จีโฟกาย.คอม

 ลืมรหัสผ่าน
 สมัครเข้าเรียน
ค้นหา
 
ดู: 1784|ตอบกลับ: 49
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป
ซ่อนแถบด้านข้าง

ขุนศึกเชลยทาส (บทนำ - บทที่ ๓)

[คัดลอกลิงก์]

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
172
พลังน้ำใจ
14479
Zenny
73479
ออนไลน์
3222 ชั่วโมง
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย jokecup เมื่อ 2023-10-26 09:13

ขุนศึกเชลยทาส
บทนำ
เมืองแมน เป็นเมืองอู่ข้าวอู่น้ำที่แสนจะอุดมสมบูรณ์สมกับคำกล่าวที่ว่าในน้ำมีปลา ในนามีข้าว ทำให้เมืองที่อยู่ใกล้เคียงอยากได้เมืองแมนเป็นเมืองบริวารเพราะจะช่วยสร้างความเข้มแข็งให้กับเมืองของตัวเองได้มากยิ่งขึ้นแต่ถึงแม้เมืองแมนจะไม่ได้มีกำลังทหารหรือไพร่พลที่เก่งกาจเชี่ยวชาญการรบแต่อย่างน้อยก็ยังมีคนเก่งที่มีความสามารถในการต่อสู้และเป็นผู้นำทัพเข้าสู้ศึกสงครามกับเมืองต่าง ๆ ได้อย่างไม่หวั่นเกรงใคร


ขุนเรืองไกร นักรบผู้เชี่ยวชาญทั้งด้านการวางยุทธศาสตร์และการต่อสู้ไม่มีการรบครั้งไหนที่ขุนเรืองไกรจะเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำ หรือไม่กลับมาพร้อมชัยชนะการที่เขาเติบโตมาจากตระกูลนักรบ เริ่มจับดาบจับหอกออกรบพุ่งก่อนจะหัดอ่านหัดเขียนเสียด้วยซ้ำทำให้เขาซึมซับเอาเลือดนักสู้มาจากบรรพบุรุษ และถือว่าการปกปักษ์รักษาบ้านเมืองให้อยู่รอดปลอดภัยไม่ต้องเป็นเมืองขึ้นของใคร คือหน้าที่หลักของชายชาตินักรบอย่างเขา


เพราะความเก่งกล้าของขุนเรืองไกรทำให้ชื่อเสียงของเขาขจรขจายไปทั่วแคว้นเมืองต่าง ๆ บางเมืองที่อยากลองของก็ส่งไพร่พลและกำลังทหารเข้ามารุกรานเพราะหากได้รับชัยชนะ ไม่เพียงแต่จะมีชัยเหนือเมืองสองและได้ทรัพยากรอันอุดมสมบูรณ์เป็นของรางวัลยังได้ขุนศึกฝีมือฉกาจฉกรรจ์มาเสริมทัพกำลังทหารของฝ่ายตนให้แข็งแกร่งเพิ่มมากขึ้นอีกด้วยหากแต่จนถึงบัดเดี๋ยวนี้ก็ยังไม่มีเมืองไหนหรือขุนศึกคนใดที่ต่อกรกับขุนเรืองไกรได้เลยสักคน


แต่ถึงความเก่งกล้าของขุนเรืองไกรจะเป็นที่ประจักษ์แต่ใช่ว่าเขาเป็นที่รักหรือยกย่องเชิดชูของทุกคนในเมืองนอกจากประชาชนที่รักและเทิดทูนเขา เหล่าขุนน้ำขุนนางคนอื่น ๆกลับไม่ค่อยชอบขี้หน้าขุนเรืองไกรนัก ส่วนหนึ่งมาจากพระยาเยน เจ้าผู้ปกครองเมืองซึ่งมีนิสัยขี้ขลาด ไม่ชอบการรบพุ่งและความรุนแรง ทุกครั้งที่จะเกิดการรบพระยาเยนจะหาทางสงบศึกให้ได้ก่อนทุกครั้ง ไม่ว่าจะด้วยกลวิธีการใดก็ตาม เพราะแม้จะมั่นใจในฝีมือของขุนเรืองไกรแต่ก็ไม่อยากเสี่ยงที่จะทำให้ภัยเกิดกับตัว


ขณะที่พวกขุนนางคนอื่น ๆ ก็คิดว่าเป็นเพราะฝีมืออันเก่งกาจของขุนเรืองไกรที่ล่อให้นักรบจากเมืองต่าง ๆ เข้ามาขอประลองกับขุนเรืองไกรหากเมื่อไรที่ไม่มีขุนเรืองไกรแล้วนั้น เมืองต่าง ๆ อาจไม่สนใจที่จะมาทำศึกสงครามกับเมืองแมนมากขนาดนี้ก็เป็นได้แต่จะให้ทัดทานหรือกระทำการใด ๆ ที่จะไม่ให้ขุนเรืองไกรไม่ไปออกรบนั้นก็ไม่กล้ากระทำ เพราะกลัวว่าจะถูกหาว่าขี้ขลาดตาขาวไม่กล้าสู้ทั้งที่ตนเองก็ไม่ได้เป็นผู้ออกไปรบด้วยตนเองแท้ ๆ


