จีโฟกาย.คอม

 ลืมรหัสผ่าน
 สมัครเข้าเรียน
ค้นหา
 
ดู: 6082|ตอบกลับ: 71
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป
ซ่อนแถบด้านข้าง

ตอนที่16 กับดัก.. [cp]

  [คัดลอกลิงก์]

ประธานนักศึกษา

โพสต์
273
พลังน้ำใจ
3938
Zenny
1204
ออนไลน์
330 ชั่วโมง

สมาชิกจีโฟกาย 100%

ขอชี้แจงเรื่องวันกับลำดับเหตุการณ์ก่อนนะครับ เผื่อหลายๆท่านอาจจะงง
ครูเดชมาสอนที่โรงเรียนวันแรกคือวันจันทร์ ซึ่งเป็นวันที่มีเรื่องกับเอ็กซ์
จากนั้นวันอังคาร เอ็กซ์ถูกเรียกเข้าห้องปกครอง ตอนเย็นของวันนั้นบิ๊กก็ไปเอากับครูเดช
วันพุธ บิ๊กไปแอบได้ยินแผนชั่วของเชนกับครูเดช เลยถูกจับถ่ายคลิปไว้แบล็คเมล์ บิ๊กได้เจอกับก๊อต แล้วก็ถูกพาไปที่บ้านของโจ
เรื่องต่อจากนี้เป็นรื่องของวันอังคาร ทางฝั่งของเอ็กซ์นะครับ
(เอ็กซ์บรรยายนะครับ)
“อะไรนะ ถูกเรียกเข้าห้องปกครองอีกแล้ว” แม่ผมหวีดเสียงแหลมสูง เอามือทาบอกราวกับจะเป็นลม ในขณะที่ผมนั่งคอตก จ้องหน้าแม่กับพ่อที่มองทอดด้วยสายตาคมกริบสลับกัน
“ทำไมแกถึงชอบก่อเรื่องบ่อยนักฮะ เจ้าเอ็กซ์ แค่พ่อกับแม่ไม่อยู่บ้านแปปเดียว แกจะทำตัวสงบเสงี่ยมไม่มีปัญหาบ้างไม่ได้หรือไง”ผมเจอศึกหนักที่โรงเรียนยังไม่พอ กลับมาบ้านยังต้องเจอศึกหนักของพ่อกับแม่ที่เริ่มเปิดฉากอบรมผมทันทีหลังจากที่ทราบว่าถูกเชิญไปพบที่โรงเรียนในวันรุ่งขึ้นอีก
“ผมไม่ได้ทำตัวมีปัญหา พ่อไม่ถามผมหน่อยเหรอ ว่าทำไมผมต้องก่อเรื่อง ผมไม่อันธพาลขนาดอยู่ดีๆจะไปต่อยครูหรอกนะ”ผมอดน้อยใจไม่ได้ พ่อกับแม่ก็เป็นแบบนี้ทุกที ทำไมพวกผู้ใหญ่ถึงคิดว่าการมีเรื่องของเด็กๆเป็นเรื่องไร้สาระไปหมดนะ แม้ผมจะเคารพรักพ่อกับแม่ เราไม่ได้เป็นครอบครัวมีปัญหา แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้จริงๆว่าเราเป็นพ่อแม่ลูกที่ขาดความเข้าใจกันอย่างสิ้นเชิง
เหตุผลคงเป็นเพราะพ่อกับแม่ใช้เวลาร่วมกับผมน้อยมาก ส่วนมากพ่อแม่ผมจะต้องไปดูงานต่างประเทศเกือบจะทุกเดือน และถึงแม้จะอยู่ที่บ้านท่านทั้งสองก็หมกตัวอยู่แต่กับเรื่องงาน บางครั้งผมก็อยากเล่าเรื่องที่โรงเรียนให้พ่อกับแม่ได้ฟังบ้าง อยากเล่าเรื่องเพื่อนของผม อยากเล่าเรื่องสนุกๆที่ผมได้ทำ แต่พ่อกับแม่จะรับฟังก็เฉพาะเรื่องผลการเรียนและการอ่านหนังสือของผมเท่านั้น
ตอนที่ผมเป็นเด็ก พ่อกับแม่ไม่ได้เข้มงวดกับผมแบบนี้ ตอนเด็กๆพ่อเป็นคนสอนผมเตะฟุตบอลด้วยซ้ำ แต่หลังจากที่ไอ้พี่ชายตัวดีของผมล้มเหลวในเรื่องเรียนจนต้องส่งไปเรียนเมืองนอก ท่านทั้งสองก็เคร่งครัดกับผมมากขึ้น ความหวังต่างๆนานามากมายที่พ่อแม่เคยหวังไว้กับพี่ชายถูกส่งต่อมาที่ผม และผมต้องทำโดยที่ไม่มีข้อแม้ เพราะพี่ผมทำให้พ่อแม่ต้องผิดหวังมาครั้งหนึ่งแล้ว ผมเป็นความหวังหนึ่งเดียวของพ่อแม่ที่ยังเหลืออยู่ ซึ่งที่จริงแล้ว ผมก็ยินดีและเต็มใจที่จะทำมัน ถึงได้พยายามตั้งใจทำผลการเรียนให้ดีที่สุด แต่ในยามที่ผมท้อแท้ ต้องการคนที่รับฟังและเข้าใจผม พ่อกับแม่ไม่เคยเป็นคนๆนั้นให้ผมได้เลย นี่ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ผมติดเพื่อนค่อนข้างมาก โดยเฉพาะเพื่อนที่เข้าใจความรู้สึกคนอื่นอย่างไอ้โจ ผมไม่นึกโทษพี่ชายผมหรอก แล้วก็ไม่ได้โกรธเคืองอะไรพ่อกับแม่ด้วย แค่รู้สึกท้อมากในบางเวลาก็เท่านั้นเอง
“แกไม่ต้องมาเถียงฉันเลย จริงๆแกถูกไล่ออกจากชมรมฟุตบอลบ้าๆนั่นก็ดีเหมือนกัน แกจะได้หันมาสนใจเรื่องเรียนจริงๆจังๆ แล้วก็เลิกทำตัวเหลวไหลเหมือนพี่ชายแกแบบนี้ซะที”ผมเงยหน้ามองพ่อ จริงๆแล้วถึงพ่อจะพูดแบบนั้น แต่ผมก็รู้ดีกว่าพ่อรักพี่มากขนาดไหน คำพูดพวกนี้ไม่เคยหลุดออกมาต่อหน้าพี่หรอก ถึงจะเหลวไหลยังไงพี่ผมก็เป็นที่รักเสมอ แม้จะเกเรและเรียนแย่แต่ก็ถูกส่งไปเรียนเมืองนอกได้ทันที ผมที่เป็นตัวตายตัวแทนต่างหากล่ะ ที่ห้ามทำอะไรผิดพลาดแม้แต่เรื่องเดียว
“ฉันจะทำโทษแก เดือนนี้แกต้องถูกหักเงิน ต้องอ่านหนังสือมากกว่าเดิมเป็นสองเท่าทุกวันด้วย ไม่ต้องมามองพ่อแบบนั้น” พ่อผมพูดเสียงเข้ม ผมรู้สึกว่าไม่ยุติธรรมเลย พ่อไม่คิดจะฟังผมเลยว่าทำไมผมถึงทำแบบนั้นลงไป และผมก็ถูกลงโทษในความผิดที่ตัวเองไม่ได้ก่อมากพอแล้ว ยังต้องมาถูกพ่อลงโทษอีกเหรอ

