จีโฟกาย.คอม

 ลืมรหัสผ่าน
 สมัครเข้าเรียน
ค้นหา
 
ดู: 823|ตอบกลับ: 0
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป
ซ่อนแถบด้านข้าง

10อันดับสนุขกล้าหาญในประวัติศาตร์

[คัดลอกลิงก์]

หัวหน้าห้อง

โพสต์
463
พลังน้ำใจ
2089
Zenny
4169
ออนไลน์
253 ชั่วโมง

สมาชิกจีโฟกาย 100%สมาชิกระดับแพลตตินั่มสมาชิกระดับทับทิมสมาชิกระดับไพลิน

อันดับ 10 พันโทแร็กส์ สุนัขส่งสารจอมอึด




    พลทหารเจมส์ โดโนแวน ในหน่วยทหารราบที่ 1 ของกองทัพสหรัฐ ฯ ได้พา เจ้าแร็กส์ สุนัขพันธุ์เทอเรียร์ เข้าร่วมในสงครามโลกครั้งที่ 1 ในฝรั่งเศสด้วย โดยมอบให้ทำหน้าที่เป็นสุนัขส่งสารไปยังที่ต่าง ๆ ท่ามกลางอันตรายอย่างยิ่งยวดในภาวะสงคราม แม้ว่าจะสามารถเอาชีวิตรอดมาได้หลังจากสิ้นสุดสงคราม แต่ระหว่าง เดินทางกลับบ้าน เรือโดยสารของโดโนแวนและเจ้าแร็กส์ ก็ถูกโจมตีด้วยแก๊สพิษ เจ้านายของมันเสียชีวิต
ส่วนเจ้าแร็กส์ จอมอึด ก็รอดชีวิตมาได้อีกราวปาฏิหาริย์ เรื่องราวของมันโด่งดังไปทั่วประเทศ และได้รับการแต่งตั้งให้เป็น "พันโทแร็กส์" ศพของมันถูกฝังอย่างมีเกียรติเยี่ยงทหารผู้เสียสละเพื่อชาติที่ซิลเวอร์ สปริง ในรัฐแมรี่แลนด์


อันดับ  9  เจ้ามัสทาช พุดเดิ้ลผู้กล้า






มีเรื่องเล่ามาว่า ในช่วงที่เกิดสงครามออสเตอร์ลิทซ์ในปี พ.ศ. 2348 เจ้ามัสทาช สุนัขพุดเดิ้ลสีดำได้ค้นหา และได้ช่วยเหลือสายลับชาวออสเตรียคนหนึ่ง นอกจากนี้มันยังนำธงฝรั่งเศสกลับมายังที่ตั้งแคมป์ได้ แม้มันต้องสูญเสียขาจากการระเบิดของปืนใหญ่ เจ้ามัสทาช จึงได้รับเหรียญกล้าหาญจากวีรกรรมของมันในครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม ว่ากันว่าเรื่องราวของเจ้ามัสทาช เป็นเรื่องที่ถูกแต่งขึ้น แต่ถึงอย่างนั้น เรื่องราวของมันก็เผยแพร่และดังไปทั่วโลก รวมถึงได้ตีพิมพ์ลงในหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์อีกด้วย


อันดับ  8. เจ้ามองท์ สุนัขค้นหาผู้รอดชีวิตจากแผ่นดินไหว





มองท์ เป็นสุนัขช่วยชีวิตในทีมช่วยเหลือพิเศษสเปเดอร์ ในเมืองมิสโคล์ตของฮังการี ซึ่งเป็นทีมช่วยเหลือที่เดินทางไปทั่วโลกเพื่อค้นหาผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว โดยเจ้ามองท์ จะทำการดมกลิ่นและทำสัญญาณบอกทีมช่วยเหลือได้ว่ายังมีผู้รอดชีวิตอยู่ใต้ซากตึกถล่มบริเวณไหนบ้าง และจากผลงานที่ดีของมัน ในปี พ.ศ. 2547 จึงมีการสร้างรูปปั้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ให้กับเจ้ามองท์ ตั้งอยู่ที่เมืองมิสโคล์ต บ้านเกิดของมัน เอง ก่อนที่ เจ้ามองท์ จะเสียชีวิตในอีก 2 ปีถัดมา

