จีโฟกาย.คอม

 ลืมรหัสผ่าน
 สมัครเข้าเรียน
ค้นหา
 
ดู: 4172|ตอบกลับ: 58
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป
ซ่อนแถบด้านข้าง

ตอนที่ 15 ไม่เป็นไรนะ... [CP]

  [คัดลอกลิงก์]

ประธานนักศึกษา

โพสต์
273
พลังน้ำใจ
3938
Zenny
1204
ออนไลน์
330 ชั่วโมง

สมาชิกจีโฟกาย 100%


(เอ็กซ์บรรยายครับ)
เช้าวันนี้ผมก็ไปโรงเรียนตั้งแต่เช้าอีกเช่นเคย ผมอยากไปเจอไอ้โจ อยากรู้ว่ามันชอบเพลงที่ผมร้องรึเปล่า ทำไมถึงไม่ตอบอะไรกลับมาเลย แต่ผมก็ไปไม่ทันดักรอไอ้โจอยู่ดี เหตุผลเป็นเพราะผมตื่นสายเนื่องจากตื่นนอนกลางดึก(เพราะความฝันบ้าๆนั่น) เมื่อผมไปถึงโรงอาหาร ผมก็เจอไอ้โจนั่งกินโจ๊กอยู่แล้ว แต่มันไม่ได้นั่งคนเดียว มีไอ้แมน ไอ้แว่น ไอ้ก๊อต ไอ้บอล แล้วก็ไอ้นัทนั่งอยู่ด้วย เป็นแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน ผมกับไอ้โจจะได้ไม่กระอักกระอ่วนต่อกัน
“เห้ย วันนี้มาเช้าเชียวนะ”ไอ้แมนพูดพลางตบหลังผมเมื่อผมนั่งลงข้างๆมัน คนอื่นๆก็ส่งเสียงทักทายผม เว้นก็แต่ไอ้โจที่นั่งอยู่อีกฟากของโต๊ะ ในตอนแรกผมเห็นมันพูดอะไรสักอย่างอยู่ แต่เมื่อผมมา มันก็นิ่งเงียบและไม่พูดอะไรอีก
“แล้วกูเคยมาสายด้วยเหรอ”ผมตอบยิ้มๆผลที่ได้รับคือเสียงโห่จากทั้งโต๊ะ จริงๆแล้วผมมาสายทุกวันนั่นแหละ ถ้าไม่ติดว่าอยากมาเจอไอ้โจล่ะก็ ผมไม่มีวันมาแต่เช้าแบบนี้หรอก
“เพลงเมื่อคืน เป็นไงมั่งวะ” ไอ้แมนแอบลดเสียง กระซิบกระซาบกับผมสองคน ไอ้เรื่องทำคลิปร้องเพลงมันก็เป็นคนคิดอีกนั่นแหละครับ แต่ผมเลือกเพลงด้วยตัวของผมเอง เพราะอยากให้มันรับรู้ ว่าผมอยากขอโทษมันจริงๆ
“ไม่รู้เว้ยย มันไม่ได้ตอบอะไรกูเลย”นึกแล้วก็ขัดใจระคนน้อยใจ ถึงผมจะไม่ได้เสียงดีอะไร แต่ผมก็ตั้งใจร้องจริงๆนะ ถ้าไปร้องที่The voice รับรองกรรมการหันมาทุกคน
“เหรอวะ ตอนมึงไม่มากูก็แย็บๆถามถึงมึงแล้ว แต่ไอ้โจไม่พูดอะไรสักคำ มึงร้องเพี้ยนป่าวสัส”
“เพี้ยนพ่อมึงสิ ตรงคีย์เป๊ะๆไม่มีหลุดสักคำ ไม่เชื่อมึงเอาไปฟังเลย”ไอ้แมนนี่ก็ปากหมา ผมฝึกร้องเพลงนี้อยู่นานเป็นชั่วโมง ร้องเป็นสิบๆรอบกว่าจะกล้าอัดคลิป
“มึงสองคนกระซิบเหี้ยไรกันเนี่ย”ไอ้บอลถาม ผมกับไอ้แมนหยุดสุมหัวกันทันที
“ไอ้เอ็กซ์ เรื่องไอ้ครูเดชนั่นน่ะ มึงจะเอาไงต่อวะ”ไอ้นัทถามขึ้นมา ปกติมันเป็นคนเฮฮาไม่เครียดอะไร แต่ถ้าเป็นเรื่องของทีมฟุตบอลนี่มันเครียดครับ แทบจะเป็นเรื่องเดียวเลยมั้งที่มันเอาจริงเอาจัง ผมก็เกือบลืมเรื่องของไอ้ครูนั่นไปซะสนิท
“เออ ดีและที่พูดขึ้นมา กูว่ากูจะไปปรึกษาโค้ชหมีก่อนว่ะ เผื่อเค้าจะช่วยเปลี่ยนโค้ชให้ได้ ตอนนี้เค้าเป็นหัวหน้าหมวดแล้วไม่ใช่เหรอ”โค้ชฟุตบอลคนเก่าของพวกผมชื่อหมีครับ จริงๆแล้วแกชื่อสมหมาย แต่เนื่องจากตัวแกบึ้กล่ำเหมือนหมี พวกเราก็เลยเรียกว่าโค้ชหมี
“เออไอ้นัทมันเล่าให้พวกกูฟังแล้วนะ พวกมึงก็ใจร้อน เสือกไปต่อยกับครู”ไอ้แมนพูด นอกจากผม ไอ้นัท และไอ้โจ คนอื่นๆคงไม่รู้เรื่องเมื่อวาน เพราะพวกมันไม่ได้อยู่ในทีมฟุตบอล
“ใครว่าล่ะ ก็เม่งหาเรื่องพวกกุก่อนนี่หว่า ครูห่าไรโรคจิตชิบหาย ไปฟ้องผ.อ.เม่งยังได้เลยมั้ง พวกเรามีพยานเยอะแยะ ทั้งทีมเลยนะมึง”ผมพูดตามข้อเท็จจริง แม้มันจะเป็นครู แต่พวกเรามีพยานทั้งทีม เว้นก็แต่ไอ้ห่าพีกับไอ้ห่าต้น สองลูกสมุนของไอ้เชนเท่านั้นแหละ ลองได้รู้พฤติกรรมโรคจิตรังแกนักเรียนของไอ้ครูนั่น ไม่มีโรงเรียนไหนบ้าเอามันไว้หรอก แต่กระนั้นไม่มีใครส่งเสียงตอบรับคำพูดของผมเลย
“กรูว่าเรื่องมันจะไม่ง่ายแบบนั้นดิวะ”ไอ้ก๊อตพุดสีหน้าเป็นกังวล คนอื่นๆก็มีสีหน้าแบบนั้นด้วย ดูท่าก่อนที่ผมมาพวกมันจะแลกเปลี่ยนข้อมูลอะไรกันมากมายทีเดียว
“ทำไมวะ”ผมถาม รู้สึกได้ถึงความไม่ชอบมาพากล
“ไอ้ครูเดชนั่นมันไม่ใช่ครูธรรมดานะเว้ย กูได้ยินไอ้แม็คพูด ว่าครูนั่นน่ะใช้เส้นพ่อไอ้เชนเข้ามา เพราะอย่างงั้นมันเลยได้ห้องทำงานส่วนตัว แถมพอเข้ามาก็ได้เป็นโค้ชทันทีอีก”อ๋อ มิน่าละ..คนของพ่อไอ้เชน มิน่า ไอ้พีกับไอ้ต้นถึงได้ตอบรับคำสั่งไอ้ครูนั่นเหมือนเป็นทาสซะขนาดนั้น ก็เป็นครูของลูกพี่นี่นะ (ไอ้แม็คนี่ก็เป็นเพื่อนคนนึงของไอ้เชนน่ะครับ ไอ้ก๊อตมันอยู่ชมรมบาส เลยได้รู้เรื่องเกี่ยวกับกลุ่มของไอ้เชนเยอะ)
“แต่มันจะทำอะไรเราได้วะ เรามีพยานทั้งทีมเลยนะ”ผมยังยืนกราน แต่น้ำเสียงไม่มั่นใจเท่าในตอนแรก เป็นที่รู้กันดีว่าพ่อไอ้เชนมีอิทธิพลต่อโรงเรียนนี้ขนาดไหน ไม่งั้นลูกสุดเหี้ยของมันคงจะถูกไล่ออกจากโรงเรียนไปนานแล้ว
