เข้าเกียร์ครูสอนขับรถฆวยหย่าย CP

Tanakrit

:)(ตอนแรก)  ผมได้ระเบียบการสมัครเรียนตลอดจนค่าใช้จ่ายต่าง ๆ มาศึกษาจนแน่ใจแล้วว่าดี
ผมจึงตัดสินใจไปสมัครเข้าเรียน โดยหวังว่าจะสามารถขับรถยนต์
จะเป็นอีกหนึ่งความสามารถพิเศษในการนำไปกรอกข้อความในการสมัครงาน หรือไม่ก็ได้ใบขับขี่ง่ายขึ้น
แม้ว่าผมจะยังไม่มีรถเป็นของตนเองก็มา วันแรกก็อยู่แต่ในห้องเรียน
ได้เรียนรู้เกี่ยวกับกฏจราจร ความรู้เรื่องเครื่องยนต์เบื้องต้นจะได้รู้หรือแก้ไขปัญหาได้
หากเกิดรถเสียขึ้นมากลางคัน เช่นเครื่องดับ ใบพัดติด แบตเตอรี่หมด
การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้เป็นต้น นอกจากนี้ระบบต่าง ๆ ของเครื่องยนต์แต่ละชนิด
ก็แตกต่างกัน แต่ถ้ามองกว้าง ๆ แล้วจะเหมือนกันในจุดใหญ่ ๆ
สองวันแรกที่อยู่ในห้องเรียนค่อนข้างน่าเบื่อมาก พวกครูสอนไม่มีเทคนิคการจูงใจนักเรียนแล้วคงจะแย่เหมือนกัน
แกเป็นเจ้าของโรงเรียนสอนขับรถแห่งนี้เอง อายุอานามเกือบ 65 ปีแล้ว


วันที่สี่ของการเรียนเป็นวันที่ผมได้หัดขับรถจริง ๆ ผมตื่นเต้นมาก
มาคอยตั้งแต่หัววัน (ผมเลิกงาน 17:00 น.) พอมาถึงเฮียเจ้าของโรงเรียนก็แนะนำให้รู้จักกับครูสอนขับรถ (รถจริง) อีกคน


"นี่...เล็กครับ...เขาจะเป็นคนสอนให้คุณขับรถจริง ๆ วันนี้ครับ"
เฮียพาผมเดินมาที่โซฟาพักคอย ซึ่งครูเล็กนั่งอ่านหนังสือพิมพ์คอยอยู่แล้ว
"สวัสดีครับ..." ครูเล็กยื่นมือออกมา Check Hand จับมือทักทายกับผมเมื่อเฮียพามาแนะนำให้รู้จัก
ครูเล็กใส่กางเกงขายาวลายทหาร คาดเข็มขัดหนังสีน้ำตาลเส้นใหญ่ สวมเสื้อยืดรัดรูปสีดำ
สวมสร้อยคอสแตนเลส รองเท้าผ้าใบหรือหนังไม่ค่อยแน่ใจ ครูเล็กตัวค่อนข้างใหญ่แต่ไม่ใช่อ้วน
เสื้อยืดสีดำรัดรูปทำให้กล้ามหน้าอกดูเด่นถนัดตา แม้กระทั่งหัวนมเล็ก ๆ คู่นั้น
กล้ามแขนดูแข็งแกร่ง อบอุ่น ในขณะที่หน้าท้องนั้นแบนราบ
ผมถึงบอกว่าแกไม่ใช่คนอ้วนแต่มีโครงร่างที่ใหญ่


"วันนี้ผมจะพาไปสนามขับรถแถวชานเมืองก่อนนะครับ พอเก่งแล้วค่อยวาดลวดลายกันในเมือง ในกรุงเทพฯ"
ครูเล็กจัดแจงข้าวของและตัวเองเรียบร้อยแล้วก็พาผมไปที่รถปิคอัพ (กระบะโล่ง) สีขาว
ที่จอดอยู่ข้าง ๆ ผมเองไม่มีคำพูดเจรจาใด ๆ เพราะมัวแต่มองหุ่นงามของครูเล็กอยู่
ได้แต่เออออตามตลอดทาง ครูเล็กชวนคุยสัพเพเหระ ตลกบ้าง ซีเรียสบ้าง
ลามกนิดหน่อยก็มี ทำให้การเดินทางไม่น่าเบื่อเลย ไม่นานก็ถึงที่หมาย


"ถึงแล้วครับสนามขับรถ" ครูเล็กเลี้ยวซ้ายเข้าลานดินที่ใครถมเอาไว้ก็ไม่รู้กว้างมาก
ผมคะเนดูน่าจะประมาณ 10 ไร่เห็นจะได้ ดูโล่งตาไปหมดเพราะแทบจะไม่มีต้นไม้
ผมคิดว่าน่าจะมีใครมาซื้อไว้ทำอะไรสักอย่าง โรงงาน ปั๊มน้ำมัน ศูนย์การค้า ตลาด หมู่บ้าน อะไรทำนองนี้


