สมัครเข้าเรียน ลงชื่อเข้าใช้
จีโฟกาย.คอม หน้าแรก

narinโปรไฟล์ของ http://www.g4guys.com/?1950 [บุ๊คมาร์ก] [คัดลอก] [RSS]

บล็อก

สิ่งที่ต้องรู้เมื่อจะซื้อ คอนแทคเลนส์

ความนิยม 14เข้าชม/อ่าน 1714 ครั้ง2010-11-4 21:43 |

สิ่งที่ต้องรู้เมื่อจะซื้อ คอนแทคเลนส์
เขียนโดย ชลธิศ ศิริวงษ์(เปรียว) on วันศุกร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553
เลนส์ชนิด Disposable หมายถึงเลนส์ที่ใช้แล้วไม่ต้องล้างเลย
ใช้แล้วถอดทิ้งเหมือนเราใช้กระดาษทิชชู
และ Planned Replacement หมายถึงเลนส์ที่ใช้แล้วใช้ซ้ำอีกได้
แต่ต้องเปลี่ยนบ่อยๆ มีอายุการใช้งานค่อนข้างสั้น ทุก 2-4 สัปดาห์
      เลนส์ทั้งสองประเภท เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น เรื่อยๆ
มีความเข้าใจผิดของผู้ใช้อยู่เสมอว่า เลนส์พวกนี้เป็นเลนส์ Free size
        ดังนั้นเมื่อไปหาซื้อเลนส์ ผู้ใช้มักบอกคนขายแต่เพียงว่า ต้องการ ACUVUE เบอร์ -3.00 หรือ ต้องการ FOCUS
      เบอร์ -4.75 เท่านั้น และ คนขายก็มักหยิบเลนส์มาให้ได้เสียด้วย

      ที่จริงแล้ว บนหน้าซองบรรจุเลนส์ คุณจะเห็นว่านอกจากค่ากำลังของเลนส์ หรือ power -3.00 D หรือ -4.75D แล้วยังมี
      ตัวอักษร B.C. 8.8 หรือ B.C. 8.6 กำกับมาด้วย ให้คุณแน่ใจได้เลยว่า นั่นย่อมไม่ได้หมายความว่าเลนส์ชิ้นนั้น
      ผลิตขึ้นก่อนคริสตกาล แต่มันสำคัญอย่างไรด้วยหรือ หรือฝรั่งทำเกินมา เฉยๆ
ค่า B.C. ย่อมาจาก Base Curve หมายถึงรัศมีความโค้งด้านหลัง
ของเลนส์ชิ้นนั้น ซึ่งเป็นด้านจะต้องสัมผัสกับดวงตาของเรา
เลนส์ที่มี B.C. 8.8 มิลลิเมตร หมายถึงเลนส์ชิ้นนั้น
แบนกว่าเลนส์ที่มี B.C. 8.4 มิลลิเมตร
ซึ่งจะทำให้ เลนส์ 8.4 ติดแน่น บีบรัดดวงตามากกว่า
ส่วนเลนส์ 8.8 จะรู้สึกหลวมเลื่อนได้มากก

        เมื่อคุณซื้อเลนส์ คุณอาจเพิ่มหรือลด กำลังของเลนส์ได้ตามใจชอบ เช่น อยากให้ภาพคมชัดขึ้น
      อาจลองซื้อเลนส์กำลังสูงขึ้นสัก 0.25 แต่ถ้าใส่แล้วไม่ชอบใจ อยากใส่ให้ภาพนุ่มนวลลงก็อาจซื้อเลนส์อ่อนลง
      สัก 0.25 ได้ไม่เสียหายอะไรนอกจากรู้สึกมึนๆนิดๆ
แต่การเปลี่ยนค่า Base Curve ขอให้เป็นหน้าที่ของจักษุแพทย์นะครับ เพราะการใส่เลนส์คับหรือหลวมเกินไปอาจเป็นอันตรายได้ ควรซื้อเลนส์ Base Curve เดิมเสมอ ห้ามเปลี่ยนเองครับ
จักษุแพทย์เตือนวัยรุ่นอย่าทดลองใส่คอนแทคเลนส์ตามแฟชั่น
เขียนโดย ชลธิศ ศิริวงษ์(เปรียว) on วันพุธที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553
หลังหนุ่มนิวซีแลนด์ใส่คอนแทคเลนส์แฟชั่นและติดเชื้อจนตาบอด แนะปรึกษาจักษุแพทย์ก่อนการเลือกสวมใส่คอนแทคเลนส์ทุกชนิด ควรแยกน้ำยาทำความสะอาดตามขั้นตอน ซึ่งให้ผลดีกว่าใช้น้ำยาประเภท 3 อิน 1 และห้ามใส่คอนแทคเลนส์นอนหลับอย่างเด็ดขาด เสี่ยงติดเชื้อเสียดวงตา