ขณะที่เหล่าทหารที่อยู่ภายใต้อำนาจของขุนเรืองไกรก็มีทั้งที่ยกย่องเชิดชูมองเขาดั่งเป็นวีรบุรุษ กับกลุ่มที่ริษยาในความเก่งกล้าของขุนเรืองไกร และรู้สึกว่าการออกรบของตนนั้นเป็นไปเพื่อเสริมความเก่งให้กับขุนเรืองไกร โดยที่ตนเองไม่ได้ผลประโยชน์ใด ๆตอบแทนกลับมาเลย แต่แม้กระนั้นก็ยังไม่มีใครกล้าแสดงออกนอกหน้าถึงความรู้สึกที่แท้จริงของตนมีเพียงการแบ่งกลุ่มนินทาในยามว่างจากการฝึกรบเท่านั้น ตัวขุนเรืองไกรเองก็พอจะรู้ดีว่าใครที่รักและใครที่ชังเขา หากแต่เมื่อความรักความชังนั้นมิได้ส่งผลต่อการรบ การต่อสู้เขาจึงไม่ได้นำมันมาใส่ใจ หรือคิดจะปรับความเข้าใจต่อกลุ่มคนที่ต่อต้านเขาอยู่ลึกๆ


สิ่งเดียวที่ขุนเรืองไกรจะให้ความสำคัญคือความรู้สึกของหญิงอันเป็นที่รักของเขาเท่านั้น นั่นคือ ลำดวนหญิงสาวที่เติบโตมากับพร้อม ๆ กับเขา จากการเป็นเพื่อนเล่นสู่การเป็นเพื่อนที่รู้ใจ ลำดวนเป็นคนเดียวที่เข้าอก เข้าใจ คอยเอาใจใส่กับทุกความรู้สึกของเขาและเป็นคนเดียวที่ทำให้ความร้อนในใจเขาสงบลงมาได้ เมื่อไรก็ตามที่เขาต้องไปออกรบ ทุกครั้งจะต้องมีสิ่งของที่ลำดวนให้เขาไว้ดูต่างหน้ามันไม่ใช่แค่สิ่งของแทนใจที่ทำให้เขาคลายความคิดถึงนางอันเป็นที่รัก แต่มันยังเป็นเครื่องรางที่คอยปกปักษ์รักษาและทำให้เขาแคล้วคลาดปลอดภัยจากภยันตรายใดๆ มาได้ทุกครั้ง


หลังกลับจากการออกรบครั้งล่าสุด ที่เขามีชัยเหนือกองกำลังจากเมืองนายเมืองที่ส่งกองทัพมารุกรานเมืองสองอยู่บ่อยครั้งและครั้งนี้คือครั้งที่กองทัพเมืองนายปราชัยอย่างย่อยยับเป็นที่สุดขุนเรืองไกรกลับไปหาลำดวนทันทีที่เขากลับเข้าตัวเมือง เขาเอ่ยปากขอหญิงอันเป็นที่รักมาเป็นเมียอย่างถูกต้องโดยบอกเหตุผลว่าการออกรบครั้งหลังสุดเป็นช่วงเวลาที่ทำให้เขาเห็นคุณค่าของชีวิตมากที่สุดและคุณค่าของชีวิตเขาจะไม่สมบูรณ์หากไม่มีลำดวนอยู่ร่วมเรียงเคียงหมอนกับเขาหากแต่ลำดวนกลับมีท่าทีสองจิตสองใจเมื่อได้ฟัง และยังไม่ให้คำตอบหากแต่จะขอตอบขุนเรืองไกรในงานพิธีประจำปีของวัดประยูรวัดคู่บ้านคู่เมืองของเมืองนาย


บทที่๑
งานประจำปีของวัดประยูรในปีนี้จัดยิ่งใหญ่กว่าทุกปีที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นการเฉลิมฉลองหลังการกำชัยในศึกสงครามที่เพิ่งผ่านมาประชาชนมากหน้าหลายตาต่างเข้ามาแสดงความยินดีต่อขุนเรืองไกร ที่เดินจูงมือลำดวนเข้ามาในงานและทำให้ลำดวนพลอยมีความสุขไปกับคนรักไปด้วยทุกคนต่างอวยชัยให้พรกับความรักของทั้งคู่ สิ่งเหล่านี้ยิ่งสร้างความกดดันให้กับลำดวนมากยิ่งขึ้นเพราะคืนนี้คือคืนที่เธอต้องให้คำตอบกับขุนเรืองไกรว่าเธอจะตัดสินใจอย่างไรต่อคำขอของเขา


