สมัครเข้าเรียน ลงชื่อเข้าใช้
จีโฟกาย.คอม หน้าแรก

BUrSlfโปรไฟล์ของ http://www.g4guys.com/?126082 [บุ๊คมาร์ก] [คัดลอก] [RSS]

บล็อก

ตอนจบ "เป็นเพื่อนเดือนคณะ" ฉบับ fan made : part 5

ความนิยม 4เข้าชม/อ่าน 581 ครั้ง2020-7-14 18:47 |เลือกหมวดหมู่:เป็นเพื่อนเดือนคณะ

                                 โปรดอ่านก่อนนะครับ

             1.งานเขียนในบล็อกนี้ดัดแปลงจากต้นฉบับของคุณ dacha2708 มีการตัดบางส่วนออกไปบ้าง เพิ่มเข้าไปบ้างตามจินตนาการของผมเอง โดยได้รับอนุญาตจากเจ้าของเรื่องให้ลงในบล็อกนี้ได้ ต้องขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วย  ห้ามมิให้นำงานเขียนในบล็อกนี้ไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ
             2.เนื้อเรื่องในบล็อกนี้เป็นเรื่องราวต่อจากตอน  "เป็นเพื่อนเดือนคณะ 21 เมื่อโยกลับมา" ของต้นฉบับ  ถ้ายังไม่เคยอ่านเรื่องนี้มาก่อนควรอ่านของต้นฉบับตอนที่ 1-21 ก่อนนะครับถึงจะเข้าใจ
             3.กรุณาอย่าคอมเม้นท์พาดพิงถึงต้นฉบับหรือบุคคลอื่น อยากให้อ่านเพื่อความบันเทิง ไม่อยากให้เกิดดราม่าครับ
             4.งานเขียนเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกของผมผิดพลาดประการใดขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ :)
             …………………………………………………………………………………


