จีโฟกาย.คอม

 ลืมรหัสผ่าน
 สมัครเข้าเรียน
ค้นหา
 
ดู: 2119|ตอบกลับ: 33
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป
ซ่อนแถบด้านข้าง

ซุ่มซ่ามดีนัก รักซะให้เข็ด ตอนที่1 (มือใหม่คราฟ อิอิ)

  [คัดลอกลิงก์]

ประธานนักศึกษา

โพสต์
3204
พลังน้ำใจ
8487
Zenny
21444
ออนไลน์
669 ชั่วโมง

สมาชิกระดับเพชรคู่สมาชิกจีโฟกาย 100%สมาชิกระดับตรีเพชรสมาชิกระดับมรกตสมาชิกระดับไพลินสมาชิกระดับทับทิมสมาชิกระดับแพลตตินั่ม

มือเล็กเรียวบางค่อย ๆ บรรจงกดหมายเลขโทรศัพท์  เย็นวันนี้เขานักกับเพื่อน ๆ ในกลุ่ม ตกลงกันไว้ว่า หลังจากสอบเสร็จจะไปฉลอง กันที่ร้นไอศกรีมที่อยู่ใกล้ ๆ กับโรงภาพยนต์ ภายในร้านตกแต่งแบบเรียบง่าย สีครีมของผนังห้องเข้ากันได้ดีกับโต๊ะและเก้าอี้ไม้โทนสีน้ำตาลอ่อน ชวนให้สัพผัสกับความอบอุ่นที่เจ้าของร้านต้องการมอบให้กับลูกค้าที่เข้ามารับบริการ


          ธนัชฌา หรือ น้ำชา  หนุ่มน้อยหน้าตาใสซื่อ ดวงตากลมโต สีน้ำตาลอ่อนเป็นประกาย ผิวขาวนวลเข้ากันได้ดีกับสีชมพูระเรื่อของริมฝีปาก น้ำชาเป็นเด็กหนุ่มที่ร่าเริง สดใส เข้ากับคนอื่นได้ง่าย และ มักมองโลกในแง่ดีอยู่เสมอ



"เมื่อไหร่จะมากันซะที  เรารอนานแล้วเนี้ย" ต้นสายกล่าวด้วยอารมณ์หงุดหงิด เขามานั่งรอได้เกือบ ๆ ชั่วโมงแล้ว ยังไม่มีทีท่าว่าเพื่อนอีกสองคนจะโผล่มาเลย

"ต้องขอโทษจริง ๆ  นะชา เราคงไปไม่ได้แล้ว แม่เราป่วยหนักตอนนี้อยู่โรงพยาบาล" ปลายสายกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือเหตุผลข้างต้นเพียงพอที่จะทำให้อารมณ์หงุดหงิดของคนที่รอบรรเบาลงได้บ้าง

"อ้าวเหรอ! แล้วตอนนี้เป็นอย่างไรบ้างอาการหนักมากไหม" ด้วยความเป็นห่วงเพื่อนหนุ่มน้อยคว้ากระเป๋า เตรียมมุ่งตรงไปยังโรงพยาบาลที่ปลายสายอยู่ แต่ก็ต้องชะงักเมื่อนึกได้ว่า ถ้าเขาไปเพื่อนอีกคนมาแล้วไม่เจอ จะกลายเป็นผิดใจกันเปล่า ๆ

"ไม่เป็นไรมากหรอก  หมอบอกว่าเป็นไข้หวัดใหญ่ ชารอขวัญที่ร้านเถอะ" ถึงแม้จะไม่ได้คุยกับแบบเห็นหน้า แต่ธนัชฌาก็ผงกศีรษะแสดงถึงความเข้าใจหลังจากที่ปลายสายพูดจบ

"อืม ๆ  ฝากสวัสดีแล้วก็อวยพรให้คุณแม่นายหายเร็ว ๆ ด้วยละกัน" มือขาวปลายนิ้วเรียวยาวกดวางสายทันทีที่กล่าวจบเพื่อจะโทรออกอีกครั้ง  จอมขวัญ  เพื่อนสาวแสนสวย เป็นเป้าหมายคนต่อไป




          บริกรหนุ่มเดินเข้ามาถามเชิงตำหนิว่า จะสั่งอะไรไหม เพราะเห็นมานั่งอยู่นานแล้ว ดวงตาใสกลมโตแหงนขึ้นไปมองหน้าด้วยสายตาที่ละอาย เลยจำใจต้องสั่งไป เกรงว่าหากไม่สั่งอะไรบ้างเขาคงกระเด็นออกนอกร้านเป็นแน่

          ไม่กี่อึดใจ ไอศกรีมที่สั่งก็มาถึง วนิลาซันเดย์ สามลูกลาดด้วยคาราเมลส่วนบนเสริมด้วยวิปปิ้งครีมโรยหน้าด้วยอัลมอลด์ผงเป็นสิ่งที่เย้ายวนให้ริมฝีปากบางลิ้มลองอย่างหยุดใจไม่ได้ แต่ยังไม่ทันที่เขาจะตักเข้าปาก เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมาซะก่อน




ปลายนิ้วเล็กเรียวบางกดปุ่มรับทันที "ว่าไงยายขวัญ กำลังจะโทรหาอยู่พอดีเลย"
"ขอโทษด้วยจริง ๆ เรื่องที่นัดกันเอาไว้ ฉันคงไปไม่ได้แล้วหล่ะแก" ยังไม่ทันที่จะอธิบายอะไรน้ำชาก็พูดดักหน้าซะก่อน

"อืมเข้ามจแล้ว กำลังจะกลับพอดี งั้นแค่นี้นะ" พูดจบโทรศัพท์ในมือก็ถูกปิดลงทันที หนุ่มน้อยเรียกบริกรเข้ามาเก็บเงิน โดยที่ภายในทั้งเคืองทั้งน้อยใจผสมปนกันไปหมด




          แม้ว่าการรอคอยจะไม่น่าอภิรมณ์นัก  แต่เขาก็เต็มใจที่จะรอเพื่อน ๆ เขาได้เสมอ ทว่าอยู่ ๆ เรื่องที่นักกันไว้ มายกเลิกโดยที่เขาอุตสาห์มานั่งรอกว่าชั่วโมง มันเป็นเรื่องที่ยากจะรับได้จริง ๆ


          ขาเรียวยาวก้าวออกจากอาคารพาณิชย์สีครีมด้วยอารมณ์หงุดหงิด ตอนนี้เขาไม่รู้จะไปไหนดีในเมื่อการนัดหมายถูกยกเลิก เขาจะดันทุรังนั่งต่อไปทำไม สมองอันมีอยู่น้อยนิดของธนัชฌา เริ่มประมวลผลสถานที่ต่าง ๆ ที่เขาพอจะไปสงบสติอารมณ์ได้ในตอนนี้




"สวนสาธารณะ!" หนุ่มน้อยเอ่ยขึ้นมา ดูเหมือนสมองอันน้อยนิดของเขายังคงมีประสิทธิ์ภาพอยู่บ้าง อาการหงุดหงิดงุ่นง่านของหนุ่มน้อย ทำเอาคนที่เดินผ่านไปมาหันมองด้วยความสนใจ

"ท่าจะบ้า!!! "  เสียงสบถของหยฺงสาว อายุราว ๆ 30 ดังขึ้นมาทำเอา ดวงตากลมโตสีน้ำตาลอ่อนหันควับทันควัน ทันทีที่หล่อนสบตาก็ต้องสะดุ้งเพราะผู้ที่ถูกอ้างถึงแสดงอาการสีหน้าไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด




          ท่ามกลางแสงแดดที่ร้อนระอุ สีเขียวสดของพันธุ์ไม้นา ๆ ชนิดที่เจ้าหน้าที่สวนสาธารณะพิถีพิถันจัดเรียงไว้อย่างสวยงามลงตัว ความร้อนจากดวงอาทิตย์ก็เปลี่ยนเป็นความสนชื่นทันทีเมื่อเยื้องกลายเข้ามา



          ถึงกระนั้นก็เถอะ อารมณ์หงุดหงิดฉุนเฉียวของธนัชฌาไม่ใช่จะหายกันง่าย ๆ ซึ่งปกติเขาจะไม่ใช่คนอารมณ์ร้อนขนาดนี้ ที่มันรุนแรงขึ้นมาก็เพราะเพื่อนไม่ใช่เพื่อนพื้น ๆ ของเขาเนี้ยหล่ะ ทั้งสองคนนั้นเป็นเพื่อนสนิทที่มีอิทธิพลกับตัวเขามากที่สุด


          การระบายอารมณ์เพื่อลดความกดดัน จึงเป็นทางออกที่ดีที่สุดในตอนนี้ น้ำชาตัดสินใจเลือกก้อนหินขนาดพอเหมาะตรงหน้าเป็นที่ระบายอารมณ์ ซึ่งมันก็คงจะเป็นตัวเลือกที่ไม่เลวนัก อย่างน้อยมันก็ไม่มีชีวิต................ แล้วมันก็ไม่เจ็บไม่เป็นด้วย
      
         ดวงตากลมใสเพ่งไปยังก้อนหินข้างหน้า ง้างปลายเท้าไปด้านหลัง เพื่อใช้เป็นแรงส่งในการเตะหินให้กระเด็นออกไปให้ไกลที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้ แต่...........




"เหวอ ๆๆๆๆ!! ตุ๊บ!!!"

ด้วยทักษะการเล่นฟุตบอลที่ไม่ได้เรื่องบวกกับความแข็งแรงของร่างกายที่หาแทบไม่เจอทำให้ร่างบางเพรียวลมล้มหงายหลังก้นกระแทกเข้ากับพื้น อย่างจัง ด้วยเพียงเพราะเขาเตะไม่โดนหินที่เล็งเอาไว้


"ให้มันได้อย่างนี้ซิวะ" ริมฝีปากชมพูระเรื่อบ่นออกมา ด้วยความหงุดหงิดที่เพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณ


          หนุ่มน้อยยังคงไม่ล้มเลิกความคิดเดิม มือบางในตอนนี้เปลี่ยนเป็นสีแดงสดจากเหตุที่ล้มเมื่อครู่ค่อย ๆ ปัดกางเกงที่เปื้อนฝุ่นออก แล้วลุกขึ้นตั้งหลักใหม่ "คราวนี้ไม่พลาดแน่นอน"  แล้วก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ เขาสามารถล้างอายจากการกระทำอันงี่เง่าในครั้งแรกได้(แรงไปไหมเนี้ย)




"เพล้ง!!!!!"

แต่เหมือนเทพธิดาชะตาอับ ยังคงสถิตอยู่กับตัวเขาราวกับว่าเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ทำให้การเคลื่อนย้านก้อนหินด้วยกำลังภายในของธนัชฌา พุ่งตรงไปปะทะกับกระจกรถยนต์คันหนึ่งเข้าอย่างจัง
"ให้ตายซิ วันนี้มันวันมหาซวยจริง ๆ " หนุ่มน้อย ไม่รู้จะทำสีหน้าให้เหมาะสมกับการกระทำที่สุดแสนจะปัญญานิ่มของเขาอย่างไรดี ได้แต่สบถออกมาเรื่อยเปื่อย



          ร่างสูงโปร่งกำยำ ค่อย ๆ ก้าวเท้าออกมาจากรถสปอร์ท ซาลูน สุดหรู ยี่ห้อเบนซ์ รุ่น New E200K Ver. 2007 ใหม่ล่าสุด สีบอรน์เงินสวยสะดุดตา แต่ความสวยของรถไม่ได้เป็นที่สะดุดตาอันใสแป๋วของธนัชฌาแม้แต่น้อย ขณะนี้เขานึกภาวนาเพียงว่า.......... ขออย่าให้เจ้าของรถคันนั้นเอาเรื่องเลย สาธุเพี้ยง!!!

"ทำอะไรวะ"  แค่ประโยคแรกก็ทำเอาหนุ่มน้อยหน้าซีดตัวสั่น เป็นใบ้พูดอะไรไม่ออก เหมือนใครซํกคนใช้ของแข็งทุบเข้าที่ศีรษะ.................เฮ้อ!! หมอชาฟังธง เรื่องนี้ไม่มีการยอมความแน่ ๆ


"เออ คือว่า........." ธนัชฌาเจื้อนหน้า กลืนน้ำลาย ชายหนุ่งเพ่งสายตามองลงมาที่ตัวต้นเหตุถึงแม้ว่าเขาจะใส่แว่นดำ แต่ก็เห็นได้อย่างชัดเจนว่าคนที่ทำกระจกรถเป็นรูโหว่ มีหน้าตาอย่างไร


"คือว่า ผมคงไม่มีเงินพอที่จะจ่ายชดใช้ค่าเสียหายหรอกครับ ผมเป็นเด็กกำพร้า พ่อแม่เสียตั้งแต่เด็ก ต้องไปอยู่กับยาย บ้างผมเป็นเพิงเล็ก ๆ มุงด้วยจากเก่า ๆ ฝนตกก็แทบไม่ต้องอาบน้ำเลย..............." ธนัชฌาพล่ามยาว ยกเหตุผลร้อยแปดพันเก้า เท่าที่สมองส่วนเซเลบลัมอันน้อยนิดของเขาจะคิดได้ ในใจก็ภาวนาอีกครั้ง.............สาธุ ได้ผลที่เถอะ

"พอได้แล้ว" ชายหนุ่มหน้าเข้มกล่าวขึ้นมา หนุ่มน้อยดีใจนึกว่าจะสำเร็จตามแผน

"พูดอะไร ไม่เห็นจะเกี่ยว" ร่างบางคอตก ค่ายกลที่เขาใช้ไม่ได้ผล.........นี่ขนาดส่งสายตาวิงวอนแล้วนะ

"เอาอย่างงี้แล้วกัน ในเมื่อไม่มีเงินจะจ่าย ที่คอนโดผมก็ต้องการพนักงานพอดี งั้นนายก็ไปเป็นคนทำความสะอาดที่ห้องผมก็แล้วกัน" ชายหนุ่มร่างสูงขยับแว่นตาดำเล็กน้อยก่อนจะหันไปดูร่องรอยจากการกระทำของธนัชฌา

"เตะได้ไม่เลวเหมือนกันนี่"





หนุ่มน้อยเข่าอ่อนแทบจะเป็นลมล้มพับ เมื่อได้ยิงโจทก์ยื่นขอเสนอที่เขาต้องจำใจยอมรับมัน อย่างไม่มีทางเลือก..................... นี่เราต้องไปเป็นคนใช้งั้นหรือ  ไม่จริงใช่ม้ายยยย!!!!




ดูบันทึกคะแนน
   ภูตะวัน พลังน้ำใจ +30 Zenny +500
   hahahasong พลังน้ำใจ +50 Zenny +500 กระทู้นี้ยอดเยี่ยม!.
อยากเป็นเมฆ

หัวหน้าห้อง

ลันล้า ไปวันๆ

โพสต์
1292
พลังน้ำใจ
2741
Zenny
9442
ออนไลน์
644 ชั่วโมง
Believe me

ประธานนักศึกษา

โพสต์
3204
พลังน้ำใจ
8487
Zenny
21444
ออนไลน์
669 ชั่วโมง

สมาชิกระดับเพชรคู่สมาชิกจีโฟกาย 100%สมาชิกระดับตรีเพชรสมาชิกระดับมรกตสมาชิกระดับไพลินสมาชิกระดับทับทิมสมาชิกระดับแพลตตินั่ม

3#
 เจ้าของ| โพสต์ 2011-3-20 17:03:07 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
Chapter 2 :

          สี่โมงเช้า ถึง หกโมงเย็น ช่วงเวลาทำงานที่ชายหนุ่มเสนอให้ธนัชฌามาทำงาน โดยเขาจะต้องทำทุกวันไม่เว้นวันหยุดเป็นเวลา 2 เดือน ร่างบางเพรียวลมทิ้งตัวลงนอนกับเตียง พลางแหงนหน้ามองดูนามบัตรว่าที่เจ้านายยื่นให้ไว้..... นี่เราต้องทำจริง ๆ เหรอเนี้ย


          ดวงตากลมใสเหลือบมองนาฬิกาแขวนที่ห้อยอยู่ข้างผนังห้อง แผนงานท่องเที่ยวตลอดซัมเมอร์ต้องยกเลิกทันที คิดแล้วน้ำตาก็แทบจะไหล ปี ๆ หนึ่ง เขาจะมีเวลาเป็นคุณหนูเพียงแค่หนเดียว ก็ช่วงปิดเทอมเนี้ยแหละ แต่ปีนี้ต้องกลายมาเป็นขี้ข้าตาบ้าขี้เก็กนั่น................. ใครก็ได้บอกที่ว่า นี่เป็นความฝัน

"เก้านาฬิกา สิบห้านาที" หนุ่มน้อยอุทานขึ้นมาหลังจากที่ดูเวลาแล้ว

"ไม่ทันแล้วโว้ย ๆๆ"


          ถ้าหากว่าไม่เกิดเรื่องเมื่อวาน เวลานี้เขาคงนอนอุตุ สบายอารมณ์ อยู่ใต้ผ้าห่มสีฟ้าอ่อนแสนอุ่น เวลา 10 นาทีเป็นเดธไลน์ ในการทำภาระกิจส่วนตัว เพราะต้องเผื่อเวลาเดินทางเอาไว้ด้วย .....ดูซิเนี้ย  อะไรก็ต้องรีบ ขี้ไคลที่หลังยังไม่ได้ขัดเลย


          หลังจากที่ใช้ผ้าขนหนูสีขาวสะอาดตาซับตัวหมาด ๆ แล้ว ธนัชฌาก็รีบแต่งตัวโดยเลือกชุดที่สบาย ๆ เหมาะแก่การเคลื่อนไหว ด้วย เสื้อคอโปโลสีฟ้าแถบขาวกับกางเกงยีนส์ผ้าสีเทาดำ แล้วมุ่งตรงไปยังคอนโดมิเนียมหรูตามนามบัตรที่ได้มาเมื่อวาน..... ที่พักของหมอนั่นก็อยู่ไม่ไกลนี่นา  รู้งี้อาบน้ำให้เอี่ยมก่อนดีกว่า


           ด้านหน้าอาคารตกแต่งอย่างหรูหรา มี ร.ป.ภ. ยืนด้วยทีท่าน่าเกรงขามหนุ่มน้อยนึกในใจยืนอย่างกับทหารแหนะ

"ไม่ทราบว่ามาหาใครครับ"  ยามหนุ่มอายุรุ่นราวคราวเดียวกันกับหนุ่มน้อยกล่าว แล้วยิ้มแสดงความเป็นมิตร หลังจากที่ธนัชฌาก้าวเท้าเข้ามาในตัวอาคาร

"มาหา..............."  ร่างบางสูงโปร่ง เงียบไปเหมือนเพิ่งจะนึกได้ว่า เราไม่รู้จักชื่อหมอนั่นเลยนี่ จริงๆ แล้ว อย่าว่าแต่ชื่อเลย ความสนใจยังไม่มีด้วยซ้ำ

"หาใครครับ"  ยามหนุ่มย้ำคำถามเดิมอีกครั้ง เมื่อเห็นหนุ่มน้อยตะกุกตะกักทีท่าเหมือนมีพิรุษอะไรบางอย่าง..... หน้าตาก็น่ารักดี  มาทำอะไรที่นี่กันนะ


          ธนัชฌาเอะใจ นึกขึ้นมาได้อย่างกะทันหัน  เรานี่โง่จริงๆ  แฮะ นามบัตรไงไอ้ชา นามบัตร เมื่อนึกได้ เขาก็รีบหยิบมันขึ้นมาแล้วยื่นให้กับ ร.ป.ภ. หนุ่ม โดยดไม่ทันได้ดูชื่อเสียงเรียงนาม ว่าคนที่กำลังไปหาเป็นใคร?