ขณะที่อีกฟากของงานพิธี ไอ้เพชร ลูกชายที่ไม่เอาอ่าวของหลวงหาญข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ผู้ทรงอิทธิพล กำลังอารมณ์เสียเพราะเสียพนันไก่ชนจนหมดเงินไปหลายเบี้ยมันจึงชวน ไอ้จ่อย ลูกสมุนออกไปหาความสนุกจากงานตรงอื่นต่อ แต่ขณะเดินอยู่นั้นมันเห็นคนกลุ่มใหญ่กำลังมุงดูอะไรบางอย่างอยู่ มันจึงเดินเข้าไปดูและพบว่าชาวบ้านกำลังให้ความสนอกสนใจอยู่กับนายทหารรูปงามกล้ามแกร่งอย่างขุนเรืองไกรนั่นยังไม่ทำให้มันอิจฉามากเท่ากับที่เห็นว่า ลำดวน หญิงที่มันหมายปองยืนจับคู่อยู่กับขุนเรืองไกร ความอิจฉาตาร้อนเข้าครอบงำจิตใจจนมันทนไม่ไหว ต้องเดินเข้าไปเพื่อหวังจะแยกลำดวนออกมาจากขุนเรืองไกรให้จงได้


“ลำดวน นี่เจ้ามางานนี้ทำไมไม่บอกพี่ล่ะพี่พร้อมอาสาพาเจ้าเที่ยวชมงานไม่เห็นต้องไปไหว้วานให้ท่านขุนต้องมาลำบากลำบนเพราะเจ้าเลย”


“ข้าไม่ได้ลำบากอะไรเลย พ่อเพชรเป็นความเต็มใจที่ข้าจะพาแม่หญิงอันเป็นที่รักมาเดินเที่ยวชมงานด้วยกันคงไม่ต้องลำบากให้คนนอกอย่างเจ้าเข้ามาช่วยเหลือดอก”


“ท่านนี่น่าไม่อายนักไฉนจึงใช้คำพูดตู่เอาว่าแม่หญิงลำดวนเป็นของเจ้าข้ายังไม่เห็นแม่หญิงจะเออออะไรไปกับท่านด้วยเลย”


“แม่หญิงคงไม่ต้องพูด ท่านดูที่การกระทำของนางเอกก็ได้”ขุนเรืองไกรเบือนหน้าให้ไอ้เพชรมองไปที่มือของตนที่กุมมือของลำดวนเอาไว้ไอ้เพชรเห็นดังนั้นยิ่งโมโห มันรีบปรี่เข้าไปหวังจะให้มือที่เกาะกุมกันอยู่นั้นคลายออกแต่ขุนเรืองไกรอาศัยความไวเบี่ยงตัวหลบ จนไอ้เพชรเซถลาลงไปหน้าคะมำกับพื้นไอ้จ่อยเห็นดังนั้นรีบเข้าไปช่วยลูกพี่ของมัน แต่ดันเป็นตอนที่ไอ้เพชรจะลุกพอดีมันเลยทำให้ไอ้จ่อยเสียหลัก ขาไปเหยียบชายผ้านุ่งของไอ้เพชร จนผ้าหลุดออกมากองที่ขาทั้งยวงจนทำให้ไอ้เพชรหน้าคะมำลงไปอีกครั้ง แต่ครั้งนี้มันไม่ได้แค่เจ็บตัวแต่ต้องเจ็บใจเพราะความอายที่ต้องโชว์ก้นขาวเนียนให้ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นได้เห็น


เสียงหัวเราะเพราะความสมเพชปนเวทนาดังระงมไปทั่วจนไอ้เพชรต้องรีบดึงผ้านุ่งขึ้นมาสวม และวิ่งหนีออกไปจากตรงนั้นทันที โดยมีไอ้จ่อยลูกสมุนหัวทึบพอกันวิ่งตามไปติด ๆ พอตัวมารความสุขจากไปแล้วขุนเรืองไกรจึงชวนลำดวนไปไหว้พระในโบสถ์ และไม่ลืมที่จะขอเสี่ยงเซียมซีดูดวงไปด้วยโดยจุดประสงค์สำคัญคือการดูฤกษ์ดูยามสำหรับการไปสู่ขอลำดวนเป็นเมียแต่กลายกลับเป็นว่าคำทำนายในเซียมซี กลับมีแต่ประโยคที่ร้ายจนลำดวนต้องเข้ามาปลอบใจไม่ให้ขุนเรืองไกรคิดมากกับเรื่องนี้


“พี่เรือง ใบเซียมซีก็เป็นแค่คำทำนายถ้ามันร้ายนักก็เผามันทิ้งไว้ที่วัดนี่ ไม่ต้องนำมันกลับไปด้วยดอก”


“ข้าไม่ได้กังวลกับคำทำนายหรอก แต่ข้าแค่กลัว”


“กลัวอะไรของพี่”


“ข้ากลัวว่าคำทำนายนี้ จะมีผลทำให้เจ้า ไม่ตอบรับคำขอของข้า”


“โถ่ พี่เรือง พี่อย่าคิดมากเลย”


“ถ้าเจ้าไม่อยากให้พี่คิดมาก เจ้าก็ตอบรับคำขอของข้าสิ”


ลำดวนนิ่งคิดไปชั่วขณะหนึ่ง ก่อนที่จะตัดสินใจตอบรับคำขอของนายทหารหนุ่มผู้เป็นที่รักความดีใจทำให้ขุนเรืองไกรโยนใบเซียมซีทิ้งแล้วปรี่เข้าไปอุ้มกอดหญิงสาวอันเป็นที่รัก


