arr_tao โพสต์ 2014-3-13 16:50:33

ตายทั้งกลม


สมัยหนุ่มๆ ผมเป็นคอสุราตัวยง ไม่ใช่ไม่รู้นะครับว่ามันเป็นพิษภัยต่อร่างกายแค่ไหน แต่ชอบบอกตัวเองว่าเรายังอายุไม่มาก ร่างกายแข็งแรงคงจะไม่เป็นไร เอาสนุกเข้าว่า...กว่าจะรู้ตัวก็เกือบสายเกินไปแน่ะครับ

สุรายาเสพติดทั้งหลายแหล่ โดยเฉพาะบุหรี่มวนเล็กๆ นี่แหละพิษภัยร้ายกาจนัก ใครละเลิกได้ก็ถือว่าโชคดีไป ใครยังไม่เคยก็อย่าได้ริอ่านหรือทดลองตามเพื่อนเพื่อเอาเท่เด็ดขาด

ติดง่ายแต่เลิกยากครับ เชื่อผมเถอะ!

เพราะสุรายาเมานี่แหละที่ทำให้ผมประสบเข้ากับเรื่องสยดสยองพองขนสุดขีดในชีวิต ไม่หัวใจล่มสลายคาที่ก็นับว่าเป็นบุญเต็มทีแล้วครับ

วันสุดสัปดาห์ปลายเดือน เพื่อนๆ ที่สนิทกันก็มาตั้งวง แต่พวกผมไม่ได้ไปกินกันตามผับตามบาร์ให้หมดเปลืองทรัพย์โดยใช่เหตุ ถือคติว่าเงินทองของนอกกาย...แต่ไม่ตายหายากฉิบห...! เราพากันไปที่ร้านลุงแสที่อยู่แถวแครายโน่น ทั้งถูกเงินแถมบรรยากาศดีอีกต่างหาก

อันว่าลุงแสนั้นเคยเป็นพนักงานขับรถคนเก่าแก่ของบริษัทเรา ถึงแม้แกจะถ่อมตัวว่าต่ำต้อยด้อยกว่า แต่พวกเราก็นับถือเพราะลุงเป็นคนนิสัยดี ไม่นินทาใคร ใจเย็น คุยสนุก อารมณ์ดี และมีเรื่องเล่าไม่รู้จักหมดสิ้น...

ประการสำคัญก็คือ ลุงแสทำกับแกล้มอร่อยเลิศรส ไม่ว่าพล่า ยำ ผัดหรือแกง จนแกน่าจะไปเปิดร้านอาหาร หาทำเลดีๆ หน่อย รับรองว่ามีลูกค้าติดอกติดใจ อุดหนุนกันตรึมแน่นอน

พวกเรามักจะไปบ้านลุงแสเป็นประจำ อย่างเช่นปลายสัปดาห์แบบนี้ ผมจะบอกกับทางบ้านว่าไม่ต้องห่วง ผมอยู่ที่บ้านลุงแส...แค่นี้ก็หายห่วงแล้วครับ

คืนนั้นเดือนหงายจนสว่างนวลแทบจะจับมดได้...

เรานั่งล้อมวงกันอยู่บนแคร่ไม้ไผ่หน้าบ้าน ใต้ต้นหูกวางแผ่กิ่งใบร่มครึ้ม พูดคุยกันครึกครื้นสนุกสนาน สลับกับเสียงหัวเราะเฮฮาเมื่อเล่าเดอร์ตี้โจ๊กสู่กันฟัง ลุงแกเป็นคนดังในถิ่นนี้ บางทีก็มีเพื่อนบ้านมาร่วมวงด้วย บางคนเดินผ่านก็ทักทายกันอย่างสนิทสนม

บ้านนี้อยู่ใกล้ทางสามแพร่ง ตอนเย็นๆ ค่ำๆ จะมีคนเดินกันเยอะ หนุ่มๆ สาวๆ คลอคู่กันก็มี สาวสวยหัวเราะต่อกระซิกมากับเพื่อนก็หลายคน เวลาผ่านเราจะดูเขินๆ ทำท่าเอียงอาย บางคนยังหันมาชม้ายตามองคล้ายจะยั่วเย้าชายหนุ่มเล่นซะงั้น

สองยามเศษ...ดึกมากแล้ว!

