บล็อก

คำสารภาพ พระเอกหนังเอ็กซ์

ความนิยม 33เข้าชม/อ่าน 2277 ครั้ง2011-3-5 11:36

เห็นว่าเป็นพระเอกหนังเอ็กซ์?

ครับก็เคยเล่นมาเหมือนกัน แต่ต้องขอบอกก่อนว่า ผมไม่ได้ตั้งใจมาเล่นหนังประเภทนี้ ตอนแรกผมก็ไปสมัครเป็นนายแบบของโมเดลลิ่งแห่งหนึ่ง ตอนแรกผมก็กะหารายได้พิเศษ เพราะว่าผมเข้ามาเรียนในมหาวิทยาลัยในกรุงเทพมันมีค่าใช้จ่ายเยอะ ทางบ้านก็ไม่ค่อยมีเงินเท่าไหร่ พอดีผมเจอพี่คนหนึ่งออกแนวตุ๊ดๆ หน่อย เขาแนะนำตัวเองว่าเป็นแมวมองจะพาเข้าวงการ มาชวนผมเป็นนายแบบ ผมก็เลยลองไปสมัครกับพี่เขาดู

มีการเทสต์งานไหม?

มีครับ ก็เป็นการถ่ายภาพนิ่งธรรมดา แต่พี่เขาจะมีกล้องวีดีโอด้วย พี่เขาบอกว่าจะเก็บเป็นภาพเบื้องหลัง เผื่อว่าวันหนึ่งที่ผมดัง และต้องออกรายการทีวีจะได้เอาภาพนี้ไปฉายให้ดูว่ากว่าจะมาเป็นดาราดังต้องทำ ยังไงบ้าง ตอนแรกก็ถ่ายธรรมดา แต่พอถ่ายไปถ่ายมาพี่เขาก็ให้ผมถอดผ้าออกทีละชิ้น ถอดเสื้อ ถอดกางเกงจนถอดหมดเลย

ผมก็ถามพี่เขาว่าทำไมต้องถ่ายกันขนาดนี้ หลอกผมหรือเปล่า เขาบอกว่าต้องเก็บภาพให้หมดเพราะงานที่ติดต่อเข้ามามีหลายแบบ เขาจะได้เก็บภาพตรงนี้เอาไว้พรีเซ้นต์กับลูกค้าได้ ด้วยความที่ผมเป็นผู้ชายไงครับก็เลยรู้สึกเฉยๆ อีกอย่างผมก็ไม่ได้เปิดตรงนั้นให้เขาดูก็เลยไม่กลัวอะไร อ้อ ขอบอกว่าทีมงานของเขาดูเป็นมืออาชีพมาก ก็เลยทำให้ผมเชื่อเขาสนิทใจ

แล้วมีงานไหมล่ะ?

มีครับ ตอนแรกก็เป็นงานเดินแฟชั่น แต่ส่วนมากจะเป็นงานตามผับเกย์มากกว่า

แล้วมาเล่นหนังเอ็กซ์ได้ไง?

ต้องบอกก่อนว่าผมไม่ได้ตั้งใจมาเล่นหนังเอ็กซ์ แต่ด้วยความที่ผมเริ่มสนิทกับพี่เขาแล้วไงก็เลยเชื่อ พี่เขาบอกว่าเป็นหนังอาร์ธรรมดา มีฉากเลิฟซีนเยอะนะ แต่ว่านางเอกสวยมาก ออกแนวหมวยๆหน่อยเป็นดาราน้องใหม่ แหมพี่ถ้านางเอกสวยขนาดนั้น ใครๆ ก็อยากเล่นทั้งนั้นแหละ ต่อให้เลิฟซีนทั้งเรื่องผมก็เล่นได้

แต่พอวันนัดถ่ายทำเราไปถ่ายกันที่เกาะแห่งหนึ่งแถวชลบุรี ยอมรับว่านางเอกสวยจริงๆ ใสกิ๊กเลย พอผู้กำกับเอาบทมาให้ดู ว่าเป็นอย่างนี้นะ อย่างนี้นะ วันแรกก็ยังถ่ายฉากธรรมดา พุดคุยกัน งอนกันตามประสาคู่รักที่ชวนกันมาเที่ยวเกาะ

