จีโฟกาย.คอม

 ลืมรหัสผ่าน
 สมัครเข้าเรียน
ค้นหา
 
ดู: 988|ตอบกลับ: 3
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป
ซ่อนแถบด้านข้าง

ความเชื่อของคนเมืองในการนับถือผี

[คัดลอกลิงก์]

หัวหน้าห้อง

โพสต์
1160
พลังน้ำใจ
2509
Zenny
28579
ออนไลน์
212 ชั่วโมง

สมาชิกจีโฟกาย 100%สมาชิกระดับแพลตตินั่มสมาชิกระดับทับทิมสมาชิกระดับตรีเพชรสมาชิกระดับเพชรคู่สมาชิกระดับไพลินสมาชิกระดับมรกตสมาชิกระดับเพชร

การนับถือผี มีส่วนเกี่ยวพันกันอย่างแนบแน่นระหว่างความเชื่อแต่ดั้งเดิมของชาวบ้านกับพุทธศาสนา ซึ่งมิได้ถูกจำกัดเฉพาะผีคนตาย
หากแต่ยังครอบคลุมถึงสรรพสิ่งรอบข้างที่สามารถจับต้องได้ แน่นอนว่าในบ้านเราความเชื่อเช่นนี้มีมาแต่เดิมแล้ว ทั้งยังมีศิลาจากรึกและพงศาวดารต่าง ๆ
มากมายกล่าวถึง นอกจากนั้นในวรรณกรรมไทยหลายเรื่องก็ยังกล่าวอ้างให้เห็นความเชื่อในเรื่องผี แม้แต่วรรณคดีเรื่องขุนช้างขุนแผน
ที่มีกำเนิดในช่วงต้นสมัยรัตนโกสินทร์ ตอนที่ขุนแผนกับพระไวยยกทัพมาตีเมืองเชียงใหม่ ก็ยังมีการตั้งศาลผีขึ้นเพื่อบวงสรวงดวงวิญญาณ

ในคติความเชื่อทั้งหลายนี้ คงไม่มีใครปฏิเสธ หากนับเอาศาสนาเป็น "ศูนย์รวม" ทางจิตใจของคน นักมานุษยวิทยาได้ให้คำจำกัดความไว้อย่างน่าฟังว่า
ศาสนาหมายถึงความเชื่อในดวงวิญญาณและการเกี่ยวข้องกับความศักดิ์สิทธิ์ และสิ่งที่ตามมาก็คือการบูชาบวงสรวงเพื่อให้เกิดสัมพันธภาพอันดีระหว่าง
"มนุษย์" กับ "อำนาจลี้ลับเหนือธรรมชาติ"

ปัจจุบันเราจะเห็นว่า มีการตั้งศาลพระภูมิเจ้าที่และศาลผีบรรพบุรุษมากที่สุด ประเพณีการตั้งศาลพระภูมิเริ่มมีขึ้นในเมืองไทยเมื่อไหร่ไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัด
อีกทั้งคนไทยที่รับเอาประเพณีนี้เข้ามาใช้ จะมีสักกี่คนที่รู้เรื่องราวหรือตำนานศาลพระภูมิ ซึ่งสิงสถิตย์อยู่ในศาลหน้าบ้านให้คนกราบไหว้บูชา
ในรายงานทางวิชาการเรื่อง "การนับถือเจ้า เทพ และพรหม ในระบบความเชื่อของชาวเมือง" ของอาภาภิรัตน วัลลิโภดม ได้ศึกษาระบบความเชื่อเรื่อง
ศาลพระภูมิ กล่าวว่า พระภูมิเป็นเทพที่ผสมผสานระหว่างฮินดูกับพุทธ เรื่องของพระภูมินั้นเป็นเรื่องของการยืมเทพจากสวรรค์มาช่วยคนบนพื้นโลก
และเพื่อให้เกิดการเชื่อถือยอมรับได้ จำต้องอิงเรื่องราวเทพในฮินดูมาสนับสนุน ศาลพระภูมิเป็นความเชื่อประจำบ้านที่ไม่ใช่ผีธรรมดา
หากแต่เป็นเทวดาระดับหนึ่ง ดังนั้นพิธีกรรมที่เกี่ยวข้องย่อมไม่ธรรมดา

