ลืมรหัสผ่าน
 สมัครเข้าเรียน
ค้นหา
 
ดู: 1053|ตอบกลับ: 27

เรื่องของเบนซ์ ตอนที่ 45

[คัดลอกลิงก์]

เรื่องของเบนซ์ ตอนที่ 45

[คัดลอกลิงก์]

นายกองค์การนักศึกษา

ตอบกลับ
1244
พลังน้ำใจ
18432
Zenny
11218
ออนไลน์
1455 ชั่วโมง
Julio

นายกองค์การนักศึกษา

ตอบกลับ
1244
พลังน้ำใจ
18432
Zenny
11218
ออนไลน์
1455 ชั่วโมง
2019-6-5 15:17:13 | ดูโพสต์ทั้งหมด |โหมดอ่าน
เรื่องของเบนซ์ ตอนที่ 45


เย็นวันศุกร์ที่บ้าน
“บอลแม่ว่านานแล้วนะที่ลูกพูดไม่ออก  แม่ว่ามันผิดปกติแล้วนะ”   คำพูดนี้ทำให้ผมคิดกลัวกลัวว่าผมจะเป็นใบ้เลยอ่ะ   
“อย่าคิดมากนะลูก  พ่อว่าเรารักษาที่โรงพยาบาลไม่หายหรอก”    ใช่ครับผมเทียวเข้าเทียวออกจากโรงพยาบาลมาสองอาทิตย์แล้วผมยังพูดไม่ออกเลย  พ่อพูดแบบนี้ ผมจึงรีบเขียนข้อความถามท่าน
/พ่อครับรักษาแบบไหนครับ  ผมอยากหาย/
“บอลพ่อก็ไม่แน่ใจนะว่ามันจะหายไหม”  พูดจบพ่อของเบนซ์ก็ทำหน้าเศร้าซึ่งผมไม่เคยเห็นท่านเป็นแบบนี้มาก่อน
“บอลถ้าบอลไม่หาย  บอลก็คุยได้ลูก บอลเขียนหนังสือได้นี่ลูก”  
“ไม่นะพ่อบอลต้องหาย  พาไปรักษาที่ไหนครับ”เบนซ์จับแขนพ่อเขย่าอยากให้พ่อบอกว่ารักษาที่ไหน
“พรุ่งนี้พ่อจะพาไปนะลูก  ไปวัด  บอลอาจจะมีเวรกรรมเก่าก็ได้”   
“ใช่แม่ก็ลืมเสียสนิทใจ  อาจารย์วัดนั้นเก่งมากเลยนะลูก”  ผมเริ่มมีความหวังขึ้นมาหน่อย  ผมลุ้นในใจว่าผมต้องหายอย่างแน่นอน คืนนั้นทั้งคืนผมนอนไม่หลับ  เบนซ์ก็นอนไม่หลับ ขนาดน้องเดย์จอมนอนแต่หัววันก็ยังนั่งตาค้างรอให้สว่าง    ครับแล้วเวลาที่เราคอยก็มาถึง  เช้าแล้วพวกเราสามคนก็รีบอาบน้ำแต่งตัว เบนซ์ก็ขับรถพาผมไปที่บ้านแม่ของเขาเพื่อเดินทางไปพร้อมกัน  
“พี่บอลครับพี่บอลอย่าเสียใจนะครับ  พี่ต้องหายครับ”  เดย์กอดผม
“อ่ะถึงแล้วครับ  เบนซ์จะไปเร่งคุณแม่นะบอล”  
เบนซ์ก้าวลงจากรถแล้วก็รีบวิ่งเข้าบ้านทันที  ไม่นานพ่อกับแม่ก็เดินหิ้วของมากมายออกมา  คงจะเอาไปถวายพระ แต่ท่านไม่นั่งรถไปกับเรา  ท่านนั่งรถท่านไปเอง เบนซ์ก็ถามทางว่าวัดนั้นอยู่ทางไหน  ไม่ใกล้เลยครับอยู่จังหวัดมุกดาหาร ตั้งเกือบ300 กิโลมั้งจากบ้านผม เบนซ์ใจร้อนเมื่อรู้ที่ ก็พาขับรถออกหน้าพ่อกับแม่อย่างรวดเร็ว เมื่อไปถึงวัดพวกเราก็พากันเดินลงจากรถ  แล้วเดินตามหาอาจารย์
“กุฏินี้ล่ะ  มาทำไมกันหรือ” เสียงชายแก่ๆใส่ชุดขาวบอกพวกเรา  
“ขอบคุณครับลุง”
เบนซ์ก็พาผมเดย์เดินไปที่ที่ลุงแกบอก  เมื่อไปถึงเราสามคนก็เจอพระรูปหนึ่งหน้าตายังไม่แก่เลย  อายุท่านซักประมาณ  26 นี่ล่ะมั้ง พวกเราสามคนก็ก้มลงกราบท่าน  แล้วนั่งกำลังจะถามท่าน แต่ท่านก็พูดอกมาก่อน  
“โยม ไม่โทรบอกโยมพ่อโยมแม่ล่ะ มาไม่ได้ก็ไม่ต้องมาหรอก  โยมมาถึงวัดแล้ว เดี๋ยวอาตมารักษาให้”  เบนซ์ทำท่างงแต่เบนซ์ก็รีบโทรตามที่อาจารย์ท่านบอก
“แม่ครับ  อาจารย์ท่านบอกว่ามาไม่ได้ก็ไม่ต้อง พวกผมมาถึงแล้ว  ท่านจะรักษาให้ครับ” ซักพักเบนซ์ทำท่าสงสัยเอามากๆ  แล้วเบนซ์ก็พนมมือไหว้จากนั้นก็ถามอาจารย์
“พระอาจารย์ครับ  พ่อกับแม่ยางรถแตกคงมาไม่ได้  อาจารย์รู้ได้อย่างไรครับ” เบนซ์ทำหน้าสงสัย  
“ไม่รู้สินะ  เอาเป็นว่าเรามาเริ่มรักษาโยมคนนี้ดีกว่านะ” ท่านก็มองมาทางผม  แล้วท่านก็ถามผม  
“ทำไมถึงอยากตายล่ะโยม”  ผมอยากตอบมากแต่ผมไม่กล้าพูดเพราะผมกลัวว่าผมจะพูดไม่ออกเบนซ์จะตอบแทนผม  แต่อาจารย์ท่านยกมือห้ามไว้   
“ตอบมาสิโยม”  ท่านหันมาทางผม ผมก็พยายามพูด   
“รู้...สึกสิ้นหวัง..”  ผมยิ้มผมดีใจมากที่ผมพูดได้ มันรู้สึกโล่งปากมากๆ   
“บอลนายพูดได้แล้ว”  เบนซ์กระโดดเข้ากอดผม  
“พูดได้ก็ไม่ได้ความว่ามันจะหาย”  จริงของท่านผมพยายามจะพูดคำว่า ผมดีใจจัง  ผมก็พูดไม่ออก พยายามแล้วก็มีแต่เสียงลมที่ออกมา  
“นั่นไง  มันยังไม่หาย โยมอยากหายมั้ยล่ะ” ผมพยักหน้ารับ  