“แต่ผมถูกลงโทษมากแล้วนะพ่อ ทั้งที่ผมไม่ได้ทำอะไรผิดด้วยซ้ำ”ผมพยายามเรียกร้องความยุติธรรมให้ตัวเอง แม้จะรู้ว่าไม่ได้ผลก็เถอะ
“ฉันไม่เคยสอนให้แกเป็นอันธพาล แกกล้าไปต่อยครูแบบนั้น ยังไงแกก็ผิด ฉันเลี้ยงแกไม่ดีตรงไหนฮะ แกอยากได้อะไรฉันก็ให้ ฉันส่งแกเข้าโรงเรียนดีๆให้ได้มีเพื่อนดีๆ ไม่ใช่ให้แกทำตัวเป็นกุ๊ยข้างถนนแบบนี้”ผมนิ่งอึ้ง แม่แตะไหล่พ่อเบาๆ คงรู้สึกว่าพ่อพูดแรงเกินไป
“ผมไม่ได้อยากได้อะไรเลยครับพ่อ ผมอยากได้แค่เวลา แค่นั้นเอง”ผมพูดแค่นั้นแล้วเดินขึ้นบันไดไปทันที รู้สึกผิดอยู่เหมือนกันที่เห็นพ่อหน้าเจื่อนลงไป แม่ผมร้องเรียกแต่ผมก็ไม่ได้หันกลับไป ผมเดินเข้าห้อง ล็อกประตู แค่ระยะจากประตูไปถึงเตียงก็ไกลเกินไปแล้วสำหรับผมในตอนนี้ ผมทรุดตัวลงบนเตียง เหนื่อยล้าเกินกว่าจะลุกขึ้นทำอะไรแล้ว อย่างน้อยผมก็เข้มแข็งพอที่จะไม่ลุกอาละวาดหรือร้องไห้ฟูมฟาย แต่ที่ร้องไห้ที่โรงเรียนนั่น เป็นเพราะไอ้โจมันเข้ามากอดต่างหากละ
ผมนึกถึงเรื่องเมื่อตอนเย็น จำไม่ได้แล้วว่าไอ้โจปลอบผมเป็นเวลานานแค่ไหน แต่มันก็ปลอบจนผมสงบลงนั่นแหละ นึกอายเหมือนกันที่ร้องไห้งอแงยังกะเด็ก ที่จริงผมไม่ชอบอ่อนแอให้ใครเห็น แล้วก็ไม่ได้ร้องไห้มานานมากแล้ว แต่จะว่าไป ผมก็เพิ่งร้องไห้ครั้งล่าสุดไปตอนที่ผมทำร้ายไอ้โจ แล้วมันกำลังจะไปจากผมนั่นแหละ พอมีไอ้โจอยู่ด้วย น้ำตามันก็ไหลง่ายเหลือเกิน
ผมเดินกลับบ้านกับไอ้โจ ส่วนไอ้นัทกับไอ้อาร์ตกลับไปก่อนแล้ว มันคงอยากให้เราได้คุยกันสองคน ซึ่งผมก็ขอบคุณในความรู้งานของพวกมัน
“แบบนี้ก็แปลว่า มึงหายโกรธกูแล้วใช่ปะ” ผมถามตรงๆ ไม่อยากให้โอกาสอันดีที่จะได้คืนดีกันนี้หลุดลอยไป ในเมื่อเกิดเรื่องแย่ๆขึ้นทั้งวันแล้ววันนี้ ก็ขอให้ผมได้มีความสุขบ้างเถอะ
“ยัง”ไอ้โจตอบเรียบๆไม่ได้ยิ้มหรือทำหน้าบึ้ง แต่ใจผมกระตุกวูบจนแทบเดินสะดุด
“อ้าว โธ่”ผมกลับไปทำหน้าหมาหงอยอีกครั้งอย่างผิดหวังสุดๆ แล้วที่มันปลอบผม ที่มันบอกผมว่ามันเตะบอลก็เพราะผมล่ะ
“ไม่ต้องมาทำหน้าแบบนั้นเลย”มันพูด น้ำเสียงเหมือนจะขำออกมาเล็กน้อย
“ถ้ายังไม่หายโกรธ แล้วมึงมาปลอบกูทำไมล่ะ”ผมตัดพ้อ แบบนี้มันหลอกให้หลงดีใจชัดๆ
“ก็ที่มึงเดือดร้อน เพราะช่วยกูนี่นา ถ้ากูอยู่เฉยๆ มันก็เหี้ยไปหน่อยละ”
“เหมือนเป็นหน้าที่งั้นสิ ทีหลังถ้าไม่เต็มใจ ไม่ต้องก็ได้นะ”ผมอดประชดไม่ได้ แต่ไอ้โจก็ไม่ได้มีท่าทีโมโหอะไร
“ก็ถ้าไม่เต็มใจก็ไม่ทำหรอก”คำพูดนั้นไม่ได้ทำให้ผมยิ้มออก ใจความสำคัญก็คือมันยังไม่หายโกรธผมอยู่ดี
“งอนรึไง”มันพูด ผมทำเสียงหึ รู้สึกหงุดหงิดปนน้อยใจที่มันไม่พูดอะไรให้ชัดเจน ปากบอกว่าไม่หายโกรธแต่ทำเป็นคุยกับผมเหมือนปกติ
“แล้วมึงจะเอายังไงกับกูล่ะ กูก็นึกว่าหายโกรธแล้ว ตอนนี้กูไม่ได้ต้องการอะไรเลยนะ จะโดนลงโทษยังไงก็ช่าง ขอแค่มึงหายโกรธกูก็พอ ไม่หายโกรธยังพอว่า แต่มาทำแบบนี้ มันก็เหมือนให้ความหวังนั่นแหละ”ผมหยุดเดินแล้วพรั่งพรูความรู้สึกออกมา ไอ้โจเงียบไป คงตกใจที่จู่ๆผมก็ระเบิดออกมาเหมือนกัน
“ใช่ดิ กูเป็นคนผิดนี่ ไม่มีสิทธิเรียกร้องอะไรหรอก จะลงโทษกูยังไงก็เชิญตามสบายเถอะ”ใช่ว่าผมจะหมดความอดทน แต่ผมก็ทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ไปแล้ว จะเห็นใจกันบ้างสักนิด ไม่ได้เหรอ..
ผมกำลังจะเดินต่อโดยไม่รอมันแต่มันจับข้อมือผมเอาไว้
“ก็ให้เวลากูหน่อยสิ”มันพูดเสียงเรียบ จ้องหน้าผมโดยไม่หลบตา
“กูขอบใจมึงจริงๆที่ช่วยกู แล้วก็ต้องขอโทดด้วยที่ทำให้มึงต้องโดนลงโทษ กูไม่ได้อยากตั้งแง่โกรธอะไรมึงหรอก แต่กูลืม เรื่องนั้น.. ไม่ได้จริงๆ”มันพูดตรงๆ ผมฟังแล้วก็อึ้งไป นี่ผมกดดันมันมากเกินไปหรือเปล่านะ เอาแต่ทำอะไรมากมายให้มันหายโกรธ สนใจแต่จะได้รับการยกโทษจากมัน โดยไม่ได้คิดเลยว่ามันก็อาจต้องการเวลาบ้างเหมือนกัน เรื่องที่ผมทำมันร้ายแรงเกินกว่าจะลืมกันได้ง่ายๆ
“ไม่เป็นไรหรอก กูผิดเองล่ะที่กดดันมึง กูเคยพูดไว้นี่นะว่ายอมทำทุกอย่างให้มึงยกโทษให้ แต่แค่นี้กูก็ทนไม่ได้แล้ว ใช้ไม่ได้เลยว่ะ”
“แต่อย่างน้อยมึงก็ยอมคุยกับกูได้แล้ว ใช่มั้ย”ผมถามมัน
“อืม”มันพยักหน้ายิ้มๆ คงเห็นว่าข้อเสนอนี้ไม่เหลือบ่ากว่าแรง ถึงเราจะยังไม่กลับมาเป็นเหมือนเดิม แต่ผมก็ดีใจที่ทำให้มันหายโกรธได้บ้าง แค่นิดเดียวก็ยังดี
“งั้นพรุ่งนี้กลับมานั่งข้างกูนะ กูเหงาอะ”ผมรุก
“ไอ้บอลมานั่งด้วยทั้งวันไม่ใช่เหรอ แล้วจะเหงาได้ไง”ไม่รู้ผมคิดไปเองรึเปล่า แต่รู้สึกว่าโทนเสียงของมันแข็งกระด้างขึ้นเล็กน้อย
“นั่งกับใครก็ไม่เหมือนมึงทั้งนั้นแหละ”ผมพูด และในใจก็คิดอย่างงั้นจริงๆ
“ก็ได้” มันตอบเสียงเบา ผมยิ้มออกมา อยากหอมแก้มมันสักฟอด แต่ถ้าทำอย่างงั้นมีหวังได้เริ่มตั้งต้นง้อกันใหม่แน่ๆ แค่นี้ก็เหนื่อยสายตัวแทบขาดแล้ว
ผมกับไอ้โจแยกกันที่หน้าโรงเรียน ผมอยากไปส่งมันที่บ้านก็จริง แต่วุ่นวายกับมันมากเกินไปก็ไม่ดี ให้มันได้อยู่คนเดียว คิดทบทวนอะไรด้วยตัวเองดีกว่า ผมจึงได้แต่มองมันขึ้นรถกลับบ้านจนลับสายตาไป
.............
วันต่อมา
ผมต้องพาพ่อกับแม่ไปที่ห้องปกครองในตอนเช้า น่าแปลกที่พ่อผมไม่ได้ตำหนิอะไรเพิ่มเติมจากเมื่อวานอีก เพียงแต่รับฟังอาจารย์เงียบๆโดยไม่ตั้งคำถาม และรับปากว่าจะอบรมผมไม่ให้ก่อเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก
“ไว้กลับบ้านไป เล่าให้พ่อฟังด้วยล่ะว่าทำไมถึงต้องไปต่อยครูเค้า”พ่อพูด ทำเอาผมยิ้มออกเลยทีเดียว
ไอ้โจทำอย่างที่ผมขอ คือกลับมานั่งข้างๆผมเหมือนเดิม แต่เราก็ไม่ได้พูดอะไรกันมากนัก เรื่องที่มันจะชวนคุยก่อนนี่เลิกคิดได้ แต่ถ้าผมชวนคุยมันก็จะตอบพอเป็นพิธีเท่านั้น ซึ่งผมไม่บ่นหรอก มีความสุขซะมากกว่า รู้สึกสนุกเวลาที่แหย่และยั่วให้มันโมโหหรือหลุดเก๊กขรึมได้ ไม่ได้เป็นเฉพาะตอนที่เราทะเลาะกันเท่านั้นหรอก ตอนเวลาปกติผมกับมันก็มักจะเป็นแบบนี้เสมออยู่แล้ว
ตอนพักเที่ยงไอ้โจก็ไปกินข้าวพร้อมผม ทำให้บรรยากาศอึมครึมสองวันที่ผ่านมาคลายลงไปมาก ตอนนี้พวกเรามีผู้มาใหม่ที่แวะเวียนมาร่วมโต๊ะกินข้าวบ่อยขึ้น นั่นก็คือไอ้อาร์ตนั่นเอง
“มึงนี่ไม่มีเพื่อนห้องเดียวกันให้ไปนั่งกินด้วยเลยหรือไงวะ”ไอ้นัทถามซะขวานผ่าซาก มันไม่ได้เกลียดอะไรไอ้อาร์ตหรอก แต่คงหมั่นไส้ไอ้อาร์ตหลายๆเรื่อง ว่ากันตามจริง ถ้ามันไม่พยายามช่วยผมตอนอยู่ในห้องปกครองล่ะก็ ผมเองก็คงหมั่นไส้และเกลียดขี้หน้ามันไม่น้อยเหมือนกัน เพราะถ้ารู้จักเพียงเผินๆแล้ว ไอ้อาร์ตมันเป็นคนกวนประสาทแถมหน้าด้านไม่น้อยเลยทีเดียว
“มี แต่อยู่กับพวกมึงมันมีเรื่องหนุกๆเยอะนี่หว่า”มันยิ้มมุมปาก ไม่สะทกสะท้านเลยสักนิด ที่มันมานั่งกินข้าวกับพวกเรานี่ก็ไม่ได้มีใครเป็นคนชวน อาศัยแค่ว่าอยู่ชมรมฟุตบอลเหมือนผมกับไอ้โจเท่านั้น
“ไม่เป็นไรหรอกน่า กูเป็นคนชวนมันมาเองแหละ”ผมพูดขัดขึ้น ก่อนที่บรรยากาศจะมาคุ ไอ้อาร์ตมองมาอย่างแปลกใจที่ผมโกหกเพื่อมัน ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมก็คงอยากตะเพิดมันไปไกลๆเหมือนกันแหละ แต่ผมได้เห็นด้านดีของมันหลายๆอย่างแล้ว และผมรู้สึกว่าอยากได้มันมาเป็นเพื่อน
“แปลกนะไอ้เหี้ย เมื่อวันก่อนมึงยังต่อยกันอยู่เลย”ไอ้กันพูดขึ้น คนอื่นๆหันมามองหน้าผม มันก็แปลกจริงๆแหละที่ผมจะชวนไอ้อาร์ตมานั่งกินข้าว ทั้งๆที่ตอนแรกผมตั้งท่าเกลียดมันขนาดนั้น
“เอาน่า เรื่องมันผ่านไปแล้ว ที่สำคัญกูได้ไอ้เหี้ยนี่ช่วยไว้เยอะน่ะ”ผมกอดคอไอ้อาร์ตที่นั่งอยู่ข้างๆ หลังจากนั้นทุกคนก็ดูยอมรับและพุดคุยกับไอ้อาร์ตอย่างสนิทใจมากขึ้น
เมื่อผมกินข้าวเสร็จ ไอ้ก๊อตชวนพวกเราไปเล่นบาส จริงๆพวกเราจะเตะบอลกันทุกพักเที่ยง แต่มันรู้แล้วว่าผมโดนลงโทษห้ามเล่นฟุตบอลในโรงเรียน จึงชวนไปทำอย่างอื่นให้ผมสบายใจขึ้น
“กูไปไม่ได้ว่ะ”ผมบอกมัน
“อ้าวทำไมวะ”
“กูถูกลงโทษให้ทำความสะอาดโรงยิมน่ะสิ ตั้งสองอาทิตย์ ไอ้สัส”เนื่องจากคนอื่นๆทำหน้าตาสงสาร ผมจึงพยายามยิ้มและทำน้ำเสียงไม่ซีเรียส แต่ก็ดูเหมือนจะไม่ได้ผลเท่าไหร่นัก แล้วผมก็เดินจากมาโดยไม่พูดอะไรอีก
ผมเดินถือถังน้ำกับไม้ถูพื้นมาที่โรงยิมด้วยอารมณ์เซ็งชีวิต ยืนมองโรงยิมกว้างๆอย่างหดหู่พลางฟังอาจารย์วิชิตชี้แจงว่าผมต้องทำความสะอาดทั้งหมดนี้ด้วยตัวคนเดียว ผมเริ่มลงมือทันที ไม่อยากจะบ่นหรือทำท่าเหนื่อยหน่ายเพราะนั่นหมายถึงว่าผมจะต้องพ่ายแพ้ให้กับไอ้เชน นี่เป็นการต่อสู้ระหว่างผมกับมัน ผมจะไม่ยอมอ่อนแอให้มันได้สะใจเด็ดขาด
“เห้ยๆพวกเรา ดูนักบอลโรงเรียนมาเป็นภารโรงดิวะ ฮ่าฮ่า”เสียงหัวเราะที่ฟังแล้วกระตุ้นต่อมโมโหดังขึ้น ไม่ต้องหันไปดูก็รู้ว่าเป็นเสียงใคร ไอ้เชนยืนอยู่ที่ประตูโรงยิม พร้อมกับเพื่อนๆของมันครบทีม ไอ้แม็ค ไอ้พี ไอ้ต้น และคนอื่นๆอีกสองสามคน พวกมันกอดอกหัวเราะมองมาที่ผมอย่างสะใจ
ผมสูดหายใจเข้าลึกๆ ก้มหน้าถูพื้นอย่างไม่สนใจพวกมัน นับ1ถึงร้อยในใจซึ่งก็ถือเป็นเรื่องยากทีเดียวสำหรับผมในตอนนี้
“ไหนๆ ก็ถูสะอาดดีนี่หว่า แต่ถ้า...”มันก้าวเข้ามาใกล้ผมและพูดค้างไว้ ผมหันไปมอง ไอ้เชนกำลังย่ำพื้นที่ผมถูเสร็จเรียบร้อยแล้วพลางถูเท้าละเลงไปมา
“เห้ย ทำอะไรวะ!”ผมของขึ้นทันที ศักดิ์ศรีของผมทนไม่ได้ที่จะยอมให้ไอ้พวกนี้มาเหยียบย่ำฟรีๆ ผมสาวเท้าเข้าหาไอ้เชน สิ่งที่คิดตอนนี้คืออยากซัดมันไปกองกับพื้น ผมไม่กลัวแม้พวกมันจะมีคนมากกว่า
“อ๊ะๆ อย่านะมึง ต่อยครูยังไม่พอ ถ้ายังมาต่อยกูอีก คราวนี้ได้ขัดห้องน้ำแน่ ฮ่าฮ่า”ผมชะงัก กัดฟันกรอดๆด้วยความแค้นใจเมื่อพวกมันหัวเราะร่วน หมัดที่ยกอยู่ค้างไว้กลางอากาศ ผมไม่ได้ห่วงตัวเองหรอก แต่กำลังนึกถึงพ่ออยู่ต่างหาก
