จีโฟกาย.คอม

 ลืมรหัสผ่าน
 สมัครเข้าเรียน
ค้นหา
 
ดู: 2251|ตอบกลับ: 54
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป
ซ่อนแถบด้านข้าง

คลินิกรัก(ษ์) บำบัด(ไข้)ใคร่ 18+ by llมว_น้oe ห้องตรวจที่๖. น.พ รชต

  [คัดลอกลิงก์]

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
2897
พลังน้ำใจ
30142
Zenny
63987
ออนไลน์
7515 ชั่วโมง
ห้องตรวจที่๖. น.พ รชต
     
           ผมกำลังเครียด เครียดสุดๆกับสิ่งที่กำลังเผชิญอยู่ตอนนี้ผมชื่อกร กรวิชญ์เป็นผู้ชายที่ควรจะมีความสุขมากที่สุด เพราะได้ตัดสินใจแต่งงานกับแฟนสาวคนสวยไปเมื่อสองเดือนก่อน แต่ความสุขที่ควรจะพึงมีกลับกลายเป็นขุมนรก เมื่อผมคนนี้ เป็นเจ้าบ่าวที่แย่มาก เป็นเจ้าบ่าวที่ไม่สามารถให้ความสุขกับเจ้าสาวของตัวเองได้ เธอตรอมตรมร้องห่มร้องไห้ด้วยความเสียใจอย่างเหลือเกิน

“ทำไมมันเป็นแบบนี้ล่ะทำไมกรถึงทำไม่ได้” ผมมองใบหน้าที่เคยส่งยิ้มสดใสมาให้ผม แต่บัดนี้กลับนองไปด้วยหยาดน้ำตา

“กรขอโทษครับกรก็ไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะอะไร” ผมเองก็จนปัญญากับปัญหานี้เหมือนกัน
เสียงร้องไห้อย่างทุกข์ระทมของใยไหมยังดังขึ้นไม่หยุด ผมเองก็แสนจะเจ็บปวดหัวใจเหลือเกิน แต่พอผมเอื้อมมือไปหาเธอ หวังจะเช็ดคราบน้ำตาให้เธอ ใยไหมกลับปัดมือผมทิ้งอย่างไม่ใยดี ผมก้มลงมองมือตัวเองที่สั่น ขอบตาเริ่มร้อนผ่าว ใจสั่นไปหมด ผมรู้ ถ้าลองเป็นแบบนี้ ความรักของผมกับใยไหม คงจบลงไปในไม่ช้านี้ ผมกลัวเหลือเกิน กลัวจนสุดหัวใจ หากมีอะไรที่ผมทำได้ ผมยินดีที่วุดที่จะทำให้เธอ

“กรก็ทำอะไรสักอย่างสิ!!!ถ้าไหมรู้ว่ากรจะเป็นแบบนี้ ไหมไม่แต่งกับกรหรอก!!!”

“!!!!”

ลูกชายไม่ขันยังเจ็บไม่เท่าที่เธอพูดกับผมตอนนี้ มันบีบหัวใจจนแน่นอก อึดอัดจนหายใจไม่ออกรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะตาย ไร้เรี่ยวแรงที่จะลุกขึ้นยืนได้แต่นั่งนิ่งๆอยู่อย่างนั้น นั่งให้เธอระบายอารมณ์ทัเงหมดออกมา ระบายสิ่งที่เธอคิดออกมาให้หมดสิ้น ผมจะรับมันไว้คนเดียว จะเก็บมันเอาไว้เอง แค่ไหนผมก็จะยอมทนให้ได้ ดีกว่าให้เธอเดินจากผมไป

“ผม........ขอโทษ”สายตาพร่าเลือนด้วยหยาดน้ำใสๆที่ปริ่มๆจะไหล ผมพยายามกลืนก้อนสะอื้นลงคออย่างยากลำบาก ไม่อยากให้เธอมองว่าผมอ่อนแอ ไม่อยากจะดูแย่ไปมากกว่านี้

“ขอโทษแล้วดีขึ้นไหม!!! กรขอโทษๆๆๆอยู่ตลอด แล้วไหมล่ะ ไหมต้องทนถูกคนตราหน้าว่าผัวตายด้าน!!!”ผมไม่มีสิทธิ์จะไปโกรธไหมเพราะทั้งหมดมันเป็นเพราะผมทั้งนั้น มือเล็กๆทุบตีผมไปทั่วโดยที่ผมไม่คิดแม้แต่จะปัดป้องหรือกันไว้สักนิด อยากให้เธอระบาย อยากให้เธอรู้สึกดีขึ้นแม้สักนิดก็ยังดี

ผมมันก็แค่ไอขี้ขลาดที่ไม่ทีแม้แต่ความกล้าจะเงยหน้าขึ้นมองเธอ ผมบอกตามตรงผมอ่อนแอเกินไปอยากจะร้องไห้แต่ผมก็ต้องทนข่มกลั้นมันเอาไว้ ขอเป็นคนที่อ่อนแอเวลาอยู่คนเดียวจะดีกว่าผมอยากให้มีนางฟ้า มีจินนี่ เพราะผมคงอ้อนวอนขอ......ให้เธอมีเพียงรอยยิ้มไม่ใช่หยาดน้ำตาแบบนี้ หากผมรู้หากผมเลือกได้ ผมคงเลือกที่จะไม่ขอเธอแต่งงาน คงไม่เลือกให้เธอมาทรมานอยู่กับคนอย่างผม

“ไหมจะกลับไปอยู่บ้านกับแม่”ผมผวาร่างเข้าไปกอดไหมจากด้านหลัง

“ไหมไหมอย่าไปเลยนะ อยู่กับกรเถอะ กรขอโทษ” ผมซบหน้าลงบนกลุ่มผมของไหมที่ไม่ว่าจะได้กลิ่นเมื่อไหร่ก็ยังควหอมอบอวลไปทั้งหัวใจ

“ปล่อย!!! กรปล่อยไหม!! ไหมจะไปอยู่กับแม่!!!” ไหมสะบัดตัวออกอย่างแรง ผมไม่มีแม้แต่แรงที่จะฉุดรั้งเธอไว้ได้ หัวใจผมมันแหลกสลาย หายใจไม่ออกจนอึดอัด คนที่ถูกทิ้งมีกำลังไม่เท่าคนที่คิดจะไปเรื่องนี้ ผมเพิ่งจะรู้เมื่อเจอกับตัวเองไหมเดินไปจนถึงประตู เหมือนเธอจะคิดอะไรได้จึงได้หันหน้ามาหาผมอีกครั้ง

“ไหม.....”

“ไหมลืมบอกน่ะอีกสามวัน ไหมขอให้เราสองคน คืนอิสระให้กันและกันเถอะ ถ้ากรรักไหม ปล่อยไหมไปไหมขอแค่นี้”

“ไม่!!ไหม อย่าไป ไหมอย่าไปจากผม ฮือ ไหม อย่าไป ฮือออ”  ไหมครับผมขอโทษ




      แสงไฟนีออนสีสวยยังสาดไปทั่ว ผู้คนยังคงโยกย้ายส่ายสะโพกกันอย่างเมามันตามจังหวะเพลงที่ได้ยินจนชินหู ใครหลายคนอาจจะอยู่ในความรู้สึกสนุกจนลืมโลก แต่ก็มีอีกหลายคนเช่นกันที่จมอยู่ในห้วงอารมณ์รักชายหญิงหลากหลายคู่ ต่างส่งสายตาให้กัน บ้างก็ซบไหล่กอดจูบกันอย่างไม่อายผู้คน แต่ผม.....มีแค่ผมที่จดจ่ออยู่กับแก้วเหล้าตรงหน้า น้ำสีเข้มถูกเติมและหมดไปในเวลาไล่เลี่ยกันจนคนเติมได้แต่งงว่าตัวเองเติมไปแล้วแน่หรือ

“เติมเลวเลว เลวเด๊ะ อึก!!” ทำไมถึงได้ช้าแบบนี้วะ แก้วในมือผมถูกดึงออกไปทันทีที่ผมส่ฃเสียงโวยวาย และมันก็กลับมาด้วยน้ำหนักที่มากขึ้น สีเข้มจากเหล้าสวยๆมันไม่ได้ทำให้ผมมีสติ แต่มันกลับสะท้อนความเจ็บปวดจนต้องยกมันขึ้นมาดื่ม ดื่มเพื่อลืม ลืมทุกสิ่งที่ทำให้เจ็บปวด

“ไอกร!!มึงจะรีบอะไรขนาดนั้น”

“อย่ามายุ่ง!! กูอยากแดก กูอยากลืม กูเจ็บ มึงไม่เข้าใจหรอกไอเก้า” เก้ามันเป็นเพื่อนของผมตั้งแต่เรียนอยู่มหา’ลัยผมกับมันสนิทกันมาก ไปไหนมาไหนด้วยกันเสมอ พูดถึงความสนิทผมก็ชักจะคิดถึงไอพิตต์ซะแล้ว ไม่ได้เจอมันมานานมากแต่ได้ข่าวแว่วๆมาว่ามันเปิดคลินิก แต่ผมดันนึกไม่ออกว่าคลินิกอะไร

“กูจะไม่ยุ่งได้ไงวะ ดูตัวกูกับมึงนะ ตัวพอๆกันแบบนี้มึงคิดว่ามึงเมาแล้วกูจะแบกมึงกลับได้ไหม” ไอเก้าส่ายหัวกับความดื้อดึงของผมจริงสินะ......มันสูงแค่168 ถึงผมจะสูงกว่ามันเล็กน้อยแต่ด้วยรูปร่างและขนาดสัดส่วนก็เรียกได้ว่า พอๆกันถ้ามันเมา ผมเองก็คงแบกมันไม่ไหว โดยปกติจะมีไอพิตต์ไปด้วยเสมอ มันจะเป็นคนแบกผมกลับ อิจฉามันนะครับ การงานดี มีเงินใช้ไม่ขาดมือ ตั้งแต่สมัยเรียนแล้วที่มันป๊อบปูล่าในหมู่สาวๆ อย่างว่า......สาวๆมักชอบผู้ชายตัวสูง และไอพิตต์มันเองก็สูงถึง187เซนติเมตร ซิกแพคมาเต็มที่ กล้ามเนื้อแขนเอย กล้ามท้องเอย อยากเกลียดมันเหลือเกินที่มาคบกับผมและไอเก้าโดยไม่ดูเลยว่า ความลงตัวของพวกเราไม่มีอะไรคู่ควรกับการเป็นเพื่อนมันเลย พวกกลุ่มหมอของมันผมเห็นมีแต่คนหน้าตาดีๆ หล่อจนแทบจะควักหัวใจโยนทิ้งแล้วเหยียบๆให้มันเละตายไปเลย บางคนก็หล่อแบบน่ารัก เกาหลีๆหน่อยๆ แต่นั่นก็ถูกสาวๆจับจ้องด้วยความกระเหี้ยนกระหือรืออยากได้ทำผัแค่กๆ แค่พอผมกับไอเก้าถูกดึงไปกินข้าวด้วย ไปเที่ยวด้วย มันก็กลายเป็น ถูกรัศมีเหล่าคุณชายหมอกลบจนมิด มิดชนิดที่จมดินไม่ต้องขุดหา เพราะขุดหาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ จากนั้นผมเลยหลีกเลี่ยงการไปเที่ยวกับเหล่าเทพบุตรแพทย์ทั้งหลายแหล่ ด้วยเหตุผลนี้ จึงมีแต่ไอพิตต์เท่านั้นที่ยังคงวนเวียนตามมาเที่ยวมากินข้าวกับผมอยู่ ไม่ใช่ไม่ไล่ แต่ผมแพ้สายตาลูกหมาของมัน ไล่ไม่ลงจริงๆ

“กูกลับเองด้ายน่า บ่นจาง” ผมยังคงยกมันขึ้นดื่มไม่ลดละ รู้ตัวไหมว่างี่เง่า? รู้สิครับ รู้ดีด้วย แต่ถ้าไม่เป็นแบบนี้ ผมคงปล่อยโฮกลางผับแน่ๆ

“ไม่ได้บ่นมึงแต่อยากให้มึงเพลาๆบ้าง เดี๋ยวเกิดมีใครมาหิ้วมึงกลับบ้านไป กูจะกันไว้ไม่ได้”หึผมได้แต่ยิ้มเยาะกับคำพูดมัน

“ครายมันอยากจามาหิ้วกูวะ อย่างกูสาวมันไม่แลแล้ว ลูกกูไม่ขานขนาดที่เมียยังขอหย่า มึงคิดว่าสาวคนหนายมันยังอยากด้ายกูอีกเหรอ” ผมวนนิ้วไปรอบแก้ว ใช้สายตาจับจ้องไปที่หยาดน้ำที่เกาะอยู่บนตัวแก้วแทนใบหน้าของเพื่อนรัก กลัวเห็นแววสมเพช กลัวว่าใครๆจะมองด้วยความสงสาร

“ผู้หญิงอ่ะกูไม่กลัวหรอกกูยกให้เลยไม่ห้ามด้วย” ไอห่านี่ ปากมันแม่ง....

“แล้วครายจะมาหิ้วกู?”

“ไม่รู้สิวะมึงอาจจะมีผัวก็ได้”

   หะ?????

“มึงจาบ้า!!!!”จากที่เครียดๆเศร้าๆผมแทบจะลุกขึ้นเตะปากเพื่อนตัวเอง นั่นมันกลั่นออกมาจากสมองแล้วใช่ไหมครับก่อนจะพูดออกมา

“ใครจะไปรู้”มันยักไหล่ราวกับไม่ได้พูดอะไรผิดและถ้าหากเกิดขึ้นจริงมันก็ช่วยไม่ได้ ฟัคๆๆๆ ใครมันจะไปมีผัววะ ไอสัส สิ้นคิด

“อย่างกูถึงม่ายขันกูยอมโสดโว้ย กูม่ายยอมเป็นเมียครายหรอก” ผมเชิดหน้าขึ้นอย่างถือดี แต่ทำไมโลกมันวูบๆวะ เชี่ย โลกแม่งหมุนได้ด้วย อยู่มาก็พอรู้ว่าโลกมันหมุนรอบตัวเอง แต่เพิ่งจะรู้วันนี้ว่ามันหมุนรอบผมด้วย

“เฮ้ย!!!ไอกร!!!!”

นั่นคือเสียงสุดท้ายที่ผมได้ยิน ทำไมต้องตะโกนวะ หรือมันเองก็เห็นว่าโลกมาหมุนรอบตัวผม กูเจ๋งไหมละมึง กูเป็นคนเดียวที่โลกยอมมาหมุนรอบตัวเรื่องแปลกสุดมหัศจรรย์ยังต้องจาลึกไว้ อีกหน่อยกูก็ได้ออกทีวีแล้วเพื่อนมึงจะดังแล้วนะไอเก้า!!!

