ครอบครัวน้องดรีมมารับผมประมาณ 9 โมงเช้า จากนั้นจึงเดินทางไปที่สนามบินต่อ เพื่อตรงไปยังเกาะช้าง และเพราะไม่รู้ว่าต้องเดินทางด้วยเครื่องบิน ทำให้ของๆผมโดนทิ้งซะเยอะเลย คุณแม่น้องดรีมเองก็ลืมบอกผม ดังนั้นจึงได้ขอโทษขอโพยกันยกใหญ่
ดีนะที่พวกเราเดินทางมาถึงก่อนเวลามาก ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องจะขึ้นเครื่องไม่ทัน ครอบครัวน้องดรีมเลี้ยงลูกตามสไตล์คนจีน(ในความคิดผมนะ) คือ อะไรที่ประหยัดได้ก็ทำ แต่ถ้าเรื่องกินจะ ไม่เกี่ยงว่าต้องเสียเงินเท่าไหร่ ขอแค่ลูกได้กินอิ่มและกินอร่อยก็พอแล้ว
ผมรู้สึกเฉยๆ เพราะบ้านผมก็เป็นแนวๆนั้น การจะซื้อของเล่นขอแต่ละที เลือดตาแทบกระเด็น แต่ของกินนี้ แค่เอ๋ยเงินก็ปลิวแต่ก็ไม่ได้ กินทิ้งกินคว้างนะครับ อย่าเข้าใจผิด ผมเดินทางไปถึงเกาะช้างประมาณช่วงบ่ายๆ เพราะต้องนั่งเรือไปยังเกาะ
จากนั้นเราก็เข้าที่พักกันเลย มันเป็นโรงแรมหรือรีสอร์ทแห่งหนึ่ง (ถ้าถามว่ากี่ดาวตอบไม่ได้ครับ สำหรับผมมันก็โรงแรมทั่วไปนั้นแหละ)
" ข้อความต่อไป นี้จะเป็นการอธิบาย เกี่ยวกับสถานที่ห้องพัก ใครไม่สนใจข้ามไปเลยได้เลยครับ ผมจะเปลี่ยนสีตัวหนังสือให้ "
ห้องผมเป็นห้องที่อยู่สุดทางเดินพอดี และอยู่ชั้นแรก เมือเราเปิดประตูเข้ามา ด้านซ้ายจะเป็นตู้เสื้อผ้า ส่วนด้านขวาจะเป็นห้องน้ำ ภายในตู้เสื้อผ้าจะมีชุดคุม ไม้แขวน ถุงผ้าส่งซัก แก้วน้ำ ตู้เซฟ ไฟฉาย ตู้เย็นเล็ก กาน้ำ แก้วน้ำ กาแฟ และอื่นๆ
(แต่ละอย่างอยู่คนละตู้นะครับ ไม่ได้อยู่รวมกันทั้งหมด) ส่วนห้องน้ำ จะมีโซนแยกระหว่าง อาบน้ำกับชักโคก โซนอาบน้ำ สามารถนอนได้ 1คน ส่วนอีกโซนสามารถนอนได้ประมาณ 3 คน ซึ่งกว่ามากๆ เมื่ออกจากห้องน้ำมาเราจะเจอกับ โต๊ะแป้ง ข้างๆกันมีโทรศัพท์อยู่ ตรงข้ามจะเป็นเตียงคู่ 3 ฟุต 2 เตียง และอื่นๆที่โรงแรมทั่วไปมี
เมื่อเราเดินออกไปทางด้านหลังของห้อง จะเป็นประตูสามารถเปิดออกไปได้ เพราะด้านหลังจะเป็นสระว่ายน้ำที่ย้ายออกจาก สระส่วนกลาง ง่ายๆคือมีเพียงห้องบริเวณนี้เท่านั้นที่จะใช่งานได้ สระลึกประมาณ 1.5 เมตร ยาวประมาณ 50 เมตร(หรือป่าว) เอาเป็นว่าคนปกติว่ายไปกลับ เหนื่อย
" เรากลับมาเข้าเรื่องกันต่อ "
เมื่อผมมาถึงพัก น้าพร ก็ไปจัดการเรื่องห้องพัก ไม่นานก็เอากุญแจมาให้ผม ส่วนน้องดรีมกับกำลังเดินไปทั่วเพื่อดูสิ่งต่างๆที่น่าสนใจ
น้าพร : นอนกับดรีมได้ไหม ไม่ต้องห่วงนะมันเป็นเตียงแยก (ถ้าไม่ได้จะเปิดห้องให้ไหมหรอครับ 55)