เป็นเพื่อนเดือนคณะ(ฉบับ fan made) 26 : ของสำคัญสองสิ่ง

             “รับอะไรดีครับพี่วอน”  ต้นถามผม
             “เอาลาเต้เย็นละกัน”  ผมบอกมัน
             “แล้วพี่…….”  ต้นพูดพร้อมกับหันไปทางโย
             “อ้อ นี่พี่โยเพื่อนสนิทพี่เอง”  ผมบอกพร้อมกับหันไปสบสายตากับโยครู่หนึ่ง
             “สวัสดีครับพี่โย โหยพี่นี่หล่อไม่แพ้พี่วอนเลยนะครับ”  ต้นเริ่มประจบ
             “พูดผิดพูดใหม่ได้นะน้อง พี่หล่อกว่าต่างหาก ไม่งั้นจะได้เป็นเดือนคณะเหรอ”  ไอ้โยได้ทีเกทับผม พร้อมกับยักคิ้วให้
             “โห พี่เป็นเดือนคณะเหรอครับ สุดยอดเลยพี่”  ต้นยังไม่เลิกประจบ
             “อย่าไปยอมันมากเดี๋ยวมันเหลิง”  ผมเบรคไอ้ต้น
             “ตกลงมึงจะเอาอะไรไอ้โย”  ผมถามมัน
             “เอามึงไง”  ไอ้โยเริ่มกวน
             “ส้นตีนกูนี่ ลีลานักไม่ต้องแดกละกัน”  ผมด่ามัน
             “โอ๋ๆๆ ล้อเล่นนิดเดียว เอามอคค่าเย็นละกัน”  โยบอกเสียงอ่อน
             “ได้ครับพี่ รอเดี๋ยวนะครับ”  ต้นบอก มองมาที่ผมพร้อมกับอมยิ้ม
             “ร้านมึงเหรอ สวยดีนี่”  โยถาม
             “เออ กูหุ้นกับจิ๊บ ตอนแรกกะจะทำร้านนวด ไปๆมาๆเปิดเป็นร้านกาแฟดีกว่า”  ผมบอกมัน
             “อ๋อ”  โยพูดพร้อมกับนิ่งเงียบไป ผมไม่ได้สนใจอะไรมัน หันมาเล่นโทรศัพท์ของผมต่อ
             โยออกจากโรงพยาบาลมาได้หลายวันแล้ว พอดีนัดกับพวกจิ๊บ โบ และไอ้คิวว่าจะมาทำรายงานกลุ่มที่จะพรีเซนท์อาทิตย์หน้า ผมกะจะมาดูร้านพี่พรด้วยว่าเป็นยังไงบ้าง โยยังไม่เคยมาที่นี่เลย
             “กาแฟได้แล้วคร้าบ”  ต้นออกมาพร้อมกับกาแฟที่สั่ง
             “นี่มอคค่าของพี่โยสุดหล่อครับ”  ต้นพูด ดูมันจะปลื้มไอ้โยออกนอกหน้านะ
             “นี่ของพี่วอนครับ”  ต้นบอกพร้อมกับเข้ามากระซิบข้างๆหูผม
             (“คนนี้หรือเปล่าที่เคยทำพี่อกหักอ่ะ”)  ไอ้ต้นกระซิบ
             (“ไม่ต้องเสือก”)  ผมทำปากพูดโดยไม่ออกเสียง ไอ้ต้นยิ้มมุมปากพร้อมกับหลิ่วตาเดินออกไป
             “อ้าวพี่พรสวัสดีครับ”  ผมทักทายเมื่อเห็นพี่พรเดินมาหา
             “สวัสดีค่ะคุณวอน มากับเพื่อนเหรอค่ะ”  พี่พรทักทายตอบ
             “สวัสดีครับผมโยครับ”  ไอ้โยแนะนำตัว
             “สวัสดีค่ะ”  พี่พรตอบพร้อมกับยิ้มให้
             “ร้านเป็นไงบ้างครับ”  ผมถามพี่พร
             “ก็โอเคนะคะ พออยู่ได้ มีลูกค้าเข้ามาเรื่อยๆ”  พี่พรตอบ
             มีอยู่ช่วงหนึ่งธุรกิจร้านกาแฟบูมมาก ร้านกาแฟขึ้นเป็นดอกเห็ด ใครไม่รู้จะทำอะไรก็เปิดร้านกาแฟเป็นที่นิยมมาก แต่ตอนนี้เป็นช่วงขาลง แค่ทำแล้วพอมีกำไรอยู่ได้ก็ถือว่าโอเคแล้ว
             “แล้วคุณจิ๊บไม่มาเหรอคะ”  พี่พรถาม
             “อ๋อ เดี๋ยวคงมาน่ะครับ”  ผมตอบไป
             “งั้นเดี๋ยวพี่ไปทำงานต่อนะคะ ลูกค้ามาแล้ว”  พี่พรบอก
             “ครับผม”  ผมพูด
             “พวกมึง รอนานป่ะ รถติดชิบหาย”  จิ๊บทักขึ้น พูดถึงก็มาเลย ตายยากจริงๆ
             “พวกกูพึ่งมาถึงไม่นานนี่เอง”  ผมตอบ
             “พี่พรสวัสดีค่า พวกหนูเอาเหมือนเดิมนะคะ”  จิ๊บบอกพี่พร
             “ได้ค่า รอเดี๋ยวนะคะ”  พี่พรตอบขณะที่กำลังวุ่นอยู่กับการชงกาแฟ
             “โย เป็นไงบ้างวะมึง”  โบถามไอ้โย
             “ก็หายเกือบเป็นปกติแล้วหล่ะ ขอบใจพวกมึงมากนะที่ดูแลกู”  โยบอก
             “เปลี่ยนคำขอบใจเป็นเลี้ยงเหล้าได้ป่ะ”  โบถามหยอกๆ
             “เห็นแก่กินนะมึง อ้วนจะเป็นหมูอยู่แล้ว”  ไอ้คิวแขวะโบ
             “จ้าาา พ่อผอมเพรียว มึงจะไม่กินใช่มั๊ย”  โบพูดประชด
             “แหะ แหะ กิน”  คิวพูดเสียงอ่อย ทำให้เราอดขำกับสองคนนี้ไม่ได้
             “ได้ๆ เดี๋ยวนัดกันอีกที แต่วันนี้ไม่ได้นะ เดี๋ยวงานไม่เสร็จ”  โยบอก ไม่อยากเชื่อว่ามันจะพูดแบบนี้ได้ ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงจะตั้งวงกันไปแล้ว
             “นี่โบ เค้ามีแต่จะต้องเลี้ยงคนพึ่งหายป่วย นี่มึงจะให้คนพึ่งหายป่วยมาเลี้ยงเหรอวะ”  ผมบ่น
             “แหม ออกรับแทนกันเชียวนะ”  โบแซว ผมเหลือบไปมองจิ๊บในแววตามีความสั่นไหว
             “ไม่รู้หล่ะ บ้านมันรวยนี่”  โบบอก
             “ไม่ต้องเถียงกัน กูเลี้ยงเอง”  โยตัดบท
             ตั้งแต่ไอ้โยกลับมาผมรู้สึกว่ามันเปลี่ยนไปจริงๆ แม้มันจะชอบกวนตีนผม แต่ก็ดูเอาการเอางานขึ้น ดูอ่อนโยนขึ้น ยิ่งเมื่อได้รู้ความรู้สึกลึกๆในใจของมันด้วยแล้ว มันทำให้ผมเริ่มใจอ่อน และมันก็ยิ่งทำให้ผมรู้สึกผิดต่อจิ๊บด้วย
             ………………………………………………………………………………...

