จีโฟกาย.คอม

 ลืมรหัสผ่าน
 สมัครเข้าเรียน
ค้นหา
 
ดู: 1102|ตอบกลับ: 3
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป
ซ่อนแถบด้านข้าง

สก๊อย ฉบับคิเฮ

[คัดลอกลิงก์]

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
1519
พลังน้ำใจ
35558
Zenny
41204
ออนไลน์
943 ชั่วโมง

สมาชิกระดับไพลินสมาชิกจีโฟกาย 100%สมาชิกระดับแพลตตินั่มสมาชิกระดับทับทิมสมาชิกระดับมรกตสมาชิกระดับเพชรสมาชิกระดับเพชรบริหารสมาชิกระดับเพชรคู่สมาชิกระดับตรีเพชรสมาชิกระดับมงกุฎ




*ฟิคเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับบุคคลหรือสถานที่จริงใดๆ ทุกอย่างล้วนมาจากการจินตนาการทั้งสิ้น*

*ถ้าไม่ชอบคิเฮ กรุณากดปิดนะครับ ^^*





สายน้ำสาดกระเซ็นเป็นฝอยเมื่อกระทบกับพาหนะปราดเปรียว ฟองจากน้ำยาล้างรถเปรอะเกือบทั่วมอเตอร์ไซค์คันเท่ โดยมีมือผู้เป็นเจ้าของกำลังใช้ฟองน้ำลูบไล้เพื่อทำความสะอาดพลางฉีดน้ำเพื่อล้างคราบสกปรกออกด้วย



ภาพของชายหนุ่มร่างสูงที่กำลังล้างรถอยู่หน้าบ้านนั้นทำให้หนุ่มร่างระหงใบหน้าหวานที่เดินออกมาจากบ้านข้างๆ ต้องรีบเข้ามาวุ่นวายด้วยอย่างฉับพลัน



“ฉันทำมั่ง”



มือเล็กดึงสายยางและฟองน้ำจากมือใหญ่กว่าที่กำลังเปียกเลอะ ทว่าร่างสูงก็บิดตัวหนีไม่ให้คนที่ตัวเล็กกว่าทั้งที่อายุเท่ากันมาแย่งไปได้



“อยู่เฉยๆ เถอะน่า ทงเฮ”



“ก็ฉันจะทำมั่งนี่ แค่นี้อย่าทำเป็นงกไปหน่อยเลยคิบอม”



สองร่างยื้อแย่งกันจนสายน้ำจากท่อยางส่ายสะบัดพุ่งเข้าใส่ทั้งคู่จนเปียกปอน หน้าหวานแฉะฉ่ำด้วยน้ำประปา แต่หน้าหล่อของคนตัวสูงเองก็ไม่ต่างกัน กระนั้นทั้งสองคนก็ยังไม่เลิกที่จะเอาชนะ



“ปล่อยได้แล้ว”



เสียงหวานร้องบอกพร้อมกับละมือข้างหนึ่งเพื่อผลักอกแกร่ง แต่ก็ไม่ได้ทำให้คิบอมรู้สึกอะไรได้ มือกว้างเอื้อมมาดึงฟองน้ำจากมือเล็กโดยการอ้อมข้ามตัวทำให้ร่างเพรียวบางเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดได้อย่างง่ายดาย



“นี่มันรถฉัน”



“ก็นายบอกว่าจะพาฉันซ้อนออกไปนั่งรถเล่น แต่นายยังไม่เคยพาฉันไปเลย หลอกฉันใช่มั้ย”



ร่างเล็กบ่นใส่ก่อนจะหันมาสบตากัน ระยะห่างที่ใกล้เพียงแค่อากาศกั้นทำให้รู้สึกสั่นไหวอยู่ในใจ ทว่าไม่ใช่แค่ทงเฮเท่านั้นที่กำลังรู้สึก แต่ว่าคิบอมก็เช่นเดียวกัน เขามองตาคู่สีน้ำตาลวาวหวานนั้นก่อนจะตัดสินใจห้ามความคิดของตัวเองที่กำลังจะผุดขึ้นมาแล้วใช้มือที่เลอะฟองจากน้ำยาล้างรถป้ายลงบนหน้าผากของคนในอ้อมแขน



“ไม่ได้หลอกสักหน่อย แต่มันยังไม่ถึงเวลา”



พอโดนป้ายใส่ทงเฮก็ทำหน้ามู่ แล้วมันก็ยิ่งบูดบู้ขึ้นไปอีกเมื่อได้คำตอบ เพราะคิบอมตอบเขามาอย่างนี้นับครั้งไม่ถ้วนแล้ว ตั้งแต่ได้มอเตอร์ไซค์คันนี้มาอาทิตย์ก่อน ก็เลยต้องโวยใส่



“คิมคิบอม คนขี้งก!!”
































.


.


กว่าจะล้างรถเสร็จก็เปียกเฉอะกันไปทั้งตัว ทั้งสองคนแยกย้ายกันไปอาบน้ำก่อนที่ทงเฮจะโผล่มาที่บ้านของคิบอมอีกครั้ง เขาตั้งสินใจว่าไม่ว่ายังไงก็ต้องตามตื๊อคิบอมให้ได้ เขาอยากจะนั่งซ้อนมอเตอร์ไซค์ของคิบอมไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ



มันจะรู้สึกดีแค่ไหนกันที่ได้ซ้อนรถของคนที่ตัวเองหลงรัก ได้กอดเอวและซบหน้าลงกับแผ่นหลังกว้างๆ นั้นท่ามกลางสายลมที่พัดผ่าน แต่เพราะคิบอมไม่ยอมให้เขาซ้อนท้ายสักที จินตนาการของเขาก็เลยยังไม่เป็นจริงและเป็นเพียงจินตนาการอยู่อย่างนี้












ทั้งที่สัญญากันแล้ว!