"เดี๋ยวคุณย้ายมานั่งที่เบาะคนขับ ผมจะไปนั่งที่ที่คุณแทน"
ครูเล็กเปิดประตูให้ผมย้ายที่ หลังจากนั้นก็ไปยืนยิงกระต่ายแล้วกลับเข้ามา
พอเราทั้งสองคนได้ที่เรียบร้อยแล้ว ครูเล็กก็เริ่มบทเรียนตั้งแต่เท้าต้องวางอย่างไร
มือควรจะอยู่ตรงไหนบ้าง และอื่น ๆ สุดท้ายไม่ลืมที่จะเตือนให้คาดเข็มขัดนิรภัย
ผมตื่นเต้นมากแค่สตาร์ทรถและปล่อยให้รถค่อย ๆ ออกตัวก็ทำไม่ได้ ลองแล้วถึงสามครั้ง
เครื่องก็กระตุกและดับทุกทีเพราะจังหวะการเหยียบคันเร่ง การปล่อยครัชไม่สัมพันธ์กัน
ทำเอาครูเล็กหัวเราะเอา


"สงสัยผมต้องสอนแบบเร่งรัดซะแล้ว" ครูเล็กให้ผมลงจากรถก่อน
แล้วแกก็ปรับเบาะคนขับให้เอนมากหน่อย แล้วหย่อนตัวลงไปนั่งและเรียกผมเข้าไปนั่งด้วย
กลายเป็นว่าตอนนี้เบาะคนขับนั่งกันสองคน ผมโดนครูเล็กโอบไว้ในตอนนี้โดยเหตุการณ์บังคับ
ครูเล็กใช้ความพยายามมากอยู่เหมือนกัน ถือว่าแกเป็นคนใจเย็นมากคนหนึ่งที่ผมพบมา
เวลาจะเข้าเกียร์...เปลี่ยนเกียร์ ครูเล็กก็จะกุมมือซ้ายผมไปโยกหน้าโยกหลังตามจังหวะ
ในขณะที่จะเบรก...จะเร่งเครื่องหรือปล่อยครัช
แกจะเอามือที่โอบและควงพวงมาลัยรถอยู่นั้นมาตีที่หน้าขาผมเพื่อให้สัญญาณ


"จะเบรกจะเร่งแต่ละทีค่อย ๆ หน่อยก็ได้นะครับ เดี๋ยวไข่ของผมบวมหมดแล้วจะทำการบ้านไม่ได้"
ครูเล็กละมือจากพวงมาลัยมาจัดแจงอะไรของแกใหม่เพราะโดนก้นผมกระแทกโดยเจตนาบ้างและไม่เจตนาบ้าง
อันเนื่องมาจากสนามขับรถไม่ค่อยจะราบเรียบเท่าไหร่


"ถ้าอย่างนั้น วันนี้พอแค่นี้ก่อนก็ได้ เดี๋ยวครูจะไม่ได้ทำการบ้านคืนนี้"
ผมหยุดรถเพราะรู้สึกว่าเกียร์รถของครูเล็กดันก้นผมอยู่เนืองๆ


"ผมไม่ได้ทำการบ้านมาหลายวันแล้วครับ"
มือทั้งสองยังกุมอยู่ที่พวงมาลัยรถ จึงดูเหมือนว่าผมยังอยู่ในอ้อมกอดของครูเล็กอยู่
ขณะที่ด้านหลังผมครูเล็กยังดันเกียร์เข้าหาก้นผมอยู่อย่างแนบแน่น
ทำให้ผมรับรู้ถึงความตื่นเต้นของมันได้โดยไม่ยาก


"นี่แสดงว่าครูเล็กอดอยากปากแห้งมาหลายวันแล้วซิท่า" เป็นไงเป็นกันในตอนนี้
ไฟราคะผมกรุ่นขึ้นแล้ว จึงลดมือจากพวงมาลัยรถมาที่เกียร์รถครูเล็กแทน


"แฟนผมเขากลับบ้านนอกได้สิบกว่าวันแล้ว เพราะโกรธอะไรผมไม่รู้"
ครูเล็กขยับตัวเข้ามาชิดเบียดผมมากขึ้น เชยคางมาคลอเคลียอยู่ตามซอกคอ ใบหูผมอยู่
ในขณะที่มือของแกจับมือผมให้เข้าเกียร์รถแกได้ถนัดมือยิ่งขึ้น โดยการแก้เข็ดขัดออกและรูดซิปลง
จากนั้นก็กอดเอวผมแทนที่จะจับพวงมาลัยรถ (รถเราจอดอยู่กับที่แล้วใต้ต้นมะพร้าวคู่หนึ่ง)