อันดับ  7. เพื่อนตูบคู่ยากในเหตุการณ์สึนามิญี่ปุ่น



สุนัขนอกจากจะเป็นเพื่อนที่ซื่อสัตย์ของมนุษย์แล้ว มันก็ยังช่วยเหลือกันเอง โดยเราจะเห็นได้จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและสึนามิที่เข้าพัดโจมตีญี่ปุ่นในหลายๆครั้ง ซึ่งทำให้เราได้เห็นภาพอันน่าประทับใจของสุนัขตัวหนึ่งที่อยู่เคียงข้าง สุนัขอีกตัวหนึ่งที่ได้รับบาดเจ็บ และมันจะคอยส่งเสียงเพื่อหาคนมาช่วยเพื่อนของมันที่นอนได้รับบาดเจ็บอยู่ และสุดท้ายทีมช่วยเหลือก็สามารถช่วยเหลือสุนัขทั้งสองให้ปลอดภัยได้

อันดับ 6. ฮาจิโกะ สุนัขผู้ซื่อสัตย์


หลายคนคงเคยได้ดูภาพยนตร์เรื่อง ฮาจิโกะ (Hachiko) ซึ่งสร้างมาจากเรื่องจริงของ "ฮาจิโกะ" หนึ่งในสุนัขที่ซื่อสัตย์ที่สุดในโลกพันธุ์อากิตะ ที่จะมานั่งรอเจ้าของกลับจากที่ทำงานที่สถานีรถไฟชิบูย่าในกรุงโตเกียวทุกวัน แต่อยู่มาวันหนึ่งก็เกิดเหตุการณ์สลดใจขึ้น เมื่อเจ้าของออกไปทำงานตามปกติ แต่เกิดหัวใจวายเสียชีวิตในที่ทำงานและไม่กลับมาบ้านอีก แต่ฮาจิโกะ ก็ยังคงมาเฝ้ารอเจ้าของกลับบ้านที่สถานีรถไฟวันแล้ววันเล่า จนกระทั่งวันสุดท้ายของชีวิตมัน เรื่องราวของฮาจิโกะ เป็นที่ประทับใจไปทั่วโลก ถูกสร้างเป็นภาพยนตร์ที่เรียกน้ำตาผู้ชมได้ทุกคราว และปัจจุบันนี้ก็มีรูปปั้นของฮาจิโกะตั้งเป็นสัญลักษณ์อยู่ที่สถานีรถไฟชิบูย่า และตั้งตรงบริเวณที่มันเคยนั่งรอเจ้าของในอดีตอีกด้วย
อันดับ 5. นายจ่าสตับบี้




เมื่อครั้งสงครามโลกครั้งที่ 1 ที่ประเทศฝรั่งเศส สตับบี้ สุนัขพันธุ์พิตต์บูลผสม ได้กลายเป็นสิ่งนำโชคของหน่วยทหารราบที่ 102 ที่ร่วมรบในสงครามครั้งนั้น หลังจากมันได้ใช้ประสาทสัมผัสของมันดมกลิ่น จนรู้ว่าจะมีการรมควันพิษทางอากาศ มันจึงเห่าเตือนให้กองกำลังทหารหน่วยนี้ใส่หน้ากากป้องกันได้ทันเวลา นอกจากนี้ สตับบี้ ยังปฏิบัติภารกิจค้นหาและช่วยเหลือ จนได้รับแต่งตั้งเป็นนายจ่าในกองกำลังนาวิกโยธินของสหรัฐอเมริกา และเป็นสุนัขเพียงตัวเดียวที่ได้รับตำแหน่งในกองทัพเช่นนี้...น่าปรบมือให้ เสียจริง ๆ
อันดับ 4. สโมคกี้ ตัวเล็กแต่ใจใหญ่





