จีโฟกาย.คอม

 ลืมรหัสผ่าน
 สมัครเข้าเรียน
ค้นหา
ดู: 1196|ตอบกลับ: 7
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป
ซ่อนแถบด้านข้าง

AREA 51 ฐานทัพ UFO (Part II)

[คัดลอกลิงก์]

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
7887
พลังน้ำใจ
19409
Zenny
105785
ออนไลน์
1750 ชั่วโมง

สมาชิกระดับแพลตตินั่มสมาชิกระดับไพลินสมาชิกระดับทับทิมสมาชิกระดับมรกตสมาชิกระดับเพชรสมาชิกระดับเพชรบริหารสมาชิกระดับตรีเพชรสมาชิกระดับมงกุฎสมาชิกระดับเพชรคู่สมาชิกจีโฟกาย 100%

AREA 51 ฐานทัพ UFO…..รัฐบาลสหรัฐเคยปฏิเสธการมีตัวตนของพื้นที่ 51พวกเขาพยายามที่จะปิดบังอะไรไว้ หรือว่ามันคือฐานทัพของมนุษย์ต่างดาวถ้าหากมีคนถามว่า พื้นที่บริเวณใดในสหรัฐ เป็นพื้นที่ที่ลึกลับที่สุดเราคงจะได้รับคำตอบว่า มันคือพื้นที่ 51 หรือ Area 51นั่นก็อาจจะเป็นเพราะมีคนจำนวนมาก อ้างว่าได้เห็นวัตถุบินลึกลับหรือ UFO(Unidentified Flying Object)บินอยู่เหนือบริเวณนั้นบ่อยครั้งจนหลายคนสงสัยว่าบริเวณพื้นที่ 51น่าจะเป็นฐานทัพหรือกองบัญชาการของวัตถุบินลึกลับ
…..เช้าวันทำงาน
…..ทุก ๆเช้าของวันทำงานจะมีคนอย่างน้อย 500คนผ่านเข้าไปยังประตูทางขึ้นเครื่องบินที่มีการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดซึ่งอยู่ทางปีกด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือของสนามบินแมคคาร์แรนในลาสเวกัส เจ้าของพื้นที่ที่เป็นเขตหวงห้ามส่วนนี้คือ บริษัทอีจีแอนด์จี(EG&G – Edgerton, Germesausen and Grier)
….ผู้คนเหล่านั้นต้องบอกรหัสผ่าน “เจเน็ท” (Janet) ตามด้วยเลขประจำตัว สามหลักก่อนที่จะผ่านเข้าไปขึ้นเครื่องโบอิ้ง 747-200s ที่ไม่มีเครื่องหมายใดๆ ระบุว่าเป็นเครื่อง บินของใคร สายการบินนี้ออกบินทุก ๆ ครึ่งชั่วโมงโดยมีจุดหมายอยู่ที่ทะเลสาบกรูม (Groom Lake)สถานที่ลึกลับที่หน่วยราชการของสหรัฐปฏิเสธการมีตัวตนของมันเมื่อหลายปีก่อน
…..เขตทดลองเครื่องบินลับ
…..พื้นที่ 51หรือที่รู้จักกันในอีกชื่อหนึ่งว่าทะเลสาบกรูมนั้นอยู่ห่างจากลาสเวกัสไปทางตอนเหนือราว 90 ไมล์อันที่จริงแล้ว พื้นที่51 เคยเป็นที่ตั้งของฐานทัพทหารแห่งหนึ่ง ของสหรัฐที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1955 โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อใช้ทดสอบเครื่องบินจารกรรม U2
….นับแต่นั้นมา ก็มีการใช้พื้นที่ 51 เป็นสถานที่ทดสอบเครื่องบินจารกรรม เช่น เจ้าวิหคทมิฬ (Blackbird SR71)เครื่องบินขับไล่ลองหน F117 Stealth Fighter เครื่องบินทิ้งระเบิดล่องหนB2 Stealth Bomber อีกทั้งยังถูกใช้เป็นสถานที่ วิจัยโครงการลับออรอร่า(Aurora Project)
…..เครื่องบินรบเหล่านี้จะถูกทำการทดสอบสมรรถภาพที่บริเวณทะเลสาบกรูมเมื่อพวกเขาทดสอบเครื่องบินรบจนเป็นที่พอใจแล้วจึงค่อยประกาศต่อสาธารนชนให้ทราบว่าบัดนี้กองทัพได้สร้างเขี้ยวเล็บอันใหม่ขึ้นมา
….. ประวัติพื้นที่ 51
เดือนมีนาคม ปี1955 เคลลี่จอห์นสัน (Kelly Johnson) ผู้ออกแบบเครื่องบินจารกรรม U2 ได้รับมอบหมายจากCIA ให้ออกแบบเครื่องบิน U2นอกจากนี้แล้วเขายังได้รับมอบหมายให้หาสถานที่เพื่อใช้ทดสอบเจ้า U2 นี้ด้วย
…..เคลลี่ได้ส่งเจ้าหน้าที่ โทนี่ เลอวิเอร์ (Tony LeVier)นักบินที่จะทำการทดสอบเครื่อง U2 กับดอร์ซี่ เคมเมเรอร์ (Dorsey Kammerer)ไปสำรวจพื้นที่ล้างกลางทะเลทรายทางตอนใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนีย เนวาด้าและอริโซน่า 2 สัปดาห์ต่อมาโทนี่กลับมาส่งรายงานเคลลี่ดูรายงานเปรียบเทียบสถานที่ทั้ง 3แห่งแล้วก็ตัดสินใจเลือกพื้นที่บริเวณทะเลสาบกรูมในรัฐเนวาด้า
…..ทะเลสาบกรูม มีชื่อเรียกอีกมากมายนับตั้งแต่มีการก่อสร้างฐานทัพขึ้นเคลลี่เรียกมันว่า Paradise Ranch – ทุ่งหญ้าสวรรค์แต่หลังจากมีการ่ทดสอบเครื่องบิน U2 ในเดือน กรกฏาคม ปี 1955แล้วมันกลับถูกเรียกสั้น ๆ ว่า เรนช์ (Ranch – ทุ่งหญ้า)ในความเป็นจริงแล้วฐานทัพ(ลับ) แห่งนี้มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่าวอร์เตอร์ทาวน์สตรีบ (watertown Strip)ตามชื่อเมืองหนึ่งที่อยู่ทางตอนเหนือของรัฐนิวยอร์กซึ่งเป็นบ้านเกิดของแอลแลน ดูลเลส (Allen Dulles) ผู้อำนวยการซีไอเอสมัยนั้น
…..ที่มาของชื่อพื้นที่ 51
…..เดือนมิถุนายน ปี1958 คณะกรรมาธิการพลังงานปรมาณู (Atomic Energy Commission – AEC)ได้เข้ามาใช้พื้นที่บริเวณทะเลสาบกรูมร่วมกับกองทัพสหรัฐเพื่อทำการทดลองโครงการลับ ๆ บางอย่างพวกเขาเรียกสถานีทดลองนี้ว่าสถานีทดลองเนวาด้า (Nevada Test Site)คณะกรรมาธิการ ได้แบ่งพื้นที่ออกเป็นส่วน ๆ แล้วกำหนดหมายเลขให้แต่ละส่วนบริเวณส่วนที่เป็นฐานทัพนั้นได้หมายเลข 51