"อ๋อ............ ครับ นึกว่ามาหาใคร  ห้อง 902  เชิญครับ" ชายผู้เป็นคนรักษาความปลอดภัยยิ้มให้ก่อนจะชี้มือไปยังลิฟท์ที่อยู่ข้าง ๆ กับประชาสัมพันธ์

"ขอบคุณครับ" หนุ่มน้อยกล่าวก่อนจะยื่นมือรับนามบัตรคืนแล้วยัดมันใส่ลงกระเป๋ากางเกง ริมฝีปากชมพูระเรื่อยิ้มให้ก่อนที่ตัวเขาเองจะเดินตรงไปยังลิฟท์เบื้องหน้า  ยามหนุ่มถึงกับเคลิ้มในรอยยิ้มที่แสนสดใส จนเพื่อนพนักงานสาวที่เพิ่งเข้ามาทำงานต้องร้องทัก "ก้อง  เป็นอะไรไปแก ยืนเคลิ้มหยั่งกะเจอนางฟ้า" ร.ป.ภ. ร่างสูงถึงกับสะดุ้ง เรียกสติตัวเองกลับมาได้ ........ ไม่ใช่ก็ใกล้เคียงหล่ะนะ


หนุ่มน้อยสาวเท้ายาวๆ เพื่อให้ทันกับลิฟท์ตัวแรกที่กำลังจะปิดลง
"เดี๋ยวครับ รอผมด้วย" ปากบางตะโกนออกไป ในขณะที่ฝีเท้าก็เร่งก้าวด้วยเช่นกัน ด้วยความซุ่มซ่ามที่ธนัชฌาสะสะมาตั้งแต่เกิด ส่งผลให้การใช้ลิฟท์ของเขาในครั้งนี้ไม่ค่อยจะสวยงามเท่าไหร่นัก

"เหวอ ๆๆๆ!!! " เสียงอุทานประจำตัวของเขาดังขึ้น ขากางเกงที่ยาวทำให้เขาเหยียบ แล้วสะดุดพุ่งตรงไปยังภายในลิฟท์ ใบหน้าอันเรียวงามและบอบบางพุ่งตรงไป กระแทงที่หน้าอกของใครบางคนอย่างจัง ตัวผู้เคราะห์ร้ายถึงกับเบ้ปากแสดงอาการเจ็บปวดออกมา สายตาของคนในลิฟท์ทุกคู่จดจ้องมายังเขาทั้งสองคน....... ซี่โครงไม่เสียบปอดไปแล้วเหรอเนี้ย


"ขอบคุณมากครับ" ธนัชฌาเอ่ยออกมาเบา ๆ (ซะเนียน) โดยไม่ได้แหงนหน้ามอง ชายกันชน แต่อย่างใดทั้งยังรีบทำตัวให้เป็นปกติเหมือนกับเขาก้าวเท้าเข้ามาเฉย ๆ อย่างงั้น.......... เฮ้อ! อย่างน้อยก็ทันลิฟท์หล่ะว้า

"ไม่เป็นไร" คำพูดสั้น ๆ ห้วน ๆ เปร่งออกมาจากชายผู้รับเคราะห์คนนั้น เชาเพ่งดูหนุ่มน้อยอีกครั้งพลางใช้มือลูบที่หน้าอกตัวเองเบา ๆ ........หัวหมอนั่นทำจากเหล็กหรือไงนะ

"ชั้นเก้าครับ"  ธนัชฌาบอกให้หญิงสาวในชุดทำงานสีดำหอบแฟ้มหนา กดปุ่มที่อยู่ด้านข้างประตู  หล่อนพยักหน้าเข้าใจ



          จากล๊อบบี้ชั้นล่างไปยังชั้นเก้าใช้เวลาพอสมควร ระหว่างที่กล่องเหล็กทรงสี่เหลี่ยมยักษ์จะค่อย ๆ เคลื่อนตัวไป ริมฝีปากบางก็ฮัมเพลงออกมาเบา ๆ พร้อมทั้งโยกศีรษะไปมาเล็กน้อยพอให้เข้ากับจังหวะเพลง ถ้าลองฟังทำนองดูก็จะรู้ว่าไม่ใช่เพลงไทยแน่นอน มันเป็นทำนองเพลงเอเชียที่ฟังสบาย ๆ น่ารัก ๆ การแสดงเล็ก ๆ ของธนัชฌาครั้งนี้ เรียกรอยยิ้มจากคนรอบข้างได้มาก ซึ่งเขาเองก็ยังคงไม่รู้ตัวว่ามีรอยยิ้มปรากฎอยู่ที่ใบหน้าใครหลาย ๆ คนโดยทุก ๆ รอยยิ้มเป็นฝีมือของเขาเอง หนุ่มน้อยยังคงฮังเพลงพร้อมกับโยกศีรษะต่อไป เหมือนเวลานี้มีเขาเพียงคนเดียวในโลก

          ประตูเหล็กสีเงินค่อย ๆ เปิดออก ขาบางเรียวยาวก้าวเท้าออกมาเป็นคนแรก ดวงตากลมโตพยายามมองหาสัญลักษณ์ตัวเลขที่พอจะให้เขาเดาได้ว่า ห้อง 902 อยู่ทางทิศใด

          ทางเดินของชั้นเก้านี้ปูด้วยพรมสีแดงสด ไม้ประดับใบใหญ่หนาสีเขียวเข้มวางอยู่ตามผนังอาคารเป็นระยะ ๆ สีครีมน้ำตาลของผนัง ตัดให้สีของพรมดูเด่นยิ่งขึ้น ตลอดทางเดินจะมีเก้าอี้ไม้ลวดลายแปลก ๆ บุด้วยกำมะหยี่สีเขียวมรกตเป็นช่วง ๆ  ..... นี่เหรอที่คนรวยเขาอยู่กัน



" 907 " ริมฝึกปากสีชมพูระเรื่อเอ่ยขึ้นมาเบา ๆ ขณะที่เขากำลังเดินไล่นับหมายเลขหน้าประตูแต่ละบาน



          ธนัชฌาเดินนับไปเรื่อย ๆ ตั้งแต่ 907 , 906 ............ จนไปถึง 903 โดยทุก ๆ ประตูจะเป็นประตูเดี่ยวบานเดียว หน้าห้องจะมีป้ายไม้ขอบทอง ตัดหมายเลขประจำตัวอยู่



"903 แล้วก็....... เอ๋!?  ทำไมไม่มีป้ายห้องหล่ะเนี้ย" ร่างบางโหร่งต้องมาชะงักอยู่หน้าห้องที่มีประตูไม้แกะสลักลวดลายงดงาม สองบานโดยที่ส่วนบนของประตูมีรอยเหมือนป้ายหน้าห้องถูกแกะออกไป........คงเป็นห้องนี้แหละ 902 ชัวร์!



เมื่อตัดสินใจถูกต้องแล้ว ดวงตากลมโตก็ควานหากริ่งสัญญาณหน้าห้อง ซึ่งมองเท่าไหร่ก็ไม่เจอ แจ้วตัวเลยตัวสินใจ เคาะประตูดูก็แล้วกัน...



"มีใครอยู่ไหมครับ" มือเล็กเคาะไปยังประตู สองสามครั้งโดยหวังว่าจะมีใครออกมาเปิดประตูบ้างซักคน

"มีใครอยู่บ้างรึเปล่า" ธนัชฌายังคงลองใหม่อีกครั้ง........ไม่มีคนอยู่เหรอ? ถ้าไม่มีจะกล้บแล้วนะ เอ้า!!



ในขณะที่หนุ่มน้อยกำลังงุ่นง่านอยู่กับการเคาะประตูบานใหญ่สองบานเบื้องหน้า

"เคาะให้ตาย ก็ไม่มีใครออกมาหรอก นายบื้อ" เสียงแข็งกระด้างเย็นเฉียบดังมาจากด้านหลังของธนัชฌา หนุ่มน้อยถึงกับสะดุ้งโหยง แล้วรีบหันกลับไปดูทันที

"นะ นะ ....นาย...คนที่อยู่ในลิฟท์นี่" คิ้วเข้มคมถึงกับขมวด หนุ่มน้อยงงจัด อะไรกันที่ว่าเคาะให้ตายก็ไม่มีใครออกมา........ แค่เคาะประตูถึงกับตายเชียวเหรอ

"ห้องฉันหน่ะ ห้องนี้ ห้องที่นายยืนบื้อเคาะอยู่หน่ะ มันห้องเก็บของหัดสังเกตุบ้างซิ" ชายหนุ่มกล่าวแล้วถอดหมวกกับแว่นตาออก เผยให้เห็นใบหน้าอันหล่อเหลา คมคาย ธนัชฌาถึงกับกลืนน้ำลายดังเอื้อก อึ้งไปชั่วขณะ แต่เขาไม่ได้ตะลึงในความหล่อ แต่เป็นเพราะ...........



"นะ นะ นะ ....นาย....คือ เจ้าของรถคนเมื่อวาน!!!!"



To be continued

----------------------------------------------------------------------------------



อยากเป็นเมฆ

นักศึกษา

โพสต์
198
พลังน้ำใจ
181
Zenny
1700
ออนไลน์
8 ชั่วโมง
ขอบคุณนะคับ

หัวหน้าห้อง

โพสต์
1102
พลังน้ำใจ
1171
Zenny
4812
ออนไลน์
103 ชั่วโมง
ขอบคุณครับ

ประธานนักศึกษา

โพสต์
3204
พลังน้ำใจ
8487
Zenny
21444
ออนไลน์
669 ชั่วโมง

สมาชิกระดับเพชรคู่สมาชิกจีโฟกาย 100%สมาชิกระดับตรีเพชรสมาชิกระดับมรกตสมาชิกระดับไพลินสมาชิกระดับทับทิมสมาชิกระดับแพลตตินั่ม

6#
 เจ้าของ| โพสต์ 2011-4-10 20:40:07 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
เรื่องนี้ ผมชอบมาก  ไงก้อเข้ามาอ่านดูนะคับ
อยากเป็นเมฆ

ประธานนักศึกษา

โพสต์
3204
พลังน้ำใจ
8487
Zenny
21444
ออนไลน์
669 ชั่วโมง

สมาชิกระดับเพชรคู่สมาชิกจีโฟกาย 100%สมาชิกระดับตรีเพชรสมาชิกระดับมรกตสมาชิกระดับไพลินสมาชิกระดับทับทิมสมาชิกระดับแพลตตินั่ม

7#
 เจ้าของ| โพสต์ 2011-4-10 20:47:23 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
Chapter 3 :

"ใช่ แล้วก็เป็นคนที่นายเกือบจะทำให้ฉันตายด้วย  ในลิฟท์หน่ะ จำได้ไหม?" ชายหนุ่มกล่าว  พลางล้วงกุญแจห้องในกระเป๋ากางเกงออกมา

"ก็ผมไม่ได้ตั้งใจนี่นา คนมันรีบจะให้ทำอย่างไง" น้ำชาขมุบขมิบปากปล่อยเสียงเล็ดลอดไรฟันออกมาเบา ๆ

"ได้เวลาทำงานแล้ว!!" เขาไม่ได้สนใจอะไรเลย เสียงกระซิบที่ธนัชฌาเปล่งออกมาเหมือนกันสายลมแผ่วเบาที่พัดมาเวลาที่เขาร้อนก็เท่านั้น


          ภายในห้อง ตกแต่งสไตล์ยุโรบกึ่ง ๆ เอเซีย มันเข้ากันได้อย่างไม่น่าเชื่อ เฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่จะเน้นเพียงสามสี คือ สีครีม สีน้ำตาล สีขาว ของประดับภายในห้องก็จะเป็นสีอ่อนเกือบทุกชิ้น จึงทำให้ห้องดูสว่างขึ้น ทั้ง ม่านที่ติดตรงหน้าต่าง รูปศิลปะต่าง ๆ ที่แขวนตามผนังห้อง หนุ่มน้อยอดที่จะตื่นเต้นไม่ได้ ตั้งแต่ที่เขาเดินเข้ามา เขายังไม่หยุดชื่นชมการตกแต่งของห้องนี้เลย

"เริ่มงานได้แล้ว มัวแต่มองโน่นมองนี่ เมื่อไหร่จะเสร็จ" ริมฝีปากหนาเอ่ยขึ้นมา แล้วก็เริ่มสั่งโน่นสั่งนี่ เรียงรายการให้เสร็จสรรพ ตั้งแต่ ดูดฝุ่น  ล้างจาน ซักผ้า ขัดห้องน้ำ น้ำชาเห็นรายการถึงกับทำหน้าไม่ถูก ถึงแม้ว่าเขาจะทำงานบ้านเวลาที่พักอยู่คนเดียว แต่ก็นึกไม่ถึงว่ามันจะมากมายขนาดนี้ .......นี่ผมมาทำงานให้นะ ไม่ได้มาเป็นทาส


          เมื่อเจ้านายใหม่สั่งเสร็จก็ทิ้งตัวลงบนโซฟาหน้าทีวี มือหนาเอื้อมไปหยิบรีโมทขึ้นมาเปิดดูข่าวที่กำลังแพร่ภาพอยู่  อีกด้านของมุมห้อง มือบางเรียวเล็กกำลังใช้เครื่องดูดฝุ่นทำความสะอาดพื้นพรม ปากก็บ่นโน่นนี่ตามภาษาวัยรุ่น แต่ด้วยเสียงของเครื่องดูดฝุ่นที่ดังมาก เลยทำให้ชายหนุ่มที่นั่งอยู่บนโซฟา ไม่ได้ยิน และยังคงดูรายการโทรทัศน์ต่อไป

การดูดฝุ่นผ่านพ้นไปได้ด้วยดี เหลือเพียงแค่นำเศษขึ้ผงจากที่เก็บในตัวเครื่องด้านหลังไปทิ้ง

มือบางเล็กค่อย ๆ เปิดช่องเก็บฝุ่นทางด้านหลังออก ปรากฎที่ใส่เศษขยะฝุ่นผงอยู่เบื้องหน้า เขาพยายามจะแกะมันออก แต่แกะเท่าไหร่ก็ไม่ออกซะที



"ทำไมมันแน่นจังวะ" ธนัชฌาพยายามดึงมันออกจากเครื่อง........ใครเอากาวมาติดรึเปล่าเนี้ย

"เฮ้ย!!!!"

การกระชากในครั้งที่สองประสบผลสำเร็จ  ถึงที่เก็บหลุดออกมาจนได้ แต่ทว่าขาดกระจุย ฝุ่นกระจายฟุ้งเต็มห้อง ร่างสูงที่นั่งอยู่หน้าทีวีถึงกับจามไม่หยุด หันหน้าเดินตรงเข้ามาทางธนัชฌาทันที



"ทำอะไรของนายกันฮะ  ให้ทำความสะอาด แล้วนี่.......ฮัดเช่ย!!.....ทำอะไร!!?" ชายหนุ่มหน้าบึ้งใช้มืออุดจมูกไว้ ถึงจะทำอย่างนั้น เขาก็ยังจามอยู่ดี

"ก็จะเอามันไป..........ฮัดชิ้ว!!.......ทิ้ง แต่ว่ามันไม่ออกก็เลยต้อง .....ฮัดเช่ย!!! ....กระชากมันออกมา แต่มันก็หลุดออกมาแล้วนี่" หนุ่มน้อยแสยะยิ้ม ใช้มืออุดจมูกเช่นกัน

"กระชากงั้นเรอะ?" ร่างสูงนิ่งไป " ชนบทโดยแท้.......ฮัดเช่ย!!!.....ใครเขาให้กระชา.....ฮัด....ฮัดชิ้ว!! กระชากกันเล่า มันมีสลักอยู่ตรงนี้ ไม่เคยใช้เครื่อง.....ฮัด ชิ้ว!! เครื่องดูดฝุ่นหรือไง" ชายหนุ่มดู ทำเอาน้ำชาจ๋อยไป แต่ก็แค่นั้นแหละเพราะหนุ่มน้อยเราไม่เคยสำนึกอะไรได้นาน

"ไม่เคย" หนุ่มน้อยลุกขึ้นแล้วรีบตรงไปที่ห้องน้ำ ชายหนุ่มถึงกับสายหน้า.........คิดถูกหรือคิดผิดกันที่ให้นายบื้อนั่นมาทำความสะอาดนะ?



          เวลาผ่านไปสองชั่วโมง  งานบ้านต่าง ๆ ที่ธนัชฌาทำไม่คืบหน้าไปไหน ล้างจานก็กลายเป็นเทศกาลปาจานของกรีก ทำเอาเจ้าของห้องถึงกับกุมขมับ เขาคิดผิดโดยแท้ที่ให้หนุ่มน้อยชดใช้ค่าเสียหายด้วยการมาทำงานบ้าน แต่ถึงจะคิดได้ตอนนี้ นก็สายไปซะแล้ว

          มือหนาใหญ่ค่อย ๆ ปาดเหงื่อ " นี่....นาย!!! จะพลาญจานบ้านฉันอีกกี่ใบถึงจะพอใจ ให้มาล้างจาน ไม่ได้ให้มาล้างผลาญ มันเวรกรรมอะไรของฉันวะเนี้ย!!" แทนที่งานบ้านจะต้องเป็นหน้าที่ของร่างบาง ตัวเจ้าของห้องต้องกลายเป็นคนที่ต้องทำซะเอง



          เวลาล่วงเลยไปจนถึงบ่างโมงเศษ รายการงานบ้านที่ยาวเป็นหางว่าวไม่มีทีท่าจะเสร็จ แต่ท้องของธนัชฌาส่งเสียงเตือนว่าถึงเวลาที่ต้องหาอะไรลงท้องบ้างแล้วนะ



"เฮ้!!  นาย" หนุ่มน้อยตะโกนขึ้นมา จากในครัวซึ่งเขากำลังเก็บกวาดอยู่ "พักกินข้าวกลางวันก่อนได้ปะ พยาธิในท้องมันเริ่มประท้วงกันแล้ว" ร่างสูงใหญ่ได้ยินถึงกับหัวเราะคิก.......พยาธิประท้วงงั้นเหรอ เกิดมาเพิ่งจะเคยได้ยิน

"ใครห้ามนายกันเล่า" ชายหนุ่มกล่าว ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนเปร่งประกายความสดชื่นขึ้นมาทันทีเมื่อคำขอที่ตนเองส่งไปได้รับการอนุญาต.......ได้พักซะที

"งั้นไปละนะ" ธนัชฌาวางทุกอย่างลง หยุดงานทุกชนิดทันที ตาคมหันมามอง

"จะไปไหน?" ขาเรียวยาวชะงักทั้งที่ยังไม่ทันก้าวออกจากห้องนี้ไป

"ก็ไปหาอะไรกินหน่ะซิ ถามได้" รอยยิ้มปรากฎอยู่ที่มุมปากบาง ๆ แล้วเดินหน้าสาวเท้าออกจากห้องทันที ร่างสูงใหญ่อ้าปากจะบอกวา ไม่ต้องออกไป เพราะกำลังจะสั่งพิซซ่ามากิน แต่ก็ไม่ทันที่จะบอกหนุ่มน้อยก็แทรกขึ้นมาซะก่อน

"ไปล่ะนะ แล้วจะรีบกลับมาให้ทันเวลางาน" ธนัชฌาแยกเขี้ยวใส่ก่อนจะวิ่งออกไป ชายหนุ่มส่ายศีรษะ.........งานบ้านวันนี้สงสัยจะไม่เสร็จซะล่ะมั้ง  เฮ้อ!! คบเด็กสร้างบ้านอีกแล้วไหมเรา?