ถึงตัวเล็กแต่ใจใหญ่... ประโยคนี้ตรงกับ เจ้าสโมคกี้ อย่างไม่มีผิดเพี้ยน เรื่องราวของสุนัขพันธุ์ยอร์คเชียร์ เทอร์เรีย ที่มีจิตใจสุดแกร่ง เกิดขึ้นหลังจาก บิล วีนน์ ไปพบเจ้าสโมคกี้ ในป่าที่ปาปัวนิวกินีและนำมาเลี้ยง ก่อนจะพามันเข้าร่วมสนามรบในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เจ้าสโมคกี้ ก็สามารถเอาตัวรอดในสถานการณ์อันตรายได้ดี ที่สำคัญ ครั้งหนึ่ง เจ้าสโมคกี้ ยังเคยช่วยชีวิต วีนน์ ด้วยการเห่าเตือนว่ากำลังมีขีปนาวุธที่ยิงมาจากเรือรบกำลังพุ่งมาทางเขา นอกจากนี้มันยังสามารถกระโดดร่มที่ความสูง 9.1 เมตรจากพื้นดินได้ และหลังจากสงครามจบลง ทั้งวีนน์และเจ้าสโมคกี้ได้เดินทางกลับบ้านที่คลีฟแลนด์ รัฐโอไฮโอ ในฐานะทหารผ่านศึก และมีรูปปั้นเจ้าสโมคกี้ตั้งไว้ เพื่อระลึกถึงมันที่เลควู้ด โอไฮโอนั่นเอง
อันดับ 3. ไลก้า สุนัขอวกาศตัวแรกของโลก



เจ้าไลก้า สุนัขพันธุ์เทอร์เรียร์ผสม เพศเมีย ที่ออกเดินทางไปยังอวกาศ โดยดาวเทียมสปุตนิก1 ของสหภาพโซเวียต เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2500 นับว่าเป็นสัตว์ตัวแรกที่ออกไปเหยียบนอกโลก หลังจากถูกส่งขึ้นไปในอวกาศไม่นาน ไลก้า มีชีพจรสูงผิดปกติ แต่ไม่นานก็กลับมีชีพจรต่ำลง แสดงให้เห็นว่า ไลก้า มีความเครียดสูง จากนั้นระบบควบคุมอุณหภูมิของยานอวกาศทำงานผิดปกติ ทำให้ ไลก้า ตายด้วยความร้อนสูง และอาการตื่นตระหนก ตามรายงานระบุว่า ไลก้า อยู่ได้เพียง 5-7 ชั่วโมง หลังจากเริ่มปล่อยยาน แต่ ไลก้า ก็ทำประโยชน์ให้มวลมนุษยชาติ เพราะมันทำให้มนุษย์รู้ว่า เราสามารถอยู่ในสภาวะไร้น้ำหนักได้นาน ซึ่งหลังจากนั้น ยูริ กาการิน มนุษย์อวกาศชาวรัสเซียก็ขึ้นไปยังอวกาศได้เป็นคนแรกของโลก


อันดับ 2. สุนัขพันธุ์ เบลเจี้ยน มาลินอยส์



เบลเจี้ยน มาลินอยส์ เป็นหนึ่งในสี่สุนัขต้อนแกะสายพันธุ์เบลเจี้ยน เป็นสุนัขระวังภัยที่ปรับตัวได้ดีกับ สถานการณ์อันตราย เพราะเป็นสุนัขที่มีทั้งความเร็ว พละกำลัง และความคล่องแคล่วเบลเจี้ยน มาลินอยส์ มักจะถูกใช้ในหน่วย SWAT และ ในกองทัพทั่วโลก เนื่องจากสุนัขพันธุ์นี้ง่ายต่อการฝึกให้รับผิดชอบในหน้า ที่ต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงการตรวจค้นหายาเสพติดและวัตถุระเบิด รวมถึงภารกิจค้นหาและช่วยเหลือมนุษย์  