“ก็ขอให้เป็นแบบนั้นเถอะวะ”ไอ้นัทพูด บทสนทนาเกี่ยวกับเรื่องนี้จบเพียงเท่านี้ ผมลอบมองหน้าไอ้โจ รู้สึกได้ว่ามันรีบหันหน้าหลบในช่วงเสี้ยววินาทีนั้น ถ้าเป็นแบบนั้น เมื่อกี้มันก็จ้องหน้าผมอยู่น่ะสิ...
ตอนเดินขึ้นไปเข้าแถวบนห้อง ผมเห็นไอ้โจวางกระเป๋าลงบนเก้าอี้ข้างๆไอ้แว่นอีกครั้ง ผมนึกน้อยใจมันขึ้นมาทันที นี่มันยังไม่ยอมนั่งกลับมากับผมอีกเหรอนี่ ผมมองเลยไปที่กระเป๋าไอ้แว่น แล้วก็เกิดความคิดบางอย่าง
“แว่นๆ” ผมดึงหลังเสื้อไอ้แว่นไว้ก่อนที่มันจะเข้าไปในห้อง มันหามามองเป็นเชิงถาม
“มีอะไร”
“ช่วยอะไรกูหน่อยดิ” ผมยิ้มแป้นให้มัน มึงไม่นั่งข้างกูก็ไม่เป็นไรหรอกไอ้โจ กูไอ้เอ็กซ์ซะอย่าง
เมื่อผมเข้าไปในห้อง ไอ้แว่นก็เดินไปนั่งข้างหลังเงียบๆตามที่ผมขอ ส่วนข้างๆไอ้โจยังเป็นที่นั่งว่างอยู่ ผมค่อยๆเดินเข้าไปก่อนจะหย่อนตัวลงนั่งช้าๆ ไอ้โจไม่ได้สังเกตเลยว่าผมเข้ามานั่งข้างมันแล้ว เพราะมันกำลังเสียบหูฟังดูอะไรในมือถืออยู่ก็ไม่รู้ คงจะคิดว่าผมเป็นไอ้แว่น ผมแอบเหลือบมอง รู้สึกภาพในคลิปมันดูคุ้นๆ แล้วตัวผมก็ร้อบวาบด้วยความตื่นเต้น - มันดูคลิปร้องเพลงของผมอยู่
“แน่ะ! ดูไรอะ” ผมยื่นหน้าเข้าไปใกล้ ผลก็คือไอ้โจตกใจร้องเหวอ สะดุ้งโหยงจนแทบตกเก้าอี้ ทำเอาผมรู้สึกผิดนิดๆที่ไปแกล้งมัน มันรีบปิดคลิปในมือถือ ก่อนจะหันมามองผมตาเขียวปั๊ด สีหน้านี้คุ้นตาน่ารักเสียจนผมต้องยิ้มยิงฟันตอบ ไอ้โจไม่พูดอะไรแต่หันไปมองด้านหลัง ซึ่งมีไอ้แว่นที่กำลังยิ้มแหยพลางโบกมือขอโทดอยู่
“อย่าไปว่ามันเลย กูขอมันเองแหละ”คำพูดของผมเรียกความสนใจของไอ้โจกลับมา แต่พอเห็นหน้าที่มันมองผม ผมคิดว่ามันไม่สนใจผมนั่นแหละดีแล้ว
“มีอะไร” มันยังคงมีท่าทีเหมือนเดิม คือมีสีหน้าเย็นชา สงวนคำพูดให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ ผมอดน้อยใจนิดๆไม่ได้ แบบนี้ก็แสดงว่าน้องหมีกับเพลงของผมไม่ได้มีความหมายอะไรเลยสิ - ไม่หรอก เมื่อกี้มันยังดูคลิปร้องเพลงของผมอยู่เลยนี่ คำพูดนี้ทำให้ผมกลับมามีกำลังใจอีกครั้ง
“ก็แค่อยากนั่งข้างมึง แล้วมึงไม่ยอมนั่งข้างกู”ผมพยายามทำหน้าสลดให้ดูน่าสงสารที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่สีหน้าของไอ้โจไม่ได้อ่อนโยนลงเลย
“แล้วคิดจะถามกูบ้างมั้ย ว่ากูอยากนั่งกับมึงรึเปล่า” มันหันหน้าไปมองกระดาน ปล่อยให้ผมโดนคำพูดของมันเชือดใจเอาเต็มๆ
“ก็ถ้ากูถามก่อน กูจะได้เห็นมึงนั่งดูคลิปกูแบบนี้เหรอ”อารมณ์น้อยใจทำให้ผมเผลอโพล่งออกไป แต่จะปิดปากก็ไม่ทันแล้ว ช่างมันแล้วกัน อยากใจร้ายดีนัก อย่างน้อยประโยคนี้ก็ได้ผล ไอ้โจชะงักไปทันที
“กูไม่ได้ดูซะหน่อย”มันปฏิเสธเสียงแข็ง เบือนหน้าหนีซึ่งคงไม่ใช่เพราะไม่อยากมองหน้าผมหรอก เป็นเพราะมันต้องซ่อนสีหน้าของมันเองมากกว่า
“ปากแข็ง”ผมยั่วโมโห ซึ่งก็ได้ผลอีก มันหันกลับมาด่าผมทันที
“ไม่ได้ดูโว้ย!”สะกิดนิดหน่อยถึงกับตบะแตกเลยทีเดียว ไม่มีใครรู้จุดอ่อนของไอ้โจดีเท่าผมหรอก
“กูร้องเพราะปะ”ผมยื่นหน้าไปใกล้มัน ทำให้มันถอยหลังหนี
“ไม่ได้เรื่อง”มันตอบทันควัน ผมยิ้มแป้นอีกครั้ง
“ไหนบอกไม่ได้ดูไง”
“มึง! อะ ไอ้เหี้ย”มันกัดฟัน อ้าปากจะด่าผมแต่ก็ด่าออกมาไม่เป็นคำ ผมทำหน้าตายียวน ลืมไปเลยว่ามันอาจจะชกหน้าผมเข้าให้สักหมัด ลืมไปชั่วขณะว่าเรากำลังโกรธกันแทบจะมองหน้ากันไม่ติดเพราะสิ่งเลวๆที่ผมทำลงไป แต่เพียงแค่นี้ ในช่วงเวลานี้ นี่ก็ถือเป็นความสุขเล็กๆของผมแล้ว
“อยากนั่งตรงนี้ก็นั่งไปเลย กูย้ายที่เองก็ได้”มันลุกพรวดขึ้น เร็วจนผมจับตัวไว้ไม่ทัน ดูท่าผมจะลืมตัวกวนประสาทมากไปหน่อย
“อ้าวๆ จตุภัทธ์ จะลุกไปไหนอีกล่ะ นั่งที่ได้แล้ว”เสียงสวรรค์ดังขึ้น เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกดีใจเวลาเมื่ออาจารย์เข้าห้องมา ไอ้โจยอมนั่งลงเงียบๆ ผมอดไม่ได้ที่จะส่งยิ้มยียวนไปให้มันอีกรอบ มันเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน
“ย้ายไปกูก็ย้ายตามอยู่ดีแหละ” ผมพูดเบาๆมันหามาอ้าปากจะด่าผมอีกครั้ง
“นี่ๆ อย่าเสียงดัง เราอยู่หน้าห้องนะ เพราะมึงแหละ อยากย้ายที่เอง”มันหุบปากลง ดูหงุดหงิดที่เอาชนะผมไม่ได้ หลังจากนั้น ไม่ว่าจะพูดอะไรไป มันก็ไม่ตอบอะไรกลับมาอีกเลย ผมจะเล่นกับมันมากก็ไม่ได้ เพราะดันนั่งอยู่ตรงหน้าห้อง ทำอะไรไม่ถนัดซะเลย ไม่รู้ว่าไอ้แว่นทนนั่งข้างหน้าแบบนี้ได้ยังไง
คาบสี่ก่อนพักของวันนี้เป็นคาบแนะแนว โดยปกติแล้วผมไม่เคยชอบวิชานี้เลย รู้สึกกระดากแปลกๆที่ต้องมานั่งเขียนความฝันของตัวเองลงในกระดาษ หรือไม่ก็ต้องมาพูดถึงพระคุณพ่อแม่ให้เพื่อนทั้งห้องฟัง ผมคิดว่าเรื่องพวกนี้ล้วนเป็นเรื่องที่ทุกคนรู้อยู่ในใจดีอยู่แล้ว ไม่จำเป็นจะต้องสร้างสรรค์คำพูดดีๆออกมานำเสนอเลย มันจะทำให้ดูเสแสร้งซะเปล่าๆ แต่ก็เป็นอีกครั้ง ที่เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกขอบคุณวีชานี้
