kindaieiji โพสต์ 2011-12-29 08:27:06

ไวรัสตับอักเสบ...




   ตับ
ตับเป็นอวัยวะที่สำคัญมากอวัยวะหนึ่งของร่างกาย
หน้าที่ของตับเริ่มตั้งแต่ขณะที่ยังเป็นทารกอยู่ในครรภ์มารดา
ตับทำหน้าที่สร้างเม็ดเลือดแดง เมื่อเจริญเติบโตขึ้น ตับเปลี่ยนแปลงหน้าที่
โดยหน้าที่ของตับที่สำคัญมีมากมายหลายอย่าง เช่น หน้าที่เก็บสำรองอาหาร
เป็นแหล่งสร้างพลังงานความร้อน เป็นแหล่งสร้างสรรที่จำเป็นต่างๆ
ได้แก่ สร้างน้ำดี สังเคราะห์วิตามิน สังเคราะห์สารที่ทำให้เลือดแข็งตัว เป็นต้น

    ตับอักเสบ
เป็นภาวะที่เซลตับถูกทำลาย
การถูกทำลายของเซลตับเกิดได้จากหลายสาเหตุ
เช่น เกิดจากการติดเชื้อซึ่งเป็นได้ทั้ง แบคทีเรีย ไวรัส และโปรโตชัว
หรือเซลตับอาจถูกทำลายจากสาเหตุอื่น ได้แก่
จากพิษของสุรา ยาบางชนิด รวมถึงสารเคมี
การที่เซลตับถูกทำลายจะทำให้การทำหน้าที่ต่างๆ ของตับ
บกพร่องไปเกิดภาวะที่ร่างกายเจ็บป่วย ไม่สบายตามมา

    อาการ
อาการของผู้ป่วยตับอักเสบแตกต่างกันไปในแต่ละคน
บางคนจะมีอาการเพียงเล็กน้อย เช่น อ่อนเพลีย
ในบางคนจะมีอาการตัวเหลือง ตาขาวเป็นสีเหลืองร่วมด้วย
หรือ บางคน จะมีอาการมากกว่านั้น เช่น
เป็นไข้ คลื่นไส้ อาเจียน วิงเวียน เบื่ออาหาร ปวดท้องที่ตำแหน่งชายโครงด้านขวา
ปัสสาวะสีเข้ม อุจจาระสีซีด อาจพบว่ามีอาการคันตามผิวหนัง หรือผื่นลมพิษก็เป็นได้

   สาเหตุ
สาเหตุของตับอักเสบที่พบบ่อยที่สุดสำหรับประเทศไทย
ได้แก่ ตับอักเสบจากการติดเชื้อไวรัส เชื้อไวรัสตับอักเสบมีหลายชนิด
ได้แก่ ไวรัสตับอักเสบชนิดเอ บี ซี ดี อี และจี
แต่ละชนิดจะมีวิธีการติดต่อ และแพร่เชื้อที่แตกต่างกัน
ไวรัสตับอักเสบเอ และอี สามารถแพร่เชื้อได้ทางอาหาร น้ำดื่ม ผัก ผลไม้
รวมถึงสัตว์น้ำจากแหล่งน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อ
นอกจากนั้นระบบสุขอนามัยที่ไม่ดี เช่น การขับถ่ายอุจจาระลงแหล่งน้ำ
เป็นสาเหตุที่สำคัญมากของการระบาดของเชื้อไวรัสตับอักเสบเอ และอี
ไวรัสตับอักเสบทุกชนิด สามารถแพร่เชื้อผ่านทางเลือดได้
ไวรัสตับอักเสบบี ซี ดี และจี แพร่เชื้อทางเพศสัมพันธุ์ ทางมารดาสู่ทารก
ทางการได้รับเลือดและส่วนประกอบของเลือด การใช้ของมีคมร่วมกับผู้ที่ติดเชื้อ
การสัก การเจาะหู การฝังเข็ม เป็นต้น