“ฉันจะโกรธนายแล้วนะ”



ทั้งที่มือยังถือจอยเกมอยู่และกำลังตั้งใจเล่นเกมแข่งรถ แต่ทงเฮก็พูดประโยคที่ดูไม่ค่อยเข้าใจสำหรับร่างใหญ่ขึ้นมา คิบอมเหล่สายตามองหน้าหวานที่คร่ำเคร่งอยู่กับการเล่นเกมนั้นก่อนจะหันไปเล่นต่อ



“โกรธฉันเรื่องอะไร”



“ก็เรื่องที่นายผิดสัญญานั่นแหละ ถ้าไม่อยากให้ฉันซ้อนท้ายรถนาย ไม่อยากให้ฉันยุ่งกับรถนายก็บอกมาเลย ไม่ต้องมาให้ความหวังกัน แค่นี้ก็ขี้งก เป็นเพื่อนกันมาตั้งกี่ปีแล้ว ฉันไม่สำคัญสำหรับนายเลยใช่รึเปล่าล่ะ”



คนตัวเล็กพูดอย่างน้อยใจ เพราะบางครั้งคนตัวใหญ่ก็ทำเหมือนเขาเป็นคนสำคัญ แต่บางครั้งก็เหมือนกับว่าไม่มีอะไรเป็นพิเศษ มันก็รู้สึกน้อยใจบ้างเหมือนกัน แต่ก็ไม่กล้าที่จะบอกความรู้สึกจริงๆ ในหัวใจออกไป เลยได้แต่หงุดหงิดงุ่นง่านอยู่อย่างนี้ แม้ว่ามันจะเกินขอบเขตของคนเป็นเพื่อนไปหน่อยก็ตาม แต่เขาคิดว่าคิบอมคงไม่คิดอะไร เพราะว่าเขาก็เป็นแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรตั้งแต่เด็กแล้ว



“ไม่ใช่อย่างนั้นสักหน่อย ฉันพูดคำไหนก็คำนั้นสิ”



คิบอมมองทงเฮอย่างลำบากใจ จะว่าเหนื่อยใจนิดหน่อยก็คงได้ เพราะว่าทงเฮเอาแต่โวยเขาเรื่องนี้ ไม่รู้ว่าเพราะอะไรถึงได้อยากจะซ้อนท้ายรถเขานักหนา ทั้งที่ก่อนที่จะได้รถมาก็ไม่เห็นมีทีท่าว่าจะชื่นชอบมอเตอร์ไซค์เป็นพิเศษ แต่ตอนนี้กลับรบเร้าจะซ้อนรถเขาให้ได้



“แล้วมันเมื่อไหร่ล่ะ”



“อืม..” คนโดนถามทำท่าคิดนิดหน่อย “ไม่แน่ใจเหมือนกัน”



แล้วมันก็ทำให้ทงเฮหน้าบึ้งตึง ปาจอยเกมในมือทิ้งในทันทีก่อนจะผลุนผลันลุกขึ้นจากพื้นหน้าจอโทรทัศน์และจะตึงตังออกจากห้องนอนของคิบอมเพื่อเดินกลับบ้านของตัวเอง แต่ก็โดนแขนยาวๆ รั้งตัวไว้ก่อน



คิบอมดึงตัวทงเฮจนล้มลงมาทับตักของตัวเองเพื่อไม่ให้คนตัวเล็กหนีไปไหน แต่ทงเฮก็ดื้อด้านพยายามจะออกจากวงแขนแข็งแรงนั้นให้ได้ ทั้งสองร่างจึงหกล้มหกลุกจนลงไปเกลือกกลิ้งอยู่กับพื้น และคิบอมก็ถือโอกาสรวบร่างเล็กมานอนกอดเอาไว้



”ปล่อยเลย ไม่ต้องมาง้อ”



ทงเฮยังคงพาลใส่ ทำหน้างอไม่หาย ซึ่งคิบอมก็ไม่ยอมง่ายๆ ให้คนตัวเล็กเอาแต่ใจ จับร่างในอ้อมกอดของตัวเองให้พลิกมาเผชิญหน้ากัน แล้วใช้ดวงตาคมกริบสีนิลจับจ้องที่ลูกตาวาวสีน้ำตาลที่ฉายแววรั้น



จากที่พยศอยู่เมื่อครู่ทงเฮก็ค่อยๆ สงบลง มองตาคู่ที่ทอดมาทางตัวเองกลับไป หัวใจเริ่มสั่นไหวเพราะว่าในหน่วยตาคมนั้นสะท้อนภาพของเขาอย่างอ่อนโยน ผิวหน้าบางระเรื่อสีแดงขึ้นทีละนิด แล้วมันก็ดูน่ารักในสายตาของคนมองเอาเสียมากๆ



คิบอมจุดรอยยิ้มนิดหน่อยที่มุมปากของตัวเองที่ได้เห็นปฏิกิริยาน่ารัก แล้วมันก็ทำให้เขานึกรักร่างเล็กในอ้อมแขนมากขึ้นทุกทีๆ ที่ได้มองอย่างใกล้ชิดอย่างนี้ เขารู้ว่าทงเฮรู้สึกถึงความรู้สึกบางอย่างที่เขามีให้ และเขาก็รับรู้ได้ว่าทงเฮก็มีความรู้สึกเดียวกัน เพียงแต่เราต่างไม่ได้พูดมันออกมา