ไม่มีใครถาม ไม่มีใครตอบ ไม่มีใครซักไซ้ไล่เรียงอะไรกันอีกเลยระหว่างผมกับครูเล็ก
เมื่อครูเล็กเปิดทางให้ขนาดนี้แล้ว มือผมก็คลึงเคล้นเกียร์รถครูเล็กทั้งสองมือ
แม้ว่ามันจะไม่ค่อยถนัดมือมากนักก็ตามเพราะผมหันหลังให้ครูเล็กอยู่
กางเกงขายาวลายทหารและกางเกงในสีขาวก็ยังไม่ได้ถูกถอดออก ผมก็พยายามควัก
พยายามช้อนเอาคันเกียร์ออกมาจากกางเกงในจนได้ ทำให้คันเกียร์ของครูเล็กหายใจได้อย่างเต็มที่
ชูคอตั้งเด่นสง่าให้ผมได้คลึงเคล้นได้ง่ายขึ้นแบบเต็มไม้เต็มมือ คันเกียร์ครูเล็กฝังมุกไว้สี่เม็ด
โดยเม็ดแรกเริ่มจากบริเวณคอหยักที่เหลือกระจัดกระจายกันอยู่ ส่วนเม็ดสุดท้ายอยู่โคนคันเกียร์ด้านในสุด
ถ้าไม่ได้สัมผัสจะไม่รู้เพราะกำมะหยี่สีดำปิดอยู่ ครูเล็กไฟราคะลุกโชนแล้วในตอนนี้
ทั้งสองแขนรั้งเอวผมแน่น มือล้วงเข้าไปในเสื้อยืดโปโลสีขาวของผม แกคลึงเคล้น
ขย้ำไปตามหน้าท้องและที่ผมเจ็บระบมมากคือ หัวนมผมทั้งสองข้าง
ทั้งนี้เพราะนมผมใช่ว่าจะอวบอูมขย้ำได้เต็มไม้เต็มมือเหมือนของผู้หญิงเขา
ผมเพียงแต่ออกกำลังกายบ้างให้กล้ามเนื้อกระชับมีสัดส่วน ที่สำคัญไม่มีพุงเท่านั้น


แต่ครูเล็กก็พยายามขย้ำสองมือของแกเสียจนผมเจ็บ แต่ก็เป็นเจ็บที่เสียวดีเหมือนกัน
เพราะเทคนิคในการขย้ำของแกทำให้อารมณ์เจ็บผมเปลี่ยนไป โดยแรก ๆ แกคลึงบริเวณรอบ ๆ ฐานนมก่อน
จากกว้าง ๆ ก็แคบลง เล็กลง จนสุดท้ายหัวแม่มือกับนิ้วชี้บี้หัวนมผม บี้ในทำนองที่จะดึงมันออกไปจากตัวของผม
เจ็บมากแต่ก็เสียวดี สองมือครูเล็กทำงานอย่างขยันขันแข็งรุนแรง ปากคอและลิ้นก็สัมพันธ์กันเป็นอย่างดี
(น่าจะยกตำแหน่งปรมาจารย์ให้เลย) บางครั้งก็ฉกมันเข้าไปในรูหูผม ตวัดไปตวัดมา ขบกัดเบา ๆ ที่ใบหูผม
ใช้จมูกใช้ปากซุกไซ้ไปตามต้นคอผม ผมนึกถึงตอนแด๊กคูราร์ดูดเลือดเมื่อแกดูดที่ซอกคอผมนิ่งนาน
สำนึกผมตอนนั้นผมคิดว่าผมเป็นฝ่ายตามเกมส์แกมากกว่า
ทั้งนี้เพราะผมไม่ได้รุนแรงกับคันเกียร์ของครูมากมายถึงขนาดที่แกจะขย้ำผม เสียรุนแรงขนาดนี้
มือหนึ่งกำโคนคันเกียร์เอาไว้ ส่วนอีกมือหนึ่งก็รูดขึ้นรูดลง
จะเน้นหนักที่คอหยักและหัวคันเกียร์สีแดงคล้ำบ้างไม่บ่อยนัก
ก็ตามจังหวะที่ครูเล็กแกเล่น คือถ้าแกแรงมาผมก็แรงตอบแกไป
ต่างฝ่ายต่างตอบสนองซึ่งกันและกันในทันทีทันใด


"เดี๋ยว...หยุดก่อนครับ" ครูเล็กเอามือแกมาจับมือผมเป็นสัญญาณให้หยุด
ผมจะลุกออกไปที่เบาะข้างคนขับแต่แกฉวยข้อมือไว้ ผมจึงแค่กลับตัวจากหันหลังเป็นหันหน้าใส่กัน
แล้วครูเล็กแกปรับเบาะคนขับให้เป็นแบบเอนนอน เมื่อมันได้ที่พอดีแล้ว
ก่อนที่แกจะเอนตัวลงนอน แกถอดเสื้อคอกลมรัดรูปนั้นออก เผยให้เห็นสัดส่วนช่วงบนอันงดงาม
แม้ว่าจะมีแผลเป็นยาวประมาณสองนิ้วอยู่ที่ใต้ราวนมด้านขวาก็ตาม
ไม่น้อยไปกว่ากล้ามเนื้อหน้าท้องที่ดูแข็งแรง ไม่มีพุงหรือฉุไปด้วยไขมัน
ไรขนที่ลามเลียขึ้นมาจากคันเกียร์และหัวเหน่าเซ็กซี่ไม่แพ้กันเลยทีเดียว