ยิ่งดึกบรรยากาศก็ยิ่งดี เดือนหงายส่องแสงสว่างมากกว่าเดิม หริ่งหรีดเรไรร้องระงม อยู่ในเมืองไม่ค่อยได้ยินเสียงอย่างนี้หรอกครับ

แต่ทันใดนั้น เสียงหมาเจ้ากรรมก็เริ่มโก่งคอหอนดังมาจากที่ไกลๆ พริบตาเดียวมันก็ส่งเสียงประสานรับกัน เหมือนหมาทุกๆ ตัวแถวนี้พร้อมใจกันหอนรับอะไรสักอย่างที่มนุษย์อย่างเราๆ มองไม่เห็น สัมผัสไม่ได้...

"เออ! อยากเห็นผีว่ะ" เสียงห้าวๆ ของไอ้อั๋น ดังขึ้น พวกเรา 4-5 คน หันไปมองมันอย่างฉุนๆ ปากเหรอเนี่ย...ดันพูดออกมาได้ท่ามกลางเสียงหมาหอน! "อ้าว? อยากเห็นจริงๆ น่ะ ผีน่ะ! ขอดูเป็นบุญตา เกิดมายังไม่เคยเห็นซักตัว!"

"เฮ้ย!" ไอ้โตร้อง มองไปทางสามแยก พวกเราหันตามไป...

ผู้หญิงคนหนึ่งยืนคล้ายรอใครอยู่ที่นั่น...รูปร่างท้วมๆ ผมยาวประบ่า ยืนหันข้างให้เรา...ก้มหน้าคางชิดอก สวมเสื้อยืดแขนกุดลายขวาง สีขาวสลับแดง...จุดเด่นคือส่วนกลางลำตัวยื่นป่องเหมือนคนท้องสัก 6-7 เดือน

"ใช่ผีไหมวะนั่น?" ไอ้อั๋นเอียงหน้ามาถามผมเบาๆ แต่เราก็ได้ยินกันทุกคน เมื่อไม่มีใครตอบ มันก็ขยับตัวลุกขึ้น เดินเซนิดๆ จากหน้าบ้านลุงแสตรงไปที่ทางสามแพร่งนั่น

"ไปตามมา!" ลุงเอ็ดเบาๆ เหมือนกลัวสาวคนนั้นจะได้ยิน แต่สายเสียแล้ว...ผมว่าไอ้อั๋นมันเริ่มเมา ลูกบ้าเลยบังเกิด! ผู้หญิงคนนั้นดูมีเนื้อมีหนังเป็นคนธรรมดา แต่ท่าทีและน้ำเสียงลุงแสทำให้ผมเอะใจ...หันขวับไปมองไอ้อั๋นด้วยใจระทึก แต่มันถึงตัวสาวคนนั้นแล้ว

เธอยังยืนท่าเดิม ครั้นไอ้อั๋นเข้าไปใกล้ก็เงยหน้าขึ้นมอง...

ผมเห็นถนัดตาว่าไอ้อั๋นผงะหน้า ก่อนแหกปากลั่น พวกเราแตกฮือทันใด เสียงแคร่ดังโครม ลุงแสเผ่นเข้าบ้านเรียบร้อยตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ไอ้อั๋นยืนตัวแข็งทื่ออยู่ตรงทางสามแพร่งครู่ใหญ่ ท่าทางเหมือนจะช็อกตายคาที่อยู่ตรงนั้นเอง

เมื่อจ้องมองจนแน่ใจก็ไม่เห็นสาวเสื้อลายคนนั้นแล้ว ผมก็ไปลากตัวเพื่อนมาที่แคร่...ลุงแสเดินขาสั่นกลับออกมา หน้าตาซีดเซียวอยู่ในแสงจันทร์...

ผู้หญิงคนนั้นทะเลาะกับผัวเรื่องหึงหวง ตัวเองท้องแก่ก็ระแวงว่าฝ่ายชายจะแอบไปมีคนใหม่ ในที่สุดก็ผูกคอตายเมื่อเดือนก่อนนี้เอง...กลายเป็นผีตายทั้งกลมที่มีคนโดนหลอกหลอนจนวิ่งตับแลบกันบ่อยๆ พวกผมก็เลยต้องย้ายที่ตั้งวงเหล้าด้วยเหตุนี้เองครับ!

หน้า: [1]
ดูในรูปแบบกติ: ตายทั้งกลม