ความผูกพันที่ก่อตัวขึ้นตั้งแต่เด็ก ค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นความรู้สึกพิเศษจนไม่สามารถแยกจากกันได้


ความรู้สึกพิเศษที่ถูกจำกัดความด้วยคำสั้นๆ และต่างก็รู้ว่าใครเป็นคนที่สำคัญต่อตัวเองที่สุด










นัยน์ตาคมยังคงมองลึกเข้าไปในตาคู่สวยนั้นอย่างมีความหมาย และมันก็ทำให้ทงเฮทนสบตาด้วยต่อไปไม่ไหว หัวใจมันกำลังรัวจังหวะอยู่ในอกอย่างรุนแรง เปลือกตาบางปิดลงช้าๆ เมื่อรับรู้ถึงบรรยากาศบางอย่างที่กำลังห้อมล้อม



หน้าหล่อขยับเข้าไปใกล้ ใกล้เข้าไปอีกจนรู้สึกได้ถึงลมหายใจเข้าออกที่ผ่อนออกมาทางปลายจมูกรั้น ความรู้สึกประหม่ากำลังรุมเร้าทงเฮแต่ก็ตื่นเต้นคละกัน ทว่าความรู้สึกนั้นก็สลายโดยพลันเพราะว่าอยู่ๆ ก็มีแรงกระแทกที่หน้าผากดังโป๊ก



ดวงตาที่ปิดอยู่เปิดขึ้นอย่างรวดเร็วและยกมือขึ้นมาลูบหน้าผากของตัวเองที่โดนหน้าผากของอีกคนโขกเข้ามาอย่างจัง เสียงทุ้มๆ เอ่ยถามคนที่ทำตาเขียวใส่เพราะเขาลอบทำร้ายแบบไม่ให้รู้ตัว



“ฉันรู้นะว่านายคิดอะไรอยู่”



และมันก็ทำให้คนทำตาดุต้องหน้าแดงซ่านขึ้นมาเมื่อคิดไปว่าอีกฝ่ายรู้ทัน



“คิดอะไร เปล่าสักหน่อย”



เสียงงึมงำลอดออกมาจากปากของคนไม่ยอมรับความจริงพลางพลิกตัวหันหนีไปอีกฝั่งแต่ก็ไม่ได้ลุกไปจากอ้อมกอดอุ่นๆ คิบอมจึงถือโอกาสกระชับวงแขนของตัวเองให้แน่นขึ้น วางคางเกยบนไหล่ลาดของคนที่ตัวเองกอดแล้วกระซิบเบาๆ ที่ริมหู



“คิดว่าฉันจะจูบล่ะสิ”



แล้วทงเฮก็ต้องรู้สึกว่าหน้ามันร้อนฉ่าอย่างฉับพลัน เลือดสูบฉีดไปทั้งหน้าและยังลามมาถึงหูจนแดงไปหมด คิบอมเห็นแล้วก็ต้องยิ้มกับตัวเองจนเมื่อยแก้มแล้วกอดทงเฮแน่นๆ อยู่อย่างนั้น
































.


.


เสียงเครื่องยนต์ที่ดังอยู่นอกบ้านที่ทงเฮจำได้ดีว่าเป็นเสียงของอะไรทำให้ร่างเล็กต้องชะโงกหน้าออกไปมองทางหน้าต่าง แต่เมื่อรู้สึกว่าแค่นี้มันทำให้เห็นได้ไม่ชัดเจนถึงต้องเคลื่อนย้ายจากในบ้านมานอกบ้านแทน ร่างเพรียวบางมาหยุดยืนอยู่ตรงสนามหน้าบ้านและมองข้ามรั้วไปที่บ้านหลังติดกัน เห็นร่างสูงที่มักจะทำให้จังหวะหัวใจสั่นคลอนกำลังคุยอยู่กับชายหนุ่มร่างผอมบางใบหน้าน่ารัก



ทงเฮขมวดคิ้วเข้าหากันนิดหน่อยก่อนจะเดินเข้าไปหาเพราะอยู่ตรงนี้เขาไม่ได้ยินเสียงทั้งสองคนที่พูดกัน เนื่องจากเสียงมอเตอร์ไซค์ของคิบอมที่สตาร์ทอยู่นั้นกลบไปหมด ทว่ายังไม่ทันที่ทงเฮจะเดินไปถึงก็เห็นว่าร่างผอมบางที่มาหาเพื่อนข้างบ้านขึ้นซ้อนที่เบาะหลังนั้นแล้ว มือเล็กของคนซ้อนตีที่ไหล่หนาเข้าหนึ่งก่อนจะพูดอะไรบางอย่างที่ทงเฮเดาได้ว่าคงจะเป็นการบอกให้ออกรถได้แล้ว



หน้าหวานเศร้าสลดมองสิ่งที่เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตา รู้สึกเจ็บปวดอยู่ในใจที่ต้องเห็นอะไรแบบนี้












นี่คือเหตุผลที่คิบอมไม่ยอมให้เขาซ้อนรถสินะ เพราะต้องการจะให้มันเป็นที่สำหรับคนคนนี้











ทงเฮทิ้งตัวลงกับพื้นสนามโดยไม่สนใจอะไรอีกแล้ว ได้แต่นั่งกอดเข่าเก็บก้อนสะอื้นเอาไว้ในใจ พยายามไม่ให้น้ำตากลั่นตัวออกมาให้มากที่สุด แต่สุดท้ายมันก็คลออยู่ในหน่วยตาจนได้