หลังจากนั้นเราก็เดินไปยังห้องพัก หลังจากเข้ามาในห้อง ผมก็เริ่มจัดของและดูของว่า ต้องซื้ออันไหน เพิ่ม ส่วนน้องดรีมก็วิ่งไปดูสระว่ายน้ำ แล้วอยู่ๆ ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น ผมเดินไปเปิดประตู ก็เจอกับน้าพร
ผม : ครับ มีอะไรหรือป่าวครับ (น้าพรส่งเงินกับ โบรชัวร์ท้องเที่ยวในเกาะช้างให้ผม)
น้าพร : อันนี้เป็นเงินกับที่ใฃ้เที่ยวกับดูแลเวลาดรีมจะกินอะไร ลองดูเอานะว่าจะพาดรีมไปเที่ยวที่ไหน และถ้าเงินไม่พอยังไงก็บอกได้นะ (ผมรับเงินกับโบรชัวร์มา)
ผม : แล้วพวกน้าไปกันกี่โมงหรอครับ
น้าพร : หน้าจะออกจากที่นี้ประมาณ 6-7 โมงเช้าและกลับมาเย็นๆ น่าจะทันอาหารเย็น
ผม : แล้วถ้าดรีมถามละครับ
น้าพร : บอกว่าน้าไปเที่ยวกับพ่อก็ได้
ผม : ได้ครับ เดียวผมดูแลดรีมให้
น้าพร : มีเบอร์น้าแล้วใช่ไหม
ผม : ครับ มีแล้ว แม่ให้มาแล้วครับ
น้าพร : งั้นน้าฝากดรีมด้วยนะ
ผมปิดประตูและเดินกลับมาทีเดิม แล้วหางตาผมก็เห็นใครบ้างคนอยู่ จึงหันไปมอง
ผม : ดรีมทำอะไร (น้องดรีมกำลังค้นกระเป๋าตัวเองอยู่ และอยู่ในสภาพโป๊ หันหลังให้ผม และโชว์ก้นขาวๆให้ดู)
ดรีม : เปลี่ยนชุดไง ผมจะไปเล่นน้ำ (ผมละสายตาจากน้องและเดินไปที่เตียงตัวเอง)
ดรีม : พี่มาช่วยผมหาหน่อยสิ
ผม : ก็ใส่กางเกงในเล่นสิ ไม่มีใครว่าหรอก
ผม : แล้วที่แก้ผ้าอยู่ตรงนี้ไม่อายหรือยังไง
ดรีม : ไม่อาย พี่เคยเห็นแล้ว จะอายทำไม
ผม : งั้นก็หาเอง (ผมนั่งมองน้องดรีมที่ยื่นขึ้น และเทกระเป๋าและหยิบเสื้อผ้าออกมาดูทีละชิ้น เผยให้เห็นเจี๊ยวขาวๆที่หดอยู่ ผมนั่งมองอยากเพลิดเพลินจนได้ยินเสียงน้องดรีมเรียก)
ดรีม : พี่ เมื่อกี้แม่มาทำไมหรอ
ผม : มาบอกว่า ข้าวเย็น ตอน 6 โมง ให้พาดรีมไปด้วย (สุดท้ายน้องดรีมก็หาไม่เจอ และหยิบกางเกงในสีน้ำเงินทีพึ่งถอดใบใส่กลับ และจะเดินออกไปเล่นน้ำ)
ดรีม : หาไม่เจอ ไม่หาแล้ว
ผม : เดียวรอก่อน (ผมเดินไปที่กองเสื้อผ้าน้องดรีมแล้ว หยิบกางเกงกีฬาแบบมีเชือกรัดออกมา)
ผม : มานี้มา (น้องดรีมเดินมาหาผม)
ผม : ใส่กางเกงตัวนี้แทนดีกว่า (น้องดรีมพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง ผมนึกสนุกแกล้งแหย่น้องดรีมเล่นต่อ) ไม่ต้องใส่กางเกงในหรอก (ตอนแรกนึกว่าน้องดรีมจะบ่น แต่ไม่ใช่ น้องดรีมถอดกางเกงในออกอย่างรวดเร็ว)