“อื้อ!!”ผมพยายามเบี่ยงหน้าหนีคสามเย็นที่มาสัมผัสใบหน้าตัวเองอะไรวะ กวนอยู่ได้ คนจัหลับจะนอนยิ่งปัดออกยิ่งถูกความเย็นสัมผัสมากขึ้น กลิ่นหอมแบบนี้ หอมที่เคยติดตรึงในใจแบบนี้มีคนเดียวใยไหม!

“ไหม......ไหมกลับมาหาผมแล้ว”ผมลืมตาขึ้นทันทีที่เห็นหน้าเมียสุดที่รัก มันก็ทำให้ผมรู้สึกดีจนแทบจะกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ใยไหมหลบตาผม เม้มริมฝีปากแร่นก่อนจะดึงมือออกจากการเกาะกุมของผม

“ขอโทษนะ.....”ผมขมวดคิ้วด้วยความมึนงงทำไมไหมต้องขอโทษผมด้วยล่ะ ผมต่างหากที่ผิด

“อย่าขอโทษไหมไม่ผิด กรผิดเอง” ผมส่งยิ้มไปให้ไหมที่แหงนใบหน้าขึ้นเพราะไม่อยากให้น้ำตา

“ไม่หรอก....ฮึก....”

“....” ผมไม่เข้าใจเลย ทำไมไหมพูดแบบนั้น มีอะไรที่ผมไม่รู้กันแน่

“ไหมน่าจะบอกกรฮึก ฮือ ให้เร็วกว่านี้”

“บอกบอกอะไร บอกมาเถอะ” ผมยิ้มให้เธอแม้จะไม่เข้าว่าไหมร้องไห้เพราะอะไรเพราะเอาแต่คิดว่าเธอร้องไห้เพราะผม

“ไหม......”

“.........”

“ฮือออไหมท้อง”

!!!!!

ผมรู้สึกเหมือนฟ้าผ่าลงมากลางใจ เหมือนเดินไปแล้วถูกไฟช็อต ยอมรับว่าช็อค ช็อคมากๆ และเกิดคำถามขึ้นมากมายในหัวใจ รอยยิ้มผมยังค้างอยู่บนใบหน้า แม้ว่ามันจะหมดความสดใสแล้วก็ตาม เธอท้องได้อย่างไร ในเมื่อเราไม่เคยมีอะไรกัน นี่มันเรื่องอะไรกันมือของไหมจับมือของผมแน่น จนผมหลุดออกจากภวังค์ ดวงตาสีน้ำตาลเข้มของไหมยังคงหวานแม้ว่ามันจะสะท้อนความรู้สึกผิดที่มีอยู่เต็มหัวใจก็ตามที

“กรจ๋าอย่าโกรธไหมเลย ฮือออ ไหมขอโทษ ฮึก ไหมมันเลวเอง” ผมได้แน่นั่งนิ่งๆมองใบหน้าสวยของคนที่ได้ชื่อว่าเมียด้วยแววตาที่หลากหลายในอารมณ์ ผมควรโกรธเธอไหม อาจจะควร แต่ผมกลับจุก จุกจนพูดอะไรไม่ออก ผมควรจะผลักเธอออกแล้วกร่นด่าเธอไหม อาจจะควร แต่......ผู้ชายแบบผม ด่าคนที่รักสุดหัวใจไม่ได้หรอก แม้ว่าเธอจะเป็นคนทำให้หัวใจผมพังลงไปด้วยสองเท้าของเธอก็ตาม หรือผมควรร้องไห้ ควรหัวเราะเยาะตัวเองที่โง่ นั่นสินะ จริงๆมันควรเป็นแบบนั้นด้วยซ้ำ แต่หลักเหตุและผลต่างๆมันกลับไม่มีอะไรเลยที่ผมทำได้ สิ่งที่ผมแสดงออกไปจริงๆ มีเพียงการบีบมือของไหมจนแน่น สบสายตาหวานที่นองไปด้วยน้ำตาด้วยรอยยิ้ม มืออีกข้างปาดไล่น้ำตาใสๆออกจากความงดงามบนในหน้าเธอเท่านั้น

“ยินดีด้วยนะครับไหมต้องดูแลตัวเองนะรู้ไหม”

“ฮึกฮือออออออ” ไหมปล่อยโฮก่อนจะโผเข้ากอดผมเต็มตัว ผมลูบหัวเธอเบาๆใยไหมยังคงเป็นใยไหมที่ขี้แยสำหรับผมเสมอ

“ไม่ร้องนะครับ เดี๋ยวเจ้าตัวเล็กก็คิดว่าผมทำร้ายแม่ของเขาหรอก” ผมพยายามพูดติดตลกให้ไหมรู้สึกดีทั้งๆที่เป็นคำพูดธรรมดาๆ แต่มันกลับบีบหัวใจของผมอย่างแรงเจ็บจนแทบจะขาดใจ แต่ก็ได้แค่กอดเธอไว้ แล้วพูดออกไปว่าสบายดี

“ไหมจะบอกเขาฮึก จะบอกเขาว่า กรดีกับไหมแค่ไหน ไหมจะใช้กรเป็นต้นแบบให้ลูก ฮือไหมรักกรนะ ฮึก ฮือออ ถึงมันจะสายไปแต่ไหมรักกรมาก รักเหมือนพี่ชายคนหนึ่ง”

ฮ่ะๆพี่ชายสินะ นั่นสินะ พี่ชายคนหนึ่ง

“ครับ......น้องสาวของผม”ทรมานเหลือเกินที่ทำอะไรไม่ได้ใจจริงอยากจะดึงไหมเอาไว้ กอดขาไหมแล้วอ้อนวอน ยอมเป็นคนโง่ๆที่อยู่เป็นรักเก่าๆเพียงแค่ได้ยืนข้างๆเธอ แต่ผมทำไม่ได้ เธอควรมีชีวิตที่ดีกว่านี้ ไม่ใช่จมปลักอยู่กับคนตายด้านอย่างผม

“แล้วพ่อของลูกไหม เขารู้หรือยัง” ผมกลั้นใจถามทั้งๆที่มันเสียดแทงใจตัวเองอย่างที่สุด ไหมพยักหน้าให้ผม ก่อนจะยิ้มหวานอย่างมีความสุขที่ได้พูดถึงเขา

“อื้อพี่เขารู้แล้วล่ะ เขาจะให้ทางบ้านมาสู่ขอไหม แต่ติดปัญหาที่.....” ผมพยักหน้าเข้าใจที่เธอพยายามจะสื่อ

“ใบหย่าใช่ไหม ได้สิ เดี๋ยวกรจะเซนให้นะ” ไหมหลุบตาลงมองมือของตัวเองมันเป็นปฏิกิริยาที่เธอมักจะทำเสมอหากว่ามีเรื่องที่ไม่แน่ใจว่าควรพูดไหม

“คือ......”

“ไหมพูดมาเถอะ ถ้ากรทำให้ได้ กรจะทำ” ไหมเหลือบตาขึ้นมองหน้าผมเล็กน้อย ผมเห็นเธอกัดริมฝีปากที่สั่นเอาไว้จนแน่น กลัวเหลือเกินว่าเธอจะเผลอกัดแรงจนเลือดตกยางออกผมไม่ชอบเห็นไหมเจ็บตัว

“ทางบ้านของพี่ตาม.....ไหมหมายถึง.....”

“ผมรู้ว่าไหมหมายถึงใครพูดต่อเถอะ” ไหมพยักหน้า ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าปอดเพื่อเรียกกำลังใจให้ตัวเอง

“ทางบ้านพี่ตามต้องการให้กร ไปตรวจแล้วเอาผลมายืนยันว่า กร....เอ่อ......ไม่สามารถมีอะไรกับ ไหมได้”

อ๋อ......อย่างนี้เอง ทางนั้นคงไม่เชื่อสินะว่าลูกของลูกชายเขา ไม่แปลกหรอกครับ ก็ไหมแต่งงานกับผมมาสองเดือนแล้ว หากจะว่าเป็นลูกผมมันก็เป็นไปได้ ถ้าผมเคยนอนกับเธอนะครับ มันเป็นเรื่องที่พูดยากนะครับ สำหรับผมเอง ก็ไม่ได้อยากให้ใครๆมารู้เรื่องที่ตัวเองไม่ขันเท่าไหร่ มันเป็นศักดิ์ศรีของผู้ชายเลยนะครับ เรื่องแบบนี้

“แล้ว......ไหม จะให้ผม ทำยังไง ครับ” ผมรู้สึกเหมือนว่าจะหาเสียงตัวเองไม่เจอ ลังเลว่าควรจะทำให้ไหมดีไหมแต่เมื่อนึกถึงเด็กตาดำๆที่กำลังจะเกิดขึ้นมา คงดีไม่น้อยหากได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตานั่นสินะ เพื่อลูกของไหม เพื่อหลาน.....ของผม

“กร......เคยได้ยินเรื่องคลินิกมารักษ์ไหม”

“ไม่ครับ”ไหมถอนหายใจก่อนจะหันมาอธิบายให้ผมเข้าใจ

“คลินิกนี่มีชื่อเสียงมาก ไหมได้ยินมาว่า.......” ไหมเงียบไปครู่หนึ่งจนผมต้องเลิกคิ้วขึ้นมองไหมอย่าไม่เข้าใจที่จู่ๆเธอก็เงียบไปเฉยๆ

“ไหมได้ยินมาว่า.....เขารับรักษาด้านนี้โดยเฉพาะ”

อ๋อ.....อย่างนี้นี่เอง ผมเข้าใจแล้ว ไหมคงคิดว่าถ้าจะให้ผมไปตรวจและขอใบรับรองมันคงจะดูน่าเกลียดเกินไป ถึงได้พูดถึงคลินิกนี้ขึ้นมา คงคิดจะให้ผมไปรักษาสินะ ไหมดูร้อนรนเมื่อจับสังเกตไก้ว่าผมพอจะเข้าใจจุดประสงค์ของเธอบ้างแล้ว

“ไหม......ไหมแค่ไม่อยากให้ใครตราหน้ากร.......ว่าหย่าเมียเพราะเสื่อมสมรรถภาพ ไหม เอ่อ ไหม....”

“ครับผมเข้าใจ” ผมยิ้มให้ไหมที่ทำตัวไม่ถูก ไม่รู้จะพูดอย่างไร

“คือไหมจะออกค่ารักษาให้ ไหมไม่ได้จะดูถูก แค่......อยากให้กรเก็บเงินเอาไว้”

“ครับไหมอย่าคิดมากเลย ผมเข้าใจ” ไหมยิ้มออกมาอย่าโล่งใจเมื่อคิดว่าผมยอมรับทุกสิ่งทุกอย่างโดยไม่ตะขิดตะขวางใจใดๆ

“ดีเลย.....”

“แต่ผมคงให้ไหมออกเงินค่ารักษาให้ผมไม่ได้หรอกครับ”ไหมชะงักมองหน้าผมด้วยความไม่เข้าใจ

“ทำไมล่ะไหมเต็มใจช่วยนะ” ผมยิ้มบางๆพรางส่ายหน้าให้เธอ

“ไม่ได้หรอกตัวผม จะรักษาผมก็ต้องออกเงินเองสิครับ”

“แต่ไหม....”

“ถ้าผมให้ไหมออกให้ มันก็เท่ากับว่า......ผมทำทั้งหมดนี้เพื่อไหมนะ ปช่อยให้ผมจัดการเองเถอะครับอย่าห่วงอะไรเลย” ไหมสะอื้นไห้ เมื่อรับรู้ได้ว่าผมไม่ได้โกรธเคืองและเธอเองก็ไม่ควรทำให้ทุกอย่างดูแย่ลง ผมยอมรับว่าเจ็บ แต่มันคงดีถ้าผมเป็นคนเจ็บแค่คนเดียวเพื่อให้ใครอีกหลายคนมีความสุข เจ็บเพื่อคืนสุข มันก็ดีแล้ว มันควรจะเป็นแบบนั้นอยู่แล้วที่นี่นะเหรอคลินิกมารักษ์ที่เปิดรักษาโรคทางเพศ ด้านนอกก็ไม่ได้ต่างจากคลินิกอื่นตรงไหนเลยแต่ภายในกลับ โอ่อ่าจนน่าตกตะลึง แต่ความสวยงามด้านในยังเทียบไม่ได้กับ.......ผู้คนที่มาที่นี่ ดูแล้วล้วนแต่เป็นผู้ดีมีเงินทั้งนั้น แต่.......ทำไมผมไม่รู้สึกเลยว่าคนพวกนี้ป่วยดูแต่ละคนสิ ใส่สั้นจนแทบจะแก้ผ้าเดินก็มีแต่งหน้าจัดเหมือนจะไปเล่นงิ้วก็มี หรือบางคน ฉีดน้ำหอมเหมือนจะเรียกว่าอาบก็มีมองๆไปแล้ว รู้สึกเหมือน........อะไรนะ อ๋อใช่ๆเหมือนพวกผู้หญิงออกล่า ถามผมว่าเคยเจอไม่ แหม......ก็ไม่เคยหรอก แต่เคยเห็นตอนพวกนั้นออกล่าแล้วเกิดถูกใจไอพิตต์มัน

ผมกวาดสายตาไปรอบๆ บอกตรงๆว่าตะลึงเหมือนกัน ไอที่ตะลึงนี่ไม่ใช่เพราะสาวสวยหรือคนหน้าตาดีอะไร ตะลึงเพราะคนที่ยืนอยู่เบื้องหน้าผมต่างหาก

“ไอเหี้ย!!!!ไอหมอพิตต์!!!!!”

“ไอกร.....”ผมเกือบจะกระโดดโผเข้ากอดมันแล้ว ดีที่ยั้งตัวเองเอาไว้ทันเลยได้แต่ยิ้มกว้างด้วยความดีใจมันเองก็เหมือนกัน สีหน้ามันดูหลากหลายความรู้สึก แต่ไม่รู้สิ ผมไม่รู้ว่ามีความรู้สึกแบบไหนบ้าง ผมเดินเข้าไปหาไอพิตต์ที่มันเองก็ค่อยๆก้าวมาหาผมเช่นเดียวกัน

“ไอพิตต์ มึงหายไปไหนเลยวะ มาเห็นติดต่อกูเลย ว่าจะชวนมางานแต่งกูซะหน่อย”ไอพิตต์ทำเพียงยิ้มบางๆแววตาเหมือนคนสะกดกลั้นบางอย่างเอาไว้ นั่นทำให้ผมคิดสงสัยแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร

“โทษทีวะพอดีตอนนั้นกูยุ่งๆ เลยไม่ได้ติดต่อมึงไปเบอร์กูไม่ได้เปลี่ยนหรอกแต่ไม่ค่อยได้ใช้โทรศัพท์มากกว่า...”

