จีโฟกาย.คอม

 ลืมรหัสผ่าน
 สมัครเข้าเรียน
ค้นหา
 
ดู: 5472|ตอบกลับ: 53
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป
ซ่อนแถบด้านข้าง

ความลับ ของพ่อ CP (ตอนเดียวจบ)

[คัดลอกลิงก์]

ประธานนักศึกษา

โพสต์
20
พลังน้ำใจ
7048
Zenny
4050
ออนไลน์
676 ชั่วโมง
- ข้อความ/รูปภาพทั้งหมดถูกโพสโดยอัตโนมัติจากสมาชิก ผู้ดูแลไม่มีส่วนรู้เห็น หากท่านพบว่าข้อความ/รูปภาพ ไม่เหมาะสมหรือสร้างความเสียหาย ท่านสามารถกดแจ้งลบได้ที่ Link “แจ้งลบโพสนี้” ที่อยู่มุมล่างขวาของข้อความนั้นๆ หรือ อีเมล์ G4GuysTeam@yahoo.com ขอบคุณค่ะ
- โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านหมวดนี้ เพราะทางเราไม่สามารถสรุปได้ว่าเรื่องที่สมาชิกนำมาโพสเป็นเรื่องจริงหรือแต่งขึ้นมาเพื่อความบันเทิง ขอให้อ่านเพื่อความบันเทิงเท่านั้นนะคะ เพราะสังคมเรายังดำรงอยู่ด้วยศีลธรรมจารีตประเภณีอันดีงามและไม่เปิดกว้างเรื่องแบบนี้
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย yangwong19 เมื่อ 2019-3-12 02:05

“อื้อ... อ่า... อ้า...” เสียแหบ ๆ ครางเบาลอยมาตามลม
เสียงครางแหบต่ำที่ผมคุ้นเคยมักดังแว่วในยามค่ำคืน หากใครตั้งใจเงี่ยหูฟังจะรู้ว่าต้นเสียงมาจากกระท่อมปลายทุ่งข้าว แม้บางครั้งเสียงครวญครางนั้นจะเร้าเร่งจนผมอยากรู้อยากเห็น แต่คำพูดที่ว่า “เด็กดีไม่ควรอยากรู้อยากเห็น” ทำให้ผมยกผ้าผวยขึ้นห่มร่างและข่มตาให้หลับอย่างเดียวดาย ทุกครั้งที่ผมได้ยินเสียงครางแหบต่ำลอยล่องลมมา พ่อจะหายไปจากที่นอนเสมอ…
คืนวันพระใหญ่ เดือนหงายส่องแสงนำทางผมกับไอ้ขวัญกลับบ้าน หนังกลางแปลงเรื่องสุดท้ายมักจะดึงดูดคนหนุ่มให้ดูจนจบเสมอ ก็คนบ้านนอกบ้านนาอย่างผมและเพื่อนจะไปมีโอกาสเห็นสาวในเมืองนุ่งน้อยห่มน้อยได้อย่างไรถ้าไม่ใช่จากหนังกลางแปลง
“แม่งนางเอกโคตรน่าล่อเลยว่ะ... มึงว่าไหม อีคนที่เล่นเป็นผีแม่งก็นมใหญ่ ถ้าเจอผีหุ่นงี้ก็จะจับเย็ดให้ลืมหลุมเลย” ไอ้ขวัญชวนคุยอย่างคะนองปาก
“ไอ้เหี้ย นั่นมันผีนะเว้ย แม่งเย็ด ๆ ไปเดี๋ยวแม่งหันมาหน้าเละ มึงจะทำไง”
“เหี้ย... ถ้าผีแม่งหุ่นงี้กูก็เย็ดวะ...”
ยังพูดไม่ทันขาดคำ เสียงครางแหบต่ำก็ลอยมาจากทางท้ายทุ่ง
“เฮ้ย... แก้ว มึงได้ยินเสียงอะไรหรือเปล่าวะ...”
ผมปล่อยให้ความเงียบเป็นคำตอบ เสียงครางยังคงดังเป็นระยะ
“ไอ้เหี้ย... กูว่าแม่งชักไม่ดีแล้วว่ะ... เฮ้ยกูกลับก่อนนะเว้ย มึงเดินเข้าบ้านเองนะ” ไม่ทันที่ผมจะเอ่ยอะไร คนอยากเย็ดผีอย่างไอ้ขวัญก็กลับหลังหันวิ่งหางจุกตูดไปทันที
ผมนึกขำกับความขี้ขลาดของไอ้ขวัญ มันคงไม่รู้หรอกว่าเสียงครางนั้นคือเสียงของพ่อผม แม้ผมจะยังไม่เคยมีแฟน แต่ความรู้เรื่องเพศศึกษาก็หาได้จากหนังสือโป๊ของรุ่นพี่ในหมู่บ้านทำให้ผมพอจะรู้ว่าพ่อทำอะไรในกระท่อมท้ายทุ่ง และผมก็พอจะเข้าใจว่าพ่อต้องทนเหงาแค่ไหนตั้งแต่แม่ตายจากไป แต่สิ่งที่ยังคาใจผมคือ “ใครกัน” ที่อยู่ในกระท่อมท้ายทุ่งกับพ่อ
“ครืดดดด...” เสียงประตูสังกะสีผุ ๆ ครูดกับพื้นดินอัดแข็งส่งเสียงคุ้นหู แสงจันทร์สว่างสาดส่องเข้ามาจนไม่ต้องพึ่งตะเกียงเจ้าพายุ ผมวางผ้าผวยที่คลุมตัวไปเที่ยวงานวัดลงบนเตียงเศษไม้ที่ว่างเปล่า ก่อนจะทิ้งตัวลงไปนอนมองหลังคาสังกะสีผุ ๆ เสียงครางแหบต่ำเงียบหายไปนาน แต่เสียงฝีเท้าหนักแน่นยังไม่ปรากฏ
ยิ่งดึกยิ่งหนาวหนัก หากพ่อนอนอยู่ข้างผมเวลานี้เราคงนอนกอดกันกลม ผมชอบนอนตะแคงให้พ่อกอดจากข้างหลัง พ่อจะสอดแขนข้างหนึ่งให้ผมหนุน แขนอีกข้างจะกอดรัดผมไว้แน่น พ่อผมใส่กางเกงในตัวเดียวนอนเสมอ ผมจึงสัมผัสได้ถึงไออุ่นจากแผ่นอกหนาที่แนบสนิทกับแผ่นหลังของผมพอดี ผมชอบที่ได้รู้สึกถึงท่องเนื้ออุ่น ๆ ในกางเกงในของพ่อที่แนบอยู่ตรงก้น หากคืนไหนที่ท่องเนื้ออุ่นนั้นพองตัวแข็งเหมือนท่องเหล็กร้อน ๆ ผมจะยิ่งเบียดตัวให้แนบชิดกับพ่อ เช่นเดียวกับพ่อที่เบียดท่อนเนื้อเข้ากับก้นของผม ไม่นานนักพ่อก็จะลุกออกไปข้างนอน เพียงครู่เดียวผมจะได้ยินเสียงราดน้ำล้างตัวจากโอ่งข้างบ้าน แล้วพ่อกลับมานอนกอดผมเหมือนเดิม ผมคิดว่า “กอด” คือสิ่งที่ผมสามารถชดเชยในสิ่งที่ขาดหายให้พ่อหลังจากแม่จากไป
ตั้งแต่เข้าพรรษาพ่อก็ลุกหายไปที่กระท่อมปลายนาบ่อยครั้ง แทบจะคืนเว้นคืน กลับมาอีกทีก็เกือบรุ่งเช้า ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้เสียงฝีเท้าของพ่อไม่เคยย้ำออกไปไกลเกินการได้ยิน ทุกครั้งที่พ่อออกไปท้ายทุ่งผมจะได้ยินเสียงครวญครางลอยมาตามลม บ่อยครั้งที่เสียงครางของพ่อจะปลุกอารมณ์ดำมืดในตัวผมให้พวยพุ่งจนต้องใช้มือระบายบางสิ่งบางอย่างออกจากตัว แต่อีกด้านหนึ่งของความคิดผมก็นึกรังเกียจเสียงนั่น เสียงที่เหมือนจะกั้นผมและพ่อให้อยู่บนโลกคนละใบ
“โอ้ย!” แสงแหบห้าวดังลั่นทุ่ง
ผมสะดุ้งผุดนั่งขนลุกเกรียว
“เกิดอะไรขึ้นกับพ่อ!” คำถามพุดขึ้นในสมอง
ไวเท่าความคิด มือผมคว้าไฟฉาย สองเท้าวิ่งออกจากบ้านไปยังกระท่อมท้ายทุ่ง เดือนตกไปแล้วแต่ฟ้ายังสว่างพอเห็นคันนาอยู่ลางเลือน ภาพเหตุการณ์ร้าย ๆ เกิดขึ้นในหัวผมขึ้นเป็นฉาก ผมสลัดความคิดฟุ้งซ่าน พยายามวิ่งให้เร็วที่สุดเท่าที่สองตีนจะทำได้
ผมหยุดยืนอยู่ใต้ต้นตะขบไม่ห่างจากกระท่อมนัก กระท่อมเฝ้าข้าวที่มุงสังกะสี ยกพื้นสูงแค่ศอก ฝาหลังตีด้วยเศษไม้ ด้านหน้าและด้านข้างเปิดโล่งรับลม ทุกอย่างรอบตัวยามนี้นิ่งสนิท แม้แต่เรไรยังพากันหยุดร้อง ผมเดินอ้อมไปด้านทางข้างกระท่อม เปิดไฟฉายด้วยมือสั่นเทา แสงไฟสีส้มฉายให้เห็นผ้าห่มสีเทาที่มีปลายเท้าสองคู่โผล่ออกมา คู่หนึ่งคือเท้าใหญ่แข็งแรงของพ่อผม แล้วอีกคู่ละ... เป็นของใคร...
ผ้าห่มสีเทาถูกตลบขึ้นอย่างรวดเร็ว คนในผ้าคงตกใจที่ถูกแสงไฟส่องอย่างไม่ทันตั้งตัว “เธอ” พุดลุกขึ้นนั่งมองมาทางต้นแสง ถึงแม้เส้นผมยาวแดงยุ่งเหยิงจะปิดบังใบหน้าบางส่วน ผมก็จำได้ดีว่าเธอคือแม่ค้าที่เพิ่งย้ายมาอยู่ในหมู่บ้านเรา ผมพบเธอครั้งแรกเมื่อบุญเข้าพรรษา ลำพังแม่ค้าหน้าใหม่หาบคอนขายถั่วต้มคงจะไม่เป็นที่น่าสนใจเท่าไหร่ แต่เสื้อคอคว้านลึกที่เธอใส่อวดเนินอก ทำให้ขี้เมามารุมซื้อถั่วเธอจนใส่ถุงไม่ทัน หนึ่งในนั้นมีพ่อผมอยู่ด้วย และคืนนั้นเป็นคืนแรกที่พ่อแอบออกไปที่กระท่อมปลายนา
ผมคงจะไม่แปลกใจหากพ่อจะพาผู้หญิงสักคนมาเสพย์สุข แต่เธอไม่ใช่ผู้หญิง.. เธอเป็นกะเทย..
“ใครวะ... ปิดไฟซะ ส่องหาพ่อมึงเหรอ” เสียงพ่อตะโกนอย่างไม่พอใจ แกคว้าผ้าห่มสีเทามาพันร่างส่วนล่างอย่างรวดเร็ว กระโดดลงจากกระท่อม กึ่งเดินกึ่งวิ่งมาทางผม ผมตกใจมือไม้สั่นปิดไฟฉายไม่ได้ พูดอะไรไม่ออก แสงไฟที่ส่องตาคงสร้างความหงุดหงิดให้กับพ่อจนเกินทน เมื่อพ่อเข้ามาถึงตัวผมในระยะประชิด เแกจึงเงื้อมือขึ้นตบตรงบ้องหูจนผมทรุดลงกับพื้น
“ไอ้แก้ว....” พ่อตะโกนสุดเสียง แกคงเห็นว่าเป็นผมเมื่อไฟฉายหลุดจากมือ
แม่ค้าคู่ขาลงจากกระท่อมทันที่เมื่อพ่ออุ้มผมขึ้นมานอน พ่อหยิบกางเกงวอร์มตัวเก่ามานุ่ง เอาผ้าห่มผืนสีเทามาห่มให้ผมจนถึงคอ แล้วจึงเดินตามออกไปคุยกับหล่อนซักครู่ ผมได้ยินเสียงล้งเล้งที่จับใจความไม่ได้ ก่อนบิดเสียงมอเตอร์ไซค์จะดังขึ้นและพุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว
พ่อเดินกลับมานั่งหย่อนขาอยู่ตรงหัวนอนผม แล้วค่อย ๆ ประคองหัวผมขึ้นหนุนตัก แกรูปซิปกระเป๋ากางเกงหยิบถุงยาสูบออกมามวนก่อนพ่นควันยาสูบขาวเป็นเส้นยาว สายตาจับจ้องไปยังตีนฟ้าสีแดงอมส้ม พ่อใช้มือหยาบหนาลูบหัวผมอย่างแผ่วเบา ไม่มีคำพูดใดออกจากปากของแก แต่ผมก็พอรู้ว่าแกเสียใจเพียงไหนที่ดีผมด้วยความไม่ตั้งใจ ผมเอื้อมมือไปกุมมือพ่อ แล้วยกมือแกมาแนบที่แก้ม
“แก้ว เจ็บอยู่ไหมลูก”
ผมส่ายหน้าช้า ๆ แทนคำตอบ
“พ่อเจ็บอะไรหรือเปล่า ฉันได้ยินเสียงพ่อร้องดังไปถึงที่บ้าน”
พ่อนิ่งไปซักพัก ผมจึงไม่คาดคั้นเอาคำตอบอะไร
“ทำไมเองยังไม่นอน”
“ฉันนอนไม่หลับ... คืนที่พ่อไม่อยู่ฉันนอนไม่หลับเลย”
“โห อายุสิบห้าแล้วนะเอ็ง กลัวอะไรว่ะ” พ่อคลี่ยิ้มเอามือลูบเส้นผมของผมด้วยความเอ็นดู
“ฉันไม่อยากให้พ่อออกมาตอนกลางคืนเลย ฉันกังวลน่ะ เมื่อคืนพอฉันได้ยินเสียงพ่อร้องฉันก็เลยวิ่งออกมา วันหลังพ่อก็พาน้าเขาไปนอนที่บ้านเราก็ได้นะ”
พ่อนิ่งไปซักพัก
“แก้ว เองรู้ใช่ไหมว่าตั้งแต่แม่เองตายพ่อก็ไม่เคยสนใจใครเลย เองโตเป็นหนุ่มแล้วคงรู้ว่าพ่อเหงา”
“แล้วทำไมพ่อไม่หาเมียใหม่ละ”
“แก้วเอ้ย คนจนอย่างเรา ใครเขาจะสนใจ แล้วพ่อก็กลัวว่าถ้ามีเมียเขาจะเข้ากับเองไม่ได้ ยังไงพ่อก็รักเองที่สุด”
“แล้วน้าเขาล่ะ”
“เองก็รู้ว่าเขาเป็นกะเทย เขาไม่เรื่องมากอยู่แล้ว พ่อนัดเจอกับเขาก็แค่หาความสุขกัน ผู้ชายเรามีความต้องการกันทุกคนใช่ไหมละ”
“อย่างตอนที่พ่อนอนกอดฉันน่ะเหรอ”
พ่อนิ่งไป ดูแกตกใจที่ผมพูดเรื่องที่ไม่ควรพูดออกมา ผมเองก็ตกใจเมื่อรู้ตัวว่าหลุดพูดอะไรออกไป
ในความเงียบก่อ ความรัก ความใคร่ ความหึงหวง ก่อตัวขึ้นในจิตใจผมเหมือนพายุใหญ่ ที่พัดเอาศีลธรรมไปไกลสุดตา
“พ่อ ถ้าพ่อมีความต้องการ พ่อทำกับฉันไหม... จะได้ไม่ต้องออกมาอีก”
“เองพูดอะไรออกมาวะแก้ว”
“ทำไมละ... ฉันรู้นะว่าเวลาพ่อนอนกอดฉันบางคืนพ่อก็ควยแข็ง แล้วพ่อก็ออกไปชักว่าว”
“เฮ้ยไอ้นี่... มันเป็นธรรมดาของผู้ชาย โดนนิดโดนหน่อยมันก็แข็งแล้ว”
“ใช่สิ... ฉันไม่ได้ผมยาวเป็นผู้หญิงเหมือนน้าเขานี่”
“เฮ้ย ไอ้แก้วมึงพูดอะไรรู้ตัวมั่งไหม มันไม่เกี่ยวว่ามึงจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย แต่มึงกับกูเป็นพ่อลูกกัน” พ่อลุกเดินออกไปหน้ากระท่อมอย่างมีอารมณ์ แกจุดยาสูบที่ติดมือมาเป่าควันเป็นเส้นขึ้นฟ้า
“อย่าพูดเรื่องนี้ให้กูได้ยินอีก... มึงเป็นกะเทยหรือเปล่า”
พ่อพูดโดยไม่หันหลังกลับมามอง
“จะเป็นอะไรก็ช่างเหอะ พ่อรู้ไว้แล้วกันว่าฉันรักพ่อ ฉันห่วงพ่อ ฉันหวงพ่อ ฉันไม่อยากให้พ่อทิ้งฉันให้นอนคนเดียว ฉันไม่อยากให้พ่อไปยุ่งกับน้าคนนั้น พ่อรู้ไหมว่าพ่อไม่เหมือนเดิม พ่อเปลี่ยนไป พอพ่อกลับบ้านพ่อก็ไม่กอดฉันเลย พ่อคงรักอีน้านั่นมากใช่ไหม พ่อรักมันมากกว่าฉันใช่ไหม”
ผมลุกขึ้นยืนแล้วกระโดดลงจากกระท่อม วิ่งกลับบ้านโดยไม่หันหลังไปมองพ่อ ไม่รอคำตอบ ไม่อยากรู้อะไรทั้งนั้น