….นับตั้งแต่นั้นมาทุกครั้งที่ฮอลลีวู้ดสร้างภาพยนต์ที่เกี่ยวข้องกับโครงการลับของสหรัฐ จึงมักจะอ้างถึงทะเลสาบกรูม แต่พวกเขาจะเรียกมันสั้น ๆว่า พื้นที่ 51 ตามที่คณะกรรมาธิการพลังงานปรมาณูใช้เรียกถึงแม้ว่าการทดลองลับของ AEC จะเสร็จสิ้นไปตั้งแต่ปี 1970 แล้วก็ตาม
….ในปี 1970 กองทัพอากาศสหรัฐได้เข้ามายึดพื้นที่นี้อย่างถาวรเพื่อใช้เป็นสถานที่ทดลองเครื่องบินรบรุ่นใหม่ ๆตลอดไปจนถึงการทดลองเครื่องบินมิค21 และอาวุธทันสมัยอื่น ๆ ของรัสเซียที่ทางสหรัฐยึดมาได้เมื่อปี 1967
…..ปี 1975 พื้นที่ 51 ได้ถูกกำหนดให้เป็นหนึ่งในเขตจำลองการรบทางอากาศภายใต้รหัส “ธงแดง” (Red Flag) คราวนี้พื้นที่ 51จึงถูกเรียกสั้น ๆในชื่อใหม่ว่า “จตุรัสแดง” (Red Square) แต่ชื่อกึ่งเป็นทางการนั้นคือ“แดนในฝัน” (Dreamland) และในช่วงทศวรรษ 1970ก็ได้มีการทดลองโครงการด้านอวกาศและการทดลองเครื่องบินที่ทันสมัยที่สุดคือ“แทคอินบลู” (Tacit Blue)
….. ขยายอาณาเขต
…..ฐานทัพทะเลสาบกรูมถูกขยายอาณาเขตออกไปอีกในช่วงทศวรรษ 1980 มีการสร้างสนามบินเพิ่มเติมอาคารเก็บเครื่องบินถูกสร้างบนลานบินเพื่อให้ง่ายต่อการเก็บซ่อนจากสายตาของดาวเทียมจารกรรมที่มีอยู่มากมาย อุปกรณ์สื่อสารเรดาร์และจานดาวเทียมได้รับการติดตั้ง ตึกราม อาคารโกดังหลายแห่งถูกสร้างขึ้นมาใหม่บนทะเลสาบกรูมคาดว่ามันถูกใช้เป็นกองบัญชาการของศูนย์ทดลองเครื่องบินรบของกองทัพที่ถูกเรียกว่า ดีแทชเมนต์3 (Detachment3)
…..แม้ว่าจะมีการเพิ่มการรักษาความปลอดภัยแต่ก็ยังไม่วายถูกแอบลักลอบถ่ายภาพเนื่องจากพื้นที่รอบ ๆ ทะเลสาบกรูม เป็นภูเขา ในปี 1984กองทัพสหรัฐต้องขยายเขตหวงห้ามออกไปอีกโดยหวังว่าจะเป็นการกันไม่ให้มีใครสามารถมองเข้ไปยังในบริเวณฐานทัพได้แต่ก็ยังมีจุดที่สามารถใข้เป็นที่สอดแนมได้อีก 2 แห่งห่างจะทะเลสาบกรูมไปทางตอนใต้ราว 12 ไมล์ คือที่บริเวณไวท์ไซด์ พีก (WhiteSide Peak) กับ ฟรีดอมริด์จ (FreedomRidge)เพื่อป้องกันไม่ให้มีคนอาศัยสถานที่ทั้งสองแห่งสอดแนมได้อีก ในปี1995 กองทัพจึงได้ประกาศให้เขตดังกล่าวเป็นเขตหวงห้ามด้วย
…..แต่เขตหวงห้ามนั้นได้แต่เพียงแค่ติดป้ายเตือนเท่านั้นไม่มีการล้อมรั้วแต่อย่างใดเพราะพื้นที่เขตหวงห้ามนั้นกินอาณาเขตกว้างใหญ่เกินกว่าที่จะล้อมรั้วได้แต่ก็มีการจัดเวรยามโดยใช้หน่วยรักษาความปลอดภัยนิรนามที่พกอาวุธสุดจะทันสมัยอีกทั้งยังมีการติดตั้งเครื่องมือตรวจจับการเคลื่อนไหวที่ทันสมัยที่สุดเท่าที่เคยมีมาเพราะมันสามารถแยกแยะได้ว่าผู้ที่บุกรุกเข้ามาเป็นมนุษย์หรือสัตว์หน่วยลาดตะเวนนิรนามนี้เรียกว่า แคมโมดูดส์ (Cammo Dudes)ซึ่งมีหน่วนสนับสนุนทางอากาศที่ใช้เฮลิคอปอเตอร์ Silkorsky MH-60G PaveHawk คอยให้การสนับสนุนทางอากาศ
…..โครงการลับต่าง ๆ ที่ใช้พื้นที่51เป็นสถานี้ทดลองนั้นค่อย ๆ ทยอยจบลงเช่นการทดลองเครื่องบินจารกรรมแทคอิทบลูเสร็จสิ้นเมื่อปี 1985การทดลองเครื่องบินยิงขีปนาวุธ แอดวานซ์ครูซ (Advances Cruise Missile –ACM) ถูกยกเลิกในปี 1992 การทดลองขีปนาวุธสแตนด์ออฟแอทแทค (Stand-OffAttack Missile) ถูกยกเลิกในปี 1994แต่ถึงกระนั้นกองทัพอากาศสหรัฐก็ยังคงตั้งศูนย์ปฏิบัติการอยู่ที่นั้น
…..ความลับในพื้นที่ 51
…..เป็นไปได้ว่ากองทัพอากาศยังคงมีภารกิจอื่น ๆ ที่ไม่เป็นที่เปิดเผยในปี 1989สถานีโทรทัศน์ลาสเวกัสได้ถ่ายทอดการให้สัมภาษณ์ รอเบิร์ท ลาซาร์ (RobertLazar) ผู้ที่อ้าวว่าเขาเคยทำงานในพื้นที่ 51
…..รอเบิร์ท กล่าวว่าเขาได้รับมอบหมายให้ทำการศึกษาวิศวกรรมยานอวกาศของมนุษย์ต่างดาว ในพื้นที่51 มียานอวกาศรูปทรงกลมคล้ายจานจำนวน 9 ลำบินขึ้นลงในเขตหวงห้ามบริเวณที่ชื่อ S4 หรือที่มีชื่อที่รู้จักกันโดยทั่วไปว่าบริเวณทะเลสาบปาปูส(Papoose Lake) ซึ่งอยู่ห่างจากทะเลสาบกรูมไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ราว 10ไมล์
…..เรื่องราวของรอเบิร์ทเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมากมันทำให้เรื่องราวเกี่ยวกับวัตถุบินลึกลับที่ผู้คนสงสัยเริ่มปะติดปะต่อขึ้นเป็นรูปเป็นร่างยานบินรูปทรงกลมอาจเป็นการทดลองระบบต้านแรงโน้มถ่วงโลกแน่นอนเทคโนโลยี่น่าทึ่งเช่นนี้ต้องถูกปกปิดเป็นความลับสุดยอด