          อาหารกลางวันมื้อนี้เป็นอะไรง่าย ๆ ที่หาได้ตามร้านอาหารทั่วไป ธนัชฌาสั่งข้าวผัดไข่ ร้านอาหารตามสั่งร้านนี้เป็นร้านเล็ก ๆ  อยู่ถัดจากคอนโดฯ หรูไปไม่กี่สิบเมตร ระหว่างที่กำลังรออาหารที่สั่ง ดวงตาใสกลมโตก็เพ่งไปที่รายการโทรทัศน์เบื้องหน้า ซึ่งกำลังออกอากาศเกี่ยวกับนักร้องดาวรุ่งมาแรงในขณะนี้


"วันนี้เราจะมาสัมภาษณ์ นักร้องหนุ่มหน้าใสที่กำลังฮอตมากในขณะนี้ค่ะ" พิธีกรสาวผมยาวหน้าใสหวาน จีบปากจีบคออยู่ในทีวี ซึ่งเป็นรายการที่อัดเอาไว้ล่วงหน้าหลายวันแล้ว

"ให้เขาคนนั้นแนะนำตัวเองเลยดีกว่านะคะ" กล้องตัดภาพไปยังนักร้องหนุ่มคนที่ถูกกล่าวถึง

"สวัสดีครับ  ผมโฟม  ธีรณัฐ ครับ"  เจ้าของเสียงกล่าวพลางยิ้มให้กับกล้อง พนักงานสาวสองคนในสูทสีฟ้าอ่อนในร้านกรี้ดกร๊าดกันใหญ่ เรียกความสนใจของหนุ่มน้อยให้หันไปมองดูเหมือนกันว่าเกิดอะไรกันขึ้น

"หมอนั่นหน้าตาคุ้น ๆ แฮะ เหมือนเคยเจอที่ไหน"

"ข้าวผัดไข่ได้แล้วจ้า" ป้าเจ้าของร้านยกอาหารที่ธนัชฌาสั่งมาให้ หนุ่มน้อยพยักหน้าแล้วยิ้มให้ ในใจยังคงนึกอยู่ว่า......ชายคนในทีวีเป็นใครทำไมคุ้นหน้าจัง


          พิธีกรสาวยังคงซักถามต่อ เฉกเช่นเดียวกันกับ สองสาวพนักงานที่ยังคงจับจ้องสายตาอยู่หน้าจออย่างไม่ห่าง


"นี่เป็นอัลบัมแรกใช่ไหมคะ ใช้ชื่อว่าอะไร?" กล้องจับภาพไปยังนักร้องหนุ่ม

"ชื่อว่า Project Zero ครับ" เขากล่าวแล้วยิ้มจนเห็นฟันขาวสะอาดเรียงตัวกันราวไข่มุก

"ทำไมถึงใช่ชื่อว่า Project Zero หล่ะคะ ต้องมีเหตุผลใช่ไหม?" พิธีกรสาวยังคงซักต่อไป โดยอีกด้านหนึ่ง พนักงานสาวสองคน จ้องจนตาเป็นประกาย นี่ถ้าพวกเธอเขาไปอยู่ตรงนั้นได้คงจะกระโดดเข้าไปหอมแก้มนักร้องหนุ่มคนนั้นเป็นแน่

"เพราะมันเป็นงานชิ้นแรกของผมครับ คงไม่มีใครเริ่มต้นจากเลขอื่นก่อนเลขศูนย์ใช่ไหมครับ"

"แล้วรู้สึกอย่างไงคะ ทันทีที่เปิดตัวด้วยซิงเกิ้ลแรก เพลง แค่เป็นห่วง ก็ติดอันดับ เพลงฮิตติดชาร์ทหลาย ๆ คลื่นในเวลาเพียงแค่วันเดียว ตอนนี้ราศีซุปเปอร์สตาร์จับแล้วนะคะเนี้ย"

"ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ เพลงแค่เป็นห่วง ผมก็ถ่ายทอดอารมณ์อย่างเต็มที่ก็เท่านั้น ต้องขอบคุณแฟน ๆ ที่ให้การตอบรับผมเป็นอย่างดีครับ"


          ทันทีที่นักร้องหนุ่มพูดจบ สมองส่วนกลางของธนัชฌาก็กระตุกทันที เขาเพิ่งจะนึกออกว่า นักร้องหนุ่งที่กำลังมาแรงในขณะนี้ไม่ใช่ใคร เขาเป็นคนที่น้ำชาอยู่ใกล้ที่สุดในเวลานี้นี่เอง



"หมอนั่น  หมอนั่น  เป็นนักร้องเหรอเนี้ย!!!!! "






อยากเป็นเมฆ

ประธานนักศึกษา

โพสต์
3204
พลังน้ำใจ
8487
Zenny
21444
ออนไลน์
669 ชั่วโมง

สมาชิกระดับเพชรคู่สมาชิกจีโฟกาย 100%สมาชิกระดับตรีเพชรสมาชิกระดับมรกตสมาชิกระดับไพลินสมาชิกระดับทับทิมสมาชิกระดับแพลตตินั่ม

8#
 เจ้าของ| โพสต์ 2011-4-10 20:48:13 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
Chapter 4 :

เมื่อได้รู้ความจริง ธนัชฌารีบสาวเท้ากลับไปยังที่ทำงานโดยเร็ว และต้องมาเอะใจเมื่อถึงหน้าคอนโดฯ .....แล้วทำไมต้องรีบกันด้วยหล่ะเนี้ย ก็แค่นักร้องกิ๊กก๊อก

มือขาวเรียวบางหยิบนามบัตรที่ได้รับจากชายหนุ่มขึ้นมา "ธีรณัฐ  พัฒนะวรางค์กุล ใช่เขาจริง ๆ ด้วย" ไม่แปลกใจเลยที่เมื่อพบกันครั้งแรกเขาจะมีรถยนต์หรูหราราคาแพงมาใช้


เมื่อเข้ามาในห้อง ธนัชฌาก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง เดินดุ่ย ๆ ตรงไปหาโฟมทันที "ไม่เห็นนายบอกเลยว่าเป็นนักร้อง" ชายหนุ่มเบ้ปาก หันกลับมามอง "ก็ไม่ได้ถามนี่" ประโยคสั้น ๆ เพียงประโยคเดียวทำให้การสนทนายุติลงได้ หนุ่มน้อยก็ไม่ต่อความยาวสาวความยืดแต่อย่างใด เขาไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นแม้แต่น้อย ทั้ง ๆ คนที่อยู่ตรงหน้า คือนักร้องที่มีชื่อเสียงโด่งดัง

ร่างบางสูงโปร่ง ยังคงทำหน้าที่ของตนเองต่อไป งานอีกหลายอย่างยังคั่งค้าง ไหนจะซักผ้า เช็ดโน่น เช็ดนี่ หนุ่มน้อยยังสงสัยอยู่ว่า กะอีแค่ห้องเล็ก ๆ ห้องนี้ทำไมงานมันถึงได้เยอะแยะมากมายนัก


"ว่าแต่ มาทำงานกับซุปเปอร์สตาร์อย่างฉัน ไม่ตื่นเต้นบ้างเหรอไง" ธีรณัฐเอ่ยขึ้นมาในขณะที่กำลังอ่านหนังสือพิมพ์รายวัน ธนัชฌาทำหน้าสะอิดสะเอียนกับประโยคดังกล่าว

"ไม่นี่" พูดจบหนุ่มน้อยยังคงตั้งหน้าตั้งตาทำงานต่อไป

"ถ้าจะขอลายเซ็นก็บอกนะ  จะเซ็นให้เป็นพิเศษ ในฐานะนายจ้างให้สวัสดิ์การพิเศษแก่ลูกจ้าง" ประโยคนี้ปาดหูธนัชฌาอย่างแรง เขาไม่เคยคิดว่านักร้องที่กำลังโด่งดังจนเกือบถือได้ว่าเป็นซุปเปอร์สตาร์คนล่าสุดของเมืองไทยจะหยาบคายได้ถึงเพียงนี้

"ถ้าคุณคิดว่าลายเซ็นนั้นมีค่าสำหรับผมมาก คุณคิดผิดถนัดเลย มันก็แค่น้ำหมึกปากกาที่ถูกตวัดโดยคนไร้มารยาทคนหนึ่งก็เท่านั้นเอง" ร่างบางฉุนจัดรับหยิบตระกล้าผ้าเดินดุ่ย ๆ ไปยังระเบียงทันที โฟมเองถึงกับสะอึกในประโยคที่น้ำชาพูดเสียดสีออกมา.........เก่งนักนะ



หลังเลิกงาน หนุ่มน้อยหอบร่างอันเหนื่อยอ่อนกลับมาที่บ้างเช่าซึ่งเป็นที่พักที่อบอุ่นที่สุดสำหรับเขาแล้ว ก้าวเท้าเข้ามาได้ก็ทิ้งตัวลงกับโซฟาสีครีมทันที วันนี้เขาเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว........ต้องรีบเก็บแรงไว้ต่อกรกับคนบ้าอำนาจพรุ่งนี้อีก เฮ้อ!!

ยังไม่ทันจะหลับตา เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมาซะก่อน  มือเรียวเอื้อมไปหยิบขึ้นมาจากกระเป๋าสะพายที่ถูกทิ้งกองไว้ข้างล่าง

"สวัสดีครับ  ที่นี่รับสายที่ไหนโทรมาครับ" ดวงตากลมโตไม่ได้เหลือบมองชื่อของคนโทรมา ถึงไม่รู้ก็พอจะเดาออกว่าเป็นใคร

"ยังไม่เลิกนิสัยกวนบาทาชาวบ้านเขาอีกเหรอ?" ปลายสายกล่าวพลางหัวเราะคิกคัก

"ว่าไงขวัญ  อยู่บ้านนอกสบายดีไหมล่ะ" ไม่ต้องถามก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นใคร เสียงใส ๆ นุ่ม ๆ คงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก จอมขวัญ

"แล้วรู้ได้อย่างไงว่าฉันอยู่เชียงใหม่ อีกอย่างแกหายโกรธพวกฉันรึยังอ่ะ" จอมขวัญกล่าวด้วยน้ำเสียงเนือง ๆ ในใจก็หวังว่าเพื่อนสนิทคนนี้จะยอมยกโทษให้

"โอ้ย .......เรื่องตั้งแต่พระเจ้าเหาทรงพระเยาว์ ลืมไปหมดแล้ว แต่ว่าก็ว่าเถอะวันนั้นจะนัดกันไม่มาก็ไม่บอกกันซักคำ" ท่อนสุดท้ายธนัชฌาเน้นน้ำเสียงที่แสดงออกถึงอาการน้อยใจนิด ๆ

"ขอโทษจริง ๆ มันกระทันหันหน่ะ  ...ชา แบทหมดแล้ว ไว้จะโทรไปใหม่นะ"

"เออ.....เจอกันเมื่อชาติต้องการ" สายถูกตัดไปพอดี......เฮ้อ ขอนอนต่ออีกหน่อยละกันนะ


กว่าจะตื่นขึ้นมาก็ปาไป สาม ทุ่มกว่าจวนเจียนจะสี่ทุ่มแล้ว ธนัชฌาลุกขึ้นกางมือบิดขี้เกียจไปมาอยู่หลายรอบ ก่อนจะตรงเข้าไปอาบน้ำ แต่ตัวออกมาในชุดสบาย ๆ เตรียมตัวจะออกไปหาอะไรกินนอกบ้านซะหน่อย พยาธิมันเริ่มเดินสวนสนามกันอีกแล้ว

จุดมุ่งหมายของหนุ่มน้อยคือ ร้านสะดวกซื้อที่เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง จะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกเสียจาก เซเว่น อีเลฟเว่น


"สวัสดีค่ะ" แคชเชียร์สาวหน้าตาจิ้มลิ้มกล่าวทักทาย

"ครับ"  ธนัชฌาพยักหน้า เดินตรงไปยังตู้เครื่องดื่มที่เต็มไปด้วยน้ำประเภทต่าง ๆ มากมาย เรียงรายอยู่ตามชั้น


หนุ่มน้อยเอื้อมมือเข้าไปคว้านมสดขวดใหญ่ รสสตอเบอร์รี่ที่วางอยู่ในชั้น ด้านบนสุดของตู้ ในใจก็กำลังนึกอยู่ว่า จะกินอะไรดี .....ได้นมสดมาแล้ว ขออาหารหนัก ๆ ซักอย่างแล้วกัน


"ว้าย!!!!! "

เสียงอุทานของหญิงวัยรุ่นคนหนึ่งดังขึ้นมาจากทางเดินหน้าเคาเตอร์ชำระเงิน ลูกค้าทั้งร้านหันไปมองเป็นตาเดียว เว้นแต่ธนัชฌาเพียงคนดียวที่ไม่ได้สนใจ ในหัวเขาตอนนี้คิดเพียงอย่างเดียวว่า จะเอาอะไรไปหยุดพวกพยาธิในท้องที่กำลังแทะผนักกระเพาะเขาดี

"เกี๊ยวกุ้ง?" เสียงเบา ๆ เล็ดลอดออกมาตามไรฟัน ธนัชฌารีบตรงไปยังเคาเตอร์ทันที

ดวงตากลมโตใสมองหาแคชเชียร์สาวในระหว่างที่เดินอยู่ เขามองหาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอซะที......หายไปไหนนะ ไปเล่นซ่อนหารึเปล่า(คิดได้ไงเนี้ย?)


"เฮ้ย!!!  เหวอ ๆๆๆ "

เสียงอุทานของธนัชฌาดังไปทั่วร้าน เขาเหยียบน้ำกาแฟที่หญิงวัยรุ่นทำหกเอาไว้ หนุ่มน้อยเซ ท่าทีเหมือนจะล้มหงายหลัง ธนัชฌาหลับตาปี๋ ในใจก็นึก........สงสัยไม่รอดแหงม ๆ


"เป็นอะไรมากไหมครับ" มือหนาซ้อนร่างบางโปร่งที่ขณะนี้หลับตาปี๋เอาไว้ น้ำชาค่อย ๆ ลืมตาช้า ๆ เมื่อรู้สึกได้ว่าเขาไม่ได้เจ็บอะไร  ตอนนี้เขาทั้งคู่เหมือนกำลังเต้นรำโดยมีธนัชฌาเอียงตัวอยู่ในอ้อมแขนอันแข็งแรงของชายแปลกหน้าซึ่งลำตัวขนานกับพื้น แต่ก็ไม่เหมือนซะทีเดียวเพราะขาของหนุ่มน้อยไม่ได้ชี้ขี้นฟ้า

"ขะ ขะ ....ขอบคุณมากครับ " ร่างบางเพียวลมกล่าวขอบคุณแล้วลุกขึ้นมาอยู่ในท่าปกติ เขารู้สึกงี่เง่ากับการกระทำของตนเองเป็นที่สุด



สายตายังคงจดจ้องอยู่กับชายหนุ่มเบื้องหน้า ใบหน้าเป็นสันคม คิ้วเข้ม ผิวขาวนวล แต่งตัวดูดี มีภูมิฐาน เหมือนคนมีฐานะดี ผมสีดำเข้ม รอยยิ้มใส ๆ ที่แฝงไปด้วยความจริงใจ อายุน่าจะราว ๆ 25 ธนัชฌาคิดว่าถ้าเขาเป็นหญิงสาวคงจะละลายไปตั้งแต่ที่ชายคนนี้โน้มตัวลงมารับร่างเขาไว้แล้ว

เช่นกันกับ ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งผิวขาว ก็เพ่งพิศดู คนที่เขาช่วยเหลือไว้เมื่อซักครู่ ใบหน้ากลมมน ผิวขาวนวล ดวงตากลมโต ริมฝีปากชมพูระเรื่อ ท่าทางอากัปกิริยาดูสดใสน่ารักสมวัย ถึงแม้จะซุ่มซ่ามไปบ้าง แต่ก็มีรอยยิ้มที่สามารถสะกดทุกสิ่งให้นิ่งอยู่กับที่ได้ ............ถ้าไม่ติดว่าเป็นผู้ชาย จะจีบซะเลย



"ขอบคุณมาก ๆ นะครับที่ช่วยผมไว้ ถ้าไม่ได้คุณผมคงจะแย่" หนุ่มน้อยกล่าวแล้วยิ้มให้ รอยยิ้มนี้เองที่ทำเอาชายแปลกหน้ารู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ ขึ้นมา

"ไม่เป็นไรครับ  ผมยินดี" ชายหนุ่มยิ้มตอบ ธนัชฌากลับเบือนหน้าหนี เขินกับการกระทำอันแสนซุ่มซ่ามของตัวเอง



พอดีที่แคชเชียร์สาวเดินออกมาจากประตูหลังที่อนุญาตให้เฉพาะพนักงานเท่านั้น เธอเดินถือไม้ถูพื้นด้านยาวออกมาด้วย ปากก็บอกให้ลูกค้าช่วยหลีกทางให้หน่อย แต่พอมาถึงที่ ๆ ธนัชฌากับชายแปลกหน้ายืนอยู่ สาวแคชเชียร์ ถึงกับตะลึงในความหล่อเหลา คมเข้มของชายหนุ่ม ความสดใสน่ารัก  ของธนัชฌา ทั้ง ๆ ที่ตอนแรกที่เดินเข้ามาเธอไม่ได้สังเกตเห็น ทำเอาแคชเชียร์สาวยืนเคลิ้มไปหลายวินาที


"พี่ฮะ เกี๋ยวกุ้งช่วยเข้าเวปให้ผมด้วยนะครับ" ธนัชฌายื่นภาชนะที่บรรจุอาหารที่เขาต้องการให้ พร้อมวางนมสดที่เลือกมาลง เพื่อทำการคิดเงิน

"ซักครู่นะคะ" สาวแคชเชียร์กล่าวจบก็รีบเช็ดคราบกาแฟที่เลอะอยู่ทันที




เด็กหนุ่มหน้าตาน่ารักคนนี้เป็นใครกันนะ .........ชายหนุ่มพลางนึกในใจ




อยากเป็นเมฆ

ประธานนักศึกษา

โพสต์
3204
พลังน้ำใจ
8487
Zenny
21444
ออนไลน์
669 ชั่วโมง

สมาชิกระดับเพชรคู่สมาชิกจีโฟกาย 100%สมาชิกระดับตรีเพชรสมาชิกระดับมรกตสมาชิกระดับไพลินสมาชิกระดับทับทิมสมาชิกระดับแพลตตินั่ม

9#
 เจ้าของ| โพสต์ 2011-4-10 20:49:00 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
Chapter 5 :

รุ่งเช้า ธนัชฌายังคงต้องรีบเร่งเช่นเดิม การทำอะไร ๆ รีบ ๆ มันไม่ค่อยถูกกับเขาเลย ยิ่งทำให้เขาซุ่มซ่ามหนักไปกันใหญ่  ผลงานชิ้นเอกทิ้งท้ายไว้ก่อนที่จะออกไปทำงานวันนี้ แก้ว 1 ใบ จาน 2 ใบ แตก!! และแผลจากการลื่นล้มในห้องน้ำอีก 2 รอย ...... จะมีชีวิตรอดอยู่ถึง อายุ 35 ไหมเนี้ย??