“จำได้มั๊ยที่โยมไปอธิฐานอะไรไว้ที่พระธาตุพนม”  ผมนึกขึ้นมาได้ว่าผมเคยไปอธิฐานขอพรที่องค์พระธาตุ  ผมขอให้เบนซ์หายดี  จากอาการบาดเจ็บคราวก่อน ผมก็รีบพยักหน้ารับ  แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่าท่านอาจารย์ท่านรู้ได้อย่างไร  
“สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่นั่นคงจะคิดถึงโยม  ป่านนี้ท่านคงอยากรู้ว่าสิ่งที่โยมขอมันเป็นจริงหรือยัง” ผมอ๋อขึ้นมาในใจ     
“ไปเถิดโยม  พากันไปไหว้องค์พระธาตุพนม แล้วบอกท่านว่าโยมได้สิ่งที่ต้องการแล้ว  และท่านคงคุ้มครองโยมไปอีกนาน  โยมมีบุญเก่าเกี่ยวข้องกัน” ผมก็กราบท่านด้วยความซาบซึ้ง  ท่านพูดคำสุดท้ายว่า โยมมีบุญเกี่ยวข้องกัน  ผมไม่แน่ใจว่าผมมีความเกี่ยวข้องกับองค์พระธาตุหรือเกี่ยวข้องกับเบนซ์   
“ไปเถิด  หากช้าจะไม่เป็นการดี  โยมรีบไปเถอะ”  อาจารย์ท่านย้ำอีกคำทำเอาผมใจร้อนอยากจะไปมากๆ  พอดีว่ามีคนเข้ามาแปดคนคงจะมากราบอาจารย์  ผมกับเบนซ์เดย์เลยต้องกราบลาท่าน ออกเดินทางไปที่พระธาตุพนม  ขณะที่นั่งในรถผมก็ยังพูดไม่ได้ ผมนั่งคิดทบทวนว่าแล้วที่ผมตอบอาจารย์ท่านผมพูดออกมาได้อย่างไรแล้วอาจารย์ท่านรู้เรื่องได้อย่างไร  ส่วนเบนซ์ก็โทรบอกแม่เรื่องที่อาจารย์ท่านรู้เรื่องอย่างระเอียดแล้วเบนซ์ก็เล่าความเป็นมาให้ผมฟัง ฟังจากแม่มาอีกที  
“บอล  อาจารย์ท่านนี้ท่านเก่งมาก ท่านมีตาทิพย์หูทิพย์”
อาจจะจริงก็ได้ครับ  แต่ถ้าผมไปพระธาตุพนมแล้วผมพูดได้จริงๆ ผมจะเชื่ออย่างสนิทใจเลยล่ะ  ไม่นานเราก็เดินทางไปถึงพระธาตุพนม ผมรีบเดินอย่างรวดเร็ว  ผมไม่รอเบนซ์รอน้องเดย์ ไม่รู้ผมเป็นอะไร  ผมบังคับตัวเองไม่ได้ เมื่อผมเดินขึ้นบันไดบริเวณฐานองค์พระธาตุ  น้ำตาของผมไหลออกมา  ผมไม่ได้มีเรื่องเสียใจดีใจอะไร แต่ทำไมน้ำตาผมไหล  ผมรีบเดินเข้าไปตรงที่ผมเคยมาอธิฐานเมื่อครั้งก่อนผมก็นั่งลงกับพื้นกราบ  พอผมกราบได้สามครั้งก็มีพระสงค์องค์หนึ่งยื่นธูปกับเทียนให้ผมผมรับจากมือท่าน  ท่านยิ้มให้ผมแล้วเอ่ยถาม
“โยมยังเด็กอยู่เลยนะ  แต่รู้จักกราบไหว้องค์พระเจดีย์”ท่านยิ้มให้ผมก็จับเอาธูปไปจุดแล้วปักธูปจากนั้นก็กราบอีกที พระรูปนั้นยังคงยืนอยู่ข้างหลังผม  เมื่อผมกราบเสร็จท่านก็ถามผมอีก  
“โยมกล่าวคำบูชาพระเจดีย์ได้มั๊ย”  ผมก็ส่ายหน้า เกิดมาผมก็ยังไม่เคยได้สวดมนต์ซักที  
“งั้นโยมว่าตามอาตมานะ”  ท่านก็ว่าเป็นท่อนๆ ผมก็พูดตาม  จนจบ  แล้วท่านก็หันมายิ้มให้ผมอีก
“โยม ต้องหมั่นทำบุญทำทานให้มากๆ นะ  โยมจะได้มีโอกาสช่วยเหลือค้ำจุนมนุษย์ที่กำลังหลงทางอยู่บุญบารมีของโยมนั้นมีมากนัก  ต้องรู้จักพัฒนาให้มันเกิดประโยชน์นะโยมนะ” (ผมงงมากกับคำที่ท่านพูดในตอนนั้น แต่ทุกวันนี้ผมเข้าใจอย่างละเอียดแล้ว) จากนั้นผมก็ถามท่านด้วยความอยากรู้สิ่งที่ท่านบอก
“พระอาจารย์ครับ  แล้วผมต้องทำอย่างไรบ้างครับถึงจะดี”  
“ทำบุญ ถือศีล  ภาวนา โยมเอ้ย  ต่อไปนี้โยมจะมีชีวิตที่ผิดแปลกไปจากคนอื่น โยมจะค่อยๆเกิดสัมผัสที่หก  มันจะค่อยๆเกิดขึ้นทีละน้อยๆโยมต้องหมั่นทำสมาธิ  แล้วจงเอารางสังหรณ์ที่ได้รับไปใช้ให้เกิดประโยชน์”  ผมก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี  แต่พอจะจำได้ตรงที่ท่านให้ผมทำสมาธิ เพราะคำนี้ท่านย้ำเหลือเกิน  ผมก็เลยยกมือไหว้รับปากท่าน  
“ครับผมจะทำสมาธิ”  ท่านก็ยิ้มให้ผมอีก
“เอา ล่ะๆ  รักษาตัวเองด้วยนะ อาตมาต้องไปก่อนล่ะ”  ท่านยิ้มแล้วเอามือลูบหัวผมเหมือนกันท่านเขียนตัวอักษรอะไรซักอย่างใส่หัวผม  ผมรู้สึกมึนๆ หัวมาก  ผมนั่งพนมมือหลับตา ผมพยายามฟังดูอาการที่ท่านสัมผัส  อยากรู้ว่าท่านเขียนตัวอักษรอะไร แต่ผมก็ไม่รู้ผมคิดไม่ออก  ผมก็เลยลืมตาขึ้นดูกะจะถามท่าน แต่ผมไม่เจอท่านแล้ว  มีคนยืนมองผมมากมาย ผมรีบกราบพระธาตุแล้วผมก็รีบเดินตามหาเบนซ์กับเดย์วันนี้คนเยอะมากผมตามหาสองคนนั่นหายังไงก็ไม่เจอ  ผมเลยตัดสินใจไปรอเดย์กับเบนซ์ที่รถประมาณ10 นาทีเบนซ์กับเดย์เดินหน้าตาตื่นมาที่รถ ผมนั่งหลบอยู่ผมรีบยืนขึ้น