“เห้ยๆ หลบไป เกะกะๆ” แต่แล้วก็มีใครอีกคนถือถังน้ำอีกใบแทรกพวกไอ้เชนเข้ามา ไอ้นัทนั่นเอง ตามมาด้วยคนอื่นๆอีกหลายคนที่ต่างก็กระทุ้งศอกกระแทกพวกไอ้เชนให้หลบทาง ไอ้แมนกับไอ้ก๊อต ไอ้กัน ไอ้จอม ไอ้บอล ไอ้อาร์ตและที่สำคัญคือมีไอ้โจอยู่ด้วย แต่ละคนถืออุปกรณ์ภารโรงมาครบมือ
“อะไรของพวกมึงวะ”ไอ้เชนตะคอก ท่าทางหัวเสีย
“แล้วมีปัญหารึไง”ไอ้แมนพูดเสียงเย็น มันเข้ามายืนข้างๆผม ท่าทีที่มันควงไม้ถูพื้นในมือดูแล้วเหมือนกับตะบองเหล็กก็ไม่ปาน เราสองพวกยืนเผชิญหน้ากัน รอคอยเวลาให้เกิดระเบิด
“หึ มารวมตัวกันพร้อมหน้าเลยนะ ไอ้พวกขี้แพ้”ไอ้เชนยังคงส่งคำพูดกวนประสาทแม้ว่าตอนนี้คนของเราจะเท่ากันแล้วก็ตาม
“มาช่วยเพื่อนขี้แพ้ของมึงรึไง กลัวว่าอยู่คนเดียวจะถูกรังแกงั้นดิ โห่ ไอ้พวกลูกแหง่”เสียงประสานจากไอ้แม็ค เพื่อนสนิทคู่หูของไอ้เชน ซึ่งมันคงถูกซัดลงไปกองกับพื้นนานแล้ว ถ้าแขนผมไม่ถูกมือบางๆจับเอาไว้ ซึ่งผมรู้ได้ด้วยสัมผัสว่าเป็นมือของไอ้โจ
“อืม กูคืนคำพูดนั้นให้พวกมึงเลยแล้วกัน เพราะพวกมึงขนมากันตั้งหกเจ็ดตัว ทั้งๆที่ไอ้เอ็กซ์มันอยู่คนเดียว”ไอ้อาร์ตพูดขึ้นมาลอยๆ น้ำเสียงกวนตีนไม่มีที่ติ ผมยิ้มออกมาพร้อมๆกับที่รอยยิ้มบนหน้าไอ้เชนถูกเช็ดออกไป คิดถูกจริงๆที่เป็นเพื่อนกับไอ้นี่….
“ไอ้เหี้ยอาร์ต เสือกอะไรด้วยวะ ระวังจะเดือดร้อนนะมึง”ไอ้พีชี้หน้าด่าไอ้อาร์ต ผมกับไอ้เชนยังคงประสานสายตาที่สื่อถึงความเกลียดชังระหว่างผมกับมันที่มากกว่าคนอื่นๆในที่นี้ เป็นความเกลียดชังที่ผมกับมันเข้าใจกันเพียงสองคน
“ไอ้เหี้ยพี อย่ามาทำเป็นวางก้ามหน่อยเลยไอ้สัส ขาดไอ้เหี้ยเชนคุ้มหัวไปคนมึงก็ไอ้สวะคนนึงล่ะวะ”ผมเบนสายตาจากไอ้เชนไปจ้องหน้าไอ้เหี้ยพี ซึ่งหลบตาผม เป็นอย่างที่ผมพูดนั่นแหละ ไอ้พวกนี้ส่วนมากเป็นไก่อ่อนดีแต่ปากที่ต้องอาศัยบารมีของไอ้เชนกันทั้งนั้น ถ้าเล่นตัวต่อตัวไม่ใช้ระบบหมาหมู่ล่ะก็ ผมไม่มีทางแพ้พวกมันหรอก
“พวกมึงจะมาอออะไรกันตรงนี้วะ เห็นแล้วรำคาญลูกตา อยากมีเรื่องก็บอกมาเลยดีกว่า ไอ้เอ็กซ์มันโดนทัณฑ์บนก็จริง แต่กับพวกกูไม่ใช่โว้ย!”ไอ้แมนพูดเสียงก้อง พลังของลูกมาเฟียเป็นประโยชน์จริงๆในสถานการณ์แบบนี้ ทำเอาพวกมันทุกคนสะดุ้งโหยงเว้นก็แต่ไอ้เชนคนเดียว
“ไม่ต้องรีบไปหรอกน่าไอ้ลูกกุ๊ย ยังไงพวกมึงก็ต้องโดนเก็บเรียงตัวอยู่แล้ว”ไอ้แมนก็คงพุ่งเข้าต่อยไอ้เชนไปนานแล้วเหมือนกัน ถ้าไม่ถูกไอ้ก๊อตรั้งแขนไว้ ตอนนี้ไอ้เชนเบือนสายตาจากผม ไปมองหน้าอีกคนซึ่งผมไม่รู้ว่ามันมองใคร
“ที่จะโดนเก็บน่ะพวกมึงมากกว่ามั้ง ทำซ่าขนาดนี้มึงลืมแล้วเหรอ ว่ากูมีคลิปของพวกมึงทุกคนอยู่น่ะ”ผมตอบโต้ ใจจริงไม่อยากใช้วิธีสกปรกแบบเดียวกับพวกมันหรอก แต่ในเมื่อพวกมันเล่นกับผมแบบไม่เลือกวิธีการ ผมก็จะตอบแทนมันในแบบเดียวกัน ที่แน่ๆคำพูดผมทำเอาพกมันทุกคนหน้าซีด ทุกคนจริงๆยกเว้นไอ้เชนที่ดูเหมือนจะไม่สะทกสะท้าน
“ที่กูมาก็เพราะเรื่องนี้แหละ กูบอกมึงไว้เลย ไอ้เอ็กซ์ ถ้าคิดว่าจะใช้คลิปเหี้ยๆนั่นจะทำให้กูยอมพวกมึง มึงคิดตื้นๆไปแล้ว”
“หมายความว่าไง”ผมเลิกคิ้ว รู้สึกได้ว่าพวกมันกำลังพลิกกลับจากการตกเป็นเบี้ยล่าง
“แค่คลิปพวกกู มันสู้คลิปพวกเด็กม.สามโดนข่มขืนไม่ได้หรอก ฮ่าฮ่า”ผมรู้สึกชาวูบ ในขณะที่คนอื่นยังไม่เข้าใจ แต่ผมเข้าใจทุกอย่างชัดแจ้งในทันที ผมประเมินความเลวของไอ้นี่ต่ำไป ตั้งแต่ตอนที่พวกเราจัดการกับมันครั้งนั้น มันแก้แค้นคืนอย่างที่พูดไว้จริงๆ แต่การที่มันจะทำอย่างงั้นได้มันต้องมีอะไรบางอย่างมาแลกกับคลิปที่ผมมีอยู่ ช่วงที่มันหายซ่าส์ไป มันคงไปจัดการกับเด็กพวกนั้น เอาให้มีจำนวนมากพอจะมาใช้ต่อรองกับผม และผมก็ไม่คิดว่ามันจะโกหกด้วย ความรู้สึกผิดถาโถมเข้าใส่ผมทันที เพราะพวกเราแท้ๆ เด็กเหล่านั้นถึงต้องรับเคราะห์ ต้องถูกไอ้เชนจับมาเป็นโล่กำบัง
“เข้าใจรึยัง ถ้ามีคลิปพวกกูคนใดคนหนึ่งหลุดออกไปล่ะก็ คลิปไอ้พวกเด็กที่กูเอาว่อนไปทั่วโรงเรียนแน่ และกูบอกไว้ก่อน ว่าไม่ได้มีแค่คนเดียว ถ้าพวกมึงอยากแลกก็เอา”ถึงตอนนี้พวกเพื่อนๆผมมันคงเข้าใจกันหมดแล้ว เพราะความไม่พอใจและความเกลียดชังไอ้เชนฉายชัด และระเบิดออกมาจนรู้สึกได้ แม้พวกมันจะไม่ได้พูดอะไรออกมาก็ตาม แม้แต่คนที่เฉยชาที่สุดก็ไม่อาจทนกับความเลวร้ายในสิ่งที่มันทำได้หรอก
“ทำไมต้องทำขนาดนี้วะ เด็กพวกนั้นเกี่ยวอะไรด้วย”ไอ้โจเป็นคนพูดประโยคนั้น เรียกความสนใจจากไอ้เชนได้ทันที ไอ้เชนจ้องหน้าไอ้โจอย่างแปลกใจ ซึ่งผมไม่ต้องการ ผมไม่อยากให้มันตกเป็นเป้า จึงเผลอก้าวไปยืนบังมันอย่างไม่รู้ตัว ซึ่งไอ้เชนก็คงสังเกตเห็น
“พวกมึงมันก็แบบนี้แหละ ทำตัวเป็นคนดี กูจะอ้วกว่ะ ถ้าพวกมึงยังมัวแต่ทำตัวเป็นฮีโร่อยู่ล่ะก็ มึงแพ้กูตั้งแต่อยู่ในมุ้งแล้ว”มันมองหน้าไอ้โจก่อนจะพูดเสริม
“ก่อนจะห่วงคนอื่น ห่วงตัวเองไว้ก่อนดีกว่านะ ไอ้ตุ๊ด!”คำพูดนั้นทำให้ผมสะบัดหลุดจากการเกาะกุมของไอ้โจแล้วพุ่งเข้าใส่ไอ้เชนทันที แต่ผมไปไม่ถึงตัวมัน เพราะไอ้ต้นกับไอ้พีเข้ามาขวางไว้ก่อน
“ไอ้เอ็กซ์อย่า”ไอ้แมนเข้ามาช่วยผมโดยกันไอ้สองคนนั้นออก และพยายามลากผมกลับมา แต่ผมยังคงตะกายแขนขา ปากร้องตะโกนด่าทุกคำเท่าที่จะนึกออก คิดว่าอารมณ์คลั่งคงสั่นคลอนความกล้าของไอ้เชนไม่น้อยเพราะมันถอยหลังไปหลายก้าวทีเดียว
“ไอ้เหี้ย ไอ้ระยำ มึงพูดใหม่สิ ไอ้เวรเอ๊ยยย”
“ไม่เอา ไอ้เอ็กซ์ใจเย็นๆ อย่าไปแลกกะแม่งเลย ไม่คุ้มหรอกสัส”ไอ้แมนกระซิบอย่างร้อนรน ล็อกตัวผมด้วยกำลังทั้งหมด
“คลั่งเลยเหรอไอ้เหี้ย แค่เมียโดนด่าเป็นตุ๊ดแค่เนี้ย”ไอ้เชนสบตาผมอีกครั้งพลางยิ้มเยาะ ถ้าไม่มีไอ้แมนคอยรั้งป่านนี้ไอ้วอนตีนนี่ต้องลงไปกองกับพื้นแล้วแน่ ไอ้เชนหันหลังเดินกลับออกไปโดยมีเพื่อนๆของมันเดินตาม ไอ้แมนยังคงล็อกตัวผมไว้ รอจนพวกมันเดินออกไปจากโรงยิมแล้วนั่นแหละ ไอ้แมนถึงจะปล่อยผม
“มาห้ามกูทำไมวะ”ผมพูดอย่างหัวเสีย มาด่าผมผมยังทนได้ แต่นี่ มันว่าไอ้โจ ด้วยคำแบบนั้น ผมมองหน้าไอ้โจ แม้หน้าจะซีดเผือด แต่มันก็ไม่แสดงอาการอะไร
“ถ้าไม่ห้าม มึงก็ได้เข้าห้องปกครองอีกรอบสิวะ ไอ้พวกนี้มันอยากยั่วมึง มึงก็รู้”จริงของมัน ผมสูดหายใจลึกๆ พยายามระงับอารมณ์
“กูก็ไม่ได้อยากของขึ้นหรอกนะ แต่เม่งกล้ามาว่า..”ผมนิ่งไปนิดอย่างคิดหาคำพูด เพราะคำที่ตั้งใจจะพูดตอนแรกคงไม่เหมาะนัก “มาว่าเพื่อนกู ใครจะไปทนได้วะ”
“ดีนะที่พวกกูแวะมาดูอะ เม่งกะมาหมาหมู่มึงเลยนี่หว่า”ไอ้นัทพูด
“เรื่องที่มันแบล็คเมล์พวกเด็กๆอะ มึงว่าจริงป่าววะ”ไอ้กันถามขึ้น แต่ผมไม่ใส่ใจจะตอบ ผมเป็นห่วงความรู้สึกไอ้โจมากกว่า
“ทำไมจะไม่จริงวะ ปกติไอ้เชนมันก็ทำแบบนั้นอยู่แล้ว แค่เพิ่มเรื่องถ่ายคลิปเข้ามาแค่นั้นเอง”ไอ้อาร์ตพูดบ้าง ซึ่งผมก็คิดแบบนั้น ผมมั่นใจเลยล่ะว่ามันทำแบบนั้นจริงๆ ไม่รู้ว่าเด็กคนไหนจะโชคร้ายแบบนั้นบ้าง
“แบบนั้นเด็กพวกนั้นก็ต้องมาซวยเพราะเราดิวะ เราไม่น่าไปเล่นงานไอ้เชนแบบนั้นเลย”ไอ้บอลพูดท่าทางหวาดๆ
“กูไม่คิดแบบนั้นหรอก มึงลืมไปแล้วเหรอว่ามันทำอะไรกับไอ้แว่น ยังไงกูก็ไม่ให้อภัยมันหรอก สมควรแล้วที่โดนแบบนั้น แต่ไอ้เหี้ยเชนมันไม่เล่นตามกติกา เราเล่นมัน มันเสือกไปเล่นคนอื่นที่ไม่เกี่ยวอะไรด้วย”ไอ้แมนพูด เสียงมันนิ่งและมั่นคงมากเวลาที่พูดถึงไอ้แว่น ไม่มีความลังเลเลยแม้แต่นิดเดียว ผมเข้าใจความรู้สึกมันเป็นอย่างดีเลยละ
“แล้วเราจะเอาไงกันต่อวะ”
“ก็ไม่ไง เราจะให้มันปล่อยคลิปพวกเด็กๆออกมาได้ไงล่ะ กูกำลังคิดว่า ถ้าเอาคลิปไอ้เชนไปแลกกับคลิปเด็กพวกนั้น มันจะยอมรึเปล่า”ไอ้แมนพูดถูก ผมยังไม่รู้สึกผิดที่ทำกับไอ้เชนไปแบบนั้น เพราะมันก็ทำเลวกับคนอื่นไว้มาก แต่เรื่องที่เด็กเหล่านั้นต่องมาเคราะห์ร้ายเพราะเรานั่นก็เป็นเรื่องจริงที่ผมหนักใจอีกเหมือนกัน
“ไม่ได้หรอก ไอ้เชนเจ้าเล่ห์จะตาย เราไม่รู้ว่ามันแบล็คเมล์ใครบ้าง มันอาจจะตลบหลังเราก็ได้”
“มันไม่กล้าปล่อยคลิปหรอก เพราะเราก็มีคลิปอยู่เหมือนกัน ต่างฝ่ายต่างไม่กล้า ถ้าแบบนี้คงไม่เป็นไรหรอก”
“ไอ้เชี่ย พวกมึงนี่ปรึกษากันเป็นการเป็นงานเลยนะ อย่างที่ไอ้เชนพูดนั่นแหละ นี่แหละจุดอ่อนพวกมึง ต้องปกป้องคนอื่นนอกจากตัวเอง ในขณะที่ไอ้เชนทำร้ายใครก็ได้”คนที่พูดตรงๆหน้าด้านไม่กลัวใครแบบนี้ก็มีไอ้อาร์ตคนเดียวแหละครับ คนอื่นๆหันไปมองหน้ามัน
“มึงจะบอกว่า ให้เอาแบบไอ้เชน เด็กๆเป็นไงก็ช่างเหรอวะ”ไอ้นัทถามด้วยน้ำเสียงไม่พอใจนัก แต่ไอ้อาร์ตยังคงไม่สะทกสะท้านเหมือนเดิม
“ใจเยนๆสิเว้ย กูแค่พูดให้ฟังเฉยๆ แค่จะบอกว่ามันเป็นจุดอ่อนที่ไอ้เชนเอามาใช้เล่นงานพวกมึงเท่านั้นแหละ....”พวกมันยังคงเถียงกันต่อไป แต่ผมจับข้อมือไอ้โจแล้วลากมาคุยกันสองคนโดยพวกมันไม่สังเกต
“มึง...ไม่เป็นไรนะ”ผมจ้องหน้ามัน
“มึงเห็นกูบอบบางขนาดนั้นเลยรึไง”มันตอบ คลี่ยิ้มบางๆ
“แต่มึงน่ะโง่มาก โดนขนาดนี้ยังจะก่อเรื่องอีก กูโดนด่าแค่นี้เรื่องเล็กจะตาย แล้วคนที่ควรจะพุ่งเข้าไปอะคือกูต่างหาก”
“โห ไรอะ คนอุตส่าห์โมโหแทนนะ ขอบใจสักคำก็ไม่มี ยังมาด่ากูอีก”
“ก็จะโมโหแทนทำไม แค่คำพูดงี่เง่าน่า เม่งทำอะไรกูไม่ได้หรอก”
“จะบอกว่ากูหาเรื่องใส่ตัวเองงั้นสิ”
“ประชดทำไมเนี่ย กูแค่ไม่อยากให้มึงก่อเรื่องอีกน่ะ เข้าใจมั้ย”
“อ๋อ เป็นห่วงกู”
“เออ”
แล้วก็เป็นเหมือนเคย หลังจากที่มันพูดออกมาแล้วมันถึงรู้ตัวว่ามันหลุดปาก จะปิดปากก็ไม่ทันเสียแล้ว ส่วนผมอมยิ้มหน้าบาน พอหลอกให้พูดไปเรื่อยๆ สุดท้ายมันก็หลุดออกมาเองทุกที คนอะไรเม่งโคตรน่ารักเลย
“ยิ้มเหี้ยอะไร”มันตบหัวผม ถ้าไม่ใช่มันผมไม่ยอมให้ตบนะเนี่ย