อาจารย์สั่งให้ทุกคนในห้องแยกโต๊ะกัน แม้ผมจะไม่เต็มใจนัก แต่ก็จำเป็นต้องขยับโต๊ะออกห่างจากไอ้โจ
“วันนี้ครูจะให้นักเรียนบอกความรู้สึกของตัวเองที่มีต่อเพื่อนในห้องนะคะ ครูเชื่อว่าทุกคนคงจะมีอะไรในใจที่อยากจะบอกกับเพื่อนอีกคน อาจจะอยากขอโทด อยากขอบคุณหรือบางคนอาจจะแอบชอบ(ถึงตรงนี้มีเสียงโห่ฮาตอบรับจากทั่วห้อง) แต่ว่าไม่กล้าบอกต่อหน้าเพื่อน และทุกคนก็คงอยากรุ้ว่าเพื่อนคิดยังไงกับตัวเอง ครูจะให้โอกาสทุกคนได้บอกความในใจของตัวเองให้เพื่อนฟัง ทุกคนจะได้รับกระดาษหนึ่งแผ่น (อาจารย์เริ่มแจกกระดาษตามโต๊ะ) ให้เขียนชื่อทุกคนไว้ที่มุมกระดาษ กระดาษของทุกคนจะถูกส่งไปทั่วห้อง เมื่อได้กระดาษของใครก็เขียนความรู้สึกที่มีต่อคนนั้นลงไป เข้าใจมั้ยคะ”หลายๆคนพยักหน้าเข้าใจ รวมทั้งผม
“แล้วถ้าเพื่อนจำลายมือเราได้ล่ะครับ”ไอ้กันยกมือถาม ตรงกับสิ่งที่ผมคิด ถ้าผมอยากจะบอกอะไรไอ้โจ มันก็ต้องจำลายมือผมได้อยู่แล้ว
“ก็ในเมื่อรู้ว่าเพื่อนจะจำเราได้ ก็เขียนสิ่งที่อยากให้เพื่อนรู้ลงไปสิคะ”ผมนั่งนิ่งๆคิดตามคำพูดของอาจารย์ ในหัวคิดว่า ผมอยากให้ไอ้โจรู้อะไร คำขอโทด ผมก็บอกไปแล้วหลายครั้ง กระทั่งคำว่ารักก็เหมือนกัน ถ้าคิดดูดีๆ คำพูดของผมมันก็เป็นเพียงแค่ลมปาก ทั้งกลวงและดูไม่จริงใจเลย เพราะผมยังไม่ได้แสดงอะไรให้มันเห็นว่าผมรักมัน หรือพร้อมจะทำเพื่อมันจริงๆเลย แม้ผมจะง้อมันด้วยวิธีสารพัด แต่นั่นก็เป็นแค่การพยายามสร้างความประทับใจ สิ่งที่สำคัญจริงๆ คือการพิสูจน์คำว่ารักของผมต่างหาก....
กระดาษของทุกคนในห้องถูกส่งเวียนกันมาเรื่อยๆ ผมเขียนคำว่า ขอให้มึงได้กับไอ้จอมไวๆ และเขียนคำว่า ขอให้มึงได้กับไอ้กันไวๆ ให้พวกมันทั้งสองคน เมื่อกระดาษของพวกมันเวียนมาถึง เขียนขอบคุณที่พวกมันเป็นเพื่อนที่ดีกับผม เขียนให้อีซินดี้ได้ผัวหล่อๆ ที่ไม่ใช่ผม เขียนให้ไอ้แว่นรักกับไอ้แมนไปนานๆ เขียนขอบคุณไอ้บอลที่เป็นเพื่อนที่ดี แต่ต่อจากนี้มันอาจจะไม่ได้เล่นกับน้องชายผมอีกแล้วก็ได้(ไม่กล้าเขียนคำว่าควยครับ อล่างฉ่างเกินไป) แล้วในที่สุดกระดาษของไอ้โจก็เวียนมาถึง
แต่ละคนมีโอกาสเขียนกระดาษแต่ละแผ่นได้แค่คนละประมาณครึ่งนาที ผมมีเวลาแค่นิดเดียวที่จะกวาดสายตาดูว่าเพื่อนคนอื่นๆเขียนอะไรถึงไอ้โจบ้าง อาจจะเสียมารยาทนิดหน่อย แต่ผมก็อดยิ้มออกมาไม่ได้เมื่อในกระดาษของไอ้โจไม่มีใครที่เขียนคำพูดด่ามันหรือเขียนไปในแง่ร้ายเลย(ของคนอื่นจะมีอยู่บ้างประปราย) ไอ้โจของผม-เป็นที่รักของทุกคนเสมอ ก็ไม่น่าแปลกใจหรอก มันเป็นคนดี อ่อนโยน เป็นห่วงคนอื่นขนาดนั้น มีคนชมมันวาดรูปเก่ง ชมว่ามันหล่อและถามว่าทำไมไม่มีแฟนสักที(ผมอมยิ้ม ที่ไม่มีสักที ก็เพราะมีกูอยู่นี่ไงล่ะ)ถามว่าไม่บ้าตายเหรอที่ต้องเป็นเพื่อนกับผม(T^T) น่าจะเป็นลายมือของไอ้กันแน่นอน และมีคนเขียนขอบคุณที่มันช่วยเรื่องต่างๆมากมายเอาไว้เต็มกระดาษ ผมอ่านลายมือของเพื่อนทุกคน จนมาสะดุดกับประโยคนึงตรงมุมกระดาษด้านล่าง
“มึงมันโชคดี แต่ก็อีกไม่นานหรอก” ผมขมวดคิ้ว ใครเขียนข้อความนี้กัน ใจความแปลกๆ ลายมือแบบนี้ไม่คุ้นตาผมเลย เขียนด้วยตัวหนังสือเล็กๆ ถ้ามองไปผ่านๆก็จะไม่เห็นเพราะมีตัวอักษรอยู่เต็มกระดาษไปหมด ผมหันหลังไปมองเพื่อนในห้อง นึกสงสัยว่าใครจะเขียนอะไรพิเรนทร์ๆแบบนี้ จะมีใคร ที่แอบคิดร้ายกับไอ้โจอยู่งั้นหรือ เพื่อนในห้องของเรา-เพื่อนใกล้ตัวของพวกเรา
“นักเรียนมีเวลาอีกสิบวินาทีนะคะ”เสียงอาจารย์บอกให้รู้ว่าผมต้องรีบแล้ว ผมตัดสินใจวาดลวดลายทับข้อความนั้นแบบเนียนๆ ผมไม่อยากให้ไอ้โจไม่สบายใจ ก่อนจะเลือกมุมกระดาษที่ว่าง เขียนด้วยลายมือแท้จริงที่มันจะรู้แน่ๆว่าอันนี้เป็นข้อความจากผม
“กูจะพิสูจน์ให้มึงเห็น”ผมเลือกที่จะเขียนแค่นี้ ไม่มีคำขอโทด ไม่มีคำบอกรัก คำพวกนี้ไม่มีความหมายอีกต่อไปหากว่าผมยังทำได้ไม่ดีเท่าที่ตัวเองพูด ผมเป็นคนสุดท้ายที่เขียนกระดาษของไอ้โจ มันก็เขียนกระดาษของผมเป็นคนสุดท้ายเช่นกัน ผมนึกอยากรู้ว่ามันจะเขียนอะไรให้ผม อยากชะโงกหน้าไปมอง แต่ก็ต้องอดใจเอาไว้ ผมมองจากหางตาว่ามันเขียนอะไรยิกๆอยู่พักนึงแล้วมันก็วางดินสอลง
“ส่งกระดาษคืนเพื่อนได้แล้วค่ะนักเรียน”ผมยื่นกระดาษให้ไอ้โจ ส่วนมันเองก็ยื่นกระดาษมาให้ผม เราสองคนไม่ได้พูดอะไรกัน สิ่งที่เราอยากจะพูดอยู่ในกระดาษทั้งสองแผ่นแล้ว ผมกำลังจะก้มลงอ่านกระดาษของผม ตอนที่ประกาศอินเตอร์คอมดังขึ้น