“อ้าวบอล!นายมาเมื่อไหร่  เราไปเดินตามหานายตั้งนานแล้ว”  
“เรามารอนายพึ่งจะ 10 นาทีมั้ง นายสองคนไหว้พระธาตุหรือยัง”  ผมเอ่ยถามเบนซ์ เบนซ์กับเดย์ยืนงงอ้าปากค้าง  ผมเองก็งงว่าทำไมสองคนนั่นอึ้งทำไม แล้วผมก็คิดออก   
“เฮ้ย! เราพูดได้แล้ว  เบนซ์เดย์เราพูดได้แล้ว”  ผมตะโกนเสียงดัง  ผมดีใจมากที่ผมพูดได้  สองคนนั่นเดินมากอดผมดีใจใหญ่ แต่ผมก็ต้องหุบปากเอาไว้ก่อนเมื่อคิดขึ้นมาได้
“เราทำไมไม่ดีใจตอนที่เราได้พบอาจารย์องค์นั้นก็เราพูดได้ตั้งแต่ตอนนั้นแล้วนี่นา”
“บอลนายพูดได้นานยังวะเนี่ย” เบนซ์ถามผมหน้าตาตื่น  
“ก่อนจะมาที่รถ  เราพึ่งออกมาเองนะ เราไปไหว้พระธาตมาแล้ว”  
“นายไปอยู่ส่วนไหนของพระธาตุ” เบนซ์ทำท่าซักไซ้ผม
“ก็ฝั่งตะวันออกที่เราเคยมากับนายไง”   
“บ้าหรอ  เราไปยืนรอนายตรงนั้นเกือบสองชั่วโมง ถามน้องเดย์สิ”  
“จริงนะพี่บอล  ผมกับพี่เบนซ์ไปยืนรอพี่สองชั่วโมงกว่าซะด้วยซ้ำ”  เบนซ์กับเดย์พูดแบบนี้ทำให้ผม  ต้องถกเถียงเขา เพราะผมกะเวลาที่ผมเดินเข้าไปกราบพระธาตุเจอพระอาจารย์จุดธูปและกล่าวคำไหว้  แล้วเดินมาที่รถ ไม่น่าจะถึง45นาที  
“ไม่จริงเราไปแป๊บเดียวเอง”  ผมยืนยัน  
“บอลนายว่าตอนนี้กี่โมงแล้ว”  เบนซ์เอามือเท้าเอวแล้วถามผมท่าทางจะไม่ยอมเรื่องเวลาผมก็บอกเบนซ์ตามที่ผมกะเอาไว้  
“บ่าย โมงครึ่งดิ  ก็เราออกจากวัดนั้น10.30 น. ไม่ใช่หรอ  นั่งรถมาถึงนี่ก็เที่ยง45นาทีนี่  ตอนนี้ก็ประมาณ 13.45 อาจจะไม่ถึงซะด้วยซ้ำ”  ผมยืนขึ้นตอบเบนซ์อย่างมั่นใจ
“บอลครับนายบ้าไปแล้ว โอเค เรามาถึงนี่ เที่ยง45 น้องเดย์ดูนาฬิกาสิครับ” เดย์รีบเดินไปดูแล้วก็หยิบโทรศัพท์ออกมาเอาเวลาให้ผมดู  ผมพูดไม่ออกแต่เบนซ์พูดบอกเวลาก่อน
“ตอนนี้ มันบ่ายสามโมงแล้วคุณ”  
“ไม่เชื่อหรอกนายสองคนอำเราใช่ไหม”  
“บอลนายเดินไปถามแม่ค้าก็ได้นะว่าตอนนี้กี่โมงแล้ว” ผมต้องการตัดสินผมมั่นใจว่าผมต้องชนะเบนซ์แน่ๆ  ผมรีบเดินไปถามแม่ค้า
“ยายครับตอนนี้กี่โมงแล้วครับ”  
“15.10 นาทีจ๊ะ”  ผมเดินหน้าซีดมาหาเบนซ์ เออจริงของเขานี่ผมโง่ขนาดนี้หรอ  กะประมาณเวลายังผิด แต่มันก็เกิดคำถามกับผมขึ้นมากมาย  ทำไมผมต้องเจออะไรที่มันแปลกๆ ตั้งสองสามอย่างด้วย  ผมพยายามนั่งทบทวนตลอดทางเพื่อไขปริศนาที่ผมได้รับในวันนี้แต่ผมก็คิดไม่ออก  เบนซ์กับน้องเดย์พยายามถามว่าผมเดินหายไปไหนผมก็ไม่มีคำตอบ  ผมไม่อยากเล่าสิ่งที่ผมพบเห็นให้เบนซ์ฟังผมรู้สึกอึ้งมากๆ  แค่เรื่องไปเจอพระอาจารย์แล้วท่านบอกให้มาพระธาตุพนมก็เป็นสิ่งที่อลังการพอแล้ว  ผมเองก็คงต้องเชื่อเรื่องบุญกรรมเรื่องชาติหน้าชาติหลังเรื่องโลกทิพย์  คงจะไม่มีเหตุผลถ้าผมไม่เชื่อเรื่องนี้   
“บอลครับต่อไปนี้เบนซ์จะไม่เป็นเหมือนเดิมอีกแล้วนะ”
“จริงหรือเบนซ์ เบนซ์จะไม่เป็นเหมือนเดิมแน่นะ”
“ครับ”  เบนซ์รับปากผมอย่างมั่นใจ
“เบนซ์ครับ  บอลไม่ได้เป็นคนดีอะไรนะครับ”
“ไม่เป็นไร  เราพอจะทำใจได้แล้วล่ะ  ในเวลาที่ผ่านมาเห็นบอลมีคนอื่นเบนซ์เห็นจนชินแล้ว  เบนซ์จะมาหึงมาหวงกันเหมือนเดิมคงไม่ได้  แล้วก็บอลเป็นคนมีเสน่ห์เอามากๆ  เรายอมให้บอลมีคนอื่นดีกว่าเสียบอลไป”  ผมก็งงกับคำๆ นี้  ผมไม่สบายใจเลยที่เบนซ์จะไม่หึงผมอีกผมอยากให้เบนซ์หึงผมเหมือนเดิม      
“ทำไมพูดแบบนี้  บอลไม่อยากยุ่งกับคนอื่นอีกแล้วนะ”
“อย่าพูดสิครับ ถึงบอลไม่ยุ่งเขาก็มายุ่งอยู่ดี”
“เราจะห้ามใจตัวเองให้ได้”
“บอลทำไม่ได้หรอก  เชื่อเบนซ์สิ รู้ไหมทำไมเบนซ์ทำใจได้ที่บอลมีคนอื่น”
“ไม่รู้สิครับ”  ผมไม่รู้จริงๆ ถ้าเบนซ์ไปมีคนอื่นผมทำใจไม่ได้
“บอกให้ก็ได้ครับ”  เบนซ์เงียบไม่พูดต่อ
“บอกมาดิ”  ผมเอามือหยิกที่เอวเบนซ์
“บอกให้ก็ได้ คนอื่นเขาไม่ได้รักบอลนี่ครับมีเบนซ์คนเดียวที่รักบอลถ้าใครที่มารักบอลเหมือนที่เบนซ์รักอันนี้ไม่ยอมหรอกเบนซ์ขอสู้ตาย” ผมก็ไม่ค่อยแน่ใจว่าเบนซ์ไม่แคร์จริงหรอเรื่องที่ผมมีหลายคน
“เรามีอะไรกับหลายคนมากเลยนะเบนซ์”