“เออเฮ้ย ไม่เป็นไรๆ มึงสบายดีนะ” ผมตบบ่าของคนที่สูงกว่าผมอย่างไม่ถือสา

“สบายดีมึงละ แต่งงานแล้วมีความสุขดีไหมวะ” ผมได้แต่ชะงักรอยยิ้มที่อยู่บนหน้าสีหน้าของมันมีแต่ความห่วงใย

“ไม่ค่อยดี......เท่าไหร่”ไอพิตต์มองผมอย่างไม่เข้าใจจนคิ้วของมันขมวด

“เกิดอะไรขึ้นเหรอบอกกูได้นะ”

“จริงๆแล้วกู......”

“หมอพิตต์ขา!! มาทำอะไรตรงนี้คะ ฝันรออยู่ในห้องตรวจนานแล้วนะคะ” ผมยังไม่ทันจะได้พูดเล่าอะไรออกไป ก็ถูกขัดจังหวะจากสาวสวยใบหน้าหวานที่แต่งแต้มด้วยรอยยิ้มหวานหยาดเยิ้ม แขนของไอพิตต์มันถูกเกาะกุมโดยคนข้างๆอย่างสนิทสนม ผมมองภาพนั้นด้วยความรู้สึกแปลกๆ แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไม อาจจะเพราะน้อยใจที่มันมีใครแล้วไม่เคยเล่าให้ผมฟังก็เป็นได้

“อ๋อ....พอดีผมเจอเพื่อนน่ะครับ คุณฝันไปรอที่ห้องก่อนก็ได้นะครับ” ไอพิตต์จับมือที่เกาะกุมแขนมันเอาไว้นิ่งๆและหันไปมองสบตากัน ผมรู้สึกเหมือนส่วนเกิน อึดอัดอยากออกไปจากตรงนี้ ดวงตากลมของฝันหันมามองผมเหยียดๆตั้งๆแต่หัวจรดเท้า

“เพื่อน........เหรอคะ”

“ครับ”

“แต่งตัวจ๊นจนนะคะหมอ”

อึก!

ทำไมเธอต้องทำท่าทางราวกับดูถูกและรังเกียจผมแบบนั้นด้วยล่ะ ผมทำอะไรผิดกัน ผมไม่เข้าใจสักนิด ทั้งๆที่เราเพิ่งเจอกันแท้ๆแต่เธอทำเหมือนว่าผมไปทำสิ่งเลวร้ายจนเธอรังเกียจและไม่อยากจะหายใจร่วมกับผม ผมก้มหน้าลงมองพื้น เจ็บที่สายตาคนนอกมองมันไม่เท่าไหร่ แต่เจ็บที่คนที่ผมเรียกว่าเพื่อนปล่อยให้แฟนตัวเองทำกับผมแบบนี้
มันน้อยใจ

“ฝัน!!...../กร!!!!”ผมไม่รู้ว่าไอพิตต์จะพูดอะไรแต่ผมเลือกที่จะหันไปมองตามเสียงเรียกของอีกคนมากกว่า

“มีอะไรหรือเปล่ากร...”ใยไหมเดินมากาผมพร้อมกับเอ่ยถามผมไม่อยากสร้างปัญหาจึงได้แต่ยิ้ม

“ไม่มีอะไรครับ ไหมคุยเสร็จแล้วเหรอ” ไหมขมวดคิ้วก่อนที่สายตาของไหมจะหันไปมองฝันที่ยืนมองผมอยู่อย่างเดิม ไหมยกยิ้มเย้ยหยันให้ฝันไปพร้อมกับกวาดสายตามองอีกฝ่ายทั้งร่างด้วยแววตารังเกียจที่ไม่คิดจะปิดบัง

“พิตต์ไม่เจอกันนาน สบายดีนะ” พิตต์มองผมกับไหมนิ่งๆ สายตาว่างเปล่าจนเดาอะไรไม่ได้

“อืมสบายดี ไหมละ”

“ไหมสบายดี แต่ไม่อยากจะเชื่อเลย ไม่เจอกันแค่ไม่กี่ปีเอง เดี๋ยวนี้ต้องซื้อกินแล้วเหรอ”ปากถามแต่สายตาไหมมองผู้หญิงข้างๆไอพิตต์ราวกับต้องการจะสื่อความหมาย

“ซื้อกิน???”ไอพิตต์มองจามสายตาของไหมไปจนเจอคนข้างตัวจึงได้ร้องอ๋ออยู่ในที

“นี่เพียงฝันเป็นคนไข้ของผมเอง” ฝันยิ้มเยาะออกมา ก่อนจะแสดงท่าทีที่บ่งบอกมากว่าแสน้งทำเป็นตกอกตกใจ

“อ้าว....คนไข้เหรอ”

“......”

“ขอโทษด้วยนะคะที่เข้าใจผิด แหม......”

“อะไรยะ!!!”ฝันถามออกมาอย่างหัวเสีย

“ก็เห็แต่งตัวมาแบบนี้ ก็นึกว่ามา เร่ขาย ซะอีก แย่จังเลยเรา เดาผิดซะได้ ขอโทษนะพิตต์ไหมเข้าใจผิดไป นึกว่าพิตต์ซื้อของเกรดต่ำมากิน”

“กรี๊ดดดดดดดดด!!!!!!!”อ่าผมรู้สึกเหมือนจะเกิดสงคราม ได้แต่ดึงแขนของไหมเอาไว้อย่างปรามๆไม่อยากสร้างความเดือดร้อนให้ไอพิตต์มัน

“ไหมๆไปเถอะ พอแล้วนะครับ”

“เชอะ!!!”โชคยังดีที่ไหมยอมเดินตามผมมาง่ายๆไม่อิดออดอะไร ฝันถือว่าโชคดีที่โดนแค่นั้น ใครๆก็รู้ว่าในมหา’ลัย ไหมคือที่สุดของผู้หญิงปากกล้าเลย ใครมาด่า มาระรานไหม เจอตอบกลับจนแทบจะวิ่งกลับบ้าน บางคนยืนกรี๊ดอยู่ตรงนั้นด้วยความที่ทำอะไรไม่ถูกเลย ยิ่งคิดถึงก็ยิ่งอดยิ้มไม่ได้
แต่เราก็หมดสิทธิ์ไปแล้ว

“ไหม......เดี๋ยวก่อน”ผมกับไหมหันไปมองไอพิตต์ที่แกะมือของฝันที่จับเอาไว้ออก

“มีอะไรเหรอพิตต์”

“ไหมกับ.......ไอกรมาทำอะไรที่คลินิกเหรอ”

“คลินิกนี้รักษาอะไร ไหมกับกรก็มาเพราะเรื่องนั้นล่ะ” ไหมเลี่ยงการพูดตรงๆคงด้วยเพราะแม่นกหวีดยังยืนอยู่ตรงนั้นมั้งครับ

“หึ.......มารักษาหรือมาหาผัวกันแน่ก็ไม่รู้แรด!!!” ไหมปรายตาไปมอง ส่งรอยยิ้มบางเบาไปให้อีกฝ่ายอย่างใจเย็น

“ถามตัวเองเหรอคะใส่มาสั้นขนาดนั้นกะว่าไม่ต้องถอดก็เสียบได้เลยแบบนี้ไงฉันถึงเข้าใจว่าคุณมาเร่ขาย”

“กรี๊ด!!อี อี” ฝันกระทืบเท้าด้วยความไม่พอใจ ใบหน้าสวยบูดเบี้ยวด้วยอารมณ์โกรธนิ้วชี้ถูกยกขึ้นมาชี้หน้าไหมทั้งๆที่มันสั่น

“ทำไม จะทำไม!!” ไหมหวังจะเดินเข้าไปหาอีกคน แต่ผมรวบตัวไหมเอาไว้ ส่วนฝันได้แต่หลบหลังของไอพิตต์ โดยกอดเอาไว้จากด้านหลัง อืม......ก็เอาเถอะ

“ไหมกลับเถอะ เดี๋ยวเราไปโรงพยาบาลกันก็ได้” ผมพยายามพูดเกลี้ยกล่อมให้ไหมอารมณ์เย็นขึ้นเอาพูดจริง ถ้ามาแล้วเจอแบบนี้ สภาวะเครียดแบบนี้จะมีผลต่อเด็กในท้องของไหมเองด้วย ผมไม่อยากให้หลานมายืนฟังคำพูดแสลงหู

“ก็ดีค่ะไปเถอะกร”

“เดี๋ยวๆเดี๋ยวผมรักษาให้ ไอกร เดี๋ยวกูรักษาให้มึงเอง” มึงแกะแม่ปลาหมึกของมึงก่อนไหม

“จะดีเหรอเราไม่ชอบให้กรมาเจอคนแย่ๆกับบรรยากาศแย่ๆซะด้วยสิ มลพิษทางอารมณ์”

“นี่แกว่าฉันเหรอ!!!”

“หยุด!!!คุณสาวครับ!!!” อยู่ๆไอพิตต์ก็เหมือนจะเม้งแตกเพราะมันใช้เสียงดังมากจนฝันตกใจยืนหน้าซีด

“คะหมอว่าไงคะหมอพิตต์” สาวสวยที่เพิ่งเดินเข้ามาใหม่มองหน้าพวกเราสลับกันไปมาราวกับทิศทางของสงคราม

“เดี๋ยวจัดการยกเลิกสัญญาของคุณเพียงฝันด้วยนะครับ เธอละเมิดกฎ!!!” เจ้าตัวยืนอ้าปากค้างขณะที่เสียงของไอพิตต์ทำให้ทุกคนหันมามองด้วยความสนใจ บางคนก็กระซิบกระซาบกันอย่างสนุกปาก ผมสงสารเธอนะครับ บอกตรงๆ แค่ก็ไม่รู้จะทำยังไง ดูก็รู้ว่าเธอชอบเพื่อนผมคนนี้มาก แต่คงไม่เคยเจอไอพิตต์ในมุมเย็นชาและไม่แคร์ใครมาก่อนสินะ ถึงได้อึ้งไปแบบนั้น

ร่างของฝันถูกคุณสาวที่ไอพิตต์เรียกมาดึงให้เดินตามเธอไป จุดหมายคือประตูทางออก ทุกสายตายังคงจับจ้องมาที่พวกเรา ผมไม่สามารถบอกได้ว่าพวกเขาคิดอะไรยังไง แต่ผมเชื่อว่า ที่หันๆมาคืออยากรู้อยากเห็นล้วนๆเผือกแบบไม่มีมันผสมเลยล่ะครับ

“ดี!ไปซะได้ก็ดี!!”

“ไหม......ไม่เอาน่า”ผมปรามไหมที่ยืนมองแผ่นหลังของฝันด้วยความหมั่นไส้เฮ้อออ

“แล้วตกลง.......มีปัญหาอะไรกันล่ะ”ไอพิตต์มองหน้าผมนิ่งๆจนผมอดไม่ได้ที่จะสงสัยว่า มันถามผมเหรอ?

“ถามกู??”

“ถามไหม”แล้วจะมองหน้ากูหาเตี่ยมึงเหรอครับไอเหี้ย

“หาอ๋อ เอ่อ พอดีกรเขา.......มีปัญหาเรื่อง.....นั่นล่ะ”

ไอบ้า!!! ผมรีบยกมือมาปิดตรงเป้ากางเกงเอาไว้พร้อมถลึงตาใส่มันเมื่อไอพิตต์มันไล่สายตาลงมา มีที่ไหนมองแบบโจ่งแจ้งขนาดนี้ จะมองแบบปกติก็ไม่ได้ ต้องทำตาแวววับจนอยากจะเตะก้านคอให้มันหายบ้า

“มองบ้าอะไรของมึงวะ!!”ผมตะคอกใส่มันทั้งๆที่หน้าแดงด้วยความอายก็ใครใช้ให้มันยิ้มแบบนั้นใส่ผมล่ะ

“อะไรก็มองสำรวจ............ดูอาการ”

อาการบ้านมึงดูได้ด้วยสายตาเหรอวะ

ใยไหมที่ยืนอยู่ข้างๆมองหน้าผมและหน้าไอพิตต์สลับกันไปมา ก่อนที่จะเผยรอยยิ้มล้อเลียนมาให้ผม ยิ่งเห็นว่าไหมยิ้มแบบนั้นหน้าผมก็ยิ่งเห่อแดงแบบไม่มีเหตุผล ทำไมผมต้องอายด้วยวะเนี่ย ไม่เข้าใจเลย สงบใจไว้ๆ อย่าลนดิวะ ไม่มีอะไรสักหน่อย แต่ด้วยความหมั่นไส้จนทนไม่ไหว ผมจึงหยิกเข้าที่แขนของไหม

“โอ้ยยยยยกรหยิกไหมทำไม” ผมมองค้อนให้ไหมวงใหญ่

“แล้วยิ้มแบบนั้นทำไมล่ะฮึ!”

ไหมอมยิ้มส่งสายตาพราวระยับมาล้อเลียนผม มันน่าตีไหมล่ะครับ ดูทำท่าทำทางเข้าสิ ไอพิตต์ก็เหมือนกัน ยิ้มแบบนั้นมันหมายความว่าไงวะ ทำไมสองคนนี้ต้องมองหน้าแล้วส่งยิ้มแปลกๆกับสายตาแปลกๆที่ผมไม่เข้าใจด้วยนะ สรุปแล้วคือ พวกเขาสองคนคุยกันผ่านทางโทรจิตเหรอครับ เห็นจ้องกันไปจ้องกันมาแล้วหัวเราะราวกับว่ากำลังคุยกันอย่างสนุกสนาน
เกลียดจริงๆไอความรู้สึกว่าถูกเขี่ยออกมาจากโลกของพวกเขาเนี่ย ชิ!!

ผมถูกไอพิตต์มันลากมายังห้องตรวจของตัวเอง ส่วนไหมกลับไปก่อนแล้ว ซึ่งตอนแรกไหมบอกว่าให้ผมเซ็นสัญญาด้วยเพราะเธอจ่ายค่ารักษาไปหมดแล้ว จะโกรธก็ไม่ได้เพราะไหมดันส่งยิ้มออดอ้อนมาให้ผมจนใจอ่อนยวบ เฮ้อ......อย่างนี้ทุกทีเลย ผมมองไปรอบๆห้อง มันก็น่าตกใจนะ เคยไปคลินิกและโรงพยาบาลมากมายไม่เคยเห็นที่ไหนจัดห้องตรวจแบบนี้สักที่ หรือมันจะไม่ใช่โรงพยาบาลนะ

“ตกลงยังไงมึงมีปัญหาอะไรกัน” มีปัญหา? อ๋อ เข้าใจล่ะ คงหมายถึงเรื่องของผมกับไหมสินะ ผมลอบถอนหายใจเฮือกใหญ่

“กูกำลังจะหย่า”สีหน้าไอพิตต์ดูแปลกใจมากเหมือนมันไม่รู้ว่าควรจะทำหน้ายังไง

“หย่า?”