“พี่เรือง บ้าใหญ่แล้ว นี่มันในวัดนะ”


“ขอโทษที ข้าดีใจมากไปหน่อย เรารีบกลับกันเถอะข้าอยากไปหาพ่อและแม่ของเจ้า เราคงมีเรื่องต้องคุยกันยาวในคืนนี้”


ว่าแล้วขุนศึกหนุ่มก็จูงมือหญิงอันเป็นที่รักออกไปจากบริเวณนั้นโดยไม่ทันได้สนใจถึงใบเซียมซีที่ตกอยู่ที่มีชายหนุ่มหน้าเจ้าเล่ห์เก็บมันขึ้นมาได้ชายหนุ่มคนนั้นอ่านข้อความในใบเซียมซีแล้วได้แต่ยืนยิ้มเยอะ


“พลัดบ้านพลัดเมือง จากสูงกลับสู่จุดต่ำสุด ไอ้ขุนเรืองเซียมซีใบนี้จะพลิกชีวิตมึงแน่ ๆ ๕๕๕”


บทที่๒
หลังวันงานบุญประจำปีเหตุการณ์ทุกอย่างเหมือนจะเกิดขึ้นเร็วมากขุนเรืองไกรรีบพาพ่อแม่ของตนเดินทางไปสู่ขอแม่หญิงลำดวนทันที และเหมือนทุกคนรอคอยเพียงการตัดสินใจของลำดวนเท่านั้นเมื่อหญิงสาวยอมรับคำขอเรื่องทุกอย่างจึงลงตัวเรียบร้อยขุนเรืองไกรตื่นเต้นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก จนลืมเรื่องของใบเซียมซีที่จับได้ในวันงานประจำปีไปเสียสนิท


แต่แล้วคำทำนายนั้นก็เหมือนจะกลายเป็นจริง ขณะที่ทุกอย่างกำลังดำเนินไปได้ด้วยดีอยู่ ๆ ก็เหมือนมีฟ้าผ่าตอนกลางวันแสก ๆ เมื่อพระยาเยนได้รับสาส์นจากเมืองสองซึ่งเป็นหัวเมืองใหญ่ที่มีอิทธิพลเป็นอย่างมาก จากกำลังไพร่พลจำนวนมากรวมทั้งมีความเจริญรุ่งเรืองในการประดิษฐ์คิดค้นอาวุธใหม่ ๆ มาใช้ในการทำศึกสงครามทันทีที่พระยาเยนได้รับสาส์น หัวใจของเจ้าเมืองเฒ่าก็เต้นไม่เป็นส่ำเขาคิดว่ามันต้องมีเหตุร้ายเป็นแน่แท้เพราะไม่เคยมีเหตุการณ์ที่เมืองสองจะส่งข้อความมาถึงเมืองของตน


เมื่อให้นายทหารเปิดอ่านก็ได้ใจความตามที่สังหรณ์เอาไว้จริง ๆเมืองสองส่งคำเตือนมาว่าจะยกทัพมาโจมตีเมืองแมนทันทีหากไม่ได้รับการชี้แจง หลังจากที่เมืองนายได้ส่งกองกำลังมาขอความเป็นธรรมเนื่องจากการรบที่เมืองนายพ่ายแพ้ต่อเมืองแมนนั้น เป็นเพราะเล่ห์เหลี่ยมกลโกงของแม่ทัพของเมืองแมนนั่นก็คือขุนเรืองไกร จนทำให้มีนายทหารบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก รวมทั้งอีกหลายคนที่หายสาปสูญอย่างที่ไม่อาจพิสูจน์ได้ว่ามีชะตากรรมเป็นอย่างไรแต่เจ้าเมืองเมืองสองนั้นไม่อยากฟังความเพียงข้างเดียว จึงอยากให้เมืองแมนส่งคนมาเจรจาเพื่อสืบหาความจริงให้เป็นที่ประจักษ์ภายในเวลาตามที่กำหนดไม่เช่นนั้นเมืองสองจะยกพลมาประชิดเมืองนายทันที


หัวใจของพระยาเยนลงไปกองอยู่ที่ตาตุ่มทันทีที่นายทหารอ่านสาส์นจนจบความคิดของเจ้าเมืองสับสนอลหม่านจนไม่รู้จะจัดการปัญหาอย่างไรจึงเรียกประชุมเหล่าข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ทันทีก่อนจะมีมติให้หลวงหาญเป็นตัวแทนออกเดินทางไปเจรจากับเจ้าเมืองเมืองสองหลวงหาญเมื่อได้รับมอบหมายหน้าที่อันสำคัญ ก็รีบกลับมาเตรียมตัวเพื่อออกเดินทางระหว่างที่รอให้บ่าวไพร่จัดเตรียมสัมภาระที่จำเป็นหลวงหาญก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้คุณช้อยผู้เป็นภริยา และไอ้เพชรลูกชายหัวแก้วหัวแหวนได้ฟัง ไอ้เพชรนั้นเรื่องเป็นการดีไม่เคยที่จะคิดอะไรออกได้แต่เรื่องที่เป็นการร้ายนั้นคืองานที่มันถนัดเมื่อได้ฟังสิ่งที่ผู้เป็นบิดาเล่าให้ฟังมันจึงคิดหาอุบายอันแยบยลในการจัดการกับขุนเรืองไกรได้ทันท่วงที
และเช้าวันออกเดินทาง หลวงหาญเข้าพบพระยาเยนเพื่อตกลงรายละเอียดกันก่อนหลังได้ความถึงสิ่งที่ต้องเจรจากับเจ้านครเมืองสองแล้วหลวงหาญก็เอ่ยความเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่งให้พระยาเยนได้รับฟัง