“บอกเรามาดิ  นายจะได้สบายใจขึ้น”
“พี่กอล์ฟ ตั้ม เอ็ม โอ๋ โต้ บอย เคนและน้องเดย์อีกคน นายไม่แคร์จริงๆหรอ”  ผมถามเพื่อให้แน่ใจ
“เป็นไปอย่างที่คาดเอาไว้เลย เราทำไมต้องแคร์เพราะคนทั้งหมดที่มีไรกับบอลเขาไม่ได้รักบอลเหมือนเรารัก   เขาต้องการความเป็นเพื่อน  ต้องการเซกส์จากตัวบอลทั้งนั้น  ไม่ได้เหมือนเรา”
“เบนซ์ต้องการอะไรครับ”  ผมอยากรู้ว่าสิ่งที่เบนซ์ต้องการจะเป็นเหมือนผมไหม
  “ต้องการให้บอลเป็นคนรักเป็นเพื่อน เป็นพี่น้อง  เป็นกำลังใจ เป็นคนที่ดูแลเป็นคนที่เราต้องดูแล เป็นทุกสิ่งทุกอย่างของเรา”
“อ้าวแล้วเรื่องเซกส์เบนซ์ไม่ต้องการหรอกหรือ” ผมแกล้งแซวเบนซ์
“เรารวมอยู่ในทุกสิ่งทุกอย่างหมดแล้วครับ” เบนซ์ทำท่าเขินนิดๆ แต่สิ่งที่เบนซ์พูดตรงใจผมมาก  ผมคิดเช่นนั้นเบนซ์คือคนที่ผมรักที่สุด  รักยิ่งกว่าชีวิต  ผมรักเบนซ์หาที่เทียบไม่ได้แต่ผมก็ยังไม่สบายใจอยู่ดีผมมีคนอื่นต่อไปนี้ผมก็จะพยายามหักห้ามตัวเองให้ได้
       “เบนซ์ครับ บอลจะพยายามไม่ยุ่งกับใครอีกแล้ว”
       “อย่าพูดแบบนั้นถ้าทำไม่ได้  บอลก็ยิ่งจะเป็นทุกข์กว่าเดิมนะครับ”
       “นี่เบนซ์ทำใจได้จริงๆ หรอครับ”
       “ทำใจได้ ถ้าเบนซ์ไม่ทำใจเบนซ์ก็ต้องทะเลาะกับบอลไม่มีวันสิ้นสุดสิครับ” อาจจะจริงของเบนซ์ ผมอึ้งพูดไม่ออก
       “ทุกคนที่มีไรกับบอลส่วนมากแล้วเป็นเพราะเบนซ์นะบอลถึงมีคนอื่น” ผมเริ่มงงที่เบนซ์พูดแบบนี้
       “เพราะอะไรหรือทำไมถึงว่าเป็นเพราะเบนซ์ครับ”
      “ก็เบนซ์ไม่ดูแลบอลไงครับ”  มีบางครั้งที่ผมนอกใจเพราะทำใส่เบนซ์แต่จริงแล้วผมนี่ล่ะอยากนอกใจเบนซ์เองผมก็คิดได้ผมอยากถามเรื่องเอ๋
       “เบนซ์บอลขอถามอะไรหน่อยได้ไหม”
       “ถามมาดิ”
       “เรื่องเอ๋ครับ”
      “ถามมาเลยเราก็อยากจะพูดเรื่องเอ๋มากๆ ด้วย”
       “ทำไมเบนซ์ถึงไปกับเอ๋ตอนนั้น เพราะอะไรเบนซ์ยังไม่บอกบอลเลยนะ”
“อ๋อเราโดนเอ๋โกหกนะสิครับ เอ๋บอกว่าบอลไม่รักเราแล้ว  เอ๋บอกว่าบอลรักเคนมีอะไรกับเคนเราก็โง่เชื่อทั้งที่ตอนนั้นเคนยังไม่สนิทกับบอลเลยเราหึงมาก เราอยากหาทางแก้แค้นนาย เราจึงขอเอ๋เป็นแฟน  เอ๋เขาแอบรักเราตั้งแต่แรกเห็นอยู่แล้ว เราว่าเราจะแค่แกล้งแต่เรื่องมันไม่ได้เป็นแบบนั้นเรื่องมันไปกันใหญ่อยู่ต่อมาเราก็รู้ว่าเคนกับบอลไม่ได้มีอะไรกัน เราจะมาง้อนายแต่มันก็สายไปแล้วเราเริ่มเกลียดเอ๋ตั้งแต่นั้นมา   เขาโกหกได้แนบเนียนมาก”
      “ทำไมเบนซ์ไม่บอกบอลตั้งแต่แรกครับ บอลรักเบนซ์จะตาย  วันๆทำใจไม่ค่อยได้”
      “ก็เราพยายามจะบอกหลายครั้งแต่บอลไม่ยอมฟังนี่ครับ”
       “อ๋อตอนนั้น เราไม่อยากฟังเรื่องเอ๋มากๆ  เราอยากได้ยินคำเดียวว่าเบนซ์ยังรักบอลอยู่หรือเปล่า”
       “เรากลัวว่าเราจะผิดหวัง  เลยไม่กล้าบอกครับ”
       “เหมือนกันแหละ บอลก็ไม่กล้าถามเบนซ์กลัวผิดหวังครับ”
       “บอล  เบนซ์ขอโทษมากๆนะครับวันนั้น”
       “วันไหนหรอครับ”
       “วันที่เราขืนใจบอลไงครับ”
      “แล้วทำไมต้องทำแบบนั้นด้วย”
       “ก็เบนซ์ได้ยินเสียงบอลกับเคนเล่นเสียวกัน  เบนซ์ทนไม่ไหวสองเดือนเต็มนะครับที่เบนซ์ไม่ได้เล่นเสียวกับใครเลยเราทนไม่ได้  แล้วเราหึงบอลด้วย”
       “อ้าวแล้วต่อไปเบนซ์จะไม่หึงบอลอีกหรอ”
       “ไม่หรอกแต่เวลาที่เล่นเสียวก็น่าจะชวนกันมั่ง  นี่เล่นแอบไปทำคนเดียว”  เบนซ์ไม่เคยพูดแบบนี้มาก่อนเลยครับวันนี้เบนซ์เขาพูดแบบนี้จนผมต้อง  ย้อนถามเขาเพื่อทวนคำถาม
“เบนซ์พูดแบบนี้แน่ใจแล้วหรอ”
       “แน่ใจดิ บอลทำอะไรเบนซ์ก็อยากทำบ้าง”
       “เล่นเสียวสามคนสี่คนนี่นะ” ผมงงมากที่เบนซ์ต้องการแบบนี้
       “อืออยากลองมั่งอ่ะ”  เบนซ์ทำท่าเขินนิดๆ แต่ผมก็ยังดีใจที่เบนซ์ไม่โกธรผมเรื่องที่ผ่านมาผมก็เลยถามอีก
       “เบนซ์ครับ”
       “ครับ”
       “เบนซ์กล้าหรอ ถ้าเราสองคนเล่นเสียวพร้อมกับโต้”
      “กล้าดิไม่มีปัญหาหรอกครับ เพื่อนกัน”