             ปิดเทอมปี 3 เราแยกย้ายกันไปฝึกงาน จิ๊บไปฝึกงานที่เชียงใหม่ มันกำลังสร้างบ้านใหม่ให้พ่อแม่มัน เลยอยากไปฝึกใกล้ๆบ้านจะได้คอยคุมงานด้วย ส่วนพวกเราที่เหลือก็ฝึกงานตามบริษัทในกรุงเทพฯนี่แหละ ส่วนไอ้โยมันไม่ได้ไปฝึกงานที่บริษัทของพ่อมันตามพี่มันเคยบอกไว้ มันบอกว่าอยากลองทำอะไรด้วยตัวเองโดยไม่ใช้เส้นดูบ้าง
             ฝึกงานได้ไม่ถึงเดือนความซวยก็เข้ามาเยือนผม ผมโดนรถมอเตอร์ไซด์เฉี่ยวเสียหลักล้มลง ขาซ้ายกระแทกกับเสาปูนทำให้กระดูกหน้าแข้งหัก ไอ้โยช่วยพาผมไปหาหมอต้องเข้าเฝือกเป็นเดือน มันเลยมาอยู่ที่คอนโดผม มันอ้างว่าผมขาหักทำอะไรไม่ค่อยถนัดมันเลยขอมาอยู่ช่วยเป็นการชั่วคราว ผมลางานได้สองวันก็ต้องไปฝึกงานต่อโดยใช้ไม้เท้าช่วยพยุง เวลาไปฝึกงานโยมันก็ขับรถไปส่ง เลิกงานแล้วมันก็ไปรับ ถึงแม้ที่ฝึกงานของมันจะค่อนข้างไกลจากผมก็ตาม
             “เข้าเฝือกงี้มึงฝึกงานไม่ลำบากเหรอวอน”  โยถามหลังจากกลับถึงห้องผม
             “ไม่เท่าไหร่อ่ะ พอดีพี่ๆเค้าให้กูทำงานนั่งโต๊ะไปก่อนอ่ะ”  ผมตอบ
             “อ๋อ ก็ดีแล้ว”  โยบอก
             “มึงจะกินข้าวเลยป่าว เดี๋ยวกูจัดโต๊ะให้”  โยถาม ก่อนกลับเราแวะซื้อข้าวกับกับข้าวสำเร็จรูปมาด้วย
             “ยังอ่ะ อยากอาบน้ำก่อนเหนียวตัว”  ผมบอกมัน
             “แล้วมึงจะอาบยังไงขาก็เข้าเฝือกอยู่”  โยถามด้วยความสงสัย
             “เออกูอาบของกูได้ละกัน”    ผมตอบ โยนิ่งเหมือนคิดอะไรอยู่พักหนึ่ง
             “รอแป๊บนะ”  มันพูด แล้วก็เดินออกจากห้องไปครู่หนึ่ง มันกลับเข้ามาพร้อมกับเก้าอี้พลาสติกไม่มีพนัก 2 ตัว
             “เอาเก้าอี้มาทำไมวะ”  ผมถามด้วยความงง
             “อ้าว ก็เอามาให้มึงนั่งอาบน้ำไง กูลงไปยืมนิติคอนโดมึงมา”  มันตอบ
             “อ๋อ ฉลาดเหมือนกันนะมึง”  ผมแกล้งชมมัน
             “อ๊ะแน่นอน คนอะไร้ ทั้งหล่อทั้งฉลาด”  มันชมตัวเอง พร้อมกับยิ้มกวนๆ
             “กูว่าแล้ว ไม่น่าชมมันเลย”  ผมบ่นกับตัวเอง ไอ้โยยืนหัวเราะ
             “มาเดี๋ยวกูถอดเสื้อผ้าให้”  ไอ้โยบอก
             “ไม่ต้องหรอกเดี๋ยวกูถอดเอง”  ผมค้าน
             “มึงจะถอดยังไงขาก็เข้าเฝือกอยู่ ลำบากตายชัก เดี๋ยวกูถอดให้แป๊บเดียว”  มันเถียง
             “เออ กูถอดได้”  ผมยังไม่ยอมมัน
             “มึงอย่าดื้อสิ”  ว่าแล้วมันก็ลากผมไปนั่งข้างเตียง จัดการถอดถุงเท้าออก ตามด้วยปลดเข็มขัดแล้วค่อยๆดึงกางเกงผมออก มันเงยหน้ามามองผมแล้วอมยิ้มก่อนจะถอดกางเกงในผมตามไป ผมได้แต่ให้ความร่วมมือกับมัน จากนั้นมันก็ค่อยๆปลดกระดุมเสื้อผมแล้วถอดออกไป ร่างกายผมเปลือยเปล่า
             “สร้อยสวยดีนี่”  โยบอกเมื่อเห็นสร้อยของจิ๊บที่ผมใส่ไว้
             “อือ จิ๊บให้น่ะ”  เหมือนมันจะชะงักไปครู่หนึ่ง แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ มันพยุงผมเข้าห้องน้ำ ผมนั่งบนเก้าอี้ตัวหนึ่งที่มันเอามา เอาขาที่เข้าเฝือกพาดไปที่เก้าอี้อีกตัวหนึ่ง
             “ขอบใจนะ เดี๋ยวกูอาบเอง”  ผมบอกมัน
             “กูอาบให้”  มันไม่รอคำอนุญาตจากผม หยิบฝักบัวเปิดน้ำรดตัวผม
             “ไอ่โยกูอาบเอง”  ผมพยายามแย่งฝักบัวจากมัน
             “ดื้อจริงมึงนี่ เดี๋ยวตีตายเลย”  มันดุ ผมไม่อยากเสียเวลาเถียงกับมัน เลยได้แต่ยอมๆมันไป