ผมตื่นจากภวังค์เมื่อครูเล็กเอามือขวาแกมาจับที่ข้อมือซ้ายของผม
แกขยิบตาข้างขวาหนึ่งทีพร้อม ๆ กับโค้งศีรษะลงมานิดหนึ่ง
ตามองไปที่คันเกียร์ของแกที่ตั้งโด่อยู่เหมือนจะเป็นการบอกผมว่า
"เอาเลย...จัดการมันได้เลย"
เมื่อเป็นเช่นนี้ผมจึงแกะกางเกงขายาวลายทหารและรูดกางเกงในสีขาวนั้นออก
ครูเล็กขยับซ้ายทีขวาทีมันก็รวมกันอยู่ที่ข้อเท้าแล้ว


แม้ว่าตะวันเริ่มจะชิงพลบแล้วก็ตาม เทพบุตรโรมันของผมในขณะนี้ก็ช่างงดงามมากเหลือเกิน
แม้ว่าผมจะเคยผ่านเหตุการณ์แบบนี้มาบ้างแล้ว แต่ก็ยังไม่เคยเจอใครที่ Perfectอย่างนี้เลย


มือขวาผมกำฐานคันเกียร์เอาไว้ ปากและลิ้นผมทำงานเต็มที่ กลเม็ดเด็ดพรายอะไรที่มีงัดออกมาใช้ให้หมด
ไข่สองใบนั้นผมทั้งคลึงทั้งดูด เอาเข้าไปในปากทั้งสองใบก็มี
ส่วนร่องรูสวรรค์ของครูเล็กนั้นพอเจอปลายลิ้นผมฉกเข้าไป
ถึงกับร้องไม่เป็นภาษาเลยทีเดียว แบะขาอ้าขาให้ผมยิ่งทำงานได้สะดวกขึ้น


"โอว...ซี้ด...ด...ดี" ปลายลิ้นผมฉกรูสวรรค์ครูเล็กอยู่แต่มือก็รูดคันเกียร์ขึ้นลงตามไปด้วย
ยิ่งสะดวกมากกว่าตอนแรกเพราะไม่มีอะไรขวางไม้ขวางมือและที่สำคัญมันลื่นแล้ว
ด้วยน้ำลายจากปากและลิ้นของผม ตอนนี้ครูเล็กก็ครางเป็นอยู่อย่างเดียว
ยิ่งตอนที่ผมเม้มริมฝีปากหนัก ๆ รอบ ๆ คอหยักของแกแล้วแกยิ่งจะครางเสียงดังมากแถมหายใจถี่ ๆ ขึ้นด้วย


ผมรู้ได้จากการที่มือผมสัมผัสอยู่ที่หน้าท้องแบนราบนั้นเกร็งตัวเป็นลอน ๆ
นอกจากนี้มือที่กุมหัวผมอยู่จากลูบไล้ตามหน้าผากและท้ายทอยอย่างนุ่มนวลก็
กลายเป็นกดขยุ้มเอาไว้ ลำตัวที่นอนราบเอนตามการปรับเอนของเบาะรถก็เด้งเกร็งตัว
ขึ้นมาจากเบาะหลังไม่ติดเบาะเลย ขยับ สะบัดบั้นเอวส่งคันเกียร์เข้าปากผมให้ลึกที่สุด


ในขณะที่หลับตาพริ้ม หน้าเชิดอยู่ มือขวาผมต้องยึดคันเกียร์เอาไว้ มิฉะนั้นคอหอยผมทะลุแน่
เพราะคันเกียร์ของแกแข็งมาก หัวสีแดงคล้ำนั้นน่าเกรงขามอยู่ไม่น้อย
นอกจากนี้เส้นเลือดปูดโปนและเม็ดมุกอีก ดูภาพรวมแล้วรู้สึกเกรง ๆ กลัว ๆ
แต่ในใจก็หลงใหลพิสมัยในความน่าเกรงขามนั้น


"อา...า...า...คุณ...คุณเก่งจริง ๆ" ผมผ่อนความแรงของปากและลิ้นลง
(อันนี้ไม่ใช่เทคนิค แต่รู้สึกเมื่อยกรามมากเพราะรู้ตัวว่าคงจะท้ารบกับคันเกียร์ครูเล็กไม่ไหว)
ครูเล็กจึงลดความแรงของไฟราคะลงได้ เอนตัวลงนอนตามเดิม มือที่เกาะกุมหัวผมก็นุ่มนวล
บางทีก็จับคันเกียร์ของตัวเองให้อ้อล้อกับปากและลิ้นผม
จับมันโยกไปซ้ายทีโยกไปขวาทีให้หัวแดงคล้ำได้ไล้ไปตามแก้ม ริมฝีปาก ซอกคอ
แม้กระทั่งใต้ติ่งหู กลิ่นอับ ๆ พอผสมกับน้ำลายและอารมณ์แห่งราคะ
แล้วผมว่าคนที่ปรุงน้ำหอมจนขึ้นชื่อไปทั่วโลกก็ไม่สามารถปรุงกลิ่นอับ อันรัญจวนใจนี้ได้แน่นอน