      “แล้วกับนายเอ็มล่ะครับ”
      “กล้าครับเรายิ่งหมั่นไส้มันอยู่นะ” เบนซ์ยิ้มอย่างมั่นใจ
       “แล้วกับเคนล่ะครับ”  
      “กล้าชัวร์ว่าแต่เคนเขาจะยอมหรอ”  
      “กับโอ๋ล่ะ”
       “สบายครับ น้องโอ๋น่ารักครับ”
      “ตั้มล่ะครับ”
       “ชัวร์ครับ”  เบนซ์เริ่มยิ้มแบบเจ้าเล่ห์ใส่ผม  ผมก็ยิ้มแบบเจ้าชู้ตอบ
      “บอลครับ”
       “ครับ”
       “บอลเก่งมากรู้ไหม บอลไปมีอะไรกับคนอื่นแล้วบอลก็ยังยึดมั่นในรักของเรา”
       “ก็เรารักเบนซ์มากนะครับ รักมากๆ ด้วย”
       “ขอบคุณครับ ว้าาเบนซ์สบายใจจังเบนซ์ได้ทุกอย่างที่อยากได้กลับคืนมา  แล้วบอลก็พูดได้แล้ว”  เบนซ์ทำท่าเหมือนกับว่าเขามีความสุขจริง
       “น้องเดย์ไปบ้านแม่ทำไมยังไม่มานะ”
       “นั่นดิไปนานแล้วนะเดี๋ยวเบนซ์ไปตามครับ”
       “อ้าวนั่นเสียงรถใครเข้ามาไม่น่าใช่เสียงรถเดย์” มีเสียงรถวิ่งมาจอดที่หน้าบ้าน  ผมรู้สึกไม่ค่อยชินหูว่าเป็นรถใคร
       “เดี๋ยวเบนซ์ออกไปดูเองครับ”      เบนซ์ก็เดินออกหน้าบ้านไปดูผมก็ไปจัดเตรียมอาหารวางโต๊ะรอน้องเดย์กลับมาแล้วจะทานพร้อมกันแต่วันนี้นานมากกว่าทุกวัน  เดย์ไม่ยอมกลับก็น่าแปลกนะ      
“บอลคร้าบ”   เสียงเบนซ์เรียกผมซะดังลั่น ผมก็รีบเดินออกไปดูตามเสียงเรียก
       “อะไรครับเบนซ์”
       “มีคนเขามาหาญาติเขาอ่ะบอล  เจ้าของบ้านหลังเก่านี้คงจะไม่รู้หรอกมั้งว่าเจ้าของบ้านเขาขายบ้านให้บอลแล้ว”
       “ไปเชิญเขาเข้ามาบ้านก่อนสิ”
       “งั้นเบนซ์ไปบอกเขานะ”
     ไม่นานเบนซ์ก็เดินนำหน้าเอาเด็กหนุ่มสองคนเข้ามาผมก็ตลึงกับภาพที่เห็นอะไรกันนี่!สวรรค์ส่งเทพบุตรรูปงามมาให้ผมได้เชยชมอีกแล้วหรอนี่อย่านะมึงไอ้บอลอย่าคิดลึกผมทั้งอ่านกินทั้งห้ามใจตัวเองผมต้องสะดุ้งเมื่อเบนซ์เรียกผม
       “บอลครับช่วยเอาน้ำมาให้เพื่อนหน่อยสิครับ”
แล้วชายหนุ่มรูปงามนั้นก็มองมาที่ผม  ผมเห็นแววตาของเขามันเต็มไปด้วยความเศร้าเขาสบตากับผม  ผมรู้สึกแบบที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อนนายคนนี้มีอะไรมากมายที่ต้องค้นหารูปร่างน่าตาของเขาช่างเป็นอะไรที่หน้ามองแต่แววตาของเขานั้นมันบ่งบอกว่าเขาเศร้ามากๆผมต้องยืนตาลอยมองด้วยความรู้สึกที่อยากรู้อยากค้นหา
       “บอลครับบอลครับ”
       “อ้าวนายเอาน้ำมาแล้วหรอเบนซ์”
      ตายจริงเบนซ์เขาเอาน้ำมาตั้งแต่เมื่อไหร่ผมเขินมากที่ผมมัวแต่ยืนมองเขาผมจึงรีบเดินไปที่ห้องครัวเพื่อนดูผลไม้จะเอามาเสิร์พแก้เขินซะหน่อยเบนซ์ก็เดินตามผมมา
       “บอลเป็นอะไรหรือตั้งแต่กลับจากพระธาตุบอลไม่เหมือนเดิมเลยนะครับ”
       “ไม่รู้ครับเบนซ์แต่นายคนนั้นดูน่าสงสารมาก ไม่รู้เราเป็นไรเรารู้สึกว่าเขาเหมือนมีปัญหาอะไรซักอย่าง”
       “เหรอครับงั้นเบนซ์ไปนั่งคุยกับเขาก่อนนะครับ”
       “ครับ เดี๋ยวบอลเอาผลไม้ตามไปครับ”ผมไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน  ผมรู้สึกหวั่นไหวมากเมื่อผมได้เห็นหนุ่มรูปงามคนนี้ยิ่งสายตานั้นมันมีแววที่ทำให้ผมอึ้งมากๆตอนนี้ผมรู้สึกสั่นไปทั้งตัว  ถ้าเป็นเมื่อก่อน  ผมเป็นแบบนี้เพราะผมหลงรักหรือไม่ก็เขินยามได้เห็นคนหล่อเป็นครั้งแรก  แต่วันนี้ผมไม่ได้เขินไม่ได้หลงรักผมรู้สึกอะไรที่ไม่ได้รู้สึกมาก่อนแต่ผลไม้ที่ปอกอยู่มันก็เสร็จและวางใส่จานเรียบร้อย  ผมไม่เคยเหม่อลอยอะไรขนาดนี้มาก่อน  ดีนะที่มีดไม่บาดมือเอาผมรีบยกเอาจานผลไม้ไปที่โต๊ะรับแขก
        “บอลนายนั่งคุยเพื่อนใหม่เราหน่อยสิครับ”
      ผมก็เงยหน้าขึ้นมองเขาดูแล้วผมก็เกิดอาการเหมือนเดิมอีกเลยตัดสินใจไม่มองหน้าเขาดีกว่าจึงได้แต่นั่งฟังเบนซ์คุยกับเขา
       “พูดเรื่องครอบครัวนายต่อสิครับ”
      “เราคิดว่าลุงกับป้ายังอยู่บ้านนี้ครับเราไม่มีที่ไปเราเลยมาตามหาครับมากับน้องสองคนนี่ล่ะ”
       “อ้าวแล้วที่บ้านรู้เรื่องไหม”
       “รู้สิครับ ก็เขาพึ่งไล่ผมออกจากบ้าน”
