nokky โพสต์ 2013-1-13 19:37:23

เรื่องเล่า......ตายแล้วเกิด

http://board.postjung.com/data/650/650316-topic-ix-0.jpgจากนี้จะขอนำเรื่อง "ตายแล้วเกิด"ที่ได้จากหนังสือ "ภพอื่นและเรื่องควรคำนึง" ของ ท่านศาสตราจารย์นายแพทย์อวย เกตุสิงห์ท่านผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือของผู้เขียน(คุณทองทิว สุวรรณทัต) ท่านหนึ่งมาเล่าดังต่อไปนี้

มีสามเณรรูปหนึ่งชื่อเลี่ยมอยู่บ้านน้ำก่ำอำเภอพระธาตุพนม จังหวัดนครพนมชาติก่อนเกิดที่จังหวัดอุบล
ราชธานีเมื่อเติบโตเป็นหนุ่มีความเลื่อมใสในพระธุดงค์คณะหนึ่งซึ่งมีท่านอาจารย์ทอง เป็นหัวหน้าจึงถวาย
ตัวเป็นศิษย์และได้อุปสมบทกับพระะดงค์คณะนั้น
ในเวลาต่อมาท่านอาจารย์ทองได้พาจาริกไปจำพรรษาอยู่ที่บ้านสามผงจังหวัดนครพนมเป็นสถานที่ที่มีไข้ป่า
ชุกชุมมากสามเณรเลื่ยมซึ่งเป็นพระบัวในอดีตชาติก็ถึงแก่มรณภาพณ ที่นั่น
เมื่อใกล้จะมรณะภาพพระบัวมีสติสัมปชัญญะประคองจิตอยู่ในกรรมฐานถอดกายทิพย์ออกจากร่างเป็นพระ
บัวอีกรูปหนึ่งไปยืนดูสังขารของตนที่นอนมรณภาพแล้วได้เห็นพระเณรรวมทั้งชาวบ้านมาเยี่ยมเยี่ยมอูอาการ
ของตนเป็นอันมากที่น่าประหลาดก็คือไม่มีใครสนใจกับพระบัวที่ยืนอยู่เลย
ครั้นยืนดูอยู่จนเขาเผ่าศพตนเสร็จแล้ว   จึงออกเดินทางเสมือนธุดงค์อย่างที่เคยกระทำมาเมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่
ต่อไป
จากนั้นได้ไปพบยมบาลและวิญญาณที่ตายไปแล้วเป็นอันมากมีทั้งคนดีและคนชั่ว
เมื่อพระบัวมาเกิดใหม่ในครรภ์ของผู้หญิงคนหนึ่งที่บ้านน้ำก่ำอำเภอพระธาตุพนม จังหวัดนครพนม นั้นขณะ
ที่คลอดก็รู้ตัวว่าได้เกิดใหม่เสียแล้วแต่ไม่สามารถทำตามความรู้สึกได้เพราะร่างกายยังอ่อนแออยู่มาก
แต่ในขณะที่คลอดออกมานั้นสัญญา(ความจำ) ในอดีตที่เคยเป็นพระมิได้ลืมเลือนไปเลยแม้จะเป็นทารกตัว
แดงๆก็รู้สึกตัวว่ายังครองจีวร แบกกลด สะพายบาตรอยู่ในร่างของเด็กทั้งยังสามารถระลึกย้อนหลังไปได้
เป็นลำดับจนกระทั่งบ้านที่เกิดในชาติก่อนบิดามารดาญาติพี่น้องจำได้หมดแต่พูดไม่ออกบอกไม่ได้
ครั้นพอหัดพูดได้บ้างก็เรียกตัวเองว่า "อาตมาๆ" แบบพระพูดกับฆราวาสเพราะรู้สึกว่าตนยังเป็นพระอยู่-
ตลอดเวลาแต่เมื่อพูดออกมาอย่างชัดเจนว่า "อาตมาๆ" บิดามารดาและญาติพี่น้องก็ห้ามไม่ให้พูด เกรงว่าจะ
บาปด้วยเป็นคำที่พระเรียกตัวเองไม่ใช่คำพูดสำหรับเด็กหรือ ฆราวาสเมื่อถูกดุบ่อยๆ เข้าก็ตกใจกลัวและ
เสียใจความรู้สึกที่ว่าตัวเป็นบรรพชิตที่อยู่ในความทรงจำก็หายไปแต่การระลึกชาติได้ยังมีอยู่
ครั้นเติบโตขึ้นความคิดถึงบ้านเก่า และบิดามารดา ตลอดจนญาติมิตรในชาติก่อนก็มีมากขึ้นจึงบอกบิดามาร