ตามที่หนังสือพิมพ์"เดอะ นิวซีแลนด์ เฮอร์รัลด์" อ้างคำเตือน
ของ นายแพทย์ เทเวอร์ เกรย์ จักษุแพทย์ เรื่องความเสี่ยงจากการใช้คอนแทคเลนซ์แฟชั่น สำหรับเปลี่ยนสีหรือรูปแบบของดวงตา หลังจากหนุ่มนิวซีแลนด์วัย 24 ปี ซึ่งไม่ได้มีปัญหาเรื่องการมองเห็นจนต้องสวมแว่นสายตาหรือคอนแทคเลนซ์ ต้องตาบอดไปข้างหนึ่งเพราะสวมใส่เลนซ์ชนิดดังกล่าว เพื่อความสนุกสนานในงานปาร์ตี้ แต่ได้เกิดอาการติดเชื้อหลังสวมใส่เลนซ์อยู่นาน 3 วัน (ใส่โดยไม่ถอดออกเลย) โดยนายแพทย์เกรย์เปิดเผยว่า อาการติดเชื้อได้กัดกินแก้วตาข้างหนึ่งของหนุ่มเคราะห์ร้ายคนนี้ไปจนหมด เหลือแต่ดวงตา
นพ.วิชัย ประสาทฤทธา ภาควิชาจักษุวิทยา รพ.รามาธิบดี กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า
"โดย ปกติแล้วการสวมใส่คอนแทคเลนส์หรือเลนส์สัมผัส มีโอกาสเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวได้น้อยมากหากมีการดูแลรักษาความสะอาดของคอน แทคเลนส์ตามคำแนะนำอย่างถูกต้อง ส่วนกรณีที่เกิดขึ้นน่าจะเกิดจากผู้สวมใส่ไม่ได้ปฏิบัติตามคำแนะนำเรื่องการ รักษาความสะอาดและสวมใส่คอนแทคเลนส์ในเวลานอนหลับเพราะการสวมใส่คอนแทคเลนส์ นอนหลับจะ ทำให้ดวงตาได้รับออกซิเจนน้อยลง ออกซิเจนจะไปเลี้ยงกระจกตาได้น้อยกว่าปกติ จึงเกิดการติดเชื้อขึ้น และเนื่องจากเป็นเลนส์สัมผัสทำให้อาการติดเชื้อมีความรุนแรงและลุกลามอย่าง รวดเร็วจนถึงขั้นทำให้ตาบอด"

สำหรับการสวมใส่คอนแทคเลนส์ที่เหมาะสมนั้น
สามารถสวมใส่ได้ในระยะเวลา 8-12 ชั่วโมงติดต่อกัน โดยหลังจากนั้นต้องดูแลทำความสะอาดโดยใช้
1. น้ำยาล้างคอนแทคเลนส์
2. น้ำยาสลายคราบโปรตีน
3. และน้ำยาแช่ฆ่าเชื้อ โดยการแช่ฆ่าเชื้อต้องทำไม่ต่ำกว่าวันละ 4 ชั่วโมง

อย่าง ไรก็ตามในปัจจุบันมีการโฆษณาว่า น้ำยาทำความสะอาดคอนแทคเลนส์บางชนิดมีคุณสมบัติเป็นทั้งน้ำยาล้างทำความ สะอาด สลายคราบโปรตีน และแช่ฆ่าเชื้อ ซึ่งประสิทธิภาพของน้ำยาดังกล่าวจะไม่ดีเท่ากับการใช้น้ำยาแยกเฉพาะในการทำ ความสะอาดแต่ละขั้นตอนเป็นเพียงกลยุทธ์การโฆษณาทางการตลาดของผู้ประกอบการ เท่านั้น จึงแนะนำให้แยกใช้น้ำยาทำความสะอาดแต่ละขั้นตอน เพื่อยืดอายุการใช้งานคอนแทคเลนส์ และป้องกันการติดเชื้อ โดยคอนแทคเลนส์รายเดือนนั้นมีอายุการสวมใส่ 1- 1 เดือนครึ่งขึ้นอยู่กับการดูแลทำความสะอาด หากไม่รักษาความสะอาดให้ดีเพียงแค่ 2 สัปดาห์ก็อาจจะมีสิ่งสกปรกตกค้างจนต้องเปลี่ยนคู่ใหม่ แต่หากรักษาความสะอาดเป็นอย่างดีก็จะทำให้อายุการใช้งานนานขึ้นด้วย
ที่สำคัญห้ามผู้สวมใส่คอนแทคเลนส์ทุกชนิด ใส่คอนแทคเลนส์นอนหลับอย่างเด็ดขาด