      “ใช่ครับ”  นายคนที่ตัวเล็กกว่าสงสัยว่าจะเป็นน้องชายพูดจบก็ร้องไห้โฮ  ผมต้องเงยหน้าไปมองเขาเห็นคนพี่น้ำตาคลอ
       “อย่าเสียใจนะครับ  ชีวิตนี้เราต้องสู้”  เบนซ์ก็พูดปลอบเขาทั้งสอง
       “ครับ  ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะดีขึ้นซักที”
       “น้องครับไม่ต้องร้องไห้แล้วครับน้องทานผลไม้นี่เร็วครับอย่าคิดมากนะครับ”        เบนซ์ก็ทำตัวเป็นเจ้าบ้านที่ดีเบนซ์เอามือมาแหย่ที่เอวผมเพื่อเป็นสัญญาณว่าให้ช่วยพูดปลอบใจเขาหน่อยผมก็เลยต้องเริ่มคิดอยู่ตั้งนานว่าจะพูดอะไรก็คิดได้
       “นายชื่อไรครับ เราชื่อบอลครับ”  และสายตาคู่นั้นก็จ้องมาทำให้ผมหวั่นไหวอีกครั้ง
       “ชื่อสามครับ” คนไรไม่รู้ชื่อสามชื่อเขาดูแปลกดีผมก็เลยส่งยิ้มมหาเสน่ห์ให้แก่เขาเขาก็ยิ้มตอบผม  เบนซ์มองหน้า
ผมเห็นสามเขายิ้มเบนซ์ก็ส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ให้แก่สามเหมือนกันสามเขายิ้มสวยมากใบหน้าที่เศร้าของสามตอนนี้กลายเป็นหน้า
ที่หวานเยิ้มหล่อคม
       “เฮ้ยนาย  นายหายเศร้าแล้วเราดีใจจังอ่ะครับ”
เบนซ์ทำท่าดีใจให้บรรยากาศดีขึ้น แล้วผมก็รู้ว่าสามกับน้องชื่อต๋องเขาหนีออกจากบ้านพ่อเขามักจะไล่สามกับน้องออกจากบ้านบ่อยครั้งพ่อกับแม่สามแยกทางกัน  พ่อแต่งงานใหม่    แม่ใหม่ของสามใจร้ายมาก  มิน่าล่ะผมถึงรู้สึกว่าสามเขาเศร้าตั้งแต่วินาทีแรกที่สบตานี่อาจจะเรียกว่าสัมผัสที่หกได้ไหมนะผมเกิดคำถามขึ้นในใจ
       “สามนายอย่าคิดมากนะ  น้องต๋องก็ไม่ต้องร้องไห้แล้วนะครับ”
       “ขอบคุณพี่บอลครับ”  ต๋องเป็นเด็กชาย อายุก็คงจะ 11-12 นี่ล่ะ
“บอลเบนซ์เราว่าเราจะไปแล้วนะ” สามเขาเริ่มทำเสียงที่เศร้าอีกครั้งดูเหมือนเขาเกรงใจผมกับเบนซ์ไม่น้อย
       “นายจะไปไหนล่ะครับ”  เบนซ์จ้องหน้าถาม
       “จะพาน้องกลับบ้าน”
      “จะบ้าหรือครับกลางคืนอากาศหนาวจะตายอย่าพาน้องกลับเลยนะครับบ้านนายอยู่ไกลนะ”บ้านสามอยู่หนองคาย
ครับห่างกันมากกับบ้านผม  แล้วสองพี่น้องเล่นนั่งรถมอไซมาจนถึงคิดแล้วเหนื่อยแทน
       “แต่ที่นี่เราไม่มีญาตินะครับ” สามพูดเสียงอ่อยๆ
       “สามครับบอลขอเป็นญาติสามได้ไหมครับ”
       “ใช่เบนซ์เองก็ขอเป็นญาตินายนะครับ”
      “นายสองคนคิดดีแล้วหรือที่จะเป็นญาติกับเรา”
       “คิดดีแล้ว”  ผมกับเบนซ์ก็เข้าโอบกอดสามกับต๋องพร้อมกัน
       “ขอบคุณนะครับ”
       “วันนี้นายค้างที่บ้านเรานะไม่ต้องกลับหรอกนะครับ” ผมเป็นเจ้าบ้านผมก็เอ่ยชวนเขาทั้งสอง
       “ไม่ได้หรอกเกรงใจตายเดี่ยวเรากับน้องไปนอนที่ศาลาริมถนน  เช้าก็กลับไม่เป็นไร”
       “มันลำบากนะครับ”  เบนซ์แซงพูดก่อนผม
       “เรากับน้องเคยนอนที่ศาลาริมถนนมาตั้งหลายครั้งแล้วไม่ต้องห่วงเราสบายมากครับ” ผมเริ่มจะน้ำตาคลอเมื่อนึกถึงครอบครัวที่มีปัญหาที่ผ่านมาผมเกือบจะเป็นเช่นนั้นผมรู้สึกเศร้าแทนสามมากๆ
      “ไม่ได้นายกับน้องต้องค้างบ้านเรานะ” เบนซ์ยื่นคำขาด
       “ไม่ได้หรอกเกรงใจพ่อแม่นายตายเลย เรายังไม่เจอท่านเลย”
       “นายสบายใจได้ ที่นี่เราอยู่กันเองเราไม่มีพ่อมีแม่”  ผมพูดจบน้ำตาผมก็ล่วงแต่ผมก็เช็ดทันผมไม่อยากให้สามเห็นน้ำตาของผมผมอยากให้สามเข้มแข็งกว่าผมไม่อยากให้ยึดติดอยู่กับปัญหา
       “บอลครับ นายก็เป็นเด็กกำพร้าเหมือนเราหรอ”
       “นายยังดีกว่าเรานะเพื่อน  นายยังมีพ่อมีแม่ ถึงแม้ตอนนี้ท่านจะไม่ได้อยู่ด้วยกันแต่วันข้างหน้าไม่แน่นะครับ”   โอ้เป็นครั้งแรกมั้งที่ผมพูดได้ดีมากๆ สามยิ้มได้แล้วก็เอ่ยปากให้เราสบายใจ
       “เราจะขอรบกวนค้างที่บ้านนายนะครับ”
       “โอ๊ยไม่มีปัญหาครับ”  ผมตอบสามพอดีว่าเจ้าตัวป่วนวิ่งเข้ามาพอดีเดย์ชอบวิ่งและตะโกนเสมอเวลาที่เข้ามาบ้าน
      “พี่บอล  พี่เบนซ์ ผีกำลังจะดึงขาผมคร้าบ”  