พอตกกลางคืนเราก็มีปาร์ตี้กัน ก็ยิ่งทำให้ผมกับน้องคนนั้นสนิทกันมากขึ้น ทีมงานก็สนิทกันมากขึ้น ยอมรับว่าตอนนั้นก็เริ่มเมาๆ แล้วหล่ะ จู่ๆ ผู้กำกับก็บอกว่าอยากถ่ายฉากเลิฟซีน พวกเราก็ตกลงอยากทำงานให้เสร็จจะได้กลับบ้าน

พอเริ่มถ่ายตอนนั้นก็ไม่มีใครในห้องเลย มีผมและก็น้องนางเอกสองคนเท่านั้น เขาบอกว่าตั้งกล้องไว้แล้ว เขาอยากได้ความเป็นธรรมชาติของคนที่รักกันจริงๆ และก็บอกว่าฉากนี้ต้องแก้ผ้าหมดเลยนะ แต่เขาจะใช้มุมกล้องช่วย ตัวนางเอกก็แรงๆ เหมือนกัน ผมก็เมาแล้วด้วย แก้ก็แก้ซิ นางเอกเขายังไม่อายเลย ผมก็ถอดหมด น้องเขาก็ถอดหมดจากนั้นเราก็เริ่มถ่ายกัน

ยอมรับว่าตอนนั้นผมมีอารมณ์มาก และรู้สึกว่าน้องเขาก็มีอารมณ์มากเหมือนกัน เล่นไปเล่นมา มันกลายเป็นเล่นจริงๆแล้วซิ ผมก็คิดในใจว่าจะเอาไงดีวะ ก่อนจะทำจริงๆ นางเอกเขาก็ไม่ว่าอะไร ผมก็เลยลองสอดเข้าไปจริงๆ เขาก็ไม่ว่า จากนั้นก็เลยตามเลย

แล้วผู้กำกับว่าไง?

ตอนเช้าเขาก็มาแซวว่าแหม เมื่อคืนเล่นกันจริงๆ เลยนะ ผมก็บอกพี่เขาว่าภาพมันโป๊มากไหม ช่วยตัดออกหน่อยนะ อย่าให้เห็น พี่เขาก็บอกว่าเออ เชื่อมือเถอะ

จากนั้นเราก็เริ่มถ่ายต่อ แต่ฉากแต่ละฉากที่พี่เขาส่งบทให้มาทีแต่ฉากอย่างว่าทั้งนั้นเลย ผมก็เริ่มเอะใจแล้วว่า หนังเรื่องนี้ต้องไม่ธรรมดาแน่ ผมก็เลยคุยกับน้องนางเอกว่าเอาไง น้องเขาบอกว่าก็เลยตามเลยแล้วกันเพราะเขาก็เคยเล่นหนังประเภทนี้มาก่อน อ้าวทีนี้ผมก็งง แล้วทำไมไม่บอกล่ะ ผมจะได้ไม่ต้องเกร็ง(หัวเราะ) มาถึงตอนนี้ผมเริ่มรู้ตัวแล้วหละว่าถูกหลอกแน่เลย มันต้องไม่ใช่หนังอาร์แน่ๆ ผมก็เลยคุยกับผู้กำกับว่าตกลงหนังอะไรกันแน่ ทีนี้เขาก็บอกความจริงว่าเป็นหนังเอ็กซ์และเมื่อคืนเขาก็เก็บภาพไว้ทุกมุม แล้ว จะถ่ายต่อไหมล่ะ

บอกตามตรงว่าตอนนั้นมันชาไปทั้งตัว สับสนมากจะเอาไงดีวะ เงินก็อยากได้ แต่ก็อายถ้าคนรู้จักรู้ว่ามาเล่นหนังเอ็กซ์จะเอาหน้าไปซุกไว้ที่ไหน

แต่มันก็สายไปแล้วเพราะความเมา บวกกับความอยากเรื่องอย่างว่าด้วยก็เลยเผลอตัวทำเรื่องย่างนั้นไป ผมก็เลยถ่ายต่อเพราะอยากจะได้เงิน ตอนนั้นได้ค่าตัวไม่เท่าไหร่หรอกครับ สองหมื่นเอง

จากวันนั้น มีงานประเภทนี้ติดต่อมาอีกหรือเปล่า?