"ผมขอร้องให้แฟนผมทำแบบนี้ให้ผมบ้าง เขาก็ไม่ยอมผมสักที"
ครูเล็กชวนคุยระหว่างชะลอเกมส์
"ด้วยเหตุนี้กระมัง...เขาถึงหนีกลับบ้าน"
ผมคายหัวแดงคล้ำนั้นออกแล้วใช้มือแทนในขณะที่มือของแกก็ยังทำหน้าที่กำโคน
เกียร์อยู่เหมือน ๆ กับว่าเราสองคนร่วมกันเล่นของเล่นอันเดียวกันอยู่อย่างสมัครสมานสามัคคี


"มันหลายสาเหตุนะในความคิดผม แต่สิ่งที่ผมไม่แน่ใจก็คือผมทำให้เธอเจ็บมากหรือเปล่าไม่รู้"
เมื่อมือแกหยุดผมก็หยุดตาม
"แหม...ก็ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ ไม่เจ็บบ้างก็แสดงว่าอะไหล่ภายในดี จึงตอบรับกับเจ้านี้ได้สบาย"
ผมขยี้หัวแดงคล้ำนั้นแรงด้วยมือ ภายในใจก็ให้รู้สึกหวั่น ๆ อยู่ว่าหากมันจะต้องเข้าไปภายในร่องรูของผมแล้ว
จะเป็นอย่างไร จะทนรับมันได้หรือไม่


"ผมก็เล้าโลมเธอเต็มที่ ทำให้เธอเต็มที่และเสร็จทุกครั้ง" ครูเล็กคุย
"เธอเสแสร้งว่าเสร็จกับครูหรือเปล่า คุณเคยสังเกตเธอบ้างไหม"
ปากผมคุยแต่มือก็รูดคันเกียร์ครูเล็กอยู่ ผมจะเสียดายมากหากมันสยบความอหังการลงเพราะเรื่องผู้หญิงของครูเล็ก
"เธอ...หากจะผิดสังเกตภายในของเธอจะแห้งแล้งอย่างไรไม่แน่ใจ
เกือบทุกครั้งผมต้องใช้น้ำลายและโลชั่นช่วย ไม่ใช่ว่ามันจะเอาเข้าไปลำบากนะครับ
แต่ถ้าไม่ใช้ครั้งไหนผมชักของผมเข้าแล้วชักออกมามันก็สภาพเดิม ไม่มีอะไรเปียกแฉะเลอะลื่นเลย
ทั้ง ๆ ที่เธอก็เคยผ่านผู้ชายมาแล้วหลายคน" น้ำเสียงตอนท้ายแกเน้นและให้ความรู้สึกลึก ๆ อยู่


"ผู้ชายคนแรกของเธอ เธอก็คงจะรักมากที่สุดจึงยินยอมให้ตัวเธอไป แล้วคุณล่ะ น้ำแรกของคุณ คุณให้ใคร"
ผมต้องหักมุมเลี้ยวกลับให้ทันก่อนที่มันจะทำลายบรรยากาศ


"ผู้ชาย....น้ำแรกถ้าไม่ใช่ชักว่าวให้ตัวเองแล้ว 80% ที่เหลือเสียให้กระเทยแน่นอน
ส่วนอีก 10-20% คงจะเป็นพวกเปิดบริสุทธิ์กับผู้หญิงบริการแน่นอน"
ครูเล็กตอบ ผมดีใจนึกว่าจะกู่ไม่กลับแล้ว


"ตกลงน้ำแรกของคุณ คุณเสียให้ใคร" มองหน้าแล้วคาดคั้นเอาคำตอบจากครูเล็ก
"คืนนั้นผมเมา...เมามาก จึงเสียให้กับพวกกระเทยไป"
ดูแล้วแกรู้สึกอาย ๆ อยู่ในที แต่ก็ได้ยินเสียงหัวเราะฮึ ๆ อยู่ในลำคอ


"พวกกระเทย หมายความว่าเขารุมคุณคนเดียวเหรอ" ที่ผมถามต่อใช่ว่าจะตอกย้ำ
แต่เจตนาเพื่อกระตุ้นไฟราคะจากแกต่างหาก
"คืนนั้นพวกเพื่อน ๆ ผมโดนคนละที คนละคน ส่วนผมโดนสองคนผลัดกัน"
ได้ผลจริง ๆ ผมรับรู้ความรู้สึกของแกได้จากการสูบฉีดของเส้นเลือดและการผงกหัวของคันเกียร์ของครูเล็ก
"ทุกวันนี้ผมยังต้องสองครั้งเป็นธรรมดา"
ผมไม่ชวนแกคุยแล้วเพราะปากและลิ้นผมบรรเลงเพลงเป่าปี่พระอภัยมณีต่อแล้ว