“มีเรื่องที่ข้าไม่สบายใจ แต่ไม่รู้ว่าควรจะพูดดีหรือไม่”


“มีอะไรหรือ ท่านหลวงหาญ ยิ่งท่านพูดอย่างนี้ข้ายิ่งอยากรู้”


“เมื่อคืนแม่ช้อยเมียข้า นางฝันถึงพระแม่เมืองพระแม่เมืองท่านมาบอกแม่ช้อยว่า ตอนนี้ดวงเมืองกำลังอยู่ในช่วงดิ่งจากปัญหาเพราะคนเพียงคนเดียวที่อาจทำให้เมืองฉิบหายได้”


“ห้า จริงหรือท่านหลวง แล้วพระแม่เมืองท่านบอกมั้ยว่าจะแก้อย่างไรได้”


“วิธีแก้นั้นท่านหมอเมืองคงบอกได้ รวมทั้งอ้ายตัวคนที่เป็นปัญหานั้นด้วยท่านต้องรีบจัดการก่อนข้าจะเดินทางไปถึงเมืองสองนะเรื่องจากร้ายจะได้คลายทุเลาลงได้บ้าง”


“ได้ ๆ ข้าจะรีบจัดการทันที”


หลังจากที่หลวงหาญออกเดินทางไป พระยาเยนก็รีบจัดการกับเหตุการณ์ที่หลวงหาญเล่าให้ฟังทันทีหมอเมืองหรือผู้เชี่ยวชาญก้านโหราศาสตร์ ไสยศาสตร์ของเมืองถูกเรียกตัวเข้ามาพบเพื่อสืบถามสิ่งที่หลวงหาญเปิดประเด็นเอาไว้ ซึ่งหมอเมืองนั้นก็ตอบโดยไม่ต้องคิดเลยว่าเป็นขุนเรืองไกรที่เป็นต้นเหตุของเรื่องราวร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นทั้งหมดเพราะฉะนั้นคนที่ควรต้องรับผิดชอบต่อเหตุร้ายที่เกิดขึ้นจึงควรเป็นขุนเรืองไกร


“แล้ววิธีที่จะทำเพื่อให้พระแม่เมืองช่วยเราได้คืออะไร”


“ก็ส่งขุนเรืองไกรไปเป็นของบรรณาการ”


บทที่๓
ขุนเรืองไกรถูกเรียกมาเข้าพบพระยาเยนทันทีหลังการเจรจากับหมอเมืองเรียบร้อยเขานั่งแวดล้อมอยู่กับกลุ่มข้าราชการงานเมืองที่เหมือนกับมาประชุมงานกันอย่างเป็นพิธีการยิ่งสร้างความสงสัยให้กับขุนเรืองไกรเป็นอย่างมากเพราะปกติการประชุมเหล่าข้าราชการงานเมืองอย่างนี้ เขาไม่เคยได้เข้ามามีส่วนร่วมด้วยเลย


พระยาเยนเมื่อเห็นว่าขุนเรืองไกรเข้ามาแล้วก็เริ่มตั้งต้นเล่าเรื่องที่เป็นที่มาของการประชุมคือเรื่องที่หมอเมืองทักทำนายว่าบ้านเมืองกำลังจะลุกเป็นไฟและจะมีเหตุนองเลือดที่ทำให้คนบาดเจ็บล้มตายกันเป็นจำนวนมากทันทีที่กล่าวจบเหล่าข้าราชการงานเมืองต่างทำหน้าแตกตื่นมองหน้ากันเลิ่กลั่กพอพระยาเยนเห็นดังนั้นจึงรีบราดเชื้อไฟต่อทันทีโดยกล่าวถึงสาส์นจากเมืองสองที่ส่งมาซึ่งอาจจะเป็นเหตุให้เกิดการนองเลือดนั้นขึ้นได้เหล่าข้าราชการงานเมืองจึงรีบถามพระยาเยนถึงวิธีการที่จะแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น


“ท่านหมอเมืองบอกว่าต้องทำพิธีแห่เครื่องบรรณาการไปให้พระแม่เมือง”


เสียงของเหล่าข้าราชการงานเมืองต่างเซ็งแซ่กันขึ้นมาทันทีเพราะงานพิธีแห่เครื่องบรรณาการนั้นเป็นประเพณีโบราณที่ไม่ได้ทำกันมานานหลายปีแล้วหลายคนในที่นี้ก็เกิดไม่ทัน ได้รับรู้ถึงการเคยมีอยู่ของพิธีการนี้จากคำบอกเล่าสืบต่อกันมาเท่านั้น


“มันต้องทำอย่างไรกันล่ะท่านพระยาเยน”


“เราต้องหาชายหนุ่มไปเป็นเครื่องบรรณาการแก่พระแม่เมือง โดยการแห่ไปรอบเมืองจนถึงศาลของพระแม่และชายคนที่จะทำหน้าที่นั้นได้จะต้องเป็นผู้กล้าที่สุดของเมืองเท่านั้น”


“ถ้าเป็นผู้กล้านั่นหมายความว่า...”