“ประกาศ นักเรียนชมรมฟุตบอลชั้นม.4-ม.6 ให้มาพบอาจารย์วิชิตที่ห้องปกครอง ในเวลานี้ด้วยค่ะ”ผมชะงัก วางกระดาษลง เสียงประกาศจากห้องปกครองเรียกความสนใจจากผมไปได้หมด เมื่อหันไปมองไอ้โจ ก็พบว่ามันมองผมอยู่ก่อนแล้ว สีหน้าของมันไม่สบายใจเลย
ผมขออนุญาตอาจารย์ไปห้องปกครอง ไอ้โจลุกตามผมมาเงียบๆ เราไม่ต้องจมอยู่ในความเงียบนานนักเพราะเราเจอไอ้นัทกับไอ้อาร์ตตรงหน้าห้องของพวกมันพอดี เราเดินไปด้วยกันเงียบๆโดยไม่ได้พูดอะไร นึกรู้ว่าจะมีอะไรรอเราอยู่ที่นั่น ไอ้อาร์ตเดินตีคู่มากับผม บีบไหล่ผมเบาๆ
“กูจะเป็นพยานให้มึงเอง”ผมพยักหน้าขอบคุณ ถึงตอนนี้ ผมปฏิเสธไม่ได้แล้วล่ะว่า ผมชอบไอ้อาร์ตมากทีเดียว แต่ตอนนี้คงได้แค่ขอบคุณมันไปก่อนเท่านั้น
เมื่อเข้ามาในห้องปกครอง ฉากที่ผมเห็นเป็นไปอย่างที่คิด ไอ้ครูเดช แม้ผมจะมองจากข้างหลังผมก็ยังคงจำมันได้ กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ตรงข้ามกับอาจารย์วิชิต อาจารย์ของห้องปกครอง ผู้เป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นอาจารย์หน้าเงิน เคยมีข่าวยักยอกเงินของโรงเรียนมาหลายครั้ง ซ้ำยังเคยหลอกเอาเงินจากนักเรียนอีกด้วย เหตุผลที่ยังเป็นครูที่โรงเรียนนี้ได้ ก็เพราะอาจารย์คนนี้ก็เข้าโรงเรียนมาด้วยบารมีพ่อของไอ้เชนเหมือนกัน ถ้าครูที่จะตัดสินเป็นครูคนนี้ ก็เรียกได้ว่า เราแทบไร้ความหวังโดยสิ้นเชิง
ความหวังเดียวของผม พวกเพื่อนๆทีมฟุตบอลคนอื่นๆนั่งอยู่ครบแล้วบนโซฟา พอผมสบตาพวกมัน ผมก็ต้องชะงักเมื่อพบว่าพวกมันจงใจไม่ยอมสบตาผม บางคนมีสีหน้ารู้สึกผิด ในขณะที่บางคนมีสีหน้าสงสาร สีหน้าเหล่านี้ทำเอาผมเสียศูนย์ไปชั่วขณะ แต่ผมบอกตัวเองว่าจะยอมแพ้ด้วยเรื่องแค่นี้ไม่ได้
“ครูเรียกพวกผมมามีเรื่องอะไรเหรอครับ”ผมถาม แสดงท่าทีสบายๆ พวกผมสี่คนกำลังจะไปนั่งบนโซฟา แต่อาจารย์วิชิตสั่งให้ผมไปนั่งบนเก้าอี้ข้างๆเก้าอี้ครูเดช ผมจำต้องทำตามผมนั่งจ้องหน้าอาจารย์วิชิตพยายามไม่เบือนหน้าไปมองคนที่อยู่ข้างๆที่กำลังเคาะโต๊ะเบาๆอย่างกวนประสาท
“ที่ครูเรียกเธอมาก็เพื่อให้เธอมารับทราบการกระทำผิดและบทลงโทษ”อาจารย์พูดเสียงเยาะอยู่ในที ใช่ว่าเราจะไม่เคยพบกันมาก่อน ผมเองก็เคยเข้าห้องปกครองมาแล้วหลายครั้ง และในฐานะของอาจารย์ที่พึ่งบารมีของท่านส.ส. คงจะไม่ชื่นชอบศัตรูของลูกชายท่านมากนักหรอก
“ทำผิดเรื่องอะไรเหรอครับ..อาจารย์”น้ำเสียงผมก้าวร้าวมากกว่าที่ตั้งใจ ผมจึงตัดสินใจเสริมคำว่าอาจารย์เข้าไปตรงท้ายประโยค
“ยังจะมาถามอีก ก็เรื่องที่เธอทำร้ายร่างกายครูเดช อย่างไม่มีเหตุผลน่ะสิ”อาจารย์วิชิตพูด ทั้งที่ยังไม่ได้ฟังเรื่องราวจากพวกผมเลย แต่กลับตัดสินแล้วว่าไม่มีเหตุผล
“หรือเธอจะปฏิเสธว่าไม่ได้ทำ ครูเดชบอกชัดเจนว่าเป็นเธอ”
“ผมไม่ปฏิเสธ แต่ที่ผมทำมันมีเหตุผลนะครับ”ผมพบว่าเสียงเคาะโต๊ะของไอ้คนข้างๆมันทำลายสมาธิผมมากทีเดียว อาจารย์วิชิตขมวดคิ้วมองหน้าผม
“ยังจะมีเหตุผลอะไรอีก ครูเดชเล่าเรื่องว่า เธอทำร้ายครูเค้าก่อน ทั้งๆที่ครูเดชเพียงแค่ยืนแนะนำตัวเฉยๆเท่านั้น ที่จริงการทำร้ายอาจารย์ก็ถือเป็นความผิดมากอยู่แล้ว เธอเป็นนักเรียน ไม่มีสิทธิแสดงความป่าเถื่อนแบบนั้น จะมีเหตุผลอะไรก็ตามเถอะ”อาจารย์วิชิตนั่งประสานมือเท้าคาง มองผมด้วยสายตาคมกริบราวกับจะต้อนให้จนมุม ผมหันไปมองพวกเพื่อนคนอื่นๆ ทว่าทุกคนก้มหน้าและไม่ยอมสบตากับผมเลย
“แต่ครูเดชทำร้ายเพื่อนผมนะครับ ผมจำเป็นต้องช่วยเพื่อนครับ”ผมโพล่งออกไป สิ้นประโยคนั้นไอ้ครูเดชก็หันขวับมา มันชี้หน้าผมพลางพูดเสียงเข้ม