ฟันซี่เล็กคมกัดกลีบปากบางจนสีชมพูสดกลายเป็นสีซีด รู้สึกโกรธด้วย เสียใจด้วยที่โดนหักหลัง












ทั้งที่ไม่ได้มีความรู้สึกพิเศษก็อย่ามาทำให้คิดเข้าข้างตัวเองได้มั้ยว่ามีใจให้











ทงเฮได้แต่ตัดพ้อคิบอมอยู่ในใจแล้วกอดตัวเองให้แน่นขึ้น ทว่าเพียงไม่นานเสียงเครื่องยนต์ก็ดังอีกครั้งเมื่อคิบอมกลับมาถึงบ้าน เขาจอดรถตรงจุดเดิมเช่นเดียวกับทุกวัน ก่อนสายตาจะสะดุดเข้ากับร่างเล็กที่นั่งกอดเข่าตัวเองอยู่ตรงสนามหน้าบ้าน ทงเฮไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนนี้คิบอมกลับมาแล้ว ร่างสูงจึงกระโดดข้ามรั้วที่กั้นระหว่างสองบ้านมาโดยไม่เดินอ้อมมาเข้าทางประตูหน้าบ้านเพราะรู้สึกว่ามันจะช้าเกินไป เขากำลังห่วงว่าคนตัวเล็กเป็นอะไรถึงได้มานั่งอยู่ตรงนี้



“มานั่งทำอะไร”



คนตัวสูงย่อตัวลงไปนั่งยองอยู่ข้างคนที่นั่งกับพื้นอยู่ก่อนแล้ว ทงเฮเหลือบตามองคิบอมนิดหน่อยก่อนจะหมุนตัวหนีไปอีกด้านโดยที่ไม่ยกก้นขึ้นจากพื้น คิบอมเห็นอย่างนั้นก็รู้ว่าคนตัวเล็กกำลังงอนเขาแน่ๆ เลยขยับตัวตามไปด้วย แต่ว่าทงเฮก็หมุนตัวหนีอีก ทำอย่างนี้จนครบรอบวง ซึ่งมันก็ทำให้คิบอมหมดความอดทนแล้วใช้มือใหญ่ๆ จับต้นแขนทั้งสองข้างของทงเฮเอาไว้



“โกรธฉันเรื่องอะไร”



“ไม่รู้”



ทงเฮบอกเสียงห้วนแล้วสะบัดหน้าหนีเพราะว่าหมุนตัวไปทางอื่นไม่ได้แล้ว ทำปากยื่นอย่างงอนๆ ทั้งที่นัยน์ตายังเป็นสีก่ำอยู่ คิบอมเลยเปลี่ยนจากการจับต้นแขนมาเป็นจับใบหน้าน่ารักให้มาสบกันแทนแล้วก็เห็นว่าตาของทงเฮรื้นด้วยน้ำใสๆ มือหนาปัดคราบน้ำนั้นออกก่อนถาม



“ร้องไห้ทำไม”



“ไม่ได้ร้อง”



คนตัวเล็กยังปากแข็งอยู่เหมือนเดิมแล้วยังเม้มปากแน่นราวกับว่าจะไม่พูดอะไรอีกต่อไปแล้ว ท่าทางที่แสดงออกมาของทงเฮทำให้คิบอมต้องยอมทำเสียงอ่อนกว่าเดิม



“ทงเฮ”



“...”



แต่ทงเฮก็ไม่ยอมพูดอะไรเลย เม้มปากของตัวเองอยู่อย่างนั้น คราวนี้คิบอมเลยตัดสินใจปล่อยมือจากแก้มนิ่มๆ ของคนตัวบางแล้วเปลี่ยนมาช้อนร่างคนขี้งอนขึ้นมาในอ้อมแขน ทงเฮรู้สึกตกใจที่คิบอมทำแบบนี้ แต่ก็ยังไม่แสดงท่าทีอะไรออกไปมากนัก ยังรักษาฟอร์มอยู่ ซึ่งคิบอมก็อยากรู้ว่าทงเฮจะทำเก่งไปอีกสักเท่าไหร่



ทงเฮถูกนำมาวางไว้บนเบาะของรถมอเตอร์ไซค์ ก่อนคิบอมจะเข้าไปในบ้านและออกมาอีกครั้งพร้อมกับหมวกกันน็อคสองใบ แต่ว่าทงเฮไม่ได้สนใจจะมองทำหน้าเชิดทั้งที่กำลังสับสนและงุนงงว่าอีกคนกำลังจะทำอะไรกันแน่ แต่ว่าก็โดนหมวกนิรภัยยัดใส่หัวก่อนจะตามด้วยร่างสูงที่มาซ้อนตัวอยู่ด้านหน้าที่เบาะรถ คิบอมไม่พูดอะไรแต่ดึงมือทั้งสองข้างของทงเฮให้มากอดเอวของตัวเองเอาไว้ จากนั้นก็เคลื่อนรถออกไปจากบ้าน































.


.