“ใช่ คงมีแต่ท่านขุนเรืองไกรเท่านั้นที่เหมาะสม” พระยาเยนเอ่ยชื่อที่ไม่มีใครสามารถคัดง้างได้


“เดี๋ยวก่อนท่านพระยาเยน ทำไมเราถึงยังเชื่อเรื่องงมงายอย่างนี้หากเมืองสองต้องการต่อกรก็ส่งท่านขุนเรืองนำทัพไปสู้รบสิครับ”


“นั่นเป็นสิ่งที่เราจะทำแน่ ถ้าไม่สามารถแก้ปัญหาใด ๆ ได้แต่ก่อนหน้านั้นเรามีวิธีการที่จะสามารถทำให้เรื่องร้ายกลายเป็นดี ผ่อนหนักให้เป็นเบาได้ทำไมเราจึงจะไม่ลองทำก่อน ให้ไพร่พลของเราเสียเลือดเสียเนื้อน้อยที่สุดหรืออาจจะไม่ต้องมีใครบาดเจ็บล้มตายเลยก็ได้”


เหตุผลของพระยาเยนดูมีน้ำหนัก ยากที่ใครจะปฏิเสธได้แม้แต่ตัวขุนเรืองไกรเองที่แม้จะไม่เห็นด้วยและไม่ต้องการตกเป็นเครื่องบรรณาการของใครแต่หากจะดันทุรังยืนยันจะออกรบ ก็ดูจะมีแต่เสีย ถูกมองว่าเป็นพวกเห็นแก่ตัวไปยิ่งตอนนี้เขาพะวงอยู่กับงานแต่งงานที่กำลังจะเกิดขึ้นหากการแห่เครื่องบรรณาการจบโดยที่เขาไม่ต้องไปออกรบ ก็น่าจะทำให้เขาได้แต่งเมียอย่างไร้ความกังวลในที่สุดทุกฝ่ายจึงควรตามคำทำนายของหมอเมือง


เมื่อขุนเรืองไกรกลับไปเล่าเรื่องนี้ให้ครอบครัวฟังก็ได้รับแต่เสียงสนับสนุนยิ่งแม่หญิงลำดวนยิ่งรู้สึกยินดียิ่งที่อนาคตผู้ที่จะเป็นสามีได้ทำประโยชน์เพื่อประเทศชาติเขาจึงเร่งวันเร่งคืนให้ถึงวันทำพิธีส่งมอบเครื่องบรรณาการโดยเร็วโดยไม่ทันเฉลียวใจว่าความฉิบหายกำลังจะมาเยือน


เช้าวันงานราชพิธีขุนเรืองไกรสวมใส่เครื่องแบบเต็มยศออกเดินทางจากบ้านพักพร้อมพ่อและแม่ตั้งแต่ตะวันขึ้นเขาเดินทางเข้ามาถึงจวนว่าราชการแล้วถูกนายทหารแยกให้ไปห้องสำหรับทำพิธีตอนที่เขาเข้าไปนั้นยังไม่มีการตระเตรียมการใดหรือมีใครอยู่ในห้องนั้นขุนเรืองไกรจึงนั่งสำรวมสมาธิอยู่ที่มุมห้องด้านหนึ่งเขาภาวนาจิตขอให้งานในวันนี้พ้นผ่านไปได้ด้วยดี เพราะเขาคิดว่าหลังจากงานวันนี้ชีวิตของเขาจะเหมือนกับการได้เริ่มต้นใหม่ภาพในห้วงคำนึงของเขาตอนนี้คือการเป็นผัวที่ดีของแม่หญิงลำดวน และเป็นพ่อที่ดีของลูกน้อยสองถึงสามคนภาพฝันนั้นทำให้ใบหน้าของชายหนุ่มพรายด้วยรอยยิ้ม