“เห้ยๆ พูดให้มันดีๆหน่อยนะ แค่ทำร้ายครูก็มีความผิดมากพออยู่แล้ว ยังจะมาใส่ร้ายกันอีก เดี๋ยวความผิดก็ได้เพิ่มขึ้นอีกหรอก”ผมกัดฟัน กำมือแน่นพลางระบายลมหายใจอย่างระงับอารมณ์
“ผมไม่ได้ใส่ร้ายใคร ไม่เชื่ออาจารย์ลองถามพวกเพื่อนๆผมดูสิครับ ครูเดชทำอนาจารพวกเรา บังคับให้พวกเราถอดเสื้อผ้า ไม่เคยมีโค้ชคนไหนสั่งให้พวกเราทำแบบนี้นะครับ พอเพื่อนผมไม่ยอม ครูเดชก็ทำร้ายเค้าแบบนี้ใครกันแน่ครับที่ป่าเถื่อน”ผมพูดออกไปอย่างไม่ไว้หน้า ในห้องเงียบกริบไปชั่วขณะ คงไม่มีใครนึกว่าผมจะกล้าพูดตรงขนาดนั้น แต่ผมมั่นใจว่าตัวเองไม่ได้เป็นฝ่ายผิด
“เป็นเรื่องจริงนะครับอาจารย์ ผมเป็นพยานได้”เสียงดังมาจากด้านข้าง ไอ้อาร์ตเป็นคนพูด โดยมีไอ้นัทพยักหน้าสนับสนุน แต่คนอื่นๆยังคงนั่งนิ่ง ส่วนไอ้โจไม่ได้พูดอะไร แต่กำลังจ้องหน้าอาจารย์วิชิตด้วยสีหน้าเคลือบแคลง
“พวกเธอเป็นเพื่อนกัน ก็ต้องช่วยกันปกปิดความผิดน่ะสิ”อาจารยวิชิตพูดตัดบท ผมรู้สึกได้ถึงความอยุติธรรมที่กำลังพุ่งเข้าใส่ ผมอ้าปากจะเถียง แต่อาจารย์วิชิตยกมือห้าม
“เอาละๆ เพื่อความยุติธรรม ครูจะถามสมาชิกทีมฟุตบอลในที่นี้เลยก็แล้วกันว่าความจริงมันเป็นยังไง เพราะทุกคนคือพยานในที่เกิดเหตุ แบบนี้เธอคงยอมรับได้สินะ”ตอนแรกผมก็ตั้งใจไว้ว่าแบบนั้น แต่ตอนนี้กลับรู้สึกสังหรณ์ใจแปลกๆ
“พีรวัส ธนโชติ เล่าเรื่องให้ครูฟังซิว่าความจริงเป็นยังไง”ผมแทบจะกรีดร้องด้วยความเดือดดาล พยานที่อาจารย์วิชิตเรียกกลับเป็นไอ้พีกับไอ้ต้นเนี่ยนะ ผมรู้แน่ชัดแล้ว การลงโทษผมได้ถูกกำหนดไว้แล้ว การสอบสวนที่ห้องปกครองเป็นเพียงแค่ฉากบังหน้าเท่านั้น
ไอ้พีกับไอ้ต้นลุกขึ้นอย่างกระเหี้ยนกระหือรือ ผมจ้องพวกมันตาขวางแต่พวกมันทำเพียงแค่ยิ้มเยาะ
“เอ็กซ์ทำร้ายครูเดชก่อนจริงครับ ครูเดชยังไม่ได้ทำอะไรพวกเราเลย”ไอ้พีพูด มีเสียงสวนขึ้นมาทันควัน
“โกหก! แบบนี้มันแกล้งกันชัดๆนี่หว่า”ไอ้อาร์ตลุกพรวดขึ้นแต่ไอ้โจห้ามไว้ ไอ้ต้นพูดรับลูกต่อ
“เรารู้ครับว่าเอ็กซ์ไม่พอใจที่จะมีอาจารย์โค้ชคนใหม่ แล้วปกติเค้าก็เป็นคนเลือดร้อนขี้โมโหอยู่แล้ว กล้าชกหน้าอาจารย์ก็ไม่เห็นแปลกอะไรเลยนี่ครับ”ไอ้ต้นพูดลอยหน้าลอยตา ผมกำหมัดแน่น รู้สึกเหมือนถูกหอกแหลมๆแทงไปทั่วร่างจากทุกทิศทุกทาง
“ไม่ใช่แค่พวกเรานะครับที่เห็นแบบนี้ เพื่อนๆคนอื่นๆก็เหมือนกัน ใช่มั้ย ไอ้เบียร์ ไอ้พีท”ผมคิดว่าคนที่ใส่ความผมจะมีแค่ไอ้ตัวกวนสองคนนั่น แต่ผมก็รู้ในวินาทีนั้นว่าผมคิดผิด ไอ้เบียร์กับไอ้พีท ซึ่งปกติเป็นเพื่อนที่ดีกับผม เราไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกัน สนิทกันด้วยซ้ำ แต่สิ่งที่พวกมันพูดออกมาคือ
“ใช่ครับอาจารย์ พวกเราเห็นเอ็กซ์ทำแบบนั้นจริงๆ”ไอ้พีทพูด มันก้มหน้าลง ผมอ้าปากค้าง นี่มันอะไรกัน ทั้งที่ผมเชื่อมั่นว่าพวกมันจะต้องช่วยผม แต่นี่มันกลับร่วมมือกับพวกไอ้เชนใส่ร้ายผมด้วยอีกคน ครูเดชยิ้มเยาะ ผมรู้สึกว่าตัวกำลังสั่น โมโหความอยุติธรรมที่ได้รับ และเสียใจที่ถูกคนที่คิดว่าเป็นเพื่อนหักหลัง ผมคิดว่าพวกมันเป็นเพื่อนผม อย่างน้อยเราก็อยู่ทีมเดียวกัน และพวกมันเองก็เกลียดไอ้เชนเหมือนๆกับผม แต่ผมพึ่งรู้ตัวว่าจริงๆแล้วพวกมันอาจจะไม่ได้เห็นผมเป็นเพื่อนก็ได้ มันอาจจะเกลียดผม เห็นเป็นแค่ไอ้เอ็กซ์ที่ทำตัวน่าหมั่นไส้
อาจารย์วิชิตถามเพื่อนผมอีกหลายคน ทุกคนตอบตามแบบไอ้พีกับไอ้ต้นทั้งหมด คือผมป่าเถื่อน ผมไม่พอใจอาจารย์โค้ชคนใหม่ ส่วนครูเดชนั้นไม่มีความผิดอะไรเลย ไอ้นัทกับไอ้อาร์ตพยายามค้านแต่ก็ไม่เป็นผล ตลอดเวลาผมนั่งตัวชา คำพูดที่เพื่อนแต่ละคนใส่ร้ายกระแทกเข้าเต็มสองหู