…..นอกจากนี้ยังมีการทดลองเครื่องบินจารกรรมที่มีความเร็วกว่าเสียง 5 เท่าโดยใช้พลังขับเคลื่อนชนิดใหม่ เช่น พอล์ส เดโทเนชั่น เวฟเอนจิน (PulseDetonation Wave Engine)และเครื่องบินความเร็วสูงที่ขับเคลื่อนด้วยพลังไฮโครเจนการทดลองเครื่องบินที่มีความเร็วกว่าเสียงหลายเท่าหรือที่เรียกว่ายานไฮมัค(High-Mach Vehicle)โดยสร้างเครื่องบินที่มีลักษณะเป็นลูกผสมระหว่างเครื่องบิน A12 กับ D21หรือที่เรียกกันว่า ซูเปอร์วอลคารี (Super Valkarie)ซึ่งมีคนจำนวนมากที่เคยไปด้อม ๆ มอง ๆ แถวพื้นที่ 51 เคยเห็นมันถูกทดสอบ
…..ยานอวกาศจากต่างดาว
จากคำกล่าวอ้างของรอเบิร์ทS4 เป็นสถานที่ใช้สำหรับศึกษา วิจัยวัตถุบินลึกลับภายใต้ชื่อโครงการมูนดัส(Moondust)บรรดาสิ่งก่อสร้างทั้งหลายถูกอำพรางอยู่ภายใต้พื้นทรายเพื่อหลบเลี่ยงดาวเทียมจารกรรมของรัสเซีย
.
….รอเบิร์ททำงานในห้องในห้องทดลองร่วมกับนักวิทยาศาสตร์อีกคนหนึ่งชื่อ แบร์รี่ คาสติลลิโอ (Barry Castillio)นักวิจัยแต่ละกลุ่มจะถูกแยก ทำงานในส่วนต่าง ๆพวกเขาถูกจำกัดให้มีเพื่อนร่วมงานเพียงแค่ไม่กี่คนแบร์รี่เป็นเพื่อนร่วมงานเพียงคนเดียวที่ช่วยรอเบิร์ทศึกษาค้นคว้าเรื่องการขับเคลื่อนของยานอวกาศ
…..วันแรกที่รอเบิร์ทเดินทางมาถึง S4เขาถูกนำตัวไปที่ห้องพยาบาลเพื่อทำการตรวจผิวหนังเขาถูกทาด้วยสารหลายชนิดตามจุดต่าง ๆ บนแขนวันต่อมาก็มีเจ้าหน้าที่มาตรวจเช็กผิวหนังเขาเกิดพุพองหรือมีอาการแพ้หรือไม่
.
….ไม่เพียงแค่นั้นเขายังถูกสั่งให้ดื่มสารบางชนิดที่ทำให้ร่างกายของเขามีภูมิคุ้มกันสูงขึ้นสารนี้จะช่วยป้องกันเขาจากสิ่งแปลกปลอมที่อาจได้รับจากการสัมผัสวัตถุที่มาจากต่างดาว
…..สารที่รอเบิร์ทดื่มนั้นมีกลิ่นเหมือนกับกลิ่นต้นสนและในคืนนั้นหลังจากที่เขาได้ดื่มสารสร้างภูมิคุ้มกันเข้าไปเขาก็เกิดอาการเป็นตะคริวที่ท้องน้อย ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันเป็นผลข้างเคียงมาจากสารสร้างภูมินั้นต่อมารอเบิร์ทถูกแนะนำให้รู้จักกับ เรนนี่ (Rene)ซึ่งเขาก็ไม่รู้ว่าเรนี่เป็นใครมีหน้าที่อะไรใน S4 เจ้าหน้าที่ที่ทำงานอยู่ในส่วนของ S4 นั้นมีอยู่แค่เพียง 22 คนเท่านั้นหัวหน้าของรอเบิร์ทชื่อ เดนนิส มาริอานี (Dennis Mariani)
…..เขารู้จักเดนนิสตอนที่ไปสัมภาษณ์งานที่บริษัทอีจีแอนด์จีซึ่งตอนนั้นยังมีสำนักงานอยู่ที่สนามบินแมคคาร์เรน ในลาสเวกัสแต่ปัจจุบันได้ย้ายมาอยู่ที่ฐานทัพอากาศเนลลิส (Nellis Air Force Base)
…..ศึกษาข้อมูล
ในวันแรก ๆมีเจ้าหน้าที่พารอเบิร์ทไปที่ห้องเล็ก ๆ ที่มีเพียงโต๊ะและเก้าอี้กับแฟ้มเอกสารกว่า 100 แฟ้มข้อคยวามในแฟ้มล้วนเป็นข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับมนุษย์ต่างดาวและเทคโนโลยี่มนุษย์ต่างดาวเขาใช้เวลาวันละครึ่งชั่วโมงในการศึกษาข้อมูลในแฟ้มเหล่านั้น
…..ข้อมูลในแฟ้มเหล่านั้นดูเหมือนจะเป็นบทสรุปให้กับเหล่านักวิทยาศาสตร์ที่มาทำงานใน S4ว่างานที่พวกเขาได้รับมอบหมายให้ทำนั้นเกี่ยวข้องกับสิ่งมีชีวิตต่างพิภพรอเบิร์ทได้เห็นการทดสอบบินของยานบินรูปทรงประหลาดและยิ่งตกใจมากขึ้นเมื่อเห็นรายงานเขียนว่ามีการติดต่อกับมนุษย์ต่างดาวมานานกว่าหมื่นล้านปีแล้ว!!!!
…..โครงการที่รอเบิร์ททำอยู่นั้นเป็นส่วนย่อยของโครงการใหญ่เขารับผิดชอบเรื่องการค้นคว้าการขับเคลื่อนของยานอวกาศต่างดาวและบทบาทของแรงโน้มถ่วงเพื่อใช้เป็น สื่อในการขับเคลื่อนภายใต้ชื่อโครงการ กาลิเลโอ(Project Galileo)
…..โดยปรกติแล้วเจ้าหน้าที่แต่ละส่วนจะไม่ได้รับอนุญาตให้มีการติดต่อพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ส่วนอื่น ๆแต่ในกรณีของรอเบิร์ทนั้นเขาต้องอาศัยความรู้ในแขนงอื่นด้วยจึงทำให้เขาได้รับอนุญาตเป็นกรณีพิเศษให้ทำการทดลองร่วมกับนักวิทยาศาสตร์กลุ่มอื่น
…..หลากหลายโครงการ
โครงการไซด์คิก (Project Sidekick)เป็นหนึ่งในสองโครงการที่รอเบิร์ทได้รับอนุญาตให้รู้ข้อมูลได้บางส่วนมันเป็นการศึกษาค้นคว้าเรื่องอาวุธแสง (Beam Weapon)ที่จะถูกติดตั้งบนเครื่องบินรบอาวุธลำแสงนี้ต้องอาศัยความรู้เรื่องแรงโน้มถ่วงและการรวมแสงให้เป็นลำอาวุธชนิดนี้มีอำนาจการทำลายล้างที่สูงมาก
…..โครงการลุกกิ้งกลาส(Project Looking Glass)เป็นการศึกษาเรื่องกำกายภาพของการมองเห็นและผลกระทบต่อเวลาและอวกาศในการสร้างแรงโน้มถ่วงจำลองและเช่นกันว่าโครงการนี้ต้องอาศัยความรู้ทางด้านแรงโน้มถ่วงและการควบคุมมัน
…..การทดลองในโครงการกาลิเลโอ ประสบความสำเร็จเป็นที่น่าพอใจรอเบิร์ทได้เห็นรายงานและหลักฐานต่าง ๆ ที่พิสูจน์ถึงความถูกต้องของมันซึ่งทำให้เชื่อว่าโครงการอื่น ๆ ที่ทำใน S4นั้นก็ประสบความสำเร็จเช่นเดียวกันแต่รอเบิร์ทก็ปฏิเสธที่จะถือเอากรรมสิทธิ์เหนือความสำเร็จนั้นเขากล่าวว่ารายงานการวิจัยที่เขาทำขึ้นเป็นแค่ตัวอักษรและรูปภาพบนแผ่นกระดาาเท่านั้น