ผมไม่รู้จะพูดยังไงต่อเลย เลยสวมกางเกงให้น้องดรีมและผูกเชือกให้ แน่นพอจะไม่หลุด ผมทดสอบถึงลง 2-3 ทีเบาๆเพื่อทดสอบ หลังจากน้องดรีมเห็นว่าเสร็จแล้ว ก็วิ่งไปเล่นน้ำอย่างสบายใจ ผมเก็บเงินที่ได้มาใส่กระเป๋าและเดินตามน้องดรีมออกไป น้องดรีมเล่นน้องอย่างสนุก น้าพรเองก็เดินออกมาดูด้วย อันที่จริง เราสามารถเดินข้ามไปห้องข้างๆได้ผ่านจากทางข้างหลัง เมื่อน้าพรเห็นว่า ผมดูน้องดรีมอยู่แล้วจึงกลับเข้าไปในห้องของตัวเอง ส่วนน้องดรีมก็พยายามหาวิธีให้ผมไปเล่นน้ำด้วย แต่ด้วยใกล้ถึงเวลากินข้าวแล้ว ผมขี้เกียจอาบน้ำเลยไม่ได้ลงไปเล่นน้ำกับน้องดรีม เวลาผ่านไปซักพักใหญ่ ผมเดินกลับมาในห้องหยิบผ้าเช็ดตัวจากในห้องน้ำออกมา และเดินกลับไปเพื่อรับน้องดรีม จังหวะที่น้องดรีมขึ้นจากน้ำ ก็มีภาพกีฬามันๆผ่านเข้ามา
เด็กผู้ชายวัย 10 ขวบ ร่างกายสมส่วน ถึงแม้ไม่มีซิกแพ็ค แต่ก็ไม่มีส่วนใดที่ดูมีไขมันส่วนเกิน เนื้อผิวที่ไปเปียกไปด้วยน้ำจากสระน้ำที่กำลังไหลผ่านลงตามแรงโน้มถ่วง กางเกงกีฬาสีน้ำเงินแนบกับผิวเนื้ออยากเลี่ยงไม่ได้ เผยให้เห็นสรีระร่างกายของร่างกายอย่างชัดเจน รูปทรงของเจี๊ยวของจู๋ โค้งนูนออกมาอย่างชัดเจน ถึงแม้จะไม่ได้แข็งตั้งตรงอย่างใดแต่ก็ยังคงเด่นสะดุดตาได้ ขนาดประมาณเหรียญหนึ่งบาท ความยาวแม็กเย็บกระดาษเบอร์ 10 เด็กผู้ชายวัย 10 ขวบไม่ได้สนใจกับถูกจองมองเท่าไหร่ เขายังไงยืนโชว์ผิวขาวใบหน้าตี๋ๆ และใช่มือปัดผมให้ตั้งคือ เพื่อให้ดูเท่ๆตามแบบเด็กผู้ชาย
(ถ้าใคร จิตการณ์ไม่ออก ลองไปหารูปน้องธิเบต ดูนะครับ ดูรูปที่น้องไปเล่นน้ำที่ส่วนน้ำ ตอนกำลังล้างตัว เปลี่ยนกางเกงของน้องเป็นกางเกงฟุตบอลสีน้ำเงิน ถอดกางเกงในออก และตัดผมให้สั่นลงประมาณทรงนักเรียนที่ตัดมาแล้ว 2-3 สัปดาห์แบบเริ่มยาวประมาณ หนึ่งแล้ว) เมื่อผมเห็นว่าน้องดรีมขึ้นมาจากน้ำแล้ว ผมจึงเดินเข้าไปน้องดรีมแล้วส่งผ้าเช็ดตัวให้ น้องดรีมรับผ้าเช็ดตัวและเช็ดตัวเองทันที
ผม : ถอดกางเกงออกเลย พี่อยากเห็นจู๋ดรีม
ดรีม : ไม่!! พี่พูดอะไร (น้องดรีมทำท่าทางหวาดระแวง)
ผม : พูดเล่น แต่ที่ให้ถอดนั้นจริงนะ (น้องดรีมจองหน้าอย่างกลัวๆ)
ผม : ไม่ต้องมองพี่ด้วยสายตาแบบนั้นเลย ที่ให้ถอดเพราะ จะได้ผึ่งข้างนอกเลย พรุ่งนี้เล่นก็ใส่ตัวเดิม อีกอย่างจะได้ไม่ต้องเปียกในห้องด้วย (น้องดรีมพยักหน้าด้วยความเข้าใจ และเริ่มพันตัวด้วยผ้าเช็ดตัว แต่ก็ยังไม่กล้าถอดกางเกงออก)