โอว...โอ้ว...ซี๊ด...คุณ...คุณขี่ม้าได้ไหม" ผมหนักหน่วงจนครูเล็กต้องกดหัวผมไว้แน่น ผมเข้าใจ
รับรู้ว่าหมายถึงอะไร แต่ที่ผ่านมาผมเคยโดนแต่ไถนา ยกซดโดยผู้ชายขย่มเอง
มาครั้งนี้หากผมต้องแสดงบทขย่มตอแล้วให้รู้สึกลำบากใจอยู่มาก เพราะคันเกียร์ของแกไม่ใช่ย่อย
น่าเกรงขามอยู่ในที ผมคายคันเกียร์ออกจากปาก แต่ใช้สายตาตอบแกด้วยความกังวลและไม่แน่ใจ


"ไม่เป็นไรของอย่างนี้มันเรียนรู้กันได้" ว่าพลางแกก็รูดเสื้อโปโลผมออก
ผมสังเกตุตามลำตัวผมเองและตกใจอยู่ในที ทั้งนี้เพราะรอยมือที่แกขย้ำตัวผมแดงเป็นจ้ำ ๆ เป็นปานจุด ๆ
ที่มันสังเกตง่ายขนาดนี้เพราะผมเป็นคนผิวขาว (แต่ไม่ใช่ลูกครึงไทยจีน)
ไม่หยุดแค่นั้นครูเล็กแกแกะเข็มขัดรูดลูกฟูกสีดำและบิกินี่สีขาวผมออกด้วย
ทำเอาเจ้าหนูผมดีดตัวออกมาโค้งคำนับแกอยู่ผงก ๆ
มันก็คงดีใจที่ได้เป็นอิสระไม่ต้องขดตัวอยู่ภายในอย่างอึดอัด


"ขาวจั๊วะแดงแจ๋เลยนะ" ครูเล็กประคองเอวผมให้นั่งลงที่เบาะ
แต่ขณะนี้แกกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเบาะแล้ว ก้นผมแทนที่จะได้สัมผัสเบาะก็กลายเป็นว่านั่งบนหน้าขาทั้งสองข้างของแกพอดี ขนที่หน้าขาของแกแยง ๆ ก้นผมรู้สึกจั๊กจี้อยู่ไม่น้อย
ที่สำคัญเจ้าหนูผมบังอาจไปชูคอท้าเกียร์เทียบรุ่นกับรุ่นพี่อย่างครูเล็กอยู่ในตอนนี้
เปรียบเป็นคนก็เหมือนพี่ชายคนโตกับน้องชายคนเล็กยืนคู่กัน คนเกียร์ครูเล็กนั้นใหญ่ก็ใหญ่กว่า สูงกว่า
ผมจะเด่นกว่าก็แค่ขาวเท่านั้นเพราะของครูเล็กมันคล้ำกว่าจากอายุการใช้งาน นานแล้ว
จึงไม่น่าผิดที่ผมใช้คำว่า "น่าเกรงขาม" สำหรับครูเล็กและ "เจ้าหนูน่ารัก" สำหรับของผม


ครูเล็กไม่ได้รังเกียจเจ้าหนูผมเลย มือซ้ายรั้งเอวผมเข้าหา มือขวาจับเอาเจ้าหนูผมชักขึ้นชักลง
จนหนังหุ้มหัวมันร่นลงมาอยู่ใต้คอหยัก จับมันไปแนบคู่กับคันเกียร์ของแกแล้วใช้สองมือโอบรอบ
รูดขึ้นรูดลงพร้อม ๆ กัน เจ้าหนูผมสั้นกว่ามันจึงหลุดจากมือเร็วกว่า
มันเลยกลายเป็นว่าทำจังหวะการรูดมือให้เร็วขึ้น ๆ ไปในตัว
ผมเองมองดูเจ้าหนูผมและคันเกียร์อยู่ในมือครูเล็กแล้วเสียวสะท้านมากกับการกระทำของแก
ยังไม่เคยมีใครทำแบบนี้กับผมเลย ขณะที่ผมกำลังไต่บันไดสวรรค์อยู่นี้
ครูเล็กก็หยุดแล้วเปิด Box ข้าง ๆ เบาะหยิบเอาโลชั่นกันแดด (เท่าที่หาได้ในตอนนั้น)
มาทาที่คันเกียร์ของแกจนชุ่มโชก