Area51
สถานที่ทดลองอาวุธลับสุดยอด เทคโนโลยีอันทันสมัยการติดต่อกับสิ่งมีชีวิตทรงปัญญานอกพิภพ ที่ถูกปกปิดโดยรัฐบาลสหรัฐรัฐบาลสหรัฐเคยปฏิเสธการมีตัวตนของพื้นที่ 51พวกเขาพยายามที่จะปิดบังอะไรไว้ หรือว่ามันคือฐานทัพของมนุษย์ต่างดาวถ้าหากมีคนถามว่า พื้นที่บริเวณใดในสหรัฐ เป็นพื้นที่ที่ลึกลับที่สุดเราคงจะได้รับคำตอบว่า มันคือพื้นที่ 51 หรือ Area 51นั่นก็อาจจะเป็นเพราะมีคนจำนวนมาก อ้างว่าได้เห็นวัตถุบินลึกลับหรือ UFO(Unidentified Flying Object)บินอยู่เหนือบริเวณนั้นบ่อยครั้งจนหลายคนสงสัยว่าบริเวณพื้นที่ 51น่าจะเป็นฐานทัพหรือกองบัญชาการของวัตถุบินลึกลับ?

เช้าวันทำงาน ทุก ๆ เช้าของวันทำงานจะมีคนอย่างน้อย 500 คนผ่านเข้าไปยังประตูทางขึ้นเครื่องบินที่มีการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด
ซึ่งอยู่ทางปีกด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือของสนามบินแมคคาร์แรน ในลาสเวกัสเจ้าของพื้นที่ที่เป็นเขตหวงห้ามส่วนนี้คือ บริษัทอีจีแอนด์จี (EG&G –Edgerton,
Germesausen and Grier)
ผู้คนเหล่านั้นต้องบอกรหัสผ่าน“เจเน็ท” (Janet) ตามด้วยเลขประจำตัว สามหลักก่อนที่จะผ่านเข้าไปขึ้นเครื่องโบอิ้ง 747-200s ที่ไม่มีเครื่องหมายใดๆ ระบุว่าเป็นเครื่องบินของใคร สายการบินนี้ออกบินทุก ๆ ครึ่งชั่วโมงโดยมีจุดหมายอยู่ที่ทะเลสาบกรูม (Groom Lake)สถานที่ลึกลับที่หน่วยราชการของสหรัฐปฏิเสธการมีตัวตนของมันเมื่อหลายปีก่อน
เขตทดลองเครื่องบินลับ พื้นที่ 51หรือที่รู้จักกันในอีกชื่อหนึ่งว่าทะเลสาบกรูมนั้นอยู่ห่างจากลาสเวกัสไปทางตอนเหนือราว 90 ไมล์อันที่จริงแล้ว พื้นที่51 เคยเป็นที่ตั้งของฐานทัพทหารแห่งหนึ่ง ของสหรัฐที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1955 โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อใช้ทดสอบเครื่องบินจารกรรม U2