บรรยากาศยามเย็นแสนสบายกับท้องฟ้าที่กลายเป็นสีส้ม หากไม่มีหมวกกันน็อคสวมอยู่บนหัว เส้นผมคงจะปลิวลู่ลมจนยุ่งเหยิง ทงเฮยังกอดเอวของคิบอมแน่นมาตลอดทาง ค่อยๆ รู้สึกดีขึ้นกับการได้ทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการสักที แต่เมื่อนึกไปถึงเจ้าของหน้าตาน่ารักที่เคยนั่งที่เบาะนี้ก่อนเขาแล้วก็ต้องหุบยิ้มฉับ



มอเตอร์ไซค์คันโก๋หยุดลงริมตลิ่งของแม่น้ำฮัน มองเห็นพระอาทิตย์ที่กำลังจะลับขอบฟ้าอย่างพอดิบพอดี คิบอมถอดหมวกกันน็อคสีฟ้าของตัวเองออกแล้ววางเอาไว้บนเบาะรถ ส่วนทงเฮพอเห็นว่าอีกคนทำอย่างนั้นก็เลยทำตามอย่างบ้าง



ตาสองคู่ทอดมองออกไปยังแม่น้ำกว้าง ก่อนร่างที่สูงกว่าจะหันกลับมามองคนตัวเล็ก คิบอมใช้ตาคมกริบจับจ้องใบหน้าหวานของเพื่อนข้างบ้าน จนทงเฮที่รู้ตัวก็รู้สึกร้อนวูบขึ้นมาบนหน้าอย่างฉับพลัน แสร้งหันหน้าหนีเพราะเขายังไม่หายโกรธคิบอมอยู่ดี



“ฉันพามาขับรถเล่นแล้วไง ยังไม่หายโกรธอีกเหรอ”



“...”



“ทงเฮ”



มือกว้างดึงมือเล็กกระตุกเบาๆ ให้คนงอนหันมาสนใจบ้าง แต่ทงเฮก็ยังหน้าบึ้งมองออกไปในเวิ้งน้ำ ไม่ยอมที่จะสบตากับคนที่พยายามง้ออยู่เลย คิบอมมองทงเฮที่เอาแต่นิ่ง นิ่ง แล้วก็นิ่งก่อนจะสูดหายใจเข้าปอดลึกๆ เขาเดินมาบังหน้าทงเฮเพื่อไม่ให้เห็นแม่น้ำที่อยู่ตรงหน้าอีกและพูดออกมาอย่างชัดถ้อยชัดคำ



“ถ้าไม่ยอมมองหรือว่าพูดกับฉันอีก ฉันจะจูบนายจริงๆ นะ”



แต่ถึงคิบอมจะข่มขู่ไปอย่างนั้นทงเฮก็ไม่กลัว แม้ในใจจะรู้สึกใจเต้นหน่อยๆ กับคำขู่นั้น แต่ว่าเขาคิดว่าคิบอมไม่มีทางทำอย่างนั้นแน่นอน ทว่าครั้งนี้ทงเฮก็คิดผิด เพราะว่ามือหนาช้อนหน้าเรียวสวยขึ้นก่อนจะแตะกลีบปากลงไปประทับเนื้อนิ่มสีเชอร์รี่เบาๆ ทงเฮรู้สึกว่าหัวใจมันกระหน่ำเต้นกว่าเดิม ดังตึงๆ จนแน่นไปทั้งอก



คิบอมออกแรงดูดดึงริมฝีปากบางที่กำลังเชยชิมอยู่เบาๆ ให้รับรู้ถึงรอยประทับจากเขาก่อนจะถอนออกมา หัวใจของเขาเองก็สั่นรัวไม่แพ้ทงเฮเหมือนกัน



“บอกแล้วว่าฉันจะทำจริงๆ”



หลังจากผละออกมาแล้วคิบอมก็พูดเสียงเข้ม ไม่ใช่เพราะต้องการข่มทงเฮ แต่เป็นการข่มหัวใจตัวเองเสียมากกว่า เขามองหน้าหวานของเพื่อนข้างบ้านที่อยู่ตรงหน้าก่อนจะเลื่อนมือไปจับมือบางเอาไว้ ขณะที่ทงเฮทำอะไรไม่ได้สักอย่างนอกจากเม้มริมฝีปากตัวเอง ร่องรอยที่คิบอมแนบทับมายังทิ้งรอยอุ่นๆ และสัมผัสที่พาให้ใจวาบหวิวเอาไว้สนิทแน่น



“จะฟังฉันได้รึยัง”



“จะพูดอะไรก็พูดมาสิ”



คราวนี้ทงเฮยอมที่จะปริปากออกมาบ้างแล้วทำให้คิบอมยิ้มออกมา เขาแกล้งแซวเมื่อรู้สึกว่าสถานการณ์ในตอนนี้เริ่มดีขึ้น



“กลัวโดนฉันจูบอีกเหรอ”



“คนบ้า ใครใช้ให้นายมาจูบฉัน”



“ก็นายอยากไม่ยอมฟังฉันเองนี่นา”



“...”