"ลองดูนะครับ" สองมือจับที่หน้าขาผมทั้งสองข้าง เงยหน้าขึ้นมาผงกศีรษะเชิงขอร้องผม
แม้ว่าผมจะลำบากใจอยู่ในทีแต่ตัณหาราคะทำให้ยินยอมทำตามแต่โดยดี
ยอมยกก้นและลำตัวสูงขึ้นตามแรงที่ครูเล็ก ใช้สองแขนสองมือจับประคองเอวยกขึ้น
แต่โดยความเป็นจริงแล้วสองมือแกแตะเอวผม ผมก็ยกตัวผมขึ้นจากหน้าขาของแกทันที
แล้วโลชั่นกันแดดสีขาวข้นถูกนำมาป้ายใส่ รูสวรรค์ผมบ้าง ครูเล็กแกไม่ป้ายหรือทาเฉย ๆ เท่านั้น
ยังใช้นิ้วชี้และนิ้วกลางแหย่เข้าไปข้างในรูสวรรค์ผมด้วย ให้โลชั่นเข้าไปอยู่ในนั้นด้วย
โชคดีที่ครูเล็กแกไม่ไว้เล็บยาว ครูเล็กพยักหน้าให้ผมพร้อม ๆ กับยิ้มที่มุมปากให้กำลังใจเป็นสัญญาณ
บอกให้ผมขึ้นขี่หลังม้าได้แล้ว หลังจากที่แกถอนนิ้วทั้งสองออกมา


ผมค่อย ๆ หย่อนก้นลงไปให้ร่องรูเจอกับหัวคันเกียร์พอดี มันแฉะ ลื่น
แต่ช่องทางคับตันทำให้คันเกียร์โยกซ้ายโยกขวาไปมาไม่ได้เข้าไปในรูเลย เป็นอยู่อย่างนั้นหลายที
ครูเล็กจึงละมือข้างขวาจากหน้าขาผมไป Control คันเกียร์ของแกให้โด่นิ่ง
พร้อม ๆ กับบรรจงจับมันแหย่เข้าไปให้ตรงรู มือซ้ายก็สะกดเอวผมให้ลดลงให้เข้ากับจังหวะ
ครั้งแรกที่หัวมันผลุบเข้าไป ผมรู้สึกได้ว่ามันตื้อ ๆ ตัน ๆ อย่างไรไม่รู้ แต่รู้ว่ามันแหย่เข้าไปได้แล้ว
ครูไม่ได้ให้สัญญาณผมเตรียมตัวเลย ทั้งกดเอวผมเข้าหา ทั้งเด้งกระเด้าคันเกียร์เข้าใส่
ผมเจ็บราวกับว่าร่างกายผมกำลังจะแตกออกเป็นชิ้น ๆ น้ำตาเล็ดออกมาเลย
มือทั้งสองผมขยุ้มจิกอยู่ที่ต้นแขนทั้งสองข้างของแก ในขณะที่มือแกจับเอวผม เป็นสัญญาณให้ผมโยกตัวขึ้นลง
เพราะผมเจ็บจนหยุดนิ่งเฉย เมื่อคันเกียร์ครูเล็กเข้าไปเกือบมิดลำ


"ใจเย็น ๆ ค่อย ๆ ก็ได้"
มือทั้งสองยัง Controlลำตัวผมอยู่ในขณะที่หน้าขาและบั้นเอวของแกพยายามเด้งสวนขึ้นมาเป็นจังหวะ ๆ
ตามองอยู่ที่จังหวะการผลุบเข้าออกจากร่องรูของคันเกียร์ ริมฝีปากยิ้มนิด ๆ อย่างพึงพอใจ
เม็ดเหงื่อเริ่มปรากฏประปรายตามแผงหน้าอกและลำตัว เพราะผมสัมผัสได้ถึงความลื่นขึ้น


เมื่อผมเริ่มขึ้นลงเป็นจังหวะเพลงเดียวกับการเด้งสวนของแกแล้ว
แกปล่อยมือจากเอวผมมาคลึงเคล้นที่หัวนม และจับเจ้าหนูของผมที่มันโค้งคำนับให้แกอยู่เนือง ๆ นั้น
ชักเข้าชักออก ผมทั้งเจ็บทั้งซ่านยกกำลัง แทบน้ำจะแตกออกมาในตอนนั้นให้ได้
ทำให้จังหวะ Slow ของการขย่มกลายเป็น Disco หรือแซมบ้าไปเลย


"โอว...มันจริง ๆ"
ครูเล็กไม่นอนพิงเบาะรถแล้ว แกเด้งตัวขึ้นมากอดผมแน่น
ทำให้หน้าอกหน้าใจเราเสียดสีกันตอนที่ผมโยกตัวขึ้นลง
เหงื่อกาฬแต่ละคนไหลเป็นทางโดยเฉพาะครูเล็ก ผมจับตามเนื้อตัวแกแทบไม่อยู่เพราะชุ่มโชกไปหมด
ผมจึงกอดคล้องคอแกแทน จังหวะไหนที่แกแทงสวนผมแรง ๆ ที ผมทนไม่ไหวก็ใช้ฟันขบเอาที่สันบ่าแกบ้าง