เมื่อถึงห้องของนักร้องหนุ่ม ธนัชฌาก็กดกริ่งทันที พลางมองดูนาฬิกา " เก้าโมงครึ่ง เข้างานก่อนเวลา แฮะวันนี้" รอยยิ้มปรากฎที่มุมปากของหนุ่มน้อย เขานึกในใจอย่างน้อยก็คงไม่โดนตำหนิเรื่องเวลาเข้างาน



"มาแล้วเรอะ!!?" โฟมกล่าวเสียงแข็ง ธนัชฌาตกใจ.......ทำไมต้องกระแทกเสียงกันด้วยเนี้ย


"มีอะไรหรือเปล่าครับ" เสียงเปร่งออกมาจากปากบางเบา ๆ  เขาไม่เข้าใจกับอารมณ์อันแสนแปรปรวนของเจ้านายหนุ่มแม้แต่น้อย


"ไปดูผลงานที่ทำไว้เมื่อวาน ข้างนอกซิ" ชายหนุ่มกล่าว แล้วก็เดินไปนั่งที่โซฟา พลางหยิบหนังสือพิมพ์ขึ้นมาอ่าน


"อะไรอีกหล่ะ ผ้าเมื่อวานก็ซักแล้วนี่" หนุ่มน้อยหน้าบึ้ง เดินออกไปที่ระเบียง




มือเล็กเรียวบางคว้าเสื้อเชิตสีขาวแถบส้มหน้าอกมีรูปปีกนกสีดำที่แขวนอยู่ขึ้นมาดู เขาใช้จมูกดม 'ก็หอมดีออก' พลิกไปดูคราบเปื้อน 'ก็ไม่มีนี่นา สะอาดดี'


"ไม่เห็นมีอะไรนี่  จะว่าคนอื่นก็หัดหาหลักฐานหน่อยซิ" ร่างบางแยกเขี้ยวใส่ เตรียมจะแขวนเสื้อไว้ที่เดิม ร่างสูงโปร่งแข็งแรงรีบตรงเข้ามาคว้าขอมือเล็กไว้แล้วบอกให้ตามมา



มือหนาเปิดฝักบัวให้สายน้ำกระทบกับตัวเสื้อ ดวงตาใสกลมโตแสดงแววตาสลดทันทีที่เห็นเสื้อเชิตตัวนั้น ตัวที่เขาจับเมื่อครู่ เต็มไปด้วยฟอง....



"ซักแบบนี้ใครจะไปใส่ได้ ทำงานสะเพร่า ถ้าทำอย่างงี้ ไม่ทำซะยังจะดีกว่าเลย" โฟมกระแทกเสียงดุใส่ สีหน้าเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ



"ขอโทษครับ" ธนัชฌากล่าวสั้น ๆ ด้วยน้ำเสียงเนือง ๆ เจื้อนหน้ารับผิด เดินคอตกเข้าไปในครับ โฟมถึงกับชะงัก ทำไมว้นนี้เขาไม่เห็นเถียงหรือทำอะไรซักอย่างที่จะให้ตัวเองพ้นผิด กลับยอมรับดื้อ ๆ หรือว่าเราจะว่าเขาแรงไป??





ถึงอย่างไร นักร้องหนุ่มก็ต้องวางฟอร์มเดิม "ขอโทษงั้นเรอะ  ไม่ดีมั้ง เอาเป็นว่าชดเชยที่นายซักเสื้อฉันไม่สะอาด ทำให้ฉันไปทำงานที่สตูดิโอไม่ได้ งานก็ไม่ได้ทำ ต้องขอเลื่อนเขาออกไปก่อน วันนี้นายก็ .........เลิกงานซัก 4 ทุ่มแล้วกัน"



"เฮ้ย!!!! ได้ไง" ธนัชฌาตะโกนออกมา........จะบ้าเหรอไง อุตสาห์ไม่เถียงแล้วนะ จะให้เลิก 4 ทุ่ม ก็เท่ากับทำงาน 12 ชั่วโมง จะไปฟ้องกระทรวงแรงงานเว้ย!!!





ตลอดทั้งวันธนัชฌาแทบไม่ได้หยุดพัก เจ้านายหนุ่มสุดหล่อหางานให้ทำจนร่างบางแทบไม่มีเวลาหายใจด้วยซ้ำ  หนุ่มน้อยนึก ....เหมือนหมอนี่แกล้งเรานี่นา เหอะ ที่ใครที่มัน ซักวันจะเล่นให้ตกเป็นข่าวหน้าหนึ่ง ดาวรุ่ง ก็ดาวรุ่งเถอะ พ่อจะสอยลงมาให้ดู.....ธนัชฌายัวะจัด



อาหารกลางวันและเย็น เป็นการอุปการะจากนักร้องดังด้วย บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยี่ห้อต่าง ๆ หลากหลายรสชาด ให้ธนัชฌาเลือกได้ตามสบาย ถึงกระนั้นก็เถอะ ไม่ว่าจะเลือกรสไหนมันก็เป็นแค่แป้งกันน้ำดี ๆ แค่นั้นเอง




เวลาล่วงเลยไปจนทุ่มเศษ ธนัชฌากำลังรีดเสื้อสูทตัวเก่งราคาแพงริบริ่วด้วยความระมัดระวัง เพราะขืนเขาทำพังอีกคงต้องทำงานเพิ่มจาก 2 เดือน เป็น 1 ปี แหง ๆ




"ระวังหน่อยนะ นายบื้อ ตัวนั้นหลายหมื่น" ชายหนุ่มกล่าวในอิริยาบถเดิม ๆ ธนัชฌาแยกเขี้ยวใส่เพราะรู้ว่าหมอนั่นไม่ได้หันมาดูแน่นอน



"เสื้อตัวนี้ปักดิ้นทองคำหรือไงกัน ราคามันถึงแพงได้ขนาดนั้น" เสียงเล็ดลอดออกมาตามไรฟันเบา ๆ นักร้องหนุ่มไม่ได้ยินแต่อย่างใด



"อ่ะนี่ กุญแจสำรอง  พรุ่งนี้ฉันไม่อยู่ต้องไปที่สตูดิโอ นายก็เข้ามาทำความสะอาดตามปกติ ออกไปแล้วก็ล๊อคห้องให้ด้วยละกัน" มือหนายืนกุญแจให้ ร่างบางรับไว้ พลันพยักหน้าทำความเข้าใจ ถึงแม้ว่าจะสงสัยบางสิ่งอยู่บ้างก็ตาม......ไว้ใจกันถึงขนาดนี้เลยเหรอ?  ฮึ!!! ดี จะได้ยกไปให้หมดเลย



"อย่าคิดว่าฉันไว้ใจนายนะ เพราะฉันฝากให้ ร.ป.ภ. กับแม่บ้านดูแลห้องนี้เป็นพิเศษ คอยรายงานการเข้าออกของนายทุกฝีก้าว เรื่องที่นายจะพาคนมายกเค้า เลิกคิดไปได้เลย ไม่มีทาง!!" กล่าวจบเขาก็ปิดทีวีแล้วเดินเข้าห้องนอนไป ธนัชฌาบ่นแกมเสียดาย ออกมาเบาๆ "หนอย!! ดันรู้ดีซะอีก"





อีกเพียงชั่วโมงเศษ ก็เลิกงานแล้ว ตอนนี้ธนัชฌากำลังเช็ดระเบียงตามคำสั่งล่าสุดของโฟม เจ้านายผู้อำมหิตผิดมนุษย์มนา หนุ่มน้อยคอตกจำใจทำต่อไป เพราะยังไม่ถึงเวลาเลิกงาน เขาแทบจะเอาศีรษะโขกพื้นให้ตาย ๆ รู้แล้วรู้รอดไป ไม่รู้สั่งมาได้ไงให้เช็ดระเบียง นี่ถ้าหากเป็นบ้านเดี่ยวไม่ต้องปีนขึ้นไปขัดหลังคาด้วยเรอะ!!?




"ฮ่า ฮ่า ฮ่า " ธนัชฌาส่งเสียงหัวเราะปลอบใจตัวเองทั้งที่อยากร้องไห้



"อีกชั่วโมงเดียวจะสี่ทุ่มแล้ว โฮะ ๆๆๆ อีกอึดใจเดียวก็จะได้กลับบ้านแล้ว วะฮะ ๆๆๆ" หนุ่มน้อยเริ่มออกอาการเสียสติ เพราะตลอดเวลา 12 ชั่วโมงเขาทำงานจะหาเวลาพักไม่เจอ



"เสาระเบียงต้นที่หนึ่ง เสาระเบียงต้นที่สอง ........" ร่างบางเริ่มนับให้กำลังใจตนเองเสียงดังเข้าไปถึงในห้องนอนของชายหนุ่ม โฟมรำคาญจึงตะโกนออกมา "บ้าไปแล้วรึไง ฮะ!!!"




"ติ๊งต่อง ติ๊งต่อง" เสียงกริ่งหน้าห้องดังขึ้น ชายหนุ่มตะโกนออกมาจากห้องอีกครั้ง



"เฮ้ นายบื้อ ไปเปิดประตูหน่อยซิ" ธนัชฌาแทบอยากจะเข้าไปเอามีดปาดคอหมอนั่นให้ตาย ๆ ไปซะ ......ใช้ได้ไม่เว้นเวลาหยุดราชการ



"ไม่ว่างโว้ยยยย!! ขัดเสาระเบียงอยู่"  ด้วยอารมณ์หงุดหงิดงุ่นง่าน เก็บกดมาตลอดทั้งวันทำให้ริมฝีปากบางหลุดประโยคนี้ออกไป



"ถ้าฉันออกไปเปิดเอง วันนี้นายจะต้องเลิกงานตี 2" ชายหนุ่มตะโกนออกมา โดยยื่นคำขาดอีกครั้ง วันนี้ทั้งวันน้ำชาเจอประโยคทองเหล่านี้นับครั้งไม่ถ้วน....... คำก็เพิ่มเวลา สองคำก็เพิ่มเวลา ทำให้ครบ 24 ชั่วโมงเลยดีไหม?



"ก็ได้ ๆ " ธนัชฌาตะโกน "ไร้มนุษยธรรม อำมหิต เอาแต่ใจ บ้าอำนาจ เผด็จการ โว้ยยย!! ไม่รู้จะเอาหมอนั่นไปเปรียบเทียบกับอะไรแล้ว" หนุ่มน้อยกระฟัดกระเฟียด ไปเปิดประตูโดยที่ริมฝีปากก็ยังขมุบขมิบบ่นไม่หยุด



"ใครมาวะเนี้ย ไม่รู้เวล่ำเวลาเลย" ร่างบางยังคงบ่น ก่อนจะเอื้อมมือไปปลดล๊อคประตู



"สวัสดีครับ" ริบฝีปากที่ตอนนี้ซีดเผือดต้องฝืนกล่าวทักทายด้วยมารยาทกับแขกเบื้องหน้า



"อ้าว!! คุณ คนที่ล้มในเซเว่นเมื่อคืนนี่ จำผมได้ไหมครับ คนที่ช่วยคุณไว้หน่ะ" ชายแปลกหน้ากล่าว พลางยิ้มอย่างยินดีที่เขาได้เจอกับหนุ่มน้อยน่าตาน่ารักคนนี้อีกครั้ง แต่ธนัชฌาไม่ได้รู้สึกเช่นนั้นเลย เขาเหนื่อยอ่อน สมองสั่งการเพียงแค่ .......พักเถอะ ธนัชฌา ต้องพักได้แล้ว ขืนไม่พัก จะไม่มีโอกาสไปโรงพยาบาลนะ ตรงเข้าไปที่วัดเลย เตรียมเผา ??



"นายบื้อ  ใครมาหน่ะ?" เสียงดังออกมาจากห้องพร้อมกับร่างสูงโปร่งที่ออกมาดูว่าใครมากัน



"ลมอะไรหอบมาถึงที่นี่เนี้ย" น้กร้องหนุ่มถาม "เข้ามาก่อนครับ นายบื้อไปเอาน้ำมารับแขกหน่อย"



"นายบื้อเหรอ?" ชากแปลกหน้าทำหน้างงพลางถามนักร้องดัง" ทำไมไปเรียกน้องเค้าอย่างนั้นหล่ะ"



"พี่มาร์ทรู้จักหมอนั้นด้วยเหรอครับ" โฟมถามโปรดิวเซอรหนุ่มรูปหล่อ



"อืม ก็เมื่อคืนพี่เป็นคนช่วยเขาไว้เองแหละ น้องคนนั้นน่ารักดีออกเขาน่าจะมีชื่อนะไม่น่าไปเรียกเขาอย่างงั้น" มาร์ทติง แล้วหันไปถามชื่อของธนัชฌา



"ขนาดคนอื่นเขายังอยากรู้เลยว่าชื่อผมชื่ออะไร ไม่เหมือน........." หนุ่มน้อยละเอาไว้"ผมชื่อน้ำชาครับ" ริบฝีปากบางยิ้มให้อย่างเป็นมิตร ทำเอาหัวใจของมาร์ทเต้นรัว.....ทำไมถึงยิ้มได้ละลายใจขนาดนั้น นะ



"อ๋อ ชื่อน้ำชาหรอกเหรอ มีชื่อก็ไม่บอก" โฟมทำหน้าทะเล้น น้ำชาอยากจะยกลำโพงที่ตั้งอยู่ข้าง ๆ ทุ่มใส่จริง ๆ


"แล้วน้ำหล่ะ เมื่อไหร่จะได้ ดื่มวันนี้นะ" ร่างสูงสั่ง ธนัชฌาเหลือบมองนาฬิกา สี่ทุ่มห้านาที........ เฮ นี่มันได้เวลาแล้วนี่


"กลับแล้วนะครับ" ธนัชฌายิ้มเย้ย พลางใช้มือชี้ไปที่นาฬิกาแสดงให้เห็นว่า หมดเวลาทำงานแล้ว ชายหนุ่มกัดฟัน จำใจปล่อยให้กลับไป ตัวเขาเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงอยากให้หมอนั่นอยู่ด้วยกันกับเขานาน ๆ หรือเป็นเพราะว่า เขาเหงา





เป็นอะไรไปธีรนัฐ............นี่มันก็ได้เวลาของหมอนั่นแล้วนี่ ยังอยากให้เขาอยู่ทำไม




อยากเป็นเมฆ

ประธานนักศึกษา

โพสต์
3204
พลังน้ำใจ
8487
Zenny
21444
ออนไลน์
669 ชั่วโมง

สมาชิกระดับเพชรคู่สมาชิกจีโฟกาย 100%สมาชิกระดับตรีเพชรสมาชิกระดับมรกตสมาชิกระดับไพลินสมาชิกระดับทับทิมสมาชิกระดับแพลตตินั่ม

10#
 เจ้าของ| โพสต์ 2011-4-10 20:50:43 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
Chapter 6 :


หลังจากที่ธนัชฌากลับบ้านไป มาร์ทเองต้องเรียกสติโฟมให้กลับมาเพราะเห็นว่านักร้องหนุ่มยังคงเหม่ออยู่ที่ประตู ไม่ได้สนใจเขาผู้เป็นแขกแม้แต่น้อย


"ว่าไง  มีเรื่องอะไรถึงได้มาหาผมถึงที่นี่" นักร้องหนุ่มถาม

"ก็มีหน่ะซิ ไม่มีจะมาทำไมกัน"


มาร์ทเป็นโปรดิวเซอร์หนุ่มหล่อ มาดแมน ที่แฝงไปด้วยความอบอุ่น เขาทำงานอยู่บริษัทเดียวกันกับโฟม มาร์ทนั่งคุยเกี่ยวกับงานที่สตูดิโอพรุ่งนี้ว่า ต้องเลื่อนออกไปอีกวันนึง เพราะว่าสตูดิโอที่เราใช่ไม่ว่าง นักร้องหนุ่มพยักหน้าเข้าใจ ลึก ๆ เขากลับรู้สึกดีใจซะด้วยซ้ำ ที่ไม่ต้องไปทำงานจะได้มีเวลาพักผ่อนและที่สำคัญ เขาจะได้อยู่กับใครบางคน


"เออ ว่าแต่ทำไมน้องนำชาเขาถึง......"มาร์ทยังพูดไม่จบประโยคก็ถูกโฟมแทรกขึ้นมาซะก่อน

"ถึงได้มาเป็นคนทำความสะอาดห้องผมใช่ไหม"เหมือนรู้ทัน โปรดิวเซอร์หนุ่มพยักหน้า

"นั่นหล่ะ  เล่าให้ฟังหน่อยซิ" มาร์ทตื่นเต้นที่ได้จะฟังเรื่องราวของธนัชฌา เด็กหนุ่มหน้าใส ที่แสนจะซุ่มซ่าม แต่ก็สามารถทำให้โปรดิวเซอร์หนุ่มหล่อ สนใจได้

"แหนะ ! เดี๋ยวนี้รสนิยมแปลก ๆ นะพี่มาร์ทเนี้ย" โฟมยิ้ม ขำ ๆ

"เออน่า  เล่ามาเถอะ"



ธีรณัฐ เริ่มเล่าตั้งแต่เขาไปพักผ่อนที่สวนสาธารณะโดยจอดรถทิ้งไว้แล้วลงไปซื้อยา เขากำลังจะออกรถอยู่แล้ว จู่ ๆ ก็มีเสียงดัง เพล้ง ที่กระจกหลัง เขาเลยต้องตงมาดู ถึงรู้ว่าเป็นฝีเท้าการเตะฟรีคิกของน้ำชา โฟมเล่าทุกอย่างที่เขารู้มาอย่างละเอียดให้มาร์ทฟัง โปรดิวเซอร์หนุ่มนั่งคิดพลางยิ้ม.......... อ๋อ  ที่แท้เป็นอย่างนี้นี่เอง นึกว่านายโฟมนักร้องหนุ่มรูปหล่อซุปเปอร์สตาร์คนล่าสุด จะเป็นเกย์


ห้าทุ่มตรง มาร์ทขอตัวกลับก่อน และบอกว่าไว้วันหลังจะมาเยี่ยมใหม่ ในใจเขาก็นึกแผนการที่จะพาหนุ่มน้อยหน้าใสจอมซุ่มซ่าม ออกไปเที่ยวกับเขาให้ได้............ ถึงแกจะไม่ค่อยชอบเด็กนั่น แต่ฉันชอบว่ะ น่ารักดีออก


ในขณะที่นักร้องกับโปรดิวเซอร์หนุ่มคุยกันอยู่นั้น ธนัชฌาต้องหอบร่างที่แสนหนังอึ้งจาการถูกใช้งานอย่างหนักตลอดเวลา 12 ชั่วโมง กลับบ้าน ระหว่างทางหนุ่มน้อยออกอาการโซเซอย่างเห็นได้ชัด เกือบล้มอยู่หลายหน กว่าจะประคองชีวิตตัวเองให้ถึงที่บ้านได้ก็เกือบแย่ เมื่อถึงบ้านเขาก็พุ่งตรงไปยังเตียงนอนทันที แต่ก็ไม่ลืมที่จะตั้งนาฬิกาปลุกเอาไว้ ด้วยเกรงว่าพรุ่งนี้จะไปทำงานไม่ทัน



