ความนิยม 28
ประเทศไทย โดยเฉพาะกรุงเทพฯ ได้รับการจัดอันดับให้เป็นที่ที่มีจำนวน "ประชาเกย์" มากติดอันดับโลก (หากจำไม่ผิด เห็นจะได้เป็นอันดับสองรองจากอัมสเตอดัม). โดยส่วนตัวแล้ว ผมเห็นว่า น่าจะมีเหตุมาจาก ทัศนคติแนวรักสงบ ไม่ใช้ความรุนแรงในการตัดสินปัญหา อะลุ่มอล่วย ไม่รังเกียจเดียดฉันท์ ของคนไทย อันเนื่องมาแต่อิทธิพลของศาสนาพุทธ 1 การเลี้ยงดูลูกแบบใกล้ชิดแม่มากกว่าพ่อ 1 ลักษณะทางสถาบันครอบครัวที่เปลี่ยนไปตามการพัฒนาของสังคมยุคใหม่ กล่าวคือ มีอัตราการหย่าร้างสูงขึ้น ลูกจึงได้รับการเลี้ยงดูจากพ่อหรือแม่เพียงคนใดคนหนึ่ง (หรือแม้แต่พี่เลี้ยง เพราะพ่อหรือแม่ไม่มีเวลา) 1 ตลอดจนลักษณนิสัยโดยทั่ว ๆ ไปของคนไทยส่วนใหญ่ ที่ขี้เล่น ชอบสนุก ไม่ใคร่จะจริงจัง อันเนื่องมาแต่อิทธิพลของอากาศแบบเมืองร้อนอีก
ไม่ว่าจะเป็นกะเทย, เกย์, ทอม, ตุ๊ด, ดี้, ชายแต่งหญิง, หรือหญิงแต่งชาย รักร่วมเพศมีประวัติย้อนกลับไปถึงสมัยสยามโบราณ ดังจะเห็นได้จากหลักฐานว่าด้วยการ "เล่นสวาท" (เลี้ยงเด็กชายเป็นลูกสวาท--นิยามโดย พจนานุกรมสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๒๕) ในสมัยรัชกาลที่ 3 และการบัญญัติสำนวน "เล่นเพื่อน" (คบเพื่อนหญิงด้วยกันต่างชู้รัก--ราชบัณฑิตยสถาน) ขึ้นใช้ในสมัยรัชกาลที่ 4 เพื่อปรามและดัดพฤติกรรมของสตรีชาววังทั้งนั้น มองย้อนกลับไปก็รู้สึกเศร้าและเสียดายแทนเกย์ในสมัยก่อน ที่ไม่ได้รับการยอมรับเท่าไรนัก
ทว่า เมื่อมอง ณ จุดปัจจุบัน หลังจากที่ American Philological Association (APA) ได้ตัดสินใจเลิกตราหน้าว่า รักร่วมเพศเป็นโรคจิตเภทแบบหนึ่งแล้ว โลกก็ดูจะเข้าใจเกย์มากขึ้น สังคมไทยเองก็มีการเปิดกว้างและยอมรับรับรู้ความเป็นจริงมากขึ้นในปัจจุบัน
เมื่อมองดูให้ลึก ๆ แล้ว แม้สังคมไทยจัดเป็นสังคมแบบไม่เกลียดกลัวเกย์ (กล่าวโดยรวมทั้งเกย์ชายและหญิง--ผู้เรียบเรียง) จนขึ้นสมองอย่างอีกหลายประเทศทั่วโลก ทว่าคนไทยหลายคนก็มีทัศนคติต่อต้านเกย์ในระดับที่แตกต่างกันไป เมื่อคนเหล่านั้นเผอิญได้เป็นเจ้าใหญ่นายโตขึ้นมา ทัศนคติต่อต้านเกย์ของพวกเขาก็จะไม่เป็นเพียงทัศนคติอีกต่อไป แต่จะกลายเป็นการลงมือปฏิบัติและต่อต้านอย่างจริงจังถึงขั้นนโยบาย (ดังที่ FloatingLotus.com ได้ติดตามนำเสนอไว้ที่หน้ารวมข่าวนี้)
งานการสำรวจสอบถามความคิดเห็นหลายชิ้นได้เผยให้เห็นว่า ประชาชนคนไทยทั่ว ๆ ไปนั้นหาได้สนับสนุนอคติอันเนื่องด้วยการต่อต้านเกย์ไม่ นักท่องเที่ยวชาวเกย์ต่างชาติ (ที่เข้ามาชื่นชมและสัมผัสเสน่ห์ความงามของหนุ่มไทยนั้น) ก็สามารถคาดหวังที่จะได้รับประสบการณ์เชิงบวกจากประเทศไทยได้ ตราบใดก็ตามที่พวกเขารับวัฒนธรรมไทยได้ไว มีความสุภาพ เคารพกฎหมายไทย และประพฤติตัวอย่างมีเกียรติและวิจารณญาณ (ที่มาดั้งเดิม)
อย่างไรก็ตามในสังคมไทยมีมากถึงร้อยละ 10 ของประชากรชายที่เป็นเกย์ โดยเป็นเกย์ที่แอบแฝงสูงถึงกว่าร้อยละ 60 ที่กล้าเปิดเผยไม่ถึงร้อยละ 40 ซึ่งข้อมูลนี้ใกล้เคียงกับองค์การอนามัยโลก เกย์ในสังคมไทยถูกกีดกันและทำให้เป็นอื่น ทั้งเรื่องความเป็นอยู่ในสังคม การทำงาน ซึ่งพบว่า ผู้ที่เป็นเกย์ส่วนใหญ่จะไม่ได้รับความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน เพราะถูกจำกัดที่ความเป็นเกย์ ส่วนใหญ่เกย์ไทยจะกล้าเปิดเผยก็ต่อเมื่อมีความพร้อม มีหน้าที่การงานที่ประสบความสำเร็จแล้ว มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับในฝีมือการทำงาน เช่น ศิลปินดัง นักวิชาการที่ประสบความสำเร็จ
อ้างอิง http://ystory.naitam.com/ystory-link/view.php?id=21
6
อืม..ดีๆ ใช้ได้ |
1
อะไรก็ไม่รู้ |
2
เห็นด้วยๆ |
2
ซึ้งจังเลย |
1
ขำฮาตรึม |
รูปแบบข้อความล้วน|โทรศัพท์มือถือ|ติดต่อลงโฆษณา|จีโฟกายดอทคอม
กรณีที่ข้อความ/รูปภาพในกระทู้นี้จัดสร้างโดยผู้ลงข้อมูลเอง ลิขสิทธิ์จะเป็นของผู้ลงข้อมูลโดยตรง หากจะทำการคัดลอก/เผยแพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ลงข้อมูลก่อนนะคะ หรือลงที่มาไว้ด้วยค่ะ
©ขอสงวนสิทธิ์คอนเซ็ปต์,คำอธิบาย,หัวข้อ/หมวดหมู่เว็บ ห้ามลอกเลียนแบบ คิดเอาเองนะคะอย่าเอาแต่ลอก
GMT+7, 2024-4-29 07:26 , Processed in 0.042600 second(s), 15 queries .
Powered by Discuz! X3.1 R20140301, Rev.31
© 2001-2013 Comsenz Inc.