“เป็นยังไงละ ทุกคนพูดตรงกัน พวกเธอนั่นแหละที่แต่งเรื่องไร้สาระ ทีนี้คงปฏิเสธไม่ได้แล้วนะ ยอมรับผิดซะโดยดีเถอะ”ผมพูดอะไรไม่ออก ไม่มีทางปฏิเสธได้เลย แม้ไอ้นัทกับไอ้อาร์ตจะยืนกรานว่าไม่เป็นความจริงก็ตาม แต่สองเสียงไม่อาจสู้สิบกว่าเสียงได้ ไม่ว่าจะพูดอะไร ผมคงไม่มีทางรอดไปจากเรื่องนี้ได้แล้ว
“เธอสองคนก็หยุดได้แล้ว ไม่อย่างงั้นพวกเธอจะต้องถูกลงโทษไปด้วยนะ”ไอ้อาร์ตกับไอ้นัทอึ้งไปทันที แต่มีอีกเสียงหนึ่งที่ผมไม่คิดว่าจะได้ยิน
“งั้นก็ลงโทษผมไปด้วยเลยสิครับ”ไอ้โจนั่นเอง มันนั่งเงียบมานานก่อนที่จู่ๆจะพูดขึ้น ผมหลับตาลง อาการมือสั่นที่เกิดขึ้นเมื่อครู่หายไปแล้ว อย่างน้อยมันก็ทำให้ผมรู้ว่า ผมไม่ได้ถูกทิ้งให้โดดเดี่ยวอยู่คนเดียว
“เธอแน่ใจเหรอ จากความผิดครั้งนี้ ณัฐกรณ์จะต้องถูกทำทัณฑ์บน การทำร้ายอาจารย์เป็นความผิดที่รุนแรงมาก เขาจะต้องถูกเชิญผู้ปกครอง ถ้าละเมิดกฎอีกครั้งเดียวจะต้องถูกไล่ออก ถูกสั่งให้บำเพ็ญประโยชน์เป็นเวลาสองอาทิตย์ และต้องถูกสั่งให้ออกจากชมรมฟุตบอลด้วย และไม่ใช่แค่นั้นนะ การแสดงความป่าเถื่อนกับโค้ชของชมรมจะมีผลให้ไม่มีสิทธิเล่นบอลในโรงเรียนนี้อีกต่อไป”
บทลงโทษยาวเหยียดถูกร่ายออกมา ผมมั่นใจว่าเป็นโทษขั้นหนักสุดรองลงมาจากไล่ออก คำพูดนั้นก้องอยู่ในหัวผม ห้าม... ไม่ให้เล่น.. อีกต่อไป... ฟุตบอลเป็นสิ่งที่ผมรักมาก เป็นสิ่งที่เชื่อมโยงผมกับไอ้โจไว้ด้วยกัน กว่าที่พวกเราจะได้เข้าเป็นหนึ่งในสมาชิกของทีมนั้นมันลำบากยากเย็นมาก ต้องผ่านการฝึกและการทดสอบอะไรมาหลายครั้ง แต่ความพยายามพวกนั้นกำลังจะถูกพรากเอาไปจนหมด ไหนจะเรื่องของพ่อแม่อีกล่ะ พ่อแม่ของผมหัวเสียมากพอแล้วกับการถูกเรียกเข้าห้องปกครองของผม ยิ่งไอ้โจยิ่งแล้วใหญ่ พ่อของมันเข้มงวดมาก มันต้องมีปัญหากับพ่อแน่นอน และมันก็รักฟุตบอลมาก มันทนไม่ได้แน่ถ้าต้องถูกไล่ออกจากทีม ผมไม่แปลกใจเลยถ้ามันจะยอมถอย ผมจะไม่นึกน้อยใจแม้แต่นิดเดียว แต่ผมก็ต้องอึ้งอีกครั้ง เมื่อประโยคถัดมาที่มันพูดคือ
“ผมยืนยันว่าเอ็กซ์ไม่ได้ทำผิด ถ้าอาจารย์จะลงโทษ ผมก็จะรับโทษด้วยครับ”มันพูดน้ำเสียงเฉียบขาด
“ผมด้วยครับ/ผมก็ด้วย”เสียงไอ้นัทกับไอ้อาร์ตตามมาติดๆ ผมหลับตา รับความรู้สึกของพวกมันไว้ด้วยใจขอบคุณ ดีใจที่ไอ้โจยอมรับผิดพร้อมกับผม แต่เป้าหมายของคนพวกนี้มีอยู่ที่ผมเพียงคนเดียว ผมไม่สามารถดึงพวกมันมารับโทษด้วยได้หรอก
“พอเถอะพวกมึง อย่ามาช่วยกูโกหกอีกเลย ผมจะยอมรับผิดทั้งหมดครับ อาจารย์”
“เอ็กซ์/ไอ้เอ็กซ์”ไอ้นัทกับไอ้อาร์ตร้องห้าม ส่วนไอ้โจส่ายหน้า แต่ผมตัดสินใจแล้ว ทั้งคนที่ตัดสินและพยานล้วนแต่ฮั้วเป็นพวกเดียวกัน ผมคงมาได้แค่นี้
“ผมไม่พอใจครูเดชครับ และไม่มีเหตุผลด้วย ผมชกหน้าครูเอง ผมลงมือคนเดียว เพื่อนของผมไม่เกี่ยวด้วยเลยครับ”ผมพูดออกไปอย่างชัดเจน จากนี้ไปคงจะแก้ไขอะไรไม่ได้อีกแล้ว อย่างน้อยก็ช่วยให้ไอ้โจไม่ต้องให้รับโทษไปพร้อมผมได้
“ดี ถือว่าเธอยอมรับผิดแล้วนะ เซ็นเอกสารสองใบนี่ซะ มันเป็นหลักฐานยืนยันการถูกทำทัณฑ์บน เธอต้องตามพ่อแม่มารับทราบและเซ็นเอกสารด้วยในวันพรุ่งนี้ ส่วนอีกใบคือคำยินยอมออกจากทีม และยอมไม่เล่นฟุตบอลในโรงเรียนอีกต่อไป”ไอ้พีกับไอ้ต้นมีสีหน้าสะใจ เช่นเดียวกับครูเดชที่นั่งอยู่ข้างๆผม เอกสารถูกเตรียมไว้พร้อม อาจารย์วิชิตคงตกลงกับไอ้พวกนี้ไว้ตั้งแต่แรกแล้วแน่ ผมเอื้อมมือไปหยิบปากกา ก่อนจะเซ็นชื่อลงไปอย่างไม่ลังเล
ผมรู้สึกว่าความเสียใจมาจุกอยู่ที่คอ แต่ผมก็บังคับตัวเองไม่ให้ร้องไห้ ผมไม่มีวันร้องไห้ต่อหน้าไอ้พวกชั่วที่ใส่ร้ายผม ต่อหน้าพวกเพื่อนที่หักหลังผม ผมจะไม่มีวันปล่อยให้พวกมันได้สะใจกับน้ำตาของผมแน่ ผมสะกดกลั้นอารมณ์สุดความสามารถ ก่อนจะพูดเสียงเย็น