สุดท้ายทงเฮก็สิ้นท่าได้แต่เงียบปากและเป็นผู้ฟังที่ดี หน้ายังคงแดงไม่หาย และหัวใจก็ยังเต้นเร็วไม่เพลาลงเลย



“ตอบฉันได้รึยังว่าโกรธอะไร”



คิบอมถามคำถามเดิมอีกครั้งเพราะไม่อยากให้ทงเฮมีเรื่องไม่พอใจเขา มันแน่นอนอยู่แล้วว่าเขาต้องห่วงความรู้สึกของทงเฮที่สุด ซึ่งทงเฮก็ต้องง้างปากของตัวเองพูดออกมา



“ก็นายออกไปข้างนอกกับใครมาล่ะ”



คำตอบทำให้คนโดนถามกลับต้องคิด คิบอมมุ่นคิ้วเข้าหากันหน่อยๆ ก่อนจะร้องอ๋อออกมาเมื่อนึกออกแล้ว เขาไม่คิดว่านั่นจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ทงเฮโกรธ



“นั่นน่ะ เพื่อนที่เรียนห้องเดียวกับฉัน ชื่อฮยอกแจ เจ้าหมอนั่นมันเป็นลูกเจ้าของร้านสี แล้วก็มีพรสวรรค์เรื่องการดีไซน์ด้วย”



“แล้วมันเกี่ยวกันยังไง”



ทงเฮไม่เข้าใจเลยสักนิดกับสิ่งที่คิบอมตอบมา จับประเด็นไม่ถูกและผูกกันไม่ได้กับเหตุผลที่ทำให้คิบอมต้องให้คนที่ชื่อฮยอกแจซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ ทั้งที่เขาอยากจะเป็นคนแรกที่ได้นั่งตรงนั้น แต่กลายเป็นคนอื่น คิบอมไม่สนใจความรู้สึกของเขาเลยสักนิด คิดแล้วก็ต้องหน้าหงิกงออีกรอบ คิบอมเลยต้องรีบอธิบาย



“ฉันวานให้เขาช่วยอะไรนิดหน่อยแล้วเขาก็เอาของมาส่ง ทีนี้เขาก็เลยให้ช่วยไปส่งที่ป้ายรถหน่อยขี้เกียจเดินออกไป ฉันเห็นว่าเขาอุตส่าห์ช่วยทำของให้ก็เลยไปส่ง”



“นายให้คนอื่นซ้อนรถของนายก่อนที่ฉันจะได้ขึ้น”



หน้าสวยเปลี่ยนเป็นโกรธขึ้นมา ถึงเหตุผลของคิบอมจะฟังขึ้น แต่เขาก็อยากให้คิบอมรู้ว่าเขาไม่พอใจและมีความต้องการแบบไหน แต่พอได้ฟังอย่างนั้นแทนที่เจ้าตัวจะรู้สึกผิดกลับยิ้มออกมาบางๆ ทำให้ทงเฮต้องนิ่วหน้าหนักไปกว่าเดิม



“ทงเฮ” คิบอมเรียกเสียงอ่อนและอ้อนนิดๆ ก่อนจะจับร่างเล็กหมุนตัวกลับหลังไปที่มอเตอร์ไซค์ที่จอดอยู่ด้านหลัง “เห็นนั่นมั้ย”



“อะไร”



ทว่าทงเฮตอบเสียงห้วนกลับไป คิบอมจึงต้องบอกให้ชัดๆ ว่าสิ่งที่เขาอยากให้ทงเฮมองคืออะไร



“บนเบาะรถนั่นน่ะ”



พอบอกไปอย่างนั้นแล้วทงเฮก็มองตาม เห็นว่าเป็นหมวกันน็อคสีฟ้ากับสีเหลืองที่เขาและคิบอมวางเอาไว้คู่กัน บนหมวกกันน็อคนั้นด้านข้างจะเป็นวงกลมสีขาว และมีตัวเลขอยู่ บนหมวกสีฟ้าเป็นตัวเลข 12 และบนหมวกสีเหลืองเป็นเลข 9 อีกทั้งบนพื้นที่อื่นๆ ที่เป็นสีฟ้าก็ถูกลายเส้นหนาๆ สีขาวตัดกันไปมา



ทงเฮรู้ว่าสีเหลืองเป็นสีที่ตัวเองชอบ และสีฟ้าก็เป็นสีที่คิบอมชอบ แต่ไม่เข้าใจถึงความหมายของตัวเลขนั้นว่าคืออะไร แล้วทำไมของเขาต้องเป็นเลข 9 และคิบอมต้องเป็นเลข 12 ด้วย คิบอมจึงจูงมือทงเฮให้เดินไปที่เบาะรถด้วยกันแล้วยื่นหมวกกันน็อคสีเหลืองให้ทงเฮไปถือเอาไว้ ส่วนตัวเองถือสีฟ้า



“ลองมองดีๆ สิว่ามันมีอะไรอยู่”



ทงเฮมุ่นคิ้วมองหมวกกันน็อคในมือของตัวเอง ตอนแรกไม่เข้าใจและออกจะเวียนหัวกับเส้นสีขาวที่อยู่บนนั้น ลองพลิกไปพลิกมาแล้วก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี ทว่าเมื่อหมุนจนกลายเป็นมุมที่มองจากด้านบนทงเฮก็พบอะไรบางอย่างและมันก็ทำให้ต้องยิ้มออกมาอย่างกลั้นไม่ไหว



หน้าหวานๆ ของเด็กหนุ่มหันไปมองเพื่อนข้างบ้านที่ตัวเองแอบมีใจให้ ซึ่งคิบอมก็ยิ้มกลับมาอย่างเต็มที่เพราะคิดว่าทงเฮคงเจออะไรบางอย่างที่เขาอุตส่าห์ให้ฮยอกแจจัดการให้แล้ว



“เข้าใจรึยัง”



ทงเฮพยักหน้าหงึกๆ อย่างดีใจ พลางชะโงกไปมองหมวกสีฟ้าที่อยู่ในมือคิบอมก็เห็นข้อความที่คล้ายๆ กัน แต่ก็ยังสงสัยเกี่ยวกับตัวเลข



“แล้วเลข 9 กับเลข 12 นี่ล่ะ”