ผมไม่ได้กลับบ้านและไม่ได้ไปโรงเรียน หนีหนีไปนอนอยู่ที่ริมห้วย ปล่อยความคิดล่องลอยไปกับสายน้ำที่รินไหล บางห้วงของความคิดผมโทษด่าตัวเองว่าทำไมจึงพูดเรื่องบ้า ๆ ออกไป พ่อก็คือพ่อ ผมคิดอะไรอยู่ในเวลานั้น แค่คิดก็นรกก็กินกบาลแล้ว แต่ผมก็ต้องยอมรับกับตัวเองว่าฉันรักพ่อเกินกว่าศีลธรรมจะเข้าใจ
ฟ้ามืดแล้ว ผมเดินกลับบ้านอย่างเหนื่อยล้า ไม่อยากจะคิดว่ามีอะไรรออยู่ที่บ้าน หรือไม่แน่พ่ออาจจะออกไปกับแม่ค้าคู่ขานั้นแล้วส่งเสียงครางลอยตามลมมากรีดใจผมเหมือนเคย... แต่พ่อนั่งอยู่ตรงนั้น... แกนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ตัวเตี้ยหน้าบ้าน คลุมผ้าผวยผิงไฟ นั่งสูบยาเส้น เหล้าป่าข้างตัวแกพร่องไปค่อนกลม บอกให้รู้ว่าแกคงนั่งกินอยู่ตรงนี้มาพักใหญ่ ผมเดินเลี่ยงไปหยิบเสื้อผ้าออกมาอาบน้ำที่โอ่งข้างบ้าน ได้ยินเสียงพ่อตะโกนตามหลังว่า ไปไหนมา กินข้าวหรือยัง แต่ไม่มีคำตอบใดออกจากปากผม ไม่ใช่ว่าผมยังโกรธพ่อ แต่ผมยังไม่พร้อมที่จะคุยอะไรกับแกด้วยความละอายใจ อาบน้ำเสร็จ ผมก็ขึ้นนอนบนเตียงทันที หวังจะข่มตานอนให้หลับ บางทีเมื่อผมตื่นขึ้นในวันพรุ่งนี้ เรื่องทั้งหมดอาจจะเป็นแค่ฝันไป…
เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ก็ไม่รู้ แต่ผมยังข่มตาหลับไม่ลง หูผมยังเงี่ยฟังสรรพเสียงรอบตัว ในที่สุฝีเท้าหนักแน่นก็เดินเข้ามาใกล้ เสียงซวบซาบบอกให้รู้ว่าพ่อคงถอดเสื้อผ้าเหลือแต่กางเกงในนอนตามความเคยชิน เตียงเศษไม้ขยับลงเมื่อร่างใหญ่ของพ่อทอดลงนอนเคียงข้าง แผ่นหลังของพ่อสัมผัสกับแผ่นหลังของผม แล้วพ่อก็หันกลับมา ใช้มือขวาสอดเข้าตรงซอกคอผมให้ผมหนุน แขนซ้ายของพ่อกอดผมไว้เกรง ๆ เสียงหายใจของพ่อที่คุ้นเคยฟังแปลกออกไป ในขณะที่ผมกลั้นใจด้วยความอึดอัด
“แก้ว พ่อขอโทษ ขอโทษที่ตีเอง ขอโทษที่พูดไม่ดีกับเอง ด่าเอง พ่อสัญญากับแม่เองว่าพ่อจะเลี้ยงเองให้ดีที่สุด จะไม่ให้เองต้องเจ็บช้ำน้ำใจ พ่อมันเหี้ยเอง”
พอพูดจบพ่อก็กดปลายจมูกบนเส้นผมของผมอย่างแผ่วเบา
ผมหันตัวกลับมาหาพ่อ ใช้มือขวากอดเอวพ่อไว้ แล้วปล่อยน้ำตาให้ไหลออกมาอย่างไม่นึกอาย
“ฉันขอโทษนะพ่อ ฉันแค่หวงพ่อ ฉันไม่อยากเสียพ่อ ไม่อยากให้พ่อไปอยู่กับน้าคนนั้น”
พอกระชับวงแขนดึงผมเข้ามาใกล้จนร่างกายเราแนบสนิทกัน
“พ่อไม่ทิ้ง... พ่อจะทิ้งเองได้ไงแก้ว พ่อรักเองมากนะ พ่อมีเองคนเดียว”
“ฉันก็รักพ่อ...”
ยิ่งเรากอดกันนานเท่าไหร่ หัวใจของเราทั้งคู่ก็ยิ่งเต้นถี่ขึ้น กลิ่นเหล้าขาวจากลมหายใจของพ่อทำให้มือไม้ผมหมดแรง แม้จะไม่ได้อาบน้ำแต่กลิ่นตัวของพ่อไม่เหม็นเลย มันเป็นกลิ่นประหลาดที่ผมโหยหา ดุ้นเนื้อใต้ร่มผ้าของผมค่อย ๆ ขยายตัวตามเสียงเรียกร้องของธรรมชาติ ผมค่อย ๆ ถัดตัวห่างออกจากพ่อกลัวว่าแกจะดุ แต่พ่อกลับเอื้อมมือมารั้งสะโพกผมไว้ให้แนบชิดเหมือนเก่า ตอนนี้ผมรู้สึกได้ว่าดุ้นเนื้อของพ่อก็แข็งอยู่ในกางเกงในนั้นเช่นกัน
“เป็นหนุ่มแล้วนี่เรา ควยแข็งเป็นแล้ว” พ่อหัวเราเบา ๆ
“พ่อก็แข็งนี่”
“เมื้อเช้าเองพูดจริงหรือเปล่า ที่ว่าถ้าพ่อให้พ่อมามีอะไรกับเองแทนน้าเขา พ่อถามเองจริง ๆ เองคิดอะไรกับพ่อหรือเปล่า”
ผมเงียบแทนคำตอบ
พ่อละมือจากเอวผม มาเชยคางผมขึ้นไปมองหน้า
“หน้าตาเองเหมือนแม่มากนะ... ยิ่งโตก็ยิ่งเหมือน เวลาที่พ่อนอนกอดเอง แล้วตูดเองเบียดควยพ่อ เองรู้ไหมว่าพ่อเงี่ยนแค่ไหน แต่เองเป็นลูก มันผิดผีผิดสาง พ่อก็เลยต้องออกไปชักว่าว... ที่พ่อมีอะไรกับน้านั่นเพราะว่าพ่อเงี่ยนจนไม่รู้จะทำยังไง บ้างทีพ่อก็คิดบ้า ๆ ว่า ถ้าเองไม่ใช้ลูกก็คงจะดี พ่อจะได้เย็ดเองให้หายเงี่ยน บอกพ่อหน่อยนะ ว่าเองคิดยังไงกับพ่อ... เองคิดเหมือนที่พ่อคิดไหม”
ไม่รู้ว่าพ่อพูดออกมาเพราะฤทธิ์เหล้าหรือไม่ แต่ผมสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดแล้วบอกทุกสิ่งที่อยู่ในใจออกมา
“พ่อ ฉันรักพ่อนะ ฉันไม่ได้แค่รักที่พ่อเป็นพ่อ แต่ฉันรักพ่อมากกว่านั้น ฉันรักพ่อแบบ... แบบ...ฉันไม่รู้จะบอกยังไง แต่ฉันอยากจะอยู่กับพ่อตลอดไป ฉันอยากจะกอดพ่อทุกคืน อยากจะให้พ่อทำกับฉันเหมือนที่ทำกับน้าคนนั้น... ”
“มันจะดีเหรอว่ะ... ยังไงเราก็เป็นพ่อเป็นลูกกัน...” แววตาพ่อฉายแววไม่แน่ใจ
“แล้วพ่ออยากทำไหมละ...”
“กูโคตรเงี่ยนเลยแก้ว... เองเคยทำอย่างนี้กับใครไหม”
ผมส่ายหน้า
พ่อยืนหน้ามาใกล้แล้วประกบริมฝีปากลงบนริมฝีปากผมอย่างแผ่วเบา ชั่วขณะนั้นเหมือนโลกหยุดหมุน ผมไม่รู้ว่าข้างหน้าคือความจริงหรือความฝัน ที่รู้คือว่าความสุขมันวิ่งไปทั่วร่างจนผมนิ่งไป พ่อใช้ลิ้นเลียลงบนริมฝีปากผม ก่อนจะชอนไชเข้าไปแตะลิ้นของผม ผมค่อย ๆ เรียนรู้ ใช้ลิ้นพันกับลิ้นพ่อ ยิ่งผมตอบสนอง จูบของก็ยิ่งพ่อร้อนแรงขึ้น มือของเราเปะปะไปตามร่างกายของกันและกัน ควยสองดุ้นถูเบียดกันไปมาอย่างรุนแรง จนผมทนไม่ไหวหลั่งน้ำแรกออกมาในกางเกง
พ่อยิ้มให้อย่างใจดี แกคงรู้ว่าผมเสร็จแล้ว ผมชันตัวลุกขึ้นตั้งใจจะไปชำระล้างคราบสกปรกที่เปื้อนกางเกง
แต่พ่อกลับดึงแขนผมให้นอนต่อ
“จะไปไหน... ”
“ไปล้าง”
“ไม่ต้องหรอก”
พ่อลงจากเตียง นั่งยอง ๆ ลงกับพื้น จัดท่าให้ผมนั่งเอนตัวอยู่บนเตียงหันหน้ามาทางพ่อ พ่อรูดกางเกงผมลงกับพื้น แล้วใช้จมูกซุกไซ้พวงกะโปกของผมอย่างหมันเขี้ยว
“ควยหอมกว่าตอนเด็ก ๆ อีกนะ”
แล้วสิ่งที่ผมคิดก็เกิดขึ้นจริง พ่อใช้ลิ้นเลียกินน้ำเงี่ยนที่ติดอยู่ตามควยผมอย่างไม่รังเกียจ แกใช้มือรูดปลายควยของผมให้ถอก แล้วใช้ลิ้นเลียลงบนหัวสีชมพู เมื่อควยของผมค่อย ๆ แข็งขึ้นอีกครั้ง แกก็อมควยของผมเข้าไปทั้งลำ แล้วรูดขึ้นรูดลงอย่างเร็ว ความเสียวแล่นขึ้นสู่หัวใจ ความรู้สึกบางอย่างบอกผมว่าผมใกล้จะเสร็จอีกครั้ง ผมพยายามจะดันหัวพ่ออก แต่พ่อกลับใช้มือกดสะโพกของผมให้เด้าปากแกอยู่อย่างนั้น จนผมทนไม่ไหวปล่อยน้ำเงี่ยนเข้าปากแกจนหมด ผมกึ่งนั่งกึ่งนอนหอบหายใจอย่างเหนื่อยล้า แต่พ่อยังอมควยผมไม่ปล่อย
ผมเลื่อนตัวลงมานั่งยอง ๆ กับพื้น พ่อคงรู้ว่าผมคิดอะไร แกขึ้นไปนั่งบนเตียงแทนที่ผม เมื่อจัดที่จัดทางกันเสร็จ ผมก็ค่อย ๆ วางจมูกลงบนกางเกงในชุ่มน้ำเมือกของพ่อ ใช้ลิ้นเลียน้ำคาวนั้นอย่างหิวกระหาย กลิ่นสาบจากกางเกงในทำให้ควยผมแข็งขึ้นอีกรอบ แม้จะปวดคัด ๆ แต่ผมก็อดไม่ได้ที่จะใช้มือชักว่าวตัวเองไปด้วย
“อ้า...” เสียงครางแหบ ๆ ที่ผมคุ้นเคย ดังขึ้นครั้งแรกในคืนนี้
“อมควยพ่อสิลูก พ่อเงี่ยน ไม่ไหวแล้ว”
ผมรูดกางเกงในของพ่อลงบนพื้น แสงจากตะเกียงเจ้าพายุส่องท่อนควยของพ่อให้ผมเห็นอย่างเต็มตา มันใหญ่และยาวกว่าที่ผมคิดไว้มาก สีของลำควยดำด้าน เส้นเลือดปูดโปน หัวควยถอกบานสีม่วงคล้ำ ผมใช้ลองใช้จมูกแตะเบา ๆ รอบ ๆ ควย แต่ก็ต้องไปสะดุดกับกลิ่นเส้นหมอยดกดำตรงหัวเหน่าของพ่อ มันเป็นกลิ่นเดียวกับรักแร้ มันหอมจนผมต้องซุกจมูกลงไปสูดดม
“ซี๊ด.... อมควยพ่อทีเถอะ ลูกเอ้ย... อย่าแกล้งพ่อเลย”
ผมค่อย ๆ ใช่ปลายลิ้นแตะลงไปบนหัวควยถอกบานของพ่อ แล้วลากลิ้นขึ้นลงตรงหัว พ่อส่งเสียงครางอย่างมีความสุข ตัวบิดเกร็งเพราะความเสียว ผมใช้ปากครอบควยหวังจะกลืนกินให้หมดลำ แต่ความยาวนั้นทำให้ผมสำลักจนน้ำตารื้น ผมจึงเปลี่ยนเป็นอมรูดแค่หัวควยแทน
พ่อคงเสียวจนทนไม่ไหว แกลุกขึ้นยืนใช้มือทั้งสองประคองใบหน้าผมไว้ ก่อนจะเด้าควยเข้าปากผมช้า ๆ
“อุ๊ย... เสียวฉิบหายเลย ปากลูกอุ่นจัง ดูดหน่อยสิ ดูดเหมือนไอติม... น่าน... อย่างนั้นและ โอ๊ย เสียวฉิบหายเลย ควยเย็ด...”
คงเพราะความเสียวพ่อเร่งจึงเด้าปากผมเร็วขึ้นและลึกขึ้น จนผมทนไม่ไหว สำลักควยจนหน้าแดงน้ำตา