ตลอดทั้งคืน ธนัชฌารู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ เหมือนเป็นไข้ นอนพลิกไปมาหลายครั้ง ก่อนที่เขาจะนอนก็ไม่ได้กินยาอะไร เพราะตอนนั้นร่างกายยังไม่แสดงอาการ อีกอย่างน้ำชาก็คิดแค่ 'คงเพลียจากการทำงานล่ะมั้ง' ธรีณัฐคงไม่รู้หรอกว่า ที่ธนัชฌาป่วย เป็นเพราะฝีมือเขา



"สวัสดีครับ" ร.ป.ภ หนุ่มคนเดิมกล่าวทักทายด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม

"ครับ" ธนัชฌาเจื้อนหน้า ยิ้มให้บาง ๆ ร.ป.ภ. หนุ่มสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจนว่าวันนี้หนุ่มน้อยคงอาการไม่ค่อยดีนัก

"เป็นอะไรหรือเปล่าครับ สีหน้าไม่ค่อยจะดีเลย" ไม่ทันที่ธนัชฌาจะตอบ เขาก็ทำท่าเซจะล้มลง ดีว่า ร.ป.ภ. พยุงไว้ได้ทัน

"ไปนั่งพักก่อนดีไหมครับ ตัวคุณร้อนมากเลย" เขากล่าวด้วยสีหน้าที่แสดงความเป็นห่วงอย่างมาก

"ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณมาก ๆ" ริมฝีปากบางกล่าวขอบคุณ ฝืนร่างกายเดินต่อไป



เมื่อมาถึงหน้าห้องของนักร้องหนุ่มมือบางเรียวยาวกำลังจะเอื้อมมือไปกดกริ่งแต่ฉุกนึกขึ้นมาได้ว่า วันนี้หมอนั่นไม่อยู่ เมื่อนึกได้เขาก็หยิบกุญแจสำรองที่โฟมให้มา ไขที่ประตูเข้าไป ธนัชฌาเดินครงไปยังห้องน้ำ กะว่าจะไปล้างหน้าล้างตาให้สดชื่นซะหน่อยก่อนจะลงมือทำงาน



"เฮ้ย!!/เฮ้ย!!" น้ำชาและโฟมอุทานขึ้นมาพร้อมกัน

"นายไม่ได้ไปทำงานรึไงกัน"  ธนัชฌาหันหลังทันควันเมื่อสายตาบังเอิญไปเห็น นักร้องหนุ่มยืนอยู่ในห้องน้ำ มีเพียงผ้าขนหนูสีขาวสะอาดตานุ่งอยู่เพียงผืนเดียว ทำเอาใบหน้ากลมมนร้อนผ่าวขึ้นมาทันที

"ฉันควรจะถามนายมากกว่าว่าเข้ามาได้ไง ทำไมไม่กดกริ่งเรียก" โฟมก็อายเช่นกัน แม้ว่าคนที่อยู่ตรงหน้าจะเป็นเพศเดียวกับเขา แต่ด้วยอะไรบางอย่างไม่รู้ที่ทำให้เขารู้สึกอายเช่นนี้



หนุ่มน้อยหยิบกุญแจขึ้นมาแล้วชูขึ้น ในขณะที่เขากำลังหันหลังอยู่ "ก็นายให้นี่ไว้นี่น่า" พูดจบธนัชฌาก็รีบเดินออกจากห้องน้ำมา ตัวเขาเองก็ไม่เข้าใจกับบางสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าเมื่อครู่เช่นกัน รู้สึกเพียง อาการแย่ ๆ ของเขาเหมือนจะดีขึ้นมาเล็กน้อย


ส่วนโฟมก็รีบปิดประตูห้องน้ำแล้วล๊อคทันที เขาก็ยังคงอายอยู่เหมือนกัน ในใจก็หวั่น ๆ ว่ามีบางอย่างกำลังคืบคลานเข้ามาโดยที่เขาไม่รู้ตัว


ธนัชฌาเริ่มต้นตั้งหน้าตั้งตาต่อไป เมื่อทำไปได้ซักพัก เขาก็รู้สึกว่าอาการแย่ ๆ เริ่มกลับมาอีกครั้ง แต่เขาก็พยายามฝืนร่างกายตนเอง ใบหน้าที่ปกติเคยขาวนวลมีเลือดฝาด ดูสดใส ริมฝีปากที่เคยมีสีชมพูระเรื่อ ตอนนี้ไม่เป็นเช่นนั้นอีกแล้ว หนุ่มน้อยหน้าขาวปากซีด ถ้าหากเข้ามาสังเกตใกล้ ๆ ก็จะเห็นได้ทันทีว่าเขาป่วย


"เพล้ง!!!!"

เสียงจานแก้วตกลงกระแทกพื้นกระเบื้อง แตกละเอียด ซึ่งปกติก็จะเป็นเช่นนั้นอยู่แล้วแต่คราวนี้ไม่เหมือนกัน ตัวธนัชฌาไม่สามารถที่จะทำงานต่อไปได้อีกแล้ว  ขนาดจานแก้วเพียงใบเดียวเขายังถือมันไว้ไม่อยู่



"เฮ้!! นาย เมื่อไหร่จะเลิกทำลายข้าวของซักที" ธีรณัฐเดินออกมาจากห้องน้ำ เพื่อมาดูผลงานที่ธนัชฌาทำไว้ แล้วเขาก็ต้องส่ายหัว 'ให้มันได้อย่างงี้ทุกวันซี่' โดยที่ไม่ได้สังเกตเห็นสีหน้าน้ำชาเลยว่าตอนนี้ เขาย่ำแย่แค่ไหน

"ขะ ...ขะ ขอโทษครับ" เสียงบางแผ่วเบาเล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากแห้งกร้าน ชายหนุ่มรู้สึกแปลกใจที่ปกติแล้ว หมอนี้ต้องเถียงหรือไม่ก็ต้องทำอะไรซํกอย่างเป็นการประชด แต่วันนี้ทำไมยอมรับแถมเสียงยังดูเหนื่อย ๆ ด้วย........นายจะมามุขไหนกันอีกหล่ะเนี้ย

"เลิกใช้มุขแกล้งป่วยได้แล้ว มันไม่ได้ผลหลอก"

"..................." เงียบ ไม่มีเสียงใด ๆ ตอบกลับมา โฟมก็ยังคงเห็นว่า น้ำชายังสามารถทำงานได้ เลยไม่ได้สนใจอะไร



ธนัชฌาค่อย ๆ ใช่มือประคองตัวเองไว้ เขารู้สึกเวียนหัวหนัก เหมือนข้าวของทุก ๆ อย่างในห้องกำลังโคจรรอบตัวเขา อากาศที่หายใจก็เหมือนจะไม่พอ มันเบาบางอย่างบอกไม่ถูก ถึงแม้ว่าอาการเขาจะย่ำแย่เต็มที่ แต่เขาก็พยายามฝืนมันไว้ให้มากที่สุด ซึ่งตัวเขาเองก็ไม่รู้ว่าจะทนอยู่ในอาการแย่ ๆ แบบนี้ได้นานอีกเท่าไหร่


ธีรณัฐ เตินตรงไปที่โซฟา แล้วทิ้งตัวลง มือหนาเอื้อมไปหยิบรีโมท มาเปิดทีวีดู


"นี่นาย ทำตรงนั้นเสร็จแล้ว ขอกาแฟให้ฉันแก้วนึงด้วย ไม่ใส่น้ำตาล" ชายหนุ่มตะโกนสั่งเข้าไปในครัว

"ได้ยินหรือเปล่า นายบื้อ!!" โฟมต้องชะโงกกลับมาดู แต่ก็ไม่เห็นร่างบาง เขาเริ่มเอะใจแล้วว่า หมอนั่นหายไปไหน ............. หายไปไหนวะ หลบไปอู้งานแหง ๆ


ร่างสูงลุกขึ้นบิดขี้เกียจ แล้วเดินตรงไปยังห้องครัว เพื่อไปดูว่า ธนัชฌาหายไปไหน พอไปถึง ชายหนุ่มก็ต้องตกใจ เมื่อที่พื้นห้อง ปรากฎ ร่างของธนัชฌา นอนฟุบแน่นิ่งอยู่กับพื้น


"นี่นาย เป็นอะไรไป อย่ามาแกล้งฉันน่า" ร่างสูงพยายามเรียก โดยในใจก็ยังคงลังเลว่า หมอนี่แกล้งทำ หรือเป็นจริง ๆ

"เฮ้ย!!! ทำไมตัวร้อนอย่างงี้วะเนี้ย" แขนแกร่งช้อนร่างบางขึ้นมา โฟมสัมผัสได้ถึงอุณหภูมิที่ร้อนจัดได้ทันที



เขาวางร่างบางลงที่โซฟา โดยที่พื้นปรากฎรอยเลือดเป็นทางยาว โฟมยิ่งตกใจหนักเข้าไปใหญ่ รีบดูที่ร่างของธนัชฌาว่าเลือดออกมาจากที่ใด แล้วก็เห็นว่าเลือดออกมาจากแผลบริเวณแขนที่โดนเศษจานแก้วบาดถึงแม้จะไม่ลึกมากแต่ก็ทำให้ใจของโฟมอดที่จะวิตกไม่ได้

นักร้องหนุ่มรีบไปหาผ้าชุบน้ำเย็นกับชุดปฐมพยาบาลมา เขาค่อย ๆ ทำแผลให้ธนัชฌาเบา ๆ ส่วนผ้าที่ชุบน้ำมาก็วางไว้บนหน้าผากเพื่อลดความร้อน ลมหายใจรวยระรินราวกับว่าจะหยุดมิหยุดแหล่ะ ทำเอาโฟมน้ำตาคลอด้วยความสงสาร เขาโทษตัวเองที่ใช้งานหนุ่มน้อยมากเกินไป หากเมื่อวานเขาแกล้งใช้งานหนักกับหมอนี่ ธนัชฌาก็คงไม่ตกอยู่ใสสภาพแย่ ๆ แบบนี้

โฟมกุมมือน้ำชาไว้แน่น ในใจก็พยายามภาวนาให้เขารู้สึกตัวเร็ว ๆ ถึงอย่างไรเขาก็อดที่จะตำหนิตัวเองไม่ได้กับการกระทำอันเผด็จการและเอาแต่ใจของเขาอยู่ดี



ความรู้สึกต่าง ๆ ที่ประดังกันเข้ามา ทำให้นักร้องหนุ่มรู้สึกสับสนกับบางสิ่งตรงหน้า เขารู้สึกอย่างไรกับธนัชฌากันแน่ ความรู้สึกแบบนี้ คงจะมากกว่า สิ่งที่เรียกว่า เจ้านาย กับ คนใช้ เป็นแน่.............. ธีรณัฐอย่าหวั่นไหวเด็ดขาดนะ นายเป็นถึงซุปเปอร์สตาร์แล้วอีกอย่างหมอนั่นก็เป็น ผู้ชาย




อยากเป็นเมฆ

ประธานนักศึกษา

โพสต์
3204
พลังน้ำใจ
8487
Zenny
21444
ออนไลน์
669 ชั่วโมง

สมาชิกระดับเพชรคู่สมาชิกจีโฟกาย 100%สมาชิกระดับตรีเพชรสมาชิกระดับมรกตสมาชิกระดับไพลินสมาชิกระดับทับทิมสมาชิกระดับแพลตตินั่ม

11#
 เจ้าของ| โพสต์ 2011-4-10 20:51:25 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
Chapter 7 :


"ตื่นแล้วเหรอ  เป็นไงดีขึ้นไหม"  ชายหนุ่มในชุดกันเปื้อนกล่าวพลางยิ้ม ธนัชฌาลุกจากโซฟาขึ้นมานั่งมองดูแผลที่แขน


"นี่ นายทำแผลให้ฉันเหรอ?" ริมฝีปากบางซึ่งตอนนี้กลับมาสีชมพูระเรื่ออีกครั้งเอ่ยถาม


"อืมซิ  ถ้าฉันไม่ทำแล้วใครจะทำหล่ะ อืม......ว่าแต่หิวแล้วรึยัง ฉันเพิ่งผัดสปาเก็ตตี้เสร็จเดี๋ยวไปล้างหน้าล้างตา แล้วมาทานด้วยกันนะ" โฟมยิ้มให้อีกครั้งก่อนที่จะเดินเข้าครัวไป หนุ่มน้อยรู้สึกตกใจกับการเปลี่ยนแปลงของเจ้านายสุดหล่อ ราวกับหลังเท้าเป็นหน้ามือ......... แค่เป็นลมล้มฟุบ แค่นี้ หมอนั่นเปลี่ยนไปได้ถึงขนาดนี้เลยเหรอเนี้ย รู้งี้ล้มซะตั้งนานก็ดี


"ไม่รบกวนดีกว่าครับ  นี่ก็......" ดวงตาใสเป็นประกายเหลือบมองนาฬิกาแขวน" หา!!!  ห้าโมงเย็นแล้วเหรอ" ธนัชฌาตกใจเมื่อเห็นเวลา


"งั้นผมต้องขอตัวกลับก่อนนะครับ แล้วเรื่องงานจะทำชดเชยให้ทีหลัง" ขาเรียวยาวเตรียมก้าวเท้าออกไปแต่กลับเซไหลจะไปกองกับพื้น ดีที่เขาใช้มือค้ำตัวเองกับโซฟาไว้ทัน


"ฉันว่าคืนนี้นายพักที่นี่แหละ ดูสารรูปแล้วขืนกลับบ้านไป เดี๋ยวจะเป็นงานให้รถมูลนิธิมาเก็บศพนายเปล่า ๆ" เสียงดังมาจากในครัว หนุ่มน้อยแยกเขี้ยวใส่ทั้งที่รู้ว่าเขาไม่เห็น


"ได้ไง แล้วผมจะนอนตรงไหน ไหนจะอาบน้ำ เสื้อผ้าก็ไม่มี จะให้ผมอยู่อย่างไงกัน" ธนัชฌาแย้ง


"ที่นอนฉันเตรียมไว้แล้ว ส่วนเรื่องเสื้อผ้าใช้ของฉันก่อนก็ได้ มีอะไรสงสัยอีกไหมครับ" ชายหนุ่มเน้นเสียงหนักเชิงประชด ธนัชฌาถอนหายใจ........นี่สรุปแล้ว ฉันต้องอยู่กับนายใช่ไหมเนี้ย


"เฮ ๆๆ อย่าบอกนะว่าคิดอกุศลกับผมหน่ะ"


"นายคิดเองนะ ฉันเนี้ยนะจะไปทำอะไรแบบนั้น" โฟมหัวเราะคิก เมื่อได้ยินประโยคดังกล่าว...... เพ้อเจ้อไปกันใหญ่ ฉันเนี้ยนะจะไปทำอะไรแบบนั้น ไม่สิ้นไร้ไม้ตอกขนาดนั้นหรอกเฟ้ย


"อีกอย่าง เด็กผู้ชายอย่างนาย ก็คงจะไม่มีเสน่ห์เพียงพอที่จะทำให้ฉันพาขึ้นเตียง เหมือนสาว ๆ ได้หรอก แล้วฉันก็ไม่ได้ทำงานอยู่กรมป่าไม้ด้วย" พูดจบก็ถอผ้ากันเปื้อนออกแขวนไว้แล้วเดินออกมาจากครัว เตรียมจะเข้าห้องน้ำ


"พูดให้มันดี ๆ นะ ผมอายุ 20 แล้ว ไม่ใช่เด็กอย่างที่คุณกล่าวหา" ว่าไงนะ นายเนี้ยนะ 20 ไม่จริงมั้ง........โฟมทำหน้า งง ไม่เชื่อสายตาตัวเอง หนุ่มน้อยที่อยู่กับเขา หน้าตาละอ่อน จะอายุ 20 ไม่เชื่อ อย่างไงเขาก็ไม่เขื่อเด็ดขาด


"อืม........ถ้างั้นก็เป็นอันตกลง แล้วที่นอนผมหล่ะคงไม่ใช่โซฟานี่หรอกนะ" ธนัชฌา เปลี่ยนอารมณ์เร็วกริ๊บ ทำเอาโฟมเองที่ยืนตะลึงตกใจซ้ำอีกครั้งกับอารมณ์อันสุดแสนจะแปรปรวนของลูกจ้างคนนี้.............. อะไรของเขากันนะ ตะกี้ยังบ่นอยู่เลย








โฟมเปลี่ยนใจจากเดิมที่จะตรงไปเข้าห้องน้ำมานั่งข้าง ๆ แล้วชี้ไปที่ห้องอีกห้องซึ่งเป็นห้องที่ติดอยู่กับห้องของเขาเอง แล้วบอกน้ำชาว่า คืนนี้ให้น้ำชานอนในห้องนี้ ส่วนเสื้อผ้ารวมถึงของใช้ต่าง ๆ เขาเตรียมไว้ให้หมดแล้ว วางอยู่ในห้องนั่นแหละ ธนัชฌาพยักหน้าเข้าใจและยิ้มตอน รอยยิ้มที่สดใสนี้เองทำให้นักร้องหนุ่มรู้สึกแปลก ๆ

ระหว่างที่ธนัชฌากำลังมองดูแผลที่แขนตัวเอง โฟมเอื้อมฝ่ามือไปแตะหน้าผากของน้ำชาเบา ๆ คนถูกแตะถึงกับสะดุ้ง





"อืม  ไข้ลดแล้วนี่"  ธนัชฌาหน้าแดงร้อนผ่าว เมื่อเห็นนักร้องหนุ่มตรงหน้าเป็นห่วงเขาถึงขนาดนี้

"ครับ......" หน้ากลมมนได้แต่ก้มหน้างุดหลบอาการเขินอาย พลางกล่าวขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อน ร่างสูงหัวเราะกิ๊ก เมื่อเห็นท่าทางที่เคอะ ๆ เขิน ๆ ของน้ำชา




ขาเรียวบางก้าวเท้าเข้าห้องน้ำอย่างทุลักทุเล เซบ้างเล็กน้อย แต่ก็พอที่จะทรงตัวอยู่ได้ ธนัชฌายังคงตุ๊บ ๆ ต่อม ๆ กับเหตุการณ์เมื่อครู่อยู่บ้าง แต่ในเมื่อมาหยุดอยู่ตรงหน้าตัวเองอีกคนในกระจก ก็อดที่จะสอดส่อง สังเกตตัวเองไม่ได้ "ว่าไปหน้าตาเราก็ไม่เลวนี่นา สุดยอดแห่งความน่ารักแล้ว ธนัชฌาเอ๋ย ฮ่า ๆๆ" หลังจากที่สร่างไข้ได้ไม่นาน หนุ่มน้อยก็ออกอาการเสียสติเล็ก ๆ อีกครั้ง(ท่าจะบ้า เฮ้อ)




เขายืนได้ซักพัก ก็ตัดสินใจที่จะอาบน้ำ เลย ค่อย ๆ เดินไปยังห้องนอนตามที่ชายหนุ่มบอก เมื่อเข้าไปถึงก็เห็นชุดนอนลายหมีน้อยสีฟ้าอ่อนกับผ้าพันคอไหมพรมสีขาว รวมถึงอุปกรณ์ของใช้ต่าง ๆ ทั้ง ผ้าขนหนูผืนใหญ่ แปรงสีฟัง ยาสีฟัน..........หมอนั่นเตรียมพร้อมขนาดนี้เลยเหรอ?