“นี่เหรอ?” คิบอมพลิกหมวกในมือของตัวเองนิดหน่อยเพื่อหันตัวเลขนั้นไปทางทงเฮ “ฉันเกิดวันที่เท่าไหร่ล่ะ”



“ยี่สิบเอ็ด ทำไมล่ะ”



“แล้ววันนึงมีกี่ชั่วโมง”



“ก็ยี่สิบสี่ไง”



ทงเฮได้แต่งงว่าคิบอมกำลังถามอะไรเพี้ยนๆ อยู่ ไม่เข้าใจเลยสักนิดถึงความหมายแฝงของมัน คิดยังไงก็คิดไม่ออก และมันก็ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับเลข 12 ตรงไหน แต่คิบอมก็เฉลยให้เข้าใจ



“ถึงวันนึงจะมียี่สิบสี่ชั่วโมง แต่นาฬิกามันมีถึงแค่เลข 12 เลข 12 ก็เปรียบเหมือนฉัน ที่ไม่ว่าเข็มนาฬิกาจะเดินผ่านเลขไหนในสิบสองเลขนี้ คนที่สำคัญที่สุดสำหรับฉันก็คือนาย”



แล้วทงเฮก็ต้องร้อนไปทั้งแก้ม หัวใจเร่งจังหวะซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนไม่กล้าจะมองหน้าคนที่เป็นเจ้าของประโยคนั้น ปากบางพร่ำเบาๆ



“แล้วเลข 9 ล่ะ”



“เลข 9 ก็คือนายไง ส่วนเต็มเติมที่จะทำให้กลายเป็นฉันอย่างเต็มตัว”
คิบอมบอกชัดๆ ก่อนจะค่อยๆ ขยับตัวเข้าหาร่างเล็กที่ก้มงุดซ่อนหน้าแดงก่ำเอาไว้ เสียงทุ้มเปรยออกมาอย่างแผ่วเบาให้เข้าใจได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
“สิบสองบวกเก้าเป็นยี่สิบเอ็ด”



ตอนนี้ทงเฮรู้สึกเหมือนว่าตัวเองไม่เป็นตัวเองสักเท่าไหร่ เพราะควบคุมอะไรไม่ได้สักอย่าง พยายามกลั้นยิ้มเอาไว้ก็ทำไม่ได้ พยายามระงับความตื่นเต้นดีใจก็ทำไม่ได้อีก บังคับไม่ให้เผลอใจล่องลอยไปไกลกับคำเหล่านี้ก็ทำไม่ได้เลย ราวกับร่างกายกลายเป็นของคนอื่นไปชั่วคราว ซึ่งคิบอมก็ใช้ช่วงเวลานี้กระซิบข้างหูทงเฮอีกครั้ง



“รู้ใช่มั้ยว่าฉันรู้สึกยังไงกับนาย”



“ไม่...ไม่รู้”



แม้ว่าประโยคก่อนหน้าจะบอกหมดแล้วว่าคิบอมรู้สึกยังไงอย่างไม่ปิดบัง แต่ก็ไม่กล้าที่จะสรุปความเอาเอง อยากได้ยินชัดๆ ว่าความรู้สึกนั้นเรียกว่าอะไร เป็นสิ่งที่ใช้คำนิยามเดียวกับที่เขารู้สึกอยู่รึเปล่า



“เหตุผลที่ฉันยังไม่ยอมให้นายซ้อนรถฉันก็เพราะอย่างนั้นแหละ”



“...”



“ฉันจะให้คนที่ฉันรักซ้อนรถได้ยังไงถ้าหากว่าหมวกกันน็อคมันยังไม่เสร็จ”



ทงเฮรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างรื้นอยู่ภายในใจ มันทำให้ใจชุ่มฉ่ำเต็มตื้นจนหุบยิ้มไม่ได้ ที่คิบอมไม่ยอมให้เขาซ้อนรถสักทีเพราะคิบอมคิดถึงเขา เพราะเป็นห่วงเขา และมันทำให้เขามีความสุขยิ่งกว่าอะไร



ทงเฮยิ้มกว้างแล้วเงยหน้าขึ้นสบตากับคิบอม มองเห็นความจริงใจที่สะท้อนออกมาจากแววตาคู่สีดำนั้นแล้วก็เป็นฝ่ายขยับตัวเข้าไปใกล้คนตัวสูงบ้างและกระซิบเสียงแผ่ว



“ขอบคุณนะที่ห่วงฉัน ฉันงี่เง่าเองแหละที่เอาแต่โวยวาย” ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันนิดหน่อย สูดลมหายใจเข้าลึกๆ หนึ่งครั้งก่อนจะเอื้อนคำที่อยู่ลึกสุดของหัวใจ “ฉันก็รักนายนะ”



แขนยาวข้างที่ว่างจากการถือหมวกนิรภัยรวบร่างเพรียวบางตรงหน้าเข้ามากอด แล้วก้มลงหอมแก้มนิ่มๆ นั้นให้ผิวเนียนนุ่มนั้นต้องร้อนขึ้นมา ทงเฮดันตัวคิบอมออกช้าๆ ก่อนจะบอกทั้งที่หน้าเป็นสีแดงแปร๊ด



“ไปขับรถเล่นต่อกันเถอะ เดี๋ยวค่ำซะก่อน”



คิบอมส่งยิ้มให้ทงเฮแล้วก็ตามใจคนตัวเล็กแต่โดยดี มือกว้างวางหมวกสีฟ้าของตัวเองลงกับเบาะรถ ก่อนจะฉวยหมวกสีเหลืองในมือบางมาเพื่อจะใส่ให้ แต่ทงเฮก็ยกมือขึ้นมากันเอาไว้