ไหลพราก พ่อเห็นอย่างนั้นก็ค่อย ๆ พยุงผมลุกขึ้นมานั่งบนเตียง แกลูบหัวลูบหลังผมจนผมดีขึ้น
“เจ็บไหมแก้ว”
ผมส่ายหน้า ปาดน้ำตาแล้วส่งยิ้มให้พ่อ พ่อยิ้มตอบ ก่อนจะประคองผมนอนลงบนเตียงแล้วเอนตัวลงนอนหงายเคียงข้าง ผมขยับตัวเข้าใกล้เอาหัวหนุนหน้าอกพ่อ มือป้วนเปี้ยนอยู่ที่ควยดุ้นใหญ่ที่ยังไม่ยอมหลับ
“ฉันรักพ่อนะ”
“พ่อก็รักเองนะ... เมื่อกี้เองบอกว่าอยากให้พ่อทำกับเองเหมือนกับน้าเขา เองยังอยากให้พ่อทำอยู่ไหม”
“อยากจ๊ะ”
“เองแน่ใจนะ มันเจ็บนะเว้ย ถ้าพ่อทำไปแล้ว เราไม่ได้เป็นแค่พ่อลูกกันแล้วนะ... เองเป็นเมียพ่อเลยนะ”
“จ๊ะ ฉันอยากเป็นเมียพ่อ”
พ่อและผมนอนตะแคงหันหน้าเข้าหากัน เราประกบจูบปากกันอีกครั้ง คราวนี้นุ่มนวลและเนิ่นนาน มือข้างหนึ่งของพ่อวนเวียนอยู่ที่ประตูหลังของผม แต่มันยังทะลวงล้ำเข้าไปไม่ได้ด้วยไม่มีน้ำหล่อลื่น พ่อจึงละปากจากผมถ่มน้ำลายลงบนมือปาดป้ายไปมาที่ร่องรู ในขณะที่ผมก็ช่วยเหลือด้วยการยกขาขึ้นและใช้มือรั้งไว้
เมื่อนิ้วลื่นน้ำลายค่อย ๆ ไหลเข้าไปในรูตูด ผมตัวเกร็งทันที มันเจ็บปวดเหมือนเวลาที่เราท้องผูกถ่ายไม่ออก พอพ่อค่อย ๆ เลื่อนนิ้วเข้าออกมันก็ให้ความรู้สึกเหมือนปวดท้องจะถ่ายหนัก แต่พอพ่อเลื่อนนิ้วเร็วขึ้นมันกลับเป็นความเสียวซ่านที่ผมไม่เคยได้รับมาก่อนในชีวิต จากหนึ่งนิ้ว เป็นสอง และสามในที่สุด ผมกระดกก้นรับแรงกระแทกจากมือของพ่อที่ดึงเข้าออกอย่างรุนแรง พ่อคงเห็นว่าผมพร้อมแล้ว จึงจับผมนอนหงายแล้วขึ้นคร่อมตัวผมไว้ เราประกบจูบกันช่วงสั้น ๆ นิ้วทั้งสามยังแล่นอยู่ในร่องรูของผม พ่อตระโบมจูบไปที่ซอกคอและหน้าออก ใช้ลิ้นเลียตวัดหัวนมจนผมดิ้นพล่าน แล้วไล่ลิ้นต่ำสู่หน้าท้องมาจนถึงควยผมที่แข็งรอ แกรูดดูดควยของผมอยู่ซักพัก แล้วจึงไล้ลิ้นลงมาที่พวงกะโปก ไล่มาที่ฝีเย็บ และแกก็ทำในสิ่งที่ผมไม่คาดคิด แกเลียรูก้นผม
หากมีใครซักคนตื่นขึ้นมาในตอนนี้คงจะได้ยินเสียงครวญครางของผมดังไปทั่วทุ่ง ลิ้นแข็งหนาของพ่อที่ฉกรูก้น มันสร้างความเสียวกระสันจนผมครางกระเส่าเหมือนหมาตัวเมีย ยิ่งร้องพ่อยิ่งได้ใจ แกใช้ฟันขนไปที่หูรูดเบา ๆ แล้วใช้ลิ้นแหย่เข้าไปในร่องรูอย่างไม่นึกรังเกียจ เสียงแกดูดรูก้นผมดังซวบ ๆ เหมือนยกแกงขึ้นซกทั้งถ้วย ผมเสียวจนทนไม่ไหวใช้สองมือจิกเส้นผมของพ่อให้หน้าแกแนบอยู่ตรงนั้นนานเท่านาน
ในที่สุดแกก็หยุด เราต่างหอบหายใจถี่ พ่อเลื่อนตัวขึ้นมาแล้วจูบผมอีกครั้ง
“พร้อมแล้วใช่ไหม... แก้ว เองพร้อมจะเป็นเมียพ่อแล้วใช้ไหม”
“จ๊ะพ่อ”
เมื่อได้รับคำตอบพ่อหน้าหน้าไปทางข้างฝา มองไปที่หิ้งวางโกศแม่
“พี่ขอลูกเองนะกิ่ง... พี่สัญญาว่าจะดูแลมันในฐานะเมียไม่ให้บกพร่อง”
ผมขนลุกซู่ ไม่นึกว่าพ่อจะพูดอย่างนี้กับเถ้ากระดูกแม่ แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร น้ำตามันจึงไหลออกมาด้วยความตื้นตัน
“แก้วจ๋า เป็นเมียพี่แล้วนะ ให้พี่เย็ดแก้วนะ พี่จะเย็ดแก้วให้ถึงสวรรค์เลย” พูดจบพ่อก็ยกขาผมขึ้นพาดบ่า ถ่มน้ำลายลงที่รูก้น แล้วจับควยขนาดใหญ่ยัดเข้าไปในตัวผม แม้จะถูกเย็ดด้วยนิ้วถึงสามนิ้วไปแล้ว แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ควยใหญ่ขนาดนั้นล่วงล้ำเขามาในรูที่ยังไม่ผ่านควย
“ซี๊ด... หีเมียฟิตจัง ผัวเย็ดไม่เข้าเลย”
“พ่อก็เอาน้ำลายลงอีกซิ”
“แก้ว เองเป็นเมียข้าแล้ว เวลาเย็ดกันให้เรียกข้าว่าผัว นะเมียจ๋า”
ผมอายจนต้องหลบตา แล้วโดยไม่ทันตั้งตัวหัวควยมู่ทู่นั่นก็ผ่านเข้าไปในรูของผมสำเร็จ
“อ๊ากซ์... แน่นฉิบหายเลยโว้ย กูไม่เคยเย็ดกะเทยที่ไหนหีแน่นขนาดนี้มาก่อนเลย อู๊ย... นี่ครั้งแรกเลยใช่ไหม นี่ผัวเปิดซิงเมียเลยใช่ไหม” พ่อถามผมแต่ตาลอยเงยซี๊ดปาก
“จ๊ะ”
“ครั้งแรกเลยใช่ไหมจ๊ะ งั้นผัวจะเย็ดเมียให้จำไปจนตายเลยนะ จะเย็ดให้หลงควยผัวคนเดียวเลย” พ่อพูดพร้อม ๆ กับค่อย ๆ เคลื่อนควยเข้าจนสุด
“โอ๊ย”
“เป็นอะไร... เงี่ยนไม่ใช่เหรอ นี่ไง ผัวก็ป้อนควยให้แล้วนี่ไง จะดิ้นทำไม”
“พ่อ ฉันเจ็บ” น้ำตาอุ่น ๆ เริ่มไหลอาบสองแก้มผม
“อย่ามาสำออย เงี่ยนนักนี่ มึงร้องขอควยก็เองไม่ใช่เหรอ นี่ไง กูก็ให้แล้ว นี่ไง” พ่อพูดพร้อมกับชักควยเข้าสุดลำแล้วกระแทกเข้ามิดลำ
แววตาพ่อที่มองมามันเหมือนสัตว์ป่าที่หื่นกระหาย แกเย็ดผมเหมือนผมไม่ใช่คน ทุกจังหวะกระแทกเป็นไปเพื่อตอบสนองความเงี่ยนของแกฝ่ายเดียว แม้ว่าผมจะร้องขออย่างไรแกก็ยังคงกระแทกอย่างไม่ปรานีปราศรัย จังหวะหนึ่งผมได้ยินเสียงกึกดังขึ้นพร้อมกับความเจ็บปวดจนต้องหวีดร้องสุดเสียง
พ่อหยุดเย็ดทันที แกชักควยออกดังโบละ ก้มลงมองที่ก้นผมแล้วนิ่งไป ผมลองเอื้อมมือไปสัมผัสต้นเหตุของความเจ็บปวด แม้จะมองไม่เห็นแต่ก็พอจะรู้ว่าหูรูดของผมพังยับเยิน มีรอยฉีกขาดยาวไปตามแนวตะเข็บฝีเข็ม เมื่อยกมือกลับมาดู ผมก็เห็นว่ามือเลอะไปด้วยเลือด น้ำตาของไหลมากขึ้นด้วยความตกใจ
“แก้ว เจ็บไหม พี่ขอโทษนะ พี่เงี่ยนไปหน่อย”
พ่อไปก้มลงไปเลียที่รู ลิ้นอุ่น ๆ ของพ่อช่วยคลายความแสบ
จนผมเผลอครางออกมา แต้เมื่อพ่อตั้งท่าจะเย็ดอีกครั้งผมก็ถัดตัวหนีตามสัญชาติญาณ
“แก้ว พี่ขอนะ พี่ยังไม่เสร็จเลย ช่วยพี่นะ หนูบอกว่าหนูจะให้พี่เย็ด จะยอมเป็นเมียพี่ พี่ขอนะ”
พ่อขยับตัวขึ้นมาเลียหัวนมของผมจนเริ่มมีอารมณ์ เมื่อเห็นควยผมแข็ง แกก็รีบอมเพื่อใจ
“นะแก้วนะ พี่ขอนะ”
ไม่รู้ว่าเพราะรักพ่อหรือเพราะความเงี่ยน ผมจึงยอมให้แก ล่วงล้ำอีกครั้ง คราวนี้แกนุ่มนวลขึ้นมาก ควยดุ้นใหญ่แล่นเข้าออกในรูของผมจากช้าเป็นเร็ว ความเสี่ยวแล่นเข้าสู่ร่างกายจนผมทนไม่ไหว สองมือจิกลงบนหลังพ่อแน่น
“ไง เริ่มเสียวแล้ว ใช่ไหม กูบอกแล้ว ว่ามึงจะไม่ลืมควยกูเลย”
ความอ่อนโยนของพ่อหายไปอีกครั้ง แต่คราวนี้ผมไม่นึกกลัว ความดิบเถื่อนของพ่อปลุกอารมณ์มืดดำของผมให้ถึงขีดสูด
“อ้า... เย็ดแรง ๆ เย็ดแรงอีก”
“หึ ๆ กูบอกแล้วไงว่ามึงจะต้องชอบควยกู... เป็นไงชอบไหมชอบควยกูไหม”
“ชอบจ๊ะ”
“ชอบมากไหม” พ่อดึงควยออกมาสุดลำแล้วกระแทกควยเข้าตูดผมอย่างแรงเมื่อถามเสร็จ
“จ๊ะ”
“ควยกูใหญ่ไหม”
“โอ๊ย.. ใหญ่” พ่อคงถูกใจกับคำตอบ แกยิ้มเหี้ยม ๆ ดึงควยออกมาอีกครั้ง คราวนี้มันหลุดออกมาจากรูก่อนจะกระแทกควยเข้าไปมิดลำ
“หึ ๆ อยากได้ควยกูอีกไหม ขอสิ ขอควยกูซิ” พ่อหยุดเย็ดเพื่อรอสิ่งแลกเปลี่ยน
“โอ๊ย เย็ดฉันที ฉันเงี่ยน ไม่ไหวแล้ว...”
“เรียกผมสิแก้ว เรียกพี่ว่าผัว บอกสิว่าอยากได้ควยผัวแค่ไหน”
“โอ๊ยผัว จ๋า เย็ดเมียเร็ว ๆ สิ เย็ดมีที เมียอยากได้ควยผัว”
ผมโยนความอายปากทิ้งด้วยความเงี่ยน
พ่อยิ้มเหี้ยมเกรียมด้วยความพอใจ กระดกก้นกระแทกเย็ดรัว ๆ จนตัวผมโยกคลอน พ่อเร่งจังหวะเย็ดเร็วขึ้น ๆ เสียงกระโปกพ่อกระทบกับแก้มก้นผมดังตับ ตับ ลั่นบ้าน
“โอ๊ย... แก้วจ๋า แก้ว... พี่จะเสร็จแล้ว พี่จะเสร็จแล้ว พี่แตกในเลยนะ พี่แตกในหีแก้วเลยนะ”
“โอ๊ย เอาเลย แตกเลย แตกเลย ฉันไม่ไหวแล้ว เสียวรูฉิบหายเลย โอ๊ย...”
“โอ๊ย... เสียวควยเว้ย... ไม่ไหวแล้ว น้ำกูจะแตกแล้ว โอ๊ย แม่งเอ้ย เย็ดมันงี้กูจะเย็ดแม่งทุกวัน เลย เย็ดให้หีแหกเลย... โอ๊ยไม่ไหวแล้ว น้ำจะแตกแล้ว แตกแล้ว อ๊ากซ์....”
พ่อเกร็งตัว ยืดหลังตรง มือบีบข้อเท้าผมที่พาดบ่าไว้แน่น ผมรู้สึกว่ามีน้ำอุ่น ๆ มากมายทะลักเข้าไปในตัว พ่อค่อย ๆ เคลื่อนควยออกพร้อม ๆ กับความโล่งใจของผม แต่ทันใดนั้นแกก็กระแทกเข้ามาอย่างแรงจนผมร้องเสียงหลง แกกระแทกอยู่อย่างนั้นเจ็ด แปดที ก่อนจะวางขาผมลงแล้วนอนทับตัวผมไว้ แต่ยังแช่ควยไว้ในรูไม่ยอมเอาออก
“รูหนูอุ่นดี พี่แช่ไว้อย่างนี้ก่อนได้ไหม” พ่อยิ้มให้ผม ทั้งที่ยังหอบหายใจ