“จริงๆพวกมึงไม่น่ามาช่วยกูเลยนะ”ผมพูดยิ้มๆ ไอ้โจหันมามองค้อน
“ทำไมอีกล่ะ อยากโดนยำตีนรึไง”
“ใช่ มึงจะได้มาดูแลกูไง”ผมตอบยียวน
“ตายคาตีนไปน่ะแหละดีแล้ว”หน้ามันตอนนี้ประมาณว่ามันอยากจะยำตีนผมซะเองอย่างงั้นล่ะ
“พูดงี้กับผัวได้ไงฮะ” นับว่าผมกล้าเสี่ยงมากที่กล้าพูดคำนี้ออกมาต่อหน้ามัน แต่ยังไม่ทันได้ดูปฏิกิริยาของไอ้โจ ตอนนั้นเสียงออดก้ดังขึ้นพอดี
“เห้ยพวกมึง ขึ้นเรียนได้แล้วมั้ง กูต้องทำต่อยันคาบห้าแน่ะ”ผมฉวยโอกาสหันหน้าหนีมาจากไอ้โจ บอกตรงๆว่าหวั่นใจเหมือนกันว่ามันจะคิดยังไง ผมพูดกับพวกมันที่เหลือ แต่ไม่มีใครขยับสักคน
“อะไร” ผมถาม เมื่อทุกคนจ้องมองมาที่ผม
“ไม่เห็นเหรอว่ากูเอาของมาครบเลยเนี่ย”ไอ้แมนพูด ชูไม้ถูพื้นในมือ คนอื่นๆก็เหมือนกัน ถังน้ำ ไม้กวาด ผ้าขี้ริ้ว ที่ตักผง
“แล้วไงล่ะวะ”ผมก็ไม่เข้าใจอยู่ดี
“กูก็มาช่วยมึงทำไง ไอ้ควาย”ไอ้กันพูด และโดนไอ้จอมตบหัว เพราะแย่งประโยคที่มันกำลังจะพูด พอไอ้กันพูดจบ แต่ละคนก็เริ่มลงมือทำงานทันที โดยที่ผมยังยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น
“จะปล่อยมึงทำคนเดียวได้ไง โรงยิมออกจะกว้าง แล้วถ้าเมื่อกี้กูไม่มาช่วยนะ ป่านนี้โดนไอ้เชนซิวไปแล้วมึงน่ะ”ไอ้ก๊อตช่วยขยายความให้
“บ้าเหรอ เดี๋ยวก็โดนอาจารย์ด่าหรอก เค้าสั่งให้กูทำคนเดียว”
“กูแคร์อาจารย์ตั้งแต่เมื่อไหร่ล่ะ อย่าพูดมาก ช่วยกันสิวะ จะได้เสร็จเร็วๆ เย็นนี้เดี๋ยวกูพาไปเตะบอลที่...”ไอ้แมนพูดพลางถูพื้นไปมา ผมไม่ได้ฟังมันต่อแล้ว แต่ยืนมองดูเพื่อนๆของผมที่กำลังช่วยผมอย่างขะมักเขม้น ภาพที่เห็นทำให้ผมรู้สึกเต็มตื้นอย่างบอกไม่ถูก ไม่ว่าจะเจอเรื่องเลวร้ายแค่ไหน เราก็ไม่ได้อยู่อย่างโดดเดี่ยว เรายังมีเพื่อนอยู่กับเราเสมอ