ผม : (ผมจึงเดินกลับเข้าห้อง) ผึ่งเสร็จแล้วก็ไปอาบน้ำเลยนะ เดียวจะได้ไปกินข้าวกัน (แล้วผมก็เดินเข้าไปในห้อง เพื่อเปิดโทรทัศน์ดู) น้องดรีมจัดการตัวเองไม่นานก็เดินเข้ามาในห้อง น้องดรีมมองหน้าผมอย่างกลัวๆ ก่อนเดินเร็วไปที่ห้องน้ำ
ผม : อะไร ถ้าจะกลัวพี่ขนาดนั้น คืนนี้ก็ไปนอนห้องแม่ดรีมเลยนะ
ผม : หึ เชื่อได้ซักเท่าไหร่เชี่ยว
ผม : งั้นก็.......(ผมลากเสียงยาวและเบ็นสายตาจากมองหน้าลงต่ำก่อนจะกลับมามองหน้าน้องดรีมอีกครั้ง ครั้นที่น้องดรีมสบตากับผมก็หลบสายตาทันที) ..... ไปอาบน้ำมันสิ จะได้ไปดินข้าว (น้องดรีมมองหน้าผมอีกครั้งก่อนจะวิ่งเข้าไปห้องน้ำไป)
ผมลุกขึ้นจากเตียงและจะออกไปดู กางเกงน้องดรีมว่า ผึ่งเป็นยังไง โดนแสงไหม ก็มีเสียงตะโกนมาจากห้องน้ำ
ดรีม : พี่ ผมลืมเอาพวกสบู่ที่ห้องแม่มา
ผม : ก็ใช่ของที่อยู่ในนั้นแหละ แม่ดรีมเป็นคนเอามาให้
หลังจากผ่านไปประมาณ 7-10 นาทีน้องดรีมก็จากห้องน้ำมา ผมจึงลุกขึ้นและเตรียมตัวทันที
ดรีม : พี่จะรีบไปไหน รอผมแต่งตัวก่อนสิ
ผม : ไม่เอาเดียวโดนใครใช่สายตา รังเกียจหรือหวาดกลัวอีก
ดรีม : ไม่....(น้องดรีมโดนคำพูดผมเข้าไป ทำได้เพียงยื่นนิ่ง และไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้ต่อ)
ผมออกจากห้องมาพร้อมกุญแจ เพราะกลัวว่าน้องดรีมลืมเรื่องนี้ (ส่วนเรื่องไฟในห้อง หลังจากถอดคีย์การ์ดออกก็ยังสามารถใช่งานได้ประมาณ 3-5 นาทีดังนั้นน่าจะเพียงพอที่น้องดรีมแต่งตัว เหตุผลที่ว่า พอเพราะ น้องดรีมคงจะต้องรีบ
แต่งตัวเพราะตัวเองกำลังโดนทิ้งแล้ว และมันก็เป็นอย่างนั้นจริง น้องดรีมใช่เวลาแต่งตัวไม่นาน ก็เปิดประตูออกมา ผมซึ่งนั่งอยู่ที่เก้าอี้หน้าห้อง หันไปมองน้องดรีมในชุดนอนสีฟ้าลายตั้ง (==") อาจะเป็นเพราะติดนิสัยที่เวลาอาบน้ำแล้วก็ต้องเข้านอน แถมยังรีบอีก เลยอาจจะลืมไปว่า ตัวเองไม่ได้อยู่บ้าน แถมผมยังเปียกน้ำอยู่หน่อยๆอีก
ผม : ทำไมใส่ชุดนี้ละ จะนอนแล้วหรอ
ดรีม : ไม่!! ก็เพราะพี่นั้นแหละ
ผม : พี่ทิ้งที่ไหนก็รออยู่ตรงนี้ไง แต่บอกว่า ไม่อยากโดนสายตาบางอย่างเฉยๆเลยออกมา (น้องดรีมกำลังจะพูดต่อ แต่มีเอามือปิดปากน้องดรีมไว้)
ผม : พอ เดียวจะทะเลาะกันป่าวๆ ไปปะเปลี่ยนชุด จะได้ไปกินข้าว (ผมส่งกุญแจให้น้องดรีม)
ดรีม : (น้องดรีมไม่รับกุญแจจากผม) ไม่!! พี่ต้องเขามาด้วย ผมไม่ไว้ใจพี่
ผม : เรื่องเยอะ จริงๆ (น้องดรีมส่งสายตาแบบโกรธๆ) ได้ๆ เข้าไปด้วยก็ได้