อันดับที่ 1. เจ้าบัลโต สุนัขที่ช่วยรักษาเมืองไว้ได้จากโรคระบาด



ในปี พ.ศ. 2468 เกิดโรคคอตีบแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วและรุนแรงที่เมืองโนม รัฐอลาสกา ผู้คนในเมือง จึงต้องการวัคซีนเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคทางอากาศ แต่ยาถูกนำเข้ามาและยังอยู่ที่ท่าเรือไม่สามารถเข้ามาในเมืองได้ เนื่องด้วยสภาพอากาศที่หนาวเหน็บอย่างรุนแรงในแถบขั้วโลกเหนือ จึงทำให้การขนส่งต่าง ๆ หยุดชะงัก ด้วยเหตุนี้ การเดินทางขนส่งวัคซีนจึงจำเป็นต้องใช้ทีมลากเลื่อน แต่ทว่าหิมะที่ตกลงมาอย่างหนัก ก็ทำให้ "กันนาร์ การ์เซน" ผู้ขับเลื่อนไม่อาจมองเห็นเส้นทางได้ เขาจึงมอบหมายภารกิจสำคัญนี้ให้กับเจ้าสุนัขที่ชื่อ บัลโต ซึ่งการเดินทางครั้งนี้ใช้เวลาถึง 7 วัน จนในที่สุดเจ้าบัลโตก็ทำได้สำเร็จลุล่วง ปัจจุบันรูปปั้นของ บัลโต ถูกสร้างตั้งตระหง่านอยู่กลางเซ็นทรัลพาร์ค ในเมืองนิวยอร์กซิตี้

ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | สมัครเข้าเรียน

รายละเอียดเครดิต

A Touch of Friendship: สังคมจะน่าอยู่ เมื่อมีผู้ให้แบ่งปัน ฝากไวเป็นข้อคิดด้วยนะคะชาวจีโฟกายทุกท่าน
!!!!!โปรดหยุด!!!!! : พฤติกรรมการโพสมั่วๆ / โพสแต่อีโมโดยไม่มีข้อความประกอบการโพส / โพสลากอักษรยาว เช่น ครับบบบบบบบบ, ชอบบบบบบบบ, thxxxxxxxx, และอื่นๆที่ดูแล้วน่ารำคาญสายตา เพราะถ้าท่านไม่หยุดทีมงานจะหยุดท่านเอง
ขอความร่วมมือสมาชิกทุกท่านโปรดโพสตอบอย่างอื่นนอกเหนือจากคำว่า ขอบคุณ, thanks, thank you, หรืออื่นๆที่สื่อความหมายว่าขอบคุณเพียงอย่างเดียวด้วยนะคะ เพื่อสื่อถึงความจริงใจในการโพสตอบกระทู้ และไม่ดูเป็นโพสขยะ
กระทู้ไหนที่ไม่ใช่กระทู้ในลักษณะที่ต้องโพสตอบโดยใช้คำว่าขอบคุณ เช่นกระทู้โพล, กระทู้ถามความเห็น, หรืออื่นๆที่ทีมงานอ่านแล้วเข้าข่ายว่า โพสขอบคุณไร้สาระ ทีมงานขอดำเนินการตัดคะแนน และ/หรือให้ใบเตือนสมาชิกที่โพสขอบคุณทันทีที่เจอนะคะ

รูปแบบข้อความล้วน|โทรศัพท์มือถือ|ติดต่อลงโฆษณา|จีโฟกายดอทคอม


ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บจีโฟกายดอทคอมนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ หากท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศิลธรรม ไม่เหมาะสมที่จะเผยแพร่ ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link “แจ้งลบโพสนี้” ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือ ลืมพาสเวิดล๊อกอิน/ลืมชื่อที่ใช้สมัคร หรือข้อสงสัยใดๆแจ้งมาที่ G4GuysTeam[at]yahoo.com ขอขอบพระคุณที่ให้ความร่วมมือ

กรณีที่ข้อความ/รูปภาพในกระทู้นี้จัดสร้างโดยผู้ลงข้อมูลเอง ลิขสิทธิ์จะเป็นของผู้ลงข้อมูลโดยตรง หากจะทำการคัดลอก/เผยแพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ลงข้อมูลก่อนนะคะ หรือลงที่มาไว้ด้วยค่ะ

©ขอสงวนสิทธิ์คอนเซ็ปต์,คำอธิบาย,หัวข้อ/หมวดหมู่เว็บ ห้ามลอกเลียนแบบ คิดเอาเองนะคะอย่าเอาแต่ลอก

GMT+7, 2024-5-4 13:47 , Processed in 0.084150 second(s), 26 queries .

Powered by Discuz! X3.1 R20140301, Rev.31

© 2001-2013 Comsenz Inc.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้