ธนัชฌาหอบเอาเสื้อผ้าอุปกรณ์ต่าง ๆ ออกมาจากห้อง ตรงจะเข้าห้องน้ำแต่ถูกนักร้องหนุ่มร้องทักซะก่อน





"นาย  อย่าอาบน้ำนะ  เช็ดตัวก็พอ เดี๋ยวไข้จะพาลขึ้นสูงอีก" ชายหนุ่มออกอาการห่วงใยผ่านถ้อยคำที่ฟังแล้วดูอบอุ่น หนุ่มน้อยได้แต่ก้มหน้าเข้าใจ คำพูดที่ห่วงใยแปลก ๆ เหล่านั้น ทำให้เขารู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ พิกล.......... อย่ามาหว่านเสห่น์แถวนี้นะ  ใจเย็น ๆ ไว้ก่อนธนัชฌา อย่าเพิ่งไปหลงคารม ไม่รู้ว่าหมอนั่นจะมาไม้ไหน



มือขาวเรียวค่อย ๆ ถอดเสื้อออก ดวงตากลมโตเพ่งดูตัวเองในกระจกอีกครั้ง แต่แล้วก็ต้องสะดุ้งโหยง




"เออนี่.............ผ้าเอาไว้เช็ดตัว ผมลืมเตรียมไว้ให้อ่ะ" โฟมชะโงกหน้าเข้ามา ยิ้มแฮะ ๆ แล้วยื่นผ้าเช็ดตัวผืนเล็กให้



"ขอบใจนะ แล้วก็รีบออกไปได้แล้ว" หนุ่มน้อยเอื้อมมือมารับไว้ แยกเขี้ยวใส่ แล้วรีบใช้มือผลักผู้หวังดีออกไปจากห้องน้ำ





โฟมรีบถอนตัวออกมา ใบหน้าคมคายร้อนผ่าว ๆ เขาแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง หนุ่มน้อยคนนั้น จะมีรูปร่างดีอย่างไม่น่าเชื่อ ผิวขาวนวลผ่อง เอวคอดได้สัดส่วน หน้าท้องแบนราบ นี่ถ้าหากไม่รู้จักเขาคงจะคิดว่าเป็นผู้หญิงไปแล้ว จะไม่ใช่ก็แค่หน้าอกที่แบนราบเรียบก็เท่านั้น ชายหนุ่มเริ่มหวั่นไหวกับสิ่งที่พบตรงหน้า..........เฮ้  ธีรณัฐเลิกคิดได้แล้ว เพ้อเจ้อไปกันใหญ่ หมอนั่นผู้ชายชัด ๆ นะเฟ้ย






อาหารมื้อนี้ เป็นไปตามที่นักร้องบอก สปาเก็ตตี้หน้าทะเล สลัดผักสด แล้วก็น้ำส้มคั้น ธนัชฌาแต่ตัวตามชุดที่โฟมจัดไว้ให้ ซึ่งโดยปกติตัวเขาเองก็น่ารักอยู่แล้ว แต่เมื่อใส่ชุดนอนลายหมีน้อยยิ่งทำให้หนุ่มน้อยน่ารักขึ้นไปใหญ่ ขนาดร่างสูงยังไม่อยากที่จะละสายตาเลย





"นาย!!!  มองอะไรเล่า" คนถูกมองติง เขาก็เขินเป็นเหมือนกัน............. อยู่ ๆ ก็ถูกซุป
เปอร์สตาร์จ้องหน้า เป็นใครจะไม่เขินบ้างหล่ะ


"เปล่า ๆ ทานเลย" โฟมรีบปฎิเสธ................ก็นายมันน่ามองจริง ๆ นี่นา


"งั้นผมไม่เกรงใจนะ ป่านนี้ไม่รู้พวกพยาธิจะเป็นอย่างไง" พูดจบมือเล็กก็คว้าส้อมขึ้นมา โฟมหัวเราะกั๊กกับประโยคท้าย แต่ด้วยความซุ่มซ่ามของธนัชฌาที่แทรกซึมอยู่ในสายเลือดตั้งแต่เกิด ศอกเจ้ากรรมดันไปเกี่ยวโดน แก้วน้ำ ตกลงแตกกระจาย


"เฮ้อ ~~ ขอโทษครับ" ธนัชฌาถอนหายใจ เตรียมลุกเก็บเศษแก้วที่กระจายตามพื้น


"เอ้ย!! ไม่ต้องนายยังไม่หายดี เดี๋ยวพี่เก็บเอง" หนุ่มน้อยแปลกใจแทนที่ชายหนุ่มจะตีหน้ายักษ์ ต่อว่าหาว่าเขาซุ่มซ่าม กลับกลายเป็นเขาจะเก็บแทน แถมยังแทนตัวเองว่าพี่อีก.......... แปลก ๆ แฮะ โดนคุณไสย์เปล่าเนี้ย


"อืม แล้วอีกอย่าง เลิกเรียกฉันว่านายนั่นนายนี่ได้แล้ว ฉันมีชื่อนะ" นักร้องหนุ่มนิ่งไปในขณะที่เขากำลังเก็บเศษแก้วนั้นอยู่ " เอาเป็นว่า เรียกฉันว่า พี่โฟมแล้วกันถึงอย่างไงฉันก็ยังแก่กว่านายหลายปี"



"งั้น นาย......เอ้ย!!! พี่โฟมก็เลิกเรียกผมว่า นายบื้อซะที ผมก็มีชื่อเหมือนกันนะ" หนุ่มน้อยนิ่งไป ทำท่าทางเลียนแบบนักร้องหนุ่มทุกประการ "เอาเป็นว่า เรียกผมว่า น้ำชาละกัน เพราะถึงอย่างไงผมก็อ่อนกว่าพี่อยู่ดี" ธีรณัฐหัวเราะก๊าก กับท่าทางเรียนแบบ น่ารัก ๆ ของหนุ่มน้อยจอมซุ่มซ่าม เล่นเอาเจ้าตัวหันกลับมาค้อนควับเบ้หน้าใส่ แต่ถึงอย่างไง โฟมก็ไม่หยุดหัวเราะซะที.........ร้ายจริงๆ นะ ตัวแค่นี้






อาหารตรงหน้าหมดไปอย่างรวดเร็ว ในขณะที่เขาทั้งคู่ทานอยู่นั้น ร่างบางก็ชวนโฟมคุยโน่นนี่ตลอดเวลา แต่แทนที่เขาจะรำคาญกับรู้สึกสนุกมากกว่า ซึ่งตัวเขาเองก็แปลกใจเหมือนกัน ปกติเขาจะเป็นคนขี้หงุดหงิดทนฟังคนอื่นพูดได้ไม่นาน แต่ทำไมวันนี้ถึงรู้สึกอยากฟัง อยากรู้เรื่องราวเกี่ยวกับคน ๆนั้นที่อยู่ตรงหน้าเขามากนักก็ไม่รู้




"เออ.....พี่โฟมครับ เหนื่อยไหมที่ต้องเป็นนักร้องดัง" ธนัชฌายิงคำถามขึ้นมาด้วยเสียงแผ่ว ๆ ใบหน้าเขาดูอิ่มเอิบขึ้นมากหลังอาหารมื้อนี้


"ก็มีบ้างนะ แต่พอเห็นหน้าแฟนเพลงมีความสุขแล้วมันก็หายเหนื่อยอ่ะ แล้วน้องน้ำชาถามทำไม" หนุ่มน้อยรู้สึกหวิว ๆ ขี้นมาทันทีเมื่อร่างสูงเรียกเขาว่า น้อง...... น้องน้ำชางั้นเหรอ  จั๊กจี้หว่ะ  แหวะ  


"พี่เลิกเรียกผมว่าน้องเถอะครับ น้ำชาเฉย ๆ พอ ผมฟังแล้วขนลุก" ธนัชฌากล่าวพร้อมทั้งแสดงท่าทางขนลุกให้ชายหนุ่มดู โฟมเห็นก็อดที่จะยิ้มไม่ได้กับความไร้เดียงสาของน้ำชา .......... เนี้ยนะ อายุ 20 ทำตัวเป็นเด็กเล้ย  ให้ตายซิ




หลังจากมื้อเย็นผ่านไปพ้นไป หนุ่มน้อยก็เหลือบมองนาฬิกา เพิ่งจะ 2 ทุ่มเศษ เขาแกล้งหาวเพื่อให้ชายหนุ่มเห็น โฟมมองหน้าแล้วถามว่า "ง่วงแล้วเหรอ" ซึ่งธนัชฌาก็ไม่ได้ตอบอะไรเพียงแต่พยักหน้า จริง ๆ แล้วเขาไม่ได้ง่วงหรอกเพียงแต่ว่ายังไม่คุ้นกับท่าทีและสายตาแปลก ๆ ของโฟม ที่เปลี่ยนไปอย่างผิดหูผิดตาราวกับเทพบุตร ทั้ง ๆ ที่เมื่อก่อนยังเป็น ซาตานอยู่เลย



"ว่า~ แย่จัง วันนี้ท้องฟ้าโปร่งซะด้วย กะว่าจะชวนดูดาวด้วยกันซะหน่อย อืม ถ้าง่วงก็ไม่บังคับละ ราตรีสวัสดิ์แล้วกัน" อยู่ ๆ โฟมก็เอ่ยขึ้นมา หัวใจของน้ำขาเต้นตึกตักซึ่งมันไม่เคยเกิดขึ้นกับเขามาก่อน............ว่าไงนะ จะชวนผมดูดาวเหรอ








ธนัชฌากำลังสับสนกับความรู้สึกตัวเองและท่าทีที่เปลี่ยนไปของโฟม ซึ่งก็ไม่ต่างอะไรกับนักร้องหนุ่มที่ตกใจเหมือนกันว่า อะไรทำให้เขาต้องเปลี่ยนไปถึงขนาดนี้............เฮ้ย !! โฟมนี่นายชวนหมอนั่นดูดาวเหรอ??????




อยากเป็นเมฆ

ประธานนักศึกษา

โพสต์
3204
พลังน้ำใจ
8487
Zenny
21444
ออนไลน์
669 ชั่วโมง

สมาชิกระดับเพชรคู่สมาชิกจีโฟกาย 100%สมาชิกระดับตรีเพชรสมาชิกระดับมรกตสมาชิกระดับไพลินสมาชิกระดับทับทิมสมาชิกระดับแพลตตินั่ม

12#
 เจ้าของ| โพสต์ 2011-4-10 20:52:54 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
Chapter 8 :

"จริง ๆ แล้วผมก็ไม่ได้ง่วงเท่าไหร่หรอก ว่าแต่เราจะดูดาวกันที่ไหน? ระเบียงเหรอ?" สมองยังไม่ทันส่งการ ปากมันก็โพล่งออกไปแล้ว............ปากพร่อย จริง ๆ เลยเรา


"อืม ที่ระเบียงดิ สรุปจะดูด้วยกันกับพี่ใช่ไหม" โฟมยิ้มพลางเก็บถ้วยจานบนโต๊ะ....... เอาน่าโฟม หมอนั่นเป็นแค่น้องชาย ท่องไว้นะ น้องชาย




ที่ระเบียงมีเก้าอี้แบบมีพนักพิงเอนได้อยู่สองตัว ตัวหนึ่งเป็นของนักร้องหนุ่ม และอีกตัวหนึ่งเป็นของคนที่ถูกเรียกว่าน้อง โฟมกำลังเพลิดเพลินกับการดูดาวที่ส่องสว่างเต็มท้องฟ้า แต่ธนัชฌากำลังก้มหน้าก้มตาเขียนอะไรขยุกขยิก จนร่างสูงสงสัยและอดที่จะถามไม่ได้


"ทำอะไรอยู่หล่ะเรา" โฟมเอ่ย โดยทำทีไม่สนใจ


"อืม.............. วาดอะไรไปเรื่อยเปื่อยหน่ะฮะ" ริมฝีปากบางกล่าว ยิ้ม ๆ


"ไหนขอพี่ดูหน่อยซิ"


"ไม่มีอะไรหรอกครับ ก็แค่......."  ไม่ทันพูดจบก็ถูกแย่งไปซะก่อน



ภาพที่ปรากฎอยู่ในกระดาษเป็นรูปจันทร์เสี้ยวหลับตาพริ้มอยู่ข้าง ๆ กับหมู่ดาวที่เหมือนกำลังส่องแสงระยิบระยับ เรียงรายอยู่เต็มท้องฟ้า เบื้องล่างมีกระต่ายน้อยตัวหนึ่งแหงนหน้ามองจันทรา เหมือนกับว่าอยากจะขึ้นไปสัมผัส แต่ก็คงเป็นไปไม่ได้ ภาพนี้เหมือนสื่อความหมายบางอย่างเป็นนัย ๆ โดยที่เจ้าของรูปก็ไม่รู้ตัวเช่นกัน



"วาดได้สวยดีนี่ น่าจะไปเป็นนักวาดการ์ตูนพี่ว่าต้องรุ่งแน่ ๆ " พูดจบโฟมก็แหงนมองท้องฟ้าเหมือนเดิม



นักร้องหนุ่มเริ่มเล่าเรื่องราวในอดีตของตนเองให้คนข้าง ๆ ฟ้งโดย เริ่มตั้งแต่เป็นวัยรุ่นจนโตและได้เป็นนักร้องจนถึงปัจจุบัน เขาเล่าไปได้ซักพักก็หันกลับมามองคนข้าง ๆ ซึ่งตอนนี้ นอนขดตัวหลับปุ๋ยไปแล้ว



"หลับไปซะแล้ว" โฟมได้แต่ยิ้ม ๆ กับน่านอนหลับที่น่าเอ็นดู


"น้ำชา    น้ำชา" นักร้องหนุ่มพยายามเรียก แต่เรียกเท่าไหร่ก็ไม่เป็นผล


"งั้นก็............................"




แขนแกร่งค่อย  ๆ ช้อนร่างบางขึ้น กลิ่นหอมจากแป้งอ่อน ๆ ปลิวตามสายลมขึ้นมาแตะจมูก ไออุ่นจากร่างบางเข้ามากระทบผิวกายทันทีที่เขาอุ้มน้ำชาขึ้นมา เป็นอีกครั้งที่หนุ่มน้อยคนนี้ เข้ามาอยู่ในอ้อมกอดอันแข็งแกร่งของเขา โฟมต้องใช้ความอดทนอย่างมาก ที่จะพยายามไม่คิดเลยเถิดไม่ให้เขาเป็นไปมากกว่าพี่ชายเพราะว่า ฐานะที่เขาเป็นนักร้องซุปเปอร์สตาร์ยังคงค้ำคออยู่





แสงแดดยามเย็น??? สาดส่องเข้ามากระทบกับผนังห้อง มือบางขยี้ตาเบา ๆ ก่อนจะบิดขี้เกียจเล็ก ๆ พลางสอดส่องสายตาไปโดยรอบ



"ฟื้นแล้วเหรอ?" นักร้องหนุ่มถาม ธนัชฌาทำหน้างง ๆ ..............ฟื้นแล้ว   อะไร????


"ทำไมผมมานอนที่โซฟาได้ล่ะครับ พี่โฟม" หนุ่มน้อยทำตาบ่องแบ๋ว โฟมหันควับมามองตาขวางใส่ทันที


"เรียกฉันว่าไงนะ  เรียกอีกทีซิ"


"พะ.......พี่โฟมไง คุณเป็นคนบอกให้ผมเรียกเองนี่นา จำไม่ได้เหรอ" ดวงตาใสกลมโตแสดงอาการประหลาดใจ


"เพ้อเจ้อ  ฉันอนุญาตนายตอนไหนกัน"


"ก็เมื่อเย็น นายเป็นคนดูแลฉันอย่างดี  ทำโน่นทำนี่ให้ เมื่อคนยังไปนอนดูดาวด้วยกันตรงระเบียงอยู่เลย "


"ฮ่า ฮ่า ฮ่า นอนดูดาวงั้นเรอะ   ประสาท!!! ขนาดผู้หญิงฉันยังไม่เคยชวนเลยแล้วประสาอะไรกับนายที่เป็นผู้ชาย นี่ ล้มหัวฟาดพื้นแค่นี้ ถึงกับเบอร์ไปเลยเหรอ  เลิกฝันกลางวันได้แล้ว"




ธนัชฌายังคง งง ๆ  กับเรื่องราวที่เกิดขึ้น เขายังจำได้ดีว่า โฟมเองเป็นคนดูแลเขา ให้ที่พัก ทำอาหารให้กิน ชวนดูดาว ไม่คิดว่าพอตื่นมาอีกทีจะกลายเป็นคนละคน หรือว่าทั้งหมดที่เกิดขึ้นจะเป็นความฝัน


สายตายังคงพยายามมองหาหลักฐานว่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวเขาเป็นเรื่องจริง ไม่ใช่ฝัน แล้วก็ไปสะดุดตากับ นาฬิกาเรือนใหญ่ที่แขวนอยู่ที่ผนัง มันแสดงเวลา ห้าโมงเย็น สิบนาที


"วันนี้วันที่เท่าไหร่" อยู่ ๆ ธนัชฌาก็ โพล่งออกมา

โฟมส่ายหัว เขาไม่เข้าใจเหมือนกันว่า หมอนั้นไปเอาความคิดแปลก ๆ มาจากไหน แม้ว่าเรื่องที่หมอนั่นป่วยเขาอาจจะมีส่วนอยู่ แต่ไม่น่าจะทำให้น้ำชาสมองกลับฝันกลางวัน เพ้อเจ้ออะไรได้ถึงขนาดนี้


"วันที่ 4  พฤศจิกายน" ชายหนุ่มตอบแล้วก็เดินเข้าห้องน้ำไป


"วันที่ 4 ............มันเมื่อวานนี้หนิ??   งั้นก็แสดงว่า เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น พี่โฟม น้องน้ำชา ดูดาว เป็นความฝันงั้นเหรอ??" ธนัชฌาได้รู้ความจริง ก็คอตก ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ทั้ง ๆ ที่จะได้ญาติดีกันแล้วแท้ ๆ เชียว..............นี่เราเป็นอะไรไป ถึงฝันได้เป็นตุเป็นตะถึงขนาดนั้น แถมในฝันก็ยังเป็นภาพสีด้วยนะ ไม่ใช่ขาวดำ


ธนัชฌาพยุงตัวเองให้ลุกขึ้น เดินตรงไปที่หน้าห้องน้ำ เพื่อตะโกนบอกให้ ชายหนุ่มรู้ ว่าเขาจะกลับที่พักแล้ว ซึ่งในขณะที่โฟมเองกำลังล้างหน้าล้างตาอยู่



"กลับแล้วนะ ขอบคุณสำหรับการดูแลที่ดี" อดไม่ได้ที่จะแยกเขี้ยวใส่ ด้วยความหมั่นใส้ในทีท่าอันวางมาด ขี้เก็ก ของนักร้องหนุ่ม


"กลับแล้วเหรอ? หมอนั้นจะรอดถึงบ้านไหมนะ" เสียงเล็ดลอดออกมาตามไรฟันเบา ๆ ดูก็รู้ว่าเขาเป็นห่วงหนุ่มน้อยคนนั้นแค่ไหน



น้ำชาก้าวเท้าออกจากประตู ค่อย ๆ เดินออกมา มืออีกข้างก็ลูบ ๆ คลำ ๆ ที่แผลแล้วก็อดที่จะยิ้มไม่ได้ ถึงแม้ว่าโฟมจะเป็นคนขี้เก็ก วางมาด แต่ก็ยังคงมีมุมดี ๆ ที่คนรอบข้างไม่ได้สัมผัส ซึ่งธนัชฌาเป็นคนแรกที่พอจะรู้สึกได้  'อ่อนโยนกับเขาก็เป็นเหมือนกันนี่นา'  หนุ่มน้อยพลางมองดูผ้าพันแผลที่ชายหนุ่มทำให้อย่างละเอียดประณีต