เช้าแล้ว... ลำแดดอ่อน ๆ ลอดรูสังกะสีฉาบความอุ่นวาบลงบนใบหน้า ปลุกผมให้ตื่นจากหลับใหล อากาศยามเช้ายังคงเย็นสบาย ผมถัดตัวเข้าไปแนบชิดชายที่โอบกอดผมไว้จากด้านหลัง รู้สึกได้ถึงความอบอุ่นจากดุ้นเนื้อในกางเกงใน ที่เริ่มแข็งขึ้นเรื่อย ๆ พ่อคงตื่นแล้ว แกกระชับวางกอดผมแน่นขึ้น
“พ่อเช้าแล้ว...”
“บอกแล้วไงว่าให้เรียกผัว... ต่อไปนี้ถ้าอยู่ด้วยกันสองคนต้องเรียกว่าผัวนะ”
“บ้า”
“งั้นเรียกเฉพาะตอนเย็ดกันก็ได้”
“อื้อ... ปล่อยฉันได้แล้ว ฉันจะอาบน้ำแต่งตัวไปโรงเรียน”
“ไม่ต้องไปแล้ววันนี้... นอนกอดกันอย่างนี้แหละ นะ ๆ เมื่อคืนพ่อยังกินไม่อิ่มเลย” พ่อคว้าผมไปกอดแน่นขึ้นอีก
ผมมองออกไปทางหน้าต่าง คิดในใจว่าโชคดีเหลือเกินที่ได้รู้ความลับของพ่อที่กระท่องปลายนา...
“ฉ่า...” เสียงผักบุ้งนาถูกเทลงบนน้ำมันร้อน ๆ ผมรีบฉีกเต้าเจี้ยวถุงเล็ก ๆ เทลงในกระทะใบเก่า แล้วรีบใช้ตะหลิวคนให้เข้ากัน กลิ่นกับข้าวคนจนยั่วยวนจนน้ำลายสอ ผมรีบตักผักบุ้งที่สลดกำลังดีลงชามสังกะสี เหลือก็แต่น้ำพริกกะปิอร่อย ๆ ฝีมือพ่อ
พ่อนั่งตำน้ำพริกอยู่บนแคร่ไม้ใต้ต้นมะขาม มีเพียงผ้าเช็ดตัวสีตุ่นผืนเดียวปกปิดร่างกายท่อนล่าง แกยกขาแกร่งข้างหนึ่งขึ้นนั่งชันเข่าให้ตำน้ำพริกได้ถนัด เผยให้เห็นกางเกงในสีเหลืองตัวเก่าหุ้มห่อก้อนเนื้ออวบนูน ก้อนเนื้อที่ผมได้สัมผัสอย่างใกล้ชิดตลอดคืนที่ผ่านมา กลิ่นของมันยังคงติดอยู่ที่ปลายจมูกเหมือนเหตุการณ์เพิ่งผ่านมาเมื่อครู่
“มองอะไรว่ะแก้ว” พ่อส่งยิ้มทะลึ่งมาจากแคร่ไม้ไผ่ แกตักน้ำพริกกะปิลงชาม แล้วลงจากแคร่ไปล้างมือที่โอ่งน้ำไม่ไกลนัก
ผมก้มหน้ายิ้มอารมณ์ดี เดินไปที่โอ่น้ำ ตั้งใจจะเอากระทะไปล้างแล้วกินข้าวกับพ่อ
“เอาวางไว้นี่แหละเดี๋ยวพ่อล้างเอง” พ่อนั่งยอง ๆ ล้างมือ ชายผ้าเช็ดตัวผืนเล็กแหวกออกจากกัน ผมเห็นก้อนเนื้อนั่นนูนจนแทบจะทะลักกางเกงในตัวเก่า
“เอ้าไอ้นี่ถืออยู่นั่นแหละ ไม่กินข้างหรือไง”
ผมพยักหน้าเออออ ส่งกระทะให้พ่อ แล้วรีบหันตัวเดินเข้าบ้าน ตั้งใจจะไปหยิบจานผัดผักบุ้งที่พักไว้ในตู้กับข้าว ไม่รู้ทำไมวันนี้ระยะทางจากโอ่งน้ำถึงประตูบ้านมันช่างไกลกันเหลือเกิน
“วันนี้เป็นอะไรของเองวะแก้ว ไม่สบายเปล่า ให้พ่อดูดิ”
พ่อเดินตามเข้ามาในบ้าน แกโอบกอดผมจากข้างหลัง ยื่นหน้าเอาแก้มมาแนบแก้มผมไว้ หนวดเคราที่ยังไม่ได้โกนทำให้ขนผมลุก
“เปล่าพ่อ ไม่เป็นอะไร”
พ่อแนบตัวเข้าชิดตัวผม ดุ้นเนื้อใต้ผ้าขนหนูตัวเริ่มแข็งตัวเบียดแก้มก้นผม
“เจ็บอยู่หรือเปล่า”
“เปล่า”
“แล้วเองเป็นอะไร ไหนตอบพ่อสิ...”
“ไม่มีอะไร ไปกินข้าวกันเหอะพ่อ”
“อ้อ... พ่อรู้แล้ว เองยังเงี่ยนอยู่ละซิ เห็นแอบดูควยพ่อตั้งแต่ตอนตำน้ำพริกแล้ว เมื่อกี้ที่โอ่งก็มัวจ้องแต่ควย ถ้าหิวควยก็บอกสิ ไม่ต้องเขินหรอก เราเป็นผัวเมียกันแล้วนะ” น้ำเสียงทะเล้นของพ่อกระเซ้าข้างหูเบา ๆ แกกระชับวงแขนกอดผมไว้แน่น ผมรู้สึกร้อนผ่าวที่กกหูถึงพวงแก้มทั้งสองข้าง
“นั่น ๆ หน้าแดงหมดแล้ว สงสัยจะอยากควยพี่ใช่ไหม เดี๋ยวพี่ป้อนควยให้ก่อนแล้วค่อยกินข้าวนะแก้วจ๋า” พ่อค่อย ๆ พรมจูบลงบนต้นคอผม ไล้ลงมาถึงหัวไหล่ ดุ้นควยร้อนผ่าวบดเบียดก้นผมจนผ้าขนหนูหลุดจากร่าง
“โห พ่อไปอาบน้ำก่อนไป น้ำไม่อาบตั้งแต่เมื่อคืน เน่าแล้วมั้ง”
ผมพยายามขืนตัวจากอ้อมแขนพ่อ
“ว่าข้าเหม็นเหรอไอ้นี่”
พ่อจับผมหันตัวกลับมากดหน้าผมผมเข้ากับรักแร้ หัวเราะดังลั่น
ผมดิ้นฝืน พยายามใช้สองมือผลักอกพ่อออก แต่พักเดียวผมก็ต้องใช้สองมือกอดเอวพ่อ แนบหน้าพงขนรักแร้ดกหนา สูดดมเอากลิ่นของความเป็นชายที่ทำให้ใจผมเต้นไม่เป็นจังหวะ
“หึ ๆ ไงล่ะ เหม็นไหม”
ผมไม่ตอบ ควยแข็งแนบอยู่กับควยพ่อแทบจะเป็นเนื้อเดียวกัน
พ่อประคองผมไปนั่งบนเตียง แล้วเดินไปปิดประตูหน้าต่าง ก่อนจะมายืนอยู่เบื้องหน้าผม
“แก้ว... แก้วดมสิ เหม็นไหม” พ่อแอ่นดุ้นควยที่ห่อหุ้มด้วยกางเกงในมาตรงหน้า
ผมค่อย ๆ จรดจมูกลงบนผ้าสีเหลืองที่เป็นขุย กลิ่นสาบแห่งความเป็นชายฉุนกว่าเมื่อคืนมาก แต่ยิ่งกลิ่นแรงก็ยิ่งเร้าอารมณ์ ผมสูดหายใจเข้าเต็มปวด มือลูบควยตัวเองที่แข็งจนปวด พ่อขยับตัวเข้าใกล้ ยกแขนผมขึ้นแล้วรูดเสื้อผมออก ก่อนที่จะโถมตัวลงมาคร่อมผมไว้ แล้วประกบจูบลงบนริมฝีปากอย่างเร้าร้อน
“หอมไหมแก้ว... ควยผัวหอมไหมตอบพ่อสิ” พ่อหอบหายใจถี่ คงเงี่ยนเต็มที่
“หอมจ๊ะ”
“อื่อ ถ้าชอบผัวจะให้ดมควยทุกวันเลยนะ แต่เมียต้องอมควยให้ผัวด้วยนะ”
ผมพลิกตัวขึ้นคร่อมพ่อแทนคำตอบ ใช้จมูกไล้ตามซอกคอพ่อตามบทเรียนที่ได้รับเมื่อคืน
“อืมม์...” พ่อทอดตัวนอนผ่อนคลาย ครางอย่างพอใจ
ผมใช้ลิ้นไล่วนหัวนมสีคล้ำของพ่อ แล้วดูดเลียอย่างหิวกระหาย พ่อครางเบา ๆ อยู่ตลอดเวลา แกยกแขนทั้งสองขึ้นหนุนหัว เหมือนอนุญาตให้ผมดอมดมกลิ่นแห่งความเป็นชายได้เต็มที่ ผมเลื่อนจมูกไปที่พงขนดกหนาใต้วงแขน แล้วไล่ลิ้นลงไปรับรสเค็มเจือขม
“”อ้า... ” พ่อหลับตาปี๋ ส่งเสียงครางแหบต่ำ
เมื่อสูดกลิ่นใต้วงแขนทั้งสองข้างจนหนำใจ ผมก็ค่อย ๆ เลื่อนตัวลงไปยังท่อนล่างของพ่อ ตอนนี้ควยดุ้นใหญ่โผล่หัวออกมาจากขอบกางเกงใน น้ำเมืองไหลเยิ้มจากปลายควยจนผมอดไม่ได้ที่จะใช้ลิ้นเลียชิมรส
“ซี๊ด... -เอี้ย-เอ้ย ไม่ไหวแล้ว ดูดควยกูสักที...”
ผมนึกสนุกแกล้งพ่อ ยังไม่ยอมให้ดุ้นเนื้อผ่านเข้าไปในปาก แต่ค่อย ๆ ใช้ปากรูดกางเกงในลง ซุกใบหน้ากลั้วกับหมอยดกหยิก ไล่จมูกไปยังง่ามขา พวงไข่ พ่อคงทนไม่ไหว แกผุดลุกขึ้นยืน ดึงแขนผมให้ลุกขึ้นนั่ง ก่อนจะยัดควยเข้าปากแล้วกระแทกเข้าออก
“ไง แกล้งกูเหรอมึง... ยังไงมึงก็ก็ต้องกินควยกูอยู่ดี ซี๊ด... ดูดสิ ดูดแน่น ๆ นั่นแหละ โอ๊ย... -เอี้ย-เอ้ย... กูเสียวควย อู๊ย...”
พ่อใช้มือจิกหัวผมให้รูดปากสวนกับบั้นเอวที่เดาควยเข้าออก อีกมือจับขอบหน้าต่างพยุงตัว ส่วนง่ามหัวแม่ตีนรูดควยผมพลางบี้หัวควยผมไปพลาง
“ข้าวปลาไม่ต้องแดกแล้ว แดกน้ำควยกูนี่แหละอีแก้ว อู้ย... -เอี้ย-เอ้ย... ออกแล้ว ออกแล้ว.... โอ๊ว...”
น้ำเชื้ออุ่น ๆ ของพ่อทะลักเข้าปากผมอย่างมากมาย เกือบจะพร้อมควยผมน้ำที่พ่นน้ำออกมาเพราะโดนตีนพ่อบดบี้
พ่อย่อตัวลงขุกเข่าหันหน้ามาทางผม ประกบปากแบ่งน้ำเชื้อของตัวแกไปกิน แต่แกคงยังไม่พอ จึงก้มลงไปเลียกินน้ำเชื้อที่ควยผมจนเปรอะหนวดเครา
พ่อประคองผมลงนอนหนุนหมอนเก่า ๆ เราดูดปากกันอยู่นาน ไม่สนใจผ้าขนหนูที่กองอยู่บนพื้นดินอัด ไม่สนใจผัดผักบุ้งในตู้กับข้าว ไม่สนใจแม้กระทั่งเงาวาบไหวของใครบางคนที่แอบดูบทรักของเราตั้งแต่ต้น