             มันเอาฝักบัวรดตัวผมจนทั่ว แล้วเอาสบู่เหลวใส่มือมันมาถูหลังผมไล่จากบนลงล่าง แขนทั้งสองข้าง หน้าอก ไล่ลงมาที่ท้อง ผมรู้สึกหวิวๆ แต่พยายามเก็บอาการไว้ มันถูสบู่ลงไปที่ขาข้างที่ไม่ได้ใส่เฝือกจนถึงปลายเท้า ส่วนข้างที่พาดอยู่บนเก้าอี้มันถูแค่หัวเข่า เสร็จแล้วมันก็ถูสบู่ที่ไข่แฝดของผมแล้วรูดหนังหุ้มท่อนของผมลง โยใช้มือลูบไล้ทำความสะอาดส่วนหัวอย่างแผ่วเบา แล้วเลื่อนมาตามลำจนถึงโคน ก่อนจะกลับไปที่ส่วนหัวอีก ผมพยายามข่มความรู้สึกไว้แต่เจ้าวอนน้อยมันไม่ให้ความร่วมมือเลย กลับไปผงกหัวท้าไอ้โยมัน
             “ไอ้โยมึงแกล้งกูเหรอ ซี๊ดดด”  ผมถามมันพร้อมกับครางเบาๆ
             “เปล่า กูก็ทำความสะอาดให้มึงไง จะได้สะอาดๆ”  มันยิ้มเจ้าเล่ห์ แล้วจึงเปิดน้ำฝักบัวล้างตัวผมจนสะอาด เช็ดตัวจนแห้งดี
             “เงี่ยนเหรอ แข็งไม่ลงเชียวนะ”  โยแซวเมื่อเห็นท่อนผมยังไม่ยอมอ่อนตัว
             “ไม่ต้องมาพูดเลย มึงนั่นแหละแกล้งกู มึงต้องรับผิดชอบด้วย”  ผมแกล้งบอกมันไป ไอ้โยไม่พูดอะไรมองหน้าผมครู่หนึ่งแล้วทำในสิ่งที่ผมไม่คาดคิด มันอมท่อนของผมเข้าไปในปาก ผมตกใจมากตามมาด้วยความเสียว
             “ไอ้โย! กูพูดเล่น มึงไม่ต้องทำก็ได้ ซี๊ดดด”  ผมบอก ไม่มีเสียงตอบจากมัน
             มันยังคงรูดท่อนของผมขึ้นลงด้วยปากของมัน คราวนี้ไม่โดนฟันมันเหมือนคราวก่อน รูดได้พักนึงมันก็คายออกมา แล้วใช้ลิ้นเลียส่วนปลายท่อนของผมก่อนออกแรงดูดส่วนหัวเน้นๆ ผมเสียวมาก
             “ซี๊ดดด มึงไปหัดมาจากไหนวะ ดูดเก่งขึ้นเยอะเลย”  ผมถามมัน
             “ก็จำๆมาจากมึงนั่นแหละ”  โยคายออกมาพูด ก่อนจะเลียไปตามท่อนลำแล้วอมเข้าไปจนสุดลำอีกครั้ง มันออกแรงดูดและใช้ปากรูดไปด้วย
             “โอ๊ยยย โย ซี๊ดดด เสียวว่ะ”  ความเสียวซ่านแผ่ไปทั่วร่างผม จนร่างกายผมเกร็งไปทั้งตัว รู้สึกหวิวๆ เหมือนกำลังล่องลอยอยู่บนฟ้า โยเร่งความเร็วขึ้น
             “โย  ซี๊ดดด โย กูเสียว อ่าา”  ผมคราง รู้สึกได้ว่าเขื่อนผมคงจะแตกในอีกไม่ช้า
             “ซี๊ดดด อ่าาา โย จะแตกว่ะ”  ผมบอกมัน ทันใดนั้นมันก็คายท่อนของผมออกมาเอาดื้อๆ
             “ไอ้เหี้ยโย มึงจะแกล้งกูเหรอ”  ผมด่ามัน อารมณ์ค้าง โยยิ้ม
             “เปล่า ไปที่เตียงเหอะ กูไม่ถนัด”  มันบอกพร้อมกับพยุงผมออกไปที่เตียงทั้งที่ท่อนวอนน้อยยังโด่ๆอยู่ มันจัดให้ผมนอนบนเตียง เสร็จแล้วมันก็ถอดเสื้อผ้าของมันออกจนเปลือยเปล่า
             “ไอ้โยมึงจะทำอะไร ทำไมมึงต้องแก้ผ้าด้วย เราตกลงกันแล้วนะโว้ย”  ผมถามด้วยความตกใจ
             “ไอ้วอนเราตกลงกันว่าเราจะไม่มีอะไรกันเหมือนเมื่อก่อนใช่มั๊ย?”  มันถาม
             “ใช่”  ผมตอบมัน
             “เมื่อก่อนที่กูเอาแต่เย็ดมึงบ่อยๆใช่มั๊ย?”  มันถามต่อ
             “ใช่”  ผมตอบ งงกับสิ่งที่มันจะสื่อ มันยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ก่อนจะพูดต่อ  
             “ถ้างั้น ถ้ากูให้มึงเย็ดแทนมันก็ไม่เหมือนเมื่อก่อนใช่มั๊ย กูไม่ได้ผิดข้อตกลงนะ”  มันพูดพร้อมกับหลิ่วตา
             “ไอ้โย ศรีธนญชัยนักนะมึง”  ผมด่ามัน
             “วอน มึงทำเพื่อกูมามากแล้วให้กูทำเพื่อมึงบ้างนะ”  โยพูดเสียงจริงจัง
             “นะ นะ นะ”  มันอ้อน
             “เออ”  ผมตอบมันไป ทนลูกอ้อนมันไม่ไหว เงี่ยนด้วยแหละก็มันเล่นทำผมอารมณ์ค้างอย่างงี้ใครมันจะไปทนไหว ดูมันดีใจจนออกนอกหน้า