ผู้ที่ไม่เหมาะสมจะใช้คอนแทคเลนส์

1.ผู้ ที่มีโรคประจำตัว ได้แก่ โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคภูมิแพ้ โรคไซนัส เพราะจะทำให้ใส่คอนแทคเลนส์ไม่สบายตาและไม่ชัดได้ รวมถึงผู้ที่กำลังตั้งครรภ์

2.ผู้ที่มีสุขภาพตาไม่ดี เช่น เป็นต้อลม ต้อเนื้อ ตาแดง กระจกตาไม่ไวต่อความรู้สึก ตาแห้ง กะพริบตาครึ่งตา ผู้ที่ทำงานที่มีมลภาวะอาทิ ฝุ่นละอองมาก ลมพัดแรง ไอระเหยสารเคมี มีความร้อนสูง มีควันบุหรี่หรือควันพิษ มลภาวะดังกล่าวจะทำให้ความสบายตาลดลงขณะใส่คอนแทคเลนส์ หรือคอนแทคเลนส์อายุการใช้งานสั้นลง เป็นต้น
สวยด้วยคอนแทคเลนส์
เขียนโดย ชลธิศ ศิริวงษ์(เปรียว) on วันอาทิตย์ที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553
นับเป็นกระแสนิยมเกาหลีฟีเว่อร์ ที่มองไปทางไหนก็เจอแต่สาวๆตาโต ตาสวยกันจริงๆ วันนี้จะมาแนะนำเรื่องการซื้อน้ำยาล้างคอนแทคเลนส์ บางคนชอบซื้อขวดใหญ่ บางคนชอบซื้อขวดเล็ก แบบไหนดีกว่ากัน?
แบบใหญ่ข้อดีคือ ราคาถูก ใช้ได้นาน แต่ถ้ารักษาความสะอาดไม่ดีก็อาจจะเป็นแหล่งแพร่เชื้อโรคได้นะครับ
แบบเล็ก เมื่อเทียบปริมาณ จะแพงกว่า แบบขวดใหญ่ แต่ดีที่ใช้หมดเร็วเชื้อโรคน้อย

จะใช้แบบไหนก็ลองเลือกดูนะครับ
ความเหมาะสมของบุคคลต่างๆ กับการใช้คอนแทคเลนส์
เขียนโดย ชลธิศ ศิริวงษ์(เปรียว) on วันอังคารที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2552
ผู้ที่เหมาะจะใส่คอนแทคเลนส์
1. ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับสายตาดังนี้
• สายตาสั้น • สายตายาว • สายตาเอียง • สายตาคนสูงอายุ

2. ผู้ที่ผ่านการผ่าตัดต้อกระจกทั้งชนิด ข้างเดียวหรือ 2 ข้าง

3. ผู้ที่มีอาการตาสั่น (nystagmus) และควรแนะนำเป็นคอนแทคเลนส์ชนิดนิ่ม

4. ผู้ที่ไม่มีโรคประจำตัวเป็นอุปสรรค

5. ผู้ที่มีกระจกตาโค้งมากกว่าปกติ (Keratoconus) เช่น 6.9, 5.4 และกระจกตาบางมาก ควรแนะนำเป็นคอนแทคเลนส์ชนิดแข็ง (HCL)

6. ผู้ที่เป็น "TRICHIASIS" คือมีความผิดปกติของขนตาที่งอนเข้าไปแยงกระจกตา เป็นสาเหตุทำให้น้ำตาไหล แก้ไขได้โดยใส่คอนแทคเลนส์ขนิดนิ่ม (SCL)

7.ผู้ที่เป็น "ENTROPION" คือขอบตาเปิดเข้าด้านในมากกว่าปกติ แก้ไขได้โดยใส่คอนแทคเลนส์ขนิดนิ่ม (SCL)

ผู้ที่ไม่เหมาะจะใส่คอนแทคเลนส์
1. มีสุขภาพตาไม่ดีเช่น เป็นต้อลม, ต้อเนื้อ, ตาแดง, กระจกตาไม่รับรู้ความรู้สึก, ตาแห้ง, ตาบวมและผู้ที่กระพริบตาครึ่งตา

