษณา|จีโฟกายดอทคอม


ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บจีโฟกายดอทคอมนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ หากท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศิลธรรม ไม่เหมาะสมที่จะเผยแพร่ ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link “แจ้งลบโพสนี้” ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือ ลืมพาสเวิดล๊อกอิน/ลืมชื่อที่ใช้สมัคร หรือข้อสงสัยใดๆแจ้งมาที่ G4GuysTeam[at]yahoo.com ขอขอบพระคุณที่ให้ความร่วมมือ

กรณีที่ข้อความ/รูปภาพในกระทู้นี้จัดสร้างโดยผู้ลงข้อมูลเอง ลิขสิทธิ์จะเป็นของผู้ลงข้อมูลโดยตรง หากจะทำการคัดลอก/เผยแพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ลงข้อมูลก่อนนะคะ หรือลงที่มาไว้ด้วยค่ะ

©ขอสงวนสิทธิ์คอนเซ็ปต์,คำอธิบาย,หัวข้อ/หมวดหมู่เว็บ ห้ามลอกเลียนแบบ คิดเอาเองนะคะอย่าเอาแต่ลอก

GMT+7, 2024-3-28 18:38 , Processed in 0.128745 second(s), 25 queries .

Powered by Discuz! X3.1 R20140301, Rev.31

© 2001-2013 Comsenz Inc.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้