ก็มีครับ ทีนี้มีเข้ามาเรื่อยๆ ตอนแรกผมก็ไม่รับ เพราะไม่อยากทำอีก และเลิกติดต่อกับโมเดลลิ่งนี้อีกเลย แต่ก็มีอยู่ช่วงหนึ่ง เงินขาดมือเพราะเอาเงินไปจ่ายค่าเทอมจนหมด พอดีว่าพี่คนเดิมติดต่อมาสนใจอยากเล่นหนังเอ็กซ์อีกไหม ทีนี้เป็นหนังต่างประเทศขายต่างประเทศเขาอยากได้ผมมาเล่นด้วย เป็นหนังแนวสวิงกิ้งกับพวกฝรั่ง อีกอย่างไซด์ผมก็ใช้ได้นะ สูง 185 หุ่นกำลังดี ที่สำคัญไอ้นั้นผมก็ไม่น้อยเลย ผมเห็นว่าขายต่างประเทศก็เลยรับ ได้ค่าตัวมาสี่หมื่น ก็รอดตายไปหลายเดือนเหมือนกัน

ขอโทษนะแล้วมาขายตัวในบาร์ได้ไง?

พูดไปมันก็น่าอายนะ ไม่ได้อยากทำและไม่สนับสนุนให้ใครมาทำแบบนี้ด้วย บอกได้เลยว่ามันอันตรายมาก เสี่ยงกับโรค เดือนๆหนึ่งต้องมานั่งลุ้นว่าตัวเองติดโรคหรือเปล่า เห็นเพื่อนติดกัน บางคนก็รับไม่ได้หายตัวไปเลยก็มี แต่ทางบาร์พอรู้ว่าใครติดโรคเขาก็จะไล่ออกเลยเพราะเป็นข้อตกลงกันแล้ว ถ้าใครไม่เซฟตัวเองจนติดโรคก็ต้องลาออกเพราะเขากลัวชื่อเสียงของบาร์จะเสีย หาย แต่สำหรับผมจะเซฟตัวเองตลอด ถ้าลูกค้าคนไหนไม่ช่วยเซฟ ผมก็ไม่เอาเหมือนกัน

อ้อ !! เมื่อกี้ถามว่าทำไมถึงมาทำงานอย่างนี้ใช่ไหม อือ(นิ่งสังพัก) ผมมองว่าเล่นหนังเอ็กซ์ยังเล่นมาแล้วเลย ไม่รู้ว่าเพื่อนคนไหนหรือคนรู้จักคนไหนได้ดูแล้วบ้างหรือเปล่า ถ้าเขาได้ดูผมก็ต้องอายแน่ๆ แต่สำหรับงานในบาร์มันเป็นงานลับๆ มากกว่า ไม่มีการเผยแพร่ ไม่มีกล้องจับ ถ้ามีลูกค้าถูกใจเราก็อ๊อฟเราไป ทำเสร็จ จ่ายเงินจบผมก็กลับบ้าน ไม่มีใครรู้ อีกอย่างผมก็ไม่ได้ทำทุกวัน แต่ตั้งใจไว้ว่าถ้าผมเรียนจบ ผมก็จะเลิกทำอาชีพนี้เหมือนกันครับ

เจอลูกค้าประเภทไหนบ้าง?