             มันหยิบเจลหล่อลื่นมาทาท่อนผมจนชุ่ม พร้อมกับทาที่รูของมัน มันขึ้นมานั่งคร่อมผม เราหันหน้าเข้าหากัน ท่อนของผมยังคงตั้งโด่เหมือนกับท่อนของโย
             “มึงแน่ใจนะ”  ผมถามมัน เพราะมันเคยโดนผมเอาแค่ครั้งเดียว
             “แน่ใจ”  โยตอบเสียงหนักแน่น
             มันจับท่อนของผมตั้งขึ้นจ่อตรงรูของมัน แล้วค่อยๆทิ้งน้ำหนักตัวลงช้าๆ หูรูดของมันยู่ไปตามแรงกดจากท่อนของผม หน้าตาโยเหยเก มันยกตูดขึ้นหายใจหอบก่อนที่จะกดลงไปใหม่ด้วยแรงที่มากกว่าเดิม
             “ซี๊ดดด อ่าาาา”  เราครางแทบจะพร้อมกัน คนหนึ่งครางด้วยความเสียว แต่อีกคนครางด้วยความเจ็บ โยกัดฟันแน่น
             ส่วนหัวของท่อนผมเข้าไปแล้ว โยหยุดพักหายใจครู่หนึ่ง ผมรู้สึกถึงแรงบีบจากรูของโย มันแน่นมากแทบจะขยับไม่ได้เลย
             “โอ๊ยย แป๊บนะ”  โยบอกขณะถอนก้นออกจากแท่งผมจนหลุด โยชะโลมเจลเพิ่มเข้าไปอีกทั้งรูโยและท่อนของผม ก่อนจะกดสะโพกลงมาใหม่
             “อ่าาาา”  ผมครางออกมาเมื่อรูของโยกลืนท่อนของผมเข้าไปเกือบครึ่ง โยหยุดพักหายใจอีกครู่หนึ่ง ท่อนของโยหดเล็กน้อย ก่อนจะออกแรงกดสะโพกลงไปจนมิดลำผม
             “โย ซี๊ดดด ไหวมั๊ย”  ผมถาม โยพยักหน้ายังคงกัดฟันแน่น ก่อนจะก้มลงมาประกบริมฝีปากกับผม
             รสจูบของโยยังคงเหมือนเดิม นุ่มนวล อบอุ่น แต่ก็ทำให้หัวใจเต้นแรง เรากระหวัดลิ้นเกี่ยวพันกันในปากส่งความรู้สึกให้แก่กัน ผมเอามือโอบหลังโยเบาๆ ลูบไล้ไปตามแผ่นหลังที่มีกล้ามเนื้อแกร่งแบบนักกีฬา เราซึมซับความเสียวซ่าน ความอบอุ่นของกันและกันซักพัก รูของโยเริ่มผ่อนคลายลงแต่ยังคงตอดรัดเป็นจังหวะ
             โยลุกขึ้นนั่งร่างของเรายังคงเชื่อมต่อกันด้วยท่อนของผม ท่อนของโยกลับมาแข็งจนแทบระเบิด
             “โย ซี๊ดดด อ่าาา”  ผมครางเมื่อ โยค่อยๆถอนรูขึ้นช้าๆ ก่อนกดกลับเข้ามาใหม่
             “หายเจ็บยัง? อ่าา ซี๊ดดด”  ผมถามมันพร้อมกับครางไปด้วย
             “โอเคแล้ว ซี๊ดดด โอ๊ยยย ซี๊ดดด”  โยตอบ รูของมันรูดท่อนของผมขึ้นลงซ้ำแล้วซ้ำเล่า ปลายท่อนของมันมีน้ำเงี่ยนไหลเยิ้มออกมาเลอะหน้าท้องผมเต็มไปหมด
             “ซี๊ดดด เสียวว่ะ วอน”  โยเริ่มครางด้วยความเสียวเชิดหน้าขึ้น
             “กูก็เสียวว่ะโย รูมึงตอดควยกูแน่นมาก ซี๊ดดด”  ผมบอก หน้าตาเหยเกด้วยความเสียว
             “วอน ซี๊ดด วอน อ๊ะ อ่าาา ซี๊ดดด”  โยครางไปเรียกชื่อผมไปพลางเร่งจังหวะขึ้น
             ผมออกแรงกระแทกท่อนของผมสวนไป มีแต่เสียงครางและเสียงเรียกชื่อของกันและกันระงมในห้อง ความต้องการของเราถูกปลดปล่อยออกมา
             “ป๊าบ ๆๆ ๆๆ”  เสียงเนื้อของเรากระทบกัน ความเสียวจากการเสียดสีกันของท่อนเอ็นกับรูอุ่นเพิ่มมากขึ้นจนใกล้ถึงขีดสุด
             “ซี๊ดดด แรงๆเลยวอน อ่าาา กูจะแตกแล้ว”  โยพูดพร้อมกับเร่งจังหวะเกือบถึงขีดสุด
             “กูก็จะแตกเหมือนกันโย ซี๊ดดด อ่าาาา”  ผมบอกพร้อมกับเร่งจังหวะกระแทก
             “อ่าา แตกแล้ววว ซี๊ดด โอ๊ยยยย วอน”
             “โอ๊ยยย อ่าาา โย กูก็แตกแล้ววว”  เราครางออกมา น้ำสีขาวขุ่นของโยพุ่งมาเองโดยที่โยไม่ได้ไปแตะต้อง มันพุ่งแรงถึงหน้าอกผมพร้อมกับรูของโยที่ขมิบตอดรัดท่อนของผมเป็นจังหวะ จนผมทนการบีบรัดไม่ไหวต้องปล่อยน้ำรักของผมเข้าไปในตัวของโย
             โยฟุบลงมาที่ตัวผมอย่างหมดแรง เรากอดรัดกันราวกับไม่อยากแยกจากกัน โยหลับตาพริ้มยิ้มอย่างมีความสุข
             …………………………………………………………………………………