      เสียงแบบนี้ประจำครับเวลาที่เข้าบ้านบางทีผมกับเบนซ์ก็จะรีบวิ่งไปซ่อนแกล้งให้เดย์ตามหาสนุกครับแต่วันนี้มีแขกมาบ้านทำให้ผมหยอกน้องไม่ได้เ  ดย์เองเข้ามาก็เบรกอย่างกะทันหันแล้วเอาปากอมนิ้วมือยืนเขิน
       “ไปไหนมาไอ้เด็กกะโปโล”  เบนซ์รีบพูดแซวเพื่อให้เดย์หายเขิน
       “มารู้จักพี่เขาหน่อยสิครับ”  เดย์ก็เดินมาอย่างช้าๆ  มาถึงเดย์ก็ยืนจ้องหน้าสามซักพักแล้วเดย์ก็ชี้มือใส่หน้าสามอย่างเสียมารยาท
       “เฮ้ย!ไอ้พี่สาม มาได้ไงเนี่ย”
       “ไอ้น้องเดย์”  
      สามลุกขึ้นแล้วกอดเดย์แน่น เดย์ก็กอดสามแน่นทั้งกระโดดดีใจผมกับเบนซ์ก็งงแต่ก็โล่งอกเพราะอย่างน้อยก็มีเดย์ที่รู้จักสาม
       “เดย์แกยังอยู่ที่บ้านนั้นอยู่หรอนี่”
       “ครับ  แล้วพี่อ่ะหนีออกจากบ้านอีกล่ะดิ”
       “เออสิวะ ไม่เจอแกเกือบสองปีดูแกเปลี่ยนไปมากเลยนะเนี้ยแทบจำไม่ได้”
       “เอาล่ะทานข้าวกันนะครับ  เดย์พาพี่เขาไปอาบน้ำก่อนเลยแก”   
เบนซ์ออกคำสั่ง  ส่วนผมกับเบนซ์ก็พากันไปทำกับข้าวเพิ่มดีจนะครับที่มีแขกมาบ้านนานแล้วที่บ้านผมวังเวงเราทุกคนก็คุยสามเรื่องระทุกข์สุขดิบกันจนดึก  ผมก็ต้องหาที่นอนให้สามกับน้อง  แต่เด็กเขาก็อยากนอนกับเด็กอย่างว่าแหละครับน้องเดย์ก็เลยต้องนอนกับน้องต๋องที่ห้องอีกห้องหนึ่งส่วนผมกับเบนซ์ก็ต้องนอนสองคน  ห้องที่เดย์นอนเป็นห้องเล็กเตียงนอน ก็เล็กกลัวว่าจะอึดอัดเบนซ์ก็เลยเอ่ยชวนให้สามไปนอนห้องเดียวกับเรา
       “สามนายไปนอนห้องกับเรานะ”
       “จะดีหรอครับ”
“ดีสิครับ  ดีกว่าจะไปแย่งน้องเขานอนห้องนี้เล็ก”
      “ใช่ครับพี่สาม พี่ไปเหอะผู้ใหญ่ก็นอนห้องเดียวกันสิครับเด็กเขาจะอยู่ส่วนเด็ก”
เดย์ก็เข้าห้องปิดประตู สามก็โดนเบนซ์ดึงแขนให้ไปนอนห้องนอน  ผมโอ๊ยกลุ้มใจจังเลยคร้าบ  ไม่รู้คืนนี้ความเจ้าชู้ของผมจะหลุดออกมาอีกหรือเปล่าก็ไม่รู้  ผมกลุ้มมากๆ ผมกลัวอดไม่ได้สามไม่ใช่คนที่ขี้เหล่อะไรนะครับตัวผอมสูงน่าตาหล่อคมยิ้มนี่บาดใจเอามากๆ แล้วเวลาที่สามเดินไปมาผมก็มองเห็นว่าเจ้าโลกเขาแกว่งไปแกว่งมาก็สามไม่ได้ใส่กางเกงในนี่ครับยังไงซะสายตาผมก็ไม่เคยหยุดอ่านกินเขาซักที ผมก็เลยเดินตามหลังเบนซ์กับสาม ผมไม่อยากเลือกที่นอนก่อนผมอยากให้เบนซ์เป็นคนเลือกที่นอนก่อน
       “สามนายนอนตรงกลางนะเราจะนอนริมบอลนายก็นอนตรงนั้นแหละ”
       “บอลน่าจะนอนตรงกลางนะครับ” สามว่าอย่างนี้  เบนซ์ก็ยิ้ม
      “เออใช่เนาะเราลืมไป”  เบนซ์แอบสบตาผม ผมรู้ว่าเบนซ์อยากจะแอบเล่นเสียวกับผม  เพราะวันนี้ยังไม่ได้เล่นเสียวเลยผมก็เลยล้มตัวนอนเลยเบนซ์ก็ชวนสามคุยเรื่องชีวิตเราสามคนก็แลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกัน
       “บอลนายน่ารักมากนะ เบนซ์ก็เหมือนกัน เราไม่เคยเจอใครที่มีน้ำใจอย่างนายสองคนมาก่อนเลยนะ”
       “นายก็เป็นคนดีนะ  นายเก่งนะที่ทนอยู่กับปัญหานี้ได้”
       “ใช่”
       “บอลเราขอกอดนายกับเบนซ์หน่อยซิ”
       “เอาดิ”  ผมก็เริ่มใจสั่นหวั่นไหวอีกครั้ง
      “กอดนายสองคนแล้วรู้สึกเหมือนไม่เดียวดายอีกแล้วชีวิตเรา”
เสียใจจังสามเขาปล่อยกอดไปซะแล้วไม่รู้ว่าคืนนี้จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง  ผมจะเอาชนะใจตัวเองได้หรือไม่ได้  ผมอยากหยุดเรื่องเล่นเสียวกับคนอื่นเสียที  แต่ร่างกายผมมันเริ่มจะเรียกร้องมันร้อนวูบวาบไปทั้งตัวลมหายใจผมเริ่มผ่านออกมาเป็นทางยาวผมรู้ว่าผมมีอารมณ์แบบสุดๆแต่หน้าที่ของผมตอนนี้ผมต้องอดทนต่อความอยากให้ได้  ผมไม่ต้องการทำแบบที่ผ่านมา แต่โชคชะตาเริ่มเล่นตลกกับผมเมื่อสามหันหน้ามาแล้วสบตาผมผมกับสามจ้องตากันอย่างจัง
       “บอลนายเป็นไรของนายครับตัวนายร้อนไปหมด” สามเขาถามผม
      “เปล่านี่”  ทำไมผมต้องสั่นเวลาที่ผมตอบสามด้วย
       “ไม่จริงบอลเป็นอะไรครับ”  สามเอามือมาลูบที่หน้าผากผมเบาๆ แค่นี้ผมก็เสียวจะแย่แล้วตอนนี้เบนซ์เขาหลับซะแล้วผมพยายามที่จะเอามือสามออกแต่สามก็ทำท่าเป็นห่วงผม