ทันทีที่ผมเปิดประตู น้องดรีมก็เดินเข้าไปทันที แต่ห้องมันมืดเลยหยุดรอผม ผมเสียบคีย์การ์ดเพื่อเปิดไฟ น้องเดรีมเลยสามารถเดินไปที่เตียงของตัวเองได้ ผมแวะเข้าห้องน้ำซะก่อน เผื่อว่าออกมาจะเสร็จเรียบร้อบแล้ว
หลังจากเข้าห้องน้ำเสร็จผมก็โผล่หัวออกไปดูน้องดรีมว่า เสร็จหรอยัง น้องดรีมกำลังก้มตัวลงเพื่อใส่กางเกง ตัวใหม่ ส่วนเสื้อใส่เรียบร้อยแล้ว แต่ว่า น้องไม่ได้ใส่กางเกงใน
ผม : ไม่ใส่กางเกงในหรือไง (น้องดรีมหันมามองผม แต่ไม่ได้ทันทั้งตัวนะครับ)
ผม : เอาจะรู้ไหม ว่าทุกทีดรีมใส่ไหมกางเกงในไหม
ดรีม : ก็ทุกทีอาบน้ำเสร็จ แล้วก็เข้านอนไง
ผม : งั้นก็ไม่ต้องไม่ใส่ก็ได้ (พยักหน้าและสวมกางเกง จากนั้นผมจึงพูดต่อ) แต่ถ้าเป็นพี่ พี่จะใส่นะ เผื่อมีใครแกล้งดึงกางเกง อย่างน้อยก็มีกางกางในอยู่
ดรีม : คนที่จะแกล้งผมก็มีแค่พี่นั้นแหละ (จากนั้นน้องดรีมก็ถอดกางเกงออก แล้วสวมกางเกงในก่อนแล้วใส่กางเกงเหมือนเดิม แถมยังหันหน้ามาหาผม ก่อนเดินมาใกล้ๆผมแล้วมัดเชือกกางเกงต่อหน้าผม)
ผม : หึ มัดแค่นั้น นึกว่าจะอยู่หรอ (น้องดรีมถอยหางจากผม)
ผม : มานี้ เดียวสอนมัดแบบง่ายๆแต่แน่ เอาผ้าเช็ดตัวมาด้วย
น้องดรีมทำตามอย่างว่าง่าย ผมให้น้องดรีมหันหลัง และผมก็ดึงตัวน้องดรีมเข้ามา เหมือนโอยกอดจากด้านหลัง จากนั้นกลิ่นตัว+กลิ่นสบู่ที่หอม ทำให้ของๆผมอยู่ๆมันก็ตื่นขึ้น ผมจึงรีบขยับตัวถอยเพื่อไม่ให้มันโดนหลังน้องดรีม
ผมถกเสื้อน้องดรีมขึ้นเล็กน้อย เผยให้เห็นสะดือของน้องดรีม ผมขยับหน้าเข้าไปใกล้ๆน้องดรีม เรียกว่าแนบเลยก็ได้ จากนั้นจึงสอนให้วิธีผูกเชือกให้น้องดรีม (ที่จริงมันก็คือวิธีผูกเชื่อรองเท้านั้นแหละครับ เพราะมันแน่ และแกะง่าย)
ทุกอย่างในตอนนั้นมันดีไหมหมด การที่ได้กลิ่นจากตัวน้องดรีม กอดน้องดรีมอยากใกล้ชิด แถมยังได้เห็นพุงน้อยๆ+ขอบกางเกงในสีส้มอีกด้วย แต่อารมณ์ผมมันก็หยุดลง เพราะผมที่เปียกของน้องดรีม ผมผูกเชือกให้น้องเสร็จ ก็ดึงมันออก เพื่อให้น้องทำเอง)
ดรีม : เอ้า แล้วพี่จะดึงออกทำไม (น้องดรีมหันมองผมอย่างไม่พอใจ)
ผม : ก็จะได้ ทำเอง จะให้พี่มัดให้ตลอดเลยหรอ วิธีนี้เอาไปมัดเชือกรองเท้าก็ได้ เวลาวิ่งตามใครจะได้ไม่หลุดอีก
น้องดรีมไม่ได้ว่าอะไรต่อ ได้ยืนมัดเชือกกางเกงอยู่ หมุนตัวน้องดรีมให้หันหลังให้ จากนั้นจึง หยิบผ้าเช็ดตัวมาเช็ดผมน้องดรีม เช็ดผมยังไม่ทันแห้ง ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น ผมโผล่หน้าออกไปมอง น้าพรมา
น้าพร : ทั้งสองคน ไปกินข้าวได้แล้ว