“ ไม่เอาน่าพ่อ”
“อย่าดิ้นสิ... ให้พ่อล้างให้นะ อย่ามาเขินว่ะ สมัยเป็นเด็กยังให้พ่อล้างให้ทุกวันเลย”
หากใครเดินผ่านมาที่ริมห้วยท้ายทุ่ง คงจะเห็นภาพพ่อลูกกอดปล้ำเล่นในน้ำกันอย่างสนุกสนานด้วยความรักใคร่ แต่เขาคงไม่รู้หรอกว่าความรักของเราดิ่งดำเกินกว่าคนในครอบครัว เกินกว่าศีลธรรมจะเข้าใจ
ผมทิ้งตัวกึ่งนั่งกึ่งนอนลงบนท่าน้ำที่ทำจากไม้ผุ วางหัวไว้บนหน้าอกพ่อที่นั่งขัดสมาดอยู่เบื้องหลัง จำได้ว่าเมื่อครั้งยังเด็กผมก็นั่งเอาหัวพิงอกให้พ่ออาบน้ำถูสบู่อย่างนี้เสมอ ต่างกันที่ว่าครั้งนี้มีดุ้นเนื้ออุ่น ๆ ดุนหลังของผมอยู่ตลอดเวลา
พ่อใช้มือถือก้อนสบู่ลูบไล้ไปตามเนื้อตัวผมอย่างแผ่วเบา มือหนาแกร่งของแกไล่ผ่านหัวนม หน้าท้อง จนถึงกางเกงในที่ห่อหุ้มท่อนเนื้อของผม
“ลูกพ่อนี่ไม่เบาเหมือนกันนะ”
“พ่อ... อย่า เดี๋ยวใครมาเห็น”
“เย็นขนาดนี้ ไม่มีใครมาหรอกแก้ว”
พ่อรั้งกางเกงในผมลงไปไว้ใต้ไข่ ปลดปล่อยดุ้นเนื้อให้เป็นอิสระจากการเกาะกุมของกางเกงในตัวเก่า แกรูดควยผมช้า ๆ ความลื่นจากฟองสบู่สร้างความเสียวจนผมหลับตาปี๋ สองมือจับแขนพ่อแน่น
“เป็นอะไรแก้ว... หึ... บอกพ่อสิ... หนูเป็นอะไร...”
“พ่อ... ซิ๊ดดดด”
“บอกพ่อสิ หนูเป็นอะไร”
“พ่อ... ฉันเสียว...”
พ่อหัวเราะเบา ๆ ร่นกางเกงในผมลงไปอยู่ที่น่อง แล้วจับเข่าผมให้ชันขึ้น แกใช้สบู่ถูไปตามร่องก้น ก่อนจะปล่อยให้นิ้วแกร่งผ่านเข้าออกในร่องรูของผมช้า ๆ
“พ่อ... พ่อว่าอย่างนี้มันจะดีแล้วเหรอ”
ผมเงยหน้าถาม บางครั้งศีลธรรมก็ทำให้ผมไม่มั่นใจ
พ่อไม่ตอบแต่โน้มตัวลงจรดริมฝีปากลงบนหน้าผากผมอย่างอ่อนโยน
พระอาทิตย์ทิ้งตัวลงจูบขอบฟ้า เช่นเดียวกับผมและพ่อที่ประกบปากจูบกันแนบสนิท เสียงหายใจของเราเป็นจังหวะพร้อมกับหัวใจที่เต้าเร่า ผมและพ่อยืนอยู่กลางลำห้วย น้ำแค่เอวช่วยซ่อนท่องล่างของเราสองคนในที่บดเบียดกันอย่างแนบแน่น เมื่อจูบจนพอใจพ่อก็เดินทวนน้ำอ้อมมายืนด้านหลังของผม ปากไล้ไปตามซอกคอและใบหูแผ่วเบา นิ้วมือซนชอบไชในถ้ำผมช้า ๆ แต่หนักหน่วง “แก้ว... พ่อไม่ไหวแล้ว พ่อขอนะ”
ยังไม่ทันจะได้ตอบอะไร พ่อก็เลื่อนตัวเข้ามาประกบกับด้านหลังของผมแนบสนิท แกรูดกางเกงในของเราทั้งสองลงไปที่หัวเขา แล้วค่อย ๆ ยัดดุ้นเนื้อเข้าไปในร่องรูของผม แล้วเสียงกระแทกบั้นเอวแหวกสายน้ำก็ดังลั่งคุ้ง
ผืนฟ้าสีดำเหมือนเส้นผมดำขลับของสตรีที่ประดับด้วยเพชรสุกวาวนับล้าน ลมหนาวหอบกลิ่นดอกไม้กลางคืนกำจายไปทั่ว ผมนอนห่มผ้าผวยผืนอุ่นอยู่บนกระท่อมปลายนาหลังคามุงสังกะสี ทอดตามองไปยังพ่อที่นั่งพ่นควันยาสูบพลาง จิบเหล้าพลางอยู่ข้างกองไฟ
“ง่วงแล้วเหรอแก้ว”
“จ้าพ่อ...”
“หนาวไหมละ มานอนข้างไฟไหม”
ผมยันตัวลุกขึ้น สลัดผ้าผวยคลุมตัว เดินไปนั่งยองยองข้าง ๆ พ่อ
พ่อดึงข้อมือผมไปนั่งบนฟืนท่อนใหญ่เคียงข้าง แล้วโน้มหัวผมเอนซบบนไหล่แก
“ปีนี้ข้าวงามดีนะแก้ว ถ้าได้เยอะ พ่อว่าจะขอซื้อข้าวต่อลุงผู้ใหญ่ซักกระสอบ ไว้ถวายวัด”
แสงจากกองไฟฉาบรวงข้าวใกล้ ๆ เป็นสีส้มแก่ แม้ผมและพ่อจะช่วยกันปลูก ดูแล เก็บเกี่ยว นาข้าวผืนนี้ แต่มันไม่เคยเป็นของเรา นาผืนนี้รวมถึงบ้านที่เราอาศัยเป็นของลุงผู้ใหญ่ พ่อเล่าให้ฟังว่าแกอยู่ช่วยงานที่บ้านลุงผู้ใหญ่มาตั้งแต่เล็ก พอพ่อโตเป็นหนุ่มลุงผู้ใหญ่ก็ฝากงานให้ที่โรงสีเจ๊กฮง แต่พ่อก็ยังแวะเวียนไปช่วยงานบ้านลุงผู้ใหญ่อยู่เสมอ นาผืนนี้ก็เป็นหนึ่งในงานที่พ่อทำให้ลุงผู้ใหญ่ อาจจะไม่ได้เงินทอง แต่ลุงผู้ใหญ่ก็แบ่งข้าวให้เราได้หุงเต็มหม้อตลอดปี
ในความเงียบผมได้ยินเสียงลมหายใจของพ่อ นานเท่าไหร่แล้วที่ผมไม่ได้ยินเสียงหายใจที่คุ้นเคย ผมช้อนตาขึ้นไปมองดวงหน้าพ่อ พร้อม ๆ กับที่พ่อทอดตาลงมามองหน้าผม
แกโน้มตัวลงวางริมฝีปากบางลงบนริมฝีปากผม ลิ้นอุ่น ๆ ของแกไล้ลูบลงบนริมฝีปากจนผมอดไม่ได้ต้องปล่อยให้ลิ้นนั้นแทรกเข้ามาในช่องปาก ลมหายใจของแกเจือด้วยกลิ่นเหล้าขาวบาง ๆ
“พ่อง่วงแล้วขึ้นไปนอนบนกระท่อมเถอะ”
เมื่อถึงกระท่อม เราสองคนพ่อลูกต่างก็ถอดเสื้อผ้าตัวเองออกอย่างรู้หน้าที่ ร่างกายของเราเหมือนงูใหญ่สองตัวที่กระหวัดรัดแน่น เนื้อแนบเนื้อ ปากประกบปาก ถ่ายทอดความอบอุ่นให้แก่กันกลางคืนหนาว
แล้วพ่อก็รุกล้ำเข้ามาในตัวผมเป็นครั้งที่สองของวัน แกจับผมยืนกอดเสากระท่อมแล้วกระแทกเสาของแกเข้ามาในตัวผมอย่างหนักแน่น ในที่สุดแกก็ปล่อยน้ำรักเข้ามาในตัวมากมายไม่แพ้บทรักกลางห้วยเมื่อตอนเย็น
เราสองคนพ่อลูกนอนตะแคงมองหน้ากัน มีผ้าผวยคลุมร่างเปลือยเปล่ากันลมหนาว
“ไง ชอบไหมแก้ว เอากันที่นี่พ่อว่ามันเสียวกว่าในบ้านน้อ”
“บ้า... ฟ้าจะผ่าเอา”
“แหม วันนี้ให้พ่อเย็ดตั้งสองครั้ง ไม่เห็นกลัวฟ้าผ่า... คืนนี้มาให้พ่อเอาอีกสักสองทีนะคนดีของพ่อ...”
“พ่อก็พูดไป ฉันไม่ได้จะให้พ่อเอาได้ตลอดเวลาเหมือนน้าดวงนะ”
ผมพูดถึงกะเทยแม่ค้าคู่ขาของพ่อ
พ่อหัวเราะร่วน ตีหน้าทะเล้น “ทำไม หึงหรือไง.. หึงผัวเหรอจ๊ะเมียจ๋า ผัวจะเอาเวลาที่ไหนไปอยู่กับคนอื่น วันนี้เลิกจากที่โรงสีก็กลับมาเย็ดเมียเลยเนี่ย อย่าหึงนะเมียจ๋า... อย่างอนน่า มา ๆ เดี๋ยวผัวจะเย็ดให้ครางเลยนะ อย่าโกรธผัวนะ...” ว่าแล้วพ่อก็ตะบรมจูบลงบนใบหน้าของผมอย่างหมันเขี้ยว แล้วกอดผมไว้ในอ้อมออกอุ่น
“เออว่าแต่คืนที่ฉันมาเจอพ่อกับน้าดวง... พ่อร้องโอ๊ยอะไรดังลั่น”
พ่อนิ่งไป ก่อนจะปฏิเสธกุก ๆ กัก ๆ
“พ่อ ไหนสัญญาว่ามีอะไรจะบอกฉันทุกอย่างไง รู้ไหมว่าวันนั้นฉันเป็นห่วงพ่อแค่ไหน นึกว่าโดนงูกัดไปซะแล้ว”
พ่อถอนหายใจเบา ๆ ยิ้มอาย ๆ
“เองรู้เรื่องนี้แล้วห้ามไปบอกใครนะเว้ย... คืนนั้นไอ้ดวงมันจะ... “
“น้าดวงเขาจะอะไรละพ่อ”
“มันจะเอาตูดพ่อว่ะ... คือตอนไอ้ดวงมันเลียตูดข้าแม่งโคตรเสียว พอข้าเผลอมันก็ยัดนิ้วเข้าไปในรูตูดข้า แม่งโคตรเจ็บ ข้าถึงกับร้องโอ๊ย สะดุ้งตีนกระตุกถีบมันเกือบตกกระท่อม ซักพักเอ็งก็มาแหละ ”
ผมนิ่งไปครู่ นึกไม่ถึงว่ากะเทยผมยาวอย่างน้าดวงจะอยากเย็ดพ่อ
“อ้าวไอ้แก้ว... เงียบเลย อย่านะเว้ย อย่านะ เอ็งอย่าคิดว่าข้าจะให้เองนะเว้ย”
ผมหัวเราะกับสีหน้าของพ่อ แกคงเข็ดการโดนเย็ดตูดไปชั่วชีวิต
“อะไรอ่ะพ่อ ที่น้าดวงพ่อยังให้เลย แล้วนี่ฉันเป็นลูกพ่อแท้ ๆ พ่อจะไม่ให้ฉันบางเหรอ” ผมหยอกแกอย่างนึกสนุก
พ่อเอามือตบหัวผมเบา ๆ “กวนตีนละมึง กูบอกว่ากูไม่ได้ให้ แม่งแค่เอานิ้วแทงเข้ามากูก็ถีบหงายแล้ว มึงนี่ทะลึ่งนะไม่รู้จักเด็กรู้จักผู้ใหญ่”
ผมเห็นอย่างนั้นก็กวนตีนแกต่อ ด้วยการถัดตัวเข้าไปกระดกบั่นเอวเด้าขาแก แล้วหัวเราะร่วน โดยไม่ทันสังเกตว่าพ่อนิ่งไป
“เองอยากลองจริง ๆ เหรอว่ะแก้ว” แล้วพ่อก็พลิกตัวนอนตะแคงหันหลังให้ผม
ผมใจเต้นตึกตัก ไม่คิดว่าพ่อจะยอมให้ผมเก็บเกี่ยวความสุขจากร่างกายแก แม้จะรู้ว่าพ่อจำใจ แต่ความอยากรู้อยากลองมันกระตุ้นให้ผมค่อยเอื้อมมือไปลูบก้นแน่น ๆ ของพ่อ ผมเคยแต่ชักว่าว ยังไม่เคยสอดใส่ในรูของใคร ไม่ว่าจะผู้หญิงหรือผู้ชาย
ผมถักตัวลงไปให้หน้าตรงกับก้นอวบหนาของพ่อ แม้จะรักพ่อ แต่การที่จะให้ผมเลียตูดแกก็ต้องใช้ทำใจอยู่เหมือนกัน ผมค่อย ๆ ไล้ลิ้นไปตามแก้มก้นแน่น ๆ ที่มีขนเลื้อยออกมาจากร่องตูด แม้จะเก้ ๆ กัง ๆ ไปบ้าง แต่พ่อก็ครางเบา ๆ ให้ผมรู้ว่าแกชอบใจ ผมคงจะชักช้าไม่ทันใจ แกเลยใช้มือขวา แหกแก้มก้นขึ้นให้ผมทำขั้นตอนต่อไปเสียที
ไฟจากจะเกียงเจ้าพายุ ส่องให้เห็นร่องก้นที่มีขนดำดกหนา กลางพงขนนั้นหนังจีบย่นเป็นวงกลมที่ขมิบ-คลาย ตามจังหวะหายใจ ผมตัดสินใจใช้จมูกนำร่องลงไป เมื่อขนหยาบหนาสัมผัสจมูกผมก็รู้ว่าร่องตูดนั้นไม่ได้น่ารังเกียดอย่างที่ผมคิด กลิ่นมันเหมือนกับรักแร้ของพ่อพี่ผมชอบ ผมจึงค่อย ๆ ใช้ลิ้นปาดลงไปตามร่องเบา ๆ รู้สึกได้ว่าพ่อกลั้นหายใจตัวเกรง
“อ๊ากกก... ” พ่อครางแหบต่ำเมื่อผมไล้ลิ้นลงบนบนรอยจีบหูรูด
ยิ่งผมเม้มปากดึงจีบย่นนั้นขึ้นมาพ่อยิ่งคราง ผมได้ใจจับแกนอนหงาย ยกขาขึ้นพาดบ่า แล้วก้มลงตะบมทั้งปากลิ้นลงไปบนหูรูดของพ่อจนแกก้นไม่ติดพื้น เมื่อพ่อนอนหงายร่องรูของพ่อยิ่งเปิดกว้าง ผมจึงสามารถใช้ลิ้นสอดเข้าไปเพื่อลิ้มรสรูตูดของพ่อได้อย่างเต็มอิ่ม พอหนำใจ ผมก็ใช้นิ้วกลางค่อย ๆ สอดเข้าไป ช้า ๆ แม้น้ำลายที่ชุ่มรูจะช่วยหล่อลื่น แต่ความคับแน่นของร่องรูทำให้ผมต้องใช้แรงกดนิ้วเข้าไป
“โอ๊ย...” พ่อร้องออกมาเมื่อนิ้วกลางของผมกดเข้าไปในมิดนิ้ว
“เจ็บเหรอพ่อ”
พ่อส่ายหน้า ปากซิ๊ดซาดหน้าสายไปมา เมื่อแกไม่ว่าอะไรผมจึงค่อย ๆ เลื่อนนิ้วเข้าออก เหมือนกับที่แกชอบทำก่อนจะเย็ดผม พ่อครางถี่ขึ้นเรื่องยๆ ตามจังหวะที่ผมยัดนิ้วเข้าออก
จากหนึ่งนิ้วเป็นสอนนิ้ว จากสองนิ้วเป็นสามนิ้ว รูตูดของพ่อแหกกว้างจนผมคิดว่าน่าจะอมดุ้นเนื้อของผมได้
“พ่อ... ฉันขอเลยนะ”
เมื่อพ่อส่งเสียงอือออแทนคำอนุญาต ผมจึงเลื่อนตัวเข้าใกล้ตูดพ่อ ยกขาแกพาดไหล่ให้มั่น แล้วจึงค่อย ๆ ยัดดุ้นควยเข้าไป เพียงแค่หัวควยสัมผัสกับหูรูดพ่อ ผมก็เสียวจนบอกไม่ถูก ยิ่งเมื่อมันเคลื่อนเข้าไปหูรูดก็ยิ่งรัดแน่นจนผมเจ็บปลายควย แต่ยังไม่ทันที่หัวเงี่ยงจะผ่านเข้าไปได้ พ่อก็ทนไม่ไหวถัดตัวหนีไปอย่างรวดเร็ว
ผมยังคงนั่งคุกเข่าทำอะไรไม่ถูก ส่วนพ่อก็บ่นอะไรงึมงำฟังไม่ได้ศัพท์ แต่ในขณะที่ผมคิดว่าเกมนี้จบลงเร็วกว่าที่คิด พ่อก็บอกให้ผมนอนหงาย แกนั่งยองยองคร่อมส่วนล่างของผม ถมน้ำลายใส่มือแล้วป้ายรูตูดตัวเอง ก่อนจะจับควยผมให้ตั้งตรง แล้วค่อย ๆ นั่งทับดุ้นควยให้เข้าไปในรูอันฟิตแน่น
พ่อเชิดหน้ากัดฟันไม่ให้เสียงรอดผ่าน จนควยของผมเข้าไปมิดด้าม แกนั่งนิ่งก้มหน้าอยู่ครู่ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองหน้าผม
“แก้ว ข้าให้เอ็งคนแรกเลยนะ ข้ายอมทำอย่างนี้ให้เองคนเดียว ข้ารักเองนะ...”
แล้วพ่อก็ค่อย ๆ โย่งตัวขึ้นช้า ๆ แล้วกดลง ขึ้นและลง ขึ้นและลง ยิ่งเร็วขึ้นเสียงครางด้วยความเจ็บปวดของแกยิ่งกลายเป็นแห่งความเสียว พ่อขย่มตัวขึ้นลงช้าลงเรื่อย ๆ เพราะความเหนื่อย ผมจึงค่อย ๆ เด้าบั้นเอวสวนขึ้นไป เมื่อพ่อกระแทกตูดลง ผมก็กระแทกควยขึ้น เสียงตับ ๆ ดังเป็นจังหวะ ยิ่งผมเด้าแรง พ่อก็ยิ่งกระแทกเข้ามาแรง
ผมทนไม่ไหว ดึงควยออกมา พลิกตัวพ่อลงนอนหงาย พ่อก็รู้งานใช้มือรั้งสองขาของตัวเองไว้ให้ผมเย็ดอย่างสะดวก ผมรีบเอาหัวควยจ่อหูรูดของพ่อก่อนจะกระแทกทีเดียวมิดลำ พ่อร้องโอ๊ยด้วยความเจ็บปวด แต่ ณ เวลานั้น ผมไม่สนใจอะไรนอกจากความคับแน่นเหนี่ยวหยุ่นที่ให้ความสุขอยู่เบื้องหน้า ผมกระแทกควยถี่จนหนำใจ แล้วจึงเปลี่ยนมาสาวควยออกสุด กระแทกเข้าสุด เหมือนที่พ่อผมชอบทำ พอควยหลุดผมก็เปลี่ยนท่าให้พ่อคุกเขาเป็นท่าหมา แล้วยักควยเขาไปกระแทกรัว ๆ ไม่คิดชีวิต
“แก้ว... ไม่ไหวแล้วว่ะ ใกล้ยัง... อู๊ย... เมียจ๋า พี่ไม่ไหวแล้ว เย็ดพี่แรง เร็ว ๆ เร็วอีก โอ๊ย ไม่ไหวแล้ว เร่งหน่อย ขี้จะแตกแล้ว”
ผมไม่ตอบผม เร่งเย็ดถี่อย่างไม่รู้เหน็ดเหนื่อย จนรู้สึกว่ามองอะไรรอบตัวระยิบระยับ หื้อ หน้ามืดเหมือนจะเป็นลม เพียงไม่นานน้ำควยร้อน ๆ ก็พุ่งจากควยของผมไปสู่รูตูดของพ่อ พ่อผู้ให้กำเนิดผม...