“ใช่..หย่า ตั้งแต่แต่งงานกันมาสองเดือน กู......มีปัญหา มันไม่ยอมตั้ง กูให้ความสุขกับไหมไม่ได้” ผมหลบสายตาไอพิตต์ที่จ้องมองมา กลัวหลุดบางอย่างที่ไม่ควรจะพูดออกไป กลัวเหลือเกินว่าตัวเองจะทำให้ไหมเสียหาย แม้ว่า.....มันจะเป็นเรื่องจริงก็ตาม

“.....”

“.....”

ผมกับไอพิตต์ต่างคนต่างห็เงียบใส่กัน ได้ยินเสียงหายใจจนชัดเจน ผมยังคงวางสายตาไว้ที่อื่นแม้จะไม่ได้มองแต่ก็พอรู้ว่าไอพิตต์มันเอาแต่มองหน้าผมไม่เลิก ใครๆก็หลงรักใบหน้าหล่อของหมอพิตต์ ใครๆก็ชอบให้ไอพิตต์มันมอง แม้ต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม แต่ผม การถูกมันจับจ้องเป็นเรื่องปกติ เพราะตั้งแต่เมื่อก่อนแล้วที่ผมหันไปมองมันทุกครั้งที่เห็นมักจะเห็นว่าสายตาคมของมันมักจะมองมาที่ผมเสมอ เพราะงั้น ผมถึงตั้งตารอไอพิตต์อย่างมาหวังเหลือเกินว่าในวันที่ผมแต่งงาน มันจะมาร่วมยินดีกับผมแต่เปล่าเลย แม้ว่าผมจะตอดต่อมันไม่ได้ แต่ผมก็ฝากข้าวคราวไปบอกผ่านเพื่อนๆแต่สุดท้าย........จนจบงาน ผมก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของไอพิตต์มันเลย ไม่มีแม้แต่คำยินดีที่ฝากเพื่อนมาด้วยซ้ำ

“ไอกร...พูดมา!”ผมย่นคอแอบลอบมองหน้ามันอย่างกลัวๆ สีหน้าแววตาและน้ำเสียงของมันกดดันผมสุดๆ บรรยากาศในห้องมาคุจนอยากจะชิงเอาหัวชนกำแพงหนีตายไปเลย

“กะกูพูดไปแล้วไง ก็ๆ” ผมจะทพูดยังไงดี มันต้องไม่เชื่อแน่ๆ

“กร!!!!!”ผมสะดุ้งกับเสียงตะคอกเรียกชื่อผม

“อะอะ” ผมได้แต่อ้ำๆอึ้งๆ พูดอะไรไม่ถูก ไม่เคยเห็นไอพิตต์มันเป็นแบบนี่เลย

“มึงจะบอกกูตรงๆหรือให้กูบังคับให้มึงพูด”

“ไหมท้อง ไหมท้องกับคนอื่นเลยมาขอหย่ากับกู!!!” รอยยิ้มเหี้ยมที่อยู่บนหน้าไอพิตต์ทำเอาผมขนลุกไปทั้งตัว แม้ใจจะไม่อยากบอกออกไป แต่ความกลัวและสัญชาตญาณร้องบอกให้ผมอ้าปากและพูดออกไป

“ท้อง......กับใคร”

“กูจะรู้เหรอ.....เอาสิ......มึงอยากหัวเราะไหมล่ะ”ผมกลั้นใจรอฟังเสียงหัวเราะเยาะจากมันแต่ก็ไม่มี รอนานเท่าไหร่ก็ไม่มีเลย ความเงียบยังคงปกคลุมเช่นเดิม

“กูจะหัวเราะเยาะมึงทำไม ตั้งแต่คบกันมา กูเคยทำแบบนั้นเหรอ” ฝ่ามืออุ่นลูบผมของผมอย่างแผ่วเบา สายตาทอประกายแววหวานจนผมหน้าร้อนหลบสายตาคู่นั้นด้วยความรู้สึกแปลกๆ อาการกระส่ายกระสับที่ผมเป็นอยู่มันคืออะไรนะ ผมไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนเลยด้วยซ้ำทำไมหัวใจต้องเต้นแรงด้วยก็ไม่รู้ มือของมันเลื่อนลงมาที่ผิวแก้มก่อนจะใช้นิ้วลูบเบาๆจนมันรู้สึกร้อน ไม่กล้ามอง กลัวสบตาแล้วจะเห็น..........

เห็นอะไร???นั่นสิผมกลัวเห็นอะไร

ผมชะงักไปเมื่อเริ่มตั้งคำถามกับตัวเอง ทำไมผมถึงกลัวที่จะมองตาไอพิตต์ด้วย ทำไมผมถึงไม่กล้าสบตามันตรงๆ พอมาลองย้อนนึกๆดูแล้ว ตั้งแต่เมื่อก่อนผมเองก็ไม่ค่อยจะสบตามันตรงๆเลย เหมือนตัวเองกลัวอะไรบางอย่างไม่เข้าใจเหมือนกัน พอมันมีเหตุให้จ้องตา ก็มักจะเป็นผมที่เป็นฝ่ายหลบตาเสมอไอพิตต์ไม่เคยหลบ ไม่เคยหยุดมองมาสักครั้ง แต่เป็นผมที่พยายามจดจ่อกับสิ่งอื่นเพื่อหลีกเลี่ยงสายตาคู่นั้น ไอเก้าเคยเปรยกับผมว่า สายตาไอพิตต์ไม่เคยปิดบัง ถ้าผมลองมองก็จะรู้ ตอนนั้นผมได้แต่ทำหน้างง แต่พอจะลองจ้องไปกลับไม่กล้า ทั้งที่กับไอเก้าและคนอื่นๆ ผมสามารถมองสบตาพวกเขาได้โดยไม่รู้สึกอะไร

แปลก

ใช่ มันแปลก แต่ที่แปลกคือ ทำไมผมถึงเพิ่งจะมาคิดเรื่องนี้ หรือเพราะผม ไม่มีพันธะแล้ว หรือเพราะผมได้มาพบกับสายตาของไอพิตต์อีกครั้งกันแน่

“เป็นอะไร......ทำไมทำหน้าแบบนั้น”ผมหันไปมองหน้าไอพิตต์โดยเลือกจะจับจ้องส่วนอื่นที่ไม่ใช่สบตา สิ่งที่ผมเลือกจะจับจ้องคือริมฝีปากของมัน ผมคิดว่ามันดีที่สุดแล้ว แต่ผมรู้ตัวว่าคิดผิด เมื่อริมฝีปากของมันยกยิ้มถูกใจ ก่อนใบหน้าหล่อเหลาจะขยับเข้ามาจนริมฝีปากของมันอยู่ใกล้จนผมต้องกลั้นหายใจ

“มองแบบนั้น.......”

“......” ไอพิตต์ใช้นิวเกลี่ยลงบนปากผมเบาๆอย่างเย้าแหย่และมันทำผม....เผลอเผยอปาก

“อยากจูบกูหรือให้กูจูบดีล่ะหืม......”

“บะบ้า!!”

ผมหลบปลายนิ้วของมันไปอีกด้าน หันหนีอย่างรวดเร็วทันทีที่ได้ยินคำพูดแบบนั้นออกจากปากมัน ใบหน้าของผมเห่อร้อนขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ และเพราะรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะยิ้มผมถึงต้องกัดริมฝีปากล่างเอาไว้ ทำไมต้องพูดอะไรน่าอายๆแบบนี้ด้วยผมเป็นผู้ชายนะ จะมาองมาอายกับเรื่องแบบนี้ได้ไง พอคิดได้แบบผมจึงหันไปสบตามันอย่างไม่เกรงกลัวอีก

อึก!!

บ้าจริง!! ทำไมความหล่อของมันชัดเจนแบบนี้วะ ทำไมเหมือนมีใครมาฉายไฟใส่ผมจนแสบตาแบบนี้ทำไมสายตาคู่นั้นถึงมองผมแบบนั้น ไม่รู้เลยเหรอว่ามันทำให้ผมละลายแล้วทำไม ทำไมมันต้องยิ้มกรุ้มกริ่มกับผมด้วย ตะ แต่แต่ผมไม่ได้อายนะ ผมเปล่าจริงๆ

“ว่ายังไง จะจูบกู หรือให้กูจูบดีครับ” มือไม้สั่นไปหมด ยิ่งไอพิตต์มันก้มลงมากระซิบเสียงทุ้มข้างๆหูผมแบบนี้ ยิ่งสั่นจนแทบจะจับไข้ ดาเมจแรงเกินไปแล้ว

“อยะอย่ามองแบบนั้น!!!” ผมทนไม่ไหวแล้วนะ ผมจะควบคุมตัวเองไม่ได้แล้วนะ!!

“ทำไมหรือว่า...”

หมับ!!

ผมถูกมันจับให้หันไปมองสบตาตรงๆโดยไม่ยอมให้หลบ ผมพยายามดิ้นหนี กลัว ความกลัวในใจเรียกร้องให้ผมหลบตา มันร้องบอกให้ผมหลับตาหนีจากใบหน้าที่อยู่ตรงหน้าผมนี้

“มองตากูไอกร!”

“ไม่!!!!!”ผมหลับตาปี๋ไม่ยอมมองสบตามันง่ายๆหรอกผมไม่มีทางสบตามันแน่

“กรครับมองตากูสิ มองกูสิครับกร”

“ขะขี้โกง” ผมทั้งหลับตาทั้งย่อนคอ หนีจากการที่ถูกมันป่วนเล่น มันเล่นขี้โกงอ่ะทำไมต้องกระซิบแบบนี้ด้วย ผมอยากกลับบ้านแล้ว

“งั้นก็ลืมตามามองสิ ที่มึงไม่ยอมลืมตามามองกู เพราะมึงรักกูใช่ไหม” ผมชะงักมันพูดบ้าอะไร และนั่นทำให้ผมเผลอลืมตาขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้

“มึงพูดอะไร”

“มึงชอบกู”

“.......”

“ใช่ไหมกร มึงชอบกูใช่ไหม” ผมผลักมันออกทันที มันบ้าไปแล้ว ผมจะไปชอบมันได้ยังไง ผมเป็นผู้ชายนะ

“กูเปล่า”

“มึงชอบกู!”

“ไม่ใช่!!โอ๊ย!!!” แรงที่แขนของผมถูกเพิ่มมากขึ้นตามความโมโหของเจ้าของฝ่ามือ

“มึง!!!รัก!!! กู!!!”

“บอกว่าไม่ชะ.....อ๊ะอื้ม!!!”

ไอพิตต์ก้มลงมาใช้ริมฝีปากของมันปิดปากที่กำลังเอ่ยคำปฏิเสธของผม ผมถูกกระชับโดยที่มันใช้วงแขนตวัดให้ร่ทงของผมลอยวือเข้ามาใกล้จนตัวเราแนบชิดกัน แรงดูดดึงที่ริมฝีปากบ่งบอกอารมณ์ของคนตรงหน้าได้ดี ว่าหงุดหงิดแค่ไหน มือทั้งสองข้างถูกใช้ผลักไสร่างใหญ่โตให้ออกห่างแต่แรงของผมสู้ความถึกของมันไม่ได้เลย เหมือนผมกำลังผลักหินที่หนักกว่าสิบตันมันไม่ยอมขยับ สิ่งที่ขยับมีเพียงริมฝีปากและปล่ยลิ้นที่สอดแทรกเข้ามาเท่านั้น ผมถูกอีกฝ่ายสำรวจจนทั่วทั้งปาก ถูกลิ้นของมันชักชวนเว้าวอนให้ตอบรับและสอดประสานเดินตามเกมส์ รสหวานฉ่ำทำผมมึนหัวไปหมด แข้งขาอ่อนแรงจนยืนไม่ไหว ดีที่มีแขนของไอพิตต์รับเอาไว้ ไม่อย่างนั้นผมคงล่วงลงพื้นไปแน่ๆ

“จุ้บ อื้อ แฮกๆ” ไอพิตต์ถอนริมฝีปากออก มองน้ำใสๆที่ยังเชื่อมต่อกันระหว่างริมฝีปากของผมและมันแม้ว่าจูบจะจบลงไปแล้ว หากแต่รสหวานที่ได้สัมผัสมันยังคงติดตรึงอยู่ที่ปลายลิ้น

“มึงรักกูใช่ไหมกรมึงรักกู”

“......” ผมได้แต่หลบตา ไม่กล้าตอบรับหรือปฏิเสธใดๆเพราะตัวผมเองก็หาคำตอบให้มันไม่ได้เหมือนกัน ผมไม่รู้ว่าตัวเองรู้สึกอย่างไรไม่รู้ว่าอันไหนคือความรู้สึกจริงๆด้วยซ้ำ ไอพิตต์เป็นคนดีเป็นเพื่อนที่ดีของผมเสมอ ผมกลัวว่าถ้าผมปฏิเสธออกไปมันจะทำให้ความเป็นเพื่อนของเราจบลง หรือจริงๆผมกลัวที่จะยอมรับกันแน่นะ โอ๊ย!!! ยิ่งคิดก็ยิ่งเครียด

“กร.....”น้ำเสียงของมันดูเว้าวอนร้องขอให้ผมตอบคำถาม

กู....กูก็ไม่รู้

   ไอพิตต์ค่อยๆจับใบหน้าของผมให้หันไปหามันช้าๆ สายตาสอดประสานบอกเล่าความรู้สึกทุกอย่างจนหมด ผมเผลอวูบไหวไปกับบางสิ่งที่ปรากฏออกมาทางสายตา ครั้นจะหันหน้าหนีก็ดันติดอยู่ที่มือหนาที่ยังคงกอบกุมแก้มของผมเอาไว้ ยคดใบหน้าไม่ให้หันไปไหนได้

“แต่กูรักมึงนะกร........รักมาตลอด”

“..!!!” กล้าพูดเลยว่าอึ้ง ตาผมคงโตจนเรียกได้ว่าช็อคแล้วครับตอนนี้ แปลกใจที่มันพูดออกมาตรงๆ เพราะน้อยคนที่จะกล้าพูดออหมาแบบมัน ก็นะ อีกฝ่ายเป็นผู้ชายด้วยไหนจะเรื่อยงที่เราเป็นเพื่อนกันอีก

“กูรู้ว่ามึงคิดอะไร”มันถอนหายใจออกมาเสียงดัง

“แต่กูไม่สนหรอกนะ.....ว่ามึงจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย”

     มันไม่แคร์ แต่สังคมล่ะ?? คนภายนอกจะคิดยังไง

“มึงเองก็ไม่ควรแคร์ใคร.....มากกว่ากู!”ผมชะงักเผลอสบตาคู่นั้นที่เปิดเผยความในใจจนหมดสิ้น