ดรีม : ครับ (น้องดรีมผูกเชือกได้แล้ว จึงเดินออกไปหาน้าพร ส่วนผมก็ตรวจเช็คสิ่งต่างๆอีกครั้ง ก่อนจะเดินตามไป)
บรรยากาศภายในห้องอาหารก็เหมือนที่ทั่วไปของอาหาร บุฟเฟ่ต์ กลุ่มของเรามาเช้าหน่อยทำให้ แขกคนอื่นๆยังมาไม่ถึงจึงไม่ต้องกังวลเรื่องที่นั่ง และเพื่อไม่ให้แตกแยกผมจึงต้องไปนั่งรวมกับครอบครัวน้องดรีม ผมจะกินเยอะก็ไม่ได้
เพราะ พ่อแม่น้องดรีมไปกันคนละ 1-2 รอบเอง ทำให้ผมรู้สึกไม่ค่อยอิ่ม ส่วนน้องดรีมนะหรอ เดินบ่อยมากๆ กินแทบทุกอย่างกินอย่างละ 1-2 ชิ้น ก่อนกลับผมได้เดินไปโซนขนมปังและหยิบออกมา เพราะกลัวว่ากลางดึกจะหิวได้ เมื่อไปถึงห้อง
น้องดรีมก็ขึ้นไปนอนดูทีวีที่เตียงผมซึ่งมันอยู่ใกล้กว่าเตียงน้องดรีม
ผม : ดรีมไม่เก็บของหรอ แล้วจะนอนยังไง
ดรีม : เดียวจะนอนค่อยเก็บก็ได้
ผม : แล้วทำไมไม่นอนดูที่เตียงตัวเอง
ดรีม : ก็ของยังไม่ได้เก็บเลย นอนเตียงพี่แปบเดียวเอง พี่จะนอนแล้วหรอ
ผม : ใช่ พี่จะนอนแล้ว (ตอนแรกผมนึกว่าน้องดรีมจะลุกขึ้นให้ กลับเตียงตัวเอง แต่ไม่ใช่ น้องดรีมขยับตัวแบ่งพื้นที่ให้ผม)
ดรีม : อ่ะ แค่นี้ก็นอนได้แล้ว ผมขยับให้แล้ว (--")
ผมจึงจำยอมต้องนอน อันที่จริงก็ยังไม่ง่วงหรอก ที่ผมพูดแบบนั้นไป เพราะอยากให้น้องดรีมเก็บของให้เรียบร้อยก่อน (ก่อนผมจะไปเก็บให้แทน 55) ผมหลับตาลงกะว่าจะพักสายตาซะหน่อย แต่ก็เผื่อหลับไปจริงๆ ด้วยความเหนื่อยจากการเดินทาง ผมสะดุ้งตื่นขึ้นอีกทีตอนเวลา 4 ทุ่มกว่า น้องดรีมเองก็ยังนอนอยู่ข้างผม น้องดรีมนอนในท่างอตัวหันหน้าเข้าหาผม ผมกันไปมองบนเตียงของน้องดรีม
ทุกอย่างยังอยู่ในสภาพเดิมเหมือนก่อนนอน สงสัยน้องดรีมเองคงเหนื่อยจนเผลอหลับไปเหมือนกัน เพราะทั้งไฟ และ โทรทัศน์ ในห้องยังถูกเปิดอยู่ไม่ได้มีการลดเสียงแต่อย่างใด ผมหยิบรีโมทขึ้นมาปิดโทรทัศน์ จากนั้นก็หรี่ไฟในห้องลง ผมลุกออกจากเตียง และจัดท่านอนให้น้องดรีม นอนได้สบายมากขึ้น ก่อนจะห่มผ้าให้น้องดรีม จากนั้นผมจึงเดินออกไปข้างนอกสระน้ำเพื่อดูดาว ผมเตรียมตัวพร้อมสำหรับการดูดาวอยู่แล้ว (ไม่ได้หมายถึงกล้องนะครับ แต่เป็น ยากันยุง)
ผมนอนกับพื้น มองท้องฟ้า พร้อมกับใส่หูฟัง ฟังเพลงไปด้วย บรรยากาศเงียบๆ อากาศเย็นสบาย ไม่มีสิ่งใด มารบกวน ผมหลับตาลงปล่อยให้ ร่างกายและจิตใจได้พักผ่อน เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ ก็คงซักพัก เพราะผมฟังได้ 5-6 เพลง