แล้วเขาก็ต้องตื่นจากภาพฝันเมื่อหมอเมืองเดินเข้ามาในห้อง พร้อมกับพวกนายทหารชั้นผู้น้อยที่นำเครื่องเซ่นสรวงในพิธีเข้ามาวางเรียงรายขุนเรืองไกรถูกเรียกให้มานั่งที่ตรงกลางห้อง หันหน้าเข้าหาตั่งของท่านพระยาเยนและประจันหน้าอยู่กับหมอเมืองที่รายล้อมรอบตัวไปด้วยเครื่องเซ่นสรวงไม่นานนักเหล่าข้าราชการงานเมืองทั้งหลายก็ทยอยเข้ามาในห้องในจำนวนนั้นมีไอ้เพชรใส่ชุดข้าราชการเต็มยศเข้ามานั่งในตำแหน่งของหลวงหาญด้วยสายตาของไอ้เพชรจ้องมาขุนเรืองไกรอย่างมีเลศนัยรอยยิ้มเหมือนเยาะนั้นทำให้ใบหน้าของไอ้เพชรฉายแววความเจ้าเล่ห์เพทุบายเป็นยิ่งนักหากแต่ขุนเรืองไกรหาได้สนใจกับบุคคลเช่นไอ้เพชรไม่ เขาหันกลับมานั่งในท่าสำรวมเช่นเดิมเพียงไม่นานพระยาเยนก็เดินเข้ามาในห้อง และขึ้นนั่งบนตั่งเพื่อทำหน้าที่ประธานในพิธีการ


หลวงศรีเมืองทำหน้าที่เป็นผู้กล่าวถวายงานแก่พระยาเยนและเป็นผู้ส่งมอบหน้าที่ทำพิธีกรรมให้กับหมอเมือง หมอเมืองเริ่มต้นการประกอบพิธีกรรมซึ่งในช่วงต้นนั้นเขาทำพิธีกับพระยาเยนก่อน หลังจากนั้นเขาจึงหันมาที่ขุนเรืองไกรและเริ่มพิธีเพื่อส่งเครื่องบรรณาการชายหนุ่มหุ่นล่ำสองคนที่สวมเพียงผ้าเตี่ยวผืนเดียวเดินตรงเข้ามาที่ขุนเรืองไกรแล้วเข้าขนาบที่ข้างตัวขุนเรืองไกรคนละข้าง แล้วขยับจับตัวขุนเรืองไกรให้ลุกขึ้นยืนหมอเมืองเดินมาทำพิธีพรมน้ำมนต์ลงที่ตัวขุนเรืองไกร พร้อมใช้ดินสอพองป้ายน้ำแล้วเขียนที่หน้าผากขุนเรืองไกรนาทีนั้นเองข้ารับใช้ทั้งสองคนของโหรเมืองก็ค่อย ๆ เข้ามาประชิดที่ตัวขุนเรืองไกรคนหนึ่งจับแขนของขุนเรืองไกรให้ยกชูขึ้นข้างลำตัว ส่วนอีกคนเข้ามาค่อย ๆถอดเสื้อของขุนเรืองไกรออก ขุนเรืองไกรรู้สึกตงิดในใจแต่ก็ทำนิ่งเฉยไว้จนเสื้อของเขาถูกดึงออกจากตัว เผยให้เห็นร่างกายที่แข็งแกร่งสมชายชาตินักรบของเขา


เมื่อเสื้อหลุดออกจากตัว ขุนเรืองไกรเริ่มรู้สึกขนตัวลุกชันอาจเพราะน้ำมนต์ที่พรมมาบนร่างที่ทำให้เขารู้สึกเช่นนั้น ยังไม่ทันที่เขาจะตั้งหลักอะไรต่อหลังเสื้อหลุดออกจากร่างเจ้าข้ารับใช้นั้นก็ก้มลงจัดการถอดผ้านุ่งของเขาออกจากร่าง ตาของขุนเรืองไกรเบิกค้างเพราะไม่ทันคาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นเขารีบเอามือที่ยกค้างไว้อยู่มาจับที่ปมผ้าที่เขานุ่งเพื่อไม่ให้มันหลุดร่วงออกจากร่าง แต่มือที่กำนั้นถูกดึงออกโดยชายหนุ่มหุ่นล่ำลูกน้องของหมอเมืองและมือของลูกน้องอีกคนก็เข้ามากระตุกปมของผ้านุ่งที่ขุนเรืองไกรสมอยู่ความเบาของมือนั้นทำให้ขุนเรืองไกรตั้งตัวไม่ทันปมผ้าที่ผูกไว้อย่างแน่นหนาจึงหลุดออกมาอย่างง่ายดายร่างของขุนเรืองไกรตอนนี้จึงเหลือเพียงผ้าเตี่ยวผืนเดียวปิดของสงวนเอาไว้



มาเฟียคุมคณะ

โพสต์
14884
พลังน้ำใจ
75827
Zenny
24537
ออนไลน์
11791 ชั่วโมง

เจ้าพ่อมหาลัย

โพสต์
27893
พลังน้ำใจ
153797
Zenny
157684
ออนไลน์
26526 ชั่วโมง
ขอบคุณนะครัย

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
4492
พลังน้ำใจ
39066
Zenny
23193
ออนไลน์
12013 ชั่วโมง
ขอบคุณครับ

ประธานนักศึกษา

โพสต์
447
พลังน้ำใจ
3686
Zenny
20501
ออนไลน์
551 ชั่วโมง
ขอบคุณมากครับ

มาเฟียคุมคณะ

โพสต์
6728
พลังน้ำใจ
56595
Zenny
27072
ออนไลน์
12041 ชั่วโมง
ขอบคุณครับ

ประธานนักศึกษา

โพสต์
374
พลังน้ำใจ
8205
Zenny
1116
ออนไลน์
1243 ชั่วโมง

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
1821
พลังน้ำใจ
14121
Zenny
1833
ออนไลน์
1447 ชั่วโมง