“เหมือนที่กูไม่เคยจะแคร์ใคร.....มากกว่ามึงเช่นกัน”

ผมกำลังเบลอ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร อาจจะเพราะแววตาคู่นั้น หรือน้ำเสียงอ่อนโยนที่เปล่งออกมานั้น หรือคำพูดที่บอกว่าตัวผมสำคัญจนขนาดที่ผมไม่เคยได้มันจากใคร ความอุ่นร้อนจากริมฝีปากของมันกดจูบลงบนหน้าผากของผมอย่างแผ่วเบา ไล่ต่ำลงมายังแก้มทั้งสองข้างก่อนจะประกบลงที่ปากของผมบางเบาๆ เอวของผมถูกอ้อมแขนแข็งแรงกระชับเข้าหาจนแนบชิดกับตัวมัน มันทั้งร้อน ทั้งหวาน มันละมุนจนผมรู้สึกว่ากำลังล่องลอยไปในอากาศ

“อย่า.....”ผมร้องห้ามไอพิตต์ด้วยเสียงที่สั่นเจือไปด้วยอารมณ์ปราถนาแต่ที่สุดก็ต้องห้ามใจไว้ แม้ว่ามันจะเย้ายวนแค่ไหนมันก็ผิด

“ทำไม...”อีกคนถามผมอย่างไม่เข้าใจทั้งๆที่แววตาฉ่ำไปด้วยไฟสวาท

“มันไม่ถูก......เราต้องหยุด”ผมดันร่างใหญ่โตที่ไม่มีทีท่าจะถอยไปไหนออกก่อนที่กลิ่นกายและความหอมหวานเมื่อครู่จะมาทำลายสติอันน้อยนิดที่มีอยู่

“ทำไมถึงห้ามกู”

น้ำเสียงอ่อนแรงของไอพิตต์กรีดลึกลงบรหัวใจของผมอย่างแรง มันทำให้ผมรู้สึกเหมือนไม่เหลืออากาศจะหายใจ แต่ผมก็ต้องอดทนไว้ เพราะการที่ผมมาที่นี่มันก็เพื่อใบรับรองที่จะทำให้ครอบครัวของแฟนไหมเขายอมรับ ทำให้เด็กตาดำๆที่กำลังจะลืมตามาดูโลกนี้ได้มีชีวิตที่สมบูรณ์ ผมจะมาคิดเรื่องของตัวเองไม่ได้มันไม่ใช่เวบาที่ผมควรจะคิดเรื่องแบบนี้

    ท่องเอาไว้สิกร มึงทำเพื่อไหมและหลาน

“พิตต์กูขอร้อง กูต้องการใบรับรองจากมึงจริงๆ” ไอพิตต์มองหน้าผมอย่างชั่งใจก่อนจะยืดตัวขึ้นมองผมด้วยแววตาว่างเปล่า

“แล้วถ้ากูไม่ให้ล่ะ??”ผมกัดปากแน่นมันจะโยกโย้เพื่ออะไรวะ

“กู.......ก็คงต้องไปที่อื่น”ที่อื่นที่ต้องอับอายแบกหน้าไปรักษาอย่างช่วยไม่ได้แต่ผมไม่โทษมันหรอกนะ แม้มันจะไม่ช่วยผมก็ตามที

“หึหึ ตลกนะกร มึงคิดว่าเดินเข้ามาถึงถิ่นกูแบบนี้แล้วมึงจะได้ออกไปเหรอ?”จู่ๆวงแขนกว้างของไอพิตต์ก็รวบตัวผมเข้าไปหาจนได้กลิ่นหอมที่ติดเสื้อมัน

“เฮ้ย.....ปล่อยเล่นบ้าอะไรของมึงเนี่ย!” ผมพยายามดันตัวออกแต่ไร้ผลเพราะแรงที่ผมมีเทียบไม่ได้เลยกับร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรงนั่น

“ต่อให้มึงเดินออกไปได้ หใอที่ได้ชื่อว่าเก่งอย่างกู จะส่งข้อมูลเกี่ยวกับมึงทุกอย่างโดยที่กูจะระบุไว้ไม่มห้ใครได้รักษามึง แล้วมึงคิดว่าตัวเองจะทำยังไงล่ะหืม....” ผมเบิกตากว้างกับคำพูดของมัน นี่จงใจให้ผมอับสิ้นหนทางเลยเหรอยิ่งฟังยิ่งโมโห จนผมต้องทุบลงไปบนแผ่นอกนั่นแรงๆอยู่หลายทีเพื่อระบายอารมณ์

“ไอเหี้ย!!!”

“หึ.....ก็เหี้ยไง!! จะดีไปทำไมวะ มึงไม่เคยรักกูอยู่แล้วนี่ เป็นห่วงจังเลยนะ ไหมน่ะ ทั้งๆที่ท้องกับใครก็ไม่รู้แท้ๆ แต่มึงกลับต้องมาเป็นเดือดเป็นร้อนอย่างกับเป็นพ่อของเด็ก..”

เพี๊ยะ!!!!

มันเกินไปแล้วนะ ทันทีที่มันพูดดูถูกไหม ด้วยอารมณ์ที่ผมคุบไม่ได้ทำให้เผลอใช้ฝ่ามือตบเข้าที่แก้มของมันอย่างแรง จนเกิดรอยแดงขึ้รอย่างชัดเจน ไอพิตต์หันมามองหน้าผมด้วยแววตาวาวโรจน์ สองมือบีบต้นแขนของผมอย่างแรงจนผมต้องนิ่วหน้า

“เจ็บ!!ไอพิตต์กูเจ็บ!!!”

“ตบกู?คิดดีแล้วเหรอที่ทำแบบนี้ไม่อยากได้เหรอใบรับรอง หรือจะปล่อยให้ไหมท้องไม่มีพ่อล่ะ”น้ำเสียงเย้ยหยันถูกส่งมาถากถางให้ผมต้องเจ็บรู้ดีว่ามันโกรธ แต่ผมเองก็โกรธมันเช่นกันที่มาดูถูกผู้หญิง

“มึงมันปากหมาเอง!!ไม่ใช่ความผิดกูเสียหน่อย!”

“ดี......ถ้าอย่างนั้น”ไอพิตต์ปล่อยมือทั้งสองข้างออกจากแขนของผมโดยที่ตัวเองเดินกลับไปที่โต๊ะ มันเปิดลิ้นชักหยิบกระดาษขึ้นมาเขียนอะไรสักอย่างลงไปผมได้แค่นั่งมองนิ่งๆ ลูบแขนตัวเองปอยๆเจ็บชะมัด แรงมันเยอะจนผมคิดว่าเนื้อคงช้ำแล้วแน่ๆ ไม่เคยเห็นมันโกรธขนาดนี้มาก่อนเลยตั้งแต่เป็นเพื่อนกันมา

“นี่......ใบรับรองของมึง”

ผมสะดุ้งหลุดออกจากความคิดเมื่อไอพิตต์ที่อยู่ในเสื้อกาวน์ยื่นกระดาษมาตรงหน้าผม

“ใบรับรองนี่....”ไม่อยากเชื่อว่ามันจะให้ผมจริงๆผมเอื้อมมือหวังจะหยิบมาอ่าน แต่กลับถูกไอบ้านั่นดึงหนี อะไรของมันวะเนี่ย!!!!

“อ๊ะๆให้ง่ายๆก็ไม่ใช่กูสิ”

“อะไรของมึงวะพิตต์!!!มึงก็รู้ว่ากูต้องใช้!!” หงุดหงิด มันจะอะไรนักหนาก็รู้

“ถ้าอยากได้จริงๆ......”

“....??”

“คืนนี้.........ไปหากูที่คอนโดสิ”

“..!!!” ไปไหนนะ คอนโดมัน เอ่อ ผมรู้สึกเหมือนว่า ไม่ควรจะไปยังไงไม่รู้สิครับ ดูจากหน้าตาที่แสดงออกมาของมัน เหมือนจะมีแผนร้าย แต่ว่า........ไหมต้องการสิ่งนั้น

“ถ้ามึงกล้ามา......กูจะให้ไอนี่กับมึงแต่ถ้าคืนนี้ตอนสามทุ่มกูไม่เห็นมึงล่ะก็........กูจะเผามันทิ้ง!!”

ผม ผมควรทำไงดี บางอ่างกำลังร้องเตือนไม่ให้ผมไป แต่ไหม แต่ว่าไหมจำเป็นต้องมีสิ่งนั้นในการยืนยันเพื่อจะได้แต่งงานสร้างครอบครัว ผมควรทำไง ผมควรจะไปไหน หรือผมควรไปรักษาที่อื่นไม่สิ.....ไอพิตต์ไม่มีทางปล่อยให้ผมไปรักษาที่อื่นแน่ๆ ถ้าอย่างนั้น ก็ไม่มีทางเลือก

“ที่ไหน......”

“หือ”

“คอนโดมึงอยู่ที่ไหน......”
                  





           เพราะความโง่เขลาหรือเปล่านะ ที่ทำให้ผมเดินมาอยู่หน้าห้องของผู้ชายที่ผมเรียกว่าเพื่อน ข้อเสนอที่มันยื่นให้ แม้ตอนนั้นผมจะตอบตกลงไปแต่พอมานั่งคิดนอนคิดที่บ้าน กลับอยากยกเลิกขึ้นมาเสียนี่ พอสมองคิดเรื่องข้อเสนอแต่จู่ๆในหัวกลับหันเหไม่นึกถึงใบหน้าหล่อๆของไอพิตต์ ทำเสียงทุ้มที่นุ่นหู....ที่มันคอยกระซิบ คอยพูดอยู่ใกล้ๆ นึกถึงลมหายใจและจูบหวานๆ บ้าไปแล้ว!!!ผมว่าตัวเองนี่ท่าจะบ้าไปแล้ว!!!! ทำไมต้องหน้าแดงกับอีแค่จูบของมันแค่รอยยิ้มของมัน ไม่ๆๆ ผมเป็นผู้ชาย เรื่องนี้.....มันไม่ควรเกิดขึ้น

“มาแล้วเหรอ”ประตูถูกเปิดออกปรากฏร่างสูงใหญ่ที่มีเพียงกางเกงบ๊อกเซอร์แต่ส่วนบนเปลือยเปล่าเผยให้เห็นกล้ามเนื้อแน่นและซิกแพคที่บ่งบอกถึงการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ผมทึ่งกับความสวยงามของกล้ามเนื้อพวกนั้นไม่ได้ มันสวยจนอดไม่ได้ที่ตะก้มมองตัวเองเหอะๆ ผมไม่แปลกใจเลยที่สาวๆในมหา’ลัยจะหลงไหลในตัวมันแทนที่จะเป็นผม ก็มีแค่หุ่นบางๆจะไปสู้อะไรกับกล้ามหน้าท้องเป็นลอนๆแบบนั้นอิจฉาโว้ย!!!!!

“หึ....ชอบ?”ผมสะดุ้งกับคำถามบ้าๆที่ออกมาจากปากมัน

“พ่อมึงดิ”ผมชะเง้อคอมองหาสิ่งที่มันบอกจะให้ในเมื่อผมทำตามข้อเสนอของมันแล้ว

“ไหนใบรับรองล่ะกูก็มาที่นี่แล้ว”

“หึหึรีบร้อนจริงนะ เข้ามาข้างในก่อนสิ” มันเปิดทางราวกับเป็นการเชื้อเชิญให้ผมเดินเข้าไป

“มึงบอกให้กูมากูก็มาแล้ว กู....แค่ต้องการใบรับรอง เท่านั้น” ผมแค่อยากกลับบ้านไปเร็วๆก่อนที่......หัวใจจะวายตายซะก่อน

“แค่เข้ามามันจะอะไรวะกรห้องกูแท้ๆ มึงกลัวอะไรของมึง”

      กูกลัวมึงนั่นล่ะ ไอหมอหื่น!!

“กูไม่ได้กลัว!!”ถึงจะพูดแบบนั้นแต่ขามันก็สั่นไปแล้ว

“ไม่ได้กลัวก็เข้ามาดิ เอ้า.....เข้ามา!!” ผมกัดปากอย่างขัดใจ มันกดดันผมจนแทบจะกระดิกตัวไปไหนไม่ได้ ทางเลือกของผมมีแค่เดินเข้าไปทั้งที่รู้ว่าไม่ควรหรือจะกลับไปทั้งที่ไม่ได้อะไรเลย เจ็บใจนัก มันเล่นงานผมจากจุดอ่อนจนได้สิน่า ไอเพื่อนเลว

“ก็แค่นั้น”

ปัง!!

สะดุ้งสิครับ ปิดดังขนาดนั้น ไอพิตต์หัวเราะออกมาเสียงดังกับท่าทีของผมที่ตกใจจนหน้าซีด ส่วนผมได้แค่ยืนนิ่งเอ๋อๆอยู่กลางห้องไม่กล้าขยับตัวไปไหนมากนัก วางตัวไม่ถูกกับบรรยากาศแบบนี้ทำไมในห้องถึงได้ให้ความรู้สึกชวนสยิววะ ขนแขนผมแทบจะลุกขึ้นมาเต้นดิสโก้อยู่แล้ว ไอพิตต์ก็ช่างเป็นเจ้าบ้านที่ดีเหลือเกิน.....ไม่มีการเชิญไปนงไปนั่งปล่อยผมยืนแกว่ง.......ขาเล่นอยู่ที่เดิม ส่วนตัวเองก็ยกเบียร์ขึ้นมาจิบอยู่ตรงโซฟาพร้อมกับดูทีวีไปด้วย

นี่กูมาทำอะไรวะ????

10นาทีผ่านไป......

“ยิงเข้าไปเลย!!! ปัดโธ่เว้ย!!!!” เสียงโวยวายของผู้ชายที่นั่งโมโหแดกเบียร์อยู่หน้าทีวีที่เพิ่งถ่ายทอดบอลคู่สำคัญไป(สำคัญกว่าผมอีก!!) ผมได้แต่มองอยู่เฉยๆมองมันที่หงุดหงิดใส่อารมณ์เมื่อนักเตะเล่นไม่ถูกใจ ครับสินนาทีผมก็ยังยืนที่เดิม มีความเมื่อยเพิ่มมาหน่อย

ทำไมผมไม่ไปนั่ง??หึ......ตอบได้เลยกลัวโดตตีนมันครับ

ก็ไอบ้านั่นเล่นโมโหแล้วฟาดงวงฟาดงาสะเปะสะปะมั่วไปหมด เกิดมันโมโหจัดแล้วเจอผมอยู่ใกล้ๆ แทงเข่าใส่ผมขึ้นมามีหวังตายก่อนได้เห็นหน้าหลานในท้องของใยไหมแน่ ไม่อ่ะผมไม่กล้าเสี่ยงตายแบบนั้นหรอก ผมแค่อยากได้ใบรับรองเพื่อไหมแค่นั้นเอง


40นาทีผ่านไป........