“ไอ้พวกบ้าเอ๊ย..”
“ตกลงไอ้โจมันหายโกรธมึงรึยังวะ”ไอ้แมนถามผมด้วยเสียงกระซิบเพราะไอ้โจอยู่ห่างไปไม่มาก ภาพที่ลูกมาเฟียกำลังถือไม้ถูพื้นถูไปมาอยู่นั้นเป็นภาพแปลกตาที่หาได้ยาก อย่าว่าแต่มันเลย ผมเองแล้วก็เพื่อนๆอีกหลายคนก็แทบจะไม่เคยแตะงานบ้านเหมือนกันแหละ ดูจากท่าถูพื้นของพวกมันก็รู้ ไอ้โจกำลังด่าไอ้นัทที่ถูพื้นแบบเดินไปข้างหน้า ถูไปก็ย่ำที่ตัวเองถูไป ไอ้นัทหันกลับไปมองทางที่ตัวเองถูแล้วก็พบว่าเต็มไปด้วยรอยตีน ผมหัวเราะ อย่างน้อยผมก็ไม่ได้ห่วยสุดในเรื่องนี้ เพราะก็พอรู้อยู่บ้างล่ะว่ามันต้องถูถอยหลัง“ยัง”ผมพูดคำเดียวสั้นๆ เหมือนตอนที่ผมถามไอ้โจว่าหายโกรธหรือยังนั่นแหละ
“อ้าว โธ่”ไอ้ห่านี่ก็ตอบเหมือนผม ทำหน้าผิดหวังเหมือนกับผมเป๊ะจนผมอดแค่นหัวเราะออกมาไม่ได้
“แต่มันคุยกับมึงแล้วนี่” มันตั้งข้อสังเกต ผมพยักหน้า
“เออ แต่มันก็ไม่ยอมพูดกับกูก่อนหรอก ถามคำตอบคำ”
“ได้แค่นี้ก็ดีแล้วแหละมึง ตอนแรกกูนึกว่าจะโกรธกันเป็นเดือน”ผมไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้ามันโกรธผมเป็นเดือนนี่ผมจะเป็นยังไง แค่นี้ก็เหมือนชีวิตมันขาดอะไรไปแล้วด้วยซ้ำ
“อืม ยังไงก็ได้ กูยอมมันหมดนั่นแหละ”ผมพูดพลางถูพื้นไปมา
“มึงไม่เคยเป็นแบบนี้เลยรู้มั้ย”ไอ้แมนพูด ผมเงยหน้ามองมัน
“ยังไงวะ”
“ไอ้ห่า ไม่รู้ตัวเลยรึไง ปกติมึงเคยง้อเคยแคร์ใครที่ไหนล่ะ เด็กมึงแต่ละคน มีแต่ต้องง้อมึงทั้งนั้น แต่กับไอ้โจ.. มันเอามึงอยู่หมัดเลยว่ะ ฮ่าฮ่า”ผมอมยิ้ม เรื่องที่ว่าไม่เคยง้อใครมันก็เป็นเรื่องจริงนั่นแหละ เพราะผมไม่ใช่พวกที่มีความอดทนสูง แถมยังไม่ใช่คนละเอียดอ่อนด้วย เรื่องพวกงอนง้ออะไรเนี่ยไม่เคยคิดอยู่ในหัวเลย ที่ผ่านมาผมมีแต่คนง้อ เพราะคนพวกนั้นต้องการแต่ร่างกายของผม ไม่ใช่หัวใจ ไอ้โจเป็นคนเดียวที่เข้าถึงนิสัยและรับตัวตนของผมได้จริงๆ อยู่ข้างๆผมมาตลอดโดยไม่มีเงื่อนไข ผมลองคิดดูว่าถ้าเราสองคนสลับที่กัน ผมแอบชอบไอ้โจในขณะที่มันเอาแต่ไปมั่วกับคนอื่น ผมไม่มีวันทนได้แบบมันแน่ พอคิดว่ามันต้องทนกับผมมากขนาดไหน ผมก็รู้สึกผิดและอยากจะชดใช้ให้มัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม แทนคำขอโทด ที่ผมปล่อยให้มันทรมานมานาน และขอโทดที่ผมรู้ตัวช้าเกินไป
“ไม่รู้ว่ะ กูอยากชดเชยให้มัน ที่ผ่านมามันให้กูมาตลอด กูมีแต่ทำร้ายมันอย่างเดียว”
ไอ้แมนตบไหล่ผมเบาๆ
“กูรู้ว่ามึงรู้สึกผิด แต่มึงไม่ผิดหรอกนะ มึงไม่รู้นี่ว่าไอ้โจชอบมึง”ดูเหมือนมันจะพยายามปลอบใจ ผมแค่นหัวเราะ
“แต่พวกมึงรู้กันทุกคนเนี่ยนะ”ผมพูดด้วยสีหน้าเซ็ง ที่เซ็งคือเซ็งตัวเอง ทำไมผมถึงมองไม่เห็นนะ เมื่อก่อนผมไม่เคยคิดจริงๆ ว่าไอ้โจจะรักผม ไม่คิดด้วยซ้ำว่าตัวเองจะรู้สึกรักมันเหมือนกัน ตอนแรกก็ไม่รู้ตัวหรอก แต่พอมีคนเข้ายุ่งกับไอ้โจ ผมถึงพึ่งรู้ตัวว่า ผมหวงมันมากแค่ไหน
“เห้อ บอกตรงๆ ใครจะไม่รู้วะ ไอ้โจน่ะ อะไรๆก็มึง กูยังไม่รู้เลยว่ามึงมีอะไรดี นอกจากหน้ากับควย”
“เชี่ย แค่หน้ากับควยกูนี่แหละ ชนะคนได้ทั้งโลก ไอ้สัส”ไอ้แมนอ้วกในขณะที่ผมหัวเราะ ในใจลึกๆก็ยอมรับว่ามันพูดจริง คนอื่นๆหมายปองผมก็เพราะหน้ากับควยกันทั้งนั้น แต่ผมมั่นใจว่า ไอ้โจเป็นคนเดียว ที่ชอบตัวตนของผมจริงๆ
“แล้วตกลงว่าคนอื่น รู้เรื่องของกูกันหมดแล้วเหรอเนี่ย”ผมหันไปมองคนอื่นๆ
“ก็คงงั้น กูไม่ได้บอกใครเลยนะ แต่พวกมันไม่ใช่คนโง่ มันเห็นที่มึงทะเลาะกันที่บ้านไอ้บอล เห็นมึงออกโรงปกป้องมันที่ชมรม แค่นี้มันก็เดากันได้แล้ว ถึงมันจะไม่พูดอะไรกันก็เหอะ มันไม่อยากให้ไอ้โจไม่สบายใจมั้ง”
“เอาเหอะ จะรู้ก็รู้ไป ยังไงพอกูได้เป็นแฟนกับไอ้โจ พวกมันก็ต้องรู้อยู่แล้ว”ผมนึกถึงวันนั้น เพื่อนๆผมมันไม่รังเกียจอยู่แล้วที่ผมชอบผู้ชาย(เพราะพวกมันหลายๆคนก็ชอบผู้ชาย) ผมมีพวกมันเป็นเพื่อน โดยที่มีไอ้โจอยู่ข้างๆ แค่นี้แหละที่ผมต้องการ..
“ฝันกลางวันรึไงไอ้เหี้ย วันนั้นของมึงน่ะ จะมีรึเปล่าก็ไม่รู้”ไอ้แมนหัวเราะ ผมหุบยิ้มทันที
“มึงก็เหมือนกันแหละ ได้เย็ดไอ้แว่นรึยังล่ะ โธ่ ไอ้ฝันกลางคืน”ถึงคราวไอ้แมนต้องหุบยิ้มบ้าง และไม่ใช่หุบยิ้มธรรมดา แต่ถึงกับหน้าเจื่อนเลยทีเดียว
“ไอ้เชี่ย แทงใจดำกูอะ”มันทำหน้าเศร้าจริงๆจนผมตกใจ
“ยังไม่ยอมอีกเหรอวะ”ผมถามน้ำเสียงเห็นใจ จริงๆไอ้แมนก็ไม่ต่างกับผมนักหรอก ขี้เงี่ยนติดเย็ดไม่เบาเหมือนกัน การที่มันทนกับไอ้แว่นได้ขนาดนี้ แสดงว่ามันรักของมันจริงๆ
“มันกลัวอะไรก็ไม่รู้ กลัวกูฟันแล้วทิ้ง กูก็ไม่อยากบังคับมัน กูเลยไม่ค่อยไปนอนที่บ้านมันแล้วไง กูกลัวทนไม่ไหวว่ะ”มิน่าล่ะช่วงนี้ไอ้แมนถึงไม่ไปนอนบ้านไอ้แว่นบ่อยเท่าเมื่อก่อน ไอ้แว่นยังมาถามผมอยู่เลยว่าไอ้แมนโกรธอะไรมันรึเปล่า
“ทนไปเถอะไอ้เหี้ย มึงรักจริงขนาดนี้สักวันมันก็ต้องยอม อย่าทำอะไรไม่คิดแบบกูเลย เม่งไม่คุ้มเลยว่ะ”ผมเหลือบมองไอ้โจอีกครั้ง ผมยังจำคืนที่มันออกจากบ้านผมไปได้อยู่เลย กินเหล้า นั่งเพ้อถึงมันทั้งคืน สุดท้ายต้องตามมาง้อมันต้อยๆอยู่นี่
“แต่มึงไม่เหมือนกู มึงแน่ใจได้ว่าไอ้โจรักมึงจริงๆ แต่กูเหมือนรักไอ้แว่นข่างเดียวยังไงไม่รู้ กูไม่รู้ว่ามันรักกูรึเปล่า”ไอ้แมนของผมยังคงทำหน้าสลดจนผมสงสาร
“บ้า มึงคิดมากไปป่าววะ ไอ้แว่นมันก็แคร์มึงมากนะ แค่ไม่ค่อยพูดเท่านั้นเอง มันคงอายมึงน่ะแหละ มั่นใจหน่อยดิวะ ไอ้นายน้อย”ผมพยายามปลอบมัน ปกติไอ้แมนมันมั่นใจในตัวเองมาก ไอ้แว่นเป็นคนแรกที่ทำให้มันรู้สึกไม่มั่นใจแบบนี้
“ไม่รู้ว่ะ เหมือนกูสนใจมันอยู่ฝ่ายเดียว ถ้ากูไม่เข้าหามัน มันก็ไม่สนใจกู”
“ไอ้แว่นมันเป็นคนขี้อาย แค่อยู่กับมึงมันก็ประหม่าแล้ว มันคงอยากเข้าหามึงเหมือนกันแหละ แต่ไม่รู้จะทำตัวยังไง ปกติมันแทบไม่เคยคุยกับพวกโหดๆแบบมึงด้วยซ้ำ มันไม่ชินน่ะ ให้เวลามันหน่อย”ผมน่าจะเป็นไอ้โจ ผู้ซึ่งเข้าใจจิตใจของคนอื่นได้เป็นอย่างดี ในกลุ่มพวกเรา คนที่ไอ้แว่นชอบคุยด้วยมากที่สุด ก็คงจะเป็นไอ้โจนั่นแหละ
“อยากได้เมีย อยากรักกันนานๆ ก็ต้องทำใจว่ะ”ผมไม่ได้บอกแต่มันหรอก ผมบอกกับตัวเองด้วยเหมือนกัน..