บแต่นั้นมา ก็มีการใช้พื้นที่ 51 เป็นสถานที่ทดสอบ เครื่องบินจารกรรม เช่น เจ้าวิหคทมิฬ (Blackbird SR71)

เครื่องบินขับไล่ลองหน F117 Stealth Fighter

เครื่องบินทิ้งระเบิดล่องหน B2 Stealth Bomber

อีกทั้งยังถูกใช้เป็นสถานที่ วิจัยโครงการลับออรอร่า (Aurora Project)
เครื่องบินรบเหล่านี้จะถูกทำการทดสอบสมรรถภาพที่บริเวณทะเลสาบกรูมเมื่อพวกเขาทดสอบเครื่องบินรบจนเป็นที่พอใจแล้วจึงค่อยประกาศต่อสาธารนชนให้ทราบว่าบัดนี้กองทัพได้สร้างเขี้ยวเล็บอันใหม่ขึ้นมา
ประวัติพื้นที่ 51
เดือนมีนาคม ปี 1955 เคลลี่ จอห์นสัน (KellyJohnson) ผู้ออกแบบเครื่องบินจารกรรม U2 ได้รับมอบหมายจาก CIAให้ออกแบบเครื่องบิน U2นอกจากนี้แล้วเขายังได้รับมอบหมายให้หาสถานที่เพื่อใช้ทดสอบเจ้า U2 นี้ด้วย
เคลลี่ได้ส่งเจ้าหน้าที่ โทนี่ เลอวิเอร์ (Tony LeVier) นักบินที่จะทำการทดสอบเครื่อง U2 กับดอร์ซี่
เคมเมเรอร์ (Dorsey Kammerer) ไปสำรวจพื้นที่ล้างกลางทะเลทรายทางตอนใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนีย
เนวาด้า และอริโซน่า 2 สัปดาห์ต่อมาโทนี่กลับมาส่งรายงานเคลลี่ดูรายงานเปรียบเทียบสถานที่ทั้ง 3แห่งแล้วก็ตัดสินใจเลือกพื้นที่บริเวณทะเลสาบกรูมในรัฐเนวาด้า
ทะเลสาบกรูม มีชื่อเรียกอีกมากมายนับตั้งแต่มีการก่อสร้างฐานทัพขึ้นเคลลี่เรียกมันว่า Paradise Ranch – ทุ่งหญ้าสวรรค์แต่หลังจากมีการทดสอบเครื่องบิน U2 ในเดือน กรกฏาคม ปี 1955แล้วมันกลับถูกเรียกสั้น ๆ ว่า เรนช์ (Ranch – ทุ่งหญ้า)ในความเป็นจริงแล้วฐานทัพ(ลับ) แห่งนี้มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่าวอร์เตอร์ทาวน์สตรีบ (watertown Strip)ตามชื่อเมืองหนึ่งที่อยู่ทางตอนเหนือของรัฐนิวยอร์กซึ่งเป็นบ้านเกิดของแอลแลน ดูลเลส (Allen Dulles) ผู้อำนวยการซีไอเอสมัยนั้น
ที่มาของชื่อพื้นที่ 51
เดือนมิถุนายน ปี 1958คณะกรรมาธิการพลังงานปรมาณู (Atomic Energy Commission – AEC)ได้เข้ามาใช้พื้นที่บริเวณทะเลสาบกรูมร่วมกับกองทัพสหรัฐเพื่อทำการทดลองโครงการลับ ๆ บางอย่างพวกเขาเรียกสถานีทดลองนี้ว่าสถานีทดลองเนวาด้า (Nevada Test Site)คณะกรรมาธิการ ได้แบ่งพื้นที่ออกเป็นส่วน ๆ แล้วกำหนดหมายเลขให้แต่ละส่วนบริเวณส่วนที่เป็นฐานทัพนั้นได้หมายเลข 51
นับตั้งแต่นั้นมาทุกครั้งที่ฮอลลีวู้ดสร้างภาพยนต์ที่เกี่ยวข้องกับโครงการลับของสหรัฐ จึงมักจะอ้างถึงทะเลสาบกรูมแต่พวกเขาจะเรียกมันสั้น ๆ ว่า พื้นที่ 51ตามที่คณะกรรมาธิการพลังงานปรมาณูใช้เรียก ถึงแม้ว่าการทดลองลับของ AECจะเสร็จสิ้นไปตั้งแต่ปี 1970 แล้วก็ตาม
ในปี 1970กองทัพอากาศสหรัฐได้เข้ามายึดพื้นที่นี้อย่างถาวรเพื่อใช้เป็นสถานที่ทดลองเครื่องบินรบรุ่นใหม่ ๆตลอดไปจนถึงการทดลองเครื่องบินมิค21 และอาวุธทันสมัยอื่น ๆ ของรัสเซียที่ทางสหรัฐยึดมาได้เมื่อปี 1967
ปี 1975 พื้นที่ 51 ได้ถูกกำหนดให้เป็นหนึ่งในเขตจำลองการรบทางอากาศภายใต้รหัส “ธงแดง” (Red Flag) คราวนี้พื้นที่ 51จึงถูกเรียกสั้น ๆในชื่อใหม่ว่า “จตุรัสแดง” (Red Square) แต่ชื่อกึ่งเป็นทางการนั้นคือ“แดนในฝัน” (Dreamland) และในช่วงทศวรรษ 1970ก็ได้มีการทดลองโครงการด้านอวกาศและการทดลองเครื่องบินที่ทันสมัยที่สุดคือ“แทคอินบลู” (Tacit Blue)
ขยายอาณาเขตฐานทัพทะเลสาบกรูมถูกขยายอาณาเขตออกไปอีกในช่วงทศวรรษ 1980มีการสร้างสนามบินเพิ่มเติมอาคารเก็บเครื่องบินถูกสร้างบนลานบินเพื่อให้ง่ายต่อการเก็บซ่อนจากสายตาของดาวเทียมจารกรรม ที่มีอยู่มากมาย อุปกรณ์สื่อสารเรดาร์และจานดาวเทียมได้รับการติดตั้ง ตึกราม อาคารโกดังหลายแห่งถูกสร้างขึ้นมาใหม่บนทะเลสาบกรูมคาดว่ามันถูกใช้เป็นกองบัญชาการ ของศูนย์ทดลองเครื่องบินรบของกองทัพที่ถูกเรียกว่า ดีแทชเมนต์3 (Detachment3)
แม้ว่าจะมีการเพิ่มการรักษาความปลอดภัยแต่ก็ยังไม่วายถูกแอบลักลอบถ่ายภาพเนื่องจากพื้นที่รอบ ๆ ทะเลสาบ กรูมเป็นภูเขา ในปี 1984 กองทัพสหรัฐต้องขยายเขตหวงห้ามออกไปอีกโดยหวังว่าจะเป็นการกันไม่ให้มีใครสามารถมองเข้ไปยังในบริเวณฐานทัพได้แต่ก็ยังมีจุดที่สามารถใข้เป็นที่สอดแนมได้อีก 2 แห่งห่างจะทะเลสาบกรูมไปทางตอนใต้ราว 12 ไมล์ คือที่บริเวณไวท์ไซด์ พีก (WhiteSide Peak) กับ ฟรีดอมริด์จ (Freedom Ridge)เพื่อป้องกันไม่ให้มีคนอาศัยสถานที่ทั้งสองแห่งสอดแนมได้อีก ในปี 1995กองทัพจึงได้ประกาศให้เขตดังกล่าวเป็นเขตหวงห้ามด้วย
แต่เขตหวงห้ามนั้นได้แต่เพียงแค่ติดป้ายเตือนเท่านั้นไม่มีการล้อมรั้วแต่อย่างใดเพราะพื้นที่เขตหวงห้ามนั้นกินอาณาเขตกว้างใหญ่ เกินกว่าที่จะล้อมรั้วได้แต่ก็มีการจัดเวรยามโดยใช้หน่วยรักษาความปลอดภัยนิรนามที่พกอาวุธสุดจะทันสมัย อีกทั้งยังมีการติดตั้งเครื่องมือตรวจจับการเคลื่อนไหวที่ทันสมัยที่สุด เท่าที่เคยมีมาเพราะมันสามารถแยกแยะได้ว่าผู้ที่บุกรุกเข้ามาเป็นมนุษย์หรือสัตว์หน่วยลาดตะเวนนิรนามนี้เรียกว่า แคมโมดูดส์ (Cammo Dudes)ซึ่งมีหน่วนสนับสนุนทางอากาศที่ใช้เฮลิคอปอเตอร์ Silkorsky MH-60G PaveHawk คอยให้การสนับสนุนทางอากาศ
โครงการลับต่าง ๆ ที่ใช้พื้นที่51เป็นสถานี้ทดลองนั้นค่อย ๆ ทยอยจบลงเช่นการทดลองเครื่องบินจารกรรมแทคอิทบลูเสร็จสิ้นเมื่อปี 1985การทดลองเครื่องบินยิงขีปนาวุธ แอดวานซ์ครูซ (Advances Cruise Missile –ACM)
ถูกยกเลิกในปี 1992 การทดลองขีปนาวุธสแตนด์ออฟแอทแทค (Stand-OffAttack Missile) ถูกยกเลิกในปี 1994แต่ถึงกระนั้นกองทัพอากาศสหรัฐก็ยังคงตั้งศูนย์ปฏิบัติการอยู่ที่นั้น
ความลับในพื้นที่ 51 เป็นไปได้ว่ากองทัพอากาศยังคงมีภารกิจอื่น ๆ ที่ไม่เป็นที่เปิดเผยในปี 1989