“สัสแม่ง!!เล่นยังไงของมันวะ”

ยืนรอแล้วรอเล่า เหมือนถูกเรียกมาเพื่อดูมันทะเลาะกับบอลในทีวีเหรอ ผมเองก็ชั่งใจ ยืนอยู่นานๆก็เมื่อยนะ ในเมื่อตอนนี้มันเองก็กำลังเผลอ คงไม่ผิดที่ผมจะเดินเข้าไปหาในสิ่งที่ทำให้ผมต้องมาอยู่ตรวนี้ถูกไหมครับ เพราะงั้น ผมจึงมองจนแน่ใจว่าตัวมันจดจ่ออยู่กับผลบอลไม่สนใจการขยับตัวเพื่อเข้าใกล้เป้าหมาย

อีกนิดเดียวอีกนิดเดียวก็จะถึงแล้ว

ทันทีที่มือของผมสัมผัสกับความเย็นของลูกบิดประตูก็ทำให้ผมใจเต้นไม่เป็นส่ำ ไม่วายที่จะมองไปหาเจ้าของห้องที่ยังคงไม่สนใจสิ่งรอบข้างนิกจากบอลในทีวี

ดีแล้ว อย่าเพิ่งหันมาสนใจกูเลย

ผมค่อยๆเปิดประตูห้องออกอย่างเบามือ พยายามให้เงียบที่สุดเท่าที่จะทำได้ กลั้นหายใจจนอึดอันเมื่อต้องใช้สมาธิกับการบิดประตูในครั้งนี้ เพียงแค่ประตูเปิดออกผมก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ผมมองเข้าไปภายในห้องที่มีเตียงนอนขนาดใหญ่และตู้เสื้อผ้าห้องมันดูเรียบๆ ไม่มีของมากมายนัก ผิดวิสัยของหนุ่มโสดนะครับสะอาดสะอ้านขนาดนี้ หรือมันจะมีแฟน เพียงแค่คิดหัวใจก็บีบรัดจนเจ็บไปหมด แค่คิดว่ามีคนเข้ามาในห้องนี้มีคนมาใช้เตียงตรงหน้านี้ มันก็ทำให้ผมต้องจิกมือลงกับกางเกงตัวเองกัดปากด้วยความรู้สึกเจ็บปวด

ไม่ได้!!ผมมาที่นี่เพื่อสิ่งเดียว!!

อา...ในที่สุดผมก็เจอมัน เอกสารการรับรองผลของผม มันวางอยู่บนโต๊ะด้านในสุด นั่นหมายถึงผมต้องเดินเข้าไป ใจผมไม่อยากเข้าไปเลย เพราะไม่รู้ว่าไอพิตต์มันจะหันมาเจอตอนไหน กลัวความผิดที่ลอบเข้ามาในห้องนอนของมันแต่เพื่อไหม เพื่อหลานชายที่กำลังจะเกิดมา ผมต้องทำ!!ผมตัดสินใจสาวเท้าเข้าไปยังจุดหมายที่มีกระดาษสีขาววางเอาไว้แค่อีกไม่กี่ก้าวเท่านั้น อีกไม่กี่ก้าว ผมก็จะสามารถไปถึงมัน อีกไม่กี่ก้าวชีวิตของไหมก็จะมีความสุข อีกแค่ไม่กี่ก้าวแท้ๆ แต่มันกลับ.....

ปัง!!!  

“มึงเข้ามาทำอะไร”

เฮือก!!!

“พะ พิตต์” ผมสะดุ้งก่อนจะหันไปมองเจ้าของห้องที่ยืนกอดอกพิงประตูที่มันจงใจปิดจนเกิดเสียงดังและใช้สายตาคมกริบมองมาที่ผม

“มึงเข้ามา......ทำอะไรในห้องนอนกูครับ กร” จะตอบยังไงดีผมกลัวว่ามันจะเผาเอกสารนี้ทิ้ง เอาวะ ตายเป็นตาย ผมยอมทั้งนั้นเพราะคิดได้แบบนั้นผมจึงหันไปคว้าเอกสารมาถือเอาไว้ อย่างน้อย ถ้ามันอยู่ในมือผมมันก็ปลอดภัยกว่า และผมก็ไม่ต้องกลัวข้อต่อรองใดๆจากมันอีก

“กูต้องใช้......มึงต้องเข้าใจกูนะพิตต์” ผมกอดเอาไว้แน่นกลัวมันจะมาแย่งไปเหลือเกิน รู้ว่าไม่ควรมาหยิบไปเอง แต่ให้ผมรอมันเอามาให้คงเสียเวลาไปอีกมาก

“แล้วยังไง”

“หะ??” ผมมองหน้ามันด้วยความไม่เข้าใจสีหน้ามันไร้ซึ่งความโกรธ มีเพียงแค่รอยยิ้มที่ส่งมาให้ผม

“แล้วมึงจะทำไง.....มึงจะกอดเอกสารเอาไว้ แล้วหายตัวออกจากห้องกูได้เหรอ”ไอพิตต์ค่อยๆสาวเท้าเข้ามาหาผมอย่างช้า จนตัวผมเองเผลอถอยหนีอย่างไม่รู้ตัว

“มะ มึง...”

“มึงจะออกไปยังไงวะกร..”

    ตึง!!!

“อ๊ะ...”

“ถ้าถูกกูขังเอาไว้แบบนี้ ไม่ยอมให้มึงออกไปไหนมึงจะเอาเอกสารที่สำคัญนักหนาของมึงออกไปยังไง” ไอพิตต์ใช้แขนทั้งสองข้างกักตัวผมเอาไว้จนหลังชนผนังกลัวหรือเปล่าไม่รู้ แต่ตัวสั่นไปแล้วอย่าไม่มีสาเหตุ

“มึง....ทำแบบนั้นไม่ได้นะ มึงก็รู่ว่ามันสำคัญกับ...”

“กับไหม....”

“......” ผมพยักหน้าตอบหลบสายตาที่ฉายแววเจ็บปวดออกมาจากสายตาคู่นั้น

“หึ....กูเคยทำพลาดที่เลือกไม่พูดคำว่ารักตอนมีโอกาส”

“อะ ไอพิตต์”

“กูเคยพลาดที่ยอมปล่อยให้มึงไปแต่งงานกับไหม ทั้งๆที่กูควรเห็นแก่ตัวแล้วเก็บมึงเอาไว้กับตัว”

“อึก..”

“แต่เมื่อวันนี้ กูมีโอกาสนั้นอีกครั้ง กูจะไม่ยอมเสียมันไป”มันมองผมด้วยแววตาจริงจังจนผมแทบจะลืมหายใจ

“มึง......หมายความว่าไง” ผมเกือบจะหาเสียงตัวเองไม่เจอมึนงงกับคำบอกรักและทุกอย่างที่ออกมาจากใจมัน

“หมายความว่า......ต่อให้ใครจะเป็นจะตายยังไงกูก็ไม่ยอมให้มึงไปไหนอีกแล้ว”

“มึง อ๊ะ เดี๋ยว!!”

   ตุบ!!

  ร่างผมถูกมือใหญ่ของไอพิตต์เหวี่ยงไปอยู่บนเตียงกว้างจนทำเอาผมจุกลุกแทบไม่ขึ้นความอึ้งบวกกับอาการทางกายภาพมีผลต่อการเคลื่อนไหว นั่นทำให้ไอพิตต์มีโอกาสขึ้นคล่อมทับตัวผมไว้แทบจะทันทีผมพยายามจะดันตัวมันออก อยากจะถีบมันด้วยซ้ำไปแต่ติดที่มันทับผมอยู่ มีแค่มือสองข้างเท่านั้นที่ยังพอจะใช้งานได้

“พิตต์ ปล่อยกู อย่าทำแบบนี้” ไอพิตต์ลูบไล้แก้มของผมอย่างแผ่วเบา

“อย่าโกรธกูเลยนะ กูรักมึงมากนะกร กูรักมึงมาตลอด อย่าไปจากกูอีกเลยนะ”

ใจผมสั่นอย่างห้ามไม่อยู่ เพียงแค่ได้ยินน้ำเสียงทุ้มที่สั่นราวกับจะร้องไห้และแววตาที่อ้อนวอนขอร้องให้ผมตอบรับความรู้สึกที่มันมีให้มือของผมที่ดันอกแกร่งอยู่เกิดชะงัก สติเลื่อนลอยหายไปจนไม่รู้ตัวเลยว่าถูกอีกคนจับขึ้นมาแนบแก้มของมันก่อนที่จะเลื่อนมาจนถูกมันกดจูบใส่ฝ่ามืออย่างแผ่วเบา

“รักกูเถอะ รักกูได้ไหม ให้กูได้ดูแลมึงไปตลอดทั้งชีวิตเถอะกูอยากอยู่กับมึง”

จุ้บ จุ้บ

ผิวแก้มของผมร้อนผ่าวกับการกระทำที่มันแสดงออกมา ยิ่งฝ่ามือของผมสัมผัสกับริมฝีปากของมันมากขึ้นเท่าไหร่ยิ่งส่งผลให้หัวใจกระหน่ำเต้นจนแทบไม่เป็นจังหวะ ผมรู้ว่ามันไม่ได้พูดเล่น รู้ว่าผมคงหนีมันไม่ได้ไม่ใช่เพราะมันเลือกจะกักขังผมเอาไว้ แต่เป็นเพราะลึกๆแล้วในใจผมเองก็อาจจะรักมันมาโดยตลอดก็เป็นได้ เพราะว่าถ้าลองมาเรียบเรียงความรู้สึกที่ได้เจอมันอีกครั้งจนถึงตอนนี้หัวใจผมเองก็เต้นเพราะมันมาไม่รู้กี่ครั้ง มันบ่อยเกินกว่าที่จะดีใจหรือตื่นเต้นที่ได้เจอเพื่อนด้วยซ้ำไปถ้าผมไม่ได้เป็นโรคหัวใจ ก็คงเป็นโรคหลงรักคนตรงหน้านี้มากกว่า

“เป็นแฟนกับกูนะ.....กร” แววตาอ่อนโยนกับน้ำเสียงนุ่มๆพาผมให้เคลิบเคลิ้มไปราวกับติดอยู่ในฝันจนผมเผลอยิ้มออกมา

“มึงก็รู้ว่ากู.......เป็นอะไร กูไม่ตอบสนองกับใครแบบนี้มึงไม่อายเหรอพิตต์”

“กูต้องอายด้วยเหรอ......คนพวกนั้นอยากจะพูดอะไรก็ให้มันพูดไปสิกูเป็นหมอ ยังไงกูก็รักษามึงได้อยู่แล้ว”

ไอพิตต์ก้มหน้าลงมาหาผมจนหน้าผากของเราทั้งสองคนติดกันรับรู้ถึงลมหายใจของกันและกันมันยิ้มหวานราวกับว่าสิ่งที่ผมกังวลมันไม่เคยเก็บมาคิดเก็บมาใส่ใจ ความอ่อนหวานและความอ่อนโยนที่ถูกมันมอบให้เล่นเอาใจผมอ่อนยวบร่างกายแทบจะไม่เหลือเรี่ยวแรง ทำได้แค่แหงนหน้ารอรับริมฝีปากของคนตรงหน้าที่ค่อยๆเข้ามาใกล้รอคอยความหวานหยดย้อยจากจูบที่ตราตรึงใจ จากสัมผัสแผ่วเบาราวปัดผ่านก็ค่อยๆหนักหน่วงเพิ่มแรงปรารถนามากขึ้นจนเราทั้งคู่ปลดปล่อยเสียงครางออกมา

    ยิ่งได้ลิ้มรสก็ยิ่งกระหาย

จากความหวานล้ำก็กลายเป็นความร้อนแรงที่แผดเผาเราทั้งคู่ มือของไอพิตต์รวบแขนผมทั้งสองข้างไปโอบรอบคอของมันไว้ทั้งๆที่เราทั้งคู่ยังคงมัวเมาในรสจูบของกันและกัน ผมตอบรับลิ้นร้อนที่สอดเข้ามากวาดต้อนจนผมหัวอื้อตาลายหัวใจเต้นระรัวจนกลัวจะระเบิด อดเปรียบเทียบไม่ได้ว่าตอนผมจูบกับไหม ไม่เคยใจเต้นแรงขนาดนี้

เสื้อบนตัวถูกถอดออกตอนไหนไม่รู้....เพราะตอนนี้ผมเปลือยเปล่าเหลือเพียงแค่ชั้นในตัวน้อยที่ยังคงปกปิดตัวตนของผมเอาไว้พิตต์ค่อยๆลูบไล้ไปทั่วทั้งร่าง ใบหน้าซุกไซร้ไปตามแอ่งชีพจรอย่างช่ำชอง ยอดเล็กตรงอกถูกนิ้วมือของมันสะกิดเล่นจนผมเสียววาบ

“อ๊ะ อื้อ”

ยิ่งได้ยินเสียงครางไอพิตต์ยิ่งชอบใจ จากปลายนิ้วก็ถูกแทนที่ด้วยปลายลิ้นสากที่สัมผัสตุ่มไตอย่างหยอกล้อผมได้แต่หันหน้าไปอีกทางไม่กล้ามองภาพตรงหน้าที่มันช่างชวนให้เกิดอาการแปลกๆ ไอพิตต์ดูดดึงยอดเล็กจนสนุกปากทั้งเลียทั้งขบเม้นจนเกิดเสียงดังไปทั่วทั้งห้อง ความอายทำให้ผมยกมือขึ้นมาปิดใบหน้าเอาไว้อับอายกับการที่ต้องมาทำอะไรแบบนี้กับคนที้คยเรียกว่าเพื่อน แต่ความรู้สึกลึกๆมันกลับปฏิเสธไม่ได้ว่าพึงพอใจกับสัมผัสที่มันมอบให้ไม่น้อย

“อย่าปิด......ให้กูได้เห็นหน้ามึง ได้ฟังเสียงมึงเถอะ”

“อ๊ะ มึง....อื้ออ”

ผมถูกมันจับมือที่ปิดหน้าเอาไว้ออก สายตาสบเข้ากับสีหน้าเร้าอารมณ์ของมันจนหน้าแดงซ่านเสียงลมหายใจที่ดังออกมาจากปากมันยิ่งทำให้รู้ถึงความปราถนาที่พุ่งสูงจนไม่อาจจะหนุดได้ง่ายๆต้นขาผมสัมผัสถึงความตื่นตัวที่อยู่ใต้กางเกงบ๊อกเซอร์ตัวนั้น ยิ่งมันขยับตัวร่างของเรายิ่งเสียดสีกันร่างกายผมร้อนไปทั่วทุกจุดที่ริมฝีปากร้อนๆของไอพิตต์ลากผ่าน เสียวซ่านแต่ก็ทำได้เพียงบิดเร่ากายอยู่ใต้ร่างของมัน

“อ๊ะ อ๊า!”