-------------------- จบตอนที่ 45 --------------------

เห้อออ!!! รู้สึกใจหายจัง ในที่สุดก็ใกล้มาถึงโค้งสุดท้ายของเรื่องนี้แล้วนะครับ เหลือแค่อีกไม่กี่ตอนแล้วน๊า T T
ฝากติดตามเรื่องราวชีวิตของบอลและเบนซ์ด้วยนะครับ จุ๊บๆ

นายกองค์การนักศึกษา

ตอบกลับ
2272
พลังน้ำใจ
14162
Zenny
2700
ออนไลน์
1034 ชั่วโมง
blacki

นายกองค์การนักศึกษา

ตอบกลับ
2272
พลังน้ำใจ
14162
Zenny
2700
ออนไลน์
1034 ชั่วโมง
2019-6-5 20:34:20 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | สมัครเข้าเรียน

รายละเอียดเครดิต

A Touch of Friendship: สังคมจะน่าอยู่ เมื่อมีผู้ให้แบ่งปัน ฝากไวเป็นข้อคิดด้วยนะคะชาวจีโฟกายทุกท่าน
!!!!!โปรดหยุด!!!!! : พฤติกรรมการโพสมั่วๆ / โพสแต่อีโมโดยไม่มีข้อความประกอบการโพส / โพสลากอักษรยาว เช่น ครับบบบบบบบบ, ชอบบบบบบบบ, thxxxxxxxx, และอื่นๆที่ดูแล้วน่ารำคาญสายตา เพราะถ้าท่านไม่หยุดทีมงานจะหยุดท่านเอง
ขอความร่วมมือสมาชิกทุกท่านโปรดโพสตอบอย่างอื่นนอกเหนือจากคำว่า ขอบคุณ, thanks, thank you, หรืออื่นๆที่สื่อความหมายว่าขอบคุณเพียงอย่างเดียวด้วยนะคะ เพื่อสื่อถึงความจริงใจในการโพสตอบกระทู้ และไม่ดูเป็นโพสขยะ
กระทู้ไหนที่ไม่ใช่กระทู้ในลักษณะที่ต้องโพสตอบโดยใช้คำว่าขอบคุณ เช่นกระทู้โพล, กระทู้ถามความเห็น, หรืออื่นๆที่ทีมงานอ่านแล้วเข้าข่ายว่า โพสขอบคุณไร้สาระ ทีมงานขอดำเนินการตัดคะแนน และ/หรือให้ใบเตือนสมาชิกที่โพสขอบคุณทันทีที่เจอนะคะ

รูปแบบข้อความล้วน|โทรศัพท์มือถือ|ติดต่อลงโฆษณา|จีโฟกายดอทคอม |


ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บจีโฟกายดอทคอมนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ หากท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศิลธรรม ไม่เหมาะสมที่จะเผยแพร่ ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link “แจ้งลบโพสนี้” ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือ ลืมพาสเวิดล๊อกอิน/ลืมชื่อที่ใช้สมัคร หรือข้อสงสัยใดๆแจ้งมาที่ G4GuysTeam[at]yahoo.com ขอขอบพระคุณที่ให้ความร่วมมือ

กรณีที่ข้อความ/รูปภาพในกระทู้นี้จัดสร้างโดยผู้ลงข้อมูลเอง ลิขสิทธิ์จะเป็นของผู้ลงข้อมูลโดยตรง หากจะทำการคัดลอก/เผยแพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ลงข้อมูลก่อนนะคะ หรือลงที่มาไว้ด้วยค่ะ

©ขอสงวนสิทธิ์คอนเซ็ปต์,คำอธิบาย,หัวข้อ/หมวดหมู่เว็บ ห้ามลอกเลียนแบบ คิดเอาเองนะคะอย่าเอาแต่ลอก

GMT+7, 2024-5-18 01:04 , Processed in 0.070726 second(s), 26 queries .

Powered by Discuz! X3.5, Rev.8

© 2001-2024 Discuz! Team.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้