สถานีโทรทัศน์ลาสเวกัสได้ถ่ายทอดการให้สัมภาษณ์ รอเบิร์ท ลาซาร์ (Robert Lazar)

รอเบิร์ท (ผู้ที่อ้างว่าเขาเคยทำงานในพื้นที่ 51)กล่าวว่าเขาได้รับมอบหมายให้ทำการศึกษาวิศวกรรมยานอวกาศของมนุษย์ต่างดาว ในพื้นที่51 มียานอวกาศรูปทรงกลมคล้ายจานจำนวน 9 ลำบินขึ้นลงในเขตหวงห้ามบริเวณที่ชื่อ S4หรือที่มีชื่อที่รู้จักกันโดยทั่วไปว่าบริเวณทะเลสาบปาปูส (Papoose Lake)ซึ่งอยู่ห่างจากทะเลสาบกรูมไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ราว 10 ไมล์
เรื่องราวของรอเบิร์ทเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมากมันทำให้เรื่องราวเกี่ยวกับวัตถุบินลึกลับที่ผู้คนสงสัยเริ่มปะติดปะต่อขึ้นเป็นรูปเป็นร่าง ยานบินรูปทรงกลมอาจเป็นการทดลองระบบต้านแรงโน้มถ่วงโลกแน่นอนเทคโนโลยีที่น่าทึ่งเช่นนี้ต้องถูกปกปิดเป็นความลับสุดยอด
นอกจากนี้ยังมีการทดลองเครื่องบินจารกรรมที่มีความเร็วกว่าเสียง 5 เท่าโดยใช้พลังขับเคลื่อนชนิดใหม่ เช่น พอล์ส เดโทเนชั่น เวฟเอนจิน (PulseDetonation Wave Engine)และเครื่องบินความเร็วสูงที่ขับเคลื่อนด้วยพลังไฮโครเจนการทดลองเครื่องบินที่มีความเร็วกว่าเสียงหลายเท่าหรือที่เรียกว่ายานไฮมัค(High-Mach Vehicle)
โดยสร้างเครื่องบินที่มีลักษณะเป็นลูกผสมระหว่างเครื่องบิน A12 กับ D21 หรือที่เรียกกันว่า ซูเปอร์วอลคารี (SuperValkarie) ซึ่งมีคนจำนวนมากที่เคยไปด้อม ๆ มอง ๆ แถวพื้นที่ 51เคยเห็นมันถูกทดสอบ
ยานอวกาศจากต่างดาว จากคำกล่าวอ้างของรอเบิร์ท S4เป็นสถานที่ใช้สำหรับศึกษา วิจัยวัตถุบินลึกลับภายใต้ชื่อโครงการมูนดัส(Moondust) บรรดาสิ่งก่อสร้างทั้งหลายถูกอำพรางอยู่ภายใต้พื้นทรายเพื่อหลบเลี่ยงดาวเทียมจารกรรมของรัสเซีย
รอเบิร์ททำงานในห้องทดลองร่วมกับนักวิทยาศาสตร์อีกคนหนึ่งชื่อ แบร์รี่ คาสติลลิโอ (Barry Castillio)นักวิจัยแต่ละกลุ่มจะถูกแยก ทำงานในส่วนต่าง ๆพวกเขาถูกจำกัดให้มีเพื่อนร่วมงานเพียงแค่ไม่กี่คนแบร์รี่เป็นเพื่อนร่วมงานเพียงคนเดียวที่ช่วยรอเบิร์ทศึกษาค้นคว้าเรื่องการขับเคลื่อนของยาน