พอแกรู้ตัวก็ค่อย ๆ ผ่อนแรงลงไม่หนักหน่วงถี่ยิบโดยทีเดียว สามต่อหนึ่ง หรือห้าต่อหนึ่งบ้าง
เสียงหายใจ เสียงครางระงมกันภายในรถปิคอัพนั้น ครูเล็กแกดูดที่ฐานนมผมเจ็บมากเป็นจ้ำแดง ๆ ไปทั่ว
ส่วนแกไม่รู้ตามสันบ่าเป็นรอยฟันผมกี่รอย


"...พี่...ครู...เล็ก...โอ้ยย...ผม...ผมจะระเบิดอยู่แล้ว"
ผมทั้งเกร็งทั้งขย่มสุดฤทธิ์ เพราะครูเล็กทั้งรูด ชักเจ้าหนูผมแรงและเร็ว
อีกทั้งกอดเอวผมกดกระเด้งคันเกียร์เข้าใส่อย่างไม่บันยะบันยัง ผมรั้งต้นแขนครูเล็กเอาไว้แน่น
ถ่ายแรงทั้งหมดที่มีไปกับการขย่มม้าให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
จนได้ยินเสียงความแฉะของโลชั่นที่เกิดจากหน้าขาและก้นผมกระทบกระแทกกันดัง แป๊ะ ๆ ๆ


"โอว...ว...ครู...ผ...ผม...ออกแล้ว...ซี๊ด..ด.."
ผมสุดฤทธิ์สุดเดชแล้ว เจ้าหนูผมพ่นน้ำกามขาวข้นออกมาในระหว่างหน้าอกที่เราเสียดสีกันอยู่
ครูเล็กพอรู้ว่าผมระเบิดออกมาแล้วก็ปล่อยมือจากเจ้าหนูผมแล้วไปรั้งเอวผมเข้าหา
กดกระเด้งคันเกียร์นั้นอย่างเมามัน เสมือนสิบเมตรสุดท้ายของนักวิ่ง 100 เมตร
กลั้นลมหายใจรวบรวมกำลังภายในกดกระเด้งคันเกียร์เข้าใส่ เสียงครางกระสันเสียงฟังไม่ได้ความ


"โอ..โอ้..ว.." ประมาณ 10 นาทีของการกระหน่ำแรงใส่ผม เกร็งตัวกลั้นลมหายใจพ่นน้ำกามใส่ผม
หลังจากนั้นภายในร่องรูผมก็รู้สึกได้ถึงน้ำอุ่น ๆ กระฉูดเข้าใส่จนต้องขมิบรับเป็นจังหวะๆ
ในขณะที่ครูเล็กเองคลายความเกร็งลง กอดผมให้ลงซบอกนอนเอนราบลงกับเบาะรถ
แม้ครูเล็กจะไม่กอดผมลงไปด้วย ผมก็จะเจตนาลงไปซบอกเองเลย เราทั้งสองยังหอบหายใจแรงอยู่
ร่องรูสวรรค์ผมขมิบรับน้ำกามจนรู้สึกว่าจะหยุดพ่นออกมาแล้ว
แต่ครูเล็กยังใช้สองมือขย้ำสะโพกอยู่ระหว่างที่กำลังปรับลมหายใจให้เป็นปกติ


ลมหายใจใกล้สงบแล้ว ผมยกตัว ยกก้นเพื่อให้คายคันเกียร์ครูเล็กออก
พอหัวคันเกียร์มันหลุดออกมาพ้นปากรู ทั้งน้ำกามของครูเล็กทั้งโลชั่นกันแดด
ทั้งเลือดผสมปนเปกันไหลออกตามมาด้วย ไหลเลอะเทอะหน้าขาและก้นเบาะรถเลย
ต้องรีบควานหาทิชชู่มาช่วยกันเช็ด . . .


แม้จะกระทั่งบัดนี้ ผมขับรถเป็นแล้ว มีรถเป็นของตนเองแล้ว
และมีครูเล็กเป็นคู่ขาประจำอีกคนหนึ่งแล้ว !!

alt1991

ขอบคุณครับ

bbnnz

ขอบคุณครับ

edecono

ขอบคุณครับ

tumlove

ชอบสนุกดีขอบคุณครับ

pipi1

ขอบคุนครับ

Meeboon592

ขอบคุณครับ

senee78

ขอบคุณครับ

topto

อยากไปให้สอนขับมั้ง

bo69dy

ขอบคุนครับ

Intra

อยากไปเรียนมั่งจัง

teambkk

ขอบคุณครับ

auto101

ขอบคุณครับ

nutty2513

ขอบคุณครับผม

chicco

สุดยอดนายแน่มาก

ninenut

ขอบคุณครับ

verasith

ขอบคุณครับ

sakdi

ขอบคุณครับ

l2ookmoo

ขอบคุณครับ

noomcafe

ขอบคุณครับ