ยิ่งดึกยิ่งหนาว เราสองคนพ่อลูกต้องหยิบเสื้อผ้ามาใส่แล้วนอนกอดกันใต้ผ้าห่ม
“พ่อเจ็บไหม” ผมพูดพลางเอามือลูบก้นแน่น ๆ ของพ่อ
“ทะลึ่งนะมึง ข้าสงสานหรอกเลยให้ จะได้เย็ดเป็นกับเขา ”
“ฉันเย็ดเป็นแล้วใช่ไหมละ เมื่อกี้พ่อครางใหญ่เลย” ผมพูดกลั้วหัวเราะ
“อ้าวไอ้นี่.... ให้เย็ดทีเดียวนี่ขึ้นหน้าเชียว มานี่เดียวข้าจะทำให้ดูว่าคนเย็ดเก่ง ๆ เขาทำยังไง”
พ่อดึงมุดลงใต้ผ้าผวย ใช้หนวดเคราสาก ไซ้ไปตามหน้าท้องและบั้นเอวจนผมหัวเราะลั่น ดิ้นไปมา
ในเวลานั้นเองที่ผมเหลือบไปเห็นดวงไฟนับสิบที่มุ่งตรงมายังเรา แต่ยังไม่ทันที่จะบอกพ่อ กระท่อมทั้งหลังก็สว่างด้วยแสงไฟฉายนับสิบดวงที่ส่องขึ้นมา จนผมยกแขนขึ้นบังไม่ให้แสงจากไฟแยงตา พ่อมุดตัวขึ้นมาจากผ้าห่ม ตะโกนถามว่าใครกันที่ส่องไฟมา แต่แล้วแกก็นั่งแข็งทื่อเหมือนเห็นผี
ผมลดแขนที่บังตาลง พยายามมองผ่านแสงไฟฉายนับสิบดวงที่จู่โจม ผู้มาเยือนคืนนี้ไม่ใช่ใคร
หนึ่งในนั้นคือใบหน้ากลมมนของลุงผู้ใหญ่ ที่ไม่เหลือเค้าคนใจดี...
และอีกใบหน้าที่ผมคุ้นเคยเป็นพิเศษ ใบหน้ายาวตอบ ปกด้วยเส้นผมแดงยาว... ใบหน้าของน้าดวง!!!
ผมย้ำเท้าเดินอย่างรวดเร็ว ทุกย่างก้าวถูกขับเคลื่อนด้วยความแค้นในใจ...
นั่นมันอยู่นั่น มันนั่งหัวเราะรวนกับเพื่อนแม่ค้าของมัน เรื่องของผมคงจะเป็นเรื่องสนุกให้นินทาอย่างเพลินปาก เรื่องของผม... ความลับของผมและพ่อที่ไม่ลับอีกต่อไป...
ยิ่งผมย่างเท้าเข้าใกล้ หัวใจยิ่งเต้นแรง มือไม้สั่นเทา ขอบตาร้อนจนน้ำตารื้น มันรับรู้ได้ถึงการมาของผม เสียงหัวเราะหยุดลง ดวงตาที่ถูกแต้มแต่งด้วยเครื่องสำอางราคาถูกมองมาทางผมอย่างสงสัยระคนท้าทาย
แล้วผมก็ทำ! ผมใช้มือยกหาบถั่วของมันขึ้นมา แล้วเทลงบนเส้นผมสีแดงยาวน่าเกลียดนั่น!!!หลังจากผู้มาเยือนที่ไม่คาดคิดมาหาเราที่กระท่อมปลายนา พ่อเดินลงไปคุยอะไรกับผู้ใหญ่บ้านเบา ๆ แล้วเดินกลับมาบอกให้ผมกลับไปนอนที่บ้านก่อน ตั้งแต่ก้าวแรกที่ผมเดินลงจากกระท่อมผมก็รู้สึกได้ว่าสายตานับสิบคู่จ้องมองผมเหมือนจะถามเอาความจริง เมื่อผมเดินลับจากพวกเขามาได้ ผมจึงวิ่ง วิ่งเต็มสองตีน
พ่อยังไม่กลับบ้าน... ผมอาบน้ำแต่งตัวใส่ชุดนักเรียนเหมือนปรกติ แต่จิตใจล่องลอยไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ใจหนึ่งก็เป็นห่วงว่าพ่อจะอยู่ไหน จะเกิดอะไรขึ้นกับพ่อ ใจหนึ่งก็นึกกังวลว่าคนรอบข้างผมจะคิดอย่างไรกับเรื่องที่เกิดเมื่อคืน
แล้วก็จริงอย่างที่ผมคิด ระหว่างทางไปโรงเรียนไม่มีเสียงทักทายหยอกเย้าเหมือนเคย มีแต่สายตาที่เพ่งมาเพื่อจะถามเอาว่าความจริงที่กระท่อมปลายนาเป็นอย่างไร แม้กระทั่งไอ้ขวัญเพื่อนสนิทก็ยังเดินตามผมอยู่ห่าง ๆ
“เอาละ เดี๋ยวครูจะให้พวกเธอจับกลุ่มกัน แล้วทำแบบฝึกหัดหน้าห้าสิบสี่นะ” สิ้นคำสั่งของครูวิชัย นักเรียนในห้องมอสามทับสอง ต่างแยกย้ายกันไปนั่งกับเพื่อนในกลุ่มที่อยากทำงานร่วมกัน เหลือเพียงแต่ผมที่ยืนอยู่เพียงคนเดียว
“หน้าไหนนะไอ้ขวัญ” ผมทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เดินเข้าไปนั่งรวมกลุ่มเดียวกับไอ้ขวัญและเพื่อนอีกสี่คน
“นี่ไงคำตอบมันอยู่ตรงนี้...”
“เราต้องสรุปใจความก่อนแล้วค่อยเขียนคำตอบ”
“อ้าวพวกมึงเงียบ-เอี้ย-อะไรกันเนี่ย... จะให้กูทำคนเดียวเลยหรือไง”
“กูว่ามึงนั่งเงียบ ๆ เก็บปากไว้อมควยพ่อมึงดีกว่าว่ะไอ้แก้ว”
ไอ้ขวัญพูดขึ้นลอย ๆ สายตาเหม่อมองออกไปนอกต่าง
ทุกคนอึ้งไปชั่วขณะ ไม่คิดว่าไอ้ขวัญจะพูดประโยคนี้ออกมา และในชั่วนาทีหลังจากนั้น เสียงจากนักเรียนทั้งห้องก็พุ่งตรงมาที่ผม หลายคนยิ้มเยาะ หลายคนตั้งคำถาม หลายคนแสดงความรังเกียจ
ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในนาทีนี้มันเกินกว่าที่ผมจะอดกลั้น ผมสาว ๆ เท้าช้า ๆ ไปยืนหน้าขวัญ เสียงต่าง ๆ ในห้องเงียบลง
“ทำไม.. มึงพูดอย่างนี้กับกู” ผมก้มหน้ามองพื้น ส่งคำถามผ่านฟันที่กัดแน่น
“มึงจะทำไมกับกู... จะจับกูเย็ดตูดเหรอว่ะ”
ไอ้ขวัญยืดตัวตรง มองมาทางผมอย่างท้าทาย เสียงโห่ฮาดังมาจากรอบทิศ
ผมพุ่งหมัดตรงเข้าตรงสันจมูกของไอ้ขวัญแทนคำตอบ มันหงายหลังลงพร้อมกับเก้าอี้ที่นั่งอยู่ดังโครม เสียงในห้องเงียบลงอีกครั้ง ทุกสายตาต่างจับจ้องมายังไอ้ขวัญที่มีเลือดเต็มจมูกเต็มปาก
ท่ามกลางเสียววุ่นวน ผมหันหลังออกไปจากห้องเรียน.... จุดมุ่งหมายของผมคือตลาดที่ท่ารถสองแถว...
“มึงทำ-เอี้ย-อะไรเนี่ย”
อีดวงแพดเสียงใส่ผม สองมือปัดเม็ดถั่วออกจากเส้นผมสีแดงยุ่งเหยิง
“ก็ทำเรื่อง-เอี้ย- ๆ ให้คน-เอี้ย- ๆ อย่างมึงได้สำนึกไง”
ผมโดดเข้าทึ่งผมอีดวง กอดปล้ำกันจนแม่ค้าคนอื่นวิ่งหนี
มันและผมต่างลงไปคลุกฝุ่นทึ้งเส้นผมผมลับกับตะโกนด่าทอใส่หน้ากัน ผมและอีดวงในเวลานี้ไม่ต่างจากหมาสองตัวที่กำลังกัดกัดกัน อีดวงมันร้ายพอตัวอาศัยจังหวะที่เผลอพลิกคร่อมตัวผม มันใช้เล็บยาวสกปรกข่วนหน้าผมเสียเลือดซิบ แต่ผมหรือจะยอมแพ้ ประเคนตีนหนัก ๆ ถีบไปตรงท้องของมันจนตัวงอถอยหลัง ผมได้ทีลุกขึ้นยกตีนเตะหน้ามันจนล้มกลิ้ง ในใจคิดว่าเอาไงเอากัน ชีวิตนี้ไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้ว
เมื่อเห็นว่าสถานการณ์รุนแรงขึ้นเรื่อง ๆ พวกหนุ่ม ๆ คิวสองแถวก็เปลี่ยนบทจากกองเชียร์เข้ามาห้ามปราม ทิดดีเพื่อนตัวใหญ่ของพ่อล็อกแขนของผมกึ่งอุ้มกึ่งลากออกมา ส่วนอีกสองคนวิ่งไปดูอาการอีดวงกันด้วยความเป็นห่วงออกหน้า
ยิ่งเห็นอย่างนั้นผมยิ่งโมโห พยายามดิ้นออกจากการเกาะกุมของทิศดี “อี-เอี้ย- คงให้เขาเย็ดกันหมดตลาดแล้วมั่ง สำออยฉิบหาย อีสัตว์กูเห็นเวลาอยากแดกควยแล้วระริกระรี่...”
ผมตัดสินใจกัดแขนทิดดีเต็มแรง ด้วยความเจ็บทิดดีจึงเหวี่ยงผมหลังกระแทกพื้น "ไอ้-เอี้ย- ถ้าไม่ใช่ลูกหลาน กูจะกระทืบให้หายบ้าเลย"
ผมไม่สนใจคำทิดดี ประคองตัวเองลุกขึ้นตามองหาแต่อีดวง หวังจะกระทืบให้หายหมันไส้ แต่อีตัวดีไม่อยู่ตรงนั้นเสียแล้ว เพื่อนแม่ค้าของมันคงพาไปหลบที่ไหนซักที่
"สงสัยมันจะหึงพ่อมัน"
"โอ้ย...อย่ามาผ่านหน้าร้านกู เดียวทำมาค้าไม่ขึ้น เป็นกะเทยแล้วยังเย็ดกับพ่ออีก ไอ้เสนียด"
"กูเห็นอีดวงมันอยู่ดีๆ ไอ้เด็ก-เอี้ย-นี่ก็มาหาเรื่อง น่าจับส่งตำรวจนัก
ผมพยายามเดินออกมาจากตลาดโดยไม่สนใจต่อคำซุบซิบนินทาของพวกไทยมุง แต่ถ้าเหลืออดผมก็ส่งตาขวางไปให้รู้ว่ามันวอนตีน แต่ก็ไม่มีใครกล้ากับหมาบ้าอย่างผม
ผมหลบไปนั่งสงบสติอยู่หลังวัด จนตะวันยอแสงจึงตัดสินใจพาร่างกายปวกเปียกหมดเรี่ยวแรงกลับบ้าน แม้กลิ่นทุ่งระหว่างทางจะช่วยลดอารมณ์ขุ่นมัว แต่ใจก็ยังอดสับสนจากเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้โดยเฉพาะเรื่องของไอ้ขวัญ เพื่อนที่ผมรักที่สุด
ผมกับไอ้ขวัญโตด้วยกันมา ถึงแม้มันจะเป็นลูกลุงผู้ใหญ่ แต่มันก็ไม่เคยแสดงความรังเกียจต่อผมและพ่อซึ่งอาศัยข้าวน้ำของผู้ใหญ่เลย มันยังเคารพพ่อผมไม่ต่างกับมันด้วยซ้ำ ด้วยความที่พ่อมักจะไปช่วยงานที่บ้านผู้ใหญ่เสมอ เราเลยเล่นด้วยแทบจะทุกวันตั้งแต่เด็กจนเริ่มแตกหนุ่ม แม้มันจะกลับอะไรไร้สาระไปบ้าง แต่เวลาที่ผมถูกล้อหรือรังแก ไอ้ขวัญก็จะปกป้องผมด้วยกำลังของมัน บางครั้งก็ด้วยบารมีพ่อ ผมเองก็ช่วยเหลือมันมาตลอดโดยเฉพาะเรื่องการบ้าน ไม่นึกเลยว่าในวันนี้มันจะทำให้ผมน้ำตาตกได้
ตะวันอ่อนแสง ฟ้าสีดำเริ่มทิ้งตัวลงมาจูบดิน อีกไม่กี่กว้าก็จะถึงบ้านแล้ว ผมนึกภาวนาให้พ่อกลับมารอผมที่บ้าน ผมอยากจะวิ่งถลาเข้าสู่อมอกพ่อแล้วร้องไห้กับเรื่องที่เกิดขึ้นตลอดวัน...
นั่น! ควันบุหรี่สายบาง ลอยตัวลอดออกมาจากช่องหน้าต่าง พ่อคงกลับมาบ้านแล้ว! ไวเท่าความคิด ผมวิ่งสุดฝ่าตีนไปยังบ้านของผม
แต่คนที่นอผมอยู่ที่กระต๊อบกลับไม่ใช่พ่อ ไอ้ขวัญในชุดนักเรียนเปื้อนเลือด นั่งสูบบุหรี่อยู่บนแคร่ มีเด็กวัยรุ่นลูกน้องพ่อมันสองคนยืนอยู่ข้างตัว ไม่ทันที่ผมจะพูดอะไร เด็กวัยรุ่นทั้งสองก็เข้าล็อกตัวผมไว้ไม่ให้ขยับหนี ไอ้ขวัญสาวเท้าเข้ามาใกล้ ส่งยิ้ม-เอี้ย-มเกรียม ก่อนจะต่อยเข้าที่ใบหน้าผม ตรงที่ผมเคยต่อยมัน และอีกไม่กี่นาทีต่อมาผมก็อยู่ในสภาพก้อนเนื้อที่ไร้เรี่ยวแรง ด้วยแรงมือแรงตีนของไอ้ขวัญกับพวก
น้ำตาอุ่น ๆ ไหลผสมกับเลือดจากแผลแตกปลายคิ้ว สร้างรสคาวเค็มเมื่อสัมผัสริมฝีปาก แม้ร่างจะร้าวจนขยับไม่ได้ แต่สมองผมก็ยังวิ่งวนด้วยความรู้สึกนับสิบใจหนึ่งก็เคียดแค้นไอ้ขวัญที่ตีผมเหมือนตีหมูตีหมา ใจหนึ่งก็เสียใจที่เพื่อนที่รักที่สุดทำผมได้ขนาดนี้
ใจหนึ่งก็ห่วงกังวลว่าพ่อไปอยู่ไหน....