ผมกับเพื่อนๆช่วยกันทำความสะอาดโรงยิมจนเสร็จ ก่อนที่พวกมันจะหลบฉากขึ้นห้อง ให้ผมเรียกอาจารย์วิชิตมาตรวจดู ซึ่งก็แปลกใจมากที่ผมทำเสร็จได้เร็วขนาดนี้ อาจารย์มองหน้าผมอย่างสงสัย แต่เนื่องจากผมทำไม่รู้ไม่ชี้ อาจารย์เลยยอมปล่อยผมขึ้นห้อง
เย็นวันนั้นมีซ้อมของชมรมฟุตบอล ผมถึงกับต้องฝากฝังกับไอ้อาร์ตให้ช่วยดูแลไอ้โจด้วย ซึ่งถึงแม้มันจะรับปากอย่างแข็งขัน แต่ผมก็ยังไม่วางใจ ผมยังจำสายตาที่ไอ้ครูเดชมองไอ้โจได้ ผมอยากจะตามไปอยู่กับมัน แต่ผมไม่มีสิทธิเข้าห้องซ้อมของชมรมฟุตบอลอีกแล้ว สุดท้ายผมก็ต้องกลับบ้านคนเดียวอย่างเหงาๆ
เมื่อผมกลับบ้านไป ผมคำนวณเวลาที่มันจะกลับถึงบ้าน นึกคำพูดดีๆสองสามประโยคก่อนจะโทรไปหามัน และรู้สึกดีใจสุดๆเมื่อมันรับสายผม
“มีอะไร”เสียงของมันเรียบเฉยมาก ทำเอาอารมณ์ดีใจของผมหดหายไปเลย
“ซ้อมบอลเป็นไงบ้าง”ผมถาม
“ก็ดี ไม่มีอะไร”
“ตอบยาวๆหน่อยไม่ได้รึไง นี่กูเป็นห่วงมึงนะเนี่ย ถึงได้โทรมา”ผมอดน้อยใจไม่ได้ เผลอประชดไปอีกแล้ว มันจะวางสายมั้ยเนี่ย
“ก็ไม่มีอะไรจริงๆ แค่ไอ้พีกับไอ้ต้นเข้ามาหาเรื่องนิดหน่อย แต่กูมีไอ้อาร์ตกับไอ้นัทอยู่ด้วย มันเลยไม่กล้าทำอะไรมาก”ผมโล่งอก จริงๆไอ้โจก็ไม่ได้บอบบางขนาดนั้นหรอก แต่หลังจากที่มันตกเป็นของผมแล้ว ผมรู้สึกว่าผมห่วงมันไปซะทุกเรื่องเลย
“แล้วไอ้ครูเดชล่ะ”
“ก็ไม่มีอะไรเหมือนกัน มีมาถามถึงมึงนิดหน่อย แต่กูตอบไปแล้วว่ามึงสบายดี”ผมนึกถึงไอ้ครูเดชแล้วก็โมโห มันคงอยากสะใจกับความทุกข์ของผมล่ะสิ
“เออวันนี้น่ะ น้องบิ๊กมาที่บ้านกูนะ” น่าแปลกที่มันเปิดเรื่องพูดขึ้นมาเอง แต่ที่แปลกใจกว่าคือการได้ยินชื่อน้องบิ๊ก
“น้องบิ๊กเนี่ยนะ ไปทำไรบ้านมึงวะ”ผมเริ่มร้อนรนนิดๆ การพบกันของผมกับน้องบิ๊กครั้งล่าสุดไม่ดีเท่าไหร่นัก คงไม่ได้ไปหาไอ้โจเพื่อจะใส่ร้ายอะไรผมหรอกนะ
“ไอ้ก๊อตมันพามา”ผมยิ่งงงใหญ่ ไอ้ก๊อตไปรู้จักน้องบิ๊กตั้งแต่เมื่อไหร่
“น้องมันมีแผลน่ะ ไม่รู้มีเรื่องกับใครมา แล้วไอ้ก๊อตมันบอกว่าอยู่ใกล้บ้านกู ก็เลยมาให้กูชวยทำแผล”ไอ้ก๊อตนี่ก็ช่างไม่รู้งานเอาซะเลย คิดยังไงถึงเอาน้องบิ๊กไปเจอกับไอ้โจได้เนี่ย เด็กคนนั้นร้ายจะตายไม่รู้จะวางแผนอะไรไว้รึเปล่า
“แล้วน้องบิ๊ก เอ่อ.. เค้าโอเคป่าววะ”ผมหมายถึง ทำตัวดีกับไอ้โจรึเปล่า แต่ก็ไม่รู้จะถามยังไง เพราะน้องบิ๊กเหมือนเป็นสัญลักษณ์ความเจ้าชู้ของผม การพูดถึงน้องคนนี้กับไอ้โจตรงๆจึงทำให้ผมรู้สึกเหมือนกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
“อ๋อ โอเคสิ คิดถึงน้องเค้าเหรอ อยากมาเยี่ยมที่บ้านกูมั้ยละ จะได้บอกให้รอ”น้ำเสียงของไอ้โจเปลี่ยนไปอีกแล้ว ผมชินกับน้ำเสียงนี้ของมันจนต้องยิ้มออกมา เพราะรู้ดีว่ามันจะใช้น้ำเสียงนี้เวลาไหน เวลาที่งอนหรือหึงไงล่ะ
“อยากสิ ไปบอกเค้าให้รอกูทีนะ กูจะรีบไปเดี๋ยวนี้เลย”ผมแกล้งมัน ซึ่งรู้สึกว่าจะแรงไปหน่อย เพราะไอ้โจมันเงียบไปเลย
“โอ๋ๆ กูล้อเล่นนะ ถ้ากูไปบ้านหลังนั้น คนที่กูจะไปหาก็คือมึงคนเดียวแหละ”ผมรีบโอ๋มัน จริงๆแล้วไอ้โจมันขี้งอนมาก แถมขี้น้อยใจอีกด้วย ตอนนี้ผมเข้าใจนิสัยของมันมากกว่าเมื่อก่อนเยอะ
“น้องเค้าก็น่าจะอยากเจอมึงนะ ไม่มารื้อฟื้นความหลังหน่อยละ”ขี้งอนแล้วยังชอบประชดอีก แต่ยิ่งมันประชดผมก็ยิ่งยิ้มออก เพราะยิ่งมั่นใจได้มากขึ้นว่ามันหึงผม
“หึงเหรอ”ผมพูด แล้วไอ้โจก็เงียบไปอีกครั้ง
“หึงจริงๆด้วย...”
“พ่อมึงสิ ไร้สาระ กูจะวางแล้ว”ผมหัวเราะ แล้วสายก็ตัดไปทันที แต่ผมรู้สึกว่าได้คุยกับมันแค่นี้ก็มากพอที่จะทำให้ผมฝันดีได้แล้ว ส่วนเรื่องน้องบิ๊ก ไว้ค่อยถามกับไอ้ก๊อตทีหลังก็แล้วกัน
“ไม่ต้องหึงนะ กูมีเมียคนเดียวแหละ ไม่คิดนอกใจหรอก”ผมส่งข้อความไปหามันอีกครั้งก่อนนอน แล้วก็สะดุ้งในอีกสิบวินาทีต่อมาเพราะไม่คิดว่ามันจะส่งข้อความกลับมา
“ไปตายซะ”
….
โชคดีหน่อยที่วันต่อมามันยังคุยกับผมตามปกติ ไม่โกรธผมมากขึ้นจากการถูกผมยั่ว สำหรับเรื่องน้องบิ๊ก ผมแปลกใจเหมือนกันที่ไอ้ก๊อตรับรองน้องบิ๊กเป็นอย่างดีว่าไม่มีปัญหา แล้วยังบอกอีกว่าน้องบิ๊กพูดกับมันเอง ว่าไม่ได้คิดอะไรกับผมอีกแล้ว ซึ่งถ้ามันเป็นแบบนั้นได้จริงๆผมก็สบายใจ แต่เรื่องที่ผมใส่ใจมากกว่านั้นเป็นอีกเรื่อง
“ว่าแต่มึง คิดไงถึงไปส่งน้องบิ๊กได้วะ”ผมขมวดคิ้วมองมัน
“ก็ฝนมันตก แล้วน้องเค้ากลับบ้านเย็น กูกลัวไม่มีรถแล้ว ก็เลยไปส่งหน่อย”มันตอบ แต่รีบพูดรัวเร็วยังไงชอบกล
“เหรอ”ผมพูดเสียงอมภูมิ ไอ้เพื่อนผมคนนี้ หน้าตาดีนิสัยก็ดี มันไม่ใช่พวกเฮฮาเป็นเด็กๆแบบไอ้นัท เป็นพวกเงียบขรึมแต่ก็น่าสนใจ เรียกได้ว่ามีแฟนคลับติดตามมันเพราะความสุขุมนุ่มลึกนั้นไม่น้อยเลยทีเดียว และมันก็มีแฟนแล้วด้วย เป็นเด็กผู้หญิงที่อยู่โรงเรียนใกล้ๆนี้เอง แม้จะไม่ได้เจอกันบ่อยนัก เพราะไอ้ก๊อตเป็นคนติดเพื่อน แต่มันก็รักของมันมากพอสมควรทีเดียว
“เออสิวะ ทำเสียงแบบนั้นทำไม”มันทำท่าไม่รู้ไม่ชี้ ผมเองก็ไม่ได้คิดอะไรหรอกนะ แค่รู้สึกว่ามันแปลกๆแค่นั้นเอง ปกติไอ้ก๊อตไม่ใช่คนกระตือรือร้นอะไรมากมาย เป็นพวกปล่อยชีวิตชิวๆไปตามสายลมซะมากกว่า พอเห็นมันใส่ใจกับอะไรขึ้นมาผมถึงได้แปลกใจ
ในวันนี้ผมก็ยังต้องทำความสะอาดโรงยิมอยู่เหมือนเดิม แต่ดูเหมือนไอ้เชนจะรู้ว่าเมื่อวานผมมีเพื่อนมาช่วย อาจารย์วิชิตถึงได้มานั่งเฝ้าผมถูพื้นชนิดเกาะติดข้างสนามเลยทีเดียว ซึ่งก็ทำให้ผมเซ็งจนแทบจะเอาไม้ถูพื้นฟาดหน้า(อาจารย์) แต่ผมก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากต้องก้มหน้ารับโทษที่ตัวเองไม่ได้ก่อไปเท่านั้น
เหตุการณ์ผ่านไปเรื่อยๆจนมาถึงวันเสาร์ ไอ้บอลนัดผมมาทำงานกลุ่มซึ่งมีผม ไอ้โจ ไอ้กัน ไอ้จอมและไอ้บอล แต่ไอ้กันและไอ้จอมไม่ว่าง ดูเหมือนจะไปเที่ยวที่ไหนกันสักที่ ก็เลยมีแค่ผม กับไอ้บอลและไอ้โจที่มาทำงานที่โรงเรียน วันนี้โรงเรียนเงียบมากแทบจะไม่มีผู้คนเลย ปกติไม่นักบอลก็นักบาสจะมาซ้อมที่โรงเรียนทุกวันเสาร์ แต่ไอ้ครูเดชนั่นก็จัดตารางซ้อมมั่วซั่วไปหมดอยู่แล้ว
“ทำไมมึงต้องเรียกกูมาทำงานวันนี้ด้วยวะเนี่ย”ผมบ่นไปก็นั่งพิมคอมไป ใจนึกอยากนอนดูการ์ตูนอยู่กับบ้านมากกว่า
“ห่า งานมันส่งวันจันทร์ แล้วถ้ากูแบ่งงานให้มึงไปทำเองมึงก็ไม่เคยทำอยู่แล้ว”ไอ้บอลด่าผม ซึ่งผมก็เถียงไม่ได้ด้วยสิเพราะว่ามันจริง ไอ้โจนั่งทำงานอยู่เงียบๆโดยที่ผมแอบมองมันเป็นระยะๆ
“หิวน้ำว่ะ”ไอ้บอลบ่น ผมเองก็หิวเหมือนกัน เดี๋ยวนี้อากาศร้อนมาก ร้อนจนต้องกินน้ำวันละเป็นแกลลอน
“เดี๋ยวกูไปซื้อให้แล้วกัน”ไอ้โจบอก คงเห็นว่าตอนนั้นผมกับไอ้บอลกำลังทำงานส่วนสำคัญอยู่
“ให้ไปเป็นเพื่อนป่าว” ผมถาม ไอ้โจหันมามอง
“บ้ารึไง ร้านน้ำอยู่แค่นี้ ทำงานไปเหอะ มาตั้งนานแล้วยังเสร็จไม่ถึงครึ่งเลย”ผมทำหน้าบู้ คนเค้าอุตส่าห์เป็นห่วงแท้ๆ ทำไมต้องมาดุกันด้วย ผมมองตามมันเดินไปจนลับหัวมุมตึก รู้สึกสังหรณ์ใจยังไงพิกล
“มองตามตาละห้อยเลยนะมึง ยังกะหมามองเจ้าของ”ไอ้บอลแซวยิ้มๆ
“ถ้ามันยอมเป็นเจ้าของกูล่ะก็นะ กูยอมเป็นหมาก็ได้”ผมยักไหล่
“ทำไมมึงจริงจังกับไอ้โจขนาดนั้นวะ ปกติไม่เห็นมึงจะเคยแคร์ใครแบบนี้เลย”ผมต้องคุยเรื่องนี้กับเพื่อนเป็นรายคนเลยสิเนี่ย ผมน่าจะเรียกพวกมันมารวมกันทีเดียวแล้วก็บอกพวกมันพร้อมกันไปเลย ว่าขอโทดนะที่กูเคยหน้าม่อ ตอนนี้กูรักไอ้โจคนเดียวโว้ยยย
“ก็เพราะมันต่างจากคนอื่นไง”ผมตอบสั้นๆ
“ยังไงวะ” ไอ้บอลซัก ถ้าพูดถึงคนอื่นผมคงรำคาญ แต่เพราะกำลังพูดถึงไอ้โจ ผมเลยไม่รู้สึกเบื่อ
“ก็มันรักกู ทั้งๆที่กูออกจะทำตัวเหี้ยแบบนี้...”พูดเรื่องนี้ทีไรก็รู้สึกแย่ทุกที
“สรุปว่าเพราะมันรักมึง มึงเลยรักมันตอบ”ไอ้บอลหัวเราะ
“ไม่ใช่ ถึงมันเลิกรักกูตอนนี้ กูก็จะรักมันอยู่ดี เพราะมันเป็นคนเดียวที่กูอยากอยู่ด้วยตลอดเวลา เวลากูอยู่กับมัน กูได้เป็นตัวของตัวเอง กูเศร้าได้ อ่อนแอได้ กูหัวเราะได้เต็มที่ เมื่อก่อนกูก็ไม่ได้รู้สึกอะไรแบบนี้หรอก เพราะกูไม่เคยขาดมันไปมั้ง แต่พอกูไม่มีมันอยู่ข้างๆ กูถึงได้รู้ ว่ามันสำคัญกับกูแค่ไหน”
“พูดเป็นพระเอกละครเลยนะมึง แต่ก็ซึ้งสัส น้ำตาจะไหลแล้วเนี่ย”ไอ้บอลแกล้งทำท่าซับน้ำตา ผมหัวเราะ
“มึงก็ช่วยกูหน่อยดิวะ บอกให้ไอ้โจมันหายโกรธกูหน่อย”ผมอ้อนมัน แต่มันกลับเฉไฉไปพูดเรื่องอื่น
“กูก็มีเหมือนกัน คนที่อยากอยู่ด้วยตลอดเวลาน่ะ”ไอ้บอลพูด น้ำเสียงของมันขมขื่นยังไงชอบกล
“โห่ เพื่อนกู ทำไมวะ มึงแอบชอบใคร บอกกูได้นะ เดี๋ยวกูจัดให้”ตอนนี้รู้สึกไม่ว่าใครๆต่างก็มีปัญหาหัวใจกันหมดเลยแฮะ
“มึงช่วยกูไม่ได้หรอก เค้าไม่เคยคิดจะหันมามองกูสักนิด เค้าเป็นคนสำคัญของกูเสมอ แต่กูคงไม่สำคัญอะไรสำหรับเค้าเลย”ไอ้บอลพูดพลางมองหน้าผม แต่ผมก็ไม่ถนัดเรื่องปลอบใจอะไรแบบนี้ซะด้วยสิ
“ทำไมวะ มึงแอบรักคนมีเจ้าของเหรอ” ผมถาม ไอ้บอลส่ายหน้า
“ก็ไม่เชิง แต่เค้ามีคนสำคัญของเค้าอยู่แล้ว ไม่มีที่ว่างให้กูเลย..”ผมไม่ชอบบรรยากาศดราม่าแบบนี้เลย แต่ก็ไม่อยากให้เพื่อนต้องเป็นทุกข์เหมือนกัน
“ก็ไม่เห็นต้องไปแคร์มันเลย มึงยังมีกูอยู่ มึงสำคัญสำหรับกูนะเว้ย ไอ้บอล”ผมเอื้อมมือไปลูบหัวมันเบาๆ คงปลอบมันดีที่สุดได้เท่านี้ ผมคิดว่าผมโชคดีแล้ว ที่อย่างน้อยก็ไม่ได้รักไอ้โจข้างเดียว จนต้องเจ็บปวดเหมือนกับไอ้บอลแบบนี้
ผมผละจากไอ้บอล เมื่อมีเสียงข้อความมือถือดังขึ้น มาจากมือถือของไอ้โจ