ก็มีลมเย็นพักเข้ามาที่ศีรษะผม ไม่ได้ใส่ใจกับมามากนักเพราะ อากาศข้างนอกมันเย็นสบายอยู่แล้ว จนรู้สึกว่ามีใครบางคนอยู่ข้างๆผม ผมจึงลืมตาขึ้น
ผม : อ้าว ดรีม ออกมาทำอะไร ไม่ไปนอนละ
ดรีม : ผมตื่นมาก็ไม่เจอพี่อยู่ในห้องเลยลองออกมาดู
ดรีม : พี่มาทำอะไรตรงนี้ ไม่ไปนอนข้างในห้อง หรือเพราะผมแย้งที่นอนพี่หรอ
ผม : ป่าว พี่แค่ออกมาดูดาว (น้องดรีมเงยหน้ามองท้องฟ้ามองดาวตามคำพูดผม แล้วน้องดรีมก็นอนลง)
ผม : ดึกแล้ว ไปนอนได้แล้ว พรุ่งนี้ต้องไปดูปลาอีก
ดรีม : ได้แต่พี่ต้องมานอนกับผมนะ
ผม : งั้นก็เขาไปนอนก่อนเลย
ดรีม : ไม่เอาถ้าพี่ยังไม่เข้าผมก็นอนตรงนี้แหละ
ผม : ก็ได้ๆ ไปนอนๆ (ผมลุกขึ้นและพาน้องดรีมเข้าห้อง)
อากาศในห้องกับข้างนอกแทบไม่ได้ต่างกันอะไรกันมาก บางที่ในห้องอาจจะเย็นกว่าด้วยซ้ำ ผมกับน้องดรีมขึ้นเตียงคนละฝั่ง ในตอนแรกผมพยายามนอนไม่ให้ร่างกายชนกับน้องดรีม แต่ว่า เตียงมันไม่ได้กวางขนาดนั้น สุดท้ายผมก็ขยับไปติดกับน้องดรีม น้องดรีมหันหน้าเข้ามาหาผม ผมเองก็ทำแบบนั้นเช่นกัน
ผม : พี่ขอนอนกอดได้ไหม พอดีพี่จะตกเตียง
ดรีม : ครับ ได้ครับ (จากนั้นผมจึงเอื้อมมือไปกอดน้องดรีม น้องดรีมไม่ได้ขัดขืนหรือเกรงแต่อย่างใด จนเวลาผ่านไปซักพักหนึ่ง)
ดรีม : พี่ พี่ หลับหรือยัง
ดรีม : พี่อย่าพึ่งหลับ ช่วยผมก่อน
ดรีม : ผมปวดอึ ([--"] ผมลืมตาแล้วจองน้องดรีมด้วยสายตาลังเล)
ผม : อย่าบอกนะว่า ต้องเหมือนครั้งนั้น
ดรีม : ครับ เข้าไปด้วยกัน
ผม : นี้พูดเล่น ใช่ไหม แบบจะแกล้งพี่ ใช่ปะ
ดรีม : ผมพูดจริงๆ ถ้าพี่ไม่เชื่อนะ .... (จากนั้นน้องดรีมก็ตดออกมา)
ผม : โห๊ย!!! ดรีม พูดบอกก็ไม่ต้องทำจริงก็ได้ (ผมปล่อยน้องดรีมออกแล้ว ลุกออกจากเตียง)
ดรีม : ก็ผมกลัวพี่ไม่เชื่อ
ผม : งั้นก็รีบๆเลย ดึกแล้ว (ผมเดินไปที่ห้องน้ำ เพื่อเปิดไฟ แต่น้องดรีมกลับเดินไปที่เตียงก่อน จากนั้นก็ถอดเสื้อออก)
ผม : ดรีมทำอะไร ถอดเสื้อทำไม! แค่อึไม่ใช่หรอ
ดรีม : ครับ จะได้เปลี่ยนชุดนอนด้วยเลย (แล้วน้องดรีมถอดกางกง และกางเกงในออกตาม เจี๊ยวน้องดรีมดูหดมากกว่า ตอนเช้าซะอีกคงเพราะ ความเย็นของอากาศ น้องดรีมหยิบชุดนอนแล้วเดินผ่านผมไปแล้วห้องน้ำ)
ดรีม : พี่รีบเข้ามาสิ ดึกแล้ว
ผมเดินตามเข้าไปอย่างช่วยไม่ได้ น้องดรีมนั่งอยู่บนชักโครกรออยู่แล้ว ผมปิดประตูห้องน้ำและเดินไปนั่งตรงมุมห้องน้ำซึ่งอยู่หางจากน้องดรีมประมาณ 2-3 เมตร
ผม : พี่ถามจริงๆ เวลาไปเที่ยวกับเพื่อนทำแบบนี้ไหม