ภาวะการติดเชื้อ


ไวรัสตับอักเสบเอ
มักปรากฏอาการในเด็กโตและผู้ใหญ่มากกว่าในเด็กเล็ก
ผู้ป่วยมักสร้างภูมิคุ้มกันต่อไวรัสไปในระยะยาว
และหายจากโรคอย่างสมบูรณ์ ไม่เป็นพาหะเรื้อรัง
ปัจจุบันมีการให้วัคซีนไวรัสตับอักเสบเอในเด็กแรกเกิด


ไวรัสตับอับเสบบี
ผู้ติดเชื้อมักไม่แสดงอาการโดยเฉพาะในเด็ก ส่วนใหญ่หายได้เอง
ส่วนน้อยกลายเป็นตับอักเสบเรื้อรังและเป็นพาหะของโรคหรือมีภาวะตับแข็ง
ปัจจุบันมีการให้วัคซีนไวรัสตับอักเสบบีตั้งแต่แรกเกิด


ไวรัสตับอักเสบซี
ไม่ค่อยพบภาวะการติดเชื้อแบบเฉียบพลันผู้ติดเชื้อมักไม่แสดงอาการ
กลายเป็นผู้ป่วยติดเชื้อเรื้อรัง นำไปสู่ภาวะตับแข็งและมะเร็งตับ
เป็นสาเหตุที่สำคัญของตับอักเสบที่เกิดภายหลังการได้รับเลือดหรือส่วนประกอบของเลือด
ปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบซี


ไวรัสตับอักเสบดี
เป็นไวรัสที่ไม่สมบูรณ์ ต้องอยู่ร่วมกับไวรัสตับอักเสบบี
ไม่สามารถพบชนิดเดียวได้ แต่สามารถก่อให้เกิดอาการตับอักเสบที่รุนแรงมากกว่าชนิดอื่น


ส่วนไวรัสตับอักเสบอี
ยังไม่พบว่ามีการระบาดในประเทศไทย
แต่มีการระบาดอย่างหนักแล้วในประเทศเพื่อนบ้านหลายประเทศ
เช่น พม่า อินเดีย บังคลาเทศ จึงเป็นไวรัสตับอักเสบที่ควรมีแผนการเฝ้าระวัง
เนื่องจากมีการเดินทางเข้าประเทศของประชากรประเทศเพื่อนบ้านเหล่านี้เป็นจำนวนมาก

การป้องกันและควบคุมการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ

       เนื่องจากเชื้อไวรัสตับอักเสบ เป็นเชื้อที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับชีวิตความเป็นอยู่ทั่วไปของมนุษย์
เช่น เชื้อสามารถปนเปื้อนอยู่ในแหล่งน้ำ และอาหารของมนุษย์
เชื้อสามารถเข้าสู่ร่างกายมนุษย์จากการดำรงชีวิตตามธรรมชาติ
จากแม่สู่ทารก จากการใช้เข็มฉีดยาในผู้ติดยาเสพติด การฝังเข็ม
หรือแม้แต่ในวงการเสริมความงาม เช่น การสัก การเจาะหู
การใช้ของมีคมร่วมกับผู้อื่นที่มีเชื้อในกระแสเลือด เช่น มีดโกน กรรไกรตัดเล็บ
รวมถึงการรับเลือดหรือส่วนประกอบของเลือดจากผู้บริจาค
ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ สามารถทำให้เกิดการติดต่อและแพร่เชื้อไวรัสตับอักเสบได้ทั้งสิ้น
ดังนั้นจึงมีความจำเป็นต้องป้องกันที่สาเหตุ ตามแนวทางต่อไปนี้