ตอนนี้ไอ้โจอยู่กับกู ถ้าไม่อยากให้เมียมึงเป็นอะไรไปล่ะก็ มาหากูที่โรงยิมเก่า คนเดียว..
เชน
ผมมือสั่น ความกลัวอันร้ายกาจเกาะกุมหัวใจ รู้สึกเย็นวาบไปทั้งตัวเหมือนกับโดนน้ำที่เย็นจัดราดหัวจรดเท้า แต่วินาทีต่อมาผมลุกพรวดขึ้นทั้งที่ยังไม่รู้สึกตัวเต็มที่ด้วยซ้ำ ในหัวผมรู้แต่ว่าต้องรีบไปหาไอ้โจให้เร็วที่สุด
“เป็นอะไรวะ” ไอ้บอลถาม หน้าผมตอนนี้คงซีดเผือดเต็มที่แล้ว
“มึงอยู่ที่นี่แหละ อย่าตามกูมานะ”ผมหันหลังกลับแล้ววิ่งออกไปทันที ไม่สนใจเสียงไอ้บอลที่ร้องเรียกตามหลัง
ตอนนี้ภาพในหัวของผมไม่ปะติดปะต่อกัน ผมออกวิ่ง รู้แน่ชัดว่ากำลังวิ่งไปที่ไหน แต่ภาพที่ปรากฏในหัวที่ซ้อนทับกับภาพทิวทัศน์รอบตัวเป็นภาพไอ้โจท่ามกลางพวกไอ้เชน ซึ่งผมไกำจัดภาพนั้นทิ้งเพราะไม่อาจปล่อยให้มันก่อตัวเป็นรูปร่างขึ้นในใจได้ แต่มันกลับปรากฏขึ้นมาใหม่ทุกๆสองสามวินาที
ผมไม่น่าปล่อยให้มันไปคนเดียว ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับมันล่ะก็ ผมจะไม่ให้อภัยตัวเองเลย ทุกอย่างเป็นความผิดของผม เพราะผมมันถึงได้ถูกไอ้เชนหมายหัว เพราะผมปล่อยมันไปคนเดียว มันถึงได้ถูกจับไปแบบนี้ ผมทั้งอ้อนวอนและภาวนา ขอร้องอย่าให้มันเป็นอะไรไปเลย ผมยอมแลกทุึกอย่าง.....
โรงยิมเก่านั้นอยู่ทางด้านหลังโรงเรียน ตอนนี้แปรสภาพเป็นโรงเก็บของไม่ต่างอะไรกับตึกร้าง ในวันที่ไม่มีผู้คนอยู่ในโรงเรียนเลยแบบนี้แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีใครคนอื่นผ่านมาที่นี่ แต่ผมก็จำเป็นต้องไปคนเดียวตามที่มันบอก ผมไม่อาจเอาไอ้โจไปเสี่ยงกับอะไรได้ทั้งนั้น ผมจึงไม่ชะลอฝีเท้าแม้แต่นิดเดียว ตอนนี้ที่หมายอยู่ตรงหน้านี่แล้ว...
“พลั่ก”แต่ทันทีที่ผมก้าวพ้นประตู ผมก็ถูกหมัดของใครสักคนกระแทกเข้าที่ต้นคอจนทรุดฮวบลงกับพื้น ก่อนที่ร่างกายจะถูกจับให้ลุกขึ้นด้วยคนสองคนที่จับแขนผมดึงขึ้นอย่างแรง
ผมสะบัดหัว หมัดเมื่อกี้กระแทกแรงจนทำให้มึนงง แต่ผมพยายามตั้งสติ เพราะได้ยินเสียงหนึ่งอยู่ไม่ไกล
“เอ็กซ์!”ผมลืมตาขึ้นมองไอ้โจ ถูกล็อกไว้ด้วยคนสองคนเช่นเดียวกับผม แม้มันจะพยายามดื้นรน แต่ทั่วร่างไม่มีร่องรอยถูกทำร้าย ด้านข้างของมัน มีคนสามคน ไอ้เชน ไอ้ครูเดช และที่ยืนเยื้องไปด้านหลังคือน้องบิ๊ก ซึ่งก้มหน้าไม่กล้าสบตากับผม
“พวกมึง”ผมออกแรง พยายามสลัดให้หลุดจากการเกาะกุม ทว่าไร้ผล
“ไม่น่าเชื่อว่าจะกล้าโผล่หัวมาคนเดียวจริงๆ ไอ้โง่เอ๊ย”ไอ้เชนเริ่มพูด ก้าวเข้ามาประชิดตัวผม คนที่ล็อกแขนผมไว้ คือไอ้ต้นกับไอ้พี ซึ่งล็อกแน่นจนผมขยับตัวไม่ได้
“ต้องการอะไร”ผมตะคอก ถลึงตาจ้องมัน และก็ต้องร้องออกมาอย่างเจ็บปวดเพราะหมัดของมันที่อัดเข้ามาเต็มหน้าท้อง
“อย่า!” ไอ้โจร้อง ไอ้เชนหันไปมองมัน
“โอ๊ะโอ่ รักกันจริงนะมึง”ไอ้เชนล็อกหน้าผมด้วยมือแล้วเชิดขึ้นให้จ้องหน้ามัน มีประกายบ้าคลั่งอยู่ในดวงตาของมัน
“แต่สำหรับกูน่ะ เค้าเรียกว่าโง่! แค่กูเอาไอ้โจมาล่อ มึงก็สิ้นท่าแล้ว นี่แหละ ผลของความรักโง่ๆของพวกมึงไง” มันตะโกนใส่หน้าผมพลางหัวเราะลั่น ผมรอจังหวะที่มันเข้ามาใกล้ รวบรวมแรงยกขาถีบหน้าท้องมันเต็มแรงจนมันหงายหลังลงไปกองกับพื้น แรงฮึดชั่วขณะนี้แม้แต่ไอ้พีกับไอ้ต้นที่ล็อกแขนผมไว้แน่นก็คาดไม่ถึง ผมสลัดสุดแรงจนหลุดจากการเกาะกุมของพวกมันได้ ผมจัดการถีบไอ้พีลงไปก่อน แม้จะต้องโดนไอ้ต้นเตะเข้าที่สีข้าง แต่ผมก็สวนกลับไปด้วยหมัดเต็มหน้าจนมันเลือดกำเดาไหล
“พลั่ก!!!”โลกหมุนคว้าง หมัดของใครอีกคนซัดเข้าที่หน้าผม ครั้งนี้รุนแรงมากจนรู้สึกว่าเลือดไหลออกจากจมูก ผมล้มคว่ำลงกับพื้น ทว่ายังไม่ยอมแพ้ ผมคำรามในคอ ใช้มือจิกพื้น พยายามลุกขึ้นสุดแรง ในตอนนี้นอกจากผมไม่มีใครที่จะช่วยไอ้โจได้อีกแล้ว ฉะนั้นผมจะล้มไม่ได้
“อ๊าก”ผมร้องลั่นเมื่อถูกเตะอีกครั้ง ผมนอนแผ่บนพื้นแทบเท้าไอ้ครูเดช หายใจรวยริน ไฟสู้มอดดับลงจากความเจ็บแปลบที่โจมตีทั่วร่าง ร่างผมถูกยกขึ้นอีกครั้งด้วยฝีมือครูเดช และมันกำลังจะซัดผมอีกหมัด
“พอแล้ว” เสียงสั่งเฉียบขาดมาจากไอ้เชน ไอ้ครูเดชถอยออกจากตัวผมที่ยืนโงนเงนเจียนจะล้ม เมื่อผมสบตาไอ้เชน ผมสัมผัสได้ถึงโทสะที่บันดาลถึงขีดสุด
“พลั่ก”มันพุ่งเข้าใส่ และผมถูกต่อยอีกครั้งจนหน้าหัน ผมตัวอ่อนพับ แต่ยังคงออกแรงต้านไอ้เชน ซึ่งพุ่งเข้าซัดตัวต่อตัวกับผมอย่างบ้าคลั่ง แต่อาการบาดเจ็บที่ได้รับทำให้ผมเชื่องช้าจนตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ สายตาผมยังคงจับจ้องอยู่ที่ไอ้โจ ซึ่งกำลังดิ้นรนสุดชีวิต
“อย่า หยุดนะ ไอ้พวกเหี้ย”มันตะโกน ร้องเรียกชื่อผม นี่คงเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้ผมยังคงมีสติ
“เก่งนักนะมึง!”ไอ้เชนรุกไล่ผม ในขณะที่ผมได้แต่ปัดป้อง อีกหมัดถูกส่งเข้าที่หน้าท้อง ผมจุกจนร้องไม่ออก
“เพราะแบบนี้แหละ... กูถึงเกลียดมึงนัก ...ไอ้กระจอกที่กล้าลองดีกับกู... มึงตัวคนเดียวคิดว่าจะเอาชนะพวกกูได้เหรอ.... รู้อยู่ว่าแพ้.... ยังจะฮึดสู้โง่ๆ ...อยากเป็นฮีโร่ต่อหน้าเมียมึงมากงั้นสิ... อยากโดนอัดเพื่อช่วยเมียนักเหรอ.... กูจะอ้วกว่ะ!”ไอ้เชนคั่นแต่ละคำพูดด้วยกำปั้นที่รัวใส่ผมเป็นชุด แม้ผมจะเจ็บแต่ยังคงไม่ยอมล้ม ไอ้เชนคำราม พยายามซัดอีกหลายหมัดเข้าที่หน้าท้อง และตามลำตัว หวังจะล้มผมให้ได้
“ทำไมไม่ยอมแพ้ล่ะ.... ทำไมไม่วิ่งหนีไป....มึงช่วยเมียมึงไม่ได้หรอก.. สุดท้ายคนมันก็รักตัวเองด้วยกันทั้งนั้นแหละ... ล้มไปสิโว้ยย.... ไอ้เหี้ย....” แม้สติผมจะเลือนราง แต่ผมก็ยังคงได้ยินทุกคำพูด มันไม่ได้แค่ีต้องการอัดให้ผมเจ็บปางตาย มันอยากให้ผมยอมแพ้และวิ่งหนี ทันทีที่ผมทิ้งไอ้โจไว้ที่นี่ มันก็จะเป็นฝ่ายชนะ อย่างที่มันพูด สุดท้ายคนก็รักแต่ตัวเอง น่าแปลกที่เมื่อมองทะลุความบ้าคลั่งนั้น ผมกลับเข้าใจมันได้อย่างง่ายดาย
แต่มันคิดผิดแล้ว ตราบใดที่ไอ้โจอยู่ที่นี่ ผมจะไม่หนีไปไหนทั้งนั้น..
“หึ ..มึง มันโง่”ผมจับมือมันไว้มั่น แค่นคำพูดออกจากปาก ไอ้เชนหยุดมือ
“ต่อให้มึงทำร้ายคนอื่นยังไง มึงก็ไม่ได้สิ่งที่มึงต้องการหรอก”ไอ้เชนตาวาวเมื่อผมพูดประโยคนั้น ในขณะที่เพื่อนๆของมันมีท่าทีงุนงงอย่างไม่เข้าใจความหมาย แต่ผมรู้ว่ามันเข้าใจ ผมกับไอ้เชน บางทีเราสองคนอาจคล้ายกันมากกว่าที่คิด เราต่างก็ต้องการความรักจากคนอื่น ผมพยายามเรียกหา ดูแลและเก็บรักษาไว้ แม้จะทำลายไปแล้ว แต่ก็พยายามซ่อมแซมมันขึ้นมาใหม่ ในขณะที่มัน..ทำลายทิ้งจนไม่เหลือซาก คงเป็นเพราะ ไม่เคยได้รับ เมื่อตัวเองไม่ได้ คนอื่นก็ต้องไม่ได้เหมือนกัน...
“มึงจะมาเข้าใจอะไรกู!”อารมณ์คลั่งของไอ้เชนกลับมาอีกครั้ง คราวนี้ทวีความรุนแรงมากขึ้นกว่าเดิม ในที่สุดผมก็ไม่อาจเอาชนะความเจ็บปวด ผมล้มลงไปกองกับพื้น ทว่าไอ้เชนยังไม่หยุด มันตามมาจะกระทืบผมซ้ำ ผมหลับตาปี๋ มีน้ำหนักกดทับลงบนตัว ทว่ากลับไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวด
“อั่ก”เสียงร้องด้วยความเจ็บไม่ใช่เสียงของผม.... แต่เป็นเสียงของไอ้โจ ที่ฝ่าตีนไอ้เชนกระทืบอย่างแรงบนตัวมัน ผมอึ้ง ตัวของมันทาบทับตัวผม ผมสัมผัสแผ่นหลังของมัน มันคงดิ้นแรงมาก เพื่อจะมาช่วยผม ดิ้นอย่างแรงจนเสื้อขาด... จากนั้นจึงเอาร่างเข้าบังผมไว้
“มึงต่างหากล่ะ ที่ไม่เข้าใจอะไรทั้งนั้น”ไอ้โจพูด หอบหายใจ เนื้อตัวแดงไปหมดจากการดิ้นรน ผมพยายามผลักตัวมันออก แต่มันกอดผมไว้แน่น ไอ้เชนมองตรงมายังเราสองคน สีหน้าโกรธแค้น เกลียดชัง ทว่ามีความเจ็บปวดอยู่ในนั้นด้วย
“รักกันมากนักใช่มั้ย”ไอ้เชนพูด หันไปมองไอ้ครูเดชซึ่งตอบสนองคำสั่งอย่างฉับพลันทันที มันเดินเข้ามาจับตัวไอ้โจออกไป ไอ้พีกับไอ้ต้นที่ยืนนิ่งมานานเข้ามาจับผมล็อกอีกครั้ง ผมดิ้นแม้จะไม่มีแรงเหลือ รู้ว่าบางสิ่งที่เลวร้ายยิ่งกว่าเดิมกำลังจะเกิดขึ้น...
“กูจะอัดมึงให้สลบไปเลยก็ได้ แต่แค่นั้นมันไม่สาแก่ใจกูหรอก”มันพูดเสียงเหี้ยม ก่อนจะหันไปมองไอ้ครูเดช กำลังกอดรัดไอ้โจที่พยายามดิ้น ใบหน้าของมันฉาบไปด้วยความหื่นกามแล้วตอนนี้
“จัดการเลย มึงอยากได้มันมากไม่ใช่เหรอ”ไอ้เชนพูด เหมือนเป็นคำสั่งประหาร ไอ้ครูเดชเริ่มรุกล้ำร่างกายไอ้โจที่อยู่ในอ้อมแขน ก่อนจะฉีกทึ้งเสื้อผ้า
“อย่านะ อย่า!”ผมอาละวาด สติหลุดในทันที แต่ผมก็ยังสะบัดไม่หลุด และยังคงเห็นภาพตรงหน้าอย่างชัดเจน ไอ้โจดิ้นสุดกำลัง แต่มันก็บาดเจ็บอยู่ก่อนแล้ว ไม่กี่อึดใจมันก็ถูกผลักลงไปกองกับพื้น
“ไอ้เหี้ย ปล่อยนะโว้ย ปล่อยกู ”ไอ้โจดิ้นรนสุดชีวิต เตะถีบแขนขา แต่ไม่เป็นผลกับปีศาจร้ายอย่างครูเดช ตอนนี้มันขึ้นคร่อมร่างไอ้โจแล้ว
“เดี๋ยว! ที่ตกลงกันไว้ไม่ใช่แบบนี้นี่”มีเสียงอีกเสียงหนึ่งดังขึ้น น้องบิ๊กที่นั่งเงียบอยู่ตรงมุมห้องตลอดเวลาลุกพรวดขึ้น สีหน้าซีดเผือด น้องบิ๊กพูดออกมาทำให้ไอ้เชนหันไปมอง แต่ไม่ทำให้ไอ้เดชหยุดทำบัดซบลงได้
“อะไรของมึง ไอ้สัส”ไอ้เชนพูด หัวเสียที่ถูกขัดความสนุก น้องบิ๊กดูหวาดกลัวแต่ยังดูมั่นคงอยู่
“ไหนมึงบอกว่าถ้ากูยอมหลอกพี่โจมาที่นี่มึงจะแค่อัดพี่เอ็กซ์ไง ทำไมมึงทำบัดซบแบบนี้วะ!”น้องบิ๊กตะโกน และวินาทีต่อมา น้องบิ๊กก็วิ่งเข้าไปกระชากครูเดชออกจากไอ้โจ แต่ไอ้ครูเดชไม่สนใจอะไรทั้งนั้นนอกจากย่ำยีร่างที่อยู่ข้างใต้ แม้ว่าตอนนี้ไอ้โจจะยังมีแรงขัดขืนอยู่ก็ตาม ผมไม่รู้ว่าน้องบิ๊กรวบรวมความกล้ามาจากไหน แต่ผมรู้ว่าแค่นี้ยังไม่พอ
“ไอ้แม็ค เอาไอ้เหี้ยนี่ออกไป เอาไปสั่งสอนหรือเอาไปเย็ดก็ได้ ตามใจมึง”ไอ้เชนสั่งเสียงเฉียบขาด ไอ้แม็คเข้ามาลากน้องบิ๊กที่ทั้งดิ้นรนเตะถีบออกไปทันที ในขณะที่คนอื่นยืนมุงดูครูเดชปลุกปล้ำไอ้โจ สีหน้าพวกมันหื่นกามผิดมนุษย์
“อย่า อย่าทำมัน กูขอร้อง กูขอร้องงง กูยอมแล้ว”เสียงร้องของไอ้โจประสานกับเสียงกรีดร้องของผม แต่ไม่มีผลทำให้พวกมันหยุดได้ ซ้ำร้ายไอ้เชนยังหัวเราะอย่างบ้าคลั่งด้วยความสะใจ
“ขอร้องเหรอ กูให้ก็ได้ ให้มึงดูเมียตัวเองถูกข่มขืนไงล่ะ ฮ่าฮ่า” – ผมกัดฟันด้วยความโกรธแค้น พวกนี้มันปีศาจชัดๆ คนเราจะทำร้ายกันได้มากขนาดนี้เชียวเหรอ ผมทั้งแค้นทั้งเกลียด คำรามลั่นและดิ้นสุดชีวิต
“ฤทธิ์มากนักนะไอ้เหี้ย!”ครูเดชคำรามออกมาเป็นหนแรก ชกท้องไอ้โจเต็มหมัดสองครั้ง ผมอ้าปากค้าง กรีดร้องทั้งๆที่ไม่มีเสียง ไอ้โจตาเหลือก จุกจนพูดไม่ออก การขัดขืนทั้งหมดถูกคลายลง ครูเดชหัวเราะร่า พวกไอ้เชนสองคนเข้าไปจับมือไอ้โจตรึงไว้กับพื้น มือของไอ้เดชลูบไปตามตัวไอ้โจ แล้วปลดกระดุมเสื้อออกทีละเม็ด
“ไอ้เหี้ยยย หยุดนะ! กูจะฆ่ามึง กูจะฆ่ามึง ไอ้สัตว์นรก” ไม่มีใครสนใจผม พวกมันปล่อยให้เสียงร้องของผมกระตุ้นความบันเทิง เสื้อของไอ้โจถูกกระชากออกไป เรียกสัญชาตญาณดิบในตัวไอ้พวกชั่วช้าให้พุ่งสูงขึ้น พวกมันต่างครางอย่างพึงพอใจเมื่อเรือนร่างขาวเนียนของไอ้โจปรากฏต่อสายตา ผมต้องยืนมองคนที่ผมรักถูกย่ำยี ในขณะที่ตัวเองช่วยอะไรไม่ได้ รู้สึกยิ่งกว่าถูกไฟเผา รู้สึกเหมือนร่างถูกฉีกกระชากออกเป็นเสี่ยงๆ
“อืมม ขาวสัสเลยโว้ย น่าเย็ดชิบหาย อืม”ไอ้ครูเดชพูดอย่างหื่นกาม มันลุกขึ้นถอดเสื้อออกเผยให้เห็นเรือนร่างแข็งแกร่งที่เต็มไปด้วยอารมณ์กำหนัด แล้วจึงขึ้นคร่อมไอ้โจ ก่อนที่จะก้มลงไปซุกไซร้ซอกคออย่างบ้าคลั่ง เนื่องจากมือของไอ้โจถูกไอ้สมุนสวะสองคนตรึงไว้ ไอ้ครูเดชจึงใช้สองมือรุกล้ำร่างของไอ้โจได้ตามชอบใจ
“เย็ดแม่งงง ทำไมมันน่าจับอย่างงี้วะ ทั้งขาวทั้งแน่น ถูกใจกูจริงๆ”ไอ้ครูเดชครางลั่น เริ่มรุกล้ำไปยังส่วนล่าง มันใช้หน้าคลุกเคล้าลงไปบนเป้ากางเกงไอ้โจก่อนจะเอื้อมมือไปปลดตะขอออก มันหันมายิ้มเยาะผมที่กำลังกรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง ก่อนจะค่อยๆถอดกางเกงไอ้โจออกพร้อมกับกางเกงในสีขาว ผมเบือนหน้าหนี ไม่อาจทนมองภาพตรงหน้า เสียงครางด้วยความพึงพอใจของพวกมันทุกคนดังขึ้น
“ขาวไปทั้งตัวเลยว่ะ มิน่าไอ้เอ็กซ์ถึงได้หลงนัก”
“เชดด น่าเย็ดชิบหาย เชน ครูเดชเย็ดเสร็จกูขอต่อนะเว้ย”ไอ้เหี้ยตัวหนึ่งพูดขึ้น ตอนนี้พวกมันล้วงควยออกมานอกกางเกงกันทุกคนก่อนจะเริ่มบรรเลงเพลงชักว่าวอย่างไม่อาย มีคนหนึ่งพยายามจะยัดควยเข้าปากไอ้โจแต่ไอ้โจยังพยายามรวบรวมแรงที่เหลือสะบัดหน้าหนี
“เอาสิ กูกะให้พวกมึงได้เย็ดทุกคนอยู่แล้ว” ไอ้เชนเป็นคนเดียวที่ยืนมองเฉยๆ มันยืนจ้องผม สีหน้ายิ้มเยาะประกาศชัยชนะ ผมคำรามเหมือนสัตว์ป่า กำลังจะเป็นบ้าในอีกไม่กี่อึดใจ
“กูอยากแดกมึงมานานแล้วรู้มั้ย อย่างมึงมันต้องเป็นเมียกู ไว้กูจะเย็ดให้มึงลืมไอ้เหี้ยเอ็กซ์ไปเลย”
ครูเดชลุกขึ้น ถอดกางเกงออกจนร่างเปลือยเปล่า ท่อนควยของมันแข็งผงาดบ่งบอกถึงอารมณ์ใคร่ที่อัดแน่น ท่อนควยสีดำมหึมาที่มีขนปกคลุมเต็มโคน ไอ้ครูเดชยืนถอกควยสองสามครั้ง ก่อนจะหันไปสั่งไอ้ระยำที่พยายามยัดควยเข้าปากไอ้โจอยู่
“ไอ้ปาน หยุดก่อน ให้กูเย็ดมันก่อน ของมึงค่อยไว้ทีหลัง” ไอ้ปานจิ๊ปากอย่างขัดใจ มันช่วยล็อกแขนไอ้โจไว้แน่น ให้ไอ้ครูเดชยกบั้นท้ายขึ้นอย่างถนัดๆ ก่อนจะเอาท่อนลำขนาดมหึมานั้นไปจ่อตรงปากประตู ไม่มีการเล้าโลม ไม่มีการเบิกทาง ไอ้ครูเดชคำรามหื่นราวกับสัตว์ป่า จ้องไอ้โจอย่างหื่นกระหาย แหกขาของมันออกกว้าง ไอ้โจน้ำตานองหน้า เช่นเดียวกับผมที่น้ำตาไหลออกมาเหมือนกัน
“อย่า อย่าทำเมียกู กูขอร้อง ฆ่ากูเถอะ ฆ่ากู อ๊ากกกกกก ม่ายยยย โจจจจจ”ผมกรีดร้องออกมาไม่เป็นคำพูด เมื่อไอ้เดชไม่ยอมหยุด แต่กำลังกดท่อนลำมหึมานั้นเข้าไป ไอ้โจสะดุ้งเฮือกเมื่อถูกท่อนลำนั้นสัมผัส มันร้องไห้ มองหน้าผมอย่างขอความช่วยเหลือ แต่ผมทำอะไรไม่ได้อีกแล้ว กูขอโทดนะไอ้โจ มีกูอยู่แต่กูกลับปล่อยให้มึงโดนรังแกขนาดนี้ เพราะกู มึงถึงต้องเจอเรื่องเลวร้ายแบบนี้ กูขอโทด กูมันเลว กูมันชั่ว กูอยากตาย และ