ผม : ยังจะถามอีกเนอะ ก็แก้ผ้าโชว์ ไม่ก็ให้เพื่อเข้ามาในห้องน้ำแบบนี้
ดรีม : ก็เคยทำนะ แต่เข้าห้องน้ำแบบนี้ มีพี่คนแรกและคนเดียว
ผม : ฟังแล้วพี่ควรดีใจไหม
ดรีม : จริงนะ ก็เวลาเปลี่ยนชุด หรืออาบน้ำ พวกมันก็แก้ผ้าแล้วไปอาบน้ำทั้งนั้นแหละ ประตูห้องน้ำก็ไม่ได้ล๊อค ไม่ปิดก็ยังมี บางทีอาบด้วยกัน 3-4 คน แต่ว่าเวลามีคนอึ ไม่ค่อยมีใคร เข้านะ มันเหม็น
ผม : ทุกคนเลยหรอ ไม่อายกันหรอ
ดรีม : ก็มีบ้างคนไม่ทำนะ อีกอย่างพวกมันไม่อายกันหรอก ออกจะดีมากกว่า
ดรีม : พี่รู้ไหมว่า ผมได้ที่ 2 ของห้องเลยนะ
ผม : อะไร ที่ 2 ไม่เข้าใจ
ดรีม : ก็จู๋ผมไง ตอนมันแข็งมันใหญ่ที่สอง แพ้แค่ ไอ้ปอนคนเดียว ไอ้ปอนมันตัวใหญ่จู๋มันเลยใหญ่ไปด้วย
ผม : เอิ่ม มันก็ไม่ใช่ทุกคนไม่ใช่หรอ ดรีมบอกว่า บางคนก็ไม่ได้แก้ผ้า แล้วจะเห็นได้ยังไง
ผม : แล้วทำยังไงให้แข็งกันหรอ
ดรีม : ไอปอนบอกว่า ทำแบบนี้ แล้วมันจะใหญ่ขึ้น (ผมนั่งดูน้องดรีมรูดเจี๊ยวตัวเองขึ้นลงอย่างช้า น้องดรีมรูดลงจนสามารถมองเห็นหัวสีแดงและรูดกลับ ไม่นานเจี๊ยวน้องดรีมก็เริ่มแข็งตัว แล้วน้องดรีมก็หยุดมือลง)
ดรีม : นี้แข็งสุดแล้ว เป็นยังไงของผมใหญ่ไหม (ขนาดของมันใหญ่กว่าเดิมเล็กน้อย และยาวขึ้นอีกหน่อย ไม่รู้ว่าตอนนั้นเพราะอยู่ใกล้หรือป่าวนะครับ)
ผม : เอ่อๆ ไม่ต้องเอามาโชว์พี่ พี่แต่ถามเฉยๆ (ในตอนนั้นอาจจะยังเด็กอยู่ เลยไม่ได้มีอารมณ์รุนแรงที่อยากกินเหมือนตอนนี้ 55)
ดรีม : พี่ ผมมีเรื่องสงสัย (น้องดรีม จับของตัวเองรูดลงหลังจากเริ่มหดตัว และจองมองบริเวณหัวเจี๊ยวตัวเอง)
ดรีม : ทำไมเวลาของผมแข็งแล้ว มันไม่เหมือนกับของไอปอนหรอ
ผม : พี่จะรู้หรอ พี่ไม่เคยเห็นของเพื่อนดรีมซะหน่อย
ดรีม : ก็แบบนี้ไง เวลาของไอปอนแข็งนะ หัวสีแดงๆเนี้ยมันจะออกมาด้วย (หัวที่เปิดแล้ว) ทำไมของผมมันไม่ออกมาหรอ (ของน้องดรีมเปิดแล้วแต่ยังออกมาได้แต่ปลายเล็กหน่อย)
ผม : ไม่รู้ ไม่มีอารมณ์ตอบ เหม็นอึ รีบๆเลย (อันที่จริงผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสิ่งที่น้องดรีมพูดหมายถึงอะไร เพราะของผมเองก็ยังไม่เปิดเหมือนกัน ซึ่งผมเองก็สงสัยแต่ไม่รู้จะไปถามใครเพราะกลัวเพื่อนมันจะล้อเอา)
จากนั้นน้องดรีมก็จัดการตัวเองอยากรวดเร็ว กว่าเราทั้งสองจะได้นอนอีกครั้งก็ ตี1 กว่าแล้ว ผมนอนกอดน้องดรีมเหมือนก่อนหน้า ส่วนน้องดรีมไม่ได้กอดผม นอนขดตัวแล้วเอาหัวชนที่หน้าอกผม ขาของเราทั้งสอง พันกันยับ