ตัวตนของผมถูกปากร้อนครอบครองจนเผลอร้องครวญครางออกมาอย่างลืมอาย บิดกายไปมาทั้งที่มือของผมได้แต่จิกผมสีดำของมันจนแน่นยิ่งปากร้อนๆนั่นดูดจนลึกมากเท่าไหร่ มือของผมก็ยิ่งกดหัวของมันมากเท่านั้น ไม่อยากจะเชื่อว่าร่างกายผมจะตอบสนองต่อสัมผัสของมันขนาดนี้ สิ่งที่ไม่เคยแข็งตัวยามอยู่ต่อหน้าคนเป็นเมียอย่างไหมกลับตั้งตระหง่านอยู่ในปากร้อนๆของไอพิตต์อย่างง่ายดาย

อยากได้มากกว่านี้ อยากได้มากกว่านี้เหลือเกิน
เสียงเรียกร้องจากภายในจิตใจทำให้ผมลืมตัวยับยั้งชั่งใจไว้ไม่ได้เผลอตัวดึงมันขึ้นมาประกบจูบแลกลิ้นกันอย่างเร่าร้อนจนเรียก

เสียงครางจากไอพิตต์ได้อย่างดี ไอพิตต์ค่อยๆดึงกางเกงตัวเองออกมือมันเอื้อมไปหยิบบางอย่างใต้หมอน ก่อนจะส่งปลายนิ้วเข้ามายังช่องทางเล็กๆด้านหลังของผมไม่เคยรู้เลยว่ามันเตรียมพร้อมขนาดที่มีเจลหล่อลื่นอยู่ใต้หมอนแบบนี้

อึดอัด นั่นคือคสามคู้สึกแรกที่ปลายนิ้วถูกส่งเข้ามา มันทั้งแน่นทั้งจุกจนผมต้องรัดนิ้วของไอพิตต์จนแน่นมันเป็นไปตามธรรมชาติเมื่อมีสิ่งแปลกปลอมรุกล้ำเข้ามาภายในพื้นที่ต้องห้าม

“กร.....อย่าเกร็ง กูต้องเตรียมมึงให้พร้อม”

“มัน....อื้อ.....จุก”

ไอพิตต์ก้มลงดูดเลียตุ่มไตเล็กๆเพื่อให้ผมได้คลายตัวจากความเกร็งที่เป็นอยู่สัมผัสร้อนๆจากลิ้นสากเล่นเอาผมหลงลืมทุกอย่าง แอ่นอกรับลิ้นที่ไล่วนอยู่กับเม็ดบัวสีชมพูอ่อนของผมที่อบัดนี้ถูกดูดจนเป็นสีแดงช้ำช่องทางด้านหลังคลายตัวลงจนไอพิตต์เริ่มขยับนิ้วเข้าออกได้โดยง่าย ความอึดอัดจากคราแรกค่อยๆหายไปหลงเหลือเพียงแค่ความร้อนรุ่มจากปลายนิ้วเท่านั้น

“อะ อื้อ”

ปากถูกบดจูบจากปากหนา ช่องทางถูกรุกรานจากปลายนิ้ว อารมณ์ปราถนาถูกกระตุ้นจนผมรู้สึกราวกับลอยละล่องขึ้นไปจนสูงเสียดฟ้าไอพิตต์เริ่มสอดแทรกปลายนิ้วเข้ามาเพิ่งจนเป็นสอง ความอึดอัดจึงเพิ่มขึ้นจนรับรู้ได้แต่ก็ไม่เท่าความเสียวซ่านที่ผมได้รับมันจึงกลายเป็นแค่สิ่งเล็กๆที่อยู่นอกเหนือตวามสนใจยิ่งปลายนิ้วถูกดึงเข้าออกมากเท่าไหร่ สะโพกผมก็ขยับตอบรับตามอย่างไม่ยอมแพ้ก่อนที่มันจะดึงปลายนิ้วออกจนผมรู้สึกโหวงทางช่องรักที่ถูกเบิกให้อ้ากว้างกว่าปกติ

“ทำให้กูบ้างสิ”

“เดะ เดี๋ยว อู้!!”

ไม่ทันได้ปฏิเสธใดๆก็ถูกความใกญ่โตที่ยาวจนแทบจะทะลุลำคอยัดเข้ามาในปากกลิ่นคาวของเจ้าสิ่งนั้นมันทำให้ผมเวียนหัวแต่ความหวานปะแล่มที่แตะปลายลิ้นกลับทำให้ผมอยากลิ้มชิมรสผมขยับหัวมองดูสิ่งนั้นค่อยๆเข้าออกภายในปากอย่างช้าๆเนิบๆ ไม่เร่งเร้ามากมาย

“ซี๊ด อา กร....มึงเก่ง”

คำชมจากปากหนาที่คอยแหงนหน้าขึ้นร้องซี๊ดทำให้ผมหยามใจ พยานามกลืนความใหญ่โตเข้าไปจนเกือบถึงลำคอแล้วดึงออกใช้ปลายลิ้นเลียส่วนปลายที่เริ่มมีน้ำใสๆออกมาดูดชิมมันจนหมดแล้วครอบริมฝีปากลงไปจนสุดอีกครั้ง

“อื้อ อื้อ” ประท้วงเมื่อถูกอีกคนจับขาให้ขึ้นไปหันก้นให้มันจะเล่นท่านี้เลยเหรอ!!

สุดท้ายผมก็ถูกจัดท่าทางจนได้ตามที่มันต้องการ ผมอายจนแทบจะมุดหน้าลงไปกับขามันเพราะตอนนี้ทุกอย่างก็อยู่ในสายตามันหมด ทั้งตัวตนที่ตื่นตัวและจีบรักสีชมพูที่อ้าเปิดจากการถูกมันกระตุ้นเมื่อครู่ผมยังคงทำหน้าที่ดูดเลียแท่งไอติมหวานๆอย่างดี จนตอนนี้มันพองคับปากไปหมด

“อ๊า ไอพิตต์ อย่า!!!”

  แผล่บ จุ้บ

   ไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามันจะทำให้ผมขนาดนี้ ไอหมอบ้านั่นมันใช้ปลายลิ้นเสียที่ช่องเล็กๆของผมสอดปลายลิ้นเข้าออกราวกับมมันคือปลายนิ้วเมื่อก่อนหน้านี้ขาผมสั่น ตัวผมอ่อนไปหมดได้แต่ทิ้งหน้าและแผ่นอกลงกับหน้าท้องแกร่งของมัน เสียงหอบและเสียงครวญครางดังออกมาจากผมไม่ขาดปากยิ่งเมื่อมันใช้ปลายนิ้วเข้ามาสำรวจยิ่งร้อนวูบไปหมด ทำได้เพียงขมิบตอดรัดอย่างพอใจสติผมหายไปหมด ในหัวมันขาวโพลน แต่ความร้อนจากแท่งรักของไอพิตต์ที่อยู่ตรงหน้ามันล่อตาล่อใจจนผมต้องกลืนกินอีกครั้ง

   ยิ่งไอพิตต์ขยับปลายนิ้วเร็วมากเท่าไหร่ จังหวะการเข้าออกของแท่งรักในปากผมก็เร็วเท่านั้นจนผมได้ยินเสียงครางแผ่วในลำคอของไอพิตต์ที่บ่งบอกถึงความพอใจอย่างมาก ไอพิตต์ดันร่างผมให้นอนลงบนเตียงก่อนตัวมันจะทาบทับลงมาแขนทั้งสองข้างดันขาผมให้เปิดทางกว้างขึ้นจนเห็นปากทางสีสวย ไอพิตต์โน้มหน้ามากดจูบดูดดุนปลายลิ้นผมอย่างเมามันก่อนที่ช่องทางด้านหลังของผมจะถูกบางอย่างที่ใหญ่โตดันเข้ามาผมเบิกตากว้าง หวีดร้องด้วยความเจ็บปวด ร่างทั้งร่างของผมแทบจะแหลกสลาย ความเจ็บแล่นมาจุกอกจนร้ำตาใสๆไหลลงมา

"อื้อ!!!! อ่า!!! ฮึก ฮือ”

เพราะริมฝีปากยังถูดคนตัวโตดูดดึงประกบและสอดแทรกปลายลิ้น จึงไม่สามารถส่งเสียงออกมาได้อย่างใจนึกมีเพียงเสียงร้องประท้วงที่ดังอู้อี้เท่านั้น มือหนาของไอพิตต์จับแก่นกายที่ชูชันเอาไว้รูดรั้งมันเพื่อให้ผมได้รู้สึกดี ให้ได้ลืมความเจ็บปวดไปให้หมดสิ้น

  ผมดิ้นรนทั้งจิก ทั้งข่วนในตอนแรก แต่เพียงไม่นานก็ได้แต่จิกไหล่หนาของมันแทนเมื่อความเสียวซ่านจากมือหนาที่ชักนำอารมณ์หวาบหวามให้พัดมาอีกครั้งสะโพกขอไอพิตต์กดเข้ามาช้าๆ ผมทำเพียงนิ่วหน้าเนื่องจากความเจ็บแสบเท่านั้น มันเองคงพอจะเข้าใจจึงได้หยุดและขยับมือกับแก่นกายผมไปด้วยแทนจนในที่สุดมันก็ถูกสอดเข้ามาจนสุด มันใหญ่และคับไปหมด ผมทั้งจุกและอึดอัดจนเผลอขมิบรัดความใหญ่โตไป

“ซี๊ดด กร อย่ารัด อา”

“พิตต์ มัน อื้อ มันแน่นไป”

แต่ไอเพื่อนตัวดีกลับไม่เคยจะฟัง มันยังคงขยับตัวออกช้าๆแล้วดันเข้ามาจนสุดอีกครั้งเล่นเอาผมสะดุ้งเฮือกผมรู้สึกได้ถึงความปราถนาที่จะไปให้สุดทางของมัน เพราะสีหน้าเว้าวอนร้องขอจากมันทำให้ผมไม่อจจะปฏิเสธได้จึงได้แต่หันหน้าหนีไม่ตอบรับและไม่ปฏิเสธใดๆ ไอพิตต์ที่ราวกับจะเข้าใจก็ค่อยไขยับกายเข้าออกช้าๆพร้อมเสียงครางที่ดังลอดออกมาจากปากมันไม่หยุดหย่อน

“อา แน่น...ซี๊ด กร.....กรจ๋า”

  ผมกัดริมฝีปากแน่น ยิ่งมันเรียกชื่อผมด้วยเสียงกระเส่ายิ่งทำให้อารมณ์พุ่งขึ้นจนไม่อาจจะหยุดได้ผมหอบหายใจรอรับการกระแทกจากมันจนตัวโยน เตียงชนกับผนังจนดังลั่นกลับยังไม่ดังเท่าเสียงเนื้อที่กรัทบกันของเราสองคน

“อ๊ะ อ๊า”

  ผมถูกจับพลิกร่างให้หันหลังยกสะโพกขึ้นสูงทั้งที่ตัวตนของมันยังคงคาอยู่ในตัวผมความเสียดสีมันจุกและแสบไปหใดก็จริง แต่ท่านี้กลับทำให้ผมแทบดิ้นพล่านกับความเสียวซ่านภายในช่องทางรักความใหญ่โตกระแทกเข้ามาจนชนกับบางอย่างที่ทำให้ผมแทบจะหลั่งออกมาทันที

“กร ซี๊ด โอ้ว รัดแน่นๆเลย อา”

พับๆ พับๆๆ

“พิตต์ อ๊าๆ พิตต์”

พูดอะไรไม่ออกได้แต่เรียกชื่อมันอยู่ตลอดเวลา ผมขมิบช่องทางตอดรัดมันตามคำเรียกร้องจนมันร้องครางลั่นห้องพร้อมกระแทกเข้ามาอย่างแรงและเร็วจนผมต้องจิกหมอนเพื่อระบายความเสียวซ่านออกมา

“อื้ม ไม่ไหวแล้ว อ๊ะ อ๊า”

“ซี๊ด อย่าเพิ่ง อ๊า ไปพร้อมกู โอ้ว”

ไอพิตต์ดึงแขนผมขึ้นมาจนแผ่นหลังผมสัมผัสกับแผ่นอกของมัน แขนทั้งสองข้างกอดรัดตัวผมไว้ริมฝีปากบดจูบแลกลิ้นจนเสียงดัง พร้อมกับการขยับตัวระรัวและถี่ แก่นกายของผมถูกมือหนากอบกุมรูดรั้งเพื่อให้ผมปลดปล่อยอารมณ์ไอพิตต์ขยับกายเข้าออกสองสามครั้งก่อนที่ผมจะรับรู้ถึงความร่อนที่ถูกฉีดพุ่งเข้ามาในร่างกายและผมที่กระตุกเกร็งปลดปล่อยสายธารสีขาวขุ่นออกมาจนเปรอะเปื้อนที่นอน

“แฮ่กๆ อืม”

  เราสองคนล้มตัวลงนอนหอบหายใจด้วยความเหนื่อยล้า ไอพิตต์จับหน้าผมให้หันไปรับจูบหวานๆอีกครั้งผมรู้แล้วว่าทำไมผมถึงไม่ตอบสนองต่อคนที่ได้ชื่อว่าเป็นเมียที่ถูกต้องตามกฏหมาย มันเป็นเพราะตลอดมาผมไม่ได้รักไหมเลย ผมแค่หลอกตัวเองเท่านั้นเพื่อไม่ให้รู้สึกเกินเลยกับเพื่อนของผมคนนี้เพราะตลอดมาผมรักมันเกินกว่าเพื่อน รักแบบที่ผู้ชายคนหนึ่งจะรักใครได้ ผมไม่ได้ป่วยอะไรเลยด้วยซ้ำมันก็แค่อาการของคนที่ไม่อยากมีเซ็กส์หากไม่ใช่คนรัก ทำไมผมถึงมารู้ตัวเอาตอนนี้กันนะทำไมเรื่องของเราถึงไม่จบลงสวยงามก่อนหน้านี้ ก่อนที่ผมจะแต่งงาน เพราะผมไม่ยอมรับความรู้สึกเพราะไอพิตต์ที่ไม่กล้าพูด หรือเพราะเราสองคนไม่ยอมหันหน้ามาคุยกัน เพราะเราสองคนกลัวจะเสียกันและกันไปกันแน่แต่ไม่ว่าจะเพราะอะไร ผมไม่เสียใจเลยแม้แต่น้อย ที่วันนี้ได้มีมัน ได้ยอมรับความรู้สึกที่มีให้มันอย่างเปิดเผยผมไม่เคยรู้สึกโล่งขนาดนี้มาก่อนเลย