"เป็นไงละมึงรู้หรือยังว่าตอนมึงต่อยกู กูรู้สึกยังไง.....”
ผมเงียบแทนคำตอบ....
“... แต่กูก็มีเรื่องอยากจะรู้เหมือนกันนะว่าเวลาที่พ่อมึงเย็ดตูดมึงมันจะเสียวแค่ไหน ห้าๆ" ไอ้ขวัญและลูกคู่หัวเราะเหมือนตลกเสียเต็มประดา
ไอ้ขวัญกระชากคอเสื้อนักเรียนผมขึ้น แล้วเหวี่ยงตัวผมขึ้นไปบนแคร่ มันขึ้นคร่อมร่างผม เป้ากางเกงอยู่ตรงใบหน้าผมพอดี และเมื่อผมเริ่มจะขัดขึน ลูกน้องมันคนหนึ่งที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ ก็ยืนมือที่ถือมีดพกมาจี้คอผม
"จะดิ้นทำ-เอี้ย-อะไร ควยพ่อมึงกับควยกูก็ควยเหมือนกัน อย่าเรื่องมากนะอีกะเทย ถ้ามึงไม่อยากเจ็บก็เปิดปากอมควยกูซะ แล้วถ้ามึงอมควยกูเจ็บมึงโดนลูกน้องพ่อกูเอามีดแทงคอตายโหงแน่"
ไอ้ขวัญควักควยดุ้นอวบออกมาป้ายปากผม ก่อนจะค่อยๆ กดควยผ่านริมฝีปากเข้าไปภายใน "อ๊ากก... -เอี้ย-เอ้ย... เสียวฉิบหาย มีคนอมควยให้มันดีอย่างนี้เอง รู้อย่างนี้กูให้มึงอมมานานแล้ว โอยยย..." ไอ้ขวัญเลื่อนควยเข้าออกในช่องปากของผมรัวๆ บางทีก็กระแทกเข้าไปจนผมสำลัก
เสื้อนักเรียนของผมถูกกระชากจนกระคุมขาดทุกเม็ด ไอ้ขวัญทั้งกัดทั้งจูบจนผมเป็นจ้ำแดงทั่วหน้าอก แม้จะถูกสัมผัสทั่วร่างแต่ผมก็ไม่เกิดอารมณ์ใคร่ ในเวลานี้ผมอยากจะตื่นขึ้นมาเพื่อพบว่าสิ่งที่เพื่อนรักกำลังกระทำนั้นเป็นเพียงฝัน กางเกงนักเรียนสีกากีตัวเก่าถูกถอดออก ไอ้ขวัญยกขาผมขึ้นพาดบ่า พยายามยัดควยร้อนผ่าวเข้าไปในร่องรูของผมโดยไม่มีสิ่งหล่อลื่นช่วยเหลือ
"โอ๊ย" ผมร้องขึ้นเมื่อปลายควยไอ้ขวัญทะลุผ่านร่องรูที่ฝืดแห้ง
"-เอี้ย-เอ้ย... อย่าสำออยทีควยพ่อมึง มึงยังให้เย็ดได้... ควยกูมึงก็ต้องรับได้ ล่อแม่งฝืด ๆ งี้แหละ ตูดผ่านควยแล้วเอาน้ำลายทาเดียวแม่งหลวม" โชคดีที่ร่างกายคนเรามีน้ำหล่อลื่นตามธรรมชาติเมื่อทำการสืบพันธุ์ น้ำเงี่ยนที่ปลายควยไอ้ขวัญจึงค่อยหล่อลื่นให้ควยดุ้นหนานั้นลอดผ่านเข้ามาในรูผมจนมิดลำ ตลอดเวลาถึงจะเจ็บปวดเหมือนร่างจะแยกฉีก แต่ความเจ็บปวดในใจที่เพื่อนมอบให้ผม มันเจ็บปวดจนต้องระบายออกมาเป็นน้ำตา
เมื่อควยมุดเข้าไปในรูได้ ไอ้ขวัญก็กระแทกควยเข้าออกอย่างบ้าคลั่งเหมือนผมเป็นสิ่งของไม่มีชีวิต "ไงมึง...เสียวไหม... เสียวเท่าควยพ่อมึงไหม... ร้องสิ ครางสิมึง เรียกกูว่าผัวเหมือนที่มึงเรียกพ่อมึงวันนั้น วันที่มึงเย็ดกับพ่อมึงบนเตียงนี้...
ผมยังจำได้ดี เช้าวันที่ผมกับพ่อเล่นรักกันบนแคร่ไม้ไผ่นี้ วันนั้นผมเห็นเงาวาบไหวบางอย่าง แต่รสรักทำให้ผมไม่พยายามใส่ใจกับสิ่งรอบข้าง เงาที่วาบไหววันนั้นคือเงาไอ้ขวัญนั่นเอง
ไอ้ขวัญกระแทกควยถี่หนัก จุดสุดยอดของมันคงงวดเข้ามาเรื่อย "ซิ๊ด... เสียวเว้ย...โอ้ย น้ำกูจะแตกแล้ว แม่งงง เสียว..., โอ้ยกูแตกในรูมึงเลยนะ โอ้ยแก้ว...กูถึงว่าทำไมพ่อมึงถึงครางเหมือนใจจะขาด... แก้ว... แก้ว... กูไม่ไหวแล้วจะแตกแล้ว... โอ้ย.. โอ้ย โอ๊ยยยยย.... ... ... ซี๊ด... อา..." น้ำเงี่ยนร้อนทะลักทลายเขามาในรูผมจนรู้สึกได้ และถึงแม้มันจะถึงสวรรค์ แต่ไอ้ขวัญยังขยับควยเข้าออกในรูเหมือนจะรีดน้ำเงี่ยนให้หมดควย ในขณะที่ผมยังนอนน้ำตาไหล ความรู้สึกเหมือนตกนรกทั้งมี่ยังไม่ตาย
"แก้วมึงเป็นเมียกูนะ... ให้กูเย็ดบ่อย ๆ นะ มึงรู้ไหมกูชอบมึงมานานแล้ว มึงมาเป็นเมียกูนะ เดี๋ยวเรื่องของมึงกับ... กูจะบอกพ่อกูว่ากูเข้าใจผิด" ไอ้ขวัญก้มลงกระซิบข้างหู ร่างกายยังคร่อมผมเอาไว้
"ถุ๊ย... " ผมถมถุยเสลดก้อนใหญ่ลอยไปติดหน้าของไอ้ขวัญ "มึงยังกล้าพูดว่ารักกูเหรอไอ้-เอี้ย-... มึงเอาเรื่องกูกับพ่อไปฟ้องลุงผู้ใหญ่ทำ-เอี้ย-ไร"
ยังไม่ทันจะด่าจบคำ ไอ้ขวัญก็ตบหน้าผมฉาดใหญ่ มันกระชากเส้นผมของผมขึ้นให้มองหน้ามัน "ไอ้สัตว์ ก็กูรักมึงไง กูทนเห็นมึงเย็ดกับพ่อมึงหรือใครทั้งนั้นไม่ได้ กูก็เลยไปฟ้องพ่อกู มึงยังไม่รู้ใช่ไหมว่าพ่อกูเขาไล่พ่อมึงออกจากหมู่บ้านแล้ว ป่านนี้แม่งไปซุกหัวที่ไหนก็ไม่รู้... "
"กูไม่ได้หนี" เสียงทุ้มต่ำดังมาจากหน้าประตูบ้าน แต่กว่าผมจะหันไปมองได้ ไอขวัญก็ถูกเจ้าของเสียงกระโดดถีบตกเตียงไปแล้ว ส่วนเด็กวันรุ่นอีกสองคนโดนทั้งหมัดทั้งตีนจนรีบแจ้นออกจากบ้าน
ไอ้ขวัญในร่างเปลือยเปล่ารีบความเสื้อผ้า แต่เจ้าของเสียงทุ้มต่ำตบฉาดเข้าที่กกหูจนมันล้มลงก่อนจะขึ้นคร่อมตัวไอ้ขวัญ แล้วต่อยรัว ๆ ที่หน้าจนเลือดอาบ
“มึงทำลูกกู.. ไอ้-เอี้ย-... ไอ้เด็ก*อะไร มึงทำลูกกู มึงไม่ตายดีแน่...” ทุกคำพูดคือทุกความเจ็บปวดจากหมัดที่กระแทกลงตรงหน้าไอ้ขวัญ มันยกมือไหว้วิงวอนทั้งน้ำหูน้ำตา แต่ชายร่างกำยำที่คร่อมมันไว้เหมือนจะไม่รับฟังเสียงใดในโลก ต่อเมื่อผมเข้าไปกอดเขาจากข้างหลัง... สติเขาจึงกลับมา
“พ่อ... พอเถอะ มันจะตายอยู่แล้ว”
พ่อปล่อยมือลงขนานลำตัว หอบหายใจเหนื่อยอ่อน แต่ตายังจ้องตาไอ้ขวัญเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ “ถ้ามึงมาแตะลูกกูอีกซักปลายก้อย มึงตายด้วยตีนกูแน่” พอพ่อลุกขึ้น ไอ้ขวัญก็รีบคว้าเสื้อผ้ากึ่งวิ่งกึ่งคลานออกไปจากกระท่อมอย่างทุลักทุเล
พ่อกอดผมไว้แน่น ผมสัมผัสได้ถึงน้ำตาอุ่น ๆ ที่หยดลงบนหัว “เจ็บตรงไหนแก้ว...พ่อขอโทษที่มาช้าเกินไป พ่อผิดเอง ถ้าพ่อกลับมาบ้านให้เร็วกว่านี้พวกมันคงจะทำอะไรลูกพ่อไม่ได้”
“ฉันไม่เป็นไรจ๊ะพ่อ... ไม่เป็นไรเลย” ผมสะอื้นตัวโยนอยู่ในอ้อมแขนพ่อ เหมือนความกังวลจากเรื่องวุ่นวายที่เกิดขึ้นทั้งวันสลายไปในพริบตา
พ่อเชยคางผมขึ้นมา ประกอบริมฝีปากอุ่น ลิ้นของเราสองคนสัมผัสกันเบา ๆ ผมได้กลิ่นเหล้าขาวที่คุ้นเคย...
“พ่อไปไหนมา.. แล้วเรื่องเมื่อคืนลุงผู้ใหญ่ว่ายังไง”
“พอเอ็งกลับบ้าน ลุงผู้ใหญ่เขาก็ให้พ่อไปที่บ้าน เขาถามว่าเรื่องราวมันอะไรยังไง พ่อก็โกหกไปว่าไม่มีอะไร ดีนะที่เราใส่เสื้อผ้าอยู่ ไม่อย่างนั้นความคงแตก แต่ไอ้ขวัญมันก็ยังยืนยันว่าพ่อกับเอ็งทำบัดสีกัน สุดท้ายลุงผู้ใหญ่แกก็จนแต้มเพราะว่าไม่มีหลักฐานอะไร แกกำชับว่าต่อไปก็ให้ระวังอย่าทำให้คนอื่นเข้าใจผิด มีเรื่องอย่างนี้ขึ้นในหมู่บ้านคงไม่งาม พอออกจากบ้านผู้ใหญ่ พ่อก็ไม่รู้จะทำยังไงเลยเดินไปหาหลวงตาที่วัด พ่อเล่าเรื่องทั้งหมดรวมถึงเรื่องของเอ็งกับพ่อว่าเราได้กันแล้วแกว่าพ่อจะทำไงดี หลวงตาแกก็นิ่งไปซักพักไม่ได้ด่าว่าอะไร แต่บอกให้พ่อไปสวดมนต์ในโบสถ์เผื่อจะได้คำตอบอะไรบ้าง พอเช้าพ่อก็ช่วยหลวงตาซ่อมหลังคา พอเสร็จก็กะจะแวะไปกินเหล้าที่คิวรถ พอรู้เรื่องเองกับไอ้ดวงพ่อก็รีบกลับมาบ้าง”
“ไอ้ขวัญมันว่าลุงผู้ใหญ่ไล่พ่อออกจากหมู่บ้านไปแล้ว ฉันกลัวแทบตาย ว่าพ่อจะทิ้งฉันไว้...” ผมกอดพ่อแน่นเหมือนกลัวว่าสิ่งที่รักที่สุดจะหลุดลอยไปต่อหน้า
“ไม่หรอก... แต่ตอนนี้พ่อว่าพ่อคงอยู่หมู่บ้านนี้ไม่ได้แล้ว ต่อยไอ้ขวัญหน้ายับขนาดนั้น... เราต้องหนีแล้วแก้ว...” พอจับไหล่ผมให้แยกออกจากตัวแก แล้วเดินไปหยิบเงินในถุงย่าม เงินปึกหนึ่งถูกมัดไว้ด้วยยางรัดถุงแกงถูกนำมายัดไว้ในมือผม “พ่อต้องไปก่อนนะแก้ว... แล้วพ่อจะหาทางมารับเอ็ง... รอพ่อยู่นี่นะอย่าไปไหน...”
ผมนิ่งอึ้งกับสิ่งที่เกิดขึ้น ในคืนที่มืดมิดที่สุดผมมีเพียงพ่อที่เป็นแสงสว่าง แต่จู่ ๆ แสงสว่างนั้นก็กำลังจะดับลงในไม่กี่นาทีข้างหน้า ผมวิ่งไปกอดพ่อจากข้างหลัง เพื่อรั้งพ่อไม่ให้ออกจากบ้าน ทั้งร้องไห้ทั้งขอร้องว่าอย่าทิ้งผมไว้ ให้ผมไปพร้อม ๆ กับพ่อ อย่าทิ้งผมไว้เพียงลำพัง...
พ่อยืนนิ่ง กลับหลังหันมากอดผมไว้แน่น ก่อนจะประกอบจูบเบาตรงหน้าผาก “แก้ว เชื่อพ่อนะ... พ่อไม่ทิ้งหนูหรอก ยังไงก็ไม่ทิ้ง แต่ตอนนี้พ่อต้องไปก่อน ถ้าพ่อยังอยู่ที่นี่ อีกไม่นานตำรวจหรือลูกน้องผู้ใหญ่มันต้องมา เราอาจจะไม่ได้เจอกันอีกก็ได้ รอพ่อก่อนนะพ่อจะหาทางมารับเอ็งให้ได้ แล้วเราจะไปอยู่ด้วยกันนะ... เอ็งเก็บของสำคัญใสถุงกระสอบใส่ไว้ใต้เตียงอย่าให้ใครรู้ว่าเรากำลังจะหนี พ่อสัญญาว่าจะมารับเองให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้”
เหมือนหัวใจของผมผูกไว้ที่ตีนพ่อ ยิ่งพ่อก้าวห่างออกจากบ้าน ยิ่งทำให้หัวใจของผมเจ็บปวดเหมือนจะฉีกขาด ผมทรุดตัวลงกับพื้น ร้องไห้โฮ ตัวเบาหวิวเหมือนหลุดลอยอยู่ในโลกที่มืดดำ... ที่ที่ไม่มีพ่อ...
พ่อยังก้าวออกจากบ้านไปไม่ถึงไหน รถมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งก็พุ่งมายังบ้านเราด้วยความเร็ว แสงไฟอาบร่างพ่อที่ยืนตกตะลึง ผมและพ่อต่างคิดไม่ถึงว่าตำรวจจะมาเร็วขนาดนี้...
แต่คนขี่รถมอเตอร์ไซค์คันนั้นไม่ใช่ตำรวจ กลับเป็นชายผมยาวใส่เสื้อกระโจมอกนุ่งผ้าถุง แม้ไฟหน้ารถจะดับลงก็พอรู้ว่านั่นคือน้าดวง! “ทิด ไอ้แก้ว เก็บของเร็ว ผู้ใหญ่มันแจ้งตำรวจแล้ว เห็นว่ากำลังมาจากในเมือง เร็วเดี๋ยวไม่ทัน”
ถนนใหญ่ในคืนนี้ไร้รถรา มีเพียงแต่แสงสี่ส้มจากไฟกิ่งที่อาบไล้คนสามคนบนรถมอเตอร์ไซค์ที่พุ่งผ่าน... ผมกอดเอวน้าดวงแน่น ปากก็พร่ำขอโทษน้าดวงเป็นร้อยครั้งพันครั้ง แม้น้าดวงจะไม่ตอบ แต่ก็ใช้มือข้างซ้ายกุมมือของผมไว้
แล้วรถมอเตอร์ไซค์ก็หยุดลงที่สี่แยกออกตัวจังหวัด
“ขอบใจนะดวง ที่พาพี่กับลูกหนีมา เองรีบไปเถอะเดี๋ยวผู้ใหญ่เขาจะรู้ว่าเอ็งพาไอ้แก้วกับพี่หนี”
น้าดวงพยักหน้าเออออ ก่อนจะกวักมือเรียกผมมาใกล้ ๆ เพื่อกระซิบบอกบางสิ่ง “แก้ว กูรักพ่อมึงไม่แพ้มึงหรอกนะ มึงต้องดูแลเขาให้ดีรู้ไหม ถ้ามึงทำให้พ่อมึงเสียใจกูจะตบมึงให้ร่วงคามือเลย” แกโน้มตัวห่างก่อนจะสตาร์ทเครื่องมอเตอร์ไซค์เพื่อเลี้ยงโค้งกลับทางเดิม แต่ก่อนจะใส่เกียร์หนึ่งแกเรียกผมเสียงดัง ก่อนจะโยนถุงพลาสติกขนาดเท่ากำปั้นมาใส่หน้าผม แล้วทะยานตัวเข้าไปในความมืดเบื้องหน้า
เมื่อผมแกะถุงก็พบว่าในถุงนั้นมีเงินอยู่มัดหนึ่งคงจะมากพอให้ผมกับพ่อหนีไปด้วยกัน พ่อมองหน้าผมแล้วพูดด้วยเสียงจริงจัง
“ถ้าเรามี เราจะเอากลับมาคืนให้มันสิบเท่า...”
รถบัสเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้พร้อมกับบีบแตรเป็นคำถามว่าจะไปด้วยกันไหม หากคุณนั่งอยู่บนรถคันนั้น... คุณจะเห็นรอยยิ้มของเราสองพ่อลูกที่ถูกฉายอาบด้วยไฟรถบัสดวงโต
บทส่งท้าย...
“ฉ่า...” เสียงผักบุ้งนาถูกเทลงบนน้ำมันร้อน ๆ ผมรีบเทเต้าเจี้ยวจากขวดลงในกระทะใบใหญ่ แล้วรีบใช้ตะหลิวคนให้เข้ากัน กลิ่นกับข้าวยั่วยวนจนผมน้ำลายสอ ผมรีบตักผักบุ้งที่สลดกำลังดีลงในถาดอะลูมิเนียมใบโต เหลือก็แต่น้ำพริกกะปิอร่อย ๆ ฝีมือพ่อ
“พ่อน้ำพริกเสร็จหรือยัง สายแล้วเดี๋ยวลูกค้ามาร้านแล้วนะ” ผมพูดพลางจัดถาดกับข้าวนับสิบให้เข้าที่เข้าทาง ในใจก็ภาวนาขอให้วันนี้ขายดี
พ่อเดินถือโถใส่น้ำพริกมาวางข้างถาดผักบุ้งไฟแดง ก่อนจะขยับมากอดผมจากด้านหลัง “อย่าพ่อ เดี๋ยวใครมาเห็น”
“เป็นอะไรไปละ ผัวกอดเมียมันเป็นเรื่องธรรมดานี่หนา”
ผมกระทุ้งศอกกลับไปด้านหลังเบา ๆ แต่เงาที่สะท้องในหม้อแกงกลับเป็นใบหน้าที่อาบรอยยิ้ม
เมืองใหญ่แห่งนี้ไม่มีไอ้แก้วลูกไอ้พัน หรือไอ้พันพ่อไอ้แก้ว มีเพียงกะเทยผมยาวกับผัววัยกลางคนที่เปิดร้านขายเข้าแกงในห้องแถวแห่งนี้... ความลับของผมและพ่อจะถูกเก็บไว้จนหมดลมหายใจไปจากกัน...
--จบบริบูรณ์--
   *****   ถ้าเนื้อเรื่องเป็นการรบกวน เจ้าของผู้แต่ง  ไงเจ้าของกระทู้ ขออนุญาติด้วยนะครับ  ขอบคุณครับ  *****