ผมเจอมาทุกแนวแล้วครับ ทำงานตรงนี้มาก็นานแล้ว รับลูกค้าทั้งผู้หญิงและเกย์ แต่ส่วนมากจะเป็นเกย์มากกว่าที่มาใช้บริการ ส่วนมาก็เป็นชาวต่างชาติ ไม่ค่อยมีคนไทยหรอกครับเพราะว่าค่าตัวมันแพง เกย์ไทยไม่ชอบจ่ายเงินซื้อหรอกครับ เพราะเขามีสถานที่ไปจับกันเอง

เจอแบบซาดิสม์บ้างไหม?

นี่แหละครับ ผมถึงไม่สนับสนุนให้ใครมาทำ ใครที่ลองได้เข้ามาทำแล้วจะออกยาก เพราะว่ารายได้มันดีจริงๆ แต่ต้องเอาชีวิตเข้าแลกเลย เหมือนไปออกรบยังไงยังงั้นเลย ต้องลุ้นว่าคืนนี้จะเจอลูกค้าแบบไหน

บางคนก็โคตรวิตถาร แต่เราก็ต้องบริการให้ดีเพราะเขาจ่ายเงินเรามาแล้ว บอกได้เลยว่าโซ่ แส้กุญแจมือ ผมเจอมาหมดแล้ว

มีดาราที่มีชื่อเสียงมาใช้บริการบ้างไหม?

อย่าเอ่ยชื่อเขาเลยนะ แต่บอกได้เลยว่ามีครับ ถ้ารู้แล้วต้องอึ้งเลย ว่าสวยระดับชาติยังเคยมาใช้บริการเลยแต่มันเป็นจรรยาบรรณอย่าไปยุ่งเรื่อง ของเขาเลย เขาคงเหงาอยากได้ใครสักคนไว้เป็นเพื่อนมั้งก็เลยมาลองใช้บริการ แต่เขาก็ไม่ได้อ๊อฟเราออกไปข้างนอกนะ เขาชวนเรามานั่งคุยธรรมดา

แต่ส่วนมากจะเป็นดาราที่เป็นเกย์ หรือพวกแอบครับจะมาใช้บริการกันบ่อย ก็เกย์ในวงการก็เยอะนะที่มาใช้บริการ เจ๊ๆทั้งหลายแหละครับ บางทีมากันเป็นแก๊งค์เลยก็มี

ความจริงหน้าตาก็หล่อดีนะ เป็นดาราจริงๆ ได้เลยเคยเล่นละครหรือหนังบ้างไหม?

ก็เคยครับ แต่ก็แค่ผ่านๆ กล้อง ไม่มีใครช่วยดัน โฆษณาก็เคยเล่นมาเหมือนกัน ผมว่าการที่จะเข้าวงการสมัยนี้มันยากนะ ต้องมีแรงผลักดันจากผู้หลักผู้ใหญ่ เดี๋ยวนี้ใช้เส้นกันเยอะ บ้านนอกอย่างผมก็เลยไม่มีโอกาส ความจริงผมก็เคยประกวดเวทีเด็กหน้าใสมาเหมือนกันนะ เข้ารอบขึ้นเวทีใหญ่ด้วย แต่ก็ตกรอบแรกเพราะเส้นไม่ใหญ่พอ พอดีชีวิตมันผกผันก็เลยต้องมาทำงานแบบนี้

รู้สึกอย่างไรกับตัวเองบ้างตอนนี้?

ผมไม่อยากคิดอะไรกับตัวเอง ผมลืมไปวันๆ ตอนนี้ผมมองปัจจุบันกับอนาคตเท่านั้น จะให้ผมมารังเกียจตัวเองก็ไม่ได้เพราะนี่คือตัวเรา เราต้องอยู่ได้ เราต้องเดินไปข้างหน้าและคิดเสมอว่า วันหนึ่งที่ผมเรียนจบ ผมก็จะเลิกทำงานแบบนี้ทันที ทุกวันนี้ถ้าผมว่าง หรือทุกวันพระ ผมก็จะไปทำบุญ ไปนั่งสมาธิ เหมือนได้ล้างคาวตัวเองเหมือนกัน บอกตามตรงเลยว่าผมไม่มีความสุขนักหรอกที่ต้องมาทำงานแบบนี้...