ลืมรหัสผ่าน
 สมัครเข้าเรียน
ค้นหา
 
ดู: 505|ตอบกลับ: 0

สุขภาพตัวเอง...ที่เราควรรู้

[คัดลอกลิงก์]

สุขภาพตัวเอง...ที่เราควรรู้

[คัดลอกลิงก์]

หัวหน้าห้อง

ตอบกลับ
726
พลังน้ำใจ
1834
Zenny
11318
ออนไลน์
104 ชั่วโมง

สมาชิกจีโฟกาย 100%สมาชิกระดับแพลตตินั่มสมาชิกระดับทับทิมสมาชิกระดับไพลิน

dho1991

หัวหน้าห้อง

ตอบกลับ
726
พลังน้ำใจ
1834
Zenny
11318
ออนไลน์
104 ชั่วโมง

สมาชิกจีโฟกาย 100%สมาชิกระดับแพลตตินั่มสมาชิกระดับทับทิมสมาชิกระดับไพลิน

2011-3-31 19:36:05 | ดูโพสต์ทั้งหมด |โหมดอ่าน
คาโรชิ…โรคของคนขยัน

  ทำงานหนักเกินไปอาจตายได้!!! นี่คือคำเตือนสำหรับคนที่ขยันเกินพอดี และไม่น่าประหลาดใจที่ชาวญี่ปุ่นจะเป็นผู้ค้นพบโรคนี้ โดยตั้งชื่อให้ว่า “โรคคาโรชิ” (Karochi syndrome) ซึ่งอาการอยู่ในกลุ่มเดียวกับ “โรคไหลตาย” ที่คนไทยรู้จักกันดี

  โรคคาโรชิ มีรายงานการค้นพบครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่น โดยเริ่มมีการศึกษาตั้งแต่ปี 1970 ที่มาของการจับตาตั้งข้อสังเกตในเรื่องนี้ เนื่องจากญี่ปุ่นได้รับความเสียหายจากสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ประเทศนี้กลับเจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ในที่สุดนักวิจัยก็พบกับพฤติกรรมตอบโจทย์ ว่าเป็นเพราะคนญี่ปุ่นมีความขยัน อดทน มีความรักและผูกพันต่อองค์กรของตน จึงมุมานะทำงานหามรุ่งหามค่ำ

ส่งผลให้เกิดภาวะความดันโลหิตสูง เป็นโรคหัวใจ และเป็นอัมพาตเนื่องจากเลือดไหลไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ ผลการศึกษาชี้ให้เห็นว่า ผู้ที่ทำงานหนักจะมีความเสี่ยงต่อโรคดังกล่าวสูงกว่าปกติ โดยเฉพาะคนที่เครียดจากงานมากๆ

คำว่า “คาโรชิ” ของชาวญี่ปุ่น มีความหมายตรงกับภาษาอังกฤษ “Death from overwork” แปลเป็นไทยได้ตรงตัวว่า “เสียชีวิตจากการทำงานหนัก” ด้วยเหตุนี้ในระยะหลังๆ ญี่ปุ่นจึงมีนโยบายรณรงค์ให้ประชาชนพักผ่อนให้มากๆ สนับสนุนให้ชาวญี่ปุ่นออกเดินทางท่องเที่ยว ทำกิจกรรมบันเทิงต่างๆ ขณะเดียวกันก็ไม่สนับสนุนให้พนักงานทำงานล่วงเวลา หรือทำงานมากเกินกว่าที่กำหนดไว้ต่อสัปดาห์

การไม่ทำงานหนักเกินไปนั้นดีแน่ แต่ไม่ใช่ทำตัวเป็นจอมขี้เกียจ ใช้โรคนี้เป็นข้ออ้างในการไม่ทำงานหรือทำงานน้อยเกินไป เพราะอาจถูกไล่ออกจากงานได้ง่ายๆ

มะเร็งตับ…มัจจุราชหมายเลข 1

  ผลการวิจัยล่าสุดพบว่า โรคมะเร็งกำลังเป็นภัยเงียบคุกคามคนไทยทั้งชายและหญิง โดยมะเร็งตับมาแรงเป็นอันดับ 1 สาเหตุหลักเนื่องจากการดื่มเหล้า รองลงมาคือมะเร็งปอดและมะเร็งเต้านม
      