มาเฟียคุมคณะ

โพสต์
11517
พลังน้ำใจ
77643
Zenny
35725
ออนไลน์
12466 ชั่วโมง

ประธานนักศึกษา

โพสต์
869
พลังน้ำใจ
8336
Zenny
3140
ออนไลน์
965 ชั่วโมง
ขอบคุณครับ

หัวหน้าห้อง

โพสต์
14
พลังน้ำใจ
2359
Zenny
168
ออนไลน์
160 ชั่วโมง

มาเฟียคุมคณะ

โพสต์
22033
พลังน้ำใจ
85696
Zenny
11827
ออนไลน์
3912 ชั่วโมง
ขอบคุณครับ

มาเฟียคุมคณะ

โพสต์
11460
พลังน้ำใจ
74353
Zenny
14764
ออนไลน์
7837 ชั่วโมง
ขอบคุณครับ

มาเฟียคุมคณะ

โพสต์
18387
พลังน้ำใจ
84702
Zenny
37721
ออนไลน์
5454 ชั่วโมง
  หวาดดีคราบบ หวัดดีปี 2017

เจ้าพ่อมหาลัย

โพสต์
34422
พลังน้ำใจ
158441
Zenny
289780
ออนไลน์
46333 ชั่วโมง

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
5106
พลังน้ำใจ
41878
Zenny
5845
ออนไลน์
3377 ชั่วโมง
ขอบคุณมากครับ

ประธานนักศึกษา

โพสต์
235
พลังน้ำใจ
3608
Zenny
1672
ออนไลน์
171 ชั่วโมง
เสียวสัดรัสเซีย

มาเฟียคุมคณะ

โพสต์
21631
พลังน้ำใจ
67654
Zenny
73647
ออนไลน์
6685 ชั่วโมง
ได้อารมณ์มาก

มาเฟียคุมคณะ

โพสต์
19630
พลังน้ำใจ
79384
Zenny
71967
ออนไลน์
6732 ชั่วโมง
ขอบคุนนะค่ะ

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
3339
พลังน้ำใจ
13840
Zenny
3374
ออนไลน์
863 ชั่วโมง

มาเฟียคุมคณะ

โพสต์
8104
พลังน้ำใจ
50516
Zenny
45864
ออนไลน์
6103 ชั่วโมง
ขอบคุณครับ

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
4617
พลังน้ำใจ
10297
Zenny
5832
ออนไลน์
672 ชั่วโมง
ขอบคุณครับ

มาเฟียคุมคณะ

โพสต์
16254
พลังน้ำใจ
94763
Zenny
79922
ออนไลน์
25942 ชั่วโมง
ขออวยพรให้มีความสุขทั้งคู่ครับ

ประธานนักศึกษา

โพสต์
235
พลังน้ำใจ
3608
Zenny
1672
ออนไลน์
171 ชั่วโมง
เสียวสุด

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
6911
พลังน้ำใจ
35618
Zenny
28231
ออนไลน์
1901 ชั่วโมง
สนุกดี ขอบคุณครับ

ประธานนักศึกษา

โพสต์
353
พลังน้ำใจ
4456
Zenny
1721
ออนไลน์
230 ชั่วโมง
ขอบคุณครับ

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
4404
พลังน้ำใจ
33450
Zenny
23560
ออนไลน์
1618 ชั่วโมง
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | สมัครเข้าเรียน

รายละเอียดเครดิต

A Touch of Friendship: สังคมจะน่าอยู่ เมื่อมีผู้ให้แบ่งปัน ฝากไวเป็นข้อคิดด้วยนะคะชาวจีโฟกายทุกท่าน
!!!!!โปรดหยุด!!!!! : พฤติกรรมการโพสมั่วๆ / โพสแต่อีโมโดยไม่มีข้อความประกอบการโพส / โพสลากอักษรยาว เช่น ครับบบบบบบบบ, ชอบบบบบบบบ, thxxxxxxxx, และอื่นๆที่ดูแล้วน่ารำคาญสายตา เพราะถ้าท่านไม่หยุดทีมงานจะหยุดท่านเอง
ขอความร่วมมือสมาชิกทุกท่านโปรดโพสตอบอย่างอื่นนอกเหนือจากคำว่า ขอบคุณ, thanks, thank you, หรืออื่นๆที่สื่อความหมายว่าขอบคุณเพียงอย่างเดียวด้วยนะคะ เพื่อสื่อถึงความจริงใจในการโพสตอบกระทู้ และไม่ดูเป็นโพสขยะ
กระทู้ไหนที่ไม่ใช่กระทู้ในลักษณะที่ต้องโพสตอบโดยใช้คำว่าขอบคุณ เช่นกระทู้โพล, กระทู้ถามความเห็น, หรืออื่นๆที่ทีมงานอ่านแล้วเข้าข่ายว่า โพสขอบคุณไร้สาระ ทีมงานขอดำเนินการตัดคะแนน และ/หรือให้ใบเตือนสมาชิกที่โพสขอบคุณทันทีที่เจอนะคะ

รูปแบบข้อความล้วน|โทรศัพท์มือถือ|ติดต่อลงโฆษณา|จีโฟกายดอทคอม


ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บจีโฟกายดอทคอมนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ หากท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศิลธรรม ไม่เหมาะสมที่จะเผยแพร่ ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link “แจ้งลบโพสนี้” ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือ ลืมพาสเวิดล๊อกอิน/ลืมชื่อที่ใช้สมัคร หรือข้อสงสัยใดๆแจ้งมาที่ G4GuysTeam[at]yahoo.com ขอขอบพระคุณที่ให้ความร่วมมือ

กรณีที่ข้อความ/รูปภาพในกระทู้นี้จัดสร้างโดยผู้ลงข้อมูลเอง ลิขสิทธิ์จะเป็นของผู้ลงข้อมูลโดยตรง หากจะทำการคัดลอก/เผยแพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ลงข้อมูลก่อนนะคะ หรือลงที่มาไว้ด้วยค่ะ

©ขอสงวนสิทธิ์คอนเซ็ปต์,คำอธิบาย,หัวข้อ/หมวดหมู่เว็บ ห้ามลอกเลียนแบบ คิดเอาเองนะคะอย่าเอาแต่ลอก

GMT+7, 2024-4-20 15:39 , Processed in 0.202243 second(s), 24 queries .

Powered by Discuz! X3.1 R20140301, Rev.31

© 2001-2013 Comsenz Inc.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้