ดาในชาตินี้ว่า อยากไปเยี่ยมบ้านเก่ากลับถูกดุหนักเข้าโดยผู้ใหญ่อ้างว่าคำพูดเช่นนี้เขาถือว่าเป็นลาง
ในที่สุดได้ตัดสินใจเล่าเรื่องในชาติก่อนของตนให้บิดามารดาฟังเมื่อบิดามารดาฟังแล้วจึงเห็นสมจริงและเกิด
สังเวชสลดใจถึงกับพากันร้องไห้
ครั้นสามเณรเลี่ยมไปในงานฌาปนกิจศพท่านอาจารย์มั่น ภูริทัตโตเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2493ก็ได้พบท่าน
อาจารย์ทองพระอาจารย์เก่าในอดีตชาติที่วัดป่าสุธาวาส จังหวัดสกลนครและจำได้แม่นยำทั้งยืนยันว่าท่าน
อาจารย์ทองรูปนี้เคยเป็นอาจารย์เก่าของตนในอดีตชาติ
ต่อมาเมื่อศาสตราจารย์นายแพทย์อวย เกตุสิงห์พบกับพระอาจารย์ทองเป็นการส่วนตัวจึงได้สอบถามความ
จริงโดยได้เล่าเรื่องพระบัวที่มาเกิดใหม่เป็นสามเณรเลื่ยมให้ฟังซึ่งท่านอาจารย์ทองรับสมจริงทุกประการว่า
ปีนั้นมีพระธุดงค์ไปอาพาธและมรณภาพที่บ้านสามผงสามรูปพระบัวเป็นรูปสุดท้ายได้มรณภาพมา 16 ปี
แล้วขณะนั้นสามเณรเลี่ยมอายุได้ 15 ปี (พ.ศ.2493)
จากหลักฐานดังกล่าวจึงเป็นที่ยืนยันได้ว่าสามเณรเลี่ยมระลึกชาติได้จริงและการตายแล้วเกิดเป็นเรื่องที่มิใช่
พูดเล่นทุกคนพึงสังวรณ์ไว้แม้หลวงปู่ชอบ ฐานสโมศิษย์ของพระอาจารย์มั่นซึ่งได้รับการยกย่องจาก
พระกรรมฐานด้วยกันว่าเลิศในด้านอภิญญาจากบรรดาศิษย์ทั้งปวงยังเคยบอกว่าก่อนจะเกิดมาเป็นมนุษย์ใน
ชาตินี้ท่านได้ผ่านการเกิดมาจากการเป็นมนุษย์และสัตว์นับชาติไม่ถ้วน
ครั้นสุดท้ายท่านเกิดเป็นอีเก้งถูกพรานยิงตายที่บริเวณใกล้ๆ บ้านโคกมนปัจจุบันหลวงปู่ชอบยังสร้างกุฏิไม้
หลังคามุงแฝกครอบจอมปลวกตรงที่อีเก้งตาย
ใครอ่านเรื่องนี้แล้วคิดจะทำบาปทำกรรมต่อไปขอให้เลิกเสียเถิดจะเป็นกุศลแก่ตัวเองตายไปแล้วจะได้ไม่
ไม่ต้องไปเกิดเป็นสัตว์ที่ต้องทนทุกขเวทนา   สู้หมั่นทำบุญทำกุศลชาติหน้าอย่างน้อยถ้าจะเกิดอีกก็ยังได้เกิด
เป็นมนุษย์กับเขาไม่ต้องถึงกับเป็นสัตว์สี่เท้าสองเท้าเหมือนดังหลวงปู่เล่า
ท้ายสุดนี้อยากจะบอกว่า
"เมื่อยามเป็นๆอยู่ไม่ช่วยตัวเองแล้ว ยามตายจะให้ใครไปช่วยได้"http://board.postjung.com/wwwsys/richtext2/emo/41.gifhttp://board.postjung.com/wwwsys/richtext2/emo/41.gif

nunda โพสต์ 2014-12-29 02:36:25

สาธุสาธุคับ

pudam โพสต์ 2015-2-7 07:03:31

ขอบคุณมากครับ

pudam โพสต์ 2015-2-7 07:04:07

ขอบคุณมากครับ

Guyer โพสต์ 2015-3-7 23:13:56

ขอบคุณฮะ {:1_1:}

Wottisit โพสต์ 2015-5-13 16:10:59

ขอบคุณครับผม
หน้า: [1]
ดูในรูปแบบกติ: เรื่องเล่า......ตายแล้วเกิด