“ไม่มีอะไรแล้วใช่มั้ยครับ”ผมลุกจากเก้าอี้ กำลังจะเดินออกไป แต่มีเสียงใครบางคนขัดผมไว้
“ยังก่อน”ครูเดชกอดอกพูด ผมหันหน้ามาอย่างระงับอารมณ์ ผมอาจจะชกหน้าไอ้ครูนี่อีกทีในอีกวินาทีใดวินาทีนึงนี้แล้ว
“ผมต้องการให้ณัฐกรณ์ ขอโทดผม ผมถึงจะยอมรับได้”ไอ้ครูเดชนั่งกอดอก ตั้งท่ารอให้ผมขอโทด มันต้องการเห็นผมพ่ายแพ้ขนาดนั้นเชียวเหรอ แต่มันคงเข้าใจอะไรผิด ผมไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองแพ้สักนิด ไอ้โจยอมออกหน้ารับโทษพร้อมกับผม แค่นี้ผมก็ยอมรับทุกอย่างได้แล้ว ผมไม่ใส่ใจสักนิดว่ามันจะเหยียบย่ำซ้ำเติมผมแค่ไหน
“จริงด้วย ขอโทดครูเค้าซะสินายเอ็กซ์ เรื่องมันจะได้จบๆ”อาจารย์วิชิตพูด ผมจ้องหน้าครูเดช แม้จะไม่ชักสีหน้า แต่ผมก็แสดงความเกลียดชังออกไปอย่างชัดเจน ไม่ต่างอะไรกับสายตาที่มันส่งมาให้ผม เราสองคนเหมือนเกลียดกันมานานนับปี ทั้งๆที่เพิ่งเจอกันเมื่อวานเท่านั้น
“ผมขอโทดครับ ครูเดช”ผมยกมือไหว้ ไอ้พีกับไอ้ต้นหัวเราะคิกคัก ผมนึกว่ามันจะแกล้งผมโดยสั่งให้ขอโทดอีกสักรอบ แต่ครูเดชก็ไม่ได้ทำ มันเพียงแค่หัวเราะอย่างสะใจ
“ไม่เป็นไร ครูไม่ถือสาอะไรหรอก 55”มันลุกขึ้นยืน เอามือมาขยี้หัวผมแต่ผมหลบทันควัน ลบรอยยิ้มออกไปจากใบหน้าของมันได้สนิท มันจ้องหน้าผมแล้วเดินออกไป ตอนที่เดินผ่านผม มันกระซิบที่ข้างหู
“แค่นี้ไม่พอหรอก อะไรที่เป็นของมึง กูจะแย่งมาให้หมด”อารมณ์โกรธของผมพุ่งทะยานขึ้นทันทีแต่ผมทำอะไรไม่ได้เลย ไม่ได้จริงๆนอกจากกำหมัดแน่น ไอ้ครูเดชเดินออกไปจากห้อง ตามไปด้วยคนอื่นๆ อาจารย์วิชิตมองผมแล้วส่ายหน้าก่อนจะเดินออกไปอีกคน เหลือไว้แต่ผมกับเพื่อนอีกสามคนเท่านั้น ผมโมโหจนตัวเกร็ง จนพกมันต้องพาผมออกไปข้างนอก ไปนั่งพักที่ม้านั่งหินหลังโรงเรียน
“ไอ้เอ็กซ์....” ไอ้นัทมันเข้ามากอดเอวผม ร้องไห้กระซิกๆเหมือนเด็กไม่มีผิด
“มึงจะร้องทำเหี้ยอะไรเนี่ย” กูต่างหากที่ต้องร้อง แต่ตอนนี้ผมก้ใกล้จะร้องไห้เต็มแก่แล้ว น้ำตามันมาคลอที่ตรงเบ้าแล้ว
“ทำไมไอ้พวกนั้นมันถึงโกหกว่ะ แม่ง”ไอ้อาร์ตเตะก้อนกรวดระบายอารมณ์
“จะอะไรซะอีกล่ะ ถ้ามันไม่ถูกไอ้เชนยัดเงิน มันก็ถูกขู่อะไรสักอย่างนั่นแหละ”ผมพูดอย่างเจ็บใจ ผมพยายามบังคับให้ตัวเองเชื่อแบบนั้น ผมไม่อาจทนคิดได้ว่าพวกมันใส่ร้ายผมด้วยความสมัครใจของมันเอง
“กูขอโทดนะ มึงช่วยกูแท้ๆ แต่กูช่วยอะไรมึงไม่ได้เลย”ไอ้อาร์ตพูดเสียงดัง ท่าทางจะโมโหจัด ผมส่ายหน้า คนผิดไม่ใช่มันหรอก อย่างไรเสียผมก็ต้องถูกพวกนั้นจัดการอยู่ดี ตัวการเบื้องหลังจะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจากไอ้เชนนั่นแหละ
จากนั้นมีสองสิ่งเกิดขึ้นพร้อมกัน ไอ้โจเข้ามากอดผมไว้ ผมไม่รู้เลยว่ามันอยู่ตรงนั้นด้วย ไม่รู้อะไรเลยสักอย่าง มันแนบหัวผมเข้ากับตัวอุ่นๆของมัน และจากนั้น ผมก็ร้องไห้โฮ
“ไม่เป็นไรนะ...” มันพูดแผ่วเบา ผมร้องไห้ออกมาอย่างไม่อาย ถ้ามันกอดผมอยู่ ผมก็ไม่อายเลยที่จะแสดงความอ่อนแอออกมา ผมเหนื่อยล้ามาก ไม่คิดว่าตัเองต้องรับผิดกับเรื่องที่ตัวเองไม่ได้ผิด ในขณะที่ไอ้คนผิดกลับลอยหน้าลอยตา แต่ไม่ว่ายังไง ผมก็ทนได้ ถ้าผมมีไอ้โจอยู่ข้างๆแบบนี้
“มึงไม่น่าห้ามกูเลย กูจะอยู่ในทีมไปอีกทำไม ไอ้โค้ชระยำพรรค์นั้น”ไอ้โจพูด เสียงสั่นๆ มือลูบหัวผมเบาๆ
“ถูกไล่ออกจากทีม ถูกสั่งห้ามเตะบอล มึงจะทนได้เหรอ”โดยไม่ได้คาดคิด มันหัวเราะออกมาเบาๆ
“ไอ้โง่... ที่กูเล่นบอล มันก็เพราะมึงนั่นแหละ”
ผมแน่ใจว่าผมหูไม่ฝาด ผมร้องไห้หนักขึ้น งอแงเหมือนเด็กที่ต้องการใครสักคน คำพูดของมัน ผมเข้าใจความหมายอย่างชัดเจน
“ขอบคุนนะ...”