เจ้าพ่อมหาลัย

โพสต์
42053
พลังน้ำใจ
213649
Zenny
84835
ออนไลน์
15315 ชั่วโมง
สนุกมากครับ

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
754
พลังน้ำใจ
15406
Zenny
234
ออนไลน์
970 ชั่วโมง
 นักศึกษาภาคพิเศษ (M.D.A)
ปริญญากิตติมศักดิ์
รอเลย สนุกมาก

ประธานนักศึกษา

โพสต์
163
พลังน้ำใจ
4867
Zenny
1121
ออนไลน์
809 ชั่วโมง
ขอบคุณครับ

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
465
พลังน้ำใจ
13161
Zenny
6839
ออนไลน์
890 ชั่วโมง

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
3504
พลังน้ำใจ
16613
Zenny
3274
ออนไลน์
1024 ชั่วโมง
เริ่มเรื่องสนุกดีครับ ขอบคุณครับ

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
646
พลังน้ำใจ
10130
Zenny
4148
ออนไลน์
911 ชั่วโมง
สนุกครับ แค่เริ่มก็ตื่นเต้นแล้ว

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
2016
พลังน้ำใจ
19629
Zenny
379
ออนไลน์
2915 ชั่วโมง
ขอบคุณครับ

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
5262
พลังน้ำใจ
23077
Zenny
10798
ออนไลน์
1496 ชั่วโมง
ขอบคุณครับ

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
3818
พลังน้ำใจ
22432
Zenny
5065
ออนไลน์
2379 ชั่วโมง

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
4417
พลังน้ำใจ
35332
Zenny
4918
ออนไลน์
1679 ชั่วโมง
สุดยอดเลยคับ

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
1328
พลังน้ำใจ
10626
Zenny
2194
ออนไลน์
714 ชั่วโมง
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | สมัครเข้าเรียน

รายละเอียดเครดิต

A Touch of Friendship: สังคมจะน่าอยู่ เมื่อมีผู้ให้แบ่งปัน ฝากไวเป็นข้อคิดด้วยนะคะชาวจีโฟกายทุกท่าน
!!!!!โปรดหยุด!!!!! : พฤติกรรมการโพสมั่วๆ / โพสแต่อีโมโดยไม่มีข้อความประกอบการโพส / โพสลากอักษรยาว เช่น ครับบบบบบบบบ, ชอบบบบบบบบ, thxxxxxxxx, และอื่นๆที่ดูแล้วน่ารำคาญสายตา เพราะถ้าท่านไม่หยุดทีมงานจะหยุดท่านเอง
ขอความร่วมมือสมาชิกทุกท่านโปรดโพสตอบอย่างอื่นนอกเหนือจากคำว่า ขอบคุณ, thanks, thank you, หรืออื่นๆที่สื่อความหมายว่าขอบคุณเพียงอย่างเดียวด้วยนะคะ เพื่อสื่อถึงความจริงใจในการโพสตอบกระทู้ และไม่ดูเป็นโพสขยะ
กระทู้ไหนที่ไม่ใช่กระทู้ในลักษณะที่ต้องโพสตอบโดยใช้คำว่าขอบคุณ เช่นกระทู้โพล, กระทู้ถามความเห็น, หรืออื่นๆที่ทีมงานอ่านแล้วเข้าข่ายว่า โพสขอบคุณไร้สาระ ทีมงานขอดำเนินการตัดคะแนน และ/หรือให้ใบเตือนสมาชิกที่โพสขอบคุณทันทีที่เจอนะคะ

รูปแบบข้อความล้วน|โทรศัพท์มือถือ|ติดต่อลงโฆษณา|จีโฟกายดอทคอม


ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บจีโฟกายดอทคอมนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ หากท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศิลธรรม ไม่เหมาะสมที่จะเผยแพร่ ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link “แจ้งลบโพสนี้” ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือ ลืมพาสเวิดล๊อกอิน/ลืมชื่อที่ใช้สมัคร หรือข้อสงสัยใดๆแจ้งมาที่ G4GuysTeam[at]yahoo.com ขอขอบพระคุณที่ให้ความร่วมมือ

กรณีที่ข้อความ/รูปภาพในกระทู้นี้จัดสร้างโดยผู้ลงข้อมูลเอง ลิขสิทธิ์จะเป็นของผู้ลงข้อมูลโดยตรง หากจะทำการคัดลอก/เผยแพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ลงข้อมูลก่อนนะคะ หรือลงที่มาไว้ด้วยค่ะ

©ขอสงวนสิทธิ์คอนเซ็ปต์,คำอธิบาย,หัวข้อ/หมวดหมู่เว็บ ห้ามลอกเลียนแบบ คิดเอาเองนะคะอย่าเอาแต่ลอก

GMT+7, 2024-5-2 18:59 , Processed in 0.181055 second(s), 24 queries .

Powered by Discuz! X3.1 R20140301, Rev.31

© 2001-2013 Comsenz Inc.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้