รายงานสถานการณ์โรคมะเร็งของไทย ในปี 2542 พบผู้ป่วยมะเร็งรายใหม่ 87,061 ราย เป็นชาย 41,770 ราย หญิง 45,291 ราย มะเร็งที่พบบ่อยในเพศชาย ได้แก่ มะเร็งตับ ปอด และลำไส้ใหญ่ ส่วนในเพศหญิง ได้แก่ มะเร็งปากมดลูก เต้านม และตับ

หากไม่มีมาตรการป้องกันอย่างได้ผล คาดว่าปี 2551 ประเทศไทยจะมีผู้ป่วยมะเร็งรายใหม่เพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 50 หรือประมาณ 150,000 ราย โดยเป็นมะเร็งตับมากที่สุด ประมาณ 20,000 ราย มะเร็งปอด 15,000 ราย มะเร็งเต้านม 12,000 ราย มะเร็งลำไส้ใหญ่ 11,000 ราย และมะเร็งปากมดลูก 8,000 ราย      

  ในการป้องกันไม่ให้คนไทยเป็นโรคมะเร็งนั้น ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขได้รณรงค์แก้ไขพฤติกรรมการกินและการออกกำลังกาย โดยเน้นการรับประทานอาหารประเภทผักผลไม้ให้มากขึ้น ส่วนการออกกำลังกาย ก็พยายามกระตุ้นให้ประชาชนออกกำลังกายให้ได้อย่างน้อยอาทิตย์ละ 3 ครั้งๆ ละ 30 นาที

รวมทั้งรณรงค์ให้หญิงไทยอายุ 35 ปีขึ้นไป ตรวจหามะเร็งปากมดลูกทุก 5 ปี โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ซึ่งจะช่วยลดอัตราการเกิดมะเร็งปากมดลูกได้กว่าครึ่งเลยทีเดียว


ท่านอนเพื่อสุขภาพ

ท่านอนที่ว่าคือท่าในการนอนหลับ ไม่ใช่ท่าในการหลับนอน เพราะการนอนหลับให้สนิทเป็นสิ่งสำคัญเพื่อสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรงของคนเรา และท่ายอดนิยมก็มีอยู่ไม่กี่ท่าดังนี้…

ท่านอนหงาย: คำแนะนำเพื่อความถูกสุขลักษณะในการนอน คือ ควรใช้หมอนเตี้ย หนุนแล้วคอไม่ก้มมาก หลักการที่ถูกต้องคือให้คออยู่ในแนวตรงตลอดเวลา

ท่านอนตะแคง: ควรใช้หมอนสูงขนาดที่รองซอกคอแล้วคออยู่ในแนวตรงพอดี อาจจะมีหมอนข้างไว้กอดเพื่อพยุงแขนและขาที่อยู่ด้านบนไม่ให้เบี่ยงห้อยลงมา เนื่องจากจะทำให้แนวโครงสร้างของสะโพกและไหล่ได้ระดับสมดุลปกติของร่างกาย ไม่ก่อให้เกิดอาการคอ-บ่า-ไหล่ปวดตึง หรือสะโพกขัดกระทั่งปวดเอวหลังตื่นนอน

ท่านอนคว่ำ: ใช้นอนเล่นได้ ไม่ควรใช้นอนจริงตลอดคืน ในการนอนคว่ำหน้าเล่น ครั้งหนึ่งก็ไม่ควรนานเกิน 20-30 นาที ถ้าต้องนอนคว่ำหน้าทำสปา ควรใช้เตียงเจาะรูที่สามารถมุดหน้าลงไปได้ เพื่อไม่ให้คอต้องหันตะแคงนานเป็นชั่วโมง หลีกเลี่ยงอาการปวดคอหลังจากทำสปาจนสบายตัว