ตำนานศาลพระภูมิเล่าว่า กาลครั้งหนึ่งมีพระเจ้ากรุงพาลี พระองค์หนึ่งมีนามว่า "พระภูมิ" ครองกรุงพาลีมาช้านาน จนมีพระโอรสถึง 9 องค์ ซึ่งแต่ละองค์ทรงมี
พระปรีชาสามารถด้วยประการต่าง ๆ พระภูมิจึงทรงตั้งพระโอรสไปเป็นพระยาปลัดรักษาสิ่งต่าง ๆ คือ พระชัยมงคล มีหน้าที่รักษาเคหะสถาน บ้านเรือน
หอค้าต่าง ๆ พระนคร-ราช รักษาค่ายทวาร พระเทวเถร รักษาคอกสัตว์ พระชัยสพ รักษายุ้งข้าว พระคนธรรพ์ รักษาเรือนหอ พระวันรัต รักษาที่นา
พระธรรมิกราช ดูแลรักษาอารามและอุทยานต่าง ๆ และพระทาษราชา ทำหน้าที่รักษาแม่น้ำ

เรียกว่าพระโอรสแต่ละองค์จะทำหน้าที่ปกป้องรักษาสถานที่ไปคนละอย่าง โดยมีพระภูมิเป็นผู้ควบคุมดูแลการทำงานของพระโอรส นอกจากนี้ พระเจ้ากรุงพาลี
ยังมีบริวารคนสนิทอยู่อีก 3 คนคือ นายจันถี นายจันทิศ และจ่าสพพระเชิงเรือน ทำหน้าที่รับใช้อยู่ตีนโรงตีนศาลด้วย

แต่ทำไม พระภูมิ ซึ่งเป็นพระเจ้ากรุงพาลีต้องมาทำหน้าที่รักษาทรัพย์สินทั้งหลายในโลกมนุษย์ ทั้ง ๆ ที่แค่ครองกรุงพาลีอย่างเดียวก็เป็นเรื่องหนักหนาสาหัส
อยู่แล้ว ซึ่งมีตำนานความเป็นมาซึ่งเขียนไว้ในตำนานพุทธศาสนากล่าวถึง พระภูมิว่า เมื่อครั้งที่พระพุทธเข้ายังเป็นเพียงพระโพธิสัตว์ กำลังบำเพ็ญญาณอยู่ใต้
ต้นนิโครธาอันไพศาล ตกกลางคืนก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน พระเจ้ากรุงพาลีนามว่า "พระภูมิ" เสด็จมาไล่ที่ ขับไล่พระโพธิสัตว์ออกจากแผ่นดินกรุงพาลี
พระโพธิสัตว์จึงทรงขอพื้นที่เพื่อใช้ในการบำเพ็ญญาณทางธรรมจากพระเจ้ากรุงพาลีเพียงแค่ 3 ก้าวเดิน พระภูมิทรงเห็นว่าที่ดินเพียงจิ๊บจ้อยแค่นี้เองทำไมจะ
ให้ไม่ได้ จึงทรงอนุญาตให้ที่ดิน 3 ก้าวเดินตามที่พระโพธิสัตว์ขอ

แล้วก็เกิดเหตุการณ์อภินิหารต่อหน้าพระเจ้ากรุงพาลี เมื่อพระโพธิสัตว์ย่างเท้าเพียง 2 ก้าวก็พ้นเขตแดนกรุงพาลีจนสุดขอบโลก เล่นเอาพระภูมิเดือดร้อน
ต้องระเห็จไปอยู่นอกฟ้าป่าหิมพานต์โน่น พระเจ้ากรุงพาลีจึงต้องให้คนสนิททั้งสาม มาทูลขอที่ดินคืนจากพระโพธิสัตว์ พระองค์ก็ทรงเมตตาคืนที่ดินทั้งหมด
ให้แก่พระเจ้ากรุงพาลีเพื่อให้พระภูมิใช้เป็นที่อยู่อาศัย บำเพ็ญตนในสุจริตธรรมและเพื่อป้องกันมิให้พวกจัณฑาลหรือโจรไม่มีที่อยู่มาอาศัยอยู่ในที่ดินนั้น
ทำให้โลกเกิดสันติสุข