  ผมมองใบหน้าของมันด้วยรอยยิ้ม อดใช้มือลูบแก้มของมันเล่นไม่ได้คนที่ผมรักตอนนี้มาอยู่ตรงหน้าแล้ว เราสองคนต่างคนต่างก็ใจตรงกันต่างคนต่างก็รักกันมาตลอด นั่นยิ่งทำให้ผมยิ้มกว้าง ไอพิตต์จับมือที่ลูบแก้มของมันเอาไว้ก่อนจะเลื่อนมาจรดริมฝีปากลงไปทุกอย่างไม่มีอะไรที่เราต้องพูดกันอีก เพราะแค่เราสองคนได้นอนมองหน้ากัน ได้มองสบตากันมันก็บอกได้ทั้งหมดผมรักมัน และมันเองก็รักผม คนอื่นจะคิดอย่างไรไม่สำคัญ แค่เราสองคนไม่หวั่นไหว ไม่สนใจเสียงครหาต่างนาๆก็เพียงพอแล้ว

“กูรักมึง” ไอพิตต์ยิ้มทั้งที่ในแววตาคลอไปด้วยน้ำใสๆ

“กูดีใจ.....ที่มึงยอมพูดออกมา ดีใจที่กูได้มีมึงอีกครั้งในชีวิต”ปลายนิ้วของมันเกลี่ยแก้มของผม จนผมต่องจับเอาไว้แล้วสอดประสานปลายนิ้วแน่น

“กูจะไม่ไปไหน.....ถ้ามึงไม่ไล่กู” ไอพิตต์ส่ายหน้าช้าๆกดจูบลงบนไรผมของผมเบาๆ

“ไม่มีวันนั้น......กูไม่มีวันไล่มึงไปกร มันจะไม่มีวันนั้นแน่นอน”

รอยยิ้มของคนที่เรารักมักทำให้อุ่นใจเสมอ แต่ผมกลับใจสั่นกับคำพูดที่ออกมาจากปากมันน้ำเสียงจริงจังที่เอ่ยราวกับต้องการให้ผมมั่นใจจริงๆว่าสิ่งที่มันพูด จะเป็นไปตามนั้นไม่มีวันเปลี่ยนผมพร้อมจะเชื่อ พร้อมจะลองใช้ชีวิตไปพร้อมๆกับมัน พร้อมฝ่าฟันปัญหาต่างๆไปพร้อมกันตลอดเวลาที่ไม่มีมัน อาจจะไม่ได้ทุกข์จนทรมาน แต่ก็ไม่เคยสุขจนล้นใจเหมือนในตอนนี้รอยยิ้มของมันเป็นสิ่งที่ปลอบประโลมผมเสมอมา แววตาที่คอยมองผมเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงความมีตัวตนของผมเสมอน้ำเสียงที่คอยเรียกชื่อผม เป็นสิ่งที่คอยบอกกับผมว่ายังคงมีมันอยู่ข้างๆไม่ไปไหน ชีวิตผม......ไม่ต้องการอะไรอีกแล้วแค่มีมันคนเดียว........ก็พอ
      





“พิตต์!! ไอพิตต์ตื่น!!!” ผมเรียกมันจนคอแทบจะแตกแต่คนที่นอนหลับสบายอยู่ยนเตียงกลับไม่ยอมลุก ไม่มีท่าทีว่าจะตื่นขึ้นมาเลย มันควรเป็นผมหรือเปล่าที่ต้องนอนซมแต่กลับเป็นผมอีกนั่นแหละที่ตื่นขึ้นมาก่อนมัน ต้องไปจัดการเอาน้ำรักที่มันปล่อยเอาไว้ในตัวออกใครจะไปเชื่อว่ามันจะเล่นผมจนบวมขนาดนี้ จะเดินจะเหินทีลำบากต้องฝืนขนาดไหน แต่ไอตัวต้นเหตุกลับนอนหลับสบายไม่สนใจโลกเลยสักนิด

“ไอพิตต์โว๊ย!!!!!!!! ตื่น!!!!!!!!!!”

“ครับๆ!!!!” มันเด้งตัวขึ้นแทบจะทันทีที่ผมตะเบงเสียงใส่หูมันมันมองผมงงๆก่อนจะขยี้หัวแรงๆเพื่อเรียกสติ หรือผมควรช่วยตบเพื่อเรียกสติมันด้วยดี??

“มึงจะนอนไปถึงไหนวะ นี่กี่โมงแล้ว” แหน่ะมีหน้ามายิ้ม

“ก็เมื่อคืนกูเพิ่งมีความสุขนี่หว่า.....ก็อยากจะหลับนานๆบ้าง”ผมหันไปมองหน้ามันนิ่งๆ เลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงถาม

“เหรอ.....อยากนอนนานๆเหรอ”

“ครับ...”

“งั้นกูกลับบ้านดีกว่า มึงจะได้นอนต่อ” พอผมทำท่าจะเดินออกจากห้องไอคนตัวโตที่ไม่ได้ใส่อะไรเลยก็ลุกพรวดมากอดผมเอาไว้แน่น หึหึ ไหนใครว่าอยากนอนนานๆ

“ไม่เอา กูไม่นอนแล้วก็ได้!!” ทีงี้ละมาเสียงอ่อนเสียงหวานผมได้แต่ส่ายหน้าอย่างระอา หันหน้าไปมองมันตรงๆ

“เชี้ย!!! ไอพิตต์ ไอหื่น!!!” เพิ่งผ่านมาเมื่อคืนนี้เองมายืนตรงเคารพธงชาติเพื่ออะไรวะ

“ก็ตัวเมียหอมนี่ครับ ของกูมันก็ต้องตั้งสิ”

   อะ อะ ไอ้!!! ผมไม่รู้ว่าจะด่ามันว่าอะไรดี

“พอเลย วันนี้กูต้องไปหาไหม” ไอพิตต์หน้าตึงมองผมด้วยความไม่พอใจ

“ไปทำไม!!”

“มึงลืมไปแล้วเหรอวะ ว่ากูต้องเอาใบรับรองไปให้ไหม” มันหรี่ตามองก่อนจะยักไหล่ราวกับไม่สนใจ

“เหรอ.....วันนี้กูไม่ว่างด้วยสิ”

“อ้าว มึงไม่ว่างเหรอ” มันพยักหน้าให้ผมราวกับไม่ใส่ใจ

“ใช่ ไม่ว่าง”

“อ๋อเหรอ....”

“....”

“งั้นไม่เป็นไร เดี๋ยวกูบอกไหมว่ามึงไม่ว่างรอมึงว่างค่อยไปหย่าก็ได้เนอะ”

หมับ!!

“เมียจ๋า กูว๊างว่าง ว่างแล้วล่ะ ไปๆ ไปวันนี้แหละเนอะ” หนอย....ทีอย่างนี้ล่ะว่างขึ้นมานะ มันน่านักนี่

“งั้นก็ไปอาบน้ำดิ กูนัดไหมไว้ตอน10โมง”

“คร๊าบบบบบ!!”

  ไอพิตต์แทบจะวิ่งเข้าห้องน้ำทันที พอเรื่องหย่าล่ะไวจริงๆ ผมล่ะอยากจะหัวเราะใส่มันเหลือเกินแต่สุดท้ายมันก็ใช้เวลาไม่นานในการอาบน้ำและแต่งตัว ดีหน่อยที่มันเอายาทั้งหล่ยแหล่มาให้ผมกินกันไว้ก่อนมันบอกว่าครั้งแรกผมอาจจะป่วยได้ ถึงแม้ตอนนี้จะยังไม่แสดงอาการก็ตามที ผมจึงยอมกินยาไม่อิดออดมากมายไม่อยากป่วยครับ ผมไม่ค่อยชอบ

ผมกับไหมตัดสินใจหย่ากันอย่างสันติ ไม่มีดราม่าใดๆทางครอบครัวฝ่ายชายเองก็มากับไหมด้วย พอเห็นเอกสารและเจอไอพิตต์ที่เป็นหมอยืนยันให้ทางนั้นเองก็ดูจะวางใจทุกอย่างมันเดินไปตามทางที่ควรจะเดิน เป็นไปตามทางที่ควรจะเป็น ผมเองก็อยู่กับไอพิตต์จนกว่าจะถึงวันที่มันไม่ต้องการผมแล้วและอย่างที่มันบอกแหละครับ
         
             หึหึ..........ไม่มีวันนั้นแน่นอน


The End

ดูบันทึกคะแนน
   pipi1 พลังน้ำใจ +18 Zenny +300

เจ้าพ่อมหาลัย

โพสต์
41927
พลังน้ำใจ
212953
Zenny
84037
ออนไลน์
15245 ชั่วโมง

เจ้าพ่อมหาลัย

โพสต์
34422
พลังน้ำใจ
158441
Zenny
289780
ออนไลน์
46333 ชั่วโมง
ขอบคุณ​มาก​นะ​ครับ​

มาเฟียคุมคณะ

โพสต์
16288
พลังน้ำใจ
94968
Zenny
80099
ออนไลน์
26025 ชั่วโมง
Happy ending ไปอีกหนึ่งคู่ครับ

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
5165
พลังน้ำใจ
41859
Zenny
15232
ออนไลน์
4830 ชั่วโมง
จบ แล้ว

มาเฟียคุมคณะ

โพสต์
16199
พลังน้ำใจ
59030
Zenny
68393
ออนไลน์
4689 ชั่วโมง

ขอบคุณ​ครับ.

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
7335
พลังน้ำใจ
39091
Zenny
2647
ออนไลน์
7615 ชั่วโมง

มาเฟียคุมคณะ

โพสต์
8110
พลังน้ำใจ
50596
Zenny
45944
ออนไลน์
6105 ชั่วโมง

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
3124
พลังน้ำใจ
31889
Zenny
2697
ออนไลน์
7212 ชั่วโมง
ขอบคุณครับ

ประธานนักศึกษา

โพสต์
19
พลังน้ำใจ
9215
Zenny
883
ออนไลน์
571 ชั่วโมง

เจ้าพ่อมหาลัย

โพสต์
27799
พลังน้ำใจ
153254
Zenny
156919
ออนไลน์
26422 ชั่วโมง
ขอบคุณ

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
550
พลังน้ำใจ
24093
Zenny
1569
ออนไลน์
10098 ชั่วโมง
ขอบคุณครับ

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
5409
พลังน้ำใจ
43976
Zenny
417
ออนไลน์
6217 ชั่วโมง

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
5332
พลังน้ำใจ
34282
Zenny
9616
ออนไลน์
3241 ชั่วโมง
ขอบคุณครับ

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
2366
พลังน้ำใจ
22697
Zenny
1388
ออนไลน์
1514 ชั่วโมง
ขอบคุณครับ

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
3302
พลังน้ำใจ
33150
Zenny
16054
ออนไลน์
2852 ชั่วโมง
มันโคตรดีมากจริงๆ ทุกๆตอนเลย ชอบมาก ชอบมากจริงๆ
อ่านกี่รอบก็ไม่เบื่อเลยครับ

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
3302
พลังน้ำใจ
33150
Zenny
16054
ออนไลน์
2852 ชั่วโมง
❤️❤️❤️❤️❤️❤️❤️❤️❤️❤️❤️❤️❤️❤️❤️❤️❤️❤️❤️❤️❤️❤️❤️❤️❤️❤️❤️❤️

มาเฟียคุมคณะ

โพสต์
19734
พลังน้ำใจ
68069
Zenny
65259
ออนไลน์
11574 ชั่วโมง
ขอบคุณครับ

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
5182
พลังน้ำใจ
44752
Zenny
28147
ออนไลน์
12493 ชั่วโมง
ชอบมากเลยครับ จะมีการบอกประวัติของคลินิกนี้ไหมครับ ว่าตั้งมาได้อย่างไร

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
966
พลังน้ำใจ
22780
Zenny
7762
ออนไลน์
22581 ชั่วโมง
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | สมัครเข้าเรียน

รายละเอียดเครดิต

A Touch of Friendship: สังคมจะน่าอยู่ เมื่อมีผู้ให้แบ่งปัน ฝากไวเป็นข้อคิดด้วยนะคะชาวจีโฟกายทุกท่าน
!!!!!โปรดหยุด!!!!! : พฤติกรรมการโพสมั่วๆ / โพสแต่อีโมโดยไม่มีข้อความประกอบการโพส / โพสลากอักษรยาว เช่น ครับบบบบบบบบ, ชอบบบบบบบบ, thxxxxxxxx, และอื่นๆที่ดูแล้วน่ารำคาญสายตา เพราะถ้าท่านไม่หยุดทีมงานจะหยุดท่านเอง
ขอความร่วมมือสมาชิกทุกท่านโปรดโพสตอบอย่างอื่นนอกเหนือจากคำว่า ขอบคุณ, thanks, thank you, หรืออื่นๆที่สื่อความหมายว่าขอบคุณเพียงอย่างเดียวด้วยนะคะ เพื่อสื่อถึงความจริงใจในการโพสตอบกระทู้ และไม่ดูเป็นโพสขยะ
กระทู้ไหนที่ไม่ใช่กระทู้ในลักษณะที่ต้องโพสตอบโดยใช้คำว่าขอบคุณ เช่นกระทู้โพล, กระทู้ถามความเห็น, หรืออื่นๆที่ทีมงานอ่านแล้วเข้าข่ายว่า โพสขอบคุณไร้สาระ ทีมงานขอดำเนินการตัดคะแนน และ/หรือให้ใบเตือนสมาชิกที่โพสขอบคุณทันทีที่เจอนะคะ

รูปแบบข้อความล้วน|โทรศัพท์มือถือ|ติดต่อลงโฆษณา|จีโฟกายดอทคอม


ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บจีโฟกายดอทคอมนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ หากท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศิลธรรม ไม่เหมาะสมที่จะเผยแพร่ ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link “แจ้งลบโพสนี้” ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือ ลืมพาสเวิดล๊อกอิน/ลืมชื่อที่ใช้สมัคร หรือข้อสงสัยใดๆแจ้งมาที่ G4GuysTeam[at]yahoo.com ขอขอบพระคุณที่ให้ความร่วมมือ

กรณีที่ข้อความ/รูปภาพในกระทู้นี้จัดสร้างโดยผู้ลงข้อมูลเอง ลิขสิทธิ์จะเป็นของผู้ลงข้อมูลโดยตรง หากจะทำการคัดลอก/เผยแพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ลงข้อมูลก่อนนะคะ หรือลงที่มาไว้ด้วยค่ะ

©ขอสงวนสิทธิ์คอนเซ็ปต์,คำอธิบาย,หัวข้อ/หมวดหมู่เว็บ ห้ามลอกเลียนแบบ คิดเอาเองนะคะอย่าเอาแต่ลอก

GMT+7, 2024-4-25 20:17 , Processed in 0.159199 second(s), 28 queries .

Powered by Discuz! X3.1 R20140301, Rev.31

© 2001-2013 Comsenz Inc.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้