[*]น้ำดื่มควรได้รับการต้มให้เดือดเป็นเวลา 20 นาที ก่อนใช้บริโภค                                                                                     เชื้อไวรัสตับอักเสบทุกชนิดจะตายที่ความร้อน 100 องศาเซลเซียส
[*]อาหารควรปรุงให้สุกก่อนรับประทาน โดยเฉพาะอาหารที่มาจากแหล่งน้ำทั้งสัตว์และพืช
[*]ผู้ประกอบอาหารต้องรักษาความสะอาดด้วยการล้างมือ หรือสวมถุงมือขณะประกอบอาหาร
[*]แหล่งผลิตอาหารสดต้องได้รับการควบคุม เช่น การสุ่มตัวอย่างเพื่อตรวจหาเชื้อไวรัสตับอักเสบเอ เป็นต้น
[*]สถานพยาบาล หน่วยงาน รวมถึงบ้านอยู่อาศัย ควรมีการควบคุมแหล่งแพร่เชื้อ โดยเฉพาะเลือด น้ำลาย สิ่งขับถ่าย      และเครื่องมือเครื่องใช้ของผู้ป่วย สำหรับเข็มฉีดยา เข็มเจาะเลือด โดยต้องทำลายฆ่าเชื้ออย่างถูกวิธี โดยการเผา         การนึ่งฆ่าเชื้อด้วยความดัน การอบแห้งที่ 180 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 1 ชั่วโมง หรือการต้มเดือด เป็นเวลา 20 นาที
[*]ให้ความรู้แก่ประชาการในกลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้อยู่อาศัยใกล้แหล่งน้ำหรือในแหล่งที่ระบบสุขอนามัยไม่ดี ผู้ที่ใช้เข็มฉีดยา   หรือมารดาที่ตั้งครรภ์ เป็นต้น เพื่อให้ทราบถึงวิธีการติดเชื้อ
[*]การตรวจหาเชื้อไวรัสตับอักเสบในเลือดผู้บริจาคทุกยูนิต
[*]การให้ภูมิคุ้มกันการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบหรือการฉีดวัคซีน ปัจจุบันมีวัคซีนป้องกันการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ 2 ชนิด คือ ไวรัสตับอักเสบเอ และไวรัสตับอักเสบบี สามารถให้ได้ในผู้ที่ยังไม่เคยคิดเชื้อมาก่อน โดยก่อนการให้วัคซีนต้องได้รับการตรวจร่างกายโดยแพทย์ และตรวจเลือดเพื่อดูว่าเคยได้รับเชื้อมาก่อนหรือมีภูมิคุ้มกันอยู่แล้วหรือไม่ ถ้ายังไม่เคยติดเชื้อหรือยังไม่มีภูมิคุ้มกันจึงจะให้วัคซีนปัจจุบันมีวัคซีนป้องกันการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบเอและบี ที่ให้ในทารกตั้งแต่แรกเกิด


หวังเป็นอย่างยิ่งว่าข้อมูลจะเป็นประโยชน์กับใครหลาย ๆ คน...






mikeki โพสต์ 2012-1-1 16:46:07

เป็นประโยชน์อย่างยิ่ง

mikeki โพสต์ 2012-1-1 22:24:17

ต้นฉบับโพสต์โดย mikeki เมื่อ 2012-1-1 16:46 static/image/common/back.gif
เป็นประโยชน์อย่างยิ่ง

เป็นนายแพทย์ประจำบ้านปะคับเนี้ย ห้าห้าห้า

sand โพสต์ 2012-1-3 05:46:23

น่ากลัวมากครับ จะพยายามรักษาสุขภาพไม่ให้เป็นได้ครับ

yellow2550 โพสต์ 2012-1-24 12:13:51

มีสาระมากๆเลยครับ
อยากให้ทุกคนได้อ่านนะครับ

boon2500 โพสต์ 2012-9-4 09:01:23

ขอบคุณครับ

arainakrub โพสต์ 2015-6-29 20:05:32

ขอบคุนคับ
หน้า: [1]
ดูในรูปแบบกติ: ไวรัสตับอักเสบ...