พระภูมิจึงได้กลายเป็นผู้ปกป้องรักษาทรัพย์สินต่าง ๆ ในโลกมนุษย์ตั้งแต่นั้นมา มนุษย์จึงต้องศาลให้พระภูมิมาสิงสถิตย์เพื่อช่วยปกปักรักษาบ้านเรือนและคน
ในครอบครัวให้อยู่เย็นเป็นสุขแต่วิธีการจะตั้งศาลพระภูมินั้น ใช่ว่าจะกระทำได้โดยง่ายเพียงซื้อศาลมาตั้งแล้วจุดธูปบอกกล่าวธรรมดา ๆ ได้ จะต้องมีการ
ประกอบพิธีกรรม บวงสรวงสังเวย ซึ่งเป็นพิธีกรรมที่มีมานาน เหมือนกับประเพณีทำบุญขึ้นบ้านใหม่ที่ใครๆจะต้องทำ ทั้งนี้เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่เจ้าของ
บ้านและบริวารที่อาศันอยู่ในบ้านด้วย

นอกจากการทำพิธีบวงสรวงแล้ว ยังต้องมีพิธีจัดตั้งศาลพระภูมิที่ถูกต้องตามแบบประเพณีพราหมณ์โบราณ พิธีกรรมนี้จะต้องใช้ผู้ทรงคุณวุฒิหลายแขนง อาทิ
ให้โหรเป็นผู้เลือกชัยภูมิที่ตั้งกำหนดทิศทาง รูปทรงของศาลพระภูมิ หาฤกษ์ยามยกศาล ซึ่งจะต้องใช้พราหมณ์เป็นผู้กระทำในพิธีทั้งหมด

พิธีการตั้งศาลพระภูมิจึงได้รับความนิยมด้านความเชื่อในหมู่คนไทยเป็นจำนวนมาก สังเกตได้จากแต่ละบ้านจะมีการตั้งศาลพระภูมิไว้ที่หน้าบ้านเกือบทุกหลัง
ยกเว้นในหมู่คนเมืองล้านนาที่ไม่นิยมมีศาลพระภูมิ เพราะว่าพวกเขามีผีบรรพบุรุษหรือผีปู่ย่าคอยปกป้องคุ้มครองอยู่แล้ว

การนับถือผีบรรพบุรุษของคนไทยอาจดูแตกต่างจากจีนและญี่ปุ่น โดยเฉพาะคนจีนเป็นการสืบสานตระกูลฝ่ายบิดา จึงกำหนดได้แน่นอนมากกว่า
ส่วนการนับถือผีบรรพบุรุษของคนไทยนั้น ค่อนข้างจะเหมารวมแบบกว้าง ๆ แต่โดยความหมายแล้วการนับถือเช่นนี้บ่งถึงการยึดติดในรูปแบบการดำเนินชีวิต
ที่บรรพบุรุษกำหนดไว้ นอกจากนั้นในดินแดนล้านนายังมีตำนานพื้นเมืองที่กล่าวถึงการนับถือผีบรรพบุรุษก็คือ การเลี้ยงผีปู่แสะย่าแสะ ซึ่งเป็นผีบรรพบุรุษ
ของชาวลัวะ เจ้าของถิ่นเดิมเมื่อประมาณพันปีเศษมาแล้ว และทุกวันนี้ยังหลงเหลืออยู่ในเมืองเชียงใหม่ ยังคงรักษารูปแบบความเชื่อดั้งเดิมเอาไว้
โดยจะมีการเลี้ยงผีปู่แสะย่าแสะที่บริเวณป่าเชิงดอยสุเทพ

นอกจากนั้นยังมีคติความเชื่อในการนับถือผีมด ซึ่งเป็นผีไทยโบราณและผีเม็ง ซึ่งเป็นผีในตระกูลผีปู่ย่าที่สืบเชื้อสายมาจากมอญ หรือ พม่า ผีกลุ่มนี้เป็นตระกูล
ขุนนาง สำหรับเครื่องเซ่นไหว้ประกอบส่วนใหญ่จะได้แก่ ข้าวเหนียว หมาก พลู มะพร้าว กล้วย อ้อย เหล้า ข้าวตอกดอกไม้ ซึ่งเครื่องเซ่นไหว้เหล่านี้แสดงถึง
ความสมบูรณ์และสงบสุขในชีวิต โดยอิงพื้นฐานจากสังคมเกษตรกรรม