             ตลอดเวลาที่ผมเข้าเฝือกอยู่โยยังคอยดูแลผม ไปรับไปส่ง ช่วยผมแต่งตัว อาบน้ำให้ ทำเหมือนผมเป็นลูกมันก็ไม่ปาน แต่ผมตั้งข้อตกลงใหม่กับมันว่าห้ามมีอะไรกันถ้าอีกฝ่ายไม่ยินยอม กันมันหัวหมออีก จะมีชักว่าวให้กัน ดูดให้กันบ้างถือว่าหยวนๆ
             โบ กับคิวก็มาเยี่ยมผมบ้างในวันหยุด แต่ก็ไม่บ่อยนักเพราะยุ่งๆอยู่กับการฝึกงาน ส่วนจิ๊บมันเป็นห่วงผมมากเมื่อรู้ข่าว ก็ยังติดต่อกันทางโทรศัพท์บ้าง ทางไลน์บ้าง ผมบอกว่าไอ้โยดูแลผมอยู่มันก็เบาใจขึ้น
             ผมเข้าเฝือกไปเดือนกว่าๆ จึงถอดเฝือกออกได้ เราฝึกงานใกล้จะเสร็จแล้ว ไอ้โยก็ยังมาดูบ้าง กลับไปอยู่คอนโดมันบ้าง บางครั้งมันก็ขอมานอนห้องผม ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร มันยังชอบมานอนกอดผม แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรไปมากกว่านั้น
             “ไอ้วอน ตื่นเร็ว”  โยปลุกผม เมื่อวานมันมาขอนอนห้องผม
             “วอน วอน ตื่นๆ”  มันยังเรียกผมอยู่ ผมงัวเงียตื่นเหลือบไปดูนาฬิกาหัวเตียงมันเป็นเวลาตี 5 กว่าๆ
             “วันนี้วันอาทิตย์มึงจะปลุกกูทำไม”  ผมพูดอย่างรำคาญ แล้วนอนต่อ
             “วอนมึงไปเป็นเพื่อนกูหน่อย ตื่นก่อน”  มันยังปลุกผมไม่เลิก
             “ไปไหน กูง่วงนอน”  ผมชักอารมณ์เสีย
             “เออน่า ไปเป็นเพื่อนกูหน่อย แป๊บเดียวเอง”  มันเซ้าซี้
             “เออๆๆ ลุกก็ได้ มารความสุขกูจริงๆ มึงจะไปไหน”  ผมงัวเงียตื่น พลางลุกไปล้างหน้าล้างตา
             “น่า ตามมาเดี๋ยวก็รู้เอง”  มันทำเหมือนมีลับลมคมใน ผมเดินตามมันลงคอนโดไป มันถือถุงอะไรไปด้วยไม่รู้ เดินไปหยุดอยู่ทางเข้าหน้าคอนโด ผมงงมากไม่รู้ว่ามันจะทำอะไร
             “นิมนต์ครับ”  โยพูดเมื่อมีพระสองรูปเดินมาบิณฑบาต พลางหยิบอาหารที่ใส่ถุงเตรียมไว้แล้วมาใส่บาตร แล้วยื่นมาให้ผมใส่บาตรด้วย ผมรับมาใส่บาตรอย่างงงๆ
             “…………………...อายุ วัณโณ สุขัง พลัง”  พระให้พรเสร็จแล้วเดินจากไป เราลุกขึ้นหลังจากนั่งรับพรแล้ว โยเดินนำกลับขึ้นคอนโดไป ผมยังงงเป็นไก่ตาแตก เมื่อถึงห้องผมเอามือไปแตะหน้าผากมัน
             “ไอ้โยมึงเป็นอะไร ไม่สบายหรือเปล่า ตัวก็ไม่ร้อนนี่”  ผมถาม มันได้แต่ยิ้ม
             “มึงใช่ไอ้โยหรือเปล่าเนี่ยะ  มึงต้องเป็นตัวปลอมแน่ๆ บอกมานะมึงเป็นใคร เอาไอ้โยคนเดิมกูคืนมานะ”  ผมเล่นใหญ่รัชดาลัยเธียเตอร์
             “มึงอยากได้โยคนเดิมเหรอ...”  มันพูดพร้อมกับมากอดผมด้านหลัง แล้วไซร้ซอกคอผม
             “เออๆๆ กูรู้แล้ว มึงคนเดิมจริงๆด้วย”  ผมพูดพร้อมกับดิ้นหลุดจากอ้อมกอดมัน
             “มึงเป็นอะไรร้อยวันพันปีกูไม่เคยเห็นมึงตักบาตร นึกว่ามึงเข้าใกล้พระไม่ได้ซะอีก”  ผมแขวะมัน
             “กูไม่ใช่ผีนะมึง ก็วันนี้เป็นวันพิเศษไง ก็อยากทำอะไรดีๆบ้าง”  มันบอก