กูกำลังจะตาย......

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
2780
พลังน้ำใจ
25271
Zenny
74
ออนไลน์
4179 ชั่วโมง

มาเฟียคุมคณะ

โพสต์
7954
พลังน้ำใจ
50037
Zenny
2291
ออนไลน์
4253 ชั่วโมง
ขอบคุณมากครับ

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
3228
พลังน้ำใจ
12918
Zenny
40545
ออนไลน์
1034 ชั่วโมง

สมาชิกระดับมรกตสมาชิกระดับแพลตตินั่มสมาชิกระดับทับทิมสมาชิกจีโฟกาย 100%สมาชิกระดับไพลินสมาชิกระดับเพชรสมาชิกระดับเพชรบริหารสมาชิกระดับเพชรคู่สมาชิกระดับตรีเพชร

ใครจะมาจัดการครูเหี้ยๆนะ

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
6224
พลังน้ำใจ
35129
Zenny
3231
ออนไลน์
3601 ชั่วโมง
ขอบคุณครับ

มาเฟียคุมคณะ

โพสต์
8332
พลังน้ำใจ
59815
Zenny
33360
ออนไลน์
15365 ชั่วโมง
ขอบคุณครับ

มาเฟียคุมคณะ

โพสต์
7066
พลังน้ำใจ
51221
Zenny
53147
ออนไลน์
11344 ชั่วโมง
ใครจะเป็นคนกำจัดไอ้เชน กะไอ้ครูเดช  ก่อนที่มันจะแย่ไปกว่านี้  นายเอ็กซ์ นายแมน ว่าไง ลูกมาเฟียไม่ใช่เหรอ ส่งสารน้องๆนะ

มาเฟียคุมคณะ

โพสต์
7066
พลังน้ำใจ
51221
Zenny
53147
ออนไลน์
11344 ชั่วโมง

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
5097
พลังน้ำใจ
11836
Zenny
2070
ออนไลน์
977 ชั่วโมง
ขอบคุณครับ

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
1309
พลังน้ำใจ
11436
Zenny
3385
ออนไลน์
841 ชั่วโมง

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
1095
พลังน้ำใจ
25315
Zenny
16983
ออนไลน์
9101 ชั่วโมง
ขอบคุณครับ

มาเฟียคุมคณะ

โพสต์
11538
พลังน้ำใจ
77778
Zenny
35720
ออนไลน์
12479 ชั่วโมง
ขอบคุนครับ

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
3025
พลังน้ำใจ
10836
Zenny
3803
ออนไลน์
774 ชั่วโมง

มาเฟียคุมคณะ

โพสต์
10454
พลังน้ำใจ
58482
Zenny
2237
ออนไลน์
5193 ชั่วโมง
ขอบคุณมากครับ

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
5536
พลังน้ำใจ
38984
Zenny
206359
ออนไลน์
6336 ชั่วโมง
ขอบคุณครับ

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
6353
พลังน้ำใจ
42727
Zenny
11684
ออนไลน์
2241 ชั่วโมง
ขอบคุณครับ

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
9435
พลังน้ำใจ
46104
Zenny
20278
ออนไลน์
2680 ชั่วโมง
ขอบคุนครับ

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
2375
พลังน้ำใจ
13777
Zenny
2554
ออนไลน์
632 ชั่วโมง
ขอบคนุครับ

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
2843
พลังน้ำใจ
16291
Zenny
11798
ออนไลน์
1168 ชั่วโมง
เลวมากเลยไอ้เชนกะครูเดช

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
5930
พลังน้ำใจ
29635
Zenny
6044
ออนไลน์
6161 ชั่วโมง
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | สมัครเข้าเรียน

รายละเอียดเครดิต

A Touch of Friendship: สังคมจะน่าอยู่ เมื่อมีผู้ให้แบ่งปัน ฝากไวเป็นข้อคิดด้วยนะคะชาวจีโฟกายทุกท่าน
!!!!!โปรดหยุด!!!!! : พฤติกรรมการโพสมั่วๆ / โพสแต่อีโมโดยไม่มีข้อความประกอบการโพส / โพสลากอักษรยาว เช่น ครับบบบบบบบบ, ชอบบบบบบบบ, thxxxxxxxx, และอื่นๆที่ดูแล้วน่ารำคาญสายตา เพราะถ้าท่านไม่หยุดทีมงานจะหยุดท่านเอง
ขอความร่วมมือสมาชิกทุกท่านโปรดโพสตอบอย่างอื่นนอกเหนือจากคำว่า ขอบคุณ, thanks, thank you, หรืออื่นๆที่สื่อความหมายว่าขอบคุณเพียงอย่างเดียวด้วยนะคะ เพื่อสื่อถึงความจริงใจในการโพสตอบกระทู้ และไม่ดูเป็นโพสขยะ
กระทู้ไหนที่ไม่ใช่กระทู้ในลักษณะที่ต้องโพสตอบโดยใช้คำว่าขอบคุณ เช่นกระทู้โพล, กระทู้ถามความเห็น, หรืออื่นๆที่ทีมงานอ่านแล้วเข้าข่ายว่า โพสขอบคุณไร้สาระ ทีมงานขอดำเนินการตัดคะแนน และ/หรือให้ใบเตือนสมาชิกที่โพสขอบคุณทันทีที่เจอนะคะ

รูปแบบข้อความล้วน|โทรศัพท์มือถือ|ติดต่อลงโฆษณา|จีโฟกายดอทคอม


ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บจีโฟกายดอทคอมนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ หากท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศิลธรรม ไม่เหมาะสมที่จะเผยแพร่ ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link “แจ้งลบโพสนี้” ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือ ลืมพาสเวิดล๊อกอิน/ลืมชื่อที่ใช้สมัคร หรือข้อสงสัยใดๆแจ้งมาที่ G4GuysTeam[at]yahoo.com ขอขอบพระคุณที่ให้ความร่วมมือ

กรณีที่ข้อความ/รูปภาพในกระทู้นี้จัดสร้างโดยผู้ลงข้อมูลเอง ลิขสิทธิ์จะเป็นของผู้ลงข้อมูลโดยตรง หากจะทำการคัดลอก/เผยแพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ลงข้อมูลก่อนนะคะ หรือลงที่มาไว้ด้วยค่ะ

©ขอสงวนสิทธิ์คอนเซ็ปต์,คำอธิบาย,หัวข้อ/หมวดหมู่เว็บ ห้ามลอกเลียนแบบ คิดเอาเองนะคะอย่าเอาแต่ลอก

GMT+7, 2024-4-24 05:04 , Processed in 0.139946 second(s), 25 queries .

Powered by Discuz! X3.1 R20140301, Rev.31

© 2001-2013 Comsenz Inc.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้