          อย่างไรก็ตามทุกวันนี้คงไม่มีใครปฏิเสธ ความเชื่อที่เกี่ยวข้องกับ "ผี" และอำนาจเหนือธรรมชาติ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าในรอยต่อระหว่างอารยธรรมเก่า
กับความเชื่อของคนต่อการนับถือผีนั้น ยังจำเป็นอย่างยิ่งต่อกระบวนการหล่อหลอมวิถีชีวิตด้วยพิธีกรรมที่นอกเหนือไปจากความเชื่อทางศาสนา

ลูกน้องหัวหน้าห้อง

โพสต์
590
พลังน้ำใจ
772
Zenny
4416
ออนไลน์
111 ชั่วโมง
ขอไห่ร่ำ ไห่รวย เงินทองกองเต็มเฮือนเด้อพี่น้อง

ประธานนักศึกษา

โพสต์
56
พลังน้ำใจ
5107
Zenny
1631
ออนไลน์
842 ชั่วโมง

ขอบคุณครับ

หัวหน้าห้อง

โพสต์
45
พลังน้ำใจ
2305
Zenny
247
ออนไลน์
128 ชั่วโมง
ขอบคุณคับ
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | สมัครเข้าเรียน

รายละเอียดเครดิต

A Touch of Friendship: สังคมจะน่าอยู่ เมื่อมีผู้ให้แบ่งปัน ฝากไวเป็นข้อคิดด้วยนะคะชาวจีโฟกายทุกท่าน
!!!!!โปรดหยุด!!!!! : พฤติกรรมการโพสมั่วๆ / โพสแต่อีโมโดยไม่มีข้อความประกอบการโพส / โพสลากอักษรยาว เช่น ครับบบบบบบบบ, ชอบบบบบบบบ, thxxxxxxxx, และอื่นๆที่ดูแล้วน่ารำคาญสายตา เพราะถ้าท่านไม่หยุดทีมงานจะหยุดท่านเอง
ขอความร่วมมือสมาชิกทุกท่านโปรดโพสตอบอย่างอื่นนอกเหนือจากคำว่า ขอบคุณ, thanks, thank you, หรืออื่นๆที่สื่อความหมายว่าขอบคุณเพียงอย่างเดียวด้วยนะคะ เพื่อสื่อถึงความจริงใจในการโพสตอบกระทู้ และไม่ดูเป็นโพสขยะ
กระทู้ไหนที่ไม่ใช่กระทู้ในลักษณะที่ต้องโพสตอบโดยใช้คำว่าขอบคุณ เช่นกระทู้โพล, กระทู้ถามความเห็น, หรืออื่นๆที่ทีมงานอ่านแล้วเข้าข่ายว่า โพสขอบคุณไร้สาระ ทีมงานขอดำเนินการตัดคะแนน และ/หรือให้ใบเตือนสมาชิกที่โพสขอบคุณทันทีที่เจอนะคะ

รูปแบบข้อความล้วน|โทรศัพท์มือถือ|ติดต่อลงโฆษณา|จีโฟกายดอทคอม


ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บจีโฟกายดอทคอมนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ หากท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศิลธรรม ไม่เหมาะสมที่จะเผยแพร่ ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link “แจ้งลบโพสนี้” ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือ ลืมพาสเวิดล๊อกอิน/ลืมชื่อที่ใช้สมัคร หรือข้อสงสัยใดๆแจ้งมาที่ G4GuysTeam[at]yahoo.com ขอขอบพระคุณที่ให้ความร่วมมือ

กรณีที่ข้อความ/รูปภาพในกระทู้นี้จัดสร้างโดยผู้ลงข้อมูลเอง ลิขสิทธิ์จะเป็นของผู้ลงข้อมูลโดยตรง หากจะทำการคัดลอก/เผยแพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ลงข้อมูลก่อนนะคะ หรือลงที่มาไว้ด้วยค่ะ

©ขอสงวนสิทธิ์คอนเซ็ปต์,คำอธิบาย,หัวข้อ/หมวดหมู่เว็บ ห้ามลอกเลียนแบบ คิดเอาเองนะคะอย่าเอาแต่ลอก

GMT+7, 2024-4-25 20:22 , Processed in 0.230986 second(s), 25 queries .

Powered by Discuz! X3.1 R20140301, Rev.31

© 2001-2013 Comsenz Inc.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้