2. มีโรคประจำตัวบางโรคเช่น
• โรคเบาหวานมีอาการบวมเป็นแผลถลอก แผลหายช้าและอักเสบง่าย ค่าสายตาไม่คงที
• โรคไขข้ออักเสบ ทำให้ตาแห้งการทำความสะอาดเลนส์และการใส่ต้องตรวจและติดตามผลบ่อยกว่าปกติ
• โรคความดันโลหิตสูง มีผลทำให้น้ำในร่างกายไม่คงที่
• โรคภูมิแพ้ มีโอกาสแพ้เนื้อวัสดุที่ผลิตคอนแทคเลนส์และแพ้น้ำยาได้ จะทำให้มีอาการตาแดง, ตาแห้งและคันตา
• ตั้งครรภ์ ทุกอย่างในร่างกายจะปรับสภาพใหม่ มีผลทำให้กระจกตาบวม ควรแนะนำให้ใส่หลังคลอดแล้ว 3-4 เดือน

3. ผู้ที่ต้องทานยาบางประเภทเป็นประจำ เช่น
• ยา ANTIHISTAMINE รักษาโรคภูมิแพ้
• ยา ANTIDIABETIC รักษาโรคเบาหวาน
• ทานยาคุมกำเนิดเป็นเวลานานหลายปี มีผลทำให้น้ำที่กระจกตามีมากขึ้น 78% จะมีอาการกระจกตาบวม

4. ผู้ที่ทำงานบางประเภทที่ต้องประสบกับสิ่งต่างๆ เหล่านี้เป็นประจำ เช่น
• มีฝุ่นละอองมาก
• มีลมแรงพัดผ่านเป็นประจำ
• มีควันบุหรี่หรือควันพิษ รวมถึงเขม่าต่างๆ
• มีไอระเหยของสารเคมีต่างๆ ที่เป็นอันตราย

5. ผู้ที่อายุไม่เหมาะสม เช่น เด็กเกินไปหรือมีอายุมากเกินไป ไม่สามารถรับผิดชอบตัวเองได้



การทำเลสิก (การผ่าตัดเพื่อรักษาสายตาสั้น)
เขียนโดย ชลธิศ ศิริวงษ์(เปรียว)
การทำเลสิก คืออะไร

การ ทำเลสิก (LASIK) ซึ่งมาจากคำเต็มว่า Laser Insitu Keratomoleusis เป็น วิธีการรักษาสายตาสั้นด้วยเลเซอร์ โดยทำการผ่ากระจกตาออกมาก่อน แล้วยิง เลเซอร์เข้าไปเพื่อปรับความโค้งของกระจกตาให้แบนลง

เนื่องจากคนสายตา สั้นมีจุดโฟกัสของแสงไปตกอยู่ที่หน้าจอประสาทตา การยิง เลเซอร์จะทำให้เกิดการหักเหของแสงเปลี่ยนไป และมาตกที่จุดโฟกัสตรงจอประสาท ตาพอดี ซึ่งเมื่อยิงเลเซอร์เสร็จแล้ว จึงนำกระจกตามาปิดเหมือนเดิม

คน ที่จะทำเลสิกได้ต้องมีอายุ 20 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป มีสายตาสั้นคงที่เป็น เวลาอย่างน้อย 1 ปี และไม่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ต้อ เป็นต้น

ส่วน ค่าใช้จ่ายในการทำเลสิกตกประมาณข้างละ 2 หมื่นกว่าบาท สำหรับโรง พยาบาลหรือคลินิกเอกชน หากเป็นโรงพยาบาลของรัฐก็อาจจะถูกกว่าข้าง ละ 3,000-4,000 บาท

ข้อดีของเลสิกก็คือเราไม่ต้องมานั่งสวมแว่นหรือใส่คอนแท็กเลนส์เป็นที่รำคาญใบหน้า

ข้อ เสียคือ เป็นเรื่องของการเห็นแสงฟุ้ง แสงมัว โดยรายงานในต่างประเทศ ที่ทำวิจัยผลกระทบจากการทำเลสิกพบว่า คนที่ทำเลสิกจะพบกับปรากฏการณ์ที่ เรียกว่า “TLARE” หรือ “HALO” คือจะเห็นลำแสงเป็นแฉกเป็นรุ้ง จึงไม่แนะนำ ให้คนขับรถบรรทุกที่ต้องเดินทางตอนกลางคืนทำเลสิก เพราะเสี่ยงต่อการเกิด อุบัติเหตุ