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
2780
พลังน้ำใจ
25271
Zenny
74
ออนไลน์
4179 ชั่วโมง

มาเฟียคุมคณะ

โพสต์
7955
พลังน้ำใจ
50052
Zenny
2311
ออนไลน์
4254 ชั่วโมง
ขอบคุณมากครับ

เจ้าพ่อมหาลัย

โพสต์
34422
พลังน้ำใจ
158441
Zenny
289780
ออนไลน์
46333 ชั่วโมง
ขอบคุณครับผม

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
3228
พลังน้ำใจ
12918
Zenny
40545
ออนไลน์
1034 ชั่วโมง

สมาชิกระดับมรกตสมาชิกระดับแพลตตินั่มสมาชิกระดับทับทิมสมาชิกจีโฟกาย 100%สมาชิกระดับไพลินสมาชิกระดับเพชรสมาชิกระดับเพชรบริหารสมาชิกระดับเพชรคู่สมาชิกระดับตรีเพชร

ออกอีกสามเลย

มาเฟียคุมคณะ

โพสต์
8332
พลังน้ำใจ
59825
Zenny
33370
ออนไลน์
15365 ชั่วโมง
ขอบคุณครับ

มาเฟียคุมคณะ

โพสต์
7066
พลังน้ำใจ
51231
Zenny
53157
ออนไลน์
11347 ชั่วโมง

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
5097
พลังน้ำใจ
11836
Zenny
2070
ออนไลน์
977 ชั่วโมง

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
1310
พลังน้ำใจ
11441
Zenny
3383
ออนไลน์
841 ชั่วโมง
ขอบคุณครับ

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
1096
พลังน้ำใจ
25338
Zenny
17057
ออนไลน์
9104 ชั่วโมง

มาเฟียคุมคณะ

โพสต์
11543
พลังน้ำใจ
77803
Zenny
35740
ออนไลน์
12479 ชั่วโมง
ขอบคุนครับ

มาเฟียคุมคณะ

โพสต์
10454
พลังน้ำใจ
58482
Zenny
2237
ออนไลน์
5193 ชั่วโมง
ขอบคุณมากครับ

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
5536
พลังน้ำใจ
38994
Zenny
206369
ออนไลน์
6336 ชั่วโมง

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
6353
พลังน้ำใจ
42737
Zenny
11694
ออนไลน์
2241 ชั่วโมง
ขอบคุณครั

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
3801
พลังน้ำใจ
16514
Zenny
1819
ออนไลน์
1029 ชั่วโมง
ขอบคุณมากครับ

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
8667
พลังน้ำใจ
47721
Zenny
20373
ออนไลน์
2057 ชั่วโมง
ขอบคุงคร้าบ

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
9435
พลังน้ำใจ
46104
Zenny
20278
ออนไลน์
2680 ชั่วโมง
ขอบคุนครับ

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
2844
พลังน้ำใจ
16306
Zenny
11803
ออนไลน์
1168 ชั่วโมง
อม่งเลวมากๆ พวกไอ้เชน ขอบคุณมากครับ

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
640
พลังน้ำใจ
28874
Zenny
80216
ออนไลน์
1715 ชั่วโมง
เกลียดฉิบหาย เปิดคลิปแมร่งเลย

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
605
พลังน้ำใจ
21059
Zenny
43617
ออนไลน์
7975 ชั่วโมง
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | สมัครเข้าเรียน

รายละเอียดเครดิต

A Touch of Friendship: สังคมจะน่าอยู่ เมื่อมีผู้ให้แบ่งปัน ฝากไวเป็นข้อคิดด้วยนะคะชาวจีโฟกายทุกท่าน
!!!!!โปรดหยุด!!!!! : พฤติกรรมการโพสมั่วๆ / โพสแต่อีโมโดยไม่มีข้อความประกอบการโพส / โพสลากอักษรยาว เช่น ครับบบบบบบบบ, ชอบบบบบบบบ, thxxxxxxxx, และอื่นๆที่ดูแล้วน่ารำคาญสายตา เพราะถ้าท่านไม่หยุดทีมงานจะหยุดท่านเอง
ขอความร่วมมือสมาชิกทุกท่านโปรดโพสตอบอย่างอื่นนอกเหนือจากคำว่า ขอบคุณ, thanks, thank you, หรืออื่นๆที่สื่อความหมายว่าขอบคุณเพียงอย่างเดียวด้วยนะคะ เพื่อสื่อถึงความจริงใจในการโพสตอบกระทู้ และไม่ดูเป็นโพสขยะ
กระทู้ไหนที่ไม่ใช่กระทู้ในลักษณะที่ต้องโพสตอบโดยใช้คำว่าขอบคุณ เช่นกระทู้โพล, กระทู้ถามความเห็น, หรืออื่นๆที่ทีมงานอ่านแล้วเข้าข่ายว่า โพสขอบคุณไร้สาระ ทีมงานขอดำเนินการตัดคะแนน และ/หรือให้ใบเตือนสมาชิกที่โพสขอบคุณทันทีที่เจอนะคะ

รูปแบบข้อความล้วน|โทรศัพท์มือถือ|ติดต่อลงโฆษณา|จีโฟกายดอทคอม


ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บจีโฟกายดอทคอมนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ หากท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศิลธรรม ไม่เหมาะสมที่จะเผยแพร่ ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link “แจ้งลบโพสนี้” ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือ ลืมพาสเวิดล๊อกอิน/ลืมชื่อที่ใช้สมัคร หรือข้อสงสัยใดๆแจ้งมาที่ G4GuysTeam[at]yahoo.com ขอขอบพระคุณที่ให้ความร่วมมือ

กรณีที่ข้อความ/รูปภาพในกระทู้นี้จัดสร้างโดยผู้ลงข้อมูลเอง ลิขสิทธิ์จะเป็นของผู้ลงข้อมูลโดยตรง หากจะทำการคัดลอก/เผยแพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ลงข้อมูลก่อนนะคะ หรือลงที่มาไว้ด้วยค่ะ

©ขอสงวนสิทธิ์คอนเซ็ปต์,คำอธิบาย,หัวข้อ/หมวดหมู่เว็บ ห้ามลอกเลียนแบบ คิดเอาเองนะคะอย่าเอาแต่ลอก

GMT+7, 2024-4-24 23:00 , Processed in 0.220170 second(s), 25 queries .

Powered by Discuz! X3.1 R20140301, Rev.31

© 2001-2013 Comsenz Inc.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้