วันแรกที่รอเบิร์ทเดินทางมาถึง S4เขาถูกนำตัวไปที่ห้องพยาบาลเพื่อทำการตรวจผิวหนังเขาถูกทาด้วยสารหลายชนิดตามจุดต่าง ๆ บนแขนวันต่อมาก็มีเจ้าหน้าที่มาตรวจเช็คผิวหนังของเขาเกิดพุพองหรือมีอาการแพ้หรือไม่
ไม่เพียงแค่นั้น เขายังถูกสั่งให้ดื่มสารบางชนิดที่ทำให้ร่างกายของเขามีภูมิคุ้มกันสูงขึ้น สารนี้จะช่วยป้องกันเขาจากสิ่งแปลกปลอมที่อาจได้รับจากการสัมผัสวัตถุที่มาจากต่างดาว
สารที่รอเบิร์ทดื่มนั้นมีกลิ่นเหมือนกับกลิ่นต้นสนและในคืนนั้น หลังจากที่เขาได้ดื่มสารสร้างภูมิคุ้มกันเข้าไปเขาก็เกิดอาการเป็นตะคริวที่ท้องน้อย ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันเป็นผลข้างเคียงมาจากสารสร้างภูมิคุ้มกันนั้นต่อมารอเบิร์ทถูกแนะนำให้รู้จักกับ เรนี่ (Rene)ซึ่งเขาก็ไม่รู้ว่าเรนี่เป็นใครมีหน้าที่อะไรใน S4
เจ้าหน้าที่ ที่ทำงานอยู่ในส่วนของ S4 นั้นมีอยู่แค่เพียง 22 คนเท่านั้น หัวหน้าของรอเบิร์ทชื่อ เดนนิส มาริอานี (Dennis Mariani)
เขารู้จักเดนนิสตอนที่ไปสัมภาษณ์งานที่บริษัทอีจีแอนด์จีซึ่งตอนนั้นยังมีสำนักงานอยู่ที่สนามบินแมคคาร์เรน ในลาสเวกัสแต่ปัจจุบันได้ย้ายมาอยู่ที่ฐานทัพอากาศเนลลิส (Nellis Air Force Base)
ศึกษาข้อมูล ในวันแรก ๆ มีเจ้าหน้าที่พารอเบิร์ทไปที่ห้องเล็ก ๆที่มีเพียงโต๊ะ และเก้าอี้กับแฟ้มเอกสารกว่า 100 แฟ้มข้อความภายในแฟ้มล้วนเป็นข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับมนุษย์ต่างดาวและเทคโนโลยีของมนุษย์ต่างดาวเขาใช้เวลาวันละครึ่งชั่วโมงในการศึกษาข้อมูลในแฟ้มเหล่านั้น
ข้อมูลในแฟ้มเหล่านั้น ดูเหมือนจะเป็นบทสรุปให้กับเหล่านักวิทยาศาสตร์ที่มาทำงานใน S4 ว่างานที่พวกเขาได้รับมอบหมายให้ทำนั้นเกี่ยวข้องกับสิ่งมีชีวิตต่างพิภพรอเบิร์ทได้เห็นการทดสอบการบินของยานบินรูปทรงประหลาดและยิ่งตกใจมากขึ้นเมื่อในรายงานระบุว่ามีการติดต่อกับมนุษย์ต่างดาวมานานกว่าหมื่นล้านปีแล้ว!!!!
โครงการที่รอเบิร์ททำอยู่นั้นเป็นส่วนย่อยของโครงการใหญ่เขารับผิดชอบเรื่องการค้นคว้าการขับเคลื่อนของยานอวกาศต่างดาวและบทบาทของแรงโน้มถ่วงเพื่อใช้เป็น สื่อในการขับเคลื่อนภายใต้ชื่อโครงการกาลิเลโอ (Project Galileo)
โดยปรกติแล้วเจ้าหน้าที่แต่ละส่วนจะไม่ได้รับอนุญาตให้มีการติดต่อพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ส่วนอื่น ๆแต่ในกรณีของรอเบิร์ทนั้นเขาต้องอาศัยความรู้ในแขนงอื่นด้วยจึงทำให้เขาได้รับอนุญาตเป็นกรณีพิเศษให้ทำการทดลองร่วมกับนักวิทยาศาสตร์กลุ่มอื่นหลากหลายโครงการโครงการไซด์คิก (Project Sidekick) เป็นหนึ่งในสองโครงการที่รอเบิร์ทได้รับอนุญาตให้รู้ข้อมูลได้บางส่วนมันเป็นการศึกษาค้นคว้าเรื่องอาวุธแสง (Beam Weapon)
ที่จะถูกติดตั้งบนเครื่องบินรบ อาวุธลำแสงนี้ต้องอาศัยความรู้เรื่องแรงโน้มถ่วงและการรวมแสงให้เป็นลำ อาวุธชนิดนี้มีอำนาจการทำลายล้างที่สูงมาก
โครงการลุกกิ้งกลาส (Project Looking Glass)เป็นการศึกษาเรื่องกายภาพของการมองเห็นและผลกระทบต่อเวลาและอวกาศในการสร้างแรงโน้มถ่วงจำลอง และเชื่อกันว่าโครงการนี้ต้องอาศัยความรู้ทางด้านแรงโน้มถ่วงและการควบคุมมัน
การทดลองในโครงการกาลิเลโอ ประสบความสำเร็จเป็นที่น่าพอใจรอเบิร์ทได้เห็นรายงานและหลักฐานต่าง ๆ ที่พิสูจน์ถึงความถูกต้องของมันซึ่งทำให้เชื่อว่าโครงการอื่น ๆ ที่ทำใน S4นั้นก็ประสบความสำเร็จเช่นเดียวกันแต่รอเบิร์ทก็ปฏิเสธที่จะถือเอากรรมสิทธิ์เหนือความสำเร็จนั้นเขากล่าวว่ารายงานการวิจัยที่เขาทำขึ้นเป็นแค่ตัวอักษรและรูปภาพบนแผ่นกระดาษเท่านั้น
ไม่ว่าการทดลองที่พื้นที่ 51 จะเป็นอะไรก็ตามก็ยังมีผู้คนที่อยากรู้อยากเห็นเป็นจำนวนมาก ได้พยายามสอดแนมเข้าไปใกล้เพื่อบันทึกภาพ ซึ่งภาพส่วนใหญ่ก็ใช้เป็นหลักฐานยืนยันได้ดีว่ามีการทดลองเครื่องบินหรือวัตถุบินได้บางชนิดจริง !!
ไม่เคยเสียใจสักครังกับคำว่ารัก...ถึงแม้เราไม่เคยได้เป็นแฟนใคร???