ท่าเอกเขนก (กึ่งนั่งกึ่งนอน): เหมาะสำหรับการนอนเล่นเพื่อผ่อนคลาย ในบรรยากาศธรรมชาติสบายๆ เช่น ข้างสระว่ายน้ำ ริมชายหาด หรือริมระเบียง ฯลฯ ในช่วงสั้นๆไม่เกิน 1 ชั่วโมง ท่านี้ไม่เหมาะจะใช้นอนจริงตอนกลางคืน เพราะถ้านอนติดต่อกันนานๆ จะทำให้กล้ามเนื้อหงิก สะโพกงอ และหัวเข่ายึด เป็นผลร้ายต่อสุขภาพมากกว่าผลดีอย่างแน่นอน

  ลองสำรวจดูซิว่าคุณนอนท่าไหน และถูกสุขลักษณะตามคำแนะนำหรือไม่ ถ้าถูกก็ดีไป ถ้าไม่ถูกก็ควรปรับปรุงแก้ไข อ้อ…อย่าลืมสังเกตคนที่นอนเตียงเดียวกับคุณด้วย จะได้เป็นคู่นอนที่สมบูรณ์แบบทั้งตอนที่นอนหลับและหลับนอน   
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | สมัครเข้าเรียน

รายละเอียดเครดิต

A Touch of Friendship: สังคมจะน่าอยู่ เมื่อมีผู้ให้แบ่งปัน ฝากไวเป็นข้อคิดด้วยนะคะชาวจีโฟกายทุกท่าน
!!!!!โปรดหยุด!!!!! : พฤติกรรมการโพสมั่วๆ / โพสแต่อีโมโดยไม่มีข้อความประกอบการโพส / โพสลากอักษรยาว เช่น ครับบบบบบบบบ, ชอบบบบบบบบ, thxxxxxxxx, และอื่นๆที่ดูแล้วน่ารำคาญสายตา เพราะถ้าท่านไม่หยุดทีมงานจะหยุดท่านเอง
ขอความร่วมมือสมาชิกทุกท่านโปรดโพสตอบอย่างอื่นนอกเหนือจากคำว่า ขอบคุณ, thanks, thank you, หรืออื่นๆที่สื่อความหมายว่าขอบคุณเพียงอย่างเดียวด้วยนะคะ เพื่อสื่อถึงความจริงใจในการโพสตอบกระทู้ และไม่ดูเป็นโพสขยะ
กระทู้ไหนที่ไม่ใช่กระทู้ในลักษณะที่ต้องโพสตอบโดยใช้คำว่าขอบคุณ เช่นกระทู้โพล, กระทู้ถามความเห็น, หรืออื่นๆที่ทีมงานอ่านแล้วเข้าข่ายว่า โพสขอบคุณไร้สาระ ทีมงานขอดำเนินการตัดคะแนน และ/หรือให้ใบเตือนสมาชิกที่โพสขอบคุณทันทีที่เจอนะคะ

รูปแบบข้อความล้วน|โทรศัพท์มือถือ|ติดต่อลงโฆษณา|จีโฟกายดอทคอม |


ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บจีโฟกายดอทคอมนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ หากท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศิลธรรม ไม่เหมาะสมที่จะเผยแพร่ ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link “แจ้งลบโพสนี้” ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือ ลืมพาสเวิดล๊อกอิน/ลืมชื่อที่ใช้สมัคร หรือข้อสงสัยใดๆแจ้งมาที่ G4GuysTeam[at]yahoo.com ขอขอบพระคุณที่ให้ความร่วมมือ

กรณีที่ข้อความ/รูปภาพในกระทู้นี้จัดสร้างโดยผู้ลงข้อมูลเอง ลิขสิทธิ์จะเป็นของผู้ลงข้อมูลโดยตรง หากจะทำการคัดลอก/เผยแพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ลงข้อมูลก่อนนะคะ หรือลงที่มาไว้ด้วยค่ะ

©ขอสงวนสิทธิ์คอนเซ็ปต์,คำอธิบาย,หัวข้อ/หมวดหมู่เว็บ ห้ามลอกเลียนแบบ คิดเอาเองนะคะอย่าเอาแต่ลอก

GMT+7, 2024-5-17 02:30 , Processed in 0.091057 second(s), 28 queries .

Powered by Discuz! X3.5, Rev.8

© 2001-2024 Discuz! Team.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้