             “วันพิเศษ?”  ผมพยายามนึก วันนี้ก็ไม่ใช่วันนักขัตฤกษ์อะไรนี่หว่า
             “วันอะไรวะ?”  ผมถามมัน
             “อ้าว ไอ้นี่ ก็วันเกิดมึงไง มึงเพี้ยนจนจำวันเกิดตัวเองไม่ได้เหรอ”  มันตอบพร้อมกับหัวเราะ
             จริงสิ วันนี้วันเกิดผมนี่นา ผมมัวยุ่งๆกับการฝึกงานจนลืมวันเกิดตัวเองไปเลย ทันใดนั้นภาพเหตุการณ์ในวันเกิดของปีที่แล้วก็เข้ามาในหัวผม ภาพที่จิ๊บพาผมไปทำบุญที่วัดตอนเข้าค่ายอาสา ภาพที่จิ๊บมอบสร้อยเส้นนี้เป็นของขวัญวันเกิด และภาพที่….ไอ้โยข่มขืนผม โยคงเห็นสีหน้าผมเครียดขึ้น มันจึงพูดว่า
             “วอน กูรู้ว่าวันเกิดมึงปีที่แล้วกูทำเหี้ยๆกับมึงเอาไว้ แต่มึงก็ยังไม่โทษกูเลย กูมันเลวจริงๆ”  โยเว้นวรรค
             “กูคงกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้ แค่อยากทำอะไรดีๆเป็นการไถ่โทษบ้าง แม้ว่ามันจะลบล้างกันไม่ได้ก็ตาม”  โยทำหน้าเศร้า
             “ขอบใจมากนะโย”  ผมยิ้มบอกมันไป
             “ความจริงกูลืมมันไปแล้วซะด้วยซ้ำ”  ผมพูด โยยิ้มขึ้นมาได้ พลางเดินไปหยิบกล่องอะไรบางอย่าง
             “สุขสันต์วันเกิดนะวอน”  โยพูดพร้อมกับยื่นกล่องเล็กๆกำมะหยี่สีน้ำเงินมาให้ผม
             ผมเปิดดูข้างใน มันเป็นแหวนเงินเกลี้ยงคู่หนึ่ง บนแหวนสลักตัวอักษรภาษาอังกฤษเป็นตัว W และตัว Y ซ้อนทับกัน เหมือนกันทั้งสองวง
             “โย!”  ผมพูดพร้อมกับจ้องหน้ามันอยู่นาน
             “แหวนนี้อาจไม่มีค่าอะไรมาก กูซื้อจากเงินเบี้ยเลี้ยงฝึกงานของกูเอง”  มันบอก
             วินาทีนั้นใบหน้าของจิ๊บก็ลอยเข้ามาในหัวจนผมเผลอเอามือไปกุมสร้อยคอที่จิ๊บให้ไว้ โยคงสังเกตุเห็น สีหน้าดูเศร้าลง ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นรอยยิ้ม
             “วอน กูพอจะรู้นะว่าจิ๊บก็ชอบมึง กูไม่ว่าอะไรหรอกถ้ามึงจะเลือกจิ๊บ”  โยพูดด้วยรอยยิ้ม
             “กูรู้ว่าถ้าเทียบกับจิ๊บแล้วกูสู้เค้าไม่ได้เลย กูทำให้มึงเสียใจอยู่ตลอดๆ ส่วนจิ๊บเค้าก็ดีกับมึง เสียสละเพื่อมึงตลอดมา”  โยเว้นวรรค
             “ถ้ามึงอยู่กับใครแล้วมีความสุข กูก็มีความสุขด้วย เพราะกูรู้แล้วว่าความสุขของมึงก็คือความสุขของกู”  โยพูดด้วยเสียงอันอ่อนโยน
             “โย”  ผมได้แต่เรียกชื่อมัน เหมือนมีก้อนบางอย่างจุกอยู่ที่คอ มันไม่รู้ว่าเป็นความสุขหรือความเศร้า มันเหมือนจะปนๆกันจนแยกไม่ออก
             “วอน กูอยากให้มึงเก็บแหวนนี้ไว้ก่อน วันไหนมึงรู้ใจตัวเองแล้วว่ามึงอยากอยู่กับใคร ถ้าคนนั้นเป็นกู กูจะสวมแหวนนี้ให้มึงเอง แต่ถ้าไม่ใช่กู กูขอแหวนคู่นี้คืนนะ”  มันยังคงยิ้ม ผมโผเข้าไปกอดมัน มันกอดผมตอบ น้ำตาผมเอ่อออกมา เรากอดกันอยู่อย่างนั้นนานเท่าไหร่ไม่รู้
        ……………………………………………………………………………………