ส่วนอีกปรากฏการณ์หนึ่งก็คือ CONTRAST SENTIVITY คือการเปรียบเทียบแสงที่อาจจะวูบลงไป หรือมองเห็นแสงไม่แจ่มนั่นเอง

แพทย์ ผู้เชี่ยวชาญจึงแนะนำผู้ที่สนใจจะทำเลสิกด้วยว่าก่อนจะตัดสินใจ ต้องชั่งข้อดีข้อเสียให้ชัดเจนเสียก่อน เหมือนกับการมองสิ่งอื่นๆที่มีทั้ง ข้อดีและข้อเสียทั้งนั้น
3

อืม..ดีๆ ใช้ได้

อะไรก็ไม่รู้

เห็นด้วยๆ

ซึ้งจังเลย

ขำฮาตรึม

มีผู้แสดงความรู้สึก (3 คน)

ความคิดเห็น ความคิดเห็น (15 ความคิดเห็น)

ตอบกลับ lovemadmee 2010-11-23 14:56
ถ้ามีโอกาสอยากให้คุณนำเรื่องบิ๊กอายมาเพื่อให้มีความรู้เเบบนี้เพราะใส่อยู่เเล้งไม่รู้มันอัตรายยังไง
ตอบกลับ sunnalove 2011-1-8 06:07
ดี จัง คับ เนื้อ หา ใช้ ได้ ครบ ถ้วน ดี จิง ๆ -..-
ตอบกลับ aoffz 2011-1-8 17:33
ขแบคุณค้าบ
ตอบกลับ doncy 2011-1-11 18:23
เยียมไปเลย
ตอบกลับ tttttt92 2011-1-15 12:01
thxxxx
ตอบกลับ Prince 2011-1-20 12:06
ขอบคุณครับผม
ตอบกลับ OngYing 2011-1-21 17:06
ขอบคุงมากกกกกกกก
ตอบกลับ guongz 2011-1-21 23:56
ขอบคุนมาก ครับ
ตอบกลับ guongz 2011-1-21 23:57
ขอบคุนมาก ครับ
ตอบกลับ guongz 2011-1-21 23:58
ขอบคุนมาก ครับ
ตอบกลับ gugabza 2011-1-22 18:18
ขอบคุณมากครับบบบ
ตอบกลับ mmk2012 2011-1-22 22:48
ขอบคุณมากคร๊าฟผม
ตอบกลับ lfh 2011-1-23 13:04
เค้าอยากใส่อ่ะ แต่เด๋วให้พ่อพาไปเปลี่ยนดีกว่า
ตอบกลับ tontons 2011-1-24 04:23
ขอบคุนค้าบ
ตอบกลับ ohmgod 2011-1-27 19:20
ขอบคุณมากคับ

facelist doodle วาดรูป

คุณต้องลงชื่อเข้าใช้ก่อนจึงจะสามารถแสดงความคิดเห็นได้ ลงชื่อเข้าใช้ | สมัครเข้าเรียน

รูปแบบข้อความล้วน|โทรศัพท์มือถือ|ติดต่อลงโฆษณา|จีโฟกายดอทคอม


ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บจีโฟกายดอทคอมนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ หากท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศิลธรรม ไม่เหมาะสมที่จะเผยแพร่ ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link “แจ้งลบโพสนี้” ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือ ลืมพาสเวิดล๊อกอิน/ลืมชื่อที่ใช้สมัคร หรือข้อสงสัยใดๆแจ้งมาที่ G4GuysTeam[at]yahoo.com ขอขอบพระคุณที่ให้ความร่วมมือ

กรณีที่ข้อความ/รูปภาพในกระทู้นี้จัดสร้างโดยผู้ลงข้อมูลเอง ลิขสิทธิ์จะเป็นของผู้ลงข้อมูลโดยตรง หากจะทำการคัดลอก/เผยแพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ลงข้อมูลก่อนนะคะ หรือลงที่มาไว้ด้วยค่ะ

©ขอสงวนสิทธิ์คอนเซ็ปต์,คำอธิบาย,หัวข้อ/หมวดหมู่เว็บ ห้ามลอกเลียนแบบ คิดเอาเองนะคะอย่าเอาแต่ลอก

GMT+7, 2024-4-19 22:38 , Processed in 0.073566 second(s), 15 queries .

Powered by Discuz! X3.1 R20140301, Rev.31

© 2001-2013 Comsenz Inc.

ขึ้นไปด้านบน