วันนี้รู้สึกคิดถึงพ่อมากๆครับ พ่อจากผมไปได้ปีกว่าด้วยโรคมะเร็งปอด
ก่อนหน้าที่จะรู้ว่าพ่อเป็นโรคร้าย พ่อเป็นต่อกระจกต้องไปลอกต้อ ช่วงนั้นเอง
ทำให้ผมได้มีโอกาสดูแลพ่ออย่างใกล้ชิดอย่างไม่เคยทำมาก่อน ผมมี
ความสุขมากๆไม่ได้รู้สึกว่ามันลำบากเลยแม้แต่นิดเดียว
ช่วงที่พ่อรัษาตา อาการของโรคร้ายมันก็เริ่มทำงาน พ่อบนปวดหลัง
เจ็บหลัง แต่พอเอายานวดมันก็หาย ไม่ได้มีอาการที่ดูรุนแรงจนผิดปกติ
ผมคิดว่าพ่อนอนมากเลยปวดหลัง พ่อยังมีแรงทำโน้นทำนี่ได้ตามประสา
ของคนไม่ชอบอยู่เฉยๆ กว่าจะรู้ว่าพ่อเป็นโรคร้ายก็ตอนพ่อเข้าโรงพยาบาล
วันนั้นผมยังจำได้ดี พ่อตื่นขึ้นมาอาเจียนอย่างหนักตอนตีสี่ คราบอาเจียน
สีดำสนิทติดอยู่เต็มอ่าง อาการผิดปกติหนักจนต้องส่งโรงพยาบาล ผลตรวจ
ออกมาว่าพ่อเป็นโรคร้ายระยะ4 หมอให้ความหวังว่าพ่อจะอยู่ได้3-6เดือน
ผมเหมือนโดนฟ้าผ่ากลางสมองคิดอะไรไม่ออก ช่วงเวลาทีเหลือจะทำยังไงดี
พวกเราปิดพ่อไม่ให้รู้ว่าเป็นโรคร้าย เพียงแต่บอกว่าเป็นปอดอักเสบ มันเป็นช่วง
สั้นๆแต่ทรมานจิตใจเราได้ยาวนานเหลือเกินกับการที่ต้องทำเหมือนไม่มีอะไร
รุนแรงเกิดขึ้น อาการของพ่อเริ่มแย่ลง ผมสงสารพ่อมาก พ่ออยากกลับบ้าน
เพราะกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย ผมบอกกับพ่อว่า ไม่ต้องห่วง พ่อลำบากเลี้ยงผม
จนโตผมก็จะเลี้ยงพ่อจนแก่ แล้วผมก็หัวเราะกดรอยน้ำตาที่มันกำลังจะเอ่อ
ในที่สุดพ่อก็ได้กลับบ้าน ช่วงเวลาสิบวันสุดท้ายที่ผมได้ดูแลพ่ออย่าง
ใกล้ชิดเป็นช่วงแห่งความทุกข์ที่เต็มไปด้วยความสุข ทุกข์ที่ต้องทนดูความ
ทรมานที่เกิดขึ้นกับพ่อ แต่ก็มีความสุขที่สุดทื่ได้ทำทุกๆอย่างให้พ่อทรมาน
น้อยที่สุด พ่อต้องเข้าโรงพยาบาลอีกครั้งแล้วก็จากเราไปอย่างไม่มีวันกลับ
ใกล้รุ่งของวันที่พ่อจากไป พี่ผมโทรมาด้วยเสียร่ำไห้ว่าพ่อไปแล้ว
ผมบอกพี่ผมว่าอย่าร้องไห้พ่อไปสบายแล้ว ผมไม่ได้ร้องไห้แต่น้ำตามันไหล
ออกมาเอง
ผมไม่ควรเสียใจเพราะระหว่างที่พ่อมีลมหายใจผมได้ทำสิ่งที่ลูกพึ่งกระทำ
ให้พ่ออย่างเต็มที่ แต่ผมคงต้องเสียใจไปจนตายหากวันที่พ่ออยู่แล้วผมไม่ทำอะไรเลย
ผมอยากจะบอกกับพ่อว่าถึงพ่อจะไม่ใช่พ่อที่สมบูรณ์แบบที่สุดแต่ผมก็รักพ่อที่สุดครับ