“คิบอมน่ะ ต้องใส่ใบนี้ ส่วนฉันน่ะ ใบนั้นต่างหาก”



ทงเฮบอกพลางจับหมวกสีเหลืองแล้วยื่นขึ้นไปใส่ให้คนตัวโตกว่าด้วยรอยยิ้ม ซึ่งก็ทำให้คิบอมยิ้มไม่หุบเหมือนกันเพราะคำพูดคำจาที่น่ารักของคนตัวเล็ก มือใหญ่ยื่นมือไปหยิบหมวกสีฟ้าที่เพิ่งวางบนเบาะไปเมื่อครู่มาใส่ให้คนตัวบาง จากนั้นก็ไปนั่งที่รถและสตาร์ทก่อนที่ร่างเล็กจะขึ้นไปนั่งคร่อมแล้วกอดเอวหนาเอาไว้



รถมอเตอร์ไซค์คันเท่เคลื่อนตัวออกไปจากริมแม่น้ำฮันเพื่อเข้าสู่ท้องถนน พร้อมกับคนสองคนที่มีรอยยิ้มปริเต็มแก้ม ความสุขอบอวลและลู่ไปกับสายลม ทว่าไม่ได้ทำให้ความรู้สึกนั้นตกหล่นรายทาง














ความสุขที่ใจสองใจสื่อถึงกัน และหมวกกันน็อคสองใบที่มีตัวหนังสือระบุอยู่บนนั้น












สีฟ้า... ‘ของคิบอม’


สีเหลือง... ‘ของทงเฮ’
























END



ดูบันทึกคะแนน
   Parawatee_41 พลังน้ำใจ +30
เธอ, อยู่เป็นรอยยิ้มของฉันอย่างนี้, ตลอดไปนะเธอ :)

เจ้าพ่อมหาลัย

โพสต์
26362
พลังน้ำใจ
111813
Zenny
58767
ออนไลน์
12153 ชั่วโมง

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
8774
พลังน้ำใจ
43389
Zenny
39906
ออนไลน์
3155 ชั่วโมง
ขอบคุณครับ

ประธานนักศึกษา

โพสต์
711
พลังน้ำใจ
4309
Zenny
6958
ออนไลน์
57 ชั่วโมง
ขอบคุณครับ
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | สมัครเข้าเรียน

รายละเอียดเครดิต

A Touch of Friendship: สังคมจะน่าอยู่ เมื่อมีผู้ให้แบ่งปัน ฝากไวเป็นข้อคิดด้วยนะคะชาวจีโฟกายทุกท่าน
!!!!!โปรดหยุด!!!!! : พฤติกรรมการโพสมั่วๆ / โพสแต่อีโมโดยไม่มีข้อความประกอบการโพส / โพสลากอักษรยาว เช่น ครับบบบบบบบบ, ชอบบบบบบบบ, thxxxxxxxx, และอื่นๆที่ดูแล้วน่ารำคาญสายตา เพราะถ้าท่านไม่หยุดทีมงานจะหยุดท่านเอง
ขอความร่วมมือสมาชิกทุกท่านโปรดโพสตอบอย่างอื่นนอกเหนือจากคำว่า ขอบคุณ, thanks, thank you, หรืออื่นๆที่สื่อความหมายว่าขอบคุณเพียงอย่างเดียวด้วยนะคะ เพื่อสื่อถึงความจริงใจในการโพสตอบกระทู้ และไม่ดูเป็นโพสขยะ
กระทู้ไหนที่ไม่ใช่กระทู้ในลักษณะที่ต้องโพสตอบโดยใช้คำว่าขอบคุณ เช่นกระทู้โพล, กระทู้ถามความเห็น, หรืออื่นๆที่ทีมงานอ่านแล้วเข้าข่ายว่า โพสขอบคุณไร้สาระ ทีมงานขอดำเนินการตัดคะแนน และ/หรือให้ใบเตือนสมาชิกที่โพสขอบคุณทันทีที่เจอนะคะ

รูปแบบข้อความล้วน|โทรศัพท์มือถือ|ติดต่อลงโฆษณา|จีโฟกายดอทคอม


ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บจีโฟกายดอทคอมนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ หากท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศิลธรรม ไม่เหมาะสมที่จะเผยแพร่ ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link “แจ้งลบโพสนี้” ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือ ลืมพาสเวิดล๊อกอิน/ลืมชื่อที่ใช้สมัคร หรือข้อสงสัยใดๆแจ้งมาที่ G4GuysTeam[at]yahoo.com ขอขอบพระคุณที่ให้ความร่วมมือ

กรณีที่ข้อความ/รูปภาพในกระทู้นี้จัดสร้างโดยผู้ลงข้อมูลเอง ลิขสิทธิ์จะเป็นของผู้ลงข้อมูลโดยตรง หากจะทำการคัดลอก/เผยแพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ลงข้อมูลก่อนนะคะ หรือลงที่มาไว้ด้วยค่ะ

©ขอสงวนสิทธิ์คอนเซ็ปต์,คำอธิบาย,หัวข้อ/หมวดหมู่เว็บ ห้ามลอกเลียนแบบ คิดเอาเองนะคะอย่าเอาแต่ลอก

GMT+7, 2024-5-7 06:24 , Processed in 0.090563 second(s), 29 queries .

Powered by Discuz! X3.1 R20140301, Rev.31

© 2001-2013 Comsenz Inc.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้