"สวัสดีครับ น้องน้ำชา กำลังจะกลับเหรอ?" โปรดิวเซอร์หนุ่มหล่อทัก พลางยิ้มโชว์ฟันสวยสะอาดตา


"อ้าว!! พี่มาร์ท  สวัสดีครับ เลิกงานแล้วกำลังจะกลับครับ" มาร์ทเห็นแผลที่แขนก็อดที่จะถามไม่ได้


"แขนไปโดนอะไรมาครับหน่ะ" ชายหนุ่มถามด้วยความเป็นห่วง แววตาที่แสดงออกมา ธนัชฌารู้สึกได้เป็นอย่างดี


"ผมซุ่มซ่ามเองครับ  ก็เลยเกิดเรื่อง แล้วจะเล่าให้ฟังวันหลังนะครับ วันนี้ผมขอตัวกลับก่อน" พูดจบก็รีบเดินออกไป




มาร์ทเห็นท่าทางที่ไม่สู้ดีของน้ำชาก็เลยอาสาจะไปส่ง ซึ่งธนัชฌาก็พยายามปฏิเสธว่าไม่เป็นไร เขาสามารถกลับเองได้ แต่มาร์ทก็ไม่ยอมท่าเดียว  น้ำชาเลยจำใจยอมให้มาร์ทไปส่ง แต่มีข้อแม้ว่า จะต้องเดินไปด้วยกัน เพราะระยะทางจากที่นี่ไปยังบ้านพักของธนัชฌาไม่ไกลมาก อีกอย่างเขาก็เกรงใจโปรดิวเซอร์หนุ่ม ถ้าใช้รถยนต์จะกลายเป็นการสิ้นเปลืองไปเปล่า ๆ ............ทั้งสองคนไม่รู้เลยว่าระหว่างที่เขาคุยกัน โฟมแอบดูอยู่ตลอด


ระหว่างทางน้ำชาเล่าเรื่องที่โฟมใช้งานอย่างหนักจนทำให้เขาป่วย เป็นลมล้มพับ แล้วโดนเศษจานแก้วบาดที่แขนให้มาร์ทฟัง  ชายหนุ่มฟังแล้วก็โมโหที่หนุ่มน้อยที่เขาแอบปลื้ม ถูกใช้งานอย่างหนัก เลยอาสาจะชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมดแทนให้เพื่อที่น้ำชาจะได้ไม่ต้องทำงานเหมือนทาสอีก แต่ธนัชฌาไม่ยอมเพราะนี่เป็นเรื่องที่เขาก่อขี้นเอง เขาจะต้องเป็นคนรับผิดชอบ แล้วก็ขอบคุณที่มาร์ทยื่นความช่วยเหลือให้



"หวอ   หวอ   หวอ!!!" เสียงสัญญาณดังขึ้นใกล้ๆ  ระแวกบ้านเช่าของธนัชฌา หนุ่มน้อยตกใจเกรงว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น จึงรีบวิ่งไปดูที่ ๆ คนมุงอยู่ พลางถามเหตุการณ์ โดยมีมาร์ทวิ่งตามไปติด ๆ


"เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ คุณลุง" ชายแกหันหน้าตามเสียงเรียก


"ก็ไฟไหม้หน่ะซิหนู ลุงก็ไม่รู้ อยู่ ๆ ไฟมันก็ลุกขึ้นมา"


"ไฟไหม้!!!!!"



ธนัชฌารีบวิ่งตรงไปยังบ้านเช่าของตนเอง  ไม่รู้ว่าจะโดนไหม้ด้วยรึเปล่า และแล้วน้ำตาก็เอ่อล้นไหลอาบแก้มใส อย่างหยุดไม่อยู่ เมื่อเบื้องหน้า บ้านเช่าที่เขาเช่าอยู่พร้อมข้าวของทุกอย่างกำลังลุกโหมด้วยแสงสีแดงสดของไฟ  หนุ่มน้อยเข่าอ่อน นั่งลงฟุบอยู่กับพื้น น้ำตายังคงไหลออกมาไม่หยุด เสียงสะอื้นเล็ก ๆ ค่อย ๆ ดังขึ้น จนคนข้าง ๆ อดที่จะสงสารไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง  มาร์ท



"ไม่......ไม่เหลือ.....ไม่เหลืออะไรอีกแล้ว" แสงสีแดงสดส่องเข้ามากระทบหยดน้ำที่ไหลออกมาจากตาใสผสมกับเสียงสะอื้นที่ดังออกมาเป็นระยะ ๆ ทำเอาใจของโปรดิวเซอร์หนุ่มแทบจะสลายแทน


"ฮึก.....ฮือ~..ไม่ เหลือ อะไร แล้ว จริง ๆ ..........ฮือ ~ ไม่มี"




อยากเป็นเมฆ

ประธานนักศึกษา

โพสต์
3204
พลังน้ำใจ
8487
Zenny
21444
ออนไลน์
669 ชั่วโมง

สมาชิกระดับเพชรคู่สมาชิกจีโฟกาย 100%สมาชิกระดับตรีเพชรสมาชิกระดับมรกตสมาชิกระดับไพลินสมาชิกระดับทับทิมสมาชิกระดับแพลตตินั่ม

13#
 เจ้าของ| โพสต์ 2011-4-10 21:55:55 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
Chapter 9:


มาร์ทค่อย ๆ นั่งลงแล้วลูบศีรษะธนัชฌาเบา ๆ  เสียงสะอื้นที่เล็ดลอดออกมายิ่งทำให้ใจเขารู้สึกสะท้าน สงสารหนุ่มน้อยอย่างจับใจ



"ฮือ ๆๆ ~ ~ ฮึก" ธนัชฌายังคงสะอื้นไม่หยุด


"แย่เลยนะหนู แล้วคราวนี้จะไปอยู่ไหนล่ะ" หญิงแก่คนหนึ่งเดินเข้ามาถาม หนุ่มน้อยได้แต่แหงนหน้ามอง


"ฮึก ๆ  ไม่รู้เหมือนกันครับ ฮึก ๆ ~ ผม......ทำอะไรไม่ถูกแล้ว"


"เอางี้นะครับน้องน้ำชา ไปพักกับพี่ก่อนก็ได้นะ" ชายหนุ่มยิ้มปลอบใจ พยายามประคองน้ำชาให้ลุกขึ้น


"จะดีเหรอครับ?" ธนัชฌาถามเสียงแผ่ว ๆ


"ดีซิ พี่อยู่คนเดียว มีน้องมาเพิ่มอีกคน จะได้ไม่เหงา"


"เออ...................."




มือเล็กบาง ค่อย ๆ ปาดน้ำตาที่อาบแก้มออก เขาอยากจะขอบคุณคนตรงหน้าเหลือเกินแม้ว่าจะรู้จักกันไม่นาน แต่พี่เขาก็ดูจริงใจ คอยช่วยเหลือมาโดยตลอด.........ทำไมพี่มาร์ทดีกับผมจัง



"แต่ว่าผมต้องไปทำงานกับหมอนั่นนะครับ ถ้าไปอยู่กับพี่คงไม่สะดวกเท่าไหร่" รอยยิ้มจาง ๆ ปรากฎที่ใบหน้าของน้ำชา ทำให้มาร์ทใจชื้นขึ้นมาได้บ้าง


"ใช่ครับ  คงไม่สะดวกจริง ๆ อย่างที่หมอนี่ว่า เอาเป็นว่าน้ำชาพักกลับผมก็แล้วกัน" เสียงทุ้มนุ่ม ดังกังวานมาจากด้านหลัง น้ำชากับมาร์ทรีบหันหลังทันควัน


"โฟม/นาย"


"ใช่ครับผมเอง ขอบคุณพี่มาร์ทนะครับที่หวังดี" พูดจบโฟมก็ดึงมือน้ำชาไปที่รถ(เรียกว่าลากถึงจะถูก) โดยผ่านสายตาหลายสิบคู่ที่จ้องดู มันเหมือนศึกชิงนาย??? ในละครอย่างไงอย่างงั้น


โปรดิวเซอร์หนุ่มยืนงง พูดอะไรไม่ออก ได้แต่เก็บความรู้สึกเอาไว้ ในใจก็ยังคงนึกว่า ซักวันโชคคงจะเป็นของเขาบ้าง



ธนัชฌาพยายามสะบัดข้อมือให้หลุดจากพันธนาการของชายหนุ่ม แต่เรี่ยวแรงเพียงน้อยนิดหรือจะได้ผล สุดท้ายก็ต้องยอมแต่โดยดี



"พาฉันไปอยู่ด้วย ไม่รำคาญหรือไง" ธนัชฌาเบ้ยหน้าหนี หันไปมองกระจกแทน คำพูดที่แฝงไปด้วยความน้อยใจคนข้าง ๆ หรือจะไม่รู้


"ไม่รู้ รู้แต่ว่า ฉันไม่ชอบที่หมอนั่นจะมาแย่งคนทำงานฉันไป" ชายหนุ่มกล่าว ..........ทำไมปากไม่ตรงกับใจอย่างนี้วะเนี้ย  


"งั้นเหรอ" หนุ่มน้อยนิ่งไป "ปล่อยผมลงเถอะครับ เรื่องงานไม่ต้องห่วงผมมาทำแน่นอน" ร่างบางน้อยใจที่คนข้าง ๆ เห็นเขาเป็นเพียงแค่คนทำความสะอาด น้ำใส ๆ ค่อย ๆ ไหล ออกมาจากดวงตาสวยอีกครั้ง ..........ใช่ซินะ นอกจากคนใช้นายก็ไม่เคยมองฉันเป็นอย่างอื่น



เสียงสะอื้นค่อย ๆ ดังขึ้นมาจากร่างบาง น้ำชาหมดเรี่ยวแรงและกำลังใจที่จะพูดต่อ ทีแรกก็ดีใจอยู่หรอกที่หมอนั่นยังห่วงอยู่บ้าง แต่ตอนนี้เหลือเพียงน้ำตาที่คอยเป็นเพื่อนปลอบใจ  โฟมเห็นอาการของน้ำชาแล้ว ก็อดที่จะสงสารไม่ได้ ถึงเขาเองจะไม่รู้ว่าหนุ่มน้อยคนนี้เป็นใครมาจากไหน แต่เขารู้สึกว่า คน ๆ นี้คือคนที่เขาอยู่ด้วยแล้วสบายใจ



"เลิกกลัวแล้วร้องไห้เป็นเด็กซะที  ไม่ได้อยู่คนเดียวแล้ว มีผมอีกตั้งคน" อยู่ ๆ โฟมก็พูดประโยคนี้ออกมา น้ำชาฟังดูก็รู้สึกแปลก ๆ แต่มันก็อบอุ่นอย่างไม่น่าเชื่อ


"เอาหล่ะ เดี๋ยวฉันจะพานายไปซื้อเสื้อผ้า แล้วก็ของใช้ที่จำเป็น"


"แต่ผมไม่มี...................." ริมฝีปากบางเอ่ยขึ้นมาแค่ไม่กี่คำ


"ไม่ใช่ปัญหาหรอก เอาเป็นว่าฉันจะซื้อให้ละกันน่า " โฟมพูดจบก็ตั้งหน้าตั้งตาขับรถต่อไป ดูเหมือนเขาจะอารมณ์ดีเป็นพิเศษ




ทั้งคู่มาถึงห้างดังใจกลางเมืองก็มืดซะแล้ว โฟมหยิบแจ็คเก็ทสีดำสนิท หมวกและแว่นตาดำขึ้นมาใส่ เพื่ออำพรางฐานะของนักร้องดังระดับซุปเปอร์สตาร์ แล้วคว้าผ้าเช็ดหน้าผืนเล็กให้ธนัชฌาเช็ดหน้าเช็ดตาก่อนออกจากรถ


ธีรณัฐคว้าข้อมือธนัชฌาไว้ เดินจูงมือเข้าห้างดัง โดยหนุ่มน้อยก็พยายามสะบัดออก


"ไปต้องจูงก็ได้ ผมโตแล้วนะ" ใบหน้ากลมมนมีสี ร้อนผ่าว แหงนหน้ามองดูชายหนุ่ม พลางส่งสายตา บอกให้รู้ว่า ถ้าไม่ปล่อยตาย!!!


"อ้าวเหรอ?  ลืมไป นึกว่ายังเป็นเด็กอยู่" โฟมห้วเราะคิก เวลาร่างบางงอนหรือเขินก็น่ารักไปอีกแบบ เอ.............แต่ว่า เราคิดว่าหมอนั่นน่ารักเหรอ???


"ขำอะไรเล่า" ธนัชฌาหันมาตีหน้ายักษ์ใส่




นักร้องหนุ่มพาน้ำชามาถึงแผนกเสื้อผ้าบุรุษ ธนัชฌาได้แต่ยืนนิ่ง ๆ งง ๆ  ไม่ตัดสินใจว่าจะเลือกเสื้อผ้าแบบไหนดี เขายังคงเกรงใจนักร้องหนุ่มอยู่



"ยืนนิ่งทำไม ไปเลือกซิ กี่ชุดก็ได้ ตามใจนาย" โฟมยิ้มให้ แล้วใจมือตบบ่าธนัชฌาเบา ๆ คนถูกตบถึงกับสะดุ้ง


"แล้วเงินที่ต้องจ่ายค่าเสื้อ ผมจะหาเงินมาคืนได้อย่างไงหล่ะ ในเมื่อของเก่าก็ยังชดใช้ให้ไม่หมดเลย" หนุ่มน้อยเจื้อนหน้า ยิ้มแฮะ ๆ ดูทีท่าของร่างสูงว่าเขาจะว่าอย่างไร


"ก็..........เพิ่มงานให้นายอีกนิด นายก็ทำเพิ่ม แค่..... ทำอาหารแค่นั้นก็พอแล้ว อีกอย่างนายก็มาอยู่กันฉัน 24 ชั่วโมงแล้วนี่"


"ถ้าผมทำจะกินได้รึเปล่าก็ไม่รู้นะ คุณแน่ใจแล้วเหรอ?"


"เอาน่า แล้วค่อยว่ากันทีหลัง"




โฟมไม่ฟังธนัชฌาพูดแล้ว เขาพุ่งตรงไปยังชุดต่าง ๆ ที่แขวนเรียงรายอยู่ แล้วจัดการเลือกให้ทันที หลาย ๆ ชุดที่โฟมเลือกส่วนใหญ่จะเน้นสีที่ดูแล้วสบายตา สีฟ้า เขียวอ่อน น้ำเงิน ขาว ครีม ชมพู และเทา ธนัชฌาไม่ได้เลื่อกเสื้อผ้าด้วยตัวเองซักชุด ทุกอย่างให้นักร้องหนุ่มจัดการหมด............ก็แหงแหละ   เงินเขาไม่ใช่เงินเรานี่



"ลองเข้าไปเปลี่ยนดิ  ฉันว่าน่าจะเข้ากับนายได้ดี" มือหนายืนเสื้อและกางเกงที่เขาเลือกให้ หนุ่มน้อยจำใจทำตามอย่างเสียไม่ได้




เมื่อธนัชฌารับชุดมาจากนักร้องหนุ่ม ก็เดินหน้าบึ้งเขาห้องเปลี่ยนเสื้อไป เขาไม่ค่อยพอใจกับการกระทำอันเอาแต่ใจของโฟมซักเท่าไหร่ เพราะมันดูเหมือนว่าเขาเป็นตุ๊กตา นึกอยากจะให้ใส่ชุดไหนก็ใส่ นึกอยากจะให้เปลี่ยนก็เปลี่ยน  ถึงจะไม่เห็นด้วยอย่างไร ก็ชัดใจหมอนั่นไม่ได้อยู่ดี..................เผด็จการ เผด็จการ ฮืม ๆ ๆ



"เอ้า ! พอใจรึยัง เลือกชุดไหนมาผมก็ยังเป็นเด็กกะโปโลเหมือนเดิมแหละ" สายตาไม่ได้จ้องไปยังเบื้องหน้า หนุ่มน้อยแหงนหน้าขึ้นไม่มองคนรอบข้าง


"ไม่หรอกค่ะ  น่ารักจะตายชุดนี้  เดี๋ยวรอแป็ปนะคะ" พนักงานสาววิ่งไปที่โซนข้าง ๆ เมื่อเห็นลูกค้าเดินด่อม ๆ มอง ๆ หาพนักงานประจำอยู่



ธนัชฌาแปลกใจทำไมโฟมไม่เห็นพูดอะไรซักคำ ได้แต่จ้องที่ตัวเขาตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว ก็แค่เสื้อยืดคอวีสีขาว กับเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีครีมแถบสีชมพูอ่อน ๆ แบบมีหมวก แล้วก็กางเกงยีนส์ผ้าสีครีมที่มีกระเป๋ารอบตัว ดู ๆ แล้วมันก็เข้ากันได้ดี ไม่เห็นจะแปลกอะไรตรงไหน........................ทำไมจ้องนานแท้เล่า



"มองอะไรนักหนา มันดูไม่ดีเหรอ?"


"เปล่า   ฉันว่ามันเข้ากับนายได้ไม่เลวเลย  อืม........น่ารักดีออก" คนถูกแซวถึงกับหน้าแดงกล่ำ เขาไม่นึกว่า อยู่ ๆ หมอนั่นจะกล้าชมเขาซึ่ง ๆ หน้า


"งั้นคิดเงินเลยละกันนะ" พนักงานสาวอีกคนเดินออกมาจากประตูหลังพอดี


"ทั้งหมดนี่ครับ" นักร้องหนุ่มกล่าวจบก็ยื่นบัตรเครดิตให้


"ซักครู่นะคะ"




ระหว่างที่กำลังรอพนักงานสาว อยู่ ๆ ก็มีวัยรุ่นหญิงสองคนเดินเข้ามาหยุด แล้วทักขึ้นมา


"ใช่พี่โฟมที่เป็นนักร้อง หรือเปล่าคะ หนูว่าใช่แน่เลย"


เฮ้ย !!!! ตายหล่ะ รู้ได้ไงวะเนี้ย อุตสาห์ปลอมตัวแล้วยังเห็นอีก ทำไงดีวะโฟม คิดซิ?




อยากเป็นเมฆ

ประธานนักศึกษา

โพสต์
3204
พลังน้ำใจ
8487
Zenny
21444
ออนไลน์
669 ชั่วโมง

สมาชิกระดับเพชรคู่สมาชิกจีโฟกาย 100%สมาชิกระดับตรีเพชรสมาชิกระดับมรกตสมาชิกระดับไพลินสมาชิกระดับทับทิมสมาชิกระดับแพลตตินั่ม

14#
 เจ้าของ| โพสต์ 2011-4-10 22:01:59 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
Chapter 10:


"ว่าไงคะ ใช่พี่โฟมหรือเปล่า?" สาวผมสั้นหน้าตาคม ซักขึ้นมาอีกครั้ง


"เออ.......... ผมคิดว่าคุณทักคนผิดแล้วครับ ถ้าผมเป็นนายโฟมนักร้องดังที่คุณว่า ก็ดีหน่ะซิครับ ผมจะได้ร้องเพลงเพราะ ๆ ให้แฟนผมฟังทุกวัน" พูดจบโฟมก็เดินไปยังธนัชฌาที่กำลังเก้ ๆ กังอยู่ แล้วโอบไหล่ของหนุ่มน้อยเบา ๆ  ก่อนจะโน้มศรีษะลงมา


"ใช่ไหมจ๊ะ ที่รัก!?"  น้ำชาหันหน้ากลับทันควัน อ้าปากจะพูดแต่ถูกสายตาคมวิงวอนให้ปล่อยเลยตามเลยไปก่อน ซึ่งตัวหนุ่มน้อยเองก็กระอักกระอ่วน เพราะเขาเองก็ไม่เคยมีแฟนเป็นผู้ชาย เลยไม่รู้จะทำตัวอย่างไรดี................ โถ่เว้ย!!  ไม่มีแผนอื่นที่ดีกว่านี้แล้วหรือไง ก็เข้าใจอยู่หรอกนะว่าเป็นนักร้องดัง แต่..........