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
13253
พลังน้ำใจ
24964
Zenny
169230
ออนไลน์
1434 ชั่วโมง

สมาชิกจีโฟกาย 100%สมาชิกระดับแพลตตินั่มสมาชิกระดับทับทิมสมาชิกระดับไพลินสมาชิกระดับมรกตสมาชิกระดับเพชรสมาชิกระดับเพชรบริหารสมาชิกระดับเพชรคู่สมาชิกระดับตรีเพชรสมาชิกระดับมงกุฎ

 นักศึกษาภาคพิเศษ (M.D.A)
ปริญญากิตติมศักดิ์

สมาชิกจีโฟกาย 100%สมาชิกระดับเพชรคู่สมาชิกระดับแพลตตินั่มสมาชิกระดับทับทิมสมาชิกระดับไพลินสมาชิกระดับมรกตสมาชิกระดับเพชรสมาชิกระดับเพชรบริหารสมาชิกระดับตรีเพชรสมาชิกระดับมงกุฎ

ตอบกระทู้ konbannok ตั้งกระทู้

พี่ครับ เอาเรื่อง สามเหลี่ยมเบอรมิวด้า บ้างนะครับ

แสดงความคิดเห็น

คริๆ ครับฟ๋ม ถ้ามีข้อมูลเดี๋ยวจะเอามาลงให้นะครับ  โพสต์ 2011-7-26 17:51

หัวหน้าห้อง

โพสต์
386
พลังน้ำใจ
1140
Zenny
6863
ออนไลน์
81 ชั่วโมง
ขอบคุนครับ ได้เวลากลับยานแม่ ซะแล้วสิ ^^"

แสดงความคิดเห็น

555 งั้นก็กลับพร้อมกันเลยนะครับ ขอบคุณมากครับผม  โพสต์ 2011-7-26 19:15
 นักศึกษาภาคพิเศษ (M.D.A)
ปริญญากิตติมศักดิ์
ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็น

ขอบคุณเช่นกันนะครับผม  โพสต์ 2011-7-26 19:18
คิดถึงคนไกล นานนักรู้ไหมที่ไกลห่าง หัวใจดวงนี้ช่างอ้างว้าง รอคอยอย่า

หัวหน้าห้อง

โพสต์
1196
พลังน้ำใจ
1164
Zenny
7774
ออนไลน์
73 ชั่วโมง
ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็น

ขอบคุณเช่นกันครับผม  โพสต์ 2011-7-26 23:17

นักศึกษา

โพสต์
843
พลังน้ำใจ
123
Zenny
4785
ออนไลน์
130 ชั่วโมง

หัวหน้าห้อง

โพสต์
1196
พลังน้ำใจ
1164
Zenny
7774
ออนไลน์
73 ชั่วโมง
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | สมัครเข้าเรียน

รายละเอียดเครดิต

A Touch of Friendship: สังคมจะน่าอยู่ เมื่อมีผู้ให้แบ่งปัน ฝากไวเป็นข้อคิดด้วยนะคะชาวจีโฟกายทุกท่าน
!!!!!โปรดหยุด!!!!! : พฤติกรรมการโพสมั่วๆ / โพสแต่อีโมโดยไม่มีข้อความประกอบการโพส / โพสลากอักษรยาว เช่น ครับบบบบบบบบ, ชอบบบบบบบบ, thxxxxxxxx, และอื่นๆที่ดูแล้วน่ารำคาญสายตา เพราะถ้าท่านไม่หยุดทีมงานจะหยุดท่านเอง
ขอความร่วมมือสมาชิกทุกท่านโปรดโพสตอบอย่างอื่นนอกเหนือจากคำว่า ขอบคุณ, thanks, thank you, หรืออื่นๆที่สื่อความหมายว่าขอบคุณเพียงอย่างเดียวด้วยนะคะ เพื่อสื่อถึงความจริงใจในการโพสตอบกระทู้ และไม่ดูเป็นโพสขยะ
กระทู้ไหนที่ไม่ใช่กระทู้ในลักษณะที่ต้องโพสตอบโดยใช้คำว่าขอบคุณ เช่นกระทู้โพล, กระทู้ถามความเห็น, หรืออื่นๆที่ทีมงานอ่านแล้วเข้าข่ายว่า โพสขอบคุณไร้สาระ ทีมงานขอดำเนินการตัดคะแนน และ/หรือให้ใบเตือนสมาชิกที่โพสขอบคุณทันทีที่เจอนะคะ

รูปแบบข้อความล้วน|โทรศัพท์มือถือ|ติดต่อลงโฆษณา|จีโฟกายดอทคอม


ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บจีโฟกายดอทคอมนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ หากท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศิลธรรม ไม่เหมาะสมที่จะเผยแพร่ ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link “แจ้งลบโพสนี้” ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือ ลืมพาสเวิดล๊อกอิน/ลืมชื่อที่ใช้สมัคร หรือข้อสงสัยใดๆแจ้งมาที่ G4GuysTeam[at]yahoo.com ขอขอบพระคุณที่ให้ความร่วมมือ

กรณีที่ข้อความ/รูปภาพในกระทู้นี้จัดสร้างโดยผู้ลงข้อมูลเอง ลิขสิทธิ์จะเป็นของผู้ลงข้อมูลโดยตรง หากจะทำการคัดลอก/เผยแพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ลงข้อมูลก่อนนะคะ หรือลงที่มาไว้ด้วยค่ะ

©ขอสงวนสิทธิ์คอนเซ็ปต์,คำอธิบาย,หัวข้อ/หมวดหมู่เว็บ ห้ามลอกเลียนแบบ คิดเอาเองนะคะอย่าเอาแต่ลอก

GMT+7, 2024-4-20 14:43 , Processed in 0.136941 second(s), 36 queries .

Powered by Discuz! X3.1 R20140301, Rev.31

© 2001-2013 Comsenz Inc.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้