             (“ติ๊ง”)  เสียงเตือนข้อความดังขึ้น ผมเปิดข้อความนั้นดูเป็นข้อความจากจิ๊บ
             (“วอน กูอาจกลับช้าอาทิตย์นึงนะ”)
             (“แล้วเจอกันเปิดเทอมนะ”)
             (“ป.ล. เดี๋ยวกูซื้อของฝากที่มึงชอบไปให้นะ จุ๊บๆ”)
             ข้อความจิ๊บส่งมาพร้อมสติ๊กเกอร์น่ารักๆ
             ผมนั่งถอนหายใจ มองเหม่อออกไปนอกหน้าต่างอีกครั้ง มันคงใกล้ถึงเวลาที่ผมต้องตัดสินใจเรื่องที่สำคัญที่สุดในชีวิตผมแล้วสินะ
             ………………………………………………………………………………....

อืม..ดีๆ ใช้ได้

อะไรก็ไม่รู้

เห็นด้วยๆ
3

ซึ้งจังเลย

ขำฮาตรึม

มีผู้แสดงความรู้สึก (3 คน)

ความคิดเห็น ความคิดเห็น (2 ความคิดเห็น)

ตอบกลับ GGonfire 2020-7-14 19:08
ลำบากใจ พอมันดีทั้งคู่แล้วก็ลำบากใจอ่ะ แบบ โอ้ยยยยย ใช่ ยังไงก็คงเลือกโยแหละ ก็สงสารจิ๊บ กอดปลอบ โอ๋ๆน้าาาาา
ตอบกลับ nakikaka63 2020-8-22 15:30
เป็นอะไรที่ลำบากใจมากของทั้งคู่

facelist doodle วาดรูป

คุณต้องลงชื่อเข้าใช้ก่อนจึงจะสามารถแสดงความคิดเห็นได้ ลงชื่อเข้าใช้ | สมัครเข้าเรียน

รูปแบบข้อความล้วน|โทรศัพท์มือถือ|ติดต่อลงโฆษณา|จีโฟกายดอทคอม


ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บจีโฟกายดอทคอมนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ หากท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศิลธรรม ไม่เหมาะสมที่จะเผยแพร่ ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link “แจ้งลบโพสนี้” ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือ ลืมพาสเวิดล๊อกอิน/ลืมชื่อที่ใช้สมัคร หรือข้อสงสัยใดๆแจ้งมาที่ G4GuysTeam[at]yahoo.com ขอขอบพระคุณที่ให้ความร่วมมือ

กรณีที่ข้อความ/รูปภาพในกระทู้นี้จัดสร้างโดยผู้ลงข้อมูลเอง ลิขสิทธิ์จะเป็นของผู้ลงข้อมูลโดยตรง หากจะทำการคัดลอก/เผยแพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ลงข้อมูลก่อนนะคะ หรือลงที่มาไว้ด้วยค่ะ

©ขอสงวนสิทธิ์คอนเซ็ปต์,คำอธิบาย,หัวข้อ/หมวดหมู่เว็บ ห้ามลอกเลียนแบบ คิดเอาเองนะคะอย่าเอาแต่ลอก

GMT+7, 2024-4-20 09:41 , Processed in 0.039919 second(s), 16 queries .

Powered by Discuz! X3.1 R20140301, Rev.31

© 2001-2013 Comsenz Inc.

ขึ้นไปด้านบน