พอดีที่พนักงานสาวกลับมาพร้อมถุงเสื้อผ้าและบัตรเครดิต พอมาถึงเธอก็งง ๆว่าเกิดอะไรขึ้น


"เกิดอะไรขึ้นหรอคะ?" พนักงานสาวเอ่ยขึ้นมาพลางยื่นถุงเสื้อผ้าและคืนบัตรเครดิตให้กับโฟม


"ไม่มีอะไรครับ คงเป็นการเข้าใจผิดกันนิดหน่อย" โฟมใช้มือขวาถือของส่วนมือซ้ายก็จับมือธนัชฌาไว้แน่น หนุ่มน้อยเบ้หน้า.............จะต้องทนแบบนี้อีกนานไหมเนี้ย


"เราไปอะไรทานกันดีกว่าเนอะ ผมหิวแล้ว ถ้าเย็นนี้ไม่ได้ทานอะไร  คืนนี้ผมจะกินคุณทั้งคืนเลย" ^ ^ โฟมทำตากรุ้มกริ่มก่อนจะแอบหอมแก้มน้ำชาเบา ๆ ในช่วงที่เผลอเพื่อให้การแสดงครั้งนี้ สมจริง?   หนุ่มน้อยตกใจไม่นึกว่านักร้องดังจะกล้ามากถึงขนาดแอบหอมแก้มเขา ใบหน้ากลมมนตอนนี้แดงเป็นลูกตำลึง มือไม้สั่นทำอะไรไม่ถูก...............กะ กะ กินฉันทั้งคืน?? อะ ..อะ..เอาสมองส่วนไหนคิดเนี้ย ว๊าก ๆๆๆๆๆ


"ที่แท้ก็คู่เกย์  อย่างนายคงจะไม่ใช่นักร้องขวัญใจฉันหรอกย่ะ เราไปกันเถอะ" เมื่อเป้าหมายไม่ใช่ พวกเธอทั้งสองก็ถอย เดินจากไป โฟมถึงกับถอนหายใจเฮือกใหญ่ซึ่งต่างจากธนัชฌา ยังคืนยืนนิ่งไม่ติงไหว - -" .......... ช๊อค พะยะค่ะ



ธีรณัฐรีบจูงมือธนัชฌาออกมาจากโซนนั้นทันที โดยในใจก็อดจะขำกับท่าช๊อคแปลก ๆ ของหนุ่มน้อยไม่ได้ ................... ดูซิ มือเนี้ยเย็บเฉียบอย่างกะน้ำแข็ง สงสัยไม่เคยมีใครมาหอมแก้มล่ะซิ ฮ่า ฮ่า ฮ้า



"ปะ.....ปะ ปล่อย ปล่อยมือได้แล้ว" ริมฝีปากบางพูดติด ๆ ขัด ๆ เขายังไม่หายตกใจกับเหตุการณ์เมื่อครู่เลย................... ให้ตาย ไม่เคยเป็นถึงขนาดนี้มาก่อน


"อะไรกัน แค่นี้ถึงกับมือไม้สั่น นี่ถ้าเกิด...........คืนนี้....." โฟมเงียบไป แล้วทำตาเยิ้มใส่ ร่างบางหันมาสบตาพอดี เลยรีบเบือนหน้าหนี .......... ทำไมหมอนั้นต้องทำตา หื่น ๆ แบบนั้นด้วย ชักจะไม่ค่อยปลอดภัยซะแล้วซิ


"เลิกเล่นได้แล้ว ไม่มีแฟนคลับนายแล้วนี่" น้ำชาพยายามข่ม ทำใจดีสู้เสือ


"งั้นเอาของไปไว้ที่รถก่อน แล้วค่อยไปหาอะไรกินกัน ดีไหม ที่ร๊ากก!!" ถึงอย่างไรนักร้องหนุ่มก็อดที่จะแกล้งไม่ได้.................ก็มันน่าแกล้งนี่นา เลิกทำตัวน่ารักอย่างงั้นได้แล้ว เห็นแล้วหัวใจจะวาย


"เง้อ................แล้วอย่าเรียกผมว่า  ที่รัก อีกนะ ได้ยินแล้ว ขนลุก บรื้อ ~ ~ " หนุ่มน้อยส่ายศีรษะเบา ๆ ก่อนจะรีบวิ่งไปที่รถ โฟมก็อดที่ยิ้มไม่ได้.......แล้วจะไม่ให้แกล้งได้อย่างไร ก็ดูทำตัวเข้าซิ




ไป ๆ มา ๆ อาหารมื้อเย็นกลายเป็นอาหารกล่องแช่แข็งสำเร็จรูปแวะซื้อที่เซเว่นก่อนจะกลับที่พัก  ตลอดทาง หนุ่มน้อยนั่งนิ่งไม่พูดอะไรซักคำ เขายังคงคิดถึงแต่เรื่องนั้น?.......... ที่รักงั้นเหรอ แค่คิดก็ .... อึ๋ย ๆๆ



"ไปอาบน้ำก่อนไป เนื้อตัวดูไม่ได้เลย หยั่งกะลูกแมวตกน้ำ" พูดจบก็ขำ


"เออ......นี่ ห้องนายอยู่ห้องข้าง ๆ ฉันนะ มันอาจจะรก ๆ ไปนิด นายก็ทำความสะอาดหน่อยละกัน"


"อืม..........ขอบคุณครับ" ธนัชฌาขนเสื้อผ้าของใช้เดินเข้าห้องไป



ห้องนอนเป็นห้องเล็ก  ๆ ดวงตากลมใสสอดส่องทั่ว แล้วก็ต้องตกใจเพราะมันเหมือนกับที่เขาฝันทุกประการ หนุ่มน้อยตบหน้าตัวเองเบา ๆ เพื่อเรียกสติ........บังเอิญมากกว่า  เลิกเพ้อเจ้อแล้วไปอาบน้ำได้แล้ว



ร่างบางหอบเสื้อผ้าวิ่งเข้าห้องน้ำไป เขาค่อย ๆ บรรจงถอดอาภรณ์แต่ละชิ้นออกช้า ๆ  คราบน้ำตายังคงแห้งเกรอะอยู่บนใบหน้า เมื่อนึกถึงเวลาที่แสงสีแดงสดกำลังลุกโหม น้ำตาก็ค่อย ๆ ไหลออกมาอย่างหยุดไม่ได้ ที่นั่นเป็นที่ ๆ มีความทรงจำตลอด 3 ปีที่เขาเรียนอยู่ ทุกอย่างหายไปในพริบตา เพียงแค่เวลาไม่กี่นาที



หนุ่มน้อยใช้เวลาอาบน้ำพักเดียว ก็ออกมาในชุดนอนลายใบเมเปิ้ลสีน้ำตาลอ่อน ใบหน้าดูสะอาดสะอ้านขึ้นกว่าเดิม ตอนนี้ข้างนอกฝนตกหนัก เสียงของหยดน้ำกระทบกับตัวตึกอาจจะไม่ดังมากแต่ก็พอรับรู้ได้



"อาบเสร็จแล้วใช่ไหม ฉันอุ่นอาหารให้แล้ว" โฟมกล่าวแล้วยิ้มจาง  ๆ ธนัชฌายิ้มตอบ รอยยิ้มบาง ๆ แต่แฝงไปด้วยความเศร้า ชายหนุ่มเห็นก็อดที่จะสงสารไม่ได้


"ขอบคุณครับ"



อาหารแช่แข็งผ่านการอุ่นด้วยไมโครเวฟถูดจัดวางในจานอย่างสวยงาม ตอนนี้มันวางอยู่บนโต๊ะอาหารแล้ว ธีรณัฐเรียกให้ธนัชฌามานั่ง แต่หนุ่มน้อยมัวแต่เหม่อออกไปนอกหน้าต่าง ฝนยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดมีแต่จะตกหนักเรื่อย ๆ ประหนึ่งเหมือนฟ้ากำลังโศกเศร้ากับการสูญเสียของใครบางคน................... ทำไมตอนนั้น ถึงไม่ตกล่ะ ทำไม?


"กินได้แล้ว  เดี๋ยวก็เย็นหมด" เสียงทุ้งกังวาล เรียกสติให้น้ำชาตื่นจากภวังค์


"ครับ" มือบางคว้าช้อนตักอาหารเข้าปาก


"เป็นไง อร่อยไหม?"


"อืม.........ก็ดีครับ อร่อยดี" หนุ่มน้อยทำตาบ๋องแบ๋ว อาหารนั่นคงจะอร่อยจริง ๆ


"ว่าแล้วไง ต้องอร่อย ก็ฉันเป็นคนทำกับมือนี่" โฟมหัวเราะออกมาเบา ๆ หนุ่มน้อยถึงกับเบ้หน้า


"ทำเองกับมือ???" ปากบางเอ่ยเสียงสูง "กะอีแค่เอาเข้าเวฟเนี้ยนะ  ....เฮอะ ๆ" ใบหน้ากลมมนส่ายไปมาเบา ๆ ราวกับว่าอ่อนใจ ไม่นึกว่าหมอนั่นจะ ปัญญาอ่อนได้เนียนขนาดนี้


"ถึงอย่างไง ฉันก็เป็นคนเลือกแหละน่า" โฟมยังไม่ยอม..............คนเลือก?????




ทั้งคู่จัดการกับอาหารเบื้องหน้า ช้า ๆ ค่อย ๆ เคี้ยวให้ละเอียดยิบ โฟมหันมาสบตาน้ำชาบ่อย ๆ แต่ทุก ๆ ครั้ง หนุ่มน้อยก็จะคอยหลบสายตาเสมอ เขาสู้สายตาคมไม่ได้ ไม่รู้ทำไม................ หมอนั้น ชอบมองมาทางเราแปลก ๆ ?



"มองอะไรอ่ะ" ธนัชฌาถาม สีหน้าพยายามเค้นความจริง


"ไม่รู้ซิ ฉันชอบตาของนาย" อยู่ ๆ ก็โพร่งออกมา ทำเอาน้ำชาหน้าแดง หนุ่มน้อยรู้ความหมายของประโยคนั้นดี


"เฮ้ย!!  ตาฉันมีแฟนแล้ว นายนี่พิลึกชะมัดชอบคนแก่ที่มีเจ้าของแล้ว" น้ำชาหัวเราะร่วน


"ไม่ใช่เฟ้ย! ลูกตาที่อยู่บนใบหน้านายต่างหาก" ธนัชฌารีบเบ้ยหน้าหนีตอนนี้หน้าเขากำลังร้อนผ่าว


"ฉันไปล้างจานดีกว่า" พูดจบก็เดินจากไป โฟมแอบยิ้ม เขาไม่รู้ตัวหรอกว่าที่พูดไปซักครู่มันแฝงอะไรบางอย่าง.............แค่นี้ก็เขินด้วย




ฝนยังคงตกหนัก เมื่อมองออกไปภายนอกจะไม่เห็น มันพร่ามัวไปหมด ธนัชฌาสะดุ้งทุกครั้งที่ได้ยินเสียงฟ้าร้อง จนทำจานแตกไปหลายใบ



"ขอโทษครับ" มือบางค่อย ๆ เก็บกวาดเศษจานที่แตกกระจายอยู่ที่พื้น


"สงสัยฉันคงต้องเปลี่ยนจานเป็นพลาสติกหรือไม่ก็สังกระสีแน่ ๆ ถ้าไม่เปลี่ยนคงหมดเข้าซักวัน" ริมฝีบากบางยิ้มแฮะ ๆ กลบเกลื่อน เขาเห็นด้วยกับคำพูดของชายหนุ่ม


"ก็ดี" เสียงเบา ๆ เล็ดลอดออกมา




ไม่นานธนัชฌาก็เก็บกวาดเสร็จ จานแตกไปสองใบ แก้วน้ำอีกหนึ่ง นี่ถ้าเขาไปทำงานร้านอาหาร สงสัยเงินเดือนคงจะหมดไปกับจานชามที่แตกพวกนี้เป็นแน่


หลังอาหารมื้อเย็นทั้งโฟมและธนัชฌาก็มานั่งที่โซฟา โฟมหยิบกีต้าร์โปร่งขึ้นมาเกาเพลง เบาๆ  เสียงตัวโน๊ตที่ดังมาจากเครื่องดนตรีชิ้นนั้น เรียกรอยยิ้มของร่างบางได้เป็นอย่างดี


"เดี๋ยวไปเข้าห้องน้ำก่อน  นายง่วงหรือยังถ้าง่วงแล้วไปนอนก็ได้ เดี๋ยวฉันจะออกมาแต่งเพลงต่อ" โฟมวางกีต้าร์ตัวโปรดลงแล้วลุกขึ้น




"เปรี้ยง !!  บึ้ม!!   พรึบ!??"

ฟ้าผ้าหมอแปลงระเบิดส่งผลให้ทุกอย่างตกอยู่ในความมืดมีเพียงแสงสีขาวจากฟ้าที่แลบออกมาเป็นระยะ ๆ



ธนัชฌาตกใจกับเสียงฟ้าผ่ามากเลยกระโดดเข้ากอดนักร้องหนุ่ม เสียงสะอื้นเล็ก ๆ เล็ดลอดออกมาจากปากบาง โฟมรู้ได้ทันทีว่าหมอนี่คงจะกลัวเอามาก ๆ เขายิ้มบาง ๆ พลางใช้มือลูบศีรษะหนุ่มน้อยเบา ๆ เพื่อเป็นการปลอบ นี่เป็นอีกครั้งที่น้ำชาต้องอยู่ในอ้อมแขนแกร่งของเขา





"ไม่ต้องกลัวนะ  ก็บอกแล้วไงว่านายไม่ได้อยู่คนเดียว  มีฉันอยู่อีกทั้งคน"



อยากเป็นเมฆ

นักศึกษา

โพสต์
255
พลังน้ำใจ
240
Zenny
2862
ออนไลน์
26 ชั่วโมง
ขอบคุณคับ

เรื่องยาวมาก  -.-

จบยังเนี่ย

นักศึกษา

โพสต์
145
พลังน้ำใจ
231
Zenny
4533
ออนไลน์
32 ชั่วโมง
ขอบคุณนะคับ

^^

ประธานนักศึกษา

โพสต์
3204
พลังน้ำใจ
8487
Zenny
21444
ออนไลน์
669 ชั่วโมง

สมาชิกระดับเพชรคู่สมาชิกจีโฟกาย 100%สมาชิกระดับตรีเพชรสมาชิกระดับมรกตสมาชิกระดับไพลินสมาชิกระดับทับทิมสมาชิกระดับแพลตตินั่ม

17#
 เจ้าของ| โพสต์ 2011-4-12 23:18:13 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ขอบคุณนะคับ  ที่เข้ามาอ่าน อ่าคับ^^

อาจจะยาวไปหน่อย  ถ้าไม่ชอบก้อบอกนะคับ

เด๋วจะไปหาแบบสั้นๆๆมาให้ อิอิ
อยากเป็นเมฆ

ลูกน้องหัวหน้าห้อง

โพสต์
353
พลังน้ำใจ
382
Zenny
3155
ออนไลน์
54 ชั่วโมง
สนุกมากครับ เป็นกำลังใจให้นะครับ

หัวหน้าห้อง

โพสต์
2057
พลังน้ำใจ
1707
Zenny
4423
ออนไลน์
622 ชั่วโมง
ขอบคุนคั๊บ ๆ

นักศึกษา

โพสต์
177
พลังน้ำใจ
194
Zenny
3572
ออนไลน์
36 ชั่วโมง
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | สมัครเข้าเรียน

รายละเอียดเครดิต

A Touch of Friendship: สังคมจะน่าอยู่ เมื่อมีผู้ให้แบ่งปัน ฝากไวเป็นข้อคิดด้วยนะคะชาวจีโฟกายทุกท่าน
!!!!!โปรดหยุด!!!!! : พฤติกรรมการโพสมั่วๆ / โพสแต่อีโมโดยไม่มีข้อความประกอบการโพส / โพสลากอักษรยาว เช่น ครับบบบบบบบบ, ชอบบบบบบบบ, thxxxxxxxx, และอื่นๆที่ดูแล้วน่ารำคาญสายตา เพราะถ้าท่านไม่หยุดทีมงานจะหยุดท่านเอง
ขอความร่วมมือสมาชิกทุกท่านโปรดโพสตอบอย่างอื่นนอกเหนือจากคำว่า ขอบคุณ, thanks, thank you, หรืออื่นๆที่สื่อความหมายว่าขอบคุณเพียงอย่างเดียวด้วยนะคะ เพื่อสื่อถึงความจริงใจในการโพสตอบกระทู้ และไม่ดูเป็นโพสขยะ
กระทู้ไหนที่ไม่ใช่กระทู้ในลักษณะที่ต้องโพสตอบโดยใช้คำว่าขอบคุณ เช่นกระทู้โพล, กระทู้ถามความเห็น, หรืออื่นๆที่ทีมงานอ่านแล้วเข้าข่ายว่า โพสขอบคุณไร้สาระ ทีมงานขอดำเนินการตัดคะแนน และ/หรือให้ใบเตือนสมาชิกที่โพสขอบคุณทันทีที่เจอนะคะ

รูปแบบข้อความล้วน|โทรศัพท์มือถือ|ติดต่อลงโฆษณา|จีโฟกายดอทคอม


ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บจีโฟกายดอทคอมนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ หากท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศิลธรรม ไม่เหมาะสมที่จะเผยแพร่ ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link “แจ้งลบโพสนี้” ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือ ลืมพาสเวิดล๊อกอิน/ลืมชื่อที่ใช้สมัคร หรือข้อสงสัยใดๆแจ้งมาที่ G4GuysTeam[at]yahoo.com ขอขอบพระคุณที่ให้ความร่วมมือ

กรณีที่ข้อความ/รูปภาพในกระทู้นี้จัดสร้างโดยผู้ลงข้อมูลเอง ลิขสิทธิ์จะเป็นของผู้ลงข้อมูลโดยตรง หากจะทำการคัดลอก/เผยแพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ลงข้อมูลก่อนนะคะ หรือลงที่มาไว้ด้วยค่ะ

©ขอสงวนสิทธิ์คอนเซ็ปต์,คำอธิบาย,หัวข้อ/หมวดหมู่เว็บ ห้ามลอกเลียนแบบ คิดเอาเองนะคะอย่าเอาแต่ลอก

GMT+7, 2024-5-9 10:16 , Processed in 0.265571 second(s), 29 queries .

Powered by Discuz! X3.1 R20140301, Rev.31